ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 242 ที่แท้ก็ใช้งานแบบนี้ได้ด้วย

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 242 ที่แท้ก็ใช้งานแบบนี้ได้ด้วย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 242 ที่แท้ก็ใช้งานแบบนี้ได้ด้วย!

เมื่อหนิวจื้อชุนกล่าวเช่นนี้ ก็ราวกับมีน้ำเย็นสาดลงมาใส่ศีรษะของพวกเขา ทำให้จิตวิญญาณการต่อสู้ที่เพิ่งลุกโชนในตัวพวกเขาดับลงทันที

ถูกสาดจนหนาวและสิ้นหวัง!

ขอเพียงล้อมโจมตีหยวนเจิน ก็จะถูกหักค่าวีรบุรุษทันที!

มารดาเจ้าเถอะ!

แล้วยังจะสู้กันได้อย่างไร

ตอนที่ทุกคนกำลังเริ่มด่าแม่ในใจ ในที่สุดหยวนเจินที่หลบหลีกมาตลอดก็เริ่มโต้ตอบแล้ว!

เมื่อเห็นน้องดาบเร่งโจมตีมาถึงตัวอีกครั้ง ในที่สุดหยวนเจินก็ไม่หลบอย่างเดียวอีกแล้ว ตอนหลบคมดาบของนางที่ฟันมาตรงหน้า เขาก็พลันยื่นกรงเล็บไปคว้าข้อมือที่จับอาวุธของน้องดาบไว้

น้องดาบตกใจรีบเปลี่ยนท่า แต่สองมือของหยวนเจินรวดเร็วราวกับเงาตามตัว ดักเส้นทางที่ข้อมือของนางจะต้องโจมตีผ่าน

ชั่วขณะนั้น น้องดาบแม้มีทักษะที่เข้มแข็ง แต่ก็ถูกวิชามือคว้าจับอันเลิศล้ำของหยวนเจินบีบให้จนตรอกอยู่ดี กระบวนท่าดาบที่รวดเร็วดุดัน ทุกครั้งที่เพิ่งชูมือขึ้นมาล้วนถูกอีกฝ่ายดักไว้ล่วงหน้าหนึ่งก้าวเสมอ

หลังจากผ่านไปสามกระบวนท่า น้องดาบก็ถูกหยวนเจินบีบจนกระบวนท่าเสียจังหวะ ถึงขนาดว่าต้องใช้วิธีเจ็บตัวทั้งคู่เพื่อสู้กับหยวนเจินครั้งหนึ่งด้วย

ตอนที่หัวไหล่ข้างขวาของน้องดาบถูกเฉิงคุนโจมตีหนึ่งหมัด กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิมของนางก็ขยุ้มบนแขนของหยวนเจิน ทิ้งรอยเลือดไว้ห้ารอยเช่นกัน

ผู้เล่นและบอสเลเวลเกินสามสิบแลกดาเมจกัน มีหลักการไหนที่บอกว่าฝ่ายผู้เล่นจะได้เปรียบอย่างนั้นหรือ

มีสิ!

เยี่ยเว่ยหมิงที่ใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ทำได้!

แต่น้องดาบไม่ใช่เยี่ยเว่ยหมิง นางใช้ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ไม่ได้ และไม่มีค่าสเตตัสก้าวร้าวเหมือนเยี่ยเว่ยหมิงด้วย

-1456

-5763

ตัวเลขดาเมจสีแดงสองกลุ่มลอยขึ้นเหนือศีรษะของหยวนเจินกับน้องดาบ หยวนเจินถูกสะกิดค่าพลังชีวิตไปนิดหน่อย แต่น้องดาบกลับถูกหมัดที่ใส่พลังไว้สิบส่วนของหยวนเจินเจาะปราณแท้ป้องกันตัว ทำให้เสียพลังชีวิตไปเกินครึ่ง!

ตอนนี้เอง ทุกคนถึงได้เห็นสถานะของ BOSS หยวนเจินชัดเจน!

