ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 433 ‘สุดยอดไอเทม! ‘รวมบทกวีของจื้อหมัว’

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 433 'สุดยอดไอเทม! 'รวมบทกวีของจื้อหมัว' at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 433 ‘สุดยอดไอเทม! ‘รวมบทกวีของจื้อหมัว’

เยี่ยเว่ยหมิงเป็นคนที่ใจกว้างมาก ต่อให้ถูกคนอื่นแย่งสิทธิ์การโจมตีครั้งสุดท้ายไป แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไร

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนเปิดการโจมตี กำลังหลักที่โจมตีคนแรกหนีไม่พ้นเขาแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่ออยู่ในโหมดแบ่งไอเทมตามค่าผลงาน การโจมตีเป็นคนสุดท้ายเดิมทีก็ถูกลดคุณค่ามากอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าจะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของตัวเอง เขาถึงขั้นเป็นฝ่ายเปลี่ยนประเด็นสนทนาเพื่อคลายบรรยากาศอึดอัดเองด้วย

“บนตัวข้าไม่มีทักษะยุทธ์ หรืออุปกรณ์ที่ทำให้โจมตีครั้งเดียวปลิดชีพ” เซียนสาวน้อยนักกินส่ายหน้าอย่างจนใจ จากนั้นจับภาพแจ้งเตือนจากระบบส่งเข้าไปในช่องทีม

ติ๊ง! คุณตีฝ่าทวารครอบของอวิ๋นจงเฮ่อ เติมเต็มเงื่อนไขโจมตีครั้งเดียวปลิดชีพ ทำให้เกิดผลโจมตีครั้งเดียวปลิดชีพแล้ว…]

อวิ๋นจงเฮ่อไม่ได้ฝึกวิชากำลังภายนอกอย่างพวกครอบระฆังทองคุ้มกาย ชุดเหล็ก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีทวารครอบด้วยเหมือนกัน

แปลกประหลาดจริงๆ!

เพื่อที่จะยืนยันข้อมูลนี้อีกขั้นหนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงก็หันไปมองเจ้าอ้วนชนะฟ้าอีกแวบหนึ่ง แต่เห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าเบาๆ สื่อว่าไม่รู้

จากนั้นเยี่ยเว่ยหมิงก็เปิดดูกลยุทธ์ที่ได้มาจากอินปู้คุย บันทึกที่เกี่ยวข้องกับทักษะยุทธ์ของอวิ๋นจงเฮ่อก็มีเพียงวิชาตัวเบาอันยอดเยี่ยมและ ‘อสรพิษกระเรียนแปดท่า’ ที่ไม่ได้อธิบายละเอียด ไม่มีส่วนไหนที่เอ่ยถึงทวารครอบ

ตอนนี้เอง กลับได้ยินเจ้าอ้วนชนะฟ้าที่อยู่ข้างๆ บอกว่า “สำหรับทวารครอบบนตัวอวิ๋นจงเฮ่อ บางทีน้องสาวของข้าก็อาจเข้าใจอยู่บ้างกระมัง อย่างไรเสีย คนทั่วไปเวลาอ่านหนังสือก็จะสนใจเนื่อเรื่องมากกว่า คนที่สนใจเฉพาะคำอธิบายทักษะยุทธ์ในนิยายที่ผู้ใหญ่ทิ้งไว้ให้อย่างนางมีอยู่ไม่เยอะจริงๆ”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า เขาเองก็เข้าใจเช่นกัน ต่อให้เป็นแฟนพันธุ์แท้ต้นฉบับ ก็จำทุกรายละเอียดที่ไม่สำคัญในหนังสือไม่ได้อยู่ดี

เขาเตะบนศพอวิ๋นจงนกเขาด้วนทันที แล้วไอเทมดรอปของอีกฝ่ายก็เข้ากระเป๋าทุกคนอัตโนมัติโดยอิงตามผลงานของแต่ละคนตอนฆ่าอวิ๋นจงนกเขาด้วน

“น่าสนใจ!” หลังจากแบ่งของกันเสร็จแล้ว ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงก็อุทานแสดงความตื่นเต้นเป็นคนแรก จากนั้นส่งลิงก์ไอเทมไปในช่องทีม [รองเท้ามรกตเย็น]

[รองเท้ามรกตเย็น (อาวุธล้ำค่า): รองเท้าหนังเลี่ยมมรกตเย็น แฝงบทกวี

ท่าร่าง +200 ความว่องไว +100 เลเวลทักษะประเภทวิชาตัวเบาทั้งหมด +1!]

นึกไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะได้รองเท้าหนังล้ำค่า อีกทั้งดูจากค่าสเตตัสของมัน แม้จะเทียบกับรองเท้าเจ้าลมกรดของเยี่ยเว่ยหมิงไม่ติด แต่ก็ต่างกันไม่มาก โดยเฉพาะค่าสเตตัส ‘เลเวลทักษะประเภทวิชาตัวเบาทั้งหมด +1’ เท่านี้ก็ทำให้มูลค่าของมันเหนือกว่าอุปกรณ์เลเวลเดียวกันแล้ว

หลังจากเปิดเผยของที่ตัวเองได้แล้ว ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงก็ย้ายสายตาไปทางเพื่อนที่อยู่รอบๆ ทันที การที่เขาเป็นฝ่ายเปิดเผยของที่ตัวเองได้รับก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เพื่อความเที่ยงธรรมเปิดเผย แต่เพื่อโยนกระเบื้องล่อหยก[1]

เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ถ้าคนอื่นเลือกที่จะปิดบังไว้ก็จะดูเป็นคนไม่ตรงไปตรงมา ถึงขั้นอาจจะถูกแวดวงสหายดูถูกขึ้นหลายส่วน

ทุกคนล้วนเป็นคนหนุ่มสาวที่ฮึกเหิม ใครจะไปรับสิ่งนี้ไหว

เป็นอย่างที่คาดไว้ หลังจากต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงเผยไอเทมแล้ว ขุนเขาลำธารย่อมพานพบก็ส่งลิงก์ไอเทมทันที [อสรพิษกระเรียนแปดท่า]

[อสรพิษกระเรียนแปดท่า (ระดับกลาง): สุดยอดทักษะเฉพาะของอวิ๋นจงเฮ่อ เงื่อนไขการฝึก: …ละไว้]

จากนั้นก็เป็นซานเย่ว์ ก่อนหน้านี้นางให้ความร่วมมือกับเยี่ยเว่ยหมิงเป็นอย่างดี ทำให้สองขาของอวิ๋นจงเฮ่อบาดเจ็บในช่วงเวลาสำคัญ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้คนในทีมทำเฟิร์สคิล BOSS โหมดปกติคนนี้สำเร็จ นางจึงได้ [กระเรียนเหนือฟ้า]

[กระเรียนเหนือฟ้า (ระดับสูง): วิชาตัวเบาลับเฉพาะของอวิ๋นจงเฮ่อ เงื่อนไขการฝึก: ท่าร่าง 200 ค่าตระหนักรู้ 50]

วิชาตัวเบาระดับสูง สำหรับผู้เล่นในปัจจุบันถือเป็นของดีที่ต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ชั่วขณะนั้นสายตาที่ทุกคนมองนางเต็มไปด้วยความอิจฉา

จากนั้นก็เป็นเซียนสาวน้อยนักกิน ก่อนหน้านี้นางโจมตีพลาดแต่ได้สิทธิ์การโจมตีเป็นคนสุดท้ายไป ส่วนลิงก์ไอเทมที่นางส่งมาก็เหนือความคาดหมายของทุกคนมาก [ผงชายหญิงสู่สม: ยาถอนผงชายหญิงสู่สม]

หลังจากเห็นชื่อของไอเทมสองอย่างนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ถึงขั้นเปิดอ่านค่าสเตตัสโดยละเอียด แค่ชื่ออย่างเดียวก็เพียงพอให้บ่งบอกทุกอย่างแล้ว!

แต่เจ้าคิดว่าเรื่องจะจบอยู่แค่เท่านี้หรือ

ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!

ตอนนี้เอง เจ้าอ้วนชนะฟ้าที่ดูอยู่ข้างๆ ตลอดก็ส่งลิงก์ไอเทมออกมาแล้ว [ชุดคลุมยาวไห่กู่]

เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นอุปกรณ์ระดับทองคำ

ค่าสเตตัสของอุปกรณ์นี้ไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือ แม้แต่คนที่ดูเอาสนุกเฉยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างเจ้าอ้วนชนะฟ้าก็ยังได้อุปกรณ์ระดับทองคำหนึ่งชิ้น แค่นี้ก็เห็นแล้วว่า BOSS โหมดปกติเลเวลแปดสิบห้าอุดมสมบูรณ์ขนาดไหน

ตามติดด้วยหลิวอวิ๋นที่เพิ่งสวดมนต์จบ เขาส่งลิงก์ไอเทมออกมาเช่นกัน แต่กลับเป็นไม้คฑากรงเล็บเหล็กระดับอาวุธล้ำค่า

สำหรับเรื่องนี้ ทุกคนต่างพากันสงสัย แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่รู้สึกว่าเหนือความคาดหมาย

ที่จริงแล้วการ ‘พูดพร่ำ’ ของสหายหลิวอวิ๋นก็มีบทบาทสำคัญตอนสู้กับอวิ๋นจงเฮ่อเช่นกัน ถึงขั้นเป็นรองแค่การ ‘หั่นนกเขา’ ของเยี่ยเว่ยหมิงด้วย ได้อาวุธล้ำค่าเพียงชิ้นเดียว เยี่ยเว่ยหมิงคิดว่าระบบคงเห็นว่าเขาเป็น ‘วิญญูชนขยับปากไม่ขยับมือ’ ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ค่าผลงานของเขาลดลงเยอะมาก

ไม่อย่างนั้นแล้วก็มีความเป็นไปได้สูงว่า ‘กระเรียนเหนือฟ้า’ ของซานเย่ว์จะถูกแบ่งไปที่กระเป๋าเขา

หลังจากเพื่อนในทีมคนอื่นๆ ทยอยกันอวดของเสร็จแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ใช้มือนวดจมูก แล้วเปิดเผยของที่ตัวเองได้รับอย่างอับอายนิดหน่อย

[รวมบทกวีของจื้อหมัว: บันทึกบทกวีแนวใหม่ที่ยอดเยี่ยมไว้มากมาย หลังจากใช้แล้วจะเพิ่มเลเวลวิชาตัวเบาใดก็ได้หนึ่งเลเวล ค่าตระหนักรู้ +10 ค่าประสบการณ์วรรณกรรม +1000000 แต้ม!]

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงดรอปได้ของแบบนี้ ทุกคนก็ถลึงตาโตแทบพร้อมกัน!

ใครก็นึกไม่ถึงทั้งนั้นว่าหลังจากอวิ๋นจงเฮ่อนั่นตายแล้ว นอกจากทักษะยุทธ์และอุปกรณ์ ไม่น่าเชื่อว่าจะดรอปของแบบนี้ออกมาได้ด้วย

หลังจากดูค่าสเตตัสของรวมบทกวีเล่มนี้แล้ว ประเด็นที่ทุกคนตรงนั้นให้ความสนใจก็แตกต่างกันไป

ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงกล่าวชมก่อน “ค่าตระหนักรู้สิบแต้ม ทำให้ฝึกทักษะยุทธ์ประเภทกระบวนท่าและท่าร่างก้าวหน้าขึ้นเร็วมาก หากอยู่ดีๆ ข้าได้ค่าตระหนักรู้เพิ่มสิบแต้ม ‘ดรรชนีเอกสุริยัน’ ของข้าต้องเลเวลสูงขึ้นเร็วมากแน่นอน ของดี เป็นของดีจริงๆ!”

ขุนเขาลำธารย่อมพานพบกลับส่ายหน้า “ข้ากลับรู้สึกว่าค่าสเตตัสที่เพิ่มเลเวลวิชาตัวเบานั่นดุดันกว่า ลองคิดดูสิ หากเพิ่มเลเวลวิชาตัวเบาระดับสุดยอดวิชาให้ถึงเลเวลเก้าล่วงหน้า แล้วค่อยใช้งานมัน…”

“พวกเจ้าพูดผิดกันหมดแล้ว!” ตอนนี้กลับได้ยินหลิวอวิ๋นพูดว่า “ของล้ำค่าที่แท้จริงคือค่าประสบการณ์วรรณกรรมจำนวนมหาศาลนั่นต่างหาก ที่จริงแล้ว วรรณกรรมก็เหมือนพุทธธรรมกับกฎเต๋า ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพให้วิทยายุทธ์พิเศษมากมาย ที่สำคัญกว่านั้นคือเปลี่ยนคุณสมบัติที่ผู้เล่นแสดงออกมาได้ ถึงขั้นส่งผลต่อค่าความรู้สึกดีแรกพบของ NPC มากมายด้วย”

เขาชะงักไปครู่เดียวแล้วกล่าวเสริมว่า “อีกทั้งนิสัยเฉพาะตัวของ NPC แต่ละคนก็ไม่เหมือนกันหมดเสียทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นหากเลเวลพุทธธรรมของข้าสูงมากพอ ตอนอยู่ที่ฝั่งสกุลต้วนต้าหลี่ก็จะได้รับความเคารพจากฮ่องเต้และราชวงศ์ เมื่อเทียบกับพุทธธรรมและกฎเต๋า ทักษะวรรณกรรมส่งผลต่อ NPC ผู้หญิงมากที่สุด ที่เขาว่ากันว่าบุคลิกสง่างามวรรณกรรมโดดเด่น ความหมายก็คงประมาณนี้กระมัง…”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ขุนเขาลำธารย่อมพานพบกับต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงก็มองไปทางเยี่ยเว่ยหมิงด้วยสานตาอิจฉาริษยายิ่งกว่าเดิม

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงนำโลงไม้หนานมู่ออกมา แล้วเริ่มเก็บศพอวิ๋นจงเฮ่อ ถือโอกาสรับ ‘ตระหนักรู้วิชาตัวเบา’ และ ‘ตระหนักรู้อาวุธยาว’ อย่างละเล่ม

ยังไม่ทันรอให้พวกเด็กน้อยขี้สงสัยที่ยังไม่เคยเห็นเวทบรรจุศพของเขาถามอะไร อารมณ์ชื่นมื่นจากการดรอปไอเทมก็ถูกขัดจังหวะอย่างไร้ความปรานีเพราะเสียงประกาศระบบ

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นสำนักดาวดึงส์ เชิญร่ำสุรา ผู้เล่นสำนักเขาอูฐขาว เมฆเคลื่อนเดียวดาย ผู้เล่นสกุลมู่หรง ข้ากำลังหาของ สังหาร BOSS เลเวล75 หนึ่งในสามขุนนางใหญ่ของต้าหลี่…หัวเฮ่อเกิ้น

เนื่องจากหัวเฮ่อเกิ้นเป็น BOSS โหมดปกติ หลังจากถูกฆ่าครั้งนี้จะไม่รีเฟรชอีก

หลังจากนี้ ในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ จะไม่มีหัวเฮ่อเกิ้นอีก!

ผู้เล่นสามคนที่เข้าร่วมการสังหาร… ]

……

เมื่อได้ยินแจ้งเตือนระบบ พวกผู้เล่นที่อยู่ตรงนั้นก็เผยสีหน้าหนักใจพร้อมกัน

นี่เป็นภารกิจสองทิศทางจริงๆ ด้วย ตอนที่ฝั่งนี้สังหารอวิ๋นจงเฮ่อ ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ เช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น พอลงมือก็กำจัดตัวแปรสำคัญในการช่วยคนตามต้นฉบับเดิมจนสิ้นซาก สังหารหัวเฮ่อเกิ้น ผู้ที่เชี่ยวชาญการขุดทางใต้ดินที่สุดของสกุลต้วนต้าหลี่ตายแล้ว!

พอเป็นแบบนี้ ภารกิจที่พวกเขาต้องช่วยต้วนอวี้ออกมา ก็จะต้องอาศัยกำลังของตัวเองแล้ว

สิ้นหวังกับทางฝั่ง NPC แล้ว

พวกเขาปรึกษากันคร่าวๆ ครู่หนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจว่าจะไปดูสถานการณ์ทางฝั่งหุบเขาว่านเจี๋ยก่อน

อีกฝ่ายอาศัยกำลังของสามคนสังหาร BOSS โหมดปกติเลเวลเจ็ดสิบห้าตายได้ เท่านี้ก็เพียงพอจะอธิบายได้แล้วว่าศักยภาพของอีกฝ่ายไม่อ่อนแอเลย ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ อิงตามข้อมูลสองชุดที่มีอยู่ในมือเยี่ยเว่ยหมิง ระหว่างที่ขุดทางใต้ดินของต้นฉบับเดิม ฝั่งสกุลต้วนต้าหลี่ไม่ได้ส่งคนไปแค่คนเดียว

นอกจากหัวเฮ่อเกิ้นแล้ว ยังมีปาเทียนสือที่ว่ากันว่าวิชาตัวเบายอดเยี่ยมอันดับหนึ่งในแปดเทพอสูรมังกรฟ้า รวมทั้งทหารเกรียงไกรอีกสามสิบกว่าคน

สังหารหัวเฮ่อเกิ้นให้ตายได้แม้อยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ศักยภาพของสามคนนั้นคงจะเหนือกว่าที่ประเมินไว้

หรือไม่อย่างนั้น พวกเขาก็อาจขอกำลังช่วยเหลือจากอีกสามคนในบรรดาสี่คนโฉด

พอพวกเขาลองปรึกษากัน ก็รู้สึกว่าควรจะกลับไปตรวจสอบสถานการณ์ที่หุบเขาว่านเจี๋ยก่อนทันที

แม้ก่อนหน้านี้ผู้เล่นจะตกลงกับ NPC ไว้แล้วว่าจะต่างคนต่างใช้วิธีการพึ่งตัวเองเพื่อช่วยคน ใช้สองแนวทางนี้พร้อมกัน

แต่หากยื่นมือช่วยเหลือทันเมื่ออีกฝ่ายประสบอันตราย นั่นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ต้องมีรางวัลพิเศษแน่นอน หรือไม่หลังจากจบภารกิจแล้วก็จะเพิ่มระดับความสำเร็จของภารกิจได้

โอกาสแบบนี้ พวกเยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่ปล่อยผ่าน

แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ก็ยังต้องคลายจุดบนตัวจงหลิงก่อน

จนกระทั่งตอนนี้ สายตาของทุกคนถึงได้มองไปทางจงหลิงผู้น่าสงสารอีกครั้ง ตอนนี้กลับเห็นแม่นางน้อยตาโตน่ารักทำสีหน้ากรุ้มกริ่มเย้ายวน ใบหน้าแดงเรื่อ ดูมีเสน่ห์มากเมื่ออยู่ภายใต้แสงจันทร์

ดวงตากลมโตงดงามกวาดมองบนตัวผู้เล่นชายทั้งห้าไม่หยุด แต่เนื่องจากถูกสกัดจุดไว้ นางไม่เพียงแค่ขยับตัวไม่ได้ ถึงขั้นเอ่ยปากพูดก็ทำไม่ได้เช่นกัน

ตอนนี้ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงที่เชี่ยวชาญการคลายจุดที่สุดเดินเข้าไปแล้ว เขาจี้คลายจุดบนตัวจงหลิงอย่างต่อเนื่อง อีกฝ่ายส่งเสียง “อ๊ะ” แล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นดึงเสื้อผ้าของตัวเองออก พร้อมพูดเสียงอู้อี้ว่า “ข้ารู้สึกร้อนไปทั้งตัว เหมือนมีไฟเผาอยู่ในตัว ทรมานมาก…ทรมาน…มาก…”

[1] โยนกระเบื้องล่อหยก 抛砖引玉 หมายถึง หลอกล่อด้วยของมีค่าน้อย เพื่อที่ได้ของมีค่ากว่ากลับมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด