ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 7 โฉวป้ายอมจำนน

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 7 โฉวป้ายอมจำนน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 7 โฉวป้ายอมจำนน

“เกลือ!”

ปากก็ตอบคำถามของซานเย่ว์ไป แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับอาศัยโอกาสตอนที่โฉวป้าหลับตาเพื่อเลี่ยงอันตรายจากเกลือ ปาห่อกระดาษออกไปอีกครั้ง โฉวป้าที่หลับตาอยู่ จึงทำได้เพียงฟังเสียงเพื่อจับทิศทาง แล้วจึงปัดห่อกระดาษแตกอีกครั้ง ผงสีแดงลอยฟุ้งเต็มท้องฟ้า

ไม่รอให้ซานเย่ว์ถาม เยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยปากอธิบายเอง “รอบนี้เป็นผงพริกป่น”

ตอนที่เป็นเกลือ โฉวป้าไม่กล้าลืมตา แน่นอนว่าพอเป็นพริกก็ยิ่งไม่กล้า และในตอนนี้ ซานเย่ว์ก็เลียนแบบเยี่ยเว่ยหมิง ปาห่อกระดาษไปยังโฉวป้า หลังจากมันถูกปัดจนแตก กลับเป็นเกล็ดสีดำลอยฟุ้งขึ้นมา พอตกลงบนบาดแผลของเขา กลับไม่ได้สร้างดาเมจเพิ่มเติมแก่โฉวป้า

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นดังนั้นก็อดถามขึ้นอย่างสงสัยไม่ได้ “ห่อนี้ของเจ้าคืออะไร”

“ผงยี่หร่า…” ซานเย่ว์แลบลิ้น

น้องสาว นี่เธออยากกินเนื้อแพะย่างสินะ?

ขาซ้ายแขนขวาใช้การไม่ได้ เหลือเพียงมือขวาเท่านั้นที่จะช่วยป้องกันการโจมตี อีกทั้งแผลใต้ซี่โครงก็ส่งผลให้โฉวป้าเชื่องช้าลง ในสถานการณ์เช่นนี้ โฉวป้าไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะต้านทานอาวุธลับของทั้งสองคนแล้ว หินตั๊กแตนบินและมีดบินร่วงหล่นลงใส่ตัวเขา แถบค่าพลังชีวิตเหนือศีรษะก็เห็นได้ชัดว่าลดลงอย่างรวดเร็ว

มองดูพลังชีวิตของโฉวป้าเหลือยู่ไม่ถึง 100 แต้ม เยี่ยเว่ยหมิงกลับโบกมือห้ามซานเย่ว์ที่จะโจมตีต่อ แล้วเอ่ยปากถามโฉวป้าที่เหลือเลือดอยู่เพียงน้อยนิด “เจ้าเป็นคนฆ่าผู้เฒ่าหลี่ใช่หรือไม่”

“ที่แท้การตายของผู้เฒ่าหลี่มีร่องรอยของข้าอยู่อย่างนั้นหรือ” โฉวป้าที่เตรียมใจตายไว้แล้วยิ้มอย่างเศร้าสร้อย “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มีอยู่จริงด้วย โดนกรรมสนองนี่ไม่สนุกเลย!”

ไม่รอให้เยี่ยเว่ยหมิงถามต่อ โฉวป้าก็พูดขึ้น “เดิมทีข้าก็เป็นจอมยุทธในยุทธภพคนหนึ่ง แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อคนชั่วบนโลกนี้มีมากนัก ทั้งเด็กและคนแก่ในตระกูลข้าถูกพวกโจรภูเขาฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม หลังจากตามสืบอยู่หลายครั้งจึงได้รู้ว่า ที่แท้คนร้ายที่ฆ่าครอบครัวของข้าคือหัวหน้าค่ายดอกบัวผู้ลือนามแปดทิศหลินจื้อเพ่ย คนผู้นี้พลังยุทธ์สูงส่ง เคล็ดกระบี่ไร้เทียมทาน ตัวข้านั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ทำได้เพียงปลีกตัวออกมาเป็นฝ่ายศัตรู แฝงตัวเข้าไปในเขาดอกบัว เพื่อค้นหาโอกาสในการแก้แค้น…

ดีที่หลินจื้อเพ่ยนั่นทำชั่วไว้มาก เลยจำไม่ได้ว่าตัวเองสังหารใครไปบ้าง ครั้นเมื่อข้าขึ้นไปบนภูเขาก็ไม่ได้เคลือบแคลงสงสัย ข้าเข้าปวารณาตนที่ค่ายดอกบัว สังหารผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้เลยว่าได้กระทำชั่วไปมากมายเพียงใด ในที่สุดก็ได้เข้าร่วมในตำแหน่งเจ้าบ้านสามของค่ายภูเขา

ครั้งหนึ่งในงานฉลอง ข้าคิดว่าโอกาสคงมาถึงแล้ว จึงได้ลงมือลอบโจมตี แต่คิดไม่ถึงว่าโจรชั่วนั่นจะมีฝีมือร้ายกาจถึงเพียงนี้ แม้ข้าจะใช้การลอบโจมตี แต่ก็ยังต่อกรกับเขาไม่ได้อยู่ดี

โชคดีที่ตอนนั้นเขาได้รับบาดเจ็บ ข้าจึงฆ่าคนมาตลอดทาง หลังจากหนีออกมาจากภูเขา ข้าได้พบกับท่านผู้เฒ่าอวี้เซียวจื่อสหายเก่า หรือที่พวกเจ้าเรียกกันว่าผู้เฒ่าหลี่ จึงไปขอความช่วยเหลือ ผู้เฒ่าอวี้เซียวจื่อดีกับข้ามาก ไม่เพียงหายามารักษาข้า แต่ยังช่วยข้าหาที่ซ่อนตัว ทั้งยังคอยส่งข้าวให้ข้ากินอีกด้วย

…แต่พอข้าได้รู้ว่าเขามีตำราลับเคล็ดกระบี่บู๊ลิ้มนอกรีตอยู่เล่มหนึ่ง ก็เกิดความคิดชั่วร้ายขึ้น! ข้ารู้ว่านี่เป็นความหวังเดียวในการแก้แค้นของข้า ข้าจึงแอบกลับไปที่หมู่บ้านตู้คัง โกหกว่าบาดแผลดูเหมือนจะแย่ลง และอาศัยตอนที่ผู้เฒ่าอวี้เซียวจื่อกำลังเดินปราณช่วยรักษาข้าอยู่นั้น ลอบทำร้ายเขาจนถึงแก่ความตาย พร้อมจัดฉากให้เหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย”

[ติ๊ง! คุณสืบหาความจริงเรื่องการตายของผู้เฒ่าหลี่สำเร็จ

สำเร็จภารกิจ ‘ผู้เฒ่าหลี่ที่ฆ่าตัวตาย’

ได้รับรางวัลภารกิจ:

ค่าประสบการณ์ 1000 แต้ม

ค่าตบะ 100 แต้ม

เงิน 50 เหรียญเงิน]

เมื่อได้รับแจ้งเตือนจากระบบ เยี่ยเว่ยหมิงถามซานเย่ว์ในช่องทีมด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ภารกิจสำเร็จแล้วหรือ”

“สำเร็จแล้ว เจ้าเก่งจริงๆ!”

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มเล็กน้อย แล้วฟังโฉวป้าพูดต่อ “คนเลวที่ตอบแทนบุณคุณด้วยความโหดเหี้ยมเช่นข้า มีจุดจบเช่นนี้ก็นับว่ากรรมตามสนองแล้ว เพียงแค่ยังเคียดแค้นไอ้โจรชั่วหลินจื้อเพ่ยที่ยัง…เอื้อก!”

ไม่รอให้โฉวป้าพูดจบ กระบี่ชิงเฟิงในมือเยี่ยเว่ยหมิงก็เสียบทะลุลำคอของเขา

[ติ๊ง! สังหาร BOSS โฉวป้า เลเวล 25 สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 3000 แต้ม ค่าตบะ 300 แต้ม]

[ติ๊ง! คุณสังหารมหาโจรลำน้ำโฉวป้าสำเร็จ ทำภารกิจ “ตามจับโฉวป้า” สำเร็จเกินเป้าหมาย

ได้รับรางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 5000 แต้ม ค่าตบะ 400 แต้ม เงิน 50 เหรียญเงิน]

[ประกาศจากระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพเยี่ยเว่ยหมิง ผู้เล่นมือใหม่ซานเย่ว์ สังหาร BOSS โฉวป้าเลเวล 25 สำเร็จในครั้งแรก

ได้รับรางวัลสังหารครั้งแรก: ชื่อเสียงยุทธภพ 400 แต้ม ค่าผลงานสำนัก 400 แต้ม]

[ประกาศจากระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพเยี่ยเว่ยหมิง…]

……

ประกาศจากระบบแสดงรวดเดียวสามรอบ ได้ยินเพียงความตื่นเต้นของสาวน้อยซานเย่ว์

ในที่สุดก็ได้ออกทีวีแล้ว!

แต่ยิ่งไปกว่าการได้ออกทีวีอะไรนั่นแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงกลับสนใจการเปลี่ยนแปลงความสามารถของตัวเขามากกว่า

เพียงครู่เดียว ค่าประสบการณ์ก็เพิ่มสูงถึง 9000 แต้ม ทำให้เลเวลของเยี่ยเว่ยหมิงเพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 13 แถมยังรู้สึกได้ทันทีเลยว่า ความสามารถของตัวเองดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วน

รางวัลสำเร็จภารกิจเกินเป้าหมายมีโบนัสเพิ่มให้อีก พอเพิ่มก็ให้เยอะขนาดนี้เลย? แต่ว่ารางวัลอื่นๆ ทั้งหมดล้วนแต่ได้เป็นสองเท่า ทำไมถึงมีเพียงรางวัลเงินเท่านั้นที่ลดลงครึ่งหนึ่งล่ะ

แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ปล่อยวางได้

ประกาศจับโฉวป้า นอกจากภายในสำนักมือปราบเทพแล้ว ก็ยังปิดประกาศไว้อีกหลายที่ ผู้เล่นทุกคนรับภารกิจได้ ในสถานการณ์นี้ เมื่อรวมกลุ่มกันสองคนสังหารโฉวป้า เงินรางวัลย่อมต้องหารเท่ากัน ไม่ใช่จะได้เต็มจำนวนเหมือนกันทั้งคู่

ระบบงกสุดๆ ไปเลย ไม่ยอมให้ผู้เล่นมีโอกาสกอบโกยโดยเด็ดขาด

แต่ด้วยความตื่นเต้นที่ได้ออกทีวีเป็นครั้งแรก ซานเย่ว์ก็พลันคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงถามขึ้นมาด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเล็กน้อย “จะว่าไป เมื่อกี้ทำไมเจ้าต้องรีบฆ่าเขาด้วย คนเขาเล่าเรื่องให้ฟังอยู่ดีๆ ออกจะสนุก”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินก็ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจนัก “ในเมื่อเขายอมรับความผิดทั้งหมดที่ตัวเองก่อแล้ว คำพูดหลังจากนั้นก็ไม่มีค่าอะไรอีก รีบฆ่าเขาให้เสร็จ เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้”

“เขาพูดไม่ผิดสักนิด” จู่ๆ ก็มีเสียงแหบพร่าไม่ชวนฟังดังขึ้น จากนั้นทั้งสองก็เห็นเงาคนวูบหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้า ชายชุดดำคนหนึ่งพลันปรากฏตัวอยู่หน้าพวกเขาทั้งสอง

ชายคนนี้กลับสวมใส่ชุดเฟยอวี๋ แต่ดูจากการตัดเย็บแล้วเห็นได้ชัดว่าระดับขั้นสูงกว่าชุดที่เยี่ยเว่ยหมิงใส่อยู่ หมวกคลุมศีรษะ หน้ากากเหล็กปิดหน้า ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัว ราวกับเป็นผีร้ายที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก ทำให้ผู้คนอดรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้!

มองดูชายหน้ากากเหล็กที่จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวตรงหน้าด้วยความระแวดระวัง เยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยถาม “ใต้เท้าคือ?”

“อดีตผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ปัจจุบันรองหัวหน้าสำนักมือปราบเทพโหยวจิ้น”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินถึงกับตาเป็นประกาย รีบเอ่ยต่อด้วยความกระตือรือร้น “ที่แท้ก็เป็นใต้เท้าโหยว ที่จู่ๆ ท่านมาปรากฏตัวเช่นนี้ คงเป็นเพราะข้าทำภารกิจในครั้งนี้ได้ดีมาก เลยตั้งใจมาแจกรางวัลให้เป็นพิเศษใช่หรือไม่”

โหยวจิ้นแค่นหัวเราะแล้วถามกลับ “ปากมันลิ้นลื่น รางวัลของเจ้าไม่ใช่ว่าถูกคูณสองไปหมดแล้วหรือ”

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มแห้ง ไม่กล้าพูดต่อ

ในตอนนี้เอง โหยวจิ้นก็เปิดปากเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เดิมทีด้วยความสามารถของโฉวป้านั้น ถือว่ายังไม่ใช่คนที่พวกเจ้าจะมากำราบได้ ข้ารีบมาที่หมู่บ้านตู้คังเพื่อมาจับโจรชั่วนี่ด้วยตัวเอง เพียงแต่ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มเช่นเจ้าจะใช้วิธีสกปรกสำเร็จภารกิจที่เดิมทีไม่น่าจะทำได้ ก็ไม่เลว พวกเราสำนักมือปราบเทพต้องการคนมีความสามารถเช่นเจ้านี่แหละ”

เดิมทีวิธีที่ถูกต้องที่ใช้ทำภารกิจนี้ก็คือ การเรียกโฉวป้าออกมาสอบถามกันต่อหน้า ทำให้เขาหลุดพูดว่าตัวเองเป็นคนสังหารผู้เฒ่าหลี่ จากนั้นค่อยให้โหยวจิ้นมาปิดฉาก?

หากเป็นเช่นนี้ล่ะก็ ภารกิจสามดาวทั้งสองนี้ก็ถือว่าตั้งค่ามาได้สมเหตุสมผล

โหยวจิ้นเบนสายตาไปที่ซานเย่ว์ที่อยู่อีกทางหนึ่ง “สาวน้อย ก่อนหน้านี้ข้าเคยแอบสังเกตการณ์อยู่ จึงพบว่า แม้ผลงานของเจ้าจะยังเทียบเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ แต่ก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว นี่คือรางวัลเพิ่มเติมที่เจ้าทำภารกิจสำเร็จ หากสนใจล่ะก็ ไปรายงานตัวที่สำนักมือปราบเทพ ณ นครหลวงตะวันออก เมืองเปี้ยนเหลียงได้นะ” ขณะที่พูดอยู่นั้น โหยวจิ้นพลันนำป้ายอาญาสิทธิ์สำหรับเข้าสำนักมือปราบเทพหนึ่งแผ่นวางไว้บนมือซานเย่ว์ด้วย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 7 โฉวป้ายอมจำนน

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 7 โฉวป้ายอมจำนน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 7 โฉวป้ายอมจำนน

“เกลือ!”

ปากก็ตอบคำถามของซานเย่ว์ไป แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับอาศัยโอกาสตอนที่โฉวป้าหลับตาเพื่อเลี่ยงอันตรายจากเกลือ ปาห่อกระดาษออกไปอีกครั้ง โฉวป้าที่หลับตาอยู่ จึงทำได้เพียงฟังเสียงเพื่อจับทิศทาง แล้วจึงปัดห่อกระดาษแตกอีกครั้ง ผงสีแดงลอยฟุ้งเต็มท้องฟ้า

ไม่รอให้ซานเย่ว์ถาม เยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยปากอธิบายเอง “รอบนี้เป็นผงพริกป่น”

ตอนที่เป็นเกลือ โฉวป้าไม่กล้าลืมตา แน่นอนว่าพอเป็นพริกก็ยิ่งไม่กล้า และในตอนนี้ ซานเย่ว์ก็เลียนแบบเยี่ยเว่ยหมิง ปาห่อกระดาษไปยังโฉวป้า หลังจากมันถูกปัดจนแตก กลับเป็นเกล็ดสีดำลอยฟุ้งขึ้นมา พอตกลงบนบาดแผลของเขา กลับไม่ได้สร้างดาเมจเพิ่มเติมแก่โฉวป้า

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นดังนั้นก็อดถามขึ้นอย่างสงสัยไม่ได้ “ห่อนี้ของเจ้าคืออะไร”

“ผงยี่หร่า…” ซานเย่ว์แลบลิ้น

น้องสาว นี่เธออยากกินเนื้อแพะย่างสินะ?

ขาซ้ายแขนขวาใช้การไม่ได้ เหลือเพียงมือขวาเท่านั้นที่จะช่วยป้องกันการโจมตี อีกทั้งแผลใต้ซี่โครงก็ส่งผลให้โฉวป้าเชื่องช้าลง ในสถานการณ์เช่นนี้ โฉวป้าไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะต้านทานอาวุธลับของทั้งสองคนแล้ว หินตั๊กแตนบินและมีดบินร่วงหล่นลงใส่ตัวเขา แถบค่าพลังชีวิตเหนือศีรษะก็เห็นได้ชัดว่าลดลงอย่างรวดเร็ว

มองดูพลังชีวิตของโฉวป้าเหลือยู่ไม่ถึง 100 แต้ม เยี่ยเว่ยหมิงกลับโบกมือห้ามซานเย่ว์ที่จะโจมตีต่อ แล้วเอ่ยปากถามโฉวป้าที่เหลือเลือดอยู่เพียงน้อยนิด “เจ้าเป็นคนฆ่าผู้เฒ่าหลี่ใช่หรือไม่”

“ที่แท้การตายของผู้เฒ่าหลี่มีร่องรอยของข้าอยู่อย่างนั้นหรือ” โฉวป้าที่เตรียมใจตายไว้แล้วยิ้มอย่างเศร้าสร้อย “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มีอยู่จริงด้วย โดนกรรมสนองนี่ไม่สนุกเลย!”

ไม่รอให้เยี่ยเว่ยหมิงถามต่อ โฉวป้าก็พูดขึ้น “เดิมทีข้าก็เป็นจอมยุทธในยุทธภพคนหนึ่ง แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อคนชั่วบนโลกนี้มีมากนัก ทั้งเด็กและคนแก่ในตระกูลข้าถูกพวกโจรภูเขาฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม หลังจากตามสืบอยู่หลายครั้งจึงได้รู้ว่า ที่แท้คนร้ายที่ฆ่าครอบครัวของข้าคือหัวหน้าค่ายดอกบัวผู้ลือนามแปดทิศหลินจื้อเพ่ย คนผู้นี้พลังยุทธ์สูงส่ง เคล็ดกระบี่ไร้เทียมทาน ตัวข้านั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ทำได้เพียงปลีกตัวออกมาเป็นฝ่ายศัตรู แฝงตัวเข้าไปในเขาดอกบัว เพื่อค้นหาโอกาสในการแก้แค้น…

ดีที่หลินจื้อเพ่ยนั่นทำชั่วไว้มาก เลยจำไม่ได้ว่าตัวเองสังหารใครไปบ้าง ครั้นเมื่อข้าขึ้นไปบนภูเขาก็ไม่ได้เคลือบแคลงสงสัย ข้าเข้าปวารณาตนที่ค่ายดอกบัว สังหารผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้เลยว่าได้กระทำชั่วไปมากมายเพียงใด ในที่สุดก็ได้เข้าร่วมในตำแหน่งเจ้าบ้านสามของค่ายภูเขา

ครั้งหนึ่งในงานฉลอง ข้าคิดว่าโอกาสคงมาถึงแล้ว จึงได้ลงมือลอบโจมตี แต่คิดไม่ถึงว่าโจรชั่วนั่นจะมีฝีมือร้ายกาจถึงเพียงนี้ แม้ข้าจะใช้การลอบโจมตี แต่ก็ยังต่อกรกับเขาไม่ได้อยู่ดี

โชคดีที่ตอนนั้นเขาได้รับบาดเจ็บ ข้าจึงฆ่าคนมาตลอดทาง หลังจากหนีออกมาจากภูเขา ข้าได้พบกับท่านผู้เฒ่าอวี้เซียวจื่อสหายเก่า หรือที่พวกเจ้าเรียกกันว่าผู้เฒ่าหลี่ จึงไปขอความช่วยเหลือ ผู้เฒ่าอวี้เซียวจื่อดีกับข้ามาก ไม่เพียงหายามารักษาข้า แต่ยังช่วยข้าหาที่ซ่อนตัว ทั้งยังคอยส่งข้าวให้ข้ากินอีกด้วย

…แต่พอข้าได้รู้ว่าเขามีตำราลับเคล็ดกระบี่บู๊ลิ้มนอกรีตอยู่เล่มหนึ่ง ก็เกิดความคิดชั่วร้ายขึ้น! ข้ารู้ว่านี่เป็นความหวังเดียวในการแก้แค้นของข้า ข้าจึงแอบกลับไปที่หมู่บ้านตู้คัง โกหกว่าบาดแผลดูเหมือนจะแย่ลง และอาศัยตอนที่ผู้เฒ่าอวี้เซียวจื่อกำลังเดินปราณช่วยรักษาข้าอยู่นั้น ลอบทำร้ายเขาจนถึงแก่ความตาย พร้อมจัดฉากให้เหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย”

[ติ๊ง! คุณสืบหาความจริงเรื่องการตายของผู้เฒ่าหลี่สำเร็จ

สำเร็จภารกิจ ‘ผู้เฒ่าหลี่ที่ฆ่าตัวตาย’

ได้รับรางวัลภารกิจ:

ค่าประสบการณ์ 1000 แต้ม

ค่าตบะ 100 แต้ม

เงิน 50 เหรียญเงิน]

เมื่อได้รับแจ้งเตือนจากระบบ เยี่ยเว่ยหมิงถามซานเย่ว์ในช่องทีมด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ภารกิจสำเร็จแล้วหรือ”

“สำเร็จแล้ว เจ้าเก่งจริงๆ!”

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มเล็กน้อย แล้วฟังโฉวป้าพูดต่อ “คนเลวที่ตอบแทนบุณคุณด้วยความโหดเหี้ยมเช่นข้า มีจุดจบเช่นนี้ก็นับว่ากรรมตามสนองแล้ว เพียงแค่ยังเคียดแค้นไอ้โจรชั่วหลินจื้อเพ่ยที่ยัง…เอื้อก!”

ไม่รอให้โฉวป้าพูดจบ กระบี่ชิงเฟิงในมือเยี่ยเว่ยหมิงก็เสียบทะลุลำคอของเขา

[ติ๊ง! สังหาร BOSS โฉวป้า เลเวล 25 สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 3000 แต้ม ค่าตบะ 300 แต้ม]

[ติ๊ง! คุณสังหารมหาโจรลำน้ำโฉวป้าสำเร็จ ทำภารกิจ “ตามจับโฉวป้า” สำเร็จเกินเป้าหมาย

ได้รับรางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 5000 แต้ม ค่าตบะ 400 แต้ม เงิน 50 เหรียญเงิน]

[ประกาศจากระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพเยี่ยเว่ยหมิง ผู้เล่นมือใหม่ซานเย่ว์ สังหาร BOSS โฉวป้าเลเวล 25 สำเร็จในครั้งแรก

ได้รับรางวัลสังหารครั้งแรก: ชื่อเสียงยุทธภพ 400 แต้ม ค่าผลงานสำนัก 400 แต้ม]

[ประกาศจากระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพเยี่ยเว่ยหมิง…]

……

ประกาศจากระบบแสดงรวดเดียวสามรอบ ได้ยินเพียงความตื่นเต้นของสาวน้อยซานเย่ว์

ในที่สุดก็ได้ออกทีวีแล้ว!

แต่ยิ่งไปกว่าการได้ออกทีวีอะไรนั่นแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงกลับสนใจการเปลี่ยนแปลงความสามารถของตัวเขามากกว่า

เพียงครู่เดียว ค่าประสบการณ์ก็เพิ่มสูงถึง 9000 แต้ม ทำให้เลเวลของเยี่ยเว่ยหมิงเพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 13 แถมยังรู้สึกได้ทันทีเลยว่า ความสามารถของตัวเองดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วน

รางวัลสำเร็จภารกิจเกินเป้าหมายมีโบนัสเพิ่มให้อีก พอเพิ่มก็ให้เยอะขนาดนี้เลย? แต่ว่ารางวัลอื่นๆ ทั้งหมดล้วนแต่ได้เป็นสองเท่า ทำไมถึงมีเพียงรางวัลเงินเท่านั้นที่ลดลงครึ่งหนึ่งล่ะ

แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ปล่อยวางได้

ประกาศจับโฉวป้า นอกจากภายในสำนักมือปราบเทพแล้ว ก็ยังปิดประกาศไว้อีกหลายที่ ผู้เล่นทุกคนรับภารกิจได้ ในสถานการณ์นี้ เมื่อรวมกลุ่มกันสองคนสังหารโฉวป้า เงินรางวัลย่อมต้องหารเท่ากัน ไม่ใช่จะได้เต็มจำนวนเหมือนกันทั้งคู่

ระบบงกสุดๆ ไปเลย ไม่ยอมให้ผู้เล่นมีโอกาสกอบโกยโดยเด็ดขาด

แต่ด้วยความตื่นเต้นที่ได้ออกทีวีเป็นครั้งแรก ซานเย่ว์ก็พลันคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงถามขึ้นมาด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเล็กน้อย “จะว่าไป เมื่อกี้ทำไมเจ้าต้องรีบฆ่าเขาด้วย คนเขาเล่าเรื่องให้ฟังอยู่ดีๆ ออกจะสนุก”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินก็ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจนัก “ในเมื่อเขายอมรับความผิดทั้งหมดที่ตัวเองก่อแล้ว คำพูดหลังจากนั้นก็ไม่มีค่าอะไรอีก รีบฆ่าเขาให้เสร็จ เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้”

“เขาพูดไม่ผิดสักนิด” จู่ๆ ก็มีเสียงแหบพร่าไม่ชวนฟังดังขึ้น จากนั้นทั้งสองก็เห็นเงาคนวูบหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้า ชายชุดดำคนหนึ่งพลันปรากฏตัวอยู่หน้าพวกเขาทั้งสอง

ชายคนนี้กลับสวมใส่ชุดเฟยอวี๋ แต่ดูจากการตัดเย็บแล้วเห็นได้ชัดว่าระดับขั้นสูงกว่าชุดที่เยี่ยเว่ยหมิงใส่อยู่ หมวกคลุมศีรษะ หน้ากากเหล็กปิดหน้า ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัว ราวกับเป็นผีร้ายที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก ทำให้ผู้คนอดรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้!

มองดูชายหน้ากากเหล็กที่จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวตรงหน้าด้วยความระแวดระวัง เยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยถาม “ใต้เท้าคือ?”

“อดีตผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ปัจจุบันรองหัวหน้าสำนักมือปราบเทพโหยวจิ้น”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินถึงกับตาเป็นประกาย รีบเอ่ยต่อด้วยความกระตือรือร้น “ที่แท้ก็เป็นใต้เท้าโหยว ที่จู่ๆ ท่านมาปรากฏตัวเช่นนี้ คงเป็นเพราะข้าทำภารกิจในครั้งนี้ได้ดีมาก เลยตั้งใจมาแจกรางวัลให้เป็นพิเศษใช่หรือไม่”

โหยวจิ้นแค่นหัวเราะแล้วถามกลับ “ปากมันลิ้นลื่น รางวัลของเจ้าไม่ใช่ว่าถูกคูณสองไปหมดแล้วหรือ”

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มแห้ง ไม่กล้าพูดต่อ

ในตอนนี้เอง โหยวจิ้นก็เปิดปากเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เดิมทีด้วยความสามารถของโฉวป้านั้น ถือว่ายังไม่ใช่คนที่พวกเจ้าจะมากำราบได้ ข้ารีบมาที่หมู่บ้านตู้คังเพื่อมาจับโจรชั่วนี่ด้วยตัวเอง เพียงแต่ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มเช่นเจ้าจะใช้วิธีสกปรกสำเร็จภารกิจที่เดิมทีไม่น่าจะทำได้ ก็ไม่เลว พวกเราสำนักมือปราบเทพต้องการคนมีความสามารถเช่นเจ้านี่แหละ”

เดิมทีวิธีที่ถูกต้องที่ใช้ทำภารกิจนี้ก็คือ การเรียกโฉวป้าออกมาสอบถามกันต่อหน้า ทำให้เขาหลุดพูดว่าตัวเองเป็นคนสังหารผู้เฒ่าหลี่ จากนั้นค่อยให้โหยวจิ้นมาปิดฉาก?

หากเป็นเช่นนี้ล่ะก็ ภารกิจสามดาวทั้งสองนี้ก็ถือว่าตั้งค่ามาได้สมเหตุสมผล

โหยวจิ้นเบนสายตาไปที่ซานเย่ว์ที่อยู่อีกทางหนึ่ง “สาวน้อย ก่อนหน้านี้ข้าเคยแอบสังเกตการณ์อยู่ จึงพบว่า แม้ผลงานของเจ้าจะยังเทียบเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ แต่ก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว นี่คือรางวัลเพิ่มเติมที่เจ้าทำภารกิจสำเร็จ หากสนใจล่ะก็ ไปรายงานตัวที่สำนักมือปราบเทพ ณ นครหลวงตะวันออก เมืองเปี้ยนเหลียงได้นะ” ขณะที่พูดอยู่นั้น โหยวจิ้นพลันนำป้ายอาญาสิทธิ์สำหรับเข้าสำนักมือปราบเทพหนึ่งแผ่นวางไว้บนมือซานเย่ว์ด้วย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+