ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 24 แกงหมูน้ำมันพริก

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 24 แกงหมูน้ำมันพริก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 24 แกงหมูน้ำมันพริก

[วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร: คัมภีร์พุทธ หลังจากใช้แล้ว ค่าตระหนักรู้ +1 (ใช้ซ้ำไม่ได้)]

[สารีริกธาตุ: อัฐิธาตุที่เหลือไว้หลังจากพระเถระมรณภาพในท่านั่งสมาธิ หลังจากใช้แล้ว ค่าตบะ +5000]

คัมภีร์ที่เพิ่มค่าตระหนักรู้ นอกจากนี้ยังมีสารีริกธาตุหนึ่งเม็ดที่เพิ่มค่าตบะ แต่ละชิ้นล้วนเป็นของดีที่ใช้เงินซื้อไม่ได้!

“ของสองชิ้นนี้น่าจะมีมูลค่าพอๆ กัน แตกต่างกันตรงที่ชิ้นหนึ่งเหมาะจะพัฒนาระยะยาวมากกว่า ส่วนอีกชิ้นอัปพลังต่อสู้ได้ทันที พวกเราสองคนแบ่งเท่ากัน สุภาพสตรีเชิญก่อน เจ้าเลือกเลย”

“ทำแบบนั้นได้อย่างไร” โหยวโหยวส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ของพวกนี้เดิมทีเจ้าก็หามาอยู่แล้ว ข้าไม่ได้ช่วยเลยสักนิด สารีริกธาตุนี้ข้าเอาไม่ได้เด็ดขาด!”

เยี่ยเว่ยหมิงถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วใช้ของสองอย่างนี้เงียบๆ จนหมดในอึดใจเดียว

ที่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้ที่เขายอมให้นางก็เพราะเกรงใจน้องสาวคนนี้ เป็นผู้เล่นก็ต้องหยั่งนิสัยใจคออีกฝ่ายดูสักหน่อย

แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ครั้งเดียว จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

ไม่อย่างนั้นแล้ว หากน้องสาวคนนี้ซาบซึ้งกับความจริงใจของฉันขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ

แบบนั้นจะไม่ขาดทุนใหญ่โตหรอกหรือ!

[ติ๊ง! คุณใช้งานสารีริกธาตุ ได้รับค่าตบะ 5000 แต้ม]

[ติ๊ง! คุณอ่าน ‘วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร’ ค่าตระหนักรู้ +1]

ค่าตบะเพิ่มขึ้นสูงมากในรวดเดียวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เยี่ยเว่ยหมิงเปิดหน้าอินเตอร์เฟสสกิลดูทันที แล้วก็จะอัปลเวล ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’

[ติ๊ง! ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ จัดเป็นเคล็ดจิตพิเศษ ใช้ค่าตบะเพื่ออัปเลเวลไม่ได้]

อะไรนะ?

เคล็ดจิต ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ นี้ใช้ค่าตบะมาอัปเลเวลไม่ได้!

เมื่อนึกถึงเงื่อนไขเปิดใช้งานที่ทำให้คนปวดประสาทของเคล็ดจิตนี้อีกที ก็เหมือนว่าถ้าใช้การฝึกธรรมดา มันก็ไม่ใช่ภารกิจที่คนธรรมดาคนหนึ่งจะทำสำเร็จได้อยู่ดี!

ทุกครั้งที่เปิดใช้เคล็ดวิชาสำเร็จ ก็แค่เพิ่มค่าประสบการณ์หนึ่งแต้มเท่านั้น แต่เงื่อนไขการเปิดใช้ก็คือตอบคำถามคณิตศาสตร์ให้ถูกต่อเนื่องกันสิบข้อ! ถ้าจะเอาค่าประสบการณ์หนึ่งพันแต้ม ก็ต้องตอบคำถามคณิตศาสตร์หนึ่งหมื่นข้อน่ะสิ!

