ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 176 เฟิร์สคิลมังกรสามหัว

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 176 เฟิร์สคิลมังกรสามหัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 176 เฟิร์สคิลมังกรสามหัว

หากพูดถึงการเคลื่อนไหว เซียวเหยาถอนใจย่อมเทียบน้องดาบไม่ติดอยู่แล้ว ถึงขั้นเทียบเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของเขามีคุณภาพสูงมากพอด้วยตัวเองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการโจมตี หรือขอบเขตการโจมตีก็ไม่ต้องพูดถึงเลย มิหนำซ้ำยังไม่มีช่องโหว่ที่ชัดเจนจนหาเจอได้ง่ายๆ ด้วย

เผชิญหน้ากับฝ่ามือดุร้ายขนาดนี้ก่อนกระบี่คู่ผนึกรวมจะมาถึง โหวทงไห่ต้องตัดสินใจเลือกบางสิ่งที่ยากลำบากมาก

ทางเลือกแรกคือหันตัวกลับไปรับฝ่ามือพิชิตมังกรของเซียวเหยาถอนใจ จากนั้นถูกเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยที่มุ่งสังหารตามมาโจมตีอย่างรุนแรง

ทางเลือกที่สอง ไม่สนใจฝ่ามือพิชิตมังกรของเซียวเหยาถอนใจ อาศัยค่าพลังชีวิตสูงของตัวเองฝืนรับการโจมตีนี้ ขณะเดียวกันก็ใช้สามง่ามโจมตีจุดอ่อนของกระบี่คู่ผนึกรวมต่อไป

แต่ผลลัพธ์ของการทำอย่างนี้ก็คือ เขาต้องถูกสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของเซียวเหยาถอนใจโจมตีก่อน จากนั้นก็สะเทือนจนกระเด็นออกไป การทำลายกระบวนท่าของฝ่ายตรงข้ามล้มเหลวเพราะตัวเองทรงตัวไม่มั่นคง จึงถูกเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยโจมตีอย่างรุนแรงอีก

ระหว่างเสียหายสองครั้งกับเสียหายสามครั้ง โหวทงไห่ในฐานะที่เป็น BOSS ร่างสมบูรณ์ที่มีสติปัญญาจึงตัดสินใจเลือกข้อแรกอย่างไม่ลังเล

จากนั้น เขาก็พลันหันตัวกวาดสามง่ามเหล็กในมือ อาศัยค่าสเตตัสสุดแข็งแกร่งของตัวเองรับฝ่ามือของเซียวเหยาถอนใจ ทำให้ร่างสะเทือนจนถอยหลังไปครึ่งก้าว ขณะเดียวกัน ค่าสเตตัสสุดแกร่งของเขาก็ทำให้เซียวเหยาถอนใจสะเทือนจนกระเด็นออกไปเช่นกัน แน่นอนว่าเมื่ออยู่ในภายใต้ประสิทธิภาพอันทรงพลังของ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ เซียวเหยาถอนใจไม่ได้รับดาเมจรุนแรง

ตอนนี้เอง กระบี่วิเศษในมือเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยก็โจมตีออกมาพร้อมกัน ทะลุผ่านจุดเยาเหยี่ยน[1]ฝั่งซ้ายและขวาของโหวทงไห่

โจมตีไต! x2

โจมตีไตต่อเนื่อง!

