ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 228 การตระหนักรู้ที่เจ็บปวด!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 228 การตระหนักรู้ที่เจ็บปวด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 228 การตระหนักรู้ที่เจ็บปวด!

ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในเกม ยอดฝีมือประเภทต่างๆ ที่เยี่ยเว่ยหมิงเจอมาก็มีไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่น หรือ NPC ก็ไม่เคยเห็นใครสู้จนสุดชีวิตขนาดนี้

เห็นว่าหลบกระบวนท่าไซซีกุมดวงใจของเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ ก็สู้ตายด้วยท่าคนผีร่วมวิถีเสียเลยอย่างนั้นหรือ

ต้องทราบว่าแม้หลวงจีนไว้ผมคนนี้จะเป็นเพียง NPC คนหนึ่ง แต่กลับมีสมองเหมือนกับผู้เล่น

ถึงขนาดรู้จักนำค่าสเตตัสของตัวเองมาเล่นลูกไม้แล้ว!

ยามเผชิญหน้ากับกระบวนท่านี้ ความรู้สึกของเยี่ยเว่ยหมิงกลับแปลกเป็นพิเศษ

คนผีร่วมวิถี แต่ไหนแต่ไรมาล้วนเป็นเขาที่ใช้สู้กับคนอื่น เคยถูกคนอื่นใช้วิธีการนี้ด้วยซึ่งๆ หน้าเสียที่ไหน

พอเห็นว่าฟ่านเหยาเล่นบทโหดขนาดนี้ เยี่ยเว่ยหมิงนอกจากแอบตะลึงในความโหดของเจ้าหมอนี่แล้ว ก็ยังใช้งานปราณแท้ป้องกันตัวของตัวเองให้ถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ทัน พร้อมทั้งบิดตัวหลบจุดสำคัญตรงหัวใจ แต่กลับถูกอีกฝ่ายแทงใต้รักแร้หนึ่งกระบี่

-6606!

ภายใต้การโจมตีของกระบี่นี้ ไม่เพียงแค่ปราณแท้ป้องกันตัวของเยี่ยเว่ยหมิงที่ถูกแทงทะลุ แต่ค่าพลังชีวิตของเขาก็หายไปแล้วเกือบครึ่ง!

ในสายตาของคนอื่น ฉากนี้มีความหมายแตกต่างออกไปโดยสมบูรณ์

ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดมาตลอดว่าเยี่ยเว่ยหมิงมีแค่พลังโจมตีสูง แต่หลังจากเห็นเขาถูกโจมตีหนึ่งครั้ง ก็อดเดาะลิ้นตกตะลึงกับค่าพลังชีวิตของเขาไม่ได้!

ค่าพลังชีวิต 6600 กว่า ถ้าเป็นผู้เล่นที่ฝีมืออ่อนด้อยกว่านี้สักหน่อย คงเกิดผลปลิดชีพไปแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอื่นเลย

ต่อให้เป็นพวกยอดฝีมือที่อยู่ตรงนี้ ศักยภาพและอุปกรณ์ไม่ได้อ่อนด้อย หากถูกโจมตีแบบนี้สักครั้ง แม้จะไม่ถึงขั้นเกิดผลปลิดชีพคาที่ แต่ค่าพลังชีวิตที่เหลืออยู่ขีดเดียวกลับเกิดขึ้นแน่นอน

แต่เยี่ยเว่ยหมิงคนนี้ ถูกโจมตีจนค่าพลังชีวิตหายไปหกพันหกร้อยกว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะยังเหลือค่าพลังชีวิตอยู่เกินครึ่ง!

การโจมตีทรงพลัง ค่าพลังชีวิตยังสูงอีก บวกกับกระบวนท่าอันยอดเยี่ยม

อย่าบอกนะว่าเจ้าหมอนี่ไม่มีจุดอ่อนเลย

ป้องกัน?

เหลวไหล!

บอสคนหนึ่งที่เลเวลหกสิบห้า ใช้กระบวนท่าโหดอย่าง ‘คนผีร่วมวิถี’ ผลปรากฏว่าพรากพลังชีวิตของเขาไปได้เพียงหกพันหกร้อยกว่าเท่านั้น ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้เล่นคนอื่น ก็ไม่กล้าพูดเช่นกันว่าตัวเองมีพลังป้องกันสูงกว่าเยี่ยเว่ยหมิง!

พลังโจมตีสูง ป้องกันสูง พลังชีวิตสูง ตกลงว่าเจ้าหมอนี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่

ตกลงว่าเจ้า หรือหลวงจีนไว้ผมกันแน่ที่เป็น BOSS

พอนึกถึงตรงนี้ ทุกคนก็มองไปที่หลวงจีนไว้ผมอีก

เมื่อเห็นขีดพลังชีวิตสองแสนห้าหมื่นเหนือศีรษะเขา…ก็ได้ คนนี้สิ BOSS ตัวจริง

แต่คำถามก็คือ หลวงจีนไว้ผมคนนี้มีเลเวลหกสิบห้า เยี่ยเว่ยหมิงเป็นผู้เล่นคนหนึ่ง อย่างน้อยก็น่าจะเลเวลสามสิบแล้ว

ดังนั้นดูจากสัดส่วนค่าพลังชีวิตและดาเมจของสองคนนี้ ถ้ารอให้เยี่ยเว่ยหมิงถึงเลเวลหกสิบห้า แค่ยืนตบบอสอยู่กับที่ก็จะชนะแล้วอย่างนั้นหรือ

แต่ในความเป็นจริง ตอนที่ผู้เล่นคนอื่นคิดแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ทำแบบนี้ไปแล้ว

พอหลวงจีนไว้ผมแทงถูกใต้รักแร้ของเยี่ยเว่ยหมิง ก็รู้สึกทันทีว่ากระบี่ล้ำค่าในมือถูกกำลังภายในลึกลับบางอย่างพัวพันไว้ ทำให้กระบี่ล้ำค่าที่แทงใต้รักแร้เยี่ยเว่ยหมิงเหมือนจมลงโคลน ชั่วขณะนั้นเขาชักกลับมาไม่ได้เลย!

ความรู้สึกแบบนี้ หลวงจีนไว้ผมคุ้นเคยที่สุดแล้ว

นอกจาก ‘คนผีร่วมวิถี’ ที่เขาเพิ่งใช้ ในยุทธภพนี้ยังมีวิทยายุทธ์อื่นที่ทำให้เกิดผลแบบเดียวกันอยู่อีกหรือ

ตอนที่เพิ่งเกิดความประหลาดใจขึ้น หลวงจีนไว้ผมก็สัมผัสได้ว่ากำลังภายในที่เหมือนเส้นเหล็กไหลขึ้นมาจากคมกระบี่ จมเข้ามาในแขนและร่างกายครึ่งหนึ่งของเขา ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงทันที

วินาทีถัดมา ในที่สุดหลวงจีนไว้ผมก็ตัดสินได้แล้วว่าเคล็ดวิชาที่เยี่ยเว่ยหมิงใช้ก็คือคนผีร่วมวิถี

แต่ก็ไม่ทันแล้ว!

ขณะที่ใช้ร่างกายของตัวเองกักกระบี่ล้ำค่าของอีกฝ่ายไว้ เยี่ยเว่ยหมิงก็รีบดึงกระบี่แสงทองออกจากหัวใจของฟ่านเหยา กระบี่ออกมาพร้อมกับเลือดสีแดงสดสะดุดตา

จากนั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะไหวตัวทัน เขาก็ใช้กระบี่แสงทองแทงกลับเข้าไปบนบาดแผลเดิมอีกครั้ง

ฉึก!

ระหว่างที่ชักออกและเสียบเข้า เหนือศีรษะของหลวงจีนไว้ผมก็มีตัวเลขดาเมจจำนวนมหาศาลลอยขึ้นมาอีกครั้ง เจ็บจนร้องออกมาอย่างทนไม่ไหว “อา!”

-34567!

เป็นตัวเลขดาเมจห้าหลักอีกแล้ว ทั้งยังโหดกว่าก่อนหน้านี้ด้วย

ถึงอย่างไรก็เป็นเคล็ดกระบี่ระดับสูง ต่อให้เป็น ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เลเวลสิบ สัดส่วนโบนัสดาเมจก็ไม่มีทางเทียบกับ ‘คนผีร่วมวิถี’ ได้!

และเช่นเดียวกัน เมื่อโจมตีครั้งเดียวแล้วเกิดดาเมจแบบนี้ ก็อธิบายได้ว่าผลของเคล็ดจิต ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ที่เขาใช้เวลาคำนวณเลขไปนาทีกว่าก่อนหน้านี้ยังไม่หายไป การโจมตี ‘คนผีร่วมวิถี’ เป็นครั้งที่สองก็อยู่ในการคำนวณของเขาเช่นกัน!

เห็นฉากนี้ บรรดาคนที่มองอยู่ข้างๆ ก็พูดไม่ออกแล้ว!

ก่อนหน้านี้ พวกเขาแค่สมมุติว่าถ้ารอให้เยี่ยเว่ยหมิงถึงเลเวลหกสิบห้า จะยืนตบบอสที่อยู่ตรงหน้าเขาได้แล้ว

แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับใช้การปฏิบัติจริงตบหน้าพวกเขาแล้ว!

เยี่ยเว่ยหมิงเหมือนกำลังพูดว่า ข้ากล้าทำอย่างนั้นตั้งแต่ตอนนี้เลย!

สองกระบี่แลกหนึ่งกระบี่ เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าตัวเองไม่ขาดทุน

แต่ด้วยค่าพลังชีวิตของเขาตอนนี้ ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางใช้วิธีการเอาเลือดมาแลกเลือดอย่างถึงที่สุดกับบอสเลเวลหกสิบห้าได้ หลังจากแทงถูกครั้งที่สอง เขาก็ไม่ให้โอกาสฟ่านเหยาใช้คนผีร่วมวิถี เขาปล่อยกระบี่อย่างไม่ลังเล จะได้หลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายพัวพันเขาไว้แล้วใช้วิธีการโหดเหี้ยมกับเขา

“โจรกระจอก เอาเปรียบกันขนาดนี้แล้วยังคิดจะหนีอีกหรือ”

หลวงจีนไว้ผมเป็นใครกันล่ะ

เขาคือทูตขวาผู้สง่าผ่าเผยแห่งพรรคจรัส บรรดา NPC แห่งบู๊ลิ้มภาคกลางเรียกว่า ปีศาจแห่งพรรคมาร!

เขาไม่ใช่คนดีที่รังแกแล้วยังเก็บกั้นความโกรธเอาไว้ได้

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงดึงกระบี่ เขากลับอดทนความเจ็บตรงหัวใจ ก้าวตามไปหนึ่งก้าวทันที จากนั้นใช้มือซ้ายตบออกมา ตบไปที่หัวใจของเยี่ยเว่ยหมิง!

เมื่อเห็นหลวงจีนไว้ผมยังไม่ยอมเลิกรา เยี่ยเว่ยหมิงก็เผยสีหน้าตกใจกลัวอย่างยากจะปิดบัง ขณะที่เขาถอยหลัง มือขวาของเขาก็คว้าด้ามกระบี่แสงทองที่ก่อนหน้านี้เคยปล่อยออกอีกครั้ง ท่าทางเหมือนอยากจะชักกลับมาป้องกันตัวเอง

ส่วนมือซ้ายก็ตั้งรับฝ่ามือของฟ่านเหยาพอเป็นพิธี เหมือนจะป้องกันวิชาหมัดเท้าของอีกฝ่ายไว้ชั่วคราวเพื่อถ่วงเวลาให้ตัวเองชักกระบี่ออกมา

เมื่อเห็นว่าเยี่ยเว่ยหมิงส่อแววว่าจะแพ้ อวิ๋นหวาซั่งเซียนและศัตรูคนอื่นๆ ที่เป็นผู้เล่นย่อมดีใจมาก แต่บรรดาเพื่อนร่วมทีมของเยี่ยเว่ยหมิงไม่มีใครร้อนใจแทนเขาสักคน

น้องดาบถึงขั้นแอบเห็นใจหลวงจีนไว้ผมที่เป็นศัตรูอยู่ลึกๆ

เพราะทุกครั้งที่เยี่ยเว่ยหมิงเผยความอ่อนแอ แสดงสีหน้าน่าสงสารและสิ้นหวังแบบนี้ออกมา ก็แสดงว่าศัตรูของเขากำลังจะดวงซวยแล้ว

สำหรับจุดนี้ น้องดาบรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง ไม่เคลือบแคลงแม้แต่น้อย

เป็นการตระหนักรู้ที่เจ็บปวด!

ส่วนฟ่านเหยาที่ได้สัมผัสกับเยี่ยเว่ยหมิงครั้งแรก ก็ย่อมไม่ได้ตระหนักรู้อย่างลึกซึ้งเท่าน้องดาบ ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะบอสเวอร์ชั่นถูกตอนแล้วในโหมดภารกิจ เขาก็ตระหนักรู้อะไรบางอย่างแล้วเช่นกัน

ขณะที่มองเยี่ยเว่ยหมิงรับฝ่ามือของเขา มุมปากก็เผยรอยยิ้มน่าเวทนาทันที กำลังภายในบนหมัดเพิ่มขึ้นจากเศษส่วนเป็นสิบส่วน ตบลงไปบนฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิงอย่างแรง

พรึ่บ!

“อา!…”

ภายใต้การโจมตีนี้ เหนือศีรษะของเยี่ยเว่ยหมิงมีเลขดาเมจ ‘-1364’ ลอยขึ้นมา แต่วินาทีถัดมา หลวงจีนไว้ผมคู่ต่อสู้ของเขากลับจมหายไปในพลังฝ่ามือรูปมังกรที่มีพลังสิบส่วนแล้ว

-21234!

ภายใต้การโจมตีนี้ แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะถูกคริติคอลดามเมจจนพลังชีวิตหายไปอีก แต่ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ เลเวลเต็มของเขากลับสะท้อนกลับดาเมจฝ่ามือของอีกฝ่ายสามสิบเปอร์เซ็นต์ กอปรกับส่งกำลังภายในทั้งหมดของตัวเองไปทักทายบนตัวหลวงจีนไว้ผมด้วย

กอปรกับตอนนี้ยังมีผลจาก ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ จึงสร้างดาเมจจำนวนมหาศาลย้อนกลับไปให้ฟ่านเหยาได้โดยตรง!

ภายใต้การโจมตีนี้ ค่าพลังชีวิตของเยี่ยเว่ยหมิงลดลงอีกครั้ง แต่เส้นชีพจรบนแขนของฟ่านเหยากลับสะเทือนจนบาดเจ็บหลายเส้น ภายในเวลาสั้นๆ แขนทั้งแขนติดสถานะหมดแรง!

ภายใต้การต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ค่าพลังชีวิตของฟ่านเหยาถูกเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีทิ้งไปแล้วหนึ่งในสามส่วน แต่พลังชีวิตของเยี่ยเว่ยหมิงกลับลดลงเกินครึ่ง เหลืออยู่ประมาณสองส่วนจากห้าส่วนเท่านั้น

แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับทำลายแขนข้างหนึ่งของฟ่านเหยาได้สำเร็จ จึงถือว่าไม่ขาดทุน

มิหนำซ้ำ การโจมตีของเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น!

ตอนที่ทั้งสองต่างคนต่างสะเทือนถอยหลังเพราะพลังฝ่ามือ ฟ่านเหยาที่บาดเจ็บหนักกว่าก็ตกอยู่ในสถานะแช่แข็ง เยี่ยเว่ยหมิงกลับฉวยโอกาสนี้พลิกข้อมือดีดลูกดีดเหล็กออกไป

แกร๊ง!

ครั้งนี้ เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้เล็งไปที่จุดสำคัญของอีกฝ่ายเพื่อพรากพลังชีวิต แต่ยิงไปบนกระดูกบ่าข้างขวาของฟ่านเหยาอย่างแม่นยำ

ตอนนี้ปราณแท้ป้องกันตัวของหลวงจีนไว้ผมเพิ่งจะถูกเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีแตกกระจาย ทำให้ป้องกันไม่ทัน ถูกโจมตีคาที่แล้ว

-34315!

กระดูกแตก!

เพียงชั่วครู่ก่อนหน้านี้ แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะถูกคนผีร่วมวิถีของฟ่านเหยาโจมตีไปหนึ่งครั้ง แต่ตอนหลังกลายมาเป็นฝ่ายได้เปรียบทุกอย่างในระหว่างการต่อสู้

ตั้งแต่ต้นจนจบที่ต่อสู้กันมา หลวงจีนไว้ผมกลับถูกเยี่ยเว่ยหมิงใช้ท่าไซซีกุมดวงใจ คนผีร่วมวิถี มังกรซ่อนกบดาน ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์!

ไม่เพียงแค่ทำให้พลังชีวิตสองแสนห้าของบอสเลเวลสูงหายไปเกือบครึ่ง ทั้งยังทำให้แขนของเขาขาดไปสองข้างด้วย!

ต้องทราบว่าบนตัวของหลวงจีนไว้ผมมีแขนแค่สองข้างเท่านั้น!

ถ้านี่เป็นการสู้แบบตัวต่อตัว เยี่ยเว่ยหมิงก็ถึงขั้นมั่นใจว่าในการต่อสู้ตอนหลังจะได้เปรียบมากกว่านี้ และสุดท้ายก็จะได้ชัยชนะ สังหารบอสเลเวลหกสิบห้าด้วยกระบี่ให้ตายได้ในคราเดียว!

ในสายตาของคนนอก ตั้งแต่ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงลงมือจนถึงตอนนี้ ก็ควบคุมจังหวะการต่อสู้ไว้ในมือตัวเองอย่างดีมาตลอด รังแกบอสเลเวลหกสิบห้าจนหัวหมุน ถึงขั้นมีศักยภาพที่จะท้าสู้ตัวต่อตัวกับบอสเลเวลหกสิบห้าได้แล้ว

แต่ที่จริงแล้วตัวเองนั้นรู้เรื่องของตัวเองดี เยี่ยเว่ยหมิงรู้ชัดว่าตัวเองกับบอสเลเวลหกสิบห้าที่อยู่ตรงหน้าแตกต่างกันมากขนาดไหน

สาเหตุที่ก่อนหน้านี้โจมตีได้อย่างสวยงาม ถ้าจะบอกว่าเขามีศักยภาพแข็งแกร่ง ก็ไม่สู้บอกว่าผลจากเอฟเฟ็กต์ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ วิปริตเกินไป!

และการที่เขาใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ได้สำเร็จ สาเหตุหลักก็เป็นเพราะข้อจำกัดด้านฉากของภารกิจ ทำให้หลวงจีนไว้ผมไม่มีทางก้าวออกจากวัดร้างอู๋เจียนแห่งนี้ไปได้แม้แต่ก้าวเดียว

ไม่อย่างนั้นต่อให้ตอนนี้เขาลดผลของ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ให้เหลือประมาณหนึ่งนาทีครึ่ง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เคล็ดจิตนี้ต่อหน้าบอสเลเวลยี่หกสิบห้าได้อย่างราบรื่น

แต่ถ้าไม่ได้เปิดใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ เมื่ออยู่ต่อหน้าบอสเลเวลแบบนี้อย่างหลวงจีนไว้ผม เขาก็เป็นเพียงน้องชายคนหนึ่งเท่านั้น

นอกจากนี้ หลังจากผ่านการต่อสู้อันน่าหวาดเสียวตื่นเต้นเพียงชั่วพบหน้ากัน ผลจาก ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ของเขาก็สิ้นสุดลงแล้ว

ถ้าคิดจะต่อสู้ให้ได้อย่างงดงามต่อไปอีก เขาก็ต้องคำนวณเลขใหม่อีกรอบ

ทว่า ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงภายนอกดูยโสโอหัง แต่ร่างกายก็ยังถูกฝ่ามือของหลวงจีนไว้ผมจนกระเด็นถอยหลังและติดสถานะลอย ข้างหลังกลับมีร่างหนึ่งโผล่มาจากที่ลับ ตอนที่ทุกคนยังไหวตัวไม่ทัน อีกฝ่ายก็มาถึงข้างหลังของเยี่ยเว่ยหมิงและยื่นนิ้วข้างขวาออกมาจิ้มบนแผ่นหลังของเขาต่อเนื่องหลายครั้งแล้ว

-1317!

ตรึงร่าง!

สุดยอดทักษะของตระกูลต้วนแห่งแคว้นต้าหลี่…ดรรชนีเอกสุริยัน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 228 การตระหนักรู้ที่เจ็บปวด!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 228 การตระหนักรู้ที่เจ็บปวด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 228 การตระหนักรู้ที่เจ็บปวด!

ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในเกม ยอดฝีมือประเภทต่างๆ ที่เยี่ยเว่ยหมิงเจอมาก็มีไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่น หรือ NPC ก็ไม่เคยเห็นใครสู้จนสุดชีวิตขนาดนี้

เห็นว่าหลบกระบวนท่าไซซีกุมดวงใจของเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ ก็สู้ตายด้วยท่าคนผีร่วมวิถีเสียเลยอย่างนั้นหรือ

ต้องทราบว่าแม้หลวงจีนไว้ผมคนนี้จะเป็นเพียง NPC คนหนึ่ง แต่กลับมีสมองเหมือนกับผู้เล่น

ถึงขนาดรู้จักนำค่าสเตตัสของตัวเองมาเล่นลูกไม้แล้ว!

ยามเผชิญหน้ากับกระบวนท่านี้ ความรู้สึกของเยี่ยเว่ยหมิงกลับแปลกเป็นพิเศษ

คนผีร่วมวิถี แต่ไหนแต่ไรมาล้วนเป็นเขาที่ใช้สู้กับคนอื่น เคยถูกคนอื่นใช้วิธีการนี้ด้วยซึ่งๆ หน้าเสียที่ไหน

พอเห็นว่าฟ่านเหยาเล่นบทโหดขนาดนี้ เยี่ยเว่ยหมิงนอกจากแอบตะลึงในความโหดของเจ้าหมอนี่แล้ว ก็ยังใช้งานปราณแท้ป้องกันตัวของตัวเองให้ถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ทัน พร้อมทั้งบิดตัวหลบจุดสำคัญตรงหัวใจ แต่กลับถูกอีกฝ่ายแทงใต้รักแร้หนึ่งกระบี่

-6606!

ภายใต้การโจมตีของกระบี่นี้ ไม่เพียงแค่ปราณแท้ป้องกันตัวของเยี่ยเว่ยหมิงที่ถูกแทงทะลุ แต่ค่าพลังชีวิตของเขาก็หายไปแล้วเกือบครึ่ง!

ในสายตาของคนอื่น ฉากนี้มีความหมายแตกต่างออกไปโดยสมบูรณ์

ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดมาตลอดว่าเยี่ยเว่ยหมิงมีแค่พลังโจมตีสูง แต่หลังจากเห็นเขาถูกโจมตีหนึ่งครั้ง ก็อดเดาะลิ้นตกตะลึงกับค่าพลังชีวิตของเขาไม่ได้!

ค่าพลังชีวิต 6600 กว่า ถ้าเป็นผู้เล่นที่ฝีมืออ่อนด้อยกว่านี้สักหน่อย คงเกิดผลปลิดชีพไปแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอื่นเลย

ต่อให้เป็นพวกยอดฝีมือที่อยู่ตรงนี้ ศักยภาพและอุปกรณ์ไม่ได้อ่อนด้อย หากถูกโจมตีแบบนี้สักครั้ง แม้จะไม่ถึงขั้นเกิดผลปลิดชีพคาที่ แต่ค่าพลังชีวิตที่เหลืออยู่ขีดเดียวกลับเกิดขึ้นแน่นอน

แต่เยี่ยเว่ยหมิงคนนี้ ถูกโจมตีจนค่าพลังชีวิตหายไปหกพันหกร้อยกว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะยังเหลือค่าพลังชีวิตอยู่เกินครึ่ง!

การโจมตีทรงพลัง ค่าพลังชีวิตยังสูงอีก บวกกับกระบวนท่าอันยอดเยี่ยม

อย่าบอกนะว่าเจ้าหมอนี่ไม่มีจุดอ่อนเลย

ป้องกัน?

เหลวไหล!

บอสคนหนึ่งที่เลเวลหกสิบห้า ใช้กระบวนท่าโหดอย่าง ‘คนผีร่วมวิถี’ ผลปรากฏว่าพรากพลังชีวิตของเขาไปได้เพียงหกพันหกร้อยกว่าเท่านั้น ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้เล่นคนอื่น ก็ไม่กล้าพูดเช่นกันว่าตัวเองมีพลังป้องกันสูงกว่าเยี่ยเว่ยหมิง!

พลังโจมตีสูง ป้องกันสูง พลังชีวิตสูง ตกลงว่าเจ้าหมอนี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่

ตกลงว่าเจ้า หรือหลวงจีนไว้ผมกันแน่ที่เป็น BOSS

พอนึกถึงตรงนี้ ทุกคนก็มองไปที่หลวงจีนไว้ผมอีก

เมื่อเห็นขีดพลังชีวิตสองแสนห้าหมื่นเหนือศีรษะเขา…ก็ได้ คนนี้สิ BOSS ตัวจริง

แต่คำถามก็คือ หลวงจีนไว้ผมคนนี้มีเลเวลหกสิบห้า เยี่ยเว่ยหมิงเป็นผู้เล่นคนหนึ่ง อย่างน้อยก็น่าจะเลเวลสามสิบแล้ว

ดังนั้นดูจากสัดส่วนค่าพลังชีวิตและดาเมจของสองคนนี้ ถ้ารอให้เยี่ยเว่ยหมิงถึงเลเวลหกสิบห้า แค่ยืนตบบอสอยู่กับที่ก็จะชนะแล้วอย่างนั้นหรือ

แต่ในความเป็นจริง ตอนที่ผู้เล่นคนอื่นคิดแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ทำแบบนี้ไปแล้ว

พอหลวงจีนไว้ผมแทงถูกใต้รักแร้ของเยี่ยเว่ยหมิง ก็รู้สึกทันทีว่ากระบี่ล้ำค่าในมือถูกกำลังภายในลึกลับบางอย่างพัวพันไว้ ทำให้กระบี่ล้ำค่าที่แทงใต้รักแร้เยี่ยเว่ยหมิงเหมือนจมลงโคลน ชั่วขณะนั้นเขาชักกลับมาไม่ได้เลย!

ความรู้สึกแบบนี้ หลวงจีนไว้ผมคุ้นเคยที่สุดแล้ว

นอกจาก ‘คนผีร่วมวิถี’ ที่เขาเพิ่งใช้ ในยุทธภพนี้ยังมีวิทยายุทธ์อื่นที่ทำให้เกิดผลแบบเดียวกันอยู่อีกหรือ

ตอนที่เพิ่งเกิดความประหลาดใจขึ้น หลวงจีนไว้ผมก็สัมผัสได้ว่ากำลังภายในที่เหมือนเส้นเหล็กไหลขึ้นมาจากคมกระบี่ จมเข้ามาในแขนและร่างกายครึ่งหนึ่งของเขา ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงทันที

วินาทีถัดมา ในที่สุดหลวงจีนไว้ผมก็ตัดสินได้แล้วว่าเคล็ดวิชาที่เยี่ยเว่ยหมิงใช้ก็คือคนผีร่วมวิถี

แต่ก็ไม่ทันแล้ว!

ขณะที่ใช้ร่างกายของตัวเองกักกระบี่ล้ำค่าของอีกฝ่ายไว้ เยี่ยเว่ยหมิงก็รีบดึงกระบี่แสงทองออกจากหัวใจของฟ่านเหยา กระบี่ออกมาพร้อมกับเลือดสีแดงสดสะดุดตา

จากนั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะไหวตัวทัน เขาก็ใช้กระบี่แสงทองแทงกลับเข้าไปบนบาดแผลเดิมอีกครั้ง

ฉึก!

ระหว่างที่ชักออกและเสียบเข้า เหนือศีรษะของหลวงจีนไว้ผมก็มีตัวเลขดาเมจจำนวนมหาศาลลอยขึ้นมาอีกครั้ง เจ็บจนร้องออกมาอย่างทนไม่ไหว “อา!”

-34567!

เป็นตัวเลขดาเมจห้าหลักอีกแล้ว ทั้งยังโหดกว่าก่อนหน้านี้ด้วย

ถึงอย่างไรก็เป็นเคล็ดกระบี่ระดับสูง ต่อให้เป็น ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เลเวลสิบ สัดส่วนโบนัสดาเมจก็ไม่มีทางเทียบกับ ‘คนผีร่วมวิถี’ ได้!

และเช่นเดียวกัน เมื่อโจมตีครั้งเดียวแล้วเกิดดาเมจแบบนี้ ก็อธิบายได้ว่าผลของเคล็ดจิต ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ที่เขาใช้เวลาคำนวณเลขไปนาทีกว่าก่อนหน้านี้ยังไม่หายไป การโจมตี ‘คนผีร่วมวิถี’ เป็นครั้งที่สองก็อยู่ในการคำนวณของเขาเช่นกัน!

เห็นฉากนี้ บรรดาคนที่มองอยู่ข้างๆ ก็พูดไม่ออกแล้ว!

ก่อนหน้านี้ พวกเขาแค่สมมุติว่าถ้ารอให้เยี่ยเว่ยหมิงถึงเลเวลหกสิบห้า จะยืนตบบอสที่อยู่ตรงหน้าเขาได้แล้ว

แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับใช้การปฏิบัติจริงตบหน้าพวกเขาแล้ว!

เยี่ยเว่ยหมิงเหมือนกำลังพูดว่า ข้ากล้าทำอย่างนั้นตั้งแต่ตอนนี้เลย!

สองกระบี่แลกหนึ่งกระบี่ เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าตัวเองไม่ขาดทุน

แต่ด้วยค่าพลังชีวิตของเขาตอนนี้ ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางใช้วิธีการเอาเลือดมาแลกเลือดอย่างถึงที่สุดกับบอสเลเวลหกสิบห้าได้ หลังจากแทงถูกครั้งที่สอง เขาก็ไม่ให้โอกาสฟ่านเหยาใช้คนผีร่วมวิถี เขาปล่อยกระบี่อย่างไม่ลังเล จะได้หลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายพัวพันเขาไว้แล้วใช้วิธีการโหดเหี้ยมกับเขา

“โจรกระจอก เอาเปรียบกันขนาดนี้แล้วยังคิดจะหนีอีกหรือ”

หลวงจีนไว้ผมเป็นใครกันล่ะ

เขาคือทูตขวาผู้สง่าผ่าเผยแห่งพรรคจรัส บรรดา NPC แห่งบู๊ลิ้มภาคกลางเรียกว่า ปีศาจแห่งพรรคมาร!

เขาไม่ใช่คนดีที่รังแกแล้วยังเก็บกั้นความโกรธเอาไว้ได้

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงดึงกระบี่ เขากลับอดทนความเจ็บตรงหัวใจ ก้าวตามไปหนึ่งก้าวทันที จากนั้นใช้มือซ้ายตบออกมา ตบไปที่หัวใจของเยี่ยเว่ยหมิง!

เมื่อเห็นหลวงจีนไว้ผมยังไม่ยอมเลิกรา เยี่ยเว่ยหมิงก็เผยสีหน้าตกใจกลัวอย่างยากจะปิดบัง ขณะที่เขาถอยหลัง มือขวาของเขาก็คว้าด้ามกระบี่แสงทองที่ก่อนหน้านี้เคยปล่อยออกอีกครั้ง ท่าทางเหมือนอยากจะชักกลับมาป้องกันตัวเอง

ส่วนมือซ้ายก็ตั้งรับฝ่ามือของฟ่านเหยาพอเป็นพิธี เหมือนจะป้องกันวิชาหมัดเท้าของอีกฝ่ายไว้ชั่วคราวเพื่อถ่วงเวลาให้ตัวเองชักกระบี่ออกมา

เมื่อเห็นว่าเยี่ยเว่ยหมิงส่อแววว่าจะแพ้ อวิ๋นหวาซั่งเซียนและศัตรูคนอื่นๆ ที่เป็นผู้เล่นย่อมดีใจมาก แต่บรรดาเพื่อนร่วมทีมของเยี่ยเว่ยหมิงไม่มีใครร้อนใจแทนเขาสักคน

น้องดาบถึงขั้นแอบเห็นใจหลวงจีนไว้ผมที่เป็นศัตรูอยู่ลึกๆ

เพราะทุกครั้งที่เยี่ยเว่ยหมิงเผยความอ่อนแอ แสดงสีหน้าน่าสงสารและสิ้นหวังแบบนี้ออกมา ก็แสดงว่าศัตรูของเขากำลังจะดวงซวยแล้ว

สำหรับจุดนี้ น้องดาบรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง ไม่เคลือบแคลงแม้แต่น้อย

เป็นการตระหนักรู้ที่เจ็บปวด!

ส่วนฟ่านเหยาที่ได้สัมผัสกับเยี่ยเว่ยหมิงครั้งแรก ก็ย่อมไม่ได้ตระหนักรู้อย่างลึกซึ้งเท่าน้องดาบ ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะบอสเวอร์ชั่นถูกตอนแล้วในโหมดภารกิจ เขาก็ตระหนักรู้อะไรบางอย่างแล้วเช่นกัน

ขณะที่มองเยี่ยเว่ยหมิงรับฝ่ามือของเขา มุมปากก็เผยรอยยิ้มน่าเวทนาทันที กำลังภายในบนหมัดเพิ่มขึ้นจากเศษส่วนเป็นสิบส่วน ตบลงไปบนฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิงอย่างแรง

พรึ่บ!

“อา!…”

ภายใต้การโจมตีนี้ เหนือศีรษะของเยี่ยเว่ยหมิงมีเลขดาเมจ ‘-1364’ ลอยขึ้นมา แต่วินาทีถัดมา หลวงจีนไว้ผมคู่ต่อสู้ของเขากลับจมหายไปในพลังฝ่ามือรูปมังกรที่มีพลังสิบส่วนแล้ว

-21234!

ภายใต้การโจมตีนี้ แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะถูกคริติคอลดามเมจจนพลังชีวิตหายไปอีก แต่ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ เลเวลเต็มของเขากลับสะท้อนกลับดาเมจฝ่ามือของอีกฝ่ายสามสิบเปอร์เซ็นต์ กอปรกับส่งกำลังภายในทั้งหมดของตัวเองไปทักทายบนตัวหลวงจีนไว้ผมด้วย

กอปรกับตอนนี้ยังมีผลจาก ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ จึงสร้างดาเมจจำนวนมหาศาลย้อนกลับไปให้ฟ่านเหยาได้โดยตรง!

ภายใต้การโจมตีนี้ ค่าพลังชีวิตของเยี่ยเว่ยหมิงลดลงอีกครั้ง แต่เส้นชีพจรบนแขนของฟ่านเหยากลับสะเทือนจนบาดเจ็บหลายเส้น ภายในเวลาสั้นๆ แขนทั้งแขนติดสถานะหมดแรง!

ภายใต้การต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ค่าพลังชีวิตของฟ่านเหยาถูกเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีทิ้งไปแล้วหนึ่งในสามส่วน แต่พลังชีวิตของเยี่ยเว่ยหมิงกลับลดลงเกินครึ่ง เหลืออยู่ประมาณสองส่วนจากห้าส่วนเท่านั้น

แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับทำลายแขนข้างหนึ่งของฟ่านเหยาได้สำเร็จ จึงถือว่าไม่ขาดทุน

มิหนำซ้ำ การโจมตีของเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น!

ตอนที่ทั้งสองต่างคนต่างสะเทือนถอยหลังเพราะพลังฝ่ามือ ฟ่านเหยาที่บาดเจ็บหนักกว่าก็ตกอยู่ในสถานะแช่แข็ง เยี่ยเว่ยหมิงกลับฉวยโอกาสนี้พลิกข้อมือดีดลูกดีดเหล็กออกไป

แกร๊ง!

ครั้งนี้ เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้เล็งไปที่จุดสำคัญของอีกฝ่ายเพื่อพรากพลังชีวิต แต่ยิงไปบนกระดูกบ่าข้างขวาของฟ่านเหยาอย่างแม่นยำ

ตอนนี้ปราณแท้ป้องกันตัวของหลวงจีนไว้ผมเพิ่งจะถูกเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีแตกกระจาย ทำให้ป้องกันไม่ทัน ถูกโจมตีคาที่แล้ว

-34315!

กระดูกแตก!

เพียงชั่วครู่ก่อนหน้านี้ แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะถูกคนผีร่วมวิถีของฟ่านเหยาโจมตีไปหนึ่งครั้ง แต่ตอนหลังกลายมาเป็นฝ่ายได้เปรียบทุกอย่างในระหว่างการต่อสู้

ตั้งแต่ต้นจนจบที่ต่อสู้กันมา หลวงจีนไว้ผมกลับถูกเยี่ยเว่ยหมิงใช้ท่าไซซีกุมดวงใจ คนผีร่วมวิถี มังกรซ่อนกบดาน ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์!

ไม่เพียงแค่ทำให้พลังชีวิตสองแสนห้าของบอสเลเวลสูงหายไปเกือบครึ่ง ทั้งยังทำให้แขนของเขาขาดไปสองข้างด้วย!

ต้องทราบว่าบนตัวของหลวงจีนไว้ผมมีแขนแค่สองข้างเท่านั้น!

ถ้านี่เป็นการสู้แบบตัวต่อตัว เยี่ยเว่ยหมิงก็ถึงขั้นมั่นใจว่าในการต่อสู้ตอนหลังจะได้เปรียบมากกว่านี้ และสุดท้ายก็จะได้ชัยชนะ สังหารบอสเลเวลหกสิบห้าด้วยกระบี่ให้ตายได้ในคราเดียว!

ในสายตาของคนนอก ตั้งแต่ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงลงมือจนถึงตอนนี้ ก็ควบคุมจังหวะการต่อสู้ไว้ในมือตัวเองอย่างดีมาตลอด รังแกบอสเลเวลหกสิบห้าจนหัวหมุน ถึงขั้นมีศักยภาพที่จะท้าสู้ตัวต่อตัวกับบอสเลเวลหกสิบห้าได้แล้ว

แต่ที่จริงแล้วตัวเองนั้นรู้เรื่องของตัวเองดี เยี่ยเว่ยหมิงรู้ชัดว่าตัวเองกับบอสเลเวลหกสิบห้าที่อยู่ตรงหน้าแตกต่างกันมากขนาดไหน

สาเหตุที่ก่อนหน้านี้โจมตีได้อย่างสวยงาม ถ้าจะบอกว่าเขามีศักยภาพแข็งแกร่ง ก็ไม่สู้บอกว่าผลจากเอฟเฟ็กต์ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ วิปริตเกินไป!

และการที่เขาใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ได้สำเร็จ สาเหตุหลักก็เป็นเพราะข้อจำกัดด้านฉากของภารกิจ ทำให้หลวงจีนไว้ผมไม่มีทางก้าวออกจากวัดร้างอู๋เจียนแห่งนี้ไปได้แม้แต่ก้าวเดียว

ไม่อย่างนั้นต่อให้ตอนนี้เขาลดผลของ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ให้เหลือประมาณหนึ่งนาทีครึ่ง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เคล็ดจิตนี้ต่อหน้าบอสเลเวลยี่หกสิบห้าได้อย่างราบรื่น

แต่ถ้าไม่ได้เปิดใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ เมื่ออยู่ต่อหน้าบอสเลเวลแบบนี้อย่างหลวงจีนไว้ผม เขาก็เป็นเพียงน้องชายคนหนึ่งเท่านั้น

นอกจากนี้ หลังจากผ่านการต่อสู้อันน่าหวาดเสียวตื่นเต้นเพียงชั่วพบหน้ากัน ผลจาก ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ของเขาก็สิ้นสุดลงแล้ว

ถ้าคิดจะต่อสู้ให้ได้อย่างงดงามต่อไปอีก เขาก็ต้องคำนวณเลขใหม่อีกรอบ

ทว่า ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงภายนอกดูยโสโอหัง แต่ร่างกายก็ยังถูกฝ่ามือของหลวงจีนไว้ผมจนกระเด็นถอยหลังและติดสถานะลอย ข้างหลังกลับมีร่างหนึ่งโผล่มาจากที่ลับ ตอนที่ทุกคนยังไหวตัวไม่ทัน อีกฝ่ายก็มาถึงข้างหลังของเยี่ยเว่ยหมิงและยื่นนิ้วข้างขวาออกมาจิ้มบนแผ่นหลังของเขาต่อเนื่องหลายครั้งแล้ว

-1317!

ตรึงร่าง!

สุดยอดทักษะของตระกูลต้วนแห่งแคว้นต้าหลี่…ดรรชนีเอกสุริยัน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด