ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 143 วิธีการของเยี่ยเว่ยหมิง (1)

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 143 วิธีการของเยี่ยเว่ยหมิง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 143 วิธีการของเยี่ยเว่ยหมิง (1)

หลังจากฟังเฟยอวี๋อธิบายอย่างละเอียดรอบหนึ่งแล้ว ทุกคนถึงได้รู้ว่า ที่แท้ทักษะสืบเสาะหมื่นลี้ของเขาก็ยังมีแบ่งเป็นสถานะธรรมดาและสถานะเต็มประสิทธิภาพ

เรื่องที่จัดการไม่ได้เมื่ออยู่ในสถานะธรรมดา แต่เมื่ออยู่ในสถานะเต็มประสิทธิภาพกลับจัดการได้

ก็เหมือนเวทบรรจุศพของเยี่ยเว่ยหมิงที่จะใช้เสื่อม้วนก็ได้ หรือจะใช้การบรรจุศพขั้นสูงมายกระดับการทำงานก็ได้

สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ หากจะใช้ทักษะสืบเสาะหมื่นลี้ของเฟยอวี๋เพิ่มการทำงานให้เต็มประสิทธิภาพ สิ่งที่จำเป็นต้องทำไม่ใช่การเติมเงิน แต่ต้องเติมผลงาน หรือที่สำนักอื่นเรียกกันว่าค่าผลงานสำนักนั่นเอง

เสียค่าผลงานสำนักสิบแต้มต่อการใช้ทักษะนี้หนึ่งครั้ง ราคาที่ต้องจ่ายนี้จะเรียกว่าไม่เยอะก็ไม่ได้

อย่างไรเสีย ค่าผลงานสำนักสิบแต้มนี้ก็เพียงพอให้เขาได้ฝึกกำลังภายในที่ห้องฝึกวิชาของสำนัก และเมื่ออยู่ในสถานะค่าประสบการณ์คูณสองก็จะได้ฝึกเป็นเวลาสิบชั่วโมง!

หากจะถามว่าภายในเวลาสิบชั่วโมงจะเพิ่มค่าประสบการณ์กำลังภายในได้เท่าไรกันแน่

สิ่งนี้ไม่มีคำนิยามที่แน่นอน เนื่องจากระดับความยากในการฝึกกำลังภายในนั้นต่างกัน กอปรกับได้รับผลกระทบจากค่าสเตตัสของตัวผู้เล่นเอง ผลประโยชน์ที่ได้รับไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกันได้เลย

แต่ภายในเวลาสิบชั่วโมง จะต้องทำให้ค่าประสบการณ์กำลังภายในของเขาเพิ่มขึ้นมากแน่นอน

กระบี่จินสยากล่าวได้ว่าเป็นทรัพย์สินรวมของห้าคนในทีม ไม่ว่าสุดท้ายจะใช้โหมดใดมาแบ่งไอเทม สุดท้ายเฟยอวี๋ก็จะได้ผลประโยชน์ไปหนึ่งในห้าส่วนอยู่ดี หากให้เขาแบกรับความเสียหายค่าผลงานสำนักส่วนนี้ไว้คนเดียวเพื่อไล่ตามกระบี่เล่มนี้กลับมา ก็อาจจะฟังดูเหลวไหลไปหน่อย

เยี่ยเว่ยหมิงพิจารณาครู่หนึ่งแล้วบอกว่า “ใช้เงินมาชดเชยเป็นอย่างไร คำนวณตามราคาค่าผลงานสำนักสิบเหรียญทอง สุดท้ายเมื่อกำหนดแน่นอนแล้วว่ากระบี่นี้เป็นของใคร ค่อยนำเงินนี้แบ่งให้ทุกคนเท่าๆ กัน”

พอเป็นแบบนี้ ความเสียหายที่ทุกคนแบกรับก็จะเหมือนกันแล้ว นี่ก็คือวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเท่าที่เยี่ยเว่ยหมิงจะคิดได้แล้ว

ทว่าตอนที่เขาเพิ่งเอ่ยข้อเสนอแนะนี้ขึ้น คนอื่นยังไม่ทันได้แสดงท่าทีอะไร เฟยอวี๋กลับหัวเราะแห้งแล้ว เป็นคนแรกที่คัดค้าน “คุยเรื่องเงินแล้วเสียความรู้สึก พวกเรามาเปลี่ยนวิธีการชดเชยกันดีไหม”

ดูท่าทางแล้ว เจ้าหมอนี่คงคิดเล็กคิดน้อยเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก

“เจ้าว่ามาสิ”

เฟยอวี๋บอกว่า “ที่จริงเจ้าก็รู้ถึงสถานการณ์ก่อนหน้านี้ของข้าแล้ว เนื่องจากในระหว่างทำภารกิจมีเหมียวเหรินเฟิ่งโผล่มา ผลปรากฏว่าจากที่ต้องทำภารกิจให้สำเร็จก็เปลี่ยนมาเป็นถูกไล่สังหารแทน ทั้งยังถูกดักตรงทางเข้าถ้ำหลิงอวิ๋นเพื่อสังหารพวกเราวนไปเรื่อยๆ อีก”

เยี่ยเว่ยหมิงมองเจ้าหมอนี่ด้วยสายตาแปลกๆ แวบหนึ่ง “เหมียวเหรินเฟิ่งเดิมทีก็เดินผ่านตามปกติ แต่ถูกเจ้าเข้าใจผิดเป็นศิษย์สำนักชิงเฉิง เจ้าถึงได้เข้ามาเกี่ยวข้อง”

“อย่าสนใจรายละเอียดขนาดนั้นเลย” เฟยอวี๋ใช้รอยยิ้มโง่ๆ ปิดบังความอับอาย “ผลจากการที่ข้าเข้าใจผิดครั้งนั้นก็คือ ภารกิจของข้าล้มเหลวก่อนถึงเส้นชัย อีกทั้งเจ้าเฟิงเหรินยวนที่ข้าจับได้ก่อนหน้านี้ หลังจากเขาหนีไปได้ก็ถือว่าแหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว ถ้าอยากจะทำภารกิจนี้ต่อไป ระดับความยากก็เพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนไม่ใช่แค่หนึ่งเท่า”

“ให้ข้าคิดก่อนแล้วกัน…”

“เจ้าไม่ต้องคิดแล้ว!” เยี่ยเว่ยหมิงตัดบทเขาเสียเลย ช่วยพูดประโยคหลังแทนเขา “เจ้าทั้งอยากอาศัยความสามารถของตัวเองสร้างความผาสุกให้ทุกคน ทั้งหวังให้ทุกคนยื่นมือมาช่วยเจ้าทำภารกิจจับคนด้วย พูดให้เข้าใจง่ายแค่นี้ก็จบ”

เฟยอวี๋ยิ้มแห้ง ถือว่ายอมรับแล้ว

ไม่ใช่เพราะเฟยอวี๋มัวกระบิดกระบวน แต่เนื่องจากอยู่ในฐานะเจ้าทุกข์ เขาจึงต้องแสดงออกอย่างเอียงอายสักหน่อย เยี่ยเว่ยหมิงในฐานะหัวหน้าทีมกลับไม่กังวลเรื่องพวกนี้ ทั้งสองต่างคนต่างแสดงบทบาทของตัวเองอย่างดีอย่างเข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดออกมา เยี่ยเว่ยหมิงบอกว่า “แชร์ภารกิจมา”

เฟยอวี๋ยักไหล่ “ภารกิจเดี่ยว แชร์ไม่ได้”

เหมือนกับที่จับเป็นชวีหลิงเฟิงนั่นน่ะหรือ

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า “เช่นนั้นก็จับภาพส่งมา ให้ทุกคนได้เห็นว่าภารกิจบอกไว้ว่าอย่างไรกันแน่”

“ได้เลย!”

เฟยอวี๋เอ่ยรับ แล้วจับภาพหน้าจอส่งไปในกลุ่มทันที ครั้งนี้เขาไม่ได้ตัดเนื้อหาออก แต่อธิบายเนื้อหาทั้งหมดในภารกิจแล้ว

[ตามหาพยานบุคคล]

ระดับภารกิจ: 4 ดาว

จับศิษย์สำนักชิงเฉิงสักคนที่รู้ความจริงคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสำนักคุ้มภัยฝูเวยกลับมาสอบสวนที่สำนักมือปราบเทพ

รางวัลภารกิจ:

ค่าประสบการณ์ 10000 แต้ม

ค่าตบะ 2000 แต้ม

อุปกรณ์ทองคำ 1 ชิ้น

……

หลังจากอ่านคำแนะนำภารกิจจบแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็แสดงจุดยืนของตัวเองเสียเลย “ภารกิจนี้หากใช้วิธีแก้ปัญหาแบบดั้งเดิม จะเปลืองแรงและเวลามากแน่นอน เกรงว่าต้องทำให้ทุกคนเสียเวลาไม่น้อย ข้ามีอีกวิธีการที่เรียบง่ายตรงไปตรงมามากกว่า แต่ต้องใช้เงินนิดหน่อย อืม…ทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบเหรียญทอง นับเข้าไปในการปันผลกำไรของกระบี่จินสยา ทุกคนแบกรับร่วมกันเป็นอย่างไร”

“เจ้าคิดวิธีการทำภารกิจให้สำเร็จได้แล้วหรือ” เฟยอวี๋ได้ยินแล้วอึ้ง ตามด้วยแสดงท่าทีทันที “ข้าไม่มีความเห็นแย้งอะไร ขอเพียงทำภารกิจให้สำเร็จได้ก็พอแล้ว ถึงอย่างไรก็เป็นภารกิจที่สำนักมอบหมายให้ หากละทิ้งภารกิจ ก็จะถูกหักค่าความรู้สึกดีของ NPC แบบนั้นเสียหายเยอะเกินไป”

สำหรับข้อเสนอนี้ คนอื่นย่อมไม่แย้งอะไรอยู่แล้ว

ถึงอย่างไรการหากระบี่จินสยากลับมาก็เป็นเรื่องใหญ่ จะให้เฟยอวี๋แบกรับความเสียหายไว้คนเดียวไม่ได้หรอก

ส่วนทางเลือกของเยี่ยเว่ยหมิง

ที่จริงแล้ว เมื่อเทียบกับการเสียเวลาสามวันกับภารกิจที่ไม่มีทางได้รับประโยชน์ ไม่สู้จ่ายเงินสักเล็กน้อยเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็วดีกว่า

จำนวนหนึ่งร้อยยี่สิบเหรียญทองดูเหมือนไม่น้อย แต่หากแบ่งเท่ากันทุกคน ก็เท่ากับจ่ายเพียงคนละยี่สิบห้าเหรียญทองเท่านั้น สำหรับพวกเขาในตอนนั้น ก็คงจะมีแค่ทางนั้นแล้ว

หลังจากได้รับความยินยอมจากทุกคนแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ทำเรื่องที่ทุกคนต้องตะลึงค้างทันที

[ช่องเวิลด์ไวด์] เยี่ยเว่ยหมิง: สำนักมือปราบเทพประกาศให้รางวัล 100 เหรียญทอง ขอเชิญให้ศิษย์สำนักชิงเฉิงที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสำนักคุ้มภัยฝูเวยมามอบตัว รายชื่อมีจำนวนจำกัด มีเพียงผู้เล่นคนแรกที่มอบตัวเท่านั้นที่จะได้รับรางวัลไป หากช้าไปหนึ่งก้าว เจ้าก็จะพลาด 100 เหรียญทอง!]

ค่าประกาศข่าวในช่องเวิลด์ไวด์ต้องจ่าย 20 เหรียญทอง บวกเงินประกาศให้รางวัล 100 เหรียญทอง รวมเป็น 120 พอดี!

นี่ก็คือวิธีการแก้ปัญหาที่เขาคิดได้

หลังจากเห็นคำประกาศของเขาแล้ว สหายสี่คนที่อยู่ข้างกายก็เปลี่ยนมามองเขาด้วยสายตานับถือ

“ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะคิดวิธีการอย่างนี้ได้ ช่าง…” เฟยอวี๋อดกล่าวอย่างตะลึงไม่ได้ “เจ้าแน่ใจนะว่าวิธีการเช่นนี้จะได้ผล”

“มีความเป็นไปได้เก้าในสิบว่าจะได้ผล” เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่ “หากไม่ได้ผล ข้าออกเงินค่าประกาศเองก็สิ้นเรื่องแล้ว”

“ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น…”

เยี่ยเว่ยหมิงตัดบทเขาอีกครั้ง “ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า แต่เจ้าลองอ่านข้อมูลภารกิจให้ดีๆ ในนั้นบอกไว้หรือเปล่าว่าต้องจับศิษย์สำนักชิงเฉิงที่เป็น NPC เท่านั้น ในเมื่อไม่ได้บอก เช่นนั้นเป็นผู้เล่นสำนักชิงเฉิงก็ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ”

ที่จริงทฤษฎีของเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ซับซ้อนเลย ก็คือเขาคาดเดาใจของนักออกแบบเกมและบรรดาผู้เล่นได้แม่นยำ แล้วก็ตัดสินออกมาก็เท่านั้นเอง

มองจากมุมของนักออกแบบเกม เคร้าโครงเรื่องขนาดใหญ่อย่างสำนักคุ้มภัยฝูเวย หากไม่พยายามให้บรรดาผู้เล่นเข้ามามีส่วนร่วมด้วย มีเพียงความคึกคักระหว่าง NPC ด้วยกันเอง แบบนั้นไม่ใช่การแสดงละครให้คนตาบอดดูหรอกหรือ แล้วจะมีความหมายอะไร

ดังนั้นในเวลาแบบนี้ บรรดาผู้เล่นมักจะเกี่ยวข้องกับภารกิจที่เกี่ยวกับโครงเรื่องจากมุมที่ต่างกัน

พวกเยี่ยเว่ยหมิงยังรับภารกิจไขคดีได้ แม้แต่ผู้เล่นที่เดินผ่านไปผ่านมายังรับภารกิจดักฆ่าหน้าประตูได้เลย เช่นนั้นเหตุใดผู้เล่นสำนักชิงเฉิงจะรับภารกิจประเภทวางแผนอยู่หลังม่านบ้างไม่ได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 143 วิธีการของเยี่ยเว่ยหมิง (1)

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 143 วิธีการของเยี่ยเว่ยหมิง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 143 วิธีการของเยี่ยเว่ยหมิง (1)

หลังจากฟังเฟยอวี๋อธิบายอย่างละเอียดรอบหนึ่งแล้ว ทุกคนถึงได้รู้ว่า ที่แท้ทักษะสืบเสาะหมื่นลี้ของเขาก็ยังมีแบ่งเป็นสถานะธรรมดาและสถานะเต็มประสิทธิภาพ

เรื่องที่จัดการไม่ได้เมื่ออยู่ในสถานะธรรมดา แต่เมื่ออยู่ในสถานะเต็มประสิทธิภาพกลับจัดการได้

ก็เหมือนเวทบรรจุศพของเยี่ยเว่ยหมิงที่จะใช้เสื่อม้วนก็ได้ หรือจะใช้การบรรจุศพขั้นสูงมายกระดับการทำงานก็ได้

สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ หากจะใช้ทักษะสืบเสาะหมื่นลี้ของเฟยอวี๋เพิ่มการทำงานให้เต็มประสิทธิภาพ สิ่งที่จำเป็นต้องทำไม่ใช่การเติมเงิน แต่ต้องเติมผลงาน หรือที่สำนักอื่นเรียกกันว่าค่าผลงานสำนักนั่นเอง

เสียค่าผลงานสำนักสิบแต้มต่อการใช้ทักษะนี้หนึ่งครั้ง ราคาที่ต้องจ่ายนี้จะเรียกว่าไม่เยอะก็ไม่ได้

อย่างไรเสีย ค่าผลงานสำนักสิบแต้มนี้ก็เพียงพอให้เขาได้ฝึกกำลังภายในที่ห้องฝึกวิชาของสำนัก และเมื่ออยู่ในสถานะค่าประสบการณ์คูณสองก็จะได้ฝึกเป็นเวลาสิบชั่วโมง!

หากจะถามว่าภายในเวลาสิบชั่วโมงจะเพิ่มค่าประสบการณ์กำลังภายในได้เท่าไรกันแน่

สิ่งนี้ไม่มีคำนิยามที่แน่นอน เนื่องจากระดับความยากในการฝึกกำลังภายในนั้นต่างกัน กอปรกับได้รับผลกระทบจากค่าสเตตัสของตัวผู้เล่นเอง ผลประโยชน์ที่ได้รับไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกันได้เลย

แต่ภายในเวลาสิบชั่วโมง จะต้องทำให้ค่าประสบการณ์กำลังภายในของเขาเพิ่มขึ้นมากแน่นอน

กระบี่จินสยากล่าวได้ว่าเป็นทรัพย์สินรวมของห้าคนในทีม ไม่ว่าสุดท้ายจะใช้โหมดใดมาแบ่งไอเทม สุดท้ายเฟยอวี๋ก็จะได้ผลประโยชน์ไปหนึ่งในห้าส่วนอยู่ดี หากให้เขาแบกรับความเสียหายค่าผลงานสำนักส่วนนี้ไว้คนเดียวเพื่อไล่ตามกระบี่เล่มนี้กลับมา ก็อาจจะฟังดูเหลวไหลไปหน่อย

เยี่ยเว่ยหมิงพิจารณาครู่หนึ่งแล้วบอกว่า “ใช้เงินมาชดเชยเป็นอย่างไร คำนวณตามราคาค่าผลงานสำนักสิบเหรียญทอง สุดท้ายเมื่อกำหนดแน่นอนแล้วว่ากระบี่นี้เป็นของใคร ค่อยนำเงินนี้แบ่งให้ทุกคนเท่าๆ กัน”

พอเป็นแบบนี้ ความเสียหายที่ทุกคนแบกรับก็จะเหมือนกันแล้ว นี่ก็คือวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเท่าที่เยี่ยเว่ยหมิงจะคิดได้แล้ว

ทว่าตอนที่เขาเพิ่งเอ่ยข้อเสนอแนะนี้ขึ้น คนอื่นยังไม่ทันได้แสดงท่าทีอะไร เฟยอวี๋กลับหัวเราะแห้งแล้ว เป็นคนแรกที่คัดค้าน “คุยเรื่องเงินแล้วเสียความรู้สึก พวกเรามาเปลี่ยนวิธีการชดเชยกันดีไหม”

ดูท่าทางแล้ว เจ้าหมอนี่คงคิดเล็กคิดน้อยเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก

“เจ้าว่ามาสิ”

เฟยอวี๋บอกว่า “ที่จริงเจ้าก็รู้ถึงสถานการณ์ก่อนหน้านี้ของข้าแล้ว เนื่องจากในระหว่างทำภารกิจมีเหมียวเหรินเฟิ่งโผล่มา ผลปรากฏว่าจากที่ต้องทำภารกิจให้สำเร็จก็เปลี่ยนมาเป็นถูกไล่สังหารแทน ทั้งยังถูกดักตรงทางเข้าถ้ำหลิงอวิ๋นเพื่อสังหารพวกเราวนไปเรื่อยๆ อีก”

เยี่ยเว่ยหมิงมองเจ้าหมอนี่ด้วยสายตาแปลกๆ แวบหนึ่ง “เหมียวเหรินเฟิ่งเดิมทีก็เดินผ่านตามปกติ แต่ถูกเจ้าเข้าใจผิดเป็นศิษย์สำนักชิงเฉิง เจ้าถึงได้เข้ามาเกี่ยวข้อง”

“อย่าสนใจรายละเอียดขนาดนั้นเลย” เฟยอวี๋ใช้รอยยิ้มโง่ๆ ปิดบังความอับอาย “ผลจากการที่ข้าเข้าใจผิดครั้งนั้นก็คือ ภารกิจของข้าล้มเหลวก่อนถึงเส้นชัย อีกทั้งเจ้าเฟิงเหรินยวนที่ข้าจับได้ก่อนหน้านี้ หลังจากเขาหนีไปได้ก็ถือว่าแหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว ถ้าอยากจะทำภารกิจนี้ต่อไป ระดับความยากก็เพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนไม่ใช่แค่หนึ่งเท่า”

“ให้ข้าคิดก่อนแล้วกัน…”

“เจ้าไม่ต้องคิดแล้ว!” เยี่ยเว่ยหมิงตัดบทเขาเสียเลย ช่วยพูดประโยคหลังแทนเขา “เจ้าทั้งอยากอาศัยความสามารถของตัวเองสร้างความผาสุกให้ทุกคน ทั้งหวังให้ทุกคนยื่นมือมาช่วยเจ้าทำภารกิจจับคนด้วย พูดให้เข้าใจง่ายแค่นี้ก็จบ”

เฟยอวี๋ยิ้มแห้ง ถือว่ายอมรับแล้ว

ไม่ใช่เพราะเฟยอวี๋มัวกระบิดกระบวน แต่เนื่องจากอยู่ในฐานะเจ้าทุกข์ เขาจึงต้องแสดงออกอย่างเอียงอายสักหน่อย เยี่ยเว่ยหมิงในฐานะหัวหน้าทีมกลับไม่กังวลเรื่องพวกนี้ ทั้งสองต่างคนต่างแสดงบทบาทของตัวเองอย่างดีอย่างเข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดออกมา เยี่ยเว่ยหมิงบอกว่า “แชร์ภารกิจมา”

เฟยอวี๋ยักไหล่ “ภารกิจเดี่ยว แชร์ไม่ได้”

เหมือนกับที่จับเป็นชวีหลิงเฟิงนั่นน่ะหรือ

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า “เช่นนั้นก็จับภาพส่งมา ให้ทุกคนได้เห็นว่าภารกิจบอกไว้ว่าอย่างไรกันแน่”

“ได้เลย!”

เฟยอวี๋เอ่ยรับ แล้วจับภาพหน้าจอส่งไปในกลุ่มทันที ครั้งนี้เขาไม่ได้ตัดเนื้อหาออก แต่อธิบายเนื้อหาทั้งหมดในภารกิจแล้ว

[ตามหาพยานบุคคล]

ระดับภารกิจ: 4 ดาว

จับศิษย์สำนักชิงเฉิงสักคนที่รู้ความจริงคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสำนักคุ้มภัยฝูเวยกลับมาสอบสวนที่สำนักมือปราบเทพ

รางวัลภารกิจ:

ค่าประสบการณ์ 10000 แต้ม

ค่าตบะ 2000 แต้ม

อุปกรณ์ทองคำ 1 ชิ้น

……

หลังจากอ่านคำแนะนำภารกิจจบแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็แสดงจุดยืนของตัวเองเสียเลย “ภารกิจนี้หากใช้วิธีแก้ปัญหาแบบดั้งเดิม จะเปลืองแรงและเวลามากแน่นอน เกรงว่าต้องทำให้ทุกคนเสียเวลาไม่น้อย ข้ามีอีกวิธีการที่เรียบง่ายตรงไปตรงมามากกว่า แต่ต้องใช้เงินนิดหน่อย อืม…ทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบเหรียญทอง นับเข้าไปในการปันผลกำไรของกระบี่จินสยา ทุกคนแบกรับร่วมกันเป็นอย่างไร”

“เจ้าคิดวิธีการทำภารกิจให้สำเร็จได้แล้วหรือ” เฟยอวี๋ได้ยินแล้วอึ้ง ตามด้วยแสดงท่าทีทันที “ข้าไม่มีความเห็นแย้งอะไร ขอเพียงทำภารกิจให้สำเร็จได้ก็พอแล้ว ถึงอย่างไรก็เป็นภารกิจที่สำนักมอบหมายให้ หากละทิ้งภารกิจ ก็จะถูกหักค่าความรู้สึกดีของ NPC แบบนั้นเสียหายเยอะเกินไป”

สำหรับข้อเสนอนี้ คนอื่นย่อมไม่แย้งอะไรอยู่แล้ว

ถึงอย่างไรการหากระบี่จินสยากลับมาก็เป็นเรื่องใหญ่ จะให้เฟยอวี๋แบกรับความเสียหายไว้คนเดียวไม่ได้หรอก

ส่วนทางเลือกของเยี่ยเว่ยหมิง

ที่จริงแล้ว เมื่อเทียบกับการเสียเวลาสามวันกับภารกิจที่ไม่มีทางได้รับประโยชน์ ไม่สู้จ่ายเงินสักเล็กน้อยเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็วดีกว่า

จำนวนหนึ่งร้อยยี่สิบเหรียญทองดูเหมือนไม่น้อย แต่หากแบ่งเท่ากันทุกคน ก็เท่ากับจ่ายเพียงคนละยี่สิบห้าเหรียญทองเท่านั้น สำหรับพวกเขาในตอนนั้น ก็คงจะมีแค่ทางนั้นแล้ว

หลังจากได้รับความยินยอมจากทุกคนแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ทำเรื่องที่ทุกคนต้องตะลึงค้างทันที

[ช่องเวิลด์ไวด์] เยี่ยเว่ยหมิง: สำนักมือปราบเทพประกาศให้รางวัล 100 เหรียญทอง ขอเชิญให้ศิษย์สำนักชิงเฉิงที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสำนักคุ้มภัยฝูเวยมามอบตัว รายชื่อมีจำนวนจำกัด มีเพียงผู้เล่นคนแรกที่มอบตัวเท่านั้นที่จะได้รับรางวัลไป หากช้าไปหนึ่งก้าว เจ้าก็จะพลาด 100 เหรียญทอง!]

ค่าประกาศข่าวในช่องเวิลด์ไวด์ต้องจ่าย 20 เหรียญทอง บวกเงินประกาศให้รางวัล 100 เหรียญทอง รวมเป็น 120 พอดี!

นี่ก็คือวิธีการแก้ปัญหาที่เขาคิดได้

หลังจากเห็นคำประกาศของเขาแล้ว สหายสี่คนที่อยู่ข้างกายก็เปลี่ยนมามองเขาด้วยสายตานับถือ

“ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะคิดวิธีการอย่างนี้ได้ ช่าง…” เฟยอวี๋อดกล่าวอย่างตะลึงไม่ได้ “เจ้าแน่ใจนะว่าวิธีการเช่นนี้จะได้ผล”

“มีความเป็นไปได้เก้าในสิบว่าจะได้ผล” เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่ “หากไม่ได้ผล ข้าออกเงินค่าประกาศเองก็สิ้นเรื่องแล้ว”

“ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น…”

เยี่ยเว่ยหมิงตัดบทเขาอีกครั้ง “ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า แต่เจ้าลองอ่านข้อมูลภารกิจให้ดีๆ ในนั้นบอกไว้หรือเปล่าว่าต้องจับศิษย์สำนักชิงเฉิงที่เป็น NPC เท่านั้น ในเมื่อไม่ได้บอก เช่นนั้นเป็นผู้เล่นสำนักชิงเฉิงก็ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ”

ที่จริงทฤษฎีของเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ซับซ้อนเลย ก็คือเขาคาดเดาใจของนักออกแบบเกมและบรรดาผู้เล่นได้แม่นยำ แล้วก็ตัดสินออกมาก็เท่านั้นเอง

มองจากมุมของนักออกแบบเกม เคร้าโครงเรื่องขนาดใหญ่อย่างสำนักคุ้มภัยฝูเวย หากไม่พยายามให้บรรดาผู้เล่นเข้ามามีส่วนร่วมด้วย มีเพียงความคึกคักระหว่าง NPC ด้วยกันเอง แบบนั้นไม่ใช่การแสดงละครให้คนตาบอดดูหรอกหรือ แล้วจะมีความหมายอะไร

ดังนั้นในเวลาแบบนี้ บรรดาผู้เล่นมักจะเกี่ยวข้องกับภารกิจที่เกี่ยวกับโครงเรื่องจากมุมที่ต่างกัน

พวกเยี่ยเว่ยหมิงยังรับภารกิจไขคดีได้ แม้แต่ผู้เล่นที่เดินผ่านไปผ่านมายังรับภารกิจดักฆ่าหน้าประตูได้เลย เช่นนั้นเหตุใดผู้เล่นสำนักชิงเฉิงจะรับภารกิจประเภทวางแผนอยู่หลังม่านบ้างไม่ได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+