“อ๊าก!…” ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง ในที่สุดโหวทงไห่ก็ตระหนักได้ถึงสัจธรรมที่มีมาตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว

ยังมีอะไรที่เจ็บกว่าการถูกแทงที่เอวอีก

หลังจากการโจมตีนี้ผ่านไป เยี่ยเว่ยหมิงและสะพานสวรรค์น้อยก็ฉวยโอกาสตอน BOSS ติดสถานะแช่แข็งรีบถอยหลัง หลบการโจมตีกลับอันรุนแรงของโหวทงไห่ที่กำลังเดือดดาล

จากนั้น เยี่ยเว่ยหมิงและสะพานสวรรค์น้อยก็ใช้กระบี่คู่ผนึกรวมอีกครั้ง

เซียวเหยาถอนใจใช้ฝ่ามือพิชิตมังกรตบต่อไปภายใต้การบัญชาการของน้องดาบ ด้วยความร่วมมืออันสมบูรณ์แบบนี้ ทำให้โหวทงไห่เสียค่าพลังชีวิตจำนวนมากอีกครั้ง

จากนั้นก็เป็นครั้งที่สาม หลังจากความร่วมมืออันสมบูรณ์แบบ กำลังภายในของเซียวเหยาถอนใจกำลังจะหมดแล้ว

ครั้งที่สี่ เปลี่ยนให้เสวียนเสี่ยวปี่ลงสนามแทน

‘วิชากระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร’ ของเสวียนเสี่ยวปี่ไม่ก้าวร้าวเท่ากับ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ แต่กลับใช้ต่อเนื่องได้นานกว่า ทุกครั้งที่โจมตีโหวทงไห่จนกระบวนท่าพัง ล้วนถูกอีกฝ่ายโจมตีจนเกิดดาเมจรุนแรง

แต่ในระหว่างการต่อสู้แบบนี้ เห็นได้ชัดว่าโหวทงไห่เสียค่าพลังชีวิตเร็วกว่า โหดกว่ามาก!

เมื่อได้เห็นฉากนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็แอบตกใจเงียบๆ เพราะระหว่างที่น้องดาบบัญชาการก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแค่มองแผนการโจมตีของโหวทงไห่ออก นางถึงขั้นพิจารณาถึงจุดเด่นในทักษะยุทธ์ของเซียวเหยาถอนใจกับเสวียนเสี่ยวปี่ ระยะห่างของพวกเขากับ BOSS ความเร็วท่าร่างของพวกเขา ทั้งยังหยุดยั้งโหวทงไห่ที่เดิมทีโจมตีออกมาได้อย่างง่ายดายได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่พลาดสักครั้งเดียว!

ดูท่าแล้ว จุดแข็งของนางคงไม่ได้มีแค่การเคลื่อนไหวเท่านั้น!

หลังจากโจมตีครั้งที่สี่ กำลังภายในของเสวียนเสี่ยวปี่ก็ยังเหลืออีกเกินครึ่ง แต่พลังชีวิตกลับเหลือประมาณหนึ่งส่วนสี่เท่านั้น

เมื่อเห็นจอมยุทธ์ไก่อ่อนคนนี้ยืนหยัดไม่ไหวแล้ว หนึ่งดาบสามเฉือนกลับเอ่ยว่า “เสี่ยวปี่ เจ้าถอยมาดีกว่า กินยาฟื้นฟูพลังชีวิตก่อน ต่อไปข้าจัดการเอง”

ที่แท้ ตอนที่เซียวเหยาถอนใจกับเสวียนเสี่ยวปี่มารับช่วงต่อ ก็เท่ากับช่วงชิงเวลาให้เวลานางฟื้นฟูตัวเองแล้ว ตอนนี้พลังชีวิตของน้องดาบกลับมาเต็มเหมือนเดิมแล้ว!

ดังนั้น การต่อสู้จึงเข้าสู่รอบใหม่อีกครั้ง

ส่วนค่าพลังชีวิตที่ลอยอยู่เหนือศีรษะโหวทงไห่ เห็นได้ชัดว่าไม่เพียงพอให้เขายืนหยัดจนถึงการต่อสู้รอบใหม่จบ ถึงขั้นหลังจากเสียพลังชีวิตไปแล้วสองครั้ง ค่าพลังชีวิตของเจ้าหมอนี่ก็เหลือเพียงประมาณเจ็ดพันเท่านั้น

และตอนนี้เอง ในดวงตาของหนึ่งดาบสามเฉือนกลับฉายแววตื่นเต้นออกมา โคจรพลังภายในไปบนดาบในมือตัวเอง เตรียมตัวทำคริติคอลดาเมจครั้งสุดท้ายแล้ว เตรียมจะมอบจุดจบให้ BOSS คนนี้แล้ว

ขณะเดียวกัน ในอากาศกลับมีเสียงฝ่าอากาศอันแหลมเล็กดังออกมา

ฟิ้ว!

ฉึก!

-7385!

โหวทงไห่ ตาย!

[ติ๊ง! ทีมของคุณฆ่ามังกรสามหัวโหวทงไห่ BOSS โหมดปกติเลเวล 55 สำเร็จแล้ว ได้รับค่าประสบการณ์ 130000 แต้ม ค่าตบะ 36000 แต้ม!]

[ประกาศระบบ: หนึ่งดาบสามเฉือน ผู้เล่นสำนักดาบโลหิต เสวียนเสี่ยวปี่ ผู้เล่นสำนักอู่ตัง เซียวเหยาถอนใจผู้เล่นพรรคกระยาจก เยี่ยเว่ยหมิง ผู้เล่นสำนักมือปราบ สะพานสวรรค์คริสตัล ผู้เล่นสำนักสุสานโบราณ สังหาร มังกรสามหัวโหวทงไห่ BOSS เลเวล 55]

เนื่องจากโหวทงไห่เป็น BOSS โหมดปกติ หลังจากถูกฆ่าครั้งนี้จึงรีเฟรชไม่ได้อีก

นับตั้งแต่นี้ไปใน ‘เกมวีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ไม่มีโหวทงไห่อีก!

[ผู้เล่นทั้งห้าคนที่เข้าร่วมการโจมตีสังหาร จะได้รับรางวัลสังหารสิ้นซาก: ค่าชื่อเสียงยุทธภพ: 50000 แต้ม ค่าผลงานสำนัก 13000 แต้ม!]

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นสำนักดาบโลหิต หนึ่งดาบสามเฉือน…]

……

ประกาศระบบดังสามรอบทั่วทั้ง ‘เกมวีรบุรุษนิรันดร์กาล’ น้องสะพานสวรรค์น้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอีกครั้ง

แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่กำจัด BOSS ร่างสมบูรณ์ที่อยู่ในสภาพแท้จริงได้ แต่โหวทงไห่คนนี้มีคุณภาพสูงกว่าเหยียนจีไม่รู้ตั้งเท่าไร

ในเมื่อเป็นดังนี้ ครั้งนี้เรทติ้งและระดับการติดตามบนทีวีต้องมากกว่าครั้งก่อนๆ ด้วยเช่นกัน!

ถ้าเป็นอย่างนี้ เช่นนั้น…

พอนึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ สะพานสวรรค์น้อยกลับเริ่มมีสีหน้าประหลาด เดี๋ยวก็ดีใจเดี๋ยวก็กังวล กล่าวได้ว่ามีร้อยอารมณ์รวมกัน

เยี่ยเว่ยหมิงสังเกตเห็นความผิดปกติของนางได้เร็วมาก ขณะกำลังจะเอ่ยปากถาม เงาร่างของหนึ่งดาบสามเฉือนกลับมาแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างเขากับสะพานสวรรค์น้อย

พอขวางอยู่ตรงหน้าเยี่ยเว่ยหมิง น้องดาบก็ถามเขาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “นี่! เจ้ามือปราบหน้าเหม็น ทำไมจู่ๆ การโจมตีครั้งสุดท้ายของเจ้าถึงทำดาเมจสูงได้ขนาดนั้น อย่าบอกนะว่าเมื่ออยู่ในสถานะกระบี่คู่ผนึกรวม แม้แต่ทักษะยุทธ์ของเจ้าก็ได้เพิ่มประสิทธิภาพด้วย”

ที่จริงน้องดาบตั้งใจแย่งทำดาเมจกับโหวทงไห่เป็นคนแรกตั้งแต่เริ่มโจมตีแล้ว เพราะเหตุนี้นางถึงขั้นยอมถูกสามง่ามของมังกรสามหัวโจมตี ทั้งยังถูกอีกฝ่ายที่ค่าเสตัสเหนือกว่าบดขยี้จนเสียค่าพลังชีวิตไปไม่น้อย

การที่นางทำอย่างนี้ไม่ได้มีเหตุผลซับซ้อน เพราะตอนสุดท้ายที่แบ่งรางวัลกัน นางจะได้มีสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่นก็เท่านั้นเอง

แม้กติกาการแบ่งไอเทมจะมีอธิบายไว้ในเกมชัดเจนแล้ว แต่สามกติกาใหญ่ๆ เรื่องการแย่ง BOSS นั้นไม่เหมาะกับโหมดแบ่งไอเทมตามค่าผลงาน แต่พี่ใหญ่ของนาง เจ้าอ้วนชนะฟ้ากลับเรียบเรียงข้อมูลที่นางอ่านแล้วไม่เข้าใจออกมา สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า

ที่จริงสามกติกาใหญ่นี้ เมื่ออยู่ในโหมดทีมก็มีผลพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับการตัดสินใจแย่งฆ่ามอนสเตอร์ ตอนอยู่ในโหมดทีม สามกติกานี้จะมีผลน้อยลงจากเดิมจนไม่ถึงหนึ่งในสิบ

ต่อให้เป็นเพียงความได้เปรียบเล็กน้อยจนไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึง แต่สำหรับผู้เล่นแล้ว ก็ยังต้องพยายามไปช่วงชิงอย่างสุดความสามารถอยู่ดี

เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่รู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เขาก็แค่พบว่าน้องดาบเหมือนจะใส่ใจการโจมตี BOSS ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายมาก ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะช่วงชิงการโจมตีครั้งสุดท้ายมาไว้ในมือ เหตุผลก็ง่ายๆ เท่านี้เอง

ส่วนคำถามที่น้องดาบเพิ่งเอ่ยขึ้นเมื่อครู่นี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ตอบอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “ประสิทธิภาพของ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ เพิ่มขึ้น แน่นอนว่าไม่เกี่ยวข้องกับกระบี่คู่ผนึกรวม ข้าแค่ใช้ค่าตบะที่เป็นรางวัลชนะเลิศการประลองใหญ่มาเพิ่มเลเวลให้เคล็ดวิชานี้ก็เท่านั้นเอง”

หนึ่งดาบสามเฉือนได้ยินแล้วไม่ถามอะไรมากอีก เตะที่ศพของโหวทงไห่เสียเลย

จากนั้นทุกคนก็งงเป็นไก่ตาแตกแล้ว

“ไม่ใช่กระมัง โหวทงไห่คนนี้เป็น BOSS โหมดปกติ น่าจะดรอปไอเทมเยอะสิ ทำไมไม่ดรอปอะไรเลย” น้องดาบถาม

“สถานการณ์ของข้าก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน” เซียวเหยาถอนใจกล่าว

“เหมือนกัน” เสวียนเสี่ยวปี่บอก

สะพานสวรรค์น้อยก็บอกเหมือนกัน “ข้าก็ด้วย”

ดังนั้น สายตาของทุกคนจึงไปรวมอยู่บนตัวเยี่ยเว่ยหมิง

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็เอามือลูบจมูกพร้อมบอกว่า “ในเมื่อเป็นการแบ่งไอเทมตามค่าผลงาน ของไปตกอยู่ในกระเป๋าใครก็ย่อมต้องเป็นของคนนั้น ข้าเป็นคนไม่ชอบพูดโกหก พวกเจ้าก็เลิกถามได้แล้ว”

[1] จุดเยาเหยี่ยน 腰眼 แผ่นหลังช่วงเอวทั้งสองข้าง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 176 เฟิร์สคิลมังกรสามหัว

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 176 เฟิร์สคิลมังกรสามหัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 176 เฟิร์สคิลมังกรสามหัว

หากพูดถึงการเคลื่อนไหว เซียวเหยาถอนใจย่อมเทียบน้องดาบไม่ติดอยู่แล้ว ถึงขั้นเทียบเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของเขามีคุณภาพสูงมากพอด้วยตัวเองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการโจมตี หรือขอบเขตการโจมตีก็ไม่ต้องพูดถึงเลย มิหนำซ้ำยังไม่มีช่องโหว่ที่ชัดเจนจนหาเจอได้ง่ายๆ ด้วย

เผชิญหน้ากับฝ่ามือดุร้ายขนาดนี้ก่อนกระบี่คู่ผนึกรวมจะมาถึง โหวทงไห่ต้องตัดสินใจเลือกบางสิ่งที่ยากลำบากมาก

ทางเลือกแรกคือหันตัวกลับไปรับฝ่ามือพิชิตมังกรของเซียวเหยาถอนใจ จากนั้นถูกเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยที่มุ่งสังหารตามมาโจมตีอย่างรุนแรง

ทางเลือกที่สอง ไม่สนใจฝ่ามือพิชิตมังกรของเซียวเหยาถอนใจ อาศัยค่าพลังชีวิตสูงของตัวเองฝืนรับการโจมตีนี้ ขณะเดียวกันก็ใช้สามง่ามโจมตีจุดอ่อนของกระบี่คู่ผนึกรวมต่อไป

แต่ผลลัพธ์ของการทำอย่างนี้ก็คือ เขาต้องถูกสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของเซียวเหยาถอนใจโจมตีก่อน จากนั้นก็สะเทือนจนกระเด็นออกไป การทำลายกระบวนท่าของฝ่ายตรงข้ามล้มเหลวเพราะตัวเองทรงตัวไม่มั่นคง จึงถูกเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยโจมตีอย่างรุนแรงอีก

ระหว่างเสียหายสองครั้งกับเสียหายสามครั้ง โหวทงไห่ในฐานะที่เป็น BOSS ร่างสมบูรณ์ที่มีสติปัญญาจึงตัดสินใจเลือกข้อแรกอย่างไม่ลังเล

จากนั้น เขาก็พลันหันตัวกวาดสามง่ามเหล็กในมือ อาศัยค่าสเตตัสสุดแข็งแกร่งของตัวเองรับฝ่ามือของเซียวเหยาถอนใจ ทำให้ร่างสะเทือนจนถอยหลังไปครึ่งก้าว ขณะเดียวกัน ค่าสเตตัสสุดแกร่งของเขาก็ทำให้เซียวเหยาถอนใจสะเทือนจนกระเด็นออกไปเช่นกัน แน่นอนว่าเมื่ออยู่ในภายใต้ประสิทธิภาพอันทรงพลังของ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ เซียวเหยาถอนใจไม่ได้รับดาเมจรุนแรง

ตอนนี้เอง กระบี่วิเศษในมือเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยก็โจมตีออกมาพร้อมกัน ทะลุผ่านจุดเยาเหยี่ยน[1]ฝั่งซ้ายและขวาของโหวทงไห่

โจมตีไต! x2

โจมตีไตต่อเนื่อง!

