ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 515 สุราพิษบำรุงกำลัง

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 515 สุราพิษบำรุงกำลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 515 สุราพิษบำรุงกำลัง

ตอนที่ใช้พิราบสื่อสารคุยกันก่อนหน้านี้ สะพานสวรรค์น้อยก็รู้เช่นกันว่าเยี่ยเว่ยหมิงเคยกินคางคกชาดวัว ตอนนี้หมื่นพิษไม่กล้ำกราย ตอนนี้เห็นว่าเป็นโอกาสดี จึงเอ่ยปากช่วยขอผลประโยชน์ให้เยี่ยเว่ยหมิงเสียเลย

ส่วนมั่วหรานกับน้องดาบ พวกนางสองคนไม่รู้เรื่องคางคกชาดวัว แต่พวกนางต่างก็รู้ว่าสะพานสวรรค์น้อยไม่ยอมปล่อยให้เยี่ยเว่ยหมิงเสียเปรียบแน่นอน จึงเลือกที่จะรอดูเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรรบกวน

แต่สำหรับเรื่องนี้ หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงมองไปที่สะพานสวรรค์น้อยด้วยสายตาซาบซึ้งแล้วกลับส่ายหน้าบอกว่า “ช่างเถอะ สุราสองกานั้นเคยผ่านปากพวกเขามาแล้ว ไม่ถูกสุขอนามัย…”

“เหอะๆ…” เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงพูดว่ารังเกียจน้ำเต้าสุราที่พวกเขาเคยดื่ม จางซานก็อดกล่าวกลั้วหัวเราะไม่ได้ว่า “ที่จริงสิ่งที่พวกเราสองคนเพิ่งดื่มไม่ใช่สุรา แต่เป็นยาพิษที่ร้ายแรง”

พูดจบก็หยิบน้ำเต้าที่หน้าตาเหมือนกันออกมาจากหน้าอก แล้วมองเยี่ยเว่ยหมิงอย่างท้าทาย “นอกจากกาที่เคยผ่านปากแล้ว ที่ข้ายังมีอีกกาหนึ่งที่ยังไม่ได้เปิด เจ้ากล้าชิมไหมล่ะ”

จางซาน หลี่ซื่อแม้จะไม่นับว่าเป็นคนชั่ว แต่ก็เรียกว่าเป็นคนจิตใจงามไม่ได้เช่นกัน

ตามต้นฉบับเดิม อาจ่งกับพวกเขาไม่มีความแค้นหรือวาสนาต่อกัน แต่ก็ยังเชิญให้พวกเขามากินเนื้อย่างที่อร่อยที่สุด แต่แค่บ่นว่าทั้งสองขี้งกเพราะไม่นำสุราออกมา ทั้งสองก็ส่งสุราพิษให้อาจ่งดื่มเสียเลย ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้เกรงใจเขาเหมือนอาจ่งในต้นฉบับเดิม พวกเขาก็ยิ่งไม่สนใจความเป็นความตายของเยี่ยเว่ยหมิงอยู่แล้ว

ถึงอย่างไรก็บอกเจ้าแล้วว่าเป็นยาพิษ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของเจ้า

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วตาเป็นประกาย รับน้ำเต้าสุรามาจากมือจางซานทันที แล้วดูค่าสเตตัสแวบหนึ่ง

เป็นอย่างที่คาดไว้ มันคือสุราโอสถที่กลยุทธ์สองเล่มนั้นเอ่ยถึง นึกไม่ถึงว่าจะมาอยู่ในมือง่ายขนาดนี้!

เยี่ยเว่ยหมิงเปิดจุดออก กลิ่นหอมอัศจรรย์ทำให้เขามีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที เขากระดกลงคออย่างไม่เกรงใจ ดื่มสุราโอสถทั้งน้ำเต้าจนหมดเกลี้ยง ดื่มหมดแล้วยังเรออีกด้วย

พอวางน้ำเต้าลง เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกได้ทันทีว่าไฟร้อนกลุ่มหนึ่งเริ่มสุมอยู่ในท้อง ทำให้เขาร้อนรุ่มไปทั้งตัว รู้สึกมึนสีรษะเล็กน้อยด้วย

เขารีบโคจรวิชาบีบฤทธิ์สุราออก สติสัมปชัญญะถึงได้กลับมาชัดเจนอีกครั้ง เมื่อเริ่มมีการโคจรกำลังภายใน ความรู้สึกร้อนเหมือนถูกเผาก่อนหน้านี้ก็หายไปด้วยเช่นกัน เหลือเพียงความรู้สึกเย็นสบาย ทำให้ทั้งร่างกายของเขาสดชื่นจากภายในสู่ภายนอก

[ติ๊ง! คุณกินสุรายาเพลิงเดือดและขับธาตุพิษที่อยู่ในนั้นสำเร็จ วิชากำลังภายในระดับสูง ‘วิชาอรูปฌาน’ ของคุณได้ค่าประสบการณ์เพิ่ม 100000 แต้ม!]

