ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 252 อาเอ้อร์ที่พื้นฐานวิชาแน่น!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 252 อาเอ้อร์ที่พื้นฐานวิชาแน่น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 252 อาเอ้อร์ที่พื้นฐานวิชาแน่น!

เหมือนคำกล่าวที่ว่า ‘อยู่ใกล้หมูย่อมอ้วน อยู่ใกล้กลางคืนย่อมมืด’

หลังจากตระหนักได้ว่ามูลค่าของหลวงจีนน้ำเต้าโลหิตมีมากกว่าที่จะเอามาเพื่อขู่เท่านั้น ไม่ต้องให้เยี่ยเว่ยหมิงกำชับ น้องดาบที่อยู่อีกฝั่งนำเส้นเอ็นวัวมามัดหลวงจีนน้ำเต้าโลหิตไว้อย่างแน่นหนา แล้วแขวนไว้บนต้นไม้ใกล้ๆ แล้ว ทำให้เขาอาศัยแรงจากตรงไหนไม่ได้

น้องสาวคนนี้ฝีมือไม่เลว ใช้วิธีการมัดแบบขาหมู ยิ่งดิ้นก็ยิ่งแน่น

อีกด้านหนึ่ง สะพานสวรรค์น้อยถอยจากหุบเขามารวมกับทุกคนแล้ว

หลังจากผ่านไปสิบวินาที อาเอ้อร์ก็ปรากฏตัว ครั้งนี้ทุกคนได้เห็นหน้าเจ้าหมอนี่ชัดเจน รูปร่างเตี้ยตัวผอมกะหร่อง กลางศีรษะล้านเป็นมันวาว ผมบนศีรษะเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง ขมับสองข้างบุ๋มลงไปประมาณครึ่งชุ่น (1ชุ่น = 3.33 เซนติเมตร)

อาเอ้อร์ที่ปรากฏตัวแล้วกวาดสายตามองทุกคนปราดหนึ่งก่อน จากนั้นก็หยุดมองที่เยี่ยเว่ยหมิงแล้วถามด้วยเสียงอึมครึม “มือปราบจากที่ราบภาคกลางคนหนึ่ง แต่กลับมาขัดขวางการทำงานของจวนท่านอ๋องหรู่หยางถึงในอาณาเขตต้าหยวน ช่างบังอาจนัก!”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วเลิกคิ้ว “ข้าอยากจะทำอะไรก็จะทำอย่างนั้น อยากจะทำลายเรื่องดีๆ ของใครก็จะทำลาย เจ้าอาวุโสขนาดไหนเชียว”

“เป็นน้องรอง!” อาเอ้อร์ตอบเสียงเย็น

เยี่ยเว่ยหมิงเบะปากอย่างเหยียดหยาม “เป็นน้องรอง[1]ที่งอกอยู่บนตัวพวกเราน่ะหรือ”

“เจ้าคนไร้มารยาท รนหาที่ตาย!” ขณะที่พูด ร่างของอาเอ้อร์ก็พลันพุ่งมาข้างหน้า จดฝ่ามือไปที่หัวใจของเยี่ยเว่ยหมิง แต่ฝ่ามือยังไม่ทันมาถึง ลมที่เกิดจากฝ่ามือก็พัดจนเสื้อผ้าของเยี่ยเว่ยหมิงปลิวสะบัดแล้ว

กำลังภายในทรงพลังมาก!

เยี่ยเว่ยหมิงที่ความสามารถเพิ่งเพิ่มขึ้นตั้งใจจะทดลองว่าหลังจากตัวเอง ‘หยินหยางสมดุล’ แล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป จึงก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ยื่นฝ่ามือซ้ายออกมารับเช่นกัน ฝ่ามือที่ดูเหมือนธรรมดาชนกับฝ่ามือของอาเอ้อร์แล้ว

พรึ่บ!

-3564!

เมื่อได้รับฝ่ามือของอีกฝ่ายซึ่งๆ หน้า เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้พบว่าพลังฝ่ามือของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าฟ่านเหยาและเฉิงคุน!