นี่ยังเป็นแค่ค่าประสบการณ์ที่ใช้อัปจากเลเวลหนึ่งเป็นเลเวลสองเท่านั้น แล้วถ้าจะอัปให้สูงขึ้นกว่านี้ต่อไปล่ะ

นี่ยังเป็นการเล่นเกมเสียที่ไหนกัน?

แบบนี้แม่งเป็นการทำข้อสอบจำลองกับสอบจริงสำหรับเข้ามหาวิทยาลัยชัดๆ!

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ทำข้อสอบสิบข้อเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์หนึ่งแต้ม เป็นแค่การคำนวณหาผลลัพธ์เมื่ออยู่ในสภาวะที่ดีที่สุดเท่านั้น ที่จริงแล้ว เมื่อกำลังอยู่ในการต่อสู้ที่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอดเวลา การรวบรวมสมาธิทำข้อสอบเลขจะต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย

โชคดีที่ยังสามารถใช้ผลจากการเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกันมาเพิ่มค่าประสบการณ์ของเคล็ดจิตนี้ได้ ไม่อย่างนั้น มันก็จะต่อต้านมนุษยชาติเกินไปแล้ว!

เยี่ยเว่ยหมิงย้อนกลับไปโดยใช้ทางเดิมตลอดทาง ในระหว่างนั้นใช้ค่าตบะมาเพิ่ม ‘เคล็ดชำระปราณ’ และ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เคล็ดวิชาละหนึ่งระดับ จากนั้น ค่าตบะที่เขาเพิ่งจะสะสมได้ก็เหลืออยู่เลขหลักเดียวแล้ว

[เยี่ยเว่ยหมิง เลเวล: 14]……

พลังชีวิต: 760/760

กำลังภายใน: 550/550

ความแข็งแกร่ง: 73

พละกำลัง: 73

ท่าร่าง: 138

ความว่องไว: 73

สติปัญญา: 25

ค่าตระหนักรู้: 29

[ทักษะยุทธ์]

[เคล็ดชำระปราณ (ไม่เข้าขั้น) เลเวล: 7]

ค่าประสบการณ์: 0/6400

วิธีหายใจชำระปราณเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดในยุทธภพ ไม่มีคุณสมบัติพิเศษ แต่ไม่มีอันตรายจากธาตุไฟเข้าแทรก

พลังชีวิต +350

กำลังภายใน +350

ความแข็งแกร่ง +35

พละกำลัง +35

ท่าร่าง +35

ความว่องไว+35

……

[เคล็ดกระบี่วีรสตรี (ไม่เข้าขั้น) เคล็ดกระบี่ที่ตกทอดมาในสมัยชุนชิว ประสิทธิภาพทั่วไป เลเวล: 8

]ค่าประสบการณ์: 0/12800

ประสิทธิภาพ +80%

แม่นยำ +80%

……

[แปดก้าวไล่ทันคางคก (ระดับต้น) เลเวล: 3]ค่าประสบการณ์: 912/1000

เป็นวิชาตัวเบาติดพื้นที่แพร่หลายในยุทธภพ ใช้เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนย้ายร่างกายได้เยอะมาก

ท่าร่าง +60

……

[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชา) เลเวล: 1]ค่าประสบการณ์: 201/1000

ดาเมจโจมตี +10%

แม่นยำ +10%

ดาเมจคริติคอล +10%

สามารถเปิดใช้แอคทีฟสกิลขณะต่อสู้ ประเมินช่องโหว่ในกระบวนท่าของศัตรู โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!

……

[อุปกรณ์]

เป็นต้น

……

ด้วยสเตตัสของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ ต่อให้โดนหน้าไม้เทพจูเก๋อในมือโหยวโหยวโจมตี เขาก็ทนได้หนึ่งครั้งโดยไม่ถูกปลิดชีพ!

ประมาณนั้นมั้ง…

เมื่อมาถึงทางเข้าวังใต้ดิน เยี่ยเว่ยหมิงก็บิดกลไกเพื่อเปิดทางลับอีกครั้ง ไต่ขึ้นไปตามบันไดโซ่ ทุกครั้งที่เท้าเหยียบลงพื้น ก็จะเหยียบโซ่ดังแกร๊ง

ใครจะคิดว่าเพิ่งขึ้นไปได้ครึ่งทาง เหนือศีรษะก็มีลูกดอกหน้าไม้ยิงเข้ามาสายแล้วสายเล่า แสกหน้าเข้ามาตกลงบนตัวเยี่ยเว่ยหมิง

-42

-39

-95

……

ในตัวเลขค่าพลังชีวิตยังปนด้วยคริติคอลหนึ่งครั้งด้วย ทำให้ค่าพลังชีวิตของเยี่ยเว่ยหมิงลดลงไปเกือบครึ่ง

“แม่งเอ๊ย!” ด้วยความตกใจ เยี่ยเว่ยหมิงรีบปล่อยมือจากบันได กระโดดลงในวังใต้ดินโดยตรง จากนั้นก็ถลันตัวหลบไปด้านข้างหลายก้าวในทันที หลีกเลี่ยงระยะโจมตีที่มองเห็นได้จากมุมมองนอกปากทางลับ สุดท้ายถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เยี่ยเว่ยหมิงรีบหยิบยาเม็ดรักษาอากาการบาดเจ็บเม็ดหนึ่งขึ้นมากลืนลงไป ตอนนี้สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นแย่มาก

ไม่ต้องถามก็รู้ว่าพวกเขาสองคนถูกคนอื่นซุ่มโจมตีเข้าแล้ว ถูกกักไว้ในวังใต้ดินที่มีทางออกเพียงทางเดียวแล้ว!

ส่วนโหยวโหยวก็หยิบหน้าไม้เทพจูเก๋อออกมา ถลันลงไปด้านล่างของวังใต้ดินที่ว่างเปล่าเหมือนอากาศ เล็งหน้าไม้ขึ้นมาด้านบน จากนั้นก็โบกมือให้เยี่ยเว่ยหมิงอีก สื่อว่าตรงมุมนี้มองไม่เห็นศัตรู

ตอนนี้ กลับได้ยินเสียงผู้หญิงอีกคนดังมาจากนอกวังใต้ดิน “นางหนูนั่นไหวตัวเร็วที่เดียว ข้าเพิ่งจะเริ่มโจมตี นางก็กระโดดลงไปเองแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะฆ่านางไม่สำเร็จ นางหนีไปแล้ว!”

ฟังจากความหมายในคำพูดของอีกฝ่าย ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้าใจผิดเห็นเยี่ยเว่ยหมิงเป็นโหยวโหยวไปแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอก!” ตอนนี้มีเสียงอีกคนดังขึ้น เป็นเสียงผู้หญิงเช่นเดียวกัน ผู้หญิงที่ปรากฏตัวทีหลังบอกให้ผู้หญิงคนแรกใจเย็นๆ จากนั้นก็ตะโกนลงมาด้านล่างเสียงดังกว่าเดิม “โหยวโหยว ที่จริงที่พวกเรามาวันนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย”

ลอบจู่โจมให้ถึงตาย ยังบอกว่าไม่มีเจตนาร้ายอีกหรือ

เยี่ยเว่ยหมิงชำเลืองโหยวโหยวแวบหนึ่ง เหมือนกำลังบอกว่า เจ๊พวกนี้ช่างตลกจริงๆ

แต่ตอนนี้สีหน้าของโหยวโหยวดูแย่มาก ถามเสียงต่ำว่า “เจ้าคือแกงหมูน้ำมันพริกเหรอ!”

“แหม! โหยวโหยว ทำไมเจ้าเรียกกันห่างเหินขนาดนั้นล่ะ ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนเจ้าเรียกข้าว่าศิษย์พี่แกงหมูไม่ใช่เหรอ” ผู้หญิงที่อยู่ข้างนอกหัวเราะอย่างดัดจริต ตามด้วยเสนอว่า “แต่เจ้าจะเรียกว่าอะไร ศิษย์พี่ก็ไม่ถือหรอก ข้าแค่อยากจะเจรจาทำข้อตกลงกับเจ้าสักหน่อย พวกเราเตรียมจะจ่ายห้าสิบเหรียญทองเพื่อซื้อหน้าไม้เทพจูเก๋อในมือเจ้า ไม่รู้ว่าศิษย์น้องโหยวโหยวจะคิดอย่างไร”

“ห้าสิบเหรียญทองซื้อหน้าไม้เทพจูเก๋อ! ทำไมเจ้าไม่มาแย่งเอาล่ะ” โหยวโหยวกัดฟันพูด

แกงหมูน้ำมันพริกได้ยินแล้วกลับหัวเราะคิกคัก ถามอย่างลำพองใจมาก “ฟังเจ้าพูดเข้าสิ ตอนนี้ข้าก็กำลังแย่งไม่ใช่หรอกหรือ”

“ฝันไปเถอะ!”

“ศิษย์น้องโหยวโหยวอย่าเพิ่งโมโห เจ้าค่อยๆ พิจารณาก็ได้ ข้าไม่รีบเลยสักนิด” แกงหมูน้ำมันพริกท่าทางเหมือนมั่นใจในชัยชนะ “แต่จะว่าไปแล้ว หน้าไม้เทพจูเก๋ออยู่ในมือเจ้าจะต้องมีเวลาจำกัดแน่นอน ข้าแนะนำให้เจ้าพิจารณาให้ชัดเจนดีกว่า ถ้ารอจนภารกิจล้มเหลว เจ้าโดนไล่ออกจากสำนัก ถึงตอนนั้น NPC ยอดฝีมือก็จะไล่สังหารมาที่นี่ แบบนั้นเจ้าก็จะไม่ได้อะไรเลยนะ”

ตอนนี้สีหน้าโหยวโหยวมืดครึ้มถึงขีดสุด ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ถามผ่านช่องทีม “นี่มันเรื่องอะไรกัน”

“ข้าโดนวางกับดักแล้ว!” ตอนนี้ทั้งสองถูกขังอยู่ในนี้ โหยวโหยวตอบอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด “ที่จริงถ้าไม่แน่ใจตำแหน่งที่แน่นอนของเฉินหมิง ข้าก็ไม่บุ่มบ่ามรับภารกิจระดับห้าดาวหรอก ส่วนข้อมูลที่บอกว่าเขาซ่อนอยู่ในวังใต้ดินเจดีย์เหลยเฟิง ข้าก็รู้มาจากอีกภารกิจหนึ่ง และในภารกิจนั้น แกงหมูน้ำมันพริกก็ ‘บังเอิญ’ เปิดเผยให้ข้ารู้ตอนคุยกัน!”

เมื่อได้ยินโหยวโหยวพูดอย่างนี้ ในหัวของเยี่ยเว่ยหมิงก็จัดระบบความคิดถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ได้คร่าวๆ แล้ว

“ถ้านางกำจัดเจ้าได้จริงๆ นางแน่ใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าจะได้หน้าไม้เทพจูเก๋อ”

“ในระหว่างทำภารกิจมีโอกาสดรอปได้หน้าไม้เทพจูเก๋อร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นหลังจากได้หน้าไม้เทพจูเก๋อมาแล้ว นี่ต่างหากคือช่วงเวลาอันตรายที่สุดของภารกิจ ก่อนที่จะได้มันมา ถ้าภารกิจล้มเหลวก็แค่ไม่ได้รางวัลภารกิจ แค่หมดสิทธิ์รับภารกิจนี้ซ้ำก็เท่านั้นเอง แต่หลังจากได้มาแล้ว ไม่ว่าจะทำหายหรือกลับไปส่งภารกิจไม่ทัน ก็ล้วนถูกมองว่าทรยศสำนัก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 24 แกงหมูน้ำมันพริก

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 24 แกงหมูน้ำมันพริก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 24 แกงหมูน้ำมันพริก

[วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร: คัมภีร์พุทธ หลังจากใช้แล้ว ค่าตระหนักรู้ +1 (ใช้ซ้ำไม่ได้)]

[สารีริกธาตุ: อัฐิธาตุที่เหลือไว้หลังจากพระเถระมรณภาพในท่านั่งสมาธิ หลังจากใช้แล้ว ค่าตบะ +5000]

คัมภีร์ที่เพิ่มค่าตระหนักรู้ นอกจากนี้ยังมีสารีริกธาตุหนึ่งเม็ดที่เพิ่มค่าตบะ แต่ละชิ้นล้วนเป็นของดีที่ใช้เงินซื้อไม่ได้!

“ของสองชิ้นนี้น่าจะมีมูลค่าพอๆ กัน แตกต่างกันตรงที่ชิ้นหนึ่งเหมาะจะพัฒนาระยะยาวมากกว่า ส่วนอีกชิ้นอัปพลังต่อสู้ได้ทันที พวกเราสองคนแบ่งเท่ากัน สุภาพสตรีเชิญก่อน เจ้าเลือกเลย”

“ทำแบบนั้นได้อย่างไร” โหยวโหยวส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ของพวกนี้เดิมทีเจ้าก็หามาอยู่แล้ว ข้าไม่ได้ช่วยเลยสักนิด สารีริกธาตุนี้ข้าเอาไม่ได้เด็ดขาด!”

เยี่ยเว่ยหมิงถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วใช้ของสองอย่างนี้เงียบๆ จนหมดในอึดใจเดียว

ที่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้ที่เขายอมให้นางก็เพราะเกรงใจน้องสาวคนนี้ เป็นผู้เล่นก็ต้องหยั่งนิสัยใจคออีกฝ่ายดูสักหน่อย

แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ครั้งเดียว จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

ไม่อย่างนั้นแล้ว หากน้องสาวคนนี้ซาบซึ้งกับความจริงใจของฉันขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ

แบบนั้นจะไม่ขาดทุนใหญ่โตหรอกหรือ!

[ติ๊ง! คุณใช้งานสารีริกธาตุ ได้รับค่าตบะ 5000 แต้ม]

[ติ๊ง! คุณอ่าน ‘วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร’ ค่าตระหนักรู้ +1]

ค่าตบะเพิ่มขึ้นสูงมากในรวดเดียวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เยี่ยเว่ยหมิงเปิดหน้าอินเตอร์เฟสสกิลดูทันที แล้วก็จะอัปลเวล ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’

[ติ๊ง! ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ จัดเป็นเคล็ดจิตพิเศษ ใช้ค่าตบะเพื่ออัปเลเวลไม่ได้]

อะไรนะ?

เคล็ดจิต ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ นี้ใช้ค่าตบะมาอัปเลเวลไม่ได้!

เมื่อนึกถึงเงื่อนไขเปิดใช้งานที่ทำให้คนปวดประสาทของเคล็ดจิตนี้อีกที ก็เหมือนว่าถ้าใช้การฝึกธรรมดา มันก็ไม่ใช่ภารกิจที่คนธรรมดาคนหนึ่งจะทำสำเร็จได้อยู่ดี!

ทุกครั้งที่เปิดใช้เคล็ดวิชาสำเร็จ ก็แค่เพิ่มค่าประสบการณ์หนึ่งแต้มเท่านั้น แต่เงื่อนไขการเปิดใช้ก็คือตอบคำถามคณิตศาสตร์ให้ถูกต่อเนื่องกันสิบข้อ! ถ้าจะเอาค่าประสบการณ์หนึ่งพันแต้ม ก็ต้องตอบคำถามคณิตศาสตร์หนึ่งหมื่นข้อน่ะสิ!

นี่ยังเป็นแค่ค่าประสบการณ์ที่ใช้อัปจากเลเวลหนึ่งเป็นเลเวลสองเท่านั้น แล้วถ้าจะอัปให้สูงขึ้นกว่านี้ต่อไปล่ะ

นี่ยังเป็นการเล่นเกมเสียที่ไหนกัน?

แบบนี้แม่งเป็นการทำข้อสอบจำลองกับสอบจริงสำหรับเข้ามหาวิทยาลัยชัดๆ!

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ทำข้อสอบสิบข้อเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์หนึ่งแต้ม เป็นแค่การคำนวณหาผลลัพธ์เมื่ออยู่ในสภาวะที่ดีที่สุดเท่านั้น ที่จริงแล้ว เมื่อกำลังอยู่ในการต่อสู้ที่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอดเวลา การรวบรวมสมาธิทำข้อสอบเลขจะต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย

โชคดีที่ยังสามารถใช้ผลจากการเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกันมาเพิ่มค่าประสบการณ์ของเคล็ดจิตนี้ได้ ไม่อย่างนั้น มันก็จะต่อต้านมนุษยชาติเกินไปแล้ว!

เยี่ยเว่ยหมิงย้อนกลับไปโดยใช้ทางเดิมตลอดทาง ในระหว่างนั้นใช้ค่าตบะมาเพิ่ม ‘เคล็ดชำระปราณ’ และ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เคล็ดวิชาละหนึ่งระดับ จากนั้น ค่าตบะที่เขาเพิ่งจะสะสมได้ก็เหลืออยู่เลขหลักเดียวแล้ว

[เยี่ยเว่ยหมิง เลเวล: 14]……

พลังชีวิต: 760/760

กำลังภายใน: 550/550

ความแข็งแกร่ง: 73

พละกำลัง: 73

ท่าร่าง: 138

ความว่องไว: 73

สติปัญญา: 25

ค่าตระหนักรู้: 29

[ทักษะยุทธ์]

[เคล็ดชำระปราณ (ไม่เข้าขั้น) เลเวล: 7]

ค่าประสบการณ์: 0/6400

วิธีหายใจชำระปราณเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดในยุทธภพ ไม่มีคุณสมบัติพิเศษ แต่ไม่มีอันตรายจากธาตุไฟเข้าแทรก

พลังชีวิต +350

กำลังภายใน +350

ความแข็งแกร่ง +35

พละกำลัง +35

ท่าร่าง +35

ความว่องไว+35

……

[เคล็ดกระบี่วีรสตรี (ไม่เข้าขั้น) เคล็ดกระบี่ที่ตกทอดมาในสมัยชุนชิว ประสิทธิภาพทั่วไป เลเวล: 8

]ค่าประสบการณ์: 0/12800

ประสิทธิภาพ +80%

แม่นยำ +80%

……

[แปดก้าวไล่ทันคางคก (ระดับต้น) เลเวล: 3]ค่าประสบการณ์: 912/1000

เป็นวิชาตัวเบาติดพื้นที่แพร่หลายในยุทธภพ ใช้เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนย้ายร่างกายได้เยอะมาก

ท่าร่าง +60

……

[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชา) เลเวล: 1]ค่าประสบการณ์: 201/1000

ดาเมจโจมตี +10%

แม่นยำ +10%

ดาเมจคริติคอล +10%

สามารถเปิดใช้แอคทีฟสกิลขณะต่อสู้ ประเมินช่องโหว่ในกระบวนท่าของศัตรู โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!

……

[อุปกรณ์]

เป็นต้น

……

ด้วยสเตตัสของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ ต่อให้โดนหน้าไม้เทพจูเก๋อในมือโหยวโหยวโจมตี เขาก็ทนได้หนึ่งครั้งโดยไม่ถูกปลิดชีพ!

ประมาณนั้นมั้ง…

เมื่อมาถึงทางเข้าวังใต้ดิน เยี่ยเว่ยหมิงก็บิดกลไกเพื่อเปิดทางลับอีกครั้ง ไต่ขึ้นไปตามบันไดโซ่ ทุกครั้งที่เท้าเหยียบลงพื้น ก็จะเหยียบโซ่ดังแกร๊ง

ใครจะคิดว่าเพิ่งขึ้นไปได้ครึ่งทาง เหนือศีรษะก็มีลูกดอกหน้าไม้ยิงเข้ามาสายแล้วสายเล่า แสกหน้าเข้ามาตกลงบนตัวเยี่ยเว่ยหมิง

-42

-39

-95

……

ในตัวเลขค่าพลังชีวิตยังปนด้วยคริติคอลหนึ่งครั้งด้วย ทำให้ค่าพลังชีวิตของเยี่ยเว่ยหมิงลดลงไปเกือบครึ่ง

“แม่งเอ๊ย!” ด้วยความตกใจ เยี่ยเว่ยหมิงรีบปล่อยมือจากบันได กระโดดลงในวังใต้ดินโดยตรง จากนั้นก็ถลันตัวหลบไปด้านข้างหลายก้าวในทันที หลีกเลี่ยงระยะโจมตีที่มองเห็นได้จากมุมมองนอกปากทางลับ สุดท้ายถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เยี่ยเว่ยหมิงรีบหยิบยาเม็ดรักษาอากาการบาดเจ็บเม็ดหนึ่งขึ้นมากลืนลงไป ตอนนี้สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นแย่มาก

ไม่ต้องถามก็รู้ว่าพวกเขาสองคนถูกคนอื่นซุ่มโจมตีเข้าแล้ว ถูกกักไว้ในวังใต้ดินที่มีทางออกเพียงทางเดียวแล้ว!

ส่วนโหยวโหยวก็หยิบหน้าไม้เทพจูเก๋อออกมา ถลันลงไปด้านล่างของวังใต้ดินที่ว่างเปล่าเหมือนอากาศ เล็งหน้าไม้ขึ้นมาด้านบน จากนั้นก็โบกมือให้เยี่ยเว่ยหมิงอีก สื่อว่าตรงมุมนี้มองไม่เห็นศัตรู

ตอนนี้ กลับได้ยินเสียงผู้หญิงอีกคนดังมาจากนอกวังใต้ดิน “นางหนูนั่นไหวตัวเร็วที่เดียว ข้าเพิ่งจะเริ่มโจมตี นางก็กระโดดลงไปเองแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะฆ่านางไม่สำเร็จ นางหนีไปแล้ว!”

ฟังจากความหมายในคำพูดของอีกฝ่าย ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้าใจผิดเห็นเยี่ยเว่ยหมิงเป็นโหยวโหยวไปแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอก!” ตอนนี้มีเสียงอีกคนดังขึ้น เป็นเสียงผู้หญิงเช่นเดียวกัน ผู้หญิงที่ปรากฏตัวทีหลังบอกให้ผู้หญิงคนแรกใจเย็นๆ จากนั้นก็ตะโกนลงมาด้านล่างเสียงดังกว่าเดิม “โหยวโหยว ที่จริงที่พวกเรามาวันนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย”

ลอบจู่โจมให้ถึงตาย ยังบอกว่าไม่มีเจตนาร้ายอีกหรือ

เยี่ยเว่ยหมิงชำเลืองโหยวโหยวแวบหนึ่ง เหมือนกำลังบอกว่า เจ๊พวกนี้ช่างตลกจริงๆ

แต่ตอนนี้สีหน้าของโหยวโหยวดูแย่มาก ถามเสียงต่ำว่า “เจ้าคือแกงหมูน้ำมันพริกเหรอ!”

“แหม! โหยวโหยว ทำไมเจ้าเรียกกันห่างเหินขนาดนั้นล่ะ ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนเจ้าเรียกข้าว่าศิษย์พี่แกงหมูไม่ใช่เหรอ” ผู้หญิงที่อยู่ข้างนอกหัวเราะอย่างดัดจริต ตามด้วยเสนอว่า “แต่เจ้าจะเรียกว่าอะไร ศิษย์พี่ก็ไม่ถือหรอก ข้าแค่อยากจะเจรจาทำข้อตกลงกับเจ้าสักหน่อย พวกเราเตรียมจะจ่ายห้าสิบเหรียญทองเพื่อซื้อหน้าไม้เทพจูเก๋อในมือเจ้า ไม่รู้ว่าศิษย์น้องโหยวโหยวจะคิดอย่างไร”

“ห้าสิบเหรียญทองซื้อหน้าไม้เทพจูเก๋อ! ทำไมเจ้าไม่มาแย่งเอาล่ะ” โหยวโหยวกัดฟันพูด

แกงหมูน้ำมันพริกได้ยินแล้วกลับหัวเราะคิกคัก ถามอย่างลำพองใจมาก “ฟังเจ้าพูดเข้าสิ ตอนนี้ข้าก็กำลังแย่งไม่ใช่หรอกหรือ”

“ฝันไปเถอะ!”

“ศิษย์น้องโหยวโหยวอย่าเพิ่งโมโห เจ้าค่อยๆ พิจารณาก็ได้ ข้าไม่รีบเลยสักนิด” แกงหมูน้ำมันพริกท่าทางเหมือนมั่นใจในชัยชนะ “แต่จะว่าไปแล้ว หน้าไม้เทพจูเก๋ออยู่ในมือเจ้าจะต้องมีเวลาจำกัดแน่นอน ข้าแนะนำให้เจ้าพิจารณาให้ชัดเจนดีกว่า ถ้ารอจนภารกิจล้มเหลว เจ้าโดนไล่ออกจากสำนัก ถึงตอนนั้น NPC ยอดฝีมือก็จะไล่สังหารมาที่นี่ แบบนั้นเจ้าก็จะไม่ได้อะไรเลยนะ”

ตอนนี้สีหน้าโหยวโหยวมืดครึ้มถึงขีดสุด ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ถามผ่านช่องทีม “นี่มันเรื่องอะไรกัน”

“ข้าโดนวางกับดักแล้ว!” ตอนนี้ทั้งสองถูกขังอยู่ในนี้ โหยวโหยวตอบอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด “ที่จริงถ้าไม่แน่ใจตำแหน่งที่แน่นอนของเฉินหมิง ข้าก็ไม่บุ่มบ่ามรับภารกิจระดับห้าดาวหรอก ส่วนข้อมูลที่บอกว่าเขาซ่อนอยู่ในวังใต้ดินเจดีย์เหลยเฟิง ข้าก็รู้มาจากอีกภารกิจหนึ่ง และในภารกิจนั้น แกงหมูน้ำมันพริกก็ ‘บังเอิญ’ เปิดเผยให้ข้ารู้ตอนคุยกัน!”

เมื่อได้ยินโหยวโหยวพูดอย่างนี้ ในหัวของเยี่ยเว่ยหมิงก็จัดระบบความคิดถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ได้คร่าวๆ แล้ว

“ถ้านางกำจัดเจ้าได้จริงๆ นางแน่ใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าจะได้หน้าไม้เทพจูเก๋อ”

“ในระหว่างทำภารกิจมีโอกาสดรอปได้หน้าไม้เทพจูเก๋อร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นหลังจากได้หน้าไม้เทพจูเก๋อมาแล้ว นี่ต่างหากคือช่วงเวลาอันตรายที่สุดของภารกิจ ก่อนที่จะได้มันมา ถ้าภารกิจล้มเหลวก็แค่ไม่ได้รางวัลภารกิจ แค่หมดสิทธิ์รับภารกิจนี้ซ้ำก็เท่านั้นเอง แต่หลังจากได้มาแล้ว ไม่ว่าจะทำหายหรือกลับไปส่งภารกิจไม่ทัน ก็ล้วนถูกมองว่าทรยศสำนัก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+