[หยวนเจิน]

ผู้มีทักษะยุทธ์เป็นอันดับหนึ่งท่ามกลางศิษย์รุ่นหยวนของวัดเส้าหลิน เหมือนยังมีตัวตนลับที่ยังไม่มีใครรู้จัก

เลเวล: 70

พลังชีวิต: 548444/550000

กำลังภายใน: 379650/380000

……

เลเวลเจ็ดสิบ!

เลเวลของหยวนเจินไม่ใช่แค่หกสิบห้า แต่เป็นบอสใหญ่เลเวลเจ็ดสิบเต็มๆ!

ทุกคนต่างก็รู้ ว่าเลเวลของบอสที่เพิ่มขึ้นทุกๆ สิบเลเวล พลังก็จะแตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัด ความต่างระหว่างเลเวลหกสิบเก้ากับเลเวลเจ็ดสิบ ถึงขั้นมากกว่าความต่างระหว่างเลเวลหกสิบกับหกสิบเก้าด้วยซ้ำ!

ก็เหมือนกับบอสและผู้เล่นหลายคนในเกมออนไลน์สมัยเก่า ที่เมื่อเลเวลเพิ่มทุกสิบเลเวลจะได้เปลี่ยนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง ทำให้ความสามารถโดยรวมข้ามไปสู่บันไดขั้นใหม่

เมื่อบอสเลเวลเจ็ดสิบสุดสะพรึงปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าผู้เล่นทุกคน หยวนเจินก็เปิดเผยด้านที่มุทะลุดุดันของบอสระดับสูงออกมาหมดเปลือก หลังจากโจมตีหนึ่งครั้งแล้วกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ ก็ไม่ให้เวลาผู้เล่นคนอื่นรู้ตัวแม้แต่น้อย ร่างของเขาพุ่งไปหาน้องดาบอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าแลบแล้ว!

เมื่อเห็นบอสใหญ่ที่ดุดันน่ากลัวพุ่งมาตรงหน้าตัวเอง ตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากหนิวจื้อชุนที่ออกทวนต่อสู้ ไม่น่าเชื่อว่าคนอื่นๆ จะนิ่งดูดายกันหมด ตอนที่น้องดาบกำลังกลุ้มใจ นางก็กลั่นอารมณ์และคำพูดหยาบคายออกมาแล้ว “เยี่ยเว่ยหมิง! เจ้า…”

แกร๊ง!

ทว่า ยังไม่ทันรอให้น้องดาบพ่นคำหยาบที่เหลือออกมา เสียงของนางก็ถูกกลบด้วยเสียงแหลมของโลหะที่เสียดปะทะลมแล้ว ขณะเดียวกัน ลำแสงสีเงินสายหนึ่งก็แฉลบผ่านไปใต้รักแร้นางไป ยิงตรงไปยังหว่างคิ้วของเฉิงคุนที่ไล่โจมตีมาที่นางแล้ว

เฉิงคุนเห็นสถานการณ์ดังนั้นก็ตกใจ รีบแหงนคอหลบ

หลังจากลำแสงสายนั้นพลาดเป้าหมาย ก็เป็นอย่างที่คาดไว้ มันยิงไปบนกำแพงวัดร้างจนเกิดรูเล็กขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ทำให้แสงสว่างที่อยู่นอกวัดส่องทะลุเข้ามาในวัด ส่องสว่างรอบฝุ่นที่ตลบขึ้นมาเพราะการต่อสู้ก่อนหน้านี้แล้ว

แม้เฉิงคุนจะหลบ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ของเยี่ยเว่ยหมิงได้ แต่กลับส่งผลกระทบต่อความเร็วในการไล่โจมตีน้องดาบแล้วนิดหน่อย

ฉวยโอกาสนี้ ร่างของเยี่ยเว่ยหมิงเฉียดผ่านตัวน้องดาบไปแล้วเช่นกัน กระบี่อาญาสิทธิ์ในมือส่งเสียงไพเราะตอนที่แทงไปทางหัวใจของหยวนเจิน

สำหรับเคล็ดกระบี่ของเยี่ยเว่ยหมิง หยวนเจินกลับไม่ได้มองว่าสำคัญเท่า ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ก่อนหน้านี้ ถึงขั้นไม่เห็นอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ จากนั้นก็เห็นเขาใช้วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ ปล่อยพลังออกมาถูกบนสันกระบี่กระบี่อาญาสิทธิ์พอดี

แกร๊ง!

“จากนั้นก็มีเสียงเบาๆ ตามมา เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าคลื่นพลังมหาศาลพรั่งพรูออกมาจากตัวกระบี่

เขาจึงรีบสะบัดกระบี่แล้วถอยหลังสามก้าว ต้านพลังในอำนาจหวาดกลัวของหยวนเจินได้อย่างสง่างาม

รับวิชาดรรชนีของบอสเลเวลเจ็ดสิบซึ่งๆ หน้า แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับยังคงสถานะพลังชีวิตเต็มไว้ได้ ถึงขั้นไม่ถูกโจมตีจนเกิดดาเมจมหาศาลเลยด้วย

นี่ก็คือผลจากเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ระดับสมบูรณ์เทียม!

การโจมตีถูกสกัด แต่หยวนเจินกลับไม่ยอมหยุดง่ายๆ วิชาดรรชนีที่ใช้ก่อนหน้านี้เป็นเพียงการโจมตีธรรมดาเท่านั้น การที่เยี่ยเว่ยหมิงรับไหวแม้จะเหนือความคาดหมายของเขา แต่ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาอยู่ดี

หลังจากโจมตีไปหนึ่งครั้ง หยวนเจินพลันก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ไม่สนใจคู่ต่อสู้ที่รับมือยากอย่างเยี่ยเว่ยหมิง แต่ใช้หมัดที่โคจรพลังใส่สิบส่วนโจมตีไปทางน้องดาบอย่างแรง

สภาพของน้องดาบตอนนี้ไม่สู้ดีนัก เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่ให้นางเผชิญหน้ากับการโจมตีสุดโหดของหยวนเจินเพียงลำพัง เขาพลันก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แต่กลับถึงก่อนที่การโจมตีของหยวนเจินจะมาถึง ไปแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างหยวนเจินกับน้องดาบ

แล้วใช้ฝ่ามือธรรมดาๆ โจมตีออกมาหนึ่งที ต้านหมัดที่โคจรพลังสิบส่วนของหยวนเจินไว้!

บึ้ม!

“อา!…”

ตั้งแต่เรียนกระบวนท่า ‘มังกรซ่อนกบดาน’ มา นี่เป็นครั้งแรกที่เยี่ยเว่ยหมิงใช้มันอย่างสง่าผ่าเผยตอนต่อสู้กับคนอื่น

ภายใต้การโจมตีนี้ กลับทำให้การต่อสู้สูสีกัน

หลังจากทั้งสองต่างคนต่างสะเทือนจนถอยหลังไปห้าก้าว ก็กลับมายืนคุมเชิงกันอีก

ตอนนี้เพื่อนทุกคนในทีมมองเยี่ยเว่ยหมิงด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้แล้ว

ปะทะกับวิชาดรรชีและวิชาหมัดของบอสเลเวลเจ็ดสิบ ไม่น่าเชื่อว่าเยี่ยเว่ยหมิงยังคงไม่บาดเจ็บเลยสักนิด

นี่ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า

เยี่ยเว่ยหมิงไม่สนใจเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปก่อนหน้านี้จะนำความสั่นสะเทือนมาสู่เพื่อนในทีมอย่างไร ตอนนี้เขากำลังเผยสีหน้าครุ่นคิด

การโจมตีที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่นี้ ทำให้เขามีความรู้ใหม่เกี่ยวกับเคล็ดวิชาผ่ามือ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ แล้ว

ที่แท้หลังจากกระบวนท่านี้ถึงเลเวลสิบซึ่งเป็นระดับสมบูรณ์แล้ว มันก็จะเลือกเวลาใช้งานได้ตามอำเภอใจ ถึงขั้นถ้าจะใช้อากาศมาเป็นเป็นสื่อนำในการกระตุ้นเคล็ดวิชาฝ่ามือล่วงหน้าก่อนถล่มพลังฝ่ามือออกไป ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้

ในทางกลับกัน ถ้าศึกษาทักษะนี้ให้ละเอียด ก็จะมีช่องว่างให้ใช้งานกว้างมาก!

ยกตัวอย่างเช่นฝ่ามือที่เพิ่งใช้ไปเมื่อครู่

ถ้าเมื่อครู่นี้เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ใส่กำลังภายในแฝงไว้ในฝ่ามือล่วงหน้า แต่รอให้ถูกหมัดของอีกฝ่ายก่อนค่อยโจมตีกลับ แม้จะเพิ่มประสิทธิภาพของฝ่ามือนี้ได้หนึ่งระดับ แต่ก็จะต้องมีการแลกดาเมจเกิดขึ้นแน่นอน

และถ้าไม่ได้อยู่ในสถานะใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่กล้าเล่นอย่างนั้นอยู่ดี!

ดังนั้นพอเขาลองใช้งานประสิทธิภาพของฝ่ามือนี้ล่วงหน้า ก็โจมตีจนหักล้างดาเมจได้อย่างที่คาดไว้ แม้จะไม่ได้สร้างดาเมจต่อศัตรูแม้แต่น้อย แต่ตัวเองก็ไม่เป็นอะไรเหมือนกัน!

ขณะมองหยวนเจินที่เผยความดุร้ายหมดเปลือก เยี่ยเว่ยหมิงก็กล่าวเสียงเย็น “ไม่น่าเชื่อว่าไต้ซือหยวนเจินจะผิดคำพูด ทำร้ายสหายของข้าเช่นนี้ ตอนนี่้ข้าเยี่ยเว่ยหมิงสู้กับเจ้า ก็ไม่ถือว่าทรยศคำสัญญาแล้ว…

…อย่างน้อยจนกระทั่งตอนนี้ ค่าวีรบุรุษของข้าก็ยังไม่ถูกหักแม้แต่น้อย เจ้าว่าน่าโมโหไหมล่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 242 ที่แท้ก็ใช้งานแบบนี้ได้ด้วย

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 242 ที่แท้ก็ใช้งานแบบนี้ได้ด้วย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 242 ที่แท้ก็ใช้งานแบบนี้ได้ด้วย!

เมื่อหนิวจื้อชุนกล่าวเช่นนี้ ก็ราวกับมีน้ำเย็นสาดลงมาใส่ศีรษะของพวกเขา ทำให้จิตวิญญาณการต่อสู้ที่เพิ่งลุกโชนในตัวพวกเขาดับลงทันที

ถูกสาดจนหนาวและสิ้นหวัง!

ขอเพียงล้อมโจมตีหยวนเจิน ก็จะถูกหักค่าวีรบุรุษทันที!

มารดาเจ้าเถอะ!

แล้วยังจะสู้กันได้อย่างไร

ตอนที่ทุกคนกำลังเริ่มด่าแม่ในใจ ในที่สุดหยวนเจินที่หลบหลีกมาตลอดก็เริ่มโต้ตอบแล้ว!

เมื่อเห็นน้องดาบเร่งโจมตีมาถึงตัวอีกครั้ง ในที่สุดหยวนเจินก็ไม่หลบอย่างเดียวอีกแล้ว ตอนหลบคมดาบของนางที่ฟันมาตรงหน้า เขาก็พลันยื่นกรงเล็บไปคว้าข้อมือที่จับอาวุธของน้องดาบไว้

น้องดาบตกใจรีบเปลี่ยนท่า แต่สองมือของหยวนเจินรวดเร็วราวกับเงาตามตัว ดักเส้นทางที่ข้อมือของนางจะต้องโจมตีผ่าน

ชั่วขณะนั้น น้องดาบแม้มีทักษะที่เข้มแข็ง แต่ก็ถูกวิชามือคว้าจับอันเลิศล้ำของหยวนเจินบีบให้จนตรอกอยู่ดี กระบวนท่าดาบที่รวดเร็วดุดัน ทุกครั้งที่เพิ่งชูมือขึ้นมาล้วนถูกอีกฝ่ายดักไว้ล่วงหน้าหนึ่งก้าวเสมอ

หลังจากผ่านไปสามกระบวนท่า น้องดาบก็ถูกหยวนเจินบีบจนกระบวนท่าเสียจังหวะ ถึงขนาดว่าต้องใช้วิธีเจ็บตัวทั้งคู่เพื่อสู้กับหยวนเจินครั้งหนึ่งด้วย

ตอนที่หัวไหล่ข้างขวาของน้องดาบถูกเฉิงคุนโจมตีหนึ่งหมัด กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิมของนางก็ขยุ้มบนแขนของหยวนเจิน ทิ้งรอยเลือดไว้ห้ารอยเช่นกัน

ผู้เล่นและบอสเลเวลเกินสามสิบแลกดาเมจกัน มีหลักการไหนที่บอกว่าฝ่ายผู้เล่นจะได้เปรียบอย่างนั้นหรือ

มีสิ!

เยี่ยเว่ยหมิงที่ใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ทำได้!

แต่น้องดาบไม่ใช่เยี่ยเว่ยหมิง นางใช้ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ไม่ได้ และไม่มีค่าสเตตัสก้าวร้าวเหมือนเยี่ยเว่ยหมิงด้วย

-1456

-5763

ตัวเลขดาเมจสีแดงสองกลุ่มลอยขึ้นเหนือศีรษะของหยวนเจินกับน้องดาบ หยวนเจินถูกสะกิดค่าพลังชีวิตไปนิดหน่อย แต่น้องดาบกลับถูกหมัดที่ใส่พลังไว้สิบส่วนของหยวนเจินเจาะปราณแท้ป้องกันตัว ทำให้เสียพลังชีวิตไปเกินครึ่ง!

ตอนนี้เอง ทุกคนถึงได้เห็นสถานะของ BOSS หยวนเจินชัดเจน!

[หยวนเจิน]

ผู้มีทักษะยุทธ์เป็นอันดับหนึ่งท่ามกลางศิษย์รุ่นหยวนของวัดเส้าหลิน เหมือนยังมีตัวตนลับที่ยังไม่มีใครรู้จัก

เลเวล: 70

พลังชีวิต: 548444/550000

กำลังภายใน: 379650/380000

……

เลเวลเจ็ดสิบ!

เลเวลของหยวนเจินไม่ใช่แค่หกสิบห้า แต่เป็นบอสใหญ่เลเวลเจ็ดสิบเต็มๆ!

ทุกคนต่างก็รู้ ว่าเลเวลของบอสที่เพิ่มขึ้นทุกๆ สิบเลเวล พลังก็จะแตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัด ความต่างระหว่างเลเวลหกสิบเก้ากับเลเวลเจ็ดสิบ ถึงขั้นมากกว่าความต่างระหว่างเลเวลหกสิบกับหกสิบเก้าด้วยซ้ำ!

ก็เหมือนกับบอสและผู้เล่นหลายคนในเกมออนไลน์สมัยเก่า ที่เมื่อเลเวลเพิ่มทุกสิบเลเวลจะได้เปลี่ยนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง ทำให้ความสามารถโดยรวมข้ามไปสู่บันไดขั้นใหม่

เมื่อบอสเลเวลเจ็ดสิบสุดสะพรึงปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าผู้เล่นทุกคน หยวนเจินก็เปิดเผยด้านที่มุทะลุดุดันของบอสระดับสูงออกมาหมดเปลือก หลังจากโจมตีหนึ่งครั้งแล้วกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ ก็ไม่ให้เวลาผู้เล่นคนอื่นรู้ตัวแม้แต่น้อย ร่างของเขาพุ่งไปหาน้องดาบอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าแลบแล้ว!

เมื่อเห็นบอสใหญ่ที่ดุดันน่ากลัวพุ่งมาตรงหน้าตัวเอง ตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากหนิวจื้อชุนที่ออกทวนต่อสู้ ไม่น่าเชื่อว่าคนอื่นๆ จะนิ่งดูดายกันหมด ตอนที่น้องดาบกำลังกลุ้มใจ นางก็กลั่นอารมณ์และคำพูดหยาบคายออกมาแล้ว “เยี่ยเว่ยหมิง! เจ้า…”

แกร๊ง!

ทว่า ยังไม่ทันรอให้น้องดาบพ่นคำหยาบที่เหลือออกมา เสียงของนางก็ถูกกลบด้วยเสียงแหลมของโลหะที่เสียดปะทะลมแล้ว ขณะเดียวกัน ลำแสงสีเงินสายหนึ่งก็แฉลบผ่านไปใต้รักแร้นางไป ยิงตรงไปยังหว่างคิ้วของเฉิงคุนที่ไล่โจมตีมาที่นางแล้ว

เฉิงคุนเห็นสถานการณ์ดังนั้นก็ตกใจ รีบแหงนคอหลบ

หลังจากลำแสงสายนั้นพลาดเป้าหมาย ก็เป็นอย่างที่คาดไว้ มันยิงไปบนกำแพงวัดร้างจนเกิดรูเล็กขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ทำให้แสงสว่างที่อยู่นอกวัดส่องทะลุเข้ามาในวัด ส่องสว่างรอบฝุ่นที่ตลบขึ้นมาเพราะการต่อสู้ก่อนหน้านี้แล้ว

แม้เฉิงคุนจะหลบ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ของเยี่ยเว่ยหมิงได้ แต่กลับส่งผลกระทบต่อความเร็วในการไล่โจมตีน้องดาบแล้วนิดหน่อย

ฉวยโอกาสนี้ ร่างของเยี่ยเว่ยหมิงเฉียดผ่านตัวน้องดาบไปแล้วเช่นกัน กระบี่อาญาสิทธิ์ในมือส่งเสียงไพเราะตอนที่แทงไปทางหัวใจของหยวนเจิน

สำหรับเคล็ดกระบี่ของเยี่ยเว่ยหมิง หยวนเจินกลับไม่ได้มองว่าสำคัญเท่า ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ก่อนหน้านี้ ถึงขั้นไม่เห็นอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ จากนั้นก็เห็นเขาใช้วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ ปล่อยพลังออกมาถูกบนสันกระบี่กระบี่อาญาสิทธิ์พอดี

แกร๊ง!

“จากนั้นก็มีเสียงเบาๆ ตามมา เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าคลื่นพลังมหาศาลพรั่งพรูออกมาจากตัวกระบี่

เขาจึงรีบสะบัดกระบี่แล้วถอยหลังสามก้าว ต้านพลังในอำนาจหวาดกลัวของหยวนเจินได้อย่างสง่างาม

รับวิชาดรรชนีของบอสเลเวลเจ็ดสิบซึ่งๆ หน้า แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับยังคงสถานะพลังชีวิตเต็มไว้ได้ ถึงขั้นไม่ถูกโจมตีจนเกิดดาเมจมหาศาลเลยด้วย

นี่ก็คือผลจากเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ระดับสมบูรณ์เทียม!

การโจมตีถูกสกัด แต่หยวนเจินกลับไม่ยอมหยุดง่ายๆ วิชาดรรชนีที่ใช้ก่อนหน้านี้เป็นเพียงการโจมตีธรรมดาเท่านั้น การที่เยี่ยเว่ยหมิงรับไหวแม้จะเหนือความคาดหมายของเขา แต่ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาอยู่ดี

หลังจากโจมตีไปหนึ่งครั้ง หยวนเจินพลันก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ไม่สนใจคู่ต่อสู้ที่รับมือยากอย่างเยี่ยเว่ยหมิง แต่ใช้หมัดที่โคจรพลังใส่สิบส่วนโจมตีไปทางน้องดาบอย่างแรง

สภาพของน้องดาบตอนนี้ไม่สู้ดีนัก เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่ให้นางเผชิญหน้ากับการโจมตีสุดโหดของหยวนเจินเพียงลำพัง เขาพลันก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แต่กลับถึงก่อนที่การโจมตีของหยวนเจินจะมาถึง ไปแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างหยวนเจินกับน้องดาบ

แล้วใช้ฝ่ามือธรรมดาๆ โจมตีออกมาหนึ่งที ต้านหมัดที่โคจรพลังสิบส่วนของหยวนเจินไว้!

บึ้ม!

“อา!…”

ตั้งแต่เรียนกระบวนท่า ‘มังกรซ่อนกบดาน’ มา นี่เป็นครั้งแรกที่เยี่ยเว่ยหมิงใช้มันอย่างสง่าผ่าเผยตอนต่อสู้กับคนอื่น

ภายใต้การโจมตีนี้ กลับทำให้การต่อสู้สูสีกัน

หลังจากทั้งสองต่างคนต่างสะเทือนจนถอยหลังไปห้าก้าว ก็กลับมายืนคุมเชิงกันอีก

ตอนนี้เพื่อนทุกคนในทีมมองเยี่ยเว่ยหมิงด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้แล้ว

ปะทะกับวิชาดรรชีและวิชาหมัดของบอสเลเวลเจ็ดสิบ ไม่น่าเชื่อว่าเยี่ยเว่ยหมิงยังคงไม่บาดเจ็บเลยสักนิด

นี่ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า

เยี่ยเว่ยหมิงไม่สนใจเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปก่อนหน้านี้จะนำความสั่นสะเทือนมาสู่เพื่อนในทีมอย่างไร ตอนนี้เขากำลังเผยสีหน้าครุ่นคิด

การโจมตีที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่นี้ ทำให้เขามีความรู้ใหม่เกี่ยวกับเคล็ดวิชาผ่ามือ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ แล้ว

ที่แท้หลังจากกระบวนท่านี้ถึงเลเวลสิบซึ่งเป็นระดับสมบูรณ์แล้ว มันก็จะเลือกเวลาใช้งานได้ตามอำเภอใจ ถึงขั้นถ้าจะใช้อากาศมาเป็นเป็นสื่อนำในการกระตุ้นเคล็ดวิชาฝ่ามือล่วงหน้าก่อนถล่มพลังฝ่ามือออกไป ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้

ในทางกลับกัน ถ้าศึกษาทักษะนี้ให้ละเอียด ก็จะมีช่องว่างให้ใช้งานกว้างมาก!

ยกตัวอย่างเช่นฝ่ามือที่เพิ่งใช้ไปเมื่อครู่

ถ้าเมื่อครู่นี้เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ใส่กำลังภายในแฝงไว้ในฝ่ามือล่วงหน้า แต่รอให้ถูกหมัดของอีกฝ่ายก่อนค่อยโจมตีกลับ แม้จะเพิ่มประสิทธิภาพของฝ่ามือนี้ได้หนึ่งระดับ แต่ก็จะต้องมีการแลกดาเมจเกิดขึ้นแน่นอน

และถ้าไม่ได้อยู่ในสถานะใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่กล้าเล่นอย่างนั้นอยู่ดี!

ดังนั้นพอเขาลองใช้งานประสิทธิภาพของฝ่ามือนี้ล่วงหน้า ก็โจมตีจนหักล้างดาเมจได้อย่างที่คาดไว้ แม้จะไม่ได้สร้างดาเมจต่อศัตรูแม้แต่น้อย แต่ตัวเองก็ไม่เป็นอะไรเหมือนกัน!

ขณะมองหยวนเจินที่เผยความดุร้ายหมดเปลือก เยี่ยเว่ยหมิงก็กล่าวเสียงเย็น “ไม่น่าเชื่อว่าไต้ซือหยวนเจินจะผิดคำพูด ทำร้ายสหายของข้าเช่นนี้ ตอนนี่้ข้าเยี่ยเว่ยหมิงสู้กับเจ้า ก็ไม่ถือว่าทรยศคำสัญญาแล้ว…

…อย่างน้อยจนกระทั่งตอนนี้ ค่าวีรบุรุษของข้าก็ยังไม่ถูกหักแม้แต่น้อย เจ้าว่าน่าโมโหไหมล่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+