พอสุราน้ำเต้าเดียวลงท้องก็เพิ่มค่าประสบการณ์วิชากำลังภายในตั้งหนึ่งแสนแต้มเลยเหรอ!

ขณะที่กำลังดีใจ เยี่ยเว่ยหมิงก็แสร้งคืนน้ำเต้าสุราให้จางซานอย่างลำบากใจ พร้อมบอกว่า “ขออภัยจริงๆ สุราของท่านรสชาติดีเกินไปจริงๆ ข้าควบคุมตัวเองไม่ไหวไปชั่วขณะ ก็เลยดื่มหมดแล้ว อภัยด้วย ขออภัย!”

ปากบอกว่าขออภัย แต่สายตาของเยี่ยเว่ยหมิงกลับอยู่บนน้ำเต้าสุราในมือหลี่ซื่อแล้ว

จางซานเห็นแล้วหัวเราะลั่น “ไม่เป็นไร! ในเมื่อน้องชายเป็นคนชัดเจน บนตัวพี่หลี่ซื่อคนนี้มีสุราเลิศรสที่เหมือนกับที่เขาดื่มพอดี ถ้าน้องชายอยากดื่ม ก็ดื่มด้วยกันให้ถึงอกถึงใจไปเลย”

ตอนนี้หลี่ซื่อนำน้ำเต้าสีดำที่หน้าตาเหมือนกันออกจากหน้าอกอย่างให้ความร่วมมือมาก จากนั้นโยนให้เยี่ยเว่ยหมิง “ให้เจ้า”

[สุรายาลูกกลอนเก้าเก้า สุราโอสถที่มีส่วนช่วยในการฝึกวิชากำลังภายใน ในสุราแฝงธาตุพิษ ถ้าผู้ดื่มมีกำลังภายในไม่ดีพอ ดื่มแล้วจะตายได้!]

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ น้องชายก็ไม่เกรงใจแล้ว!” ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็เปิดจุดน้ำเต้าออก จากนั้นเงยหน้ากระดกกดื่ม

“อึกๆๆ…”

แล้วก็ผ่านไปอย่างนี้ เยี่ยเว่ยหมิงดื่มสุราโอสถของหลี่ซื่อหมดเกลี้ยงเช่นกัน จากนั้นก็วางน้ำเต้าเปล่าๆ ไว้ข้างกาย รู้สึกได้ทันทีว่าไอเย็นที่หนาวเหน็บลอยขึ้นมาจากจุดตันเถียน

ไอเย็นกลุ่มนี้เหมือนขอบนอกของหิมะเส้นหนึ่ง ราวกับแช่แข็งทั้งร่างกายในชั่วพริบตาเดียว เขาตัวสั่นอย่างรุนแรงหลายครั้ง กัดฟันเสียงดังกรอดๆ หนาวเหน็บยากต้านทานจริงๆ เขารีบโคจรกำลังภายในต้านไว้ เส้นหิมะนั้นถึงได้ละลายไปอย่างช้าๆ

[ติ๊ง! คุณดื่มสุรายาลูกกลอนเก้าเก้าและขับธาตุพิษที่อยู่ในนั้นสำเร็จ วิชากำลังภายในระดับสูง ‘วิชาอรูปฌาน’ ของคุณเพิ่มค่าประสบการณ์ 100000 แต้ม]

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบที่คุ้นเคย ในใจเยี่ยเว่ยหมิงก็เรียกได้ว่าชื่นมื่น ได้เก็บค่าประสบการณ์วิชากำลังภายในสองแสนแต้มโดยไม่ต้องลงทุน เรื่องดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นกับใครก็ต้องมีความสุขเหมือนดอกไม้บานในใจทั้งนั้น

ทว่าครู่ต่อมา กลับรู้สึกว่าฤทธิ์ยาที่ทำให้เขาเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนเริ่มกลับมากำเริบอีกแล้ว มันเริ่มเกาะเกี่ยวกันอยู่ในร่างกายเขา จากนั้นก็ควบแน่นกลายเป็นหนึ่งเดียว

ซึ่งในขั้นตอนนี้ กำลังภายในของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเยอะมากด้วยความเร็วที่ตาเนื้อมองเห็นเช่นกัน!