แม้เขาไม่ได้กระตุ้นพลังฝ่ามือล่วงหน้าแต่จะโจมตีจนเกิดดาเมจมหาศาลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน แต่อาเอ้อร์คนนี้ไม่เพียงแค่ทำได้ ทั้งยังเป็นตัวเลขดาเมจสูงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วย!

แต่ยิ่งดาเมจของเขาสูงเท่าไร ก็แสดงว่าดาเมจสะท้อนกลับจาก ‘มังกรซ่อนกบดาน’ ของเยี่ยเว่ยหมิงก็จะสูงเท่านั้น มีโบนัสค่าสเตตัสที่ ‘สะท้อนกลับพลังโจมตีฝ่ายตรงข้าม 30%’ ยิ่งเจอศัตรูที่แข็งแกร่งก็ยิ่งสำแดงอานุภาพ

“อา!…”

เมื่อสัมผัสได้กับแรงชนโจมตี มังกรซ่อนกบดานถูกกระตุ้นในพริบตาเดียว พลังฝ่ามือรูปมังกรสีฟ้าสะท้อนกลับไปหาฝ่ายตรงข้ามแล้ว

-14621!

‘มังกรซ่อนกบดาน’ จัดเป็นกระบวนท่าที่ไม่มีค่าสเตตัส เมื่อใช้ร่วมกับแหวนหยกเย็นไม่มีโบนัสดาเมจ และจะไม่ถูกทำให้อ่อนกำลังลงด้วยเช่นกัน

ทว่าว่าภายใต้ฝ่ามือนี้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับถูกอีกฝ่ายโจมตีจนติดสถานะหมดแรง ทั้งแขนข้างซ้ายชาไปพักหนึ่ง เกรงว่าต้องใช้เวลาฟื้นฟูสักพักกว่าจะกลับมาใช้งานได้คล่องแคล่วเหมือนก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านั้น พลังโจมตีและพลังป้องกันถูกลดลงจากเดิม 40%!

เพียงแต่อาเอ้อร์ก็ทรมานเช่นกัน เขาถูกธาตุแหวนหยกเย็นของเยี่ยเหวยหมิงเต็มๆ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ ที่เปลี่ยนเป็นธาตุน้ำแข็ง เลือดลมทั้งตัวหยุดชะงักไปชั่วขณะ อยู่ในสภาพเฉื่อยชาเพราะถูกแช่แข็ง ไม่ว่าจะเป็นความเร็วของท่าร่างหรือตอนลงมือ ก็ล้วนลดลงจากเดิม 60%

ประสิทธิภาพก็ไม่เลว แต่เอ็ฟเฟ็กต์พิเศษ ‘หยินหยางสมดุล’ เหมือนไม่ได้แสดงออกมาในด้านการโจมตี

อย่างน้อยหลังจากใช้ฝ่ามือเมื่อครู่นี้แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่รู้สึกว่าพลังฝ่ามือของเขามีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย

ตอนนี้เอง ฝ่ามือที่ปะทะกันซึ่งๆ หน้าก็ทำให้อาเอ้อร์เผยค่าสเตตัสบอสของของตัวเองออกมาแล้วเช่นกัน

[อาเอ้อร์]

ยอดฝีมือจากสำนักจินกังแดนซีอวี้ หนึ่งในหกยอดฝีมือจวนท่านอ๋องหรู่หยาง

เลเวล: 65

ค่าพลังชีวิต: 275379/290000

กำลังภายใน: 279600/280000

……

เมื่อเห็นค่าสเตตัสของอาเอ้อร์ สะพานสวรรค์น้อยอยู่ข้างๆ ก็อุทานด้วยความตกใจ “ไม่น่าเชื่อว่ากำลังภายในของอาเอ้อร์จะโหดกว่าฟ่านเหยา!”

สำหรับการประเมินของสะพานสวรรค์น้อย เยี่ยเว่ยหมิงคิดว่าถูก แต่ก็เหมือนไม่ถูก

ดูจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นตอนนี้ กำลังภายในของอาเอ้อร์เหนือกว่าของฟ่านเหยาหนึ่งระดับจริงๆ

แต่เป็นเพราะอยู่ในโหมดภารกิจ ศักยภาพของทั้งสองล้วนถูกจำกัดไว้ที่เลเวลหกสิบห้าเท่านั้น ความสามารถโดยรวมของฟ่านเหยา กระบวนท่ายอดเยี่ยม ชำนาญวิทยายุทธ์มากมายของหลายสำนัก ระบบต้องรักษาลักษณะพิเศษที่บรรยายข้างต้นเอาไว้ภายใต้โหมดที่เลเวลเท่ากัน ย่อมทำให้กำลังภายในของอีกฝ่ายอ่อนแอลงเยอะ มันก็ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเลเวลหกสิบห้า

อาเอ้อร์กลับตรงกันข้าม ข้อได้เปรียบใหญ่สุดของเขาอยู่ที่กำลังภายใน เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีเลเวลเดียวกัน กำลังภายในที่แสดงให้เห็นย่อมเหนือกว่าของฟ่านเหยาอยู่แล้ว

ถ้าอยู่ในโหมดปกติที่ไม่มีการจำกัดศักยภาพ ที่จริงฟ่านเหยาก็บดขยี้อาเอ้อร์ได้ทุกด้านเลย

ในเมื่อไม่รู้ว่าควรจะประเมินอย่างไร เยี่ยเว่ยหมิงจึงไม่วิจารณ์คำพูดของสะพานสวรรค์น้อย เพียงบอกทุกคนให้ระวังกำลังภายในของเจ้าหมอนี่ พยายามอย่าใช้กำลังปะทะกับเขา เอาชนะโดยอาศัยกระบวนท่าก็พอ

ขณะเดียวกันนี้เอง หลังจากกลืนยาฟื้นพลังชีวิตแล้ว เขาก็สะบัดกระบี่แสงทองในมือ แล้วเข้าร่วมวงล้อมโจมตีบอสด้วยกัน

อาเอ้อร์หลังจากถูกลดความเร็ว ศักยภาพก็ย่อมถูกหักไปเยอะด้วยเช่นกัน ความสามารถของเขาแสดงออกชัดเจนมากเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกลุ่มคนล้อมโจมตี ภายในเวลาหนึ่งนาทีก็โจมตีเขาได้แล้ว ถูกกลุ่มผู้เล่นโจมตีอย่างแรงไม่ต่ำกว่าเจ็ดแปดครั้ง แม้จะมีปราณแท้ป้องกันตัวประคับประคองไว้ ค่าพลังชีวิตก็ไหลลงฮวบๆ อยู่ดี

หลังจากนั้นหนึ่งนาที ค่าพลังชีวิตที่ลดลงของเยี่ยเว่ยหมิงก็กลับมาเต็มแล้วเพราะกินยา มือซ้ายก็เลิกติดสถานะหมดแรงเหมือนก่อนหน้านี้แล้วด้วย

เพียงแต่อาเอ้อร์ที่อยู่อีกด้าน ตอนนี้ก็บีบไอเย็นของพลังฝ่ามือก่อนหน้านี้ออกจากร่างกายหมดแล้ว กลับมาใช้กระบวนท่าได้อย่างคล่องแคล่วอีกครั้ง

เมื่อเผชิญหน้ากับอาเอ้อร์ที่กลับมาว่องไวอีกครั้ง การต่อสู้ก็กลายเป็นทำให้เปลืองแรงขึ้นเยอะ มีหลายการโจมตีที่เดิมทีแทงบนตัวโดยตรงได้เลย แต่ก็ถูกเขาโบกฝ่ามือต้านไว้ได้

คนที่อยากเอาเปรียบ นอกจากจะเอาเปรียบไม่ได้เลยสักนิด กลับถูกโจมตีจนเกิดดาเมจบดขยี้ที่ตัวเลขไม่ใช่น้อยๆ ด้วย เห็นได้ชัดว่าถ้าไม่มี BUFFลดความเร็วของเยี่ยเว่ยหมิงช่วยเสริม ทุกคนก็จะต้องเผชิญหน้ากับศึกหนักแน่นอน!

เมื่อเห็นอาเอ้อร์กลับมาโหดอีกครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่ยอมให้เขาทำตัวกำเริบเสิบสานขนาดนี้ เขาพลันก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง แต่ฟาด ‘มังกรซ่อนกบดาน’ ไปบนตัวอีกฝ่าย

วิธีการที่ใช้ซ้ำแบบนี้ ถ้าใช้กับฟ่านเหยาหรือไม่ก็เฉิงคุนจะต้องถูกอีกฝ่ายฉวยโอกาสโจมตีกลับอย่างโหดเหี้ยมแน่นอน แต่คาแรคเตอร์ของอาเอ้อร์คือคู่ต่อสู้ประเภทใช้พลัง มีกำลังภายในแข็งแกร่งแต่กระบวนท่าธรรมดา ในบรรดาวิทยายุทธ์ของเขา ไม่เจอวิธีการที่ใช้เทคนิคเอาชนะแรงเลยใดๆ เลย

สำหรับการโจมตีที่ตรงไปตรงมาแบบนี้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือใช้แรงปะทะแรง ใช้ความแข็งแกร่งปะทะความแข็งแกร่ง!

จากนั้น เขาก็โชคร้ายแล้ว!

พรึ่บ!

“อา!…”

หมดแรง!

แช่แข็งลดความเร็ว!

ราวกับฉากที่ทั้งสองปะทะกันฝ่ามือแรกฉายซ้ำอีกครั้ง ดูเหมือนไม่มีใครได้เปรียบจากการต่อสู้ แต่ฝั่งเยี่ยเว่ยหมิงกลับได้เปรียบเยอะมาก

เพราะเขามีเพื่อนร่วมทีม!

เมื่อเห็น BOSS ถูกเยี่ยเว่ยหมิงลดความเร็วอีกครั้ง เพื่อนร่วมทีมที่เริ่มกินยาฟื้นฟูพลังก็ตาเป็นประกายทันที ต่างคนต่างชักอาวุธออกมาอีกครั้ง แล้วเข้าไปทักทายจุดสำคัญบนตัวอาเอ้อร์

เพียงชั่วพริบตาเดียว บอสเลเวลหกสิบห้าถูกโจมตีจนเสียพลังชีวิตไปหนึ่งในสามส่วนแล้ว!

พอรู้สึกได้ว่าชีวิตของตัวเองมีภัยคุกคาม จู่ๆ อาเอ้อร์เงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า มีกำลังภายในช่วยดันเสียงให้ดังไปไกลไม่รู้ตั้งเท่าไร

“แย่แล้ว!” คนที่รู้ตัวเร็วสุดก็คือน้องดาบ นางได้ยินแล้วเตือนทุกคนทันที “เขากำลังเรียกยอดฝีมือคนอื่นที่อยู่ในหุบเขา!”

พอได้ยินแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับเอ่ยทันทีว่า “ข้าแนะนำให้เปลี่ยนกลยุทธ์และวิธีการแบ่งของรางวัล ตั้งแต่นี้ไป ยกเลิกกติกา ‘คนที่โจมตีเป็นคนสุดท้ายจะได้เลือกรางวัลเป็นคนแรก’ ของรางวัลทุกอย่างจะแบ่งเท่าๆ กันหลังจากการต่อสู้จบลง เหล่าหนิวได้ไปครึ่งหนึ่ง…

…นอกจากนี้ สะพานสวรรค์น้อยออกจากการต่อสู้เดี๋ยวนี้ ไปหาที่ลับซ่อนตัว คอยจับตาดูทิศทางการเคลื่อนไหวของยอดฝีมือทัพหยวน!”

[1] น้องรอง หรือเหล่าเอ้อร์ 老二 หมายถึงอวัยวะเพศชาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 252 อาเอ้อร์ที่พื้นฐานวิชาแน่น!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 252 อาเอ้อร์ที่พื้นฐานวิชาแน่น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 252 อาเอ้อร์ที่พื้นฐานวิชาแน่น!

เหมือนคำกล่าวที่ว่า ‘อยู่ใกล้หมูย่อมอ้วน อยู่ใกล้กลางคืนย่อมมืด’

หลังจากตระหนักได้ว่ามูลค่าของหลวงจีนน้ำเต้าโลหิตมีมากกว่าที่จะเอามาเพื่อขู่เท่านั้น ไม่ต้องให้เยี่ยเว่ยหมิงกำชับ น้องดาบที่อยู่อีกฝั่งนำเส้นเอ็นวัวมามัดหลวงจีนน้ำเต้าโลหิตไว้อย่างแน่นหนา แล้วแขวนไว้บนต้นไม้ใกล้ๆ แล้ว ทำให้เขาอาศัยแรงจากตรงไหนไม่ได้

น้องสาวคนนี้ฝีมือไม่เลว ใช้วิธีการมัดแบบขาหมู ยิ่งดิ้นก็ยิ่งแน่น

อีกด้านหนึ่ง สะพานสวรรค์น้อยถอยจากหุบเขามารวมกับทุกคนแล้ว

หลังจากผ่านไปสิบวินาที อาเอ้อร์ก็ปรากฏตัว ครั้งนี้ทุกคนได้เห็นหน้าเจ้าหมอนี่ชัดเจน รูปร่างเตี้ยตัวผอมกะหร่อง กลางศีรษะล้านเป็นมันวาว ผมบนศีรษะเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง ขมับสองข้างบุ๋มลงไปประมาณครึ่งชุ่น (1ชุ่น = 3.33 เซนติเมตร)

อาเอ้อร์ที่ปรากฏตัวแล้วกวาดสายตามองทุกคนปราดหนึ่งก่อน จากนั้นก็หยุดมองที่เยี่ยเว่ยหมิงแล้วถามด้วยเสียงอึมครึม “มือปราบจากที่ราบภาคกลางคนหนึ่ง แต่กลับมาขัดขวางการทำงานของจวนท่านอ๋องหรู่หยางถึงในอาณาเขตต้าหยวน ช่างบังอาจนัก!”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วเลิกคิ้ว “ข้าอยากจะทำอะไรก็จะทำอย่างนั้น อยากจะทำลายเรื่องดีๆ ของใครก็จะทำลาย เจ้าอาวุโสขนาดไหนเชียว”

“เป็นน้องรอง!” อาเอ้อร์ตอบเสียงเย็น

เยี่ยเว่ยหมิงเบะปากอย่างเหยียดหยาม “เป็นน้องรอง[1]ที่งอกอยู่บนตัวพวกเราน่ะหรือ”

“เจ้าคนไร้มารยาท รนหาที่ตาย!” ขณะที่พูด ร่างของอาเอ้อร์ก็พลันพุ่งมาข้างหน้า จดฝ่ามือไปที่หัวใจของเยี่ยเว่ยหมิง แต่ฝ่ามือยังไม่ทันมาถึง ลมที่เกิดจากฝ่ามือก็พัดจนเสื้อผ้าของเยี่ยเว่ยหมิงปลิวสะบัดแล้ว

กำลังภายในทรงพลังมาก!

เยี่ยเว่ยหมิงที่ความสามารถเพิ่งเพิ่มขึ้นตั้งใจจะทดลองว่าหลังจากตัวเอง ‘หยินหยางสมดุล’ แล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป จึงก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ยื่นฝ่ามือซ้ายออกมารับเช่นกัน ฝ่ามือที่ดูเหมือนธรรมดาชนกับฝ่ามือของอาเอ้อร์แล้ว

พรึ่บ!

-3564!

เมื่อได้รับฝ่ามือของอีกฝ่ายซึ่งๆ หน้า เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้พบว่าพลังฝ่ามือของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าฟ่านเหยาและเฉิงคุน!

แม้เขาไม่ได้กระตุ้นพลังฝ่ามือล่วงหน้าแต่จะโจมตีจนเกิดดาเมจมหาศาลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน แต่อาเอ้อร์คนนี้ไม่เพียงแค่ทำได้ ทั้งยังเป็นตัวเลขดาเมจสูงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วย!

แต่ยิ่งดาเมจของเขาสูงเท่าไร ก็แสดงว่าดาเมจสะท้อนกลับจาก ‘มังกรซ่อนกบดาน’ ของเยี่ยเว่ยหมิงก็จะสูงเท่านั้น มีโบนัสค่าสเตตัสที่ ‘สะท้อนกลับพลังโจมตีฝ่ายตรงข้าม 30%’ ยิ่งเจอศัตรูที่แข็งแกร่งก็ยิ่งสำแดงอานุภาพ

“อา!…”

เมื่อสัมผัสได้กับแรงชนโจมตี มังกรซ่อนกบดานถูกกระตุ้นในพริบตาเดียว พลังฝ่ามือรูปมังกรสีฟ้าสะท้อนกลับไปหาฝ่ายตรงข้ามแล้ว

-14621!

‘มังกรซ่อนกบดาน’ จัดเป็นกระบวนท่าที่ไม่มีค่าสเตตัส เมื่อใช้ร่วมกับแหวนหยกเย็นไม่มีโบนัสดาเมจ และจะไม่ถูกทำให้อ่อนกำลังลงด้วยเช่นกัน

ทว่าว่าภายใต้ฝ่ามือนี้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับถูกอีกฝ่ายโจมตีจนติดสถานะหมดแรง ทั้งแขนข้างซ้ายชาไปพักหนึ่ง เกรงว่าต้องใช้เวลาฟื้นฟูสักพักกว่าจะกลับมาใช้งานได้คล่องแคล่วเหมือนก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านั้น พลังโจมตีและพลังป้องกันถูกลดลงจากเดิม 40%!

เพียงแต่อาเอ้อร์ก็ทรมานเช่นกัน เขาถูกธาตุแหวนหยกเย็นของเยี่ยเหวยหมิงเต็มๆ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ ที่เปลี่ยนเป็นธาตุน้ำแข็ง เลือดลมทั้งตัวหยุดชะงักไปชั่วขณะ อยู่ในสภาพเฉื่อยชาเพราะถูกแช่แข็ง ไม่ว่าจะเป็นความเร็วของท่าร่างหรือตอนลงมือ ก็ล้วนลดลงจากเดิม 60%

ประสิทธิภาพก็ไม่เลว แต่เอ็ฟเฟ็กต์พิเศษ ‘หยินหยางสมดุล’ เหมือนไม่ได้แสดงออกมาในด้านการโจมตี

อย่างน้อยหลังจากใช้ฝ่ามือเมื่อครู่นี้แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่รู้สึกว่าพลังฝ่ามือของเขามีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย

ตอนนี้เอง ฝ่ามือที่ปะทะกันซึ่งๆ หน้าก็ทำให้อาเอ้อร์เผยค่าสเตตัสบอสของของตัวเองออกมาแล้วเช่นกัน

[อาเอ้อร์]

ยอดฝีมือจากสำนักจินกังแดนซีอวี้ หนึ่งในหกยอดฝีมือจวนท่านอ๋องหรู่หยาง

เลเวล: 65

ค่าพลังชีวิต: 275379/290000

กำลังภายใน: 279600/280000

……

เมื่อเห็นค่าสเตตัสของอาเอ้อร์ สะพานสวรรค์น้อยอยู่ข้างๆ ก็อุทานด้วยความตกใจ “ไม่น่าเชื่อว่ากำลังภายในของอาเอ้อร์จะโหดกว่าฟ่านเหยา!”

สำหรับการประเมินของสะพานสวรรค์น้อย เยี่ยเว่ยหมิงคิดว่าถูก แต่ก็เหมือนไม่ถูก

ดูจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นตอนนี้ กำลังภายในของอาเอ้อร์เหนือกว่าของฟ่านเหยาหนึ่งระดับจริงๆ

แต่เป็นเพราะอยู่ในโหมดภารกิจ ศักยภาพของทั้งสองล้วนถูกจำกัดไว้ที่เลเวลหกสิบห้าเท่านั้น ความสามารถโดยรวมของฟ่านเหยา กระบวนท่ายอดเยี่ยม ชำนาญวิทยายุทธ์มากมายของหลายสำนัก ระบบต้องรักษาลักษณะพิเศษที่บรรยายข้างต้นเอาไว้ภายใต้โหมดที่เลเวลเท่ากัน ย่อมทำให้กำลังภายในของอีกฝ่ายอ่อนแอลงเยอะ มันก็ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเลเวลหกสิบห้า

อาเอ้อร์กลับตรงกันข้าม ข้อได้เปรียบใหญ่สุดของเขาอยู่ที่กำลังภายใน เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีเลเวลเดียวกัน กำลังภายในที่แสดงให้เห็นย่อมเหนือกว่าของฟ่านเหยาอยู่แล้ว

ถ้าอยู่ในโหมดปกติที่ไม่มีการจำกัดศักยภาพ ที่จริงฟ่านเหยาก็บดขยี้อาเอ้อร์ได้ทุกด้านเลย

ในเมื่อไม่รู้ว่าควรจะประเมินอย่างไร เยี่ยเว่ยหมิงจึงไม่วิจารณ์คำพูดของสะพานสวรรค์น้อย เพียงบอกทุกคนให้ระวังกำลังภายในของเจ้าหมอนี่ พยายามอย่าใช้กำลังปะทะกับเขา เอาชนะโดยอาศัยกระบวนท่าก็พอ

ขณะเดียวกันนี้เอง หลังจากกลืนยาฟื้นพลังชีวิตแล้ว เขาก็สะบัดกระบี่แสงทองในมือ แล้วเข้าร่วมวงล้อมโจมตีบอสด้วยกัน

อาเอ้อร์หลังจากถูกลดความเร็ว ศักยภาพก็ย่อมถูกหักไปเยอะด้วยเช่นกัน ความสามารถของเขาแสดงออกชัดเจนมากเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกลุ่มคนล้อมโจมตี ภายในเวลาหนึ่งนาทีก็โจมตีเขาได้แล้ว ถูกกลุ่มผู้เล่นโจมตีอย่างแรงไม่ต่ำกว่าเจ็ดแปดครั้ง แม้จะมีปราณแท้ป้องกันตัวประคับประคองไว้ ค่าพลังชีวิตก็ไหลลงฮวบๆ อยู่ดี

หลังจากนั้นหนึ่งนาที ค่าพลังชีวิตที่ลดลงของเยี่ยเว่ยหมิงก็กลับมาเต็มแล้วเพราะกินยา มือซ้ายก็เลิกติดสถานะหมดแรงเหมือนก่อนหน้านี้แล้วด้วย

เพียงแต่อาเอ้อร์ที่อยู่อีกด้าน ตอนนี้ก็บีบไอเย็นของพลังฝ่ามือก่อนหน้านี้ออกจากร่างกายหมดแล้ว กลับมาใช้กระบวนท่าได้อย่างคล่องแคล่วอีกครั้ง

เมื่อเผชิญหน้ากับอาเอ้อร์ที่กลับมาว่องไวอีกครั้ง การต่อสู้ก็กลายเป็นทำให้เปลืองแรงขึ้นเยอะ มีหลายการโจมตีที่เดิมทีแทงบนตัวโดยตรงได้เลย แต่ก็ถูกเขาโบกฝ่ามือต้านไว้ได้

คนที่อยากเอาเปรียบ นอกจากจะเอาเปรียบไม่ได้เลยสักนิด กลับถูกโจมตีจนเกิดดาเมจบดขยี้ที่ตัวเลขไม่ใช่น้อยๆ ด้วย เห็นได้ชัดว่าถ้าไม่มี BUFFลดความเร็วของเยี่ยเว่ยหมิงช่วยเสริม ทุกคนก็จะต้องเผชิญหน้ากับศึกหนักแน่นอน!

เมื่อเห็นอาเอ้อร์กลับมาโหดอีกครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่ยอมให้เขาทำตัวกำเริบเสิบสานขนาดนี้ เขาพลันก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง แต่ฟาด ‘มังกรซ่อนกบดาน’ ไปบนตัวอีกฝ่าย

วิธีการที่ใช้ซ้ำแบบนี้ ถ้าใช้กับฟ่านเหยาหรือไม่ก็เฉิงคุนจะต้องถูกอีกฝ่ายฉวยโอกาสโจมตีกลับอย่างโหดเหี้ยมแน่นอน แต่คาแรคเตอร์ของอาเอ้อร์คือคู่ต่อสู้ประเภทใช้พลัง มีกำลังภายในแข็งแกร่งแต่กระบวนท่าธรรมดา ในบรรดาวิทยายุทธ์ของเขา ไม่เจอวิธีการที่ใช้เทคนิคเอาชนะแรงเลยใดๆ เลย

สำหรับการโจมตีที่ตรงไปตรงมาแบบนี้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือใช้แรงปะทะแรง ใช้ความแข็งแกร่งปะทะความแข็งแกร่ง!

จากนั้น เขาก็โชคร้ายแล้ว!

พรึ่บ!

“อา!…”

หมดแรง!

แช่แข็งลดความเร็ว!

ราวกับฉากที่ทั้งสองปะทะกันฝ่ามือแรกฉายซ้ำอีกครั้ง ดูเหมือนไม่มีใครได้เปรียบจากการต่อสู้ แต่ฝั่งเยี่ยเว่ยหมิงกลับได้เปรียบเยอะมาก

เพราะเขามีเพื่อนร่วมทีม!

เมื่อเห็น BOSS ถูกเยี่ยเว่ยหมิงลดความเร็วอีกครั้ง เพื่อนร่วมทีมที่เริ่มกินยาฟื้นฟูพลังก็ตาเป็นประกายทันที ต่างคนต่างชักอาวุธออกมาอีกครั้ง แล้วเข้าไปทักทายจุดสำคัญบนตัวอาเอ้อร์

เพียงชั่วพริบตาเดียว บอสเลเวลหกสิบห้าถูกโจมตีจนเสียพลังชีวิตไปหนึ่งในสามส่วนแล้ว!

พอรู้สึกได้ว่าชีวิตของตัวเองมีภัยคุกคาม จู่ๆ อาเอ้อร์เงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า มีกำลังภายในช่วยดันเสียงให้ดังไปไกลไม่รู้ตั้งเท่าไร

“แย่แล้ว!” คนที่รู้ตัวเร็วสุดก็คือน้องดาบ นางได้ยินแล้วเตือนทุกคนทันที “เขากำลังเรียกยอดฝีมือคนอื่นที่อยู่ในหุบเขา!”

พอได้ยินแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับเอ่ยทันทีว่า “ข้าแนะนำให้เปลี่ยนกลยุทธ์และวิธีการแบ่งของรางวัล ตั้งแต่นี้ไป ยกเลิกกติกา ‘คนที่โจมตีเป็นคนสุดท้ายจะได้เลือกรางวัลเป็นคนแรก’ ของรางวัลทุกอย่างจะแบ่งเท่าๆ กันหลังจากการต่อสู้จบลง เหล่าหนิวได้ไปครึ่งหนึ่ง…

…นอกจากนี้ สะพานสวรรค์น้อยออกจากการต่อสู้เดี๋ยวนี้ ไปหาที่ลับซ่อนตัว คอยจับตาดูทิศทางการเคลื่อนไหวของยอดฝีมือทัพหยวน!”

[1] น้องรอง หรือเหล่าเอ้อร์ 老二 หมายถึงอวัยวะเพศชาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+