“อ๊าก!…” ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง ในที่สุดโหวทงไห่ก็ตระหนักได้ถึงสัจธรรมที่มีมาตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว

ยังมีอะไรที่เจ็บกว่าการถูกแทงที่เอวอีก

หลังจากการโจมตีนี้ผ่านไป เยี่ยเว่ยหมิงและสะพานสวรรค์น้อยก็ฉวยโอกาสตอน BOSS ติดสถานะแช่แข็งรีบถอยหลัง หลบการโจมตีกลับอันรุนแรงของโหวทงไห่ที่กำลังเดือดดาล

จากนั้น เยี่ยเว่ยหมิงและสะพานสวรรค์น้อยก็ใช้กระบี่คู่ผนึกรวมอีกครั้ง

เซียวเหยาถอนใจใช้ฝ่ามือพิชิตมังกรตบต่อไปภายใต้การบัญชาการของน้องดาบ ด้วยความร่วมมืออันสมบูรณ์แบบนี้ ทำให้โหวทงไห่เสียค่าพลังชีวิตจำนวนมากอีกครั้ง

จากนั้นก็เป็นครั้งที่สาม หลังจากความร่วมมืออันสมบูรณ์แบบ กำลังภายในของเซียวเหยาถอนใจกำลังจะหมดแล้ว

ครั้งที่สี่ เปลี่ยนให้เสวียนเสี่ยวปี่ลงสนามแทน

‘วิชากระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร’ ของเสวียนเสี่ยวปี่ไม่ก้าวร้าวเท่ากับ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ แต่กลับใช้ต่อเนื่องได้นานกว่า ทุกครั้งที่โจมตีโหวทงไห่จนกระบวนท่าพัง ล้วนถูกอีกฝ่ายโจมตีจนเกิดดาเมจรุนแรง

แต่ในระหว่างการต่อสู้แบบนี้ เห็นได้ชัดว่าโหวทงไห่เสียค่าพลังชีวิตเร็วกว่า โหดกว่ามาก!

เมื่อได้เห็นฉากนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็แอบตกใจเงียบๆ เพราะระหว่างที่น้องดาบบัญชาการก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแค่มองแผนการโจมตีของโหวทงไห่ออก นางถึงขั้นพิจารณาถึงจุดเด่นในทักษะยุทธ์ของเซียวเหยาถอนใจกับเสวียนเสี่ยวปี่ ระยะห่างของพวกเขากับ BOSS ความเร็วท่าร่างของพวกเขา ทั้งยังหยุดยั้งโหวทงไห่ที่เดิมทีโจมตีออกมาได้อย่างง่ายดายได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่พลาดสักครั้งเดียว!

ดูท่าแล้ว จุดแข็งของนางคงไม่ได้มีแค่การเคลื่อนไหวเท่านั้น!

หลังจากโจมตีครั้งที่สี่ กำลังภายในของเสวียนเสี่ยวปี่ก็ยังเหลืออีกเกินครึ่ง แต่พลังชีวิตกลับเหลือประมาณหนึ่งส่วนสี่เท่านั้น

เมื่อเห็นจอมยุทธ์ไก่อ่อนคนนี้ยืนหยัดไม่ไหวแล้ว หนึ่งดาบสามเฉือนกลับเอ่ยว่า “เสี่ยวปี่ เจ้าถอยมาดีกว่า กินยาฟื้นฟูพลังชีวิตก่อน ต่อไปข้าจัดการเอง”

ที่แท้ ตอนที่เซียวเหยาถอนใจกับเสวียนเสี่ยวปี่มารับช่วงต่อ ก็เท่ากับช่วงชิงเวลาให้เวลานางฟื้นฟูตัวเองแล้ว ตอนนี้พลังชีวิตของน้องดาบกลับมาเต็มเหมือนเดิมแล้ว!

ดังนั้น การต่อสู้จึงเข้าสู่รอบใหม่อีกครั้ง

ส่วนค่าพลังชีวิตที่ลอยอยู่เหนือศีรษะโหวทงไห่ เห็นได้ชัดว่าไม่เพียงพอให้เขายืนหยัดจนถึงการต่อสู้รอบใหม่จบ ถึงขั้นหลังจากเสียพลังชีวิตไปแล้วสองครั้ง ค่าพลังชีวิตของเจ้าหมอนี่ก็เหลือเพียงประมาณเจ็ดพันเท่านั้น

และตอนนี้เอง ในดวงตาของหนึ่งดาบสามเฉือนกลับฉายแววตื่นเต้นออกมา โคจรพลังภายในไปบนดาบในมือตัวเอง เตรียมตัวทำคริติคอลดาเมจครั้งสุดท้ายแล้ว เตรียมจะมอบจุดจบให้ BOSS คนนี้แล้ว

ขณะเดียวกัน ในอากาศกลับมีเสียงฝ่าอากาศอันแหลมเล็กดังออกมา

ฟิ้ว!

ฉึก!

-7385!

โหวทงไห่ ตาย!

[ติ๊ง! ทีมของคุณฆ่ามังกรสามหัวโหวทงไห่ BOSS โหมดปกติเลเวล 55 สำเร็จแล้ว ได้รับค่าประสบการณ์ 130000 แต้ม ค่าตบะ 36000 แต้ม!]

[ประกาศระบบ: หนึ่งดาบสามเฉือน ผู้เล่นสำนักดาบโลหิต เสวียนเสี่ยวปี่ ผู้เล่นสำนักอู่ตัง เซียวเหยาถอนใจผู้เล่นพรรคกระยาจก เยี่ยเว่ยหมิง ผู้เล่นสำนักมือปราบ สะพานสวรรค์คริสตัล ผู้เล่นสำนักสุสานโบราณ สังหาร มังกรสามหัวโหวทงไห่ BOSS เลเวล 55]

เนื่องจากโหวทงไห่เป็น BOSS โหมดปกติ หลังจากถูกฆ่าครั้งนี้จึงรีเฟรชไม่ได้อีก

นับตั้งแต่นี้ไปใน ‘เกมวีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ไม่มีโหวทงไห่อีก!

[ผู้เล่นทั้งห้าคนที่เข้าร่วมการโจมตีสังหาร จะได้รับรางวัลสังหารสิ้นซาก: ค่าชื่อเสียงยุทธภพ: 50000 แต้ม ค่าผลงานสำนัก 13000 แต้ม!]

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นสำนักดาบโลหิต หนึ่งดาบสามเฉือน…]

……

ประกาศระบบดังสามรอบทั่วทั้ง ‘เกมวีรบุรุษนิรันดร์กาล’ น้องสะพานสวรรค์น้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอีกครั้ง

แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่กำจัด BOSS ร่างสมบูรณ์ที่อยู่ในสภาพแท้จริงได้ แต่โหวทงไห่คนนี้มีคุณภาพสูงกว่าเหยียนจีไม่รู้ตั้งเท่าไร

ในเมื่อเป็นดังนี้ ครั้งนี้เรทติ้งและระดับการติดตามบนทีวีต้องมากกว่าครั้งก่อนๆ ด้วยเช่นกัน!

ถ้าเป็นอย่างนี้ เช่นนั้น…

พอนึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ สะพานสวรรค์น้อยกลับเริ่มมีสีหน้าประหลาด เดี๋ยวก็ดีใจเดี๋ยวก็กังวล กล่าวได้ว่ามีร้อยอารมณ์รวมกัน

เยี่ยเว่ยหมิงสังเกตเห็นความผิดปกติของนางได้เร็วมาก ขณะกำลังจะเอ่ยปากถาม เงาร่างของหนึ่งดาบสามเฉือนกลับมาแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างเขากับสะพานสวรรค์น้อย

พอขวางอยู่ตรงหน้าเยี่ยเว่ยหมิง น้องดาบก็ถามเขาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “นี่! เจ้ามือปราบหน้าเหม็น ทำไมจู่ๆ การโจมตีครั้งสุดท้ายของเจ้าถึงทำดาเมจสูงได้ขนาดนั้น อย่าบอกนะว่าเมื่ออยู่ในสถานะกระบี่คู่ผนึกรวม แม้แต่ทักษะยุทธ์ของเจ้าก็ได้เพิ่มประสิทธิภาพด้วย”

ที่จริงน้องดาบตั้งใจแย่งทำดาเมจกับโหวทงไห่เป็นคนแรกตั้งแต่เริ่มโจมตีแล้ว เพราะเหตุนี้นางถึงขั้นยอมถูกสามง่ามของมังกรสามหัวโจมตี ทั้งยังถูกอีกฝ่ายที่ค่าเสตัสเหนือกว่าบดขยี้จนเสียค่าพลังชีวิตไปไม่น้อย

การที่นางทำอย่างนี้ไม่ได้มีเหตุผลซับซ้อน เพราะตอนสุดท้ายที่แบ่งรางวัลกัน นางจะได้มีสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่นก็เท่านั้นเอง

แม้กติกาการแบ่งไอเทมจะมีอธิบายไว้ในเกมชัดเจนแล้ว แต่สามกติกาใหญ่ๆ เรื่องการแย่ง BOSS นั้นไม่เหมาะกับโหมดแบ่งไอเทมตามค่าผลงาน แต่พี่ใหญ่ของนาง เจ้าอ้วนชนะฟ้ากลับเรียบเรียงข้อมูลที่นางอ่านแล้วไม่เข้าใจออกมา สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า

ที่จริงสามกติกาใหญ่นี้ เมื่ออยู่ในโหมดทีมก็มีผลพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับการตัดสินใจแย่งฆ่ามอนสเตอร์ ตอนอยู่ในโหมดทีม สามกติกานี้จะมีผลน้อยลงจากเดิมจนไม่ถึงหนึ่งในสิบ

ต่อให้เป็นเพียงความได้เปรียบเล็กน้อยจนไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึง แต่สำหรับผู้เล่นแล้ว ก็ยังต้องพยายามไปช่วงชิงอย่างสุดความสามารถอยู่ดี

เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่รู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เขาก็แค่พบว่าน้องดาบเหมือนจะใส่ใจการโจมตี BOSS ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายมาก ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะช่วงชิงการโจมตีครั้งสุดท้ายมาไว้ในมือ เหตุผลก็ง่ายๆ เท่านี้เอง

ส่วนคำถามที่น้องดาบเพิ่งเอ่ยขึ้นเมื่อครู่นี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ตอบอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “ประสิทธิภาพของ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ เพิ่มขึ้น แน่นอนว่าไม่เกี่ยวข้องกับกระบี่คู่ผนึกรวม ข้าแค่ใช้ค่าตบะที่เป็นรางวัลชนะเลิศการประลองใหญ่มาเพิ่มเลเวลให้เคล็ดวิชานี้ก็เท่านั้นเอง”

หนึ่งดาบสามเฉือนได้ยินแล้วไม่ถามอะไรมากอีก เตะที่ศพของโหวทงไห่เสียเลย

จากนั้นทุกคนก็งงเป็นไก่ตาแตกแล้ว

“ไม่ใช่กระมัง โหวทงไห่คนนี้เป็น BOSS โหมดปกติ น่าจะดรอปไอเทมเยอะสิ ทำไมไม่ดรอปอะไรเลย” น้องดาบถาม

“สถานการณ์ของข้าก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน” เซียวเหยาถอนใจกล่าว

“เหมือนกัน” เสวียนเสี่ยวปี่บอก

สะพานสวรรค์น้อยก็บอกเหมือนกัน “ข้าก็ด้วย”

ดังนั้น สายตาของทุกคนจึงไปรวมอยู่บนตัวเยี่ยเว่ยหมิง

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็เอามือลูบจมูกพร้อมบอกว่า “ในเมื่อเป็นการแบ่งไอเทมตามค่าผลงาน ของไปตกอยู่ในกระเป๋าใครก็ย่อมต้องเป็นของคนนั้น ข้าเป็นคนไม่ชอบพูดโกหก พวกเจ้าก็เลิกถามได้แล้ว”

[1] จุดเยาเหยี่ยน 腰眼 แผ่นหลังช่วงเอวทั้งสองข้าง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด