ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 25 พิษร้ายเหมือนงูเหมือนแมงป่อง

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 25 พิษร้ายเหมือนงูเหมือนแมงป่อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 25 พิษร้ายเหมือนงูเหมือนแมงป่อง

เมื่อได้ยินคำพูดของโหยวโหยว เยี่ยเว่ยหมิงก็อดแสยะยิ้มไม่ได้ “หรือพูดได้อีกอย่างว่า นางเจอเบาะแสภารกิจก่อน แต่ตัวเองไม่ไปทำภารกิจ กลับใช้วิธีการคลุมเครือเผยข้อมูลให้เจ้ารู้ ให้เจ้ามาทำภารกิจให้สำเร็จ จากนั้นนางค่อยซุ่มโจมตีเจ้า โจมตีแย่งหน้าไม้เทพจูเก๋อจากเจ้า?”

เมื่อฟังเยี่ยเว่ยหมิงวิเคราะห์แล้ว โหยวโหยวก็พยักหน้าอย่างจนใจ “นี่คือวิธีการเดียวที่ไม่ทรยศสำนักถังเหมิน ทั้งยังได้รับหน้าไม้เทพจูเก๋อด้วย”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้าเบาๆ สื่อว่าเข้าใจแล้ว

แม้หน้าไม้เทพจูเก๋อจะยอดเยี่ยม แต่ถ้าตกอยู่ในมือผู้เล่นทั่วไป อย่างมากก็นับเป็นอาวุธไม่เหมาะมือแต่แสดงความน่าเกรงขามได้นิดหน่อยในช่วงแรกเท่านั้น หากไม่มีสกิลที่สอดคล้องกับมัน ก็แสดงประสิทธิภาพที่ควรจะมีไม่ได้เลย

และถ้าอยากแสดงประสิทธิภาพที่แท้จริงของหน้าไม้เทพจูเก๋อออกมา ตอนนี้มีเพียงสกิลของสำนักถังเหมินเท่านั้นที่ทำได้

หากคนที่ถือหน้าไม้เทพจูเก๋อทรยศสำนักถังเหมิน ต่อให้ไม่คำนึงถึงปัญหาที่ NPC ของสำนักกับผู้เล่นจะร่วมมือกันไล่สังหาร แต่ก็เรียนรู้สกิลในช่วงหลังของสำนักไม่ได้แล้วแน่นอน และหากไม่มีสกิลในตอนหลังสนับสนุน ก็จะทำได้แค่ถือหน้าไม้เทพจูเก๋อโอ้อวดบารมีได้ช่วงหนึ่งเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ต้องใช้สิ่งที่สะสมได้ก่อนหน้านี้มาเปลี่ยนสไตล์การต่อสู้ ถึงตอนนั้นประโยชน์ของหน้าไม้เทพจูเก๋อก็จะลดลงมากอยู่ดี

เมื่อเทียบกันแล้ว แผนการของแกงหมูน้ำมันพริกก็รอบคอบกว่ามาก

แบบนี้หักหลังกันเกินไปแล้ว!

เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง นางเล่นงานโหยวโหยวให้ถึงตายได้เลย

ผู้หญิงประเภทนี้ ช่างเป็นพิษร้ายเหมือนงูเหมือนแมงป่องจริงๆ!

ตอนนี้เขายังได้ยินโหยวโหยวพูดเสริมอีกว่า “แกงหมูน้ำมันพริกไม่ได้มาคนเดียว คนที่เข้าเกมกับนางเหมือนจะมีคนที่สนิทกันมากอีกหลายคน มีชื่อว่าองุ่นไนแองการา เนื้อหน้าอก พุดดิ้งเจลลี่ และป๊อปปิ้งแคนดี้ มีผู้หญิงทั้งหมดห้าคน ล้วนเป็นศิษย์สำนักถังเหมิน ตอนนี้ทั้งหมดคงจะดักอยู่ข้างนอกแล้ว”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า มองด้านบนแวบหนึ่งแล้วบอกว่า “หรือพูดได้อีกอย่างว่า ด้านนอกมีหน้าไม้อย่างน้อยห้าคันรอพวกเราอยู่”

โหยวโหยวส่ายหน้า “นอกจากหน้าไม้ ยังมีอาวุธลับทั่วไปอีก เป็นประเภทใช้มือขว้างเหมือนที่เจ้าพูดถึงก่อนหน้านี้ น่าเสียดายที่ตอนนี้ถูกขังอยู่ในจุดที่ถอยไปไหนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นข้ามีหน้าไม้เทพจูเก๋ออยู่ในมือแล้ว ข้าจะกลัวพวกนางได้อย่างไร”

“ข้ามีวิธีส่งเจ้าขึ้นไป ทั้งยังล่อกระสุนของพวกนางได้ระลอกหนึ่งด้วย เจ้าเตรียมตัวให้ดี พวกเราจะลงมือเดี๋ยวนี้”

“เหมือนพลังชีวิตของเจ้ายังไม่เต็มนะ?”

“ถ้าลงมือตอนนี้ ถึงจะเกิดผลลัพธ์ที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึง” ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่เสียเวลาอีก นำ ‘ศพของเฉินหมิง’ ที่ใช้เสื่อม้วนไว้แล้วในกระเป๋าสะพายหลังออกมา จากนั้นออกแรงสองเเขน โยนศพขึ้นไปตรงทางเข้าวังใต้ดินแล้ว

ขณะที่โยนศพเรียบร้อยแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็หันตัวมา พิงแผ่นหลังบนใต้ปากทาง ย่อเอวและประสานนิ้วทั้งสิบใต้ท้องน้อย เป็นท่าฝึกปีนกำแพงของกองทัพที่เห็นกันในละคร

โหยวโหยวมีพื้นเพมาจากกองกำลังพิเศษอยู่แล้ว เมื่อเห็นท่านี้ก็เข้าใจทันที นางวิ่งเพื่อเตรียมกระโดดอย่างไม่ลังเล แล้วก็กระโจนตัวขึ้นมา ใช้ฝ่าเท้าเหยียบบนสิบนิ้วที่ประสานกันของเยี่ยเว่ยหมิง ตามที่เยี่ยเว่ยหมิงออกแรงโยนขึ้นไป พอโหยวโหยวออกแรงกระโดด ร่างนางก็พุ่งขึ้นฟ้าตามศพของเฉินหมิงไปแล้ว

ระยะห่างของพื้นดินกับทางเข้าวังใต้ดินสูงประมาณสองเมตรเท่านั้น ด้วยความสูงนี้ อาศัยท่าร่างของเยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยว ถ้าจะให้กระโจนตัวจากพื้นเหมือนดึงต้นหอมนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล แต่ถ้าเป็นการโยนของ ไม่ว่าจะเป็นศพของเฉินหมิง หรือว่าโหยวโหยว เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่มีความกดดันแม้แต่น้อย

นอกวังใต้ดิน ในโถงใหญ่ชั้นแรกของเจดีย์เหลยเฟิง ผู้เล่นสำนักถังเหมินห้าคนที่นำโดยแกงหมูน้ำมันพริกกำลังยืนคนละตำแหน่ง กำลังล้อมโพรงหินทางออกวังใต้ดิน แต่ละคนยืนห่างกันประมาณสามสี่เมตร

นอกจากการลอบจู่โจมครั้งแรก พวกนางก็ไม่กล้ายืนขวางข้างๆ ทางเข้าวังใต้ดินอีก เมื่อสูญเสียความได้เปรียบในการลอบจู่โจมไปแล้ว พวกนางก็ไม่มั่นใจว่าจะปลิดชีพโหยวโหยวที่โผล่ขึ้นมาจากข้างล่างได้ แต่ถ้าโหยวโหยวที่มีหน้าไม้เทพจูเก๋ออยู่ในมือคิดจะปลิดชีพพวกนาง กลับไม่ได้ยากถึงขนาดนั้น มีเพียงการยืนอยู่ในตำแหน่งนี้ ถึงจะทำให้ลูกดอกของห้าคนนี้ยิงแม่นยำที่สุด ขอเพียงโหยวโหยวโผล่หัวขึ้นมา พวกนางก็ลงมือปลิดชีพโหยวโหยวได้ทันที

ในขณะนี้เอง ห้าคนพลันเห็นของสีขาวชิ้นหนึ่งลอยขึ้นมาจากวังใต้ดิน ดูจากขนาดและความยาวของมัน เหมือนจะมีคนซ่อนอยู่ในนั้น

ไม่มีความลังเลใดๆ ทั้งห้าคนลงมือพร้อมเพรียง อาวุธลับที่เป็นลูกดอกหน้าไม้ทักทายบนตัววัตถุสีขาวพร้อมกัน พวกนางไม่กล้าเดิมพัน เพราะหากโหยวโหยวเหยียบลงพื้นสำเร็จ ด้วยประสิทธิภาพอันน่ากลัวของหน้าไม้เทพจูเก๋อ ต่อให้สู้แบบห้าต่อหนึ่ง พวกนางก็มีโอกาสแพ้มากกว่าชนะอยู่ดี

ทว่าหลังจากโจมตีอย่างต่อเนื่อง พวกนางกลับไม่เห็นตัวเลขพลังชีวิตลดโผล่ขึ้นมาจากม้วนไม้ไผ่นั่นเลย ตอนที่เพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองตกหลุมพราง เงาร่างของโหยวโหยวกลับกระโจนขึ้นจากวังใต้ดินแล้ว ยังไม่ทันรอให้พวกนางปรับกลยุทธ์ ก็เห็นหน้าไม้เทพจูเก๋อในมือโหยวโหยวยิงลูกดอกหน้าไม้อันรวดเร็วดุดันไร้เทียมทานออกมาหลายดอกแล้ว แทบจะทุกดอกที่ยิงออกมา ล้วนทำให้ร่างกายพวกนางกลายเป็นแสงสีขาว!

-741! ปลิดชีพ!

-736! ปลิดชีพ!

-750! ปลิดชีพอีกแล้ว!

……

แม้เคล็ดชำระปราณของเยี่ยเว่ยหมิงจะอยู่ในระดับต่ำ แต่กลับอยู่ในเลเวลเจ็ดแล้ว แม้สเตตัสพลังชีวิตก็สูงกว่าผู้เล่นทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็มีเพียงเจ็ดร้อยหกสิบแต้มเท่านั้น หากอยู่ในสถานะพลังชีวิตเต็มแถบ เขาถามตัวเองแล้วพบว่าทนการยิงโจมตีที่ไม่ติดคริติคอลของโหยวโหยวได้หนึ่งดอก แต่ผู้เล่นสำนักถังเหมินพวกนี้แม้จะมีกำลังภายในระดับต้น แต่กำลังภายในระดับต้นของพวกนางจะสูงสักแค่ไหนกันเชียว

อย่างไรเสียตอนเผชิญหน้ากับหน้าไม้เทพจูเก๋อ พลังชีวิตและการป้องกันของพวกนางก็พอๆ กับกระดาษยุ่ย แค่โดนเฉียดก็ตายแล้ว!

ขณะตัวอยู่กลางอากาศ โหยวโหยวก็จัดการศัตรูไปแล้วสามคน แต่ตัวนางเองก็โดนมีดบินสองเล่มและหินตั๊กแตนบินหนึ่งก้อนเช่นกัน แต่ถ้าคิดจะใช้การโจมตีทั่วไปพวกนี้มาปลิดชีพนางก็เป็นเรื่องเพ้อฝันไปหน่อย

เห็นโหยวโหยวที่ตกลงพื้นถือโอกาสกลิ้งหนึ่งตลบ หลังจากหลบอาวุธลับสองชิ้นได้ นางก็หมุนตัวและยิงหน้าไม้ออกมาสองดอกอีกครั้ง

-735!

-1580!

โจมตีธรรมดาหนึ่งครั้ง โจมตีติดคริติคอลหนึ่งครั้ง ปลิดชีพอีกสองคนได้อย่างราบรื่นฉับไว!

อานุภาพของอาวุธล้ำค่ามันก็บ้าระห่ำอย่างนี้แหละ!

จนกระทั่งตอนนี้ เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้ปีนขึ้นมาตามบันได

[ประกาศจากระบบ: เมืองหังโจวเปิดดันเจี้ยนใหม่ “วังใต้ดินเหลยเฟิง” ระดับดันเจี้ยน: 10-20 ผู้เล่นเข้าดันเจี้ยนนี้ได้ผ่านเจดีย์เหลยเฟิงบนเขาซี่จ้าว]

[ประกาศจากระบบ: เมืองหังโจว…]

……

ไม่น่าเชื่อว่าแผนที่ของวังใต้ดินนี้จะกลายเป็นดันเจี้ยนแล้ว

เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้กังวลกับสิ่งนี้มากนัก เพราะรอให้มีเวลาก็รีเฟรชได้อีกครั้งเพื่อดูว่ายังจะหาคัมภีร์พุทธได้สักเล่มสองเล่มหรือหาสารีริกธาตุได้อีกหรือไม่ เขาจดจำข้อมูลนี้ไว้ในใจเงียบๆ แล้วเงยหน้ามองไปโดยรอบ เมื่อเห็นด้านหลังโถงใหญ่ชั้นหนึ่งไม่มีใครแล้วนอกจากโหยวโหยวกับเฉินหมิง ก็ถามด้วยความตะลึงว่า “กำจัดหมดแล้ว?”

“อืม จัดการแล้ว” นางพยักหน้าครู่เดียว แต่สีหน้ากลับดูหมดอาลัยตายอยากนิดหน่อย ความรู้สึกยามถูกสหายทรยศนั้นเจ็บปวดมาก ต่อให้สังหารอีกฝ่ายสำเร็จแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้นางดีใจขึ้นมาเลย

เยี่ยเว่ยหมิงเก็บ ‘ศพของเฉินหมิง’ ขึ้นมา แล้วตบบ่านางพร้อมบอกว่า “พวกเราไปกันเถอะ”

โหยวโหยวมองเยี่ยเว่ยหมิงอย่างแปลกใจเล็กน้อย “ทำไมเจ้าต้องพกศพนี้ไว้ตลอดเวลา โยนไปแล้วยังต้องเก็บกลับมาอีกหรือ”

เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่ “ทักษะของสำนัก เก็บศพรักษาหลักฐาน พอเก็บศพพวกนี้ไว้แล้ว ก็ต้องส่งกลับไปที่สำนักมือปราบเทพหรือไม่ก็ฝังกลบไว้ ก่อนหน้านี้ข้านำศพโยนล่อ ข้าก็เลยเสียค่าวีรบุรุษไปสองแต้ม หลังจากเก็บกลับมาแล้วจะชดเชยกลับมาได้หนึ่งแต้ม”

“ช่างเป็นทักษะที่สอดคล้องกับสไตล์ของสำนักมือปราบเทพจริงๆ” ขณะที่พูด สีหน้าของนางกลับชะงักไปอย่างฉับพลัน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบราวกับมีน้ำค้างเกาะหนึ่งชั้น

“ทำไมล่ะ ทักษะของสำนักข้าไปล่วงเกินเจ้าหรือ” เยี่ยเว่ยหมิงเห็นสภาพแล้วอดถามไม่ได้

“ไม่เกี่ยวกับเจ้า” โหยวโหยวกัดฟัน “แกงหมูน้ำมันพริกเพิ่งจะประกาศผ่านช่องสำนัก บอกข่าวที่ข้าได้หน้าไม้เทพจูเก๋อและกำลังรีบกลับไปส่งภารกิจที่สำนักให้ผู้เล่นทุกคนในสำนักรู้!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 25 พิษร้ายเหมือนงูเหมือนแมงป่อง

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 25 พิษร้ายเหมือนงูเหมือนแมงป่อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 25 พิษร้ายเหมือนงูเหมือนแมงป่อง

เมื่อได้ยินคำพูดของโหยวโหยว เยี่ยเว่ยหมิงก็อดแสยะยิ้มไม่ได้ “หรือพูดได้อีกอย่างว่า นางเจอเบาะแสภารกิจก่อน แต่ตัวเองไม่ไปทำภารกิจ กลับใช้วิธีการคลุมเครือเผยข้อมูลให้เจ้ารู้ ให้เจ้ามาทำภารกิจให้สำเร็จ จากนั้นนางค่อยซุ่มโจมตีเจ้า โจมตีแย่งหน้าไม้เทพจูเก๋อจากเจ้า?”

เมื่อฟังเยี่ยเว่ยหมิงวิเคราะห์แล้ว โหยวโหยวก็พยักหน้าอย่างจนใจ “นี่คือวิธีการเดียวที่ไม่ทรยศสำนักถังเหมิน ทั้งยังได้รับหน้าไม้เทพจูเก๋อด้วย”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้าเบาๆ สื่อว่าเข้าใจแล้ว

แม้หน้าไม้เทพจูเก๋อจะยอดเยี่ยม แต่ถ้าตกอยู่ในมือผู้เล่นทั่วไป อย่างมากก็นับเป็นอาวุธไม่เหมาะมือแต่แสดงความน่าเกรงขามได้นิดหน่อยในช่วงแรกเท่านั้น หากไม่มีสกิลที่สอดคล้องกับมัน ก็แสดงประสิทธิภาพที่ควรจะมีไม่ได้เลย

และถ้าอยากแสดงประสิทธิภาพที่แท้จริงของหน้าไม้เทพจูเก๋อออกมา ตอนนี้มีเพียงสกิลของสำนักถังเหมินเท่านั้นที่ทำได้

หากคนที่ถือหน้าไม้เทพจูเก๋อทรยศสำนักถังเหมิน ต่อให้ไม่คำนึงถึงปัญหาที่ NPC ของสำนักกับผู้เล่นจะร่วมมือกันไล่สังหาร แต่ก็เรียนรู้สกิลในช่วงหลังของสำนักไม่ได้แล้วแน่นอน และหากไม่มีสกิลในตอนหลังสนับสนุน ก็จะทำได้แค่ถือหน้าไม้เทพจูเก๋อโอ้อวดบารมีได้ช่วงหนึ่งเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ต้องใช้สิ่งที่สะสมได้ก่อนหน้านี้มาเปลี่ยนสไตล์การต่อสู้ ถึงตอนนั้นประโยชน์ของหน้าไม้เทพจูเก๋อก็จะลดลงมากอยู่ดี

เมื่อเทียบกันแล้ว แผนการของแกงหมูน้ำมันพริกก็รอบคอบกว่ามาก

แบบนี้หักหลังกันเกินไปแล้ว!

เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง นางเล่นงานโหยวโหยวให้ถึงตายได้เลย

ผู้หญิงประเภทนี้ ช่างเป็นพิษร้ายเหมือนงูเหมือนแมงป่องจริงๆ!

ตอนนี้เขายังได้ยินโหยวโหยวพูดเสริมอีกว่า “แกงหมูน้ำมันพริกไม่ได้มาคนเดียว คนที่เข้าเกมกับนางเหมือนจะมีคนที่สนิทกันมากอีกหลายคน มีชื่อว่าองุ่นไนแองการา เนื้อหน้าอก พุดดิ้งเจลลี่ และป๊อปปิ้งแคนดี้ มีผู้หญิงทั้งหมดห้าคน ล้วนเป็นศิษย์สำนักถังเหมิน ตอนนี้ทั้งหมดคงจะดักอยู่ข้างนอกแล้ว”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า มองด้านบนแวบหนึ่งแล้วบอกว่า “หรือพูดได้อีกอย่างว่า ด้านนอกมีหน้าไม้อย่างน้อยห้าคันรอพวกเราอยู่”

โหยวโหยวส่ายหน้า “นอกจากหน้าไม้ ยังมีอาวุธลับทั่วไปอีก เป็นประเภทใช้มือขว้างเหมือนที่เจ้าพูดถึงก่อนหน้านี้ น่าเสียดายที่ตอนนี้ถูกขังอยู่ในจุดที่ถอยไปไหนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นข้ามีหน้าไม้เทพจูเก๋ออยู่ในมือแล้ว ข้าจะกลัวพวกนางได้อย่างไร”

“ข้ามีวิธีส่งเจ้าขึ้นไป ทั้งยังล่อกระสุนของพวกนางได้ระลอกหนึ่งด้วย เจ้าเตรียมตัวให้ดี พวกเราจะลงมือเดี๋ยวนี้”

“เหมือนพลังชีวิตของเจ้ายังไม่เต็มนะ?”

“ถ้าลงมือตอนนี้ ถึงจะเกิดผลลัพธ์ที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึง” ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่เสียเวลาอีก นำ ‘ศพของเฉินหมิง’ ที่ใช้เสื่อม้วนไว้แล้วในกระเป๋าสะพายหลังออกมา จากนั้นออกแรงสองเเขน โยนศพขึ้นไปตรงทางเข้าวังใต้ดินแล้ว

ขณะที่โยนศพเรียบร้อยแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็หันตัวมา พิงแผ่นหลังบนใต้ปากทาง ย่อเอวและประสานนิ้วทั้งสิบใต้ท้องน้อย เป็นท่าฝึกปีนกำแพงของกองทัพที่เห็นกันในละคร

โหยวโหยวมีพื้นเพมาจากกองกำลังพิเศษอยู่แล้ว เมื่อเห็นท่านี้ก็เข้าใจทันที นางวิ่งเพื่อเตรียมกระโดดอย่างไม่ลังเล แล้วก็กระโจนตัวขึ้นมา ใช้ฝ่าเท้าเหยียบบนสิบนิ้วที่ประสานกันของเยี่ยเว่ยหมิง ตามที่เยี่ยเว่ยหมิงออกแรงโยนขึ้นไป พอโหยวโหยวออกแรงกระโดด ร่างนางก็พุ่งขึ้นฟ้าตามศพของเฉินหมิงไปแล้ว

ระยะห่างของพื้นดินกับทางเข้าวังใต้ดินสูงประมาณสองเมตรเท่านั้น ด้วยความสูงนี้ อาศัยท่าร่างของเยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยว ถ้าจะให้กระโจนตัวจากพื้นเหมือนดึงต้นหอมนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล แต่ถ้าเป็นการโยนของ ไม่ว่าจะเป็นศพของเฉินหมิง หรือว่าโหยวโหยว เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่มีความกดดันแม้แต่น้อย

นอกวังใต้ดิน ในโถงใหญ่ชั้นแรกของเจดีย์เหลยเฟิง ผู้เล่นสำนักถังเหมินห้าคนที่นำโดยแกงหมูน้ำมันพริกกำลังยืนคนละตำแหน่ง กำลังล้อมโพรงหินทางออกวังใต้ดิน แต่ละคนยืนห่างกันประมาณสามสี่เมตร

นอกจากการลอบจู่โจมครั้งแรก พวกนางก็ไม่กล้ายืนขวางข้างๆ ทางเข้าวังใต้ดินอีก เมื่อสูญเสียความได้เปรียบในการลอบจู่โจมไปแล้ว พวกนางก็ไม่มั่นใจว่าจะปลิดชีพโหยวโหยวที่โผล่ขึ้นมาจากข้างล่างได้ แต่ถ้าโหยวโหยวที่มีหน้าไม้เทพจูเก๋ออยู่ในมือคิดจะปลิดชีพพวกนาง กลับไม่ได้ยากถึงขนาดนั้น มีเพียงการยืนอยู่ในตำแหน่งนี้ ถึงจะทำให้ลูกดอกของห้าคนนี้ยิงแม่นยำที่สุด ขอเพียงโหยวโหยวโผล่หัวขึ้นมา พวกนางก็ลงมือปลิดชีพโหยวโหยวได้ทันที

ในขณะนี้เอง ห้าคนพลันเห็นของสีขาวชิ้นหนึ่งลอยขึ้นมาจากวังใต้ดิน ดูจากขนาดและความยาวของมัน เหมือนจะมีคนซ่อนอยู่ในนั้น

ไม่มีความลังเลใดๆ ทั้งห้าคนลงมือพร้อมเพรียง อาวุธลับที่เป็นลูกดอกหน้าไม้ทักทายบนตัววัตถุสีขาวพร้อมกัน พวกนางไม่กล้าเดิมพัน เพราะหากโหยวโหยวเหยียบลงพื้นสำเร็จ ด้วยประสิทธิภาพอันน่ากลัวของหน้าไม้เทพจูเก๋อ ต่อให้สู้แบบห้าต่อหนึ่ง พวกนางก็มีโอกาสแพ้มากกว่าชนะอยู่ดี

ทว่าหลังจากโจมตีอย่างต่อเนื่อง พวกนางกลับไม่เห็นตัวเลขพลังชีวิตลดโผล่ขึ้นมาจากม้วนไม้ไผ่นั่นเลย ตอนที่เพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองตกหลุมพราง เงาร่างของโหยวโหยวกลับกระโจนขึ้นจากวังใต้ดินแล้ว ยังไม่ทันรอให้พวกนางปรับกลยุทธ์ ก็เห็นหน้าไม้เทพจูเก๋อในมือโหยวโหยวยิงลูกดอกหน้าไม้อันรวดเร็วดุดันไร้เทียมทานออกมาหลายดอกแล้ว แทบจะทุกดอกที่ยิงออกมา ล้วนทำให้ร่างกายพวกนางกลายเป็นแสงสีขาว!

-741! ปลิดชีพ!

-736! ปลิดชีพ!

-750! ปลิดชีพอีกแล้ว!

……

แม้เคล็ดชำระปราณของเยี่ยเว่ยหมิงจะอยู่ในระดับต่ำ แต่กลับอยู่ในเลเวลเจ็ดแล้ว แม้สเตตัสพลังชีวิตก็สูงกว่าผู้เล่นทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็มีเพียงเจ็ดร้อยหกสิบแต้มเท่านั้น หากอยู่ในสถานะพลังชีวิตเต็มแถบ เขาถามตัวเองแล้วพบว่าทนการยิงโจมตีที่ไม่ติดคริติคอลของโหยวโหยวได้หนึ่งดอก แต่ผู้เล่นสำนักถังเหมินพวกนี้แม้จะมีกำลังภายในระดับต้น แต่กำลังภายในระดับต้นของพวกนางจะสูงสักแค่ไหนกันเชียว

อย่างไรเสียตอนเผชิญหน้ากับหน้าไม้เทพจูเก๋อ พลังชีวิตและการป้องกันของพวกนางก็พอๆ กับกระดาษยุ่ย แค่โดนเฉียดก็ตายแล้ว!

ขณะตัวอยู่กลางอากาศ โหยวโหยวก็จัดการศัตรูไปแล้วสามคน แต่ตัวนางเองก็โดนมีดบินสองเล่มและหินตั๊กแตนบินหนึ่งก้อนเช่นกัน แต่ถ้าคิดจะใช้การโจมตีทั่วไปพวกนี้มาปลิดชีพนางก็เป็นเรื่องเพ้อฝันไปหน่อย

เห็นโหยวโหยวที่ตกลงพื้นถือโอกาสกลิ้งหนึ่งตลบ หลังจากหลบอาวุธลับสองชิ้นได้ นางก็หมุนตัวและยิงหน้าไม้ออกมาสองดอกอีกครั้ง

-735!

-1580!

โจมตีธรรมดาหนึ่งครั้ง โจมตีติดคริติคอลหนึ่งครั้ง ปลิดชีพอีกสองคนได้อย่างราบรื่นฉับไว!

อานุภาพของอาวุธล้ำค่ามันก็บ้าระห่ำอย่างนี้แหละ!

จนกระทั่งตอนนี้ เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้ปีนขึ้นมาตามบันได

[ประกาศจากระบบ: เมืองหังโจวเปิดดันเจี้ยนใหม่ “วังใต้ดินเหลยเฟิง” ระดับดันเจี้ยน: 10-20 ผู้เล่นเข้าดันเจี้ยนนี้ได้ผ่านเจดีย์เหลยเฟิงบนเขาซี่จ้าว]

[ประกาศจากระบบ: เมืองหังโจว…]

……

ไม่น่าเชื่อว่าแผนที่ของวังใต้ดินนี้จะกลายเป็นดันเจี้ยนแล้ว

เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้กังวลกับสิ่งนี้มากนัก เพราะรอให้มีเวลาก็รีเฟรชได้อีกครั้งเพื่อดูว่ายังจะหาคัมภีร์พุทธได้สักเล่มสองเล่มหรือหาสารีริกธาตุได้อีกหรือไม่ เขาจดจำข้อมูลนี้ไว้ในใจเงียบๆ แล้วเงยหน้ามองไปโดยรอบ เมื่อเห็นด้านหลังโถงใหญ่ชั้นหนึ่งไม่มีใครแล้วนอกจากโหยวโหยวกับเฉินหมิง ก็ถามด้วยความตะลึงว่า “กำจัดหมดแล้ว?”

“อืม จัดการแล้ว” นางพยักหน้าครู่เดียว แต่สีหน้ากลับดูหมดอาลัยตายอยากนิดหน่อย ความรู้สึกยามถูกสหายทรยศนั้นเจ็บปวดมาก ต่อให้สังหารอีกฝ่ายสำเร็จแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้นางดีใจขึ้นมาเลย

เยี่ยเว่ยหมิงเก็บ ‘ศพของเฉินหมิง’ ขึ้นมา แล้วตบบ่านางพร้อมบอกว่า “พวกเราไปกันเถอะ”

โหยวโหยวมองเยี่ยเว่ยหมิงอย่างแปลกใจเล็กน้อย “ทำไมเจ้าต้องพกศพนี้ไว้ตลอดเวลา โยนไปแล้วยังต้องเก็บกลับมาอีกหรือ”

เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่ “ทักษะของสำนัก เก็บศพรักษาหลักฐาน พอเก็บศพพวกนี้ไว้แล้ว ก็ต้องส่งกลับไปที่สำนักมือปราบเทพหรือไม่ก็ฝังกลบไว้ ก่อนหน้านี้ข้านำศพโยนล่อ ข้าก็เลยเสียค่าวีรบุรุษไปสองแต้ม หลังจากเก็บกลับมาแล้วจะชดเชยกลับมาได้หนึ่งแต้ม”

“ช่างเป็นทักษะที่สอดคล้องกับสไตล์ของสำนักมือปราบเทพจริงๆ” ขณะที่พูด สีหน้าของนางกลับชะงักไปอย่างฉับพลัน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบราวกับมีน้ำค้างเกาะหนึ่งชั้น

“ทำไมล่ะ ทักษะของสำนักข้าไปล่วงเกินเจ้าหรือ” เยี่ยเว่ยหมิงเห็นสภาพแล้วอดถามไม่ได้

“ไม่เกี่ยวกับเจ้า” โหยวโหยวกัดฟัน “แกงหมูน้ำมันพริกเพิ่งจะประกาศผ่านช่องสำนัก บอกข่าวที่ข้าได้หน้าไม้เทพจูเก๋อและกำลังรีบกลับไปส่งภารกิจที่สำนักให้ผู้เล่นทุกคนในสำนักรู้!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+