[ติ๊ง! ฤทธิ์ยาของ ‘สุรายาเพลิงเดือด’ และ ‘สุรายาลูกกลอนเก้าเก้า’ ที่คุณดื่มเข้ากันได้ดี ธาตุพิษและฤทธิ์ยาออกฤทธิ์พร้อมกัน ต้านธาตุพิษไว้ได้ ส่วนพลังก้าวหน้าขึ้นเยอะมาก ต้านไม่ไหว จะตายและได้ฟื้นชีพ]

[ติ๊ง! คุณอาศัยค่าสเตตัสต้านพิษที่น่าทึ่งของตัวเอง ขับธาตุพิษร้ายแรงหลังจากสุราโอสถสองชนิดออกฤทธิ์สำเร็จแล้ว ตอนนี้ธาตุพิษถูกขับออกไปหมดแล้ว!]

[ติ๊ง! ภายใต้บทบาทของฤทธิ์ยา ‘วิชาอรูปฌาน’ ของขึ้นเพิ่มขึ้นหนึ่งเลเวล ตอนนี้กลายเป็นเลเวลสิบแล้ว!]

ท่ามกลางเสียงแจ้งเตือนของระบบที่ดังขึ้นต่อเนื่อง กำลังภายในที่โหมซัดซาดกลุ่มหนึ่งของเยี่ยเว่ยหมิงชนปะทะส่วนต่างๆ ของร่างกาย หลังจากสุราสองกานั่นเพิ่มเลเวล ‘วิชาอรูปฌาน’ ของเขาจนถึงระดับสมบูรณ์แล้ว ยังมีฤทธิ์ยาส่วนหนึ่งที่ยังใช้ไม่หมด ตอนนี้ยังหลงเหลืออยู่ในร่างกายเขา กลายเป็นพลังงานกลุ่มหนึ่งที่ต้องระบายออกมาอย่างเร่งด่วน

ภายใต้บทบาทของฤทธิ์ยานี้ เยี่ยเว่ยหมิงเงยหน้าคำรามเสียงดังทันที จกานั้นร่างก็พุ่งขึ้นฟ้า บนฝ่ามือซ้ายขวาก่อตัวเป็นพลังรูปมังกรสีฟ้าและสีแดงพร้อมกัน จากนั้นก็โจมตีออกมายังทิศทางหนึ่งที่ว่างเปล่ากลางอากาศ

กรรร!…

สะท้านขวัญร้อยลี้ โจมตีกลางอากาศ!

พอใช้สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรโจมตีออกไปหนึ่งกระบวนท่า ฤทธิ์ยาที่สะสมอยู่ในร่างกายก็ระบายออกมาบ้างเล็กน้อย จากนั้นเยี่ยเว่ยหมิงก็พยายามต่อไป ใช้ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ หกกระบวนท่าที่เรียนมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใช้ไปเจ็ดแปดรอบถึงได้ระบายฤทธิ์ยาที่เหลืออยู่จนหมด ตอนที่หันตัวกลับมาข้างกองไฟ สีหน้าก็กลับมาเป็นปกติแล้ว

เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ จางซาน หลี่ซื่อก็มองหน้ากันเลิกลั่ก ก่อนจะเผยสีหน้าประหลาดใจมาก

พวกเขาสองคนล้วนเป็นยอดฝีมือที่มีทักษะยุทธ์ระดับสูงสุด เพียงแต่ทักษะยุทธ์ที่ทั้งสองฝึกมากลับตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง จางซานฝึกวิชาสายหยาง หลี่ซื่อฝึกวิชาสายหยิน สิ่งที่อยู่ในน้ำเต้าของทั้งสองก็คือสุราโอสถที่ช่วยในการฝึกวิชากำลังภายในนั่นเอง

ในสุรายาเพลิงเดือดกับสุรายาลูกกลอนเก้าเก้าแฝงตัวยาอัศจรรย์อยู่ไม่น้อย ในยาลูกกลอนเก้าเก้ามีสมุนไพรพิษอยู่แปดสิบเอ็ดชนิด ในยาเพลิงเดือดมีพิษอยู่ไม่กี่ชนิด แต่กลับเป็นพิษร้ายจากชาดหัวกระเรียนและดีนกยูง ทั้งสองใช้เวลาสะสมหลายปีก็หลอมขึ้นมา ฤทธิ์ยาแรงมาก คนทั่วไปเลียแค่ปลายลิ้นก็มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว

จางซาน หลี่ซื่อทั้งมีวิชากำลังภายในสูงทั้งมียาสยบพิษ ถึงได้ดื่มต่อเนื่องหลายคำแล้วไม่ถูกพิษตาย

แต่ถ้าจางซานพลาดดื่มสุราเย็น หลี่ซื่อพลาดดื่มสุราร้อน ก็จะตายคาที่ทันที

ตอนนี้ทั้งสองเห็นเยี่ยเว่ยหมิงดื่มสุรา แต่ผลก็คือแค่กระโดดขึ้นมาฝึกเคล็ดฝ่ามือครึ่งๆ กลางๆ แล้วก็ไม่เป็นอะไรเลย พวกเขาจึงอดตกตะลึงไม่ได้

พวกเขาสองคนย่อมคิดไม่ถึงอยู่แล้วว่าเลเวลวิชาพิษของเยี่ยเว่ยหมิงเองก็ไม่ใช่ต่ำๆ เพราะเคยกินคางคกชาดวัวมาก่อน ค่าสเตตัสต้านพิษจึงทะลุถึง 11000+ ซึ่งเป็นระดับที่น่ากลัวแล้ว

สิ่งใดในโลกนี้ที่ถูกจัดเป็นธาตุ ‘พิษ’ ล้วนไม่มีทางสร้างดาเมจใดๆ ต่อเขาได้

อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็ฝึก ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ จนถึงระดับสมบูรณ์แล้ว เปิดใช้เอฟเฟ็กต์พิเศษ ‘หยินหยางสมดุล’ แล้ว หลอมรวมฤทธิ์ยาที่เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ในชั่วพริบตาเดียว แม้แต่โรคแฝงที่ถูก ‘เติมความตาย’ ก็หายไปแล้วเช่นกัน

ดังนั้น เขาถึงได้เสพสุขกับสุราสองชนิดที่นำมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บตามมาเลยแม้แต่น้อย

เขาไม่รู้ถึงกุญแจสำคัญที่อยู่ในนั้น คิดเพียงว่าเยี่ยเว่ยหมิงมีพลังล้ำลึกถึงไม่ได้รับผลกระทบ ประกอบกับ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ที่เยี่ยเว่ยหมิงสำแดงก่อนหน้านี้ก็เป็นสุดยอดวิชาบู๊ลิ้มของแท้ราคาจริงเช่นกัน ขณะที่กำลังตกตะลึง ในใจก็อดรู้สึกระแวดระวังขึ้นมาไม่ได้

ซึ่งที่จริงแล้ว ขอเพียงผู้เล่นเจอจางซานกับหลี่ซื่อ ถ้าอยากจะได้สุราโอสถนี้จากมือพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่ยากก็คือจะดื่มต่อหน้าพวกเขาโดยไม่ถูกพิษตายได้อย่างไร!

อย่างไรเสีย คนที่หมื่นพิษไม่กล้ำกรายอย่างเยี่ยเว่ยหมิง แม้ทั้ง ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ อาจจะหาใครคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว

แต่ทั้งสองก็เป็นคนที่มีแผนการล้ำลึกเช่นกัน หลังจากผ่านความตกตะลึงตอนแรกสุดมาแล้ว จางซานก็กล่าวชมทันที “น้องชายช่างมีพลังล้ำลึกมั่นคง!” จากนั้นก็บอกหลี่ซื่อว่า “ป้ายคำสั่งของพวกเราคือพาเขากลับสำนัก คงจะไม่มีปัญหาใช่ไหม”

“ได้สิ!” หลี่ซื่อพยักหน้า

พอพูดจบ จางซานกับหลี่ซื่อก็ชูมือพร้อมกัน มีแสงสีทองสองสายยิงออกมา ตรงเข้ามาหาเยี่ยเว่ยหมิง

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นแล้วรีบยื่นมือรับไว้ แต่กลับเห็นป้ายทองแดงที่มีลักษณะพิเศษสองแผ่น แผ่นหนึ่งสลักใบหน้ายิ้มเปี่ยมด้วยเมตตา ส่วนอีกแผ่นสลักใบหน้าดุร้ายน่ากลัว

พอดูค่าสเตตัส…

[ป้ายบำเหน็จลงทัณฑ์] ป้ายคำสั่งเฉพาะของเกาะวีรบุรุษ ทุกๆ สิบปีจะปรากฏที่ภาคกลางหนึ่งครั้ง ทำให้เกิดสถานการณ์เปลี่ยนแปลงใหญ่โต

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงทำสีหน้าสงสัย จางซานก็ยืนขึ้นพูดเสียเลย “ไม่ปิดบังความจริง พวกเราสองคนคือสองทูตบำเหน็จลงทัณฑ์แห่งเกาะวีรบุรุษ ตอนนี้ใกล้จะครบเวลาสิบปีแล้ว จึงตั้งใจมาเชิญเหล่าจอมยุทธ์ในใต้หล้าให้ไปกินข้าวต้มล่าปา[1]ที่เกาะวีรบุรุษสักถ้วย ที่จริงสำนักมือปราบเทพเป็นสำนักของราชสำนัก พวกเราศิษย์พี่ศิษย์น้องยังลังเลอยู่ว่าจะเชิญดีไหม แต่หลังจากได้เห็นวิชากำลังภายในอันน่าทึ่งของน้องชายคนนี้ พวกเราก็รู้สึกว่าข้าวต้มล่าปาถ้วยนี้ เจ้า…”

“ต้องกิน!” หลี่ซื่อกล่าวเสริมทันควัน

[ติ๊ง! ได้รับภารกิจสำนักพิเศษ ‘ป้ายบำเหน็จลงทัณฑ์’]

ป้ายบำเหน็จลงทัณฑ์

ภายในสิบวันนี้กรุณานำป้ายบำเหน็จลงทัณฑ์กลับสำนัก ส่งต่อให้หวงโส่วจุน

ระดับภารกิจ: 2 ดาว

รางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 10000 ค่าตบะ 1000

บทลงโทษภารกิจล้มเหลว: ถูกสองทูตบำเหน็จลงทัณฑ์ไล่สังหาร

……

หลังจากอ่านเนื้อหาภารกิจชัดเจนแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็เบะปากอย่างดูถูก

ปากก็บอกว่าเชิญไปกินข้าวต้มล่าปาที่เกาะวีรบุรุษ เหมือนมีน้ำใจยิ่งใหญ่มาก ที่แท้ก็เป็นแค่ภารกิจวิ่งเต้นระดับสองดาวเท่านั้นเหรอ

ซึ่งระดับของภารกิจนี้ เกรงว่าคงพุ่งเป้าไปที่บทลงโทษภารกิจล้มเหลวที่ค่อนข้างอันตราย ถึงได้กำหนดให้เป็นภารกิจระดับสองสินะ?

แต่กินของของคนอื่นแล้วพูดมากไม่ได้ เยี่ยเว่ยหมิงที่เพิ่งได้รับผลประโยชน์มหาศาลไม่สะดวกจะปฏิเสธอยู่แล้ว

ส่วนจางซานกับหลี่ซื่อก็แจกป้ายคำสั่งให้น้องดาบกับสะพานสวรรค์น้อยอีก ให้พวกนางวิ่งเต้นกลับสำนัก จากนั้นก็กล่าวอำลาแล้วจากไปทันที

เห็นได้ชัดว่าในใจทั้งสองเกิดความระแวดระวังต่อเยี่ยเว่ยหมิง จึงไม่กล้าคลุกคลีกับเขามากเกินไป เขาเองก็ย่อมมองสถานการณ์ออกเช่นกัน ไม่เอ่ยรั้งอีกฝ่ายเอาไว้ เพียงบอกให้สามสาวนั่งลงกินอาหารต่อ พร้อมย้ายสายตาไปบน ‘วิชาอรูปฌาน’ ที่เพิ่งถึงเลเวลสิบ

[1] ข้าวต้มล่าปา หรือโจ๊กล่าปา 腊八粥 ข้าวต้มที่รับประทานกันในวันขึ้นแปดค่ำเดือนสิบสองซึ่งมีถั่ว ลูกเกาลัด ลูกจ๊อ เม็ดบัว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด