ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 22 สังหารครั้งแรกอีกครั้ง!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 22 สังหารครั้งแรกอีกครั้ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 22 สังหารครั้งแรกอีกครั้ง!

“หลานเอ๊ย ปู่อยู่นี่แล้ว!”

สกิลเย้ยหยันที่สร้างขึ้นเองโดยเยี่ยเว่ยหมิงแม้จะไม่เกิดผลตามที่ระบบกำหนดไว้ แต่กลับหลอกล่อความสนใจของ BOSS ได้ ทั้งยังทำให้มันยกหน้าไม้ขึ้นยิงโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วด้วย

แต่ท่าร่างของเยี่ยเว่ยหมิงเดิมทีก็เหนือกว่าผู้เล่นทั่วไปมากอยู่แล้ว หลังจากกรอกกำลังภายในก็ยิ่งเร็วจนน่าตกใจ ตอนที่เฉินหมิงเพิ่งยิงลูกดอกหน้าไม้ออกมาสองดอก เขาก็ไปหลบอยู่หลังเสาหินอีกต้นหนึ่งแล้ว ถือว่าเกินเกินระยะโจมตีไปหลายจั้ง

และอาศัยจังหวะที่เฉินหมิงถูกเยี่ยเว่ยหมิงดึงดูดความสนใจ โหยวโหยวก็ก้าวออกมาจากหลังเสาหิน เฉินหมิงเพิ่งเตรียมจะหมุนเลี้ยวหัวหน้าไม้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับปรากฏตัวจากหลังเสาหินอีกครั้ง แสดงประสิทธิภาพของท่าร่างแปดก้าวไล่ทันคางคกจนถึงขีดสุด พุ่งตัวสังหารไปยังตำแหน่งของเฉินหมิง

สองเป้าหมายปรากฏตัวพร้อมกัน แต่เฉินหมิงยังคงกำหนดเป้าหมายไปยังเยี่ยเว่ยหมิงที่อยู่ใกล้ตัวเองมากกว่าในทันที นี่ต่างหากคือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นจึงหันเลี้ยวหัวหน้าไม้อีกครั้ง แต่ยังไม่ทันรอให้เขายิงโจมตี ธนูหน้าไม้ของโหยวโหยวกลับชิงยิงมาตกบนตัวเขาก่อนแล้ว

ฉึก! ฉึก! ฉึก!…

ธนูหน้าไม้ยิงโดนจุดสำคัญรวดเดียวหกดอก เนื่องจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้ครั้งนี้โหยวโหยวจงใจผ่อนจังหวะยิงโจมตีให้ช้าลง อาศัยเวลา 0.2 วินาทีที่ BOSS ต้องเล็งก่อนยิงโจมตีเพื่อช่วยทำเวลาให้เยี่ยเว่ยหมิง ขณะเดียวกันก็ลดค่าพลังชีวิตของเฉินหมิงไปแล้วสามร้อยยี่สิบสี่แต้ม พลังชีวิตของเขากลายเป็น 6176/6500 แล้ว

ส่วนค่าพลังชีวิตที่หายไปเพราะโหยวโหยวโจมตีหลายระลอกก่อนหน้านี้น่ะหรือ

ขนาดนางที่บาดเจ็บสาหัสยังฟื้นฟูค่าพลังชีวิตกลับมาเต็มแล้วเลย นับประสาอะไรกับ BOSS ล่ะ จะฟื้นค่าพลังชีวิตช้ากว่าผู้เล่นเชียวหรือ

แน่นอน การยิงโจมตีหกดอกของโหยวโหยวลดค่าพลังชีวิต BOSS ไปเท่าไรนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญก็คือนางถ่วงเวลาให้เยี่ยเว่ยหมิงได้เกือบห้าวินาทีแล้ว!

เวลาห้าวินาทีก็เพียงพอที่จะทำให้เยี่ยเว่ยหมิงพุ่งจากขอบโถงใหญ่มาอยู่ตรงหน้า BOSS แล้ว ทั้งยังโจมตีเชื่อมโยงกับโหยวโหยวแล้วด้วย

เมื่อถูกโจมตีที่ต่อเนื่องจากทั้งสองคน ต่อให้เป็น BOSS ก็รู้สึกรับไม่ไหวเช่นกัน เพื่อที่จะปกป้องตัวเอง ชั่วพริบตาที่ดิ้นรนพ้นสถานะแช่แข็ง ก็โบกหน้าไม้เทพจูเก๋อมาบล็อกการโจมตีโดยจิตใต้สำนึก

ตามคำอธิบายของโหยวโหยวก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสสำนักถังเหมินสร้างหน้าไม้คันนี้ขึ้นมาโดยมีพื้นฐานจากหน้าไม้เทพจูเก๋อ เขาเก็บรวบรวมทองคำสกัดทั้งใต้หล้าและใช้เวลาไปสิบปีถึงจะสร้างมันขึ้นมาได้ นอกจากทำให้สมรรถนะการยิงต่อเนื่องเกิดประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว ที่มากกว่านั้นคือความแข็งแกร่งทนทาน ต่อให้ใช้มีดฟันขวานสับ แต่ก็ยากจะทำให้มันเสียหายได้

เยี่ยเว่ยหมิงคาดการณ์ได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีการนี้มาบล็อกการโจมตี จึงพลิกฝ่ามือทันที ใช้กระบี่คมที่กรอกกำลังภายในแล้วกวาดผ่านบนข้อมือของเฉินหมิงที่ถือหน้าไม้ด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ

“ไอ้หยา!” เฉินหมิงเจ็บจนร้องออกมา หน้าไม้เทพจูเก๋อหลุดมือตกลงพื้น ขณะเดียวกันร่างกายก็พลันถอยหลัง หมายจะดึงระยะให้ห่างจากเยี่ยเว่ยหมิง

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ดึงดันไม่ยอมถอย ฉวยโอกาสตอนอีกฝ่ายสองมือไร้อาวุธ ส่งกระบี่ยาวไปทางด้านหน้า ใช้ ‘ไซซีกุมดวงใจ’ ซึ่งเป็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดในเคล็ดกระบี่วีรสตรีโจมตีถูกหัวใจอีกฝ่ายโดยตรง

-326!

แม้จะเกิดคริติคอลเหมือนกัน แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับทำดาเมจสูงกว่าโหยวโหยวหนึ่งเท่า!

เมื่อโจมตีครั้งแรกสำเร็จ เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังไม่ถอย โจมตีอย่างดุดันครั้งแล้วครั้งเล่า โจมตีไปพลางตะโกนไปพลาง

“ไซซีกุมคอ!”

“ไซซีกุมตา!”

“ไซซีกุมจุดไท่หยาง[1]!”

“ไซซีกุมไต!”

……

เขาก็แค่ใช้กระบวนท่าที่มีพลังทำลายล้างที่สุดอย่าง ‘ไซซีกุมดวงใจ’ ซ้ำไปซ้ำมา เพียงแต่ทุกครั้งไม่ได้โจมตีซ้ำจุดเดิมก็เท่านั้นเอง เป็นการโจมตีต่อเนื่อง ทุกครั้งล้วนถูกจุดสำคัญ ภายใต้การโจมตีรวดเดียวเจ็ดครั้ง ก็ได้พรากพลังชีวิตสองพันกว่าแต้มของ BOSS ไปแล้ว

สาเหตุที่โจมตีจนเกิดผลอย่างนี้ได้ แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะท่า ‘ไซซีกุมดวงใจ’ ของเขาติด BUG จนโจมตีต่อเนื่องได้ไม่สิ้นสุด ที่จริงวิธีการโจมตีด้วยกระบวนท่านี้เรียบง่ายและตรงไปตรงมา ถ้าอยากจะรับมือก็ไม่ยาก สาเหตุที่เขากล้าทำอย่างนี้ ก็เพียงเพราะในมือ BOSS ไม่มีอาวุธ ทั้งยังไม่ถนัดวิทยายุทธ์หมัดมวยก็เท่านั้นเอง

หลังจากโจมตีไปเจ็ดกระบี่ ในที่สุดก็ทำให้ BOSS ชักดาบใหญ่หัวผีจากข้างหลังออกมาแล้ว จากนั้นฟันบนคมกระบี่ที่เยี่ยเว่ยหมิงกำลังใช้ท่า ‘ไซซีกุมท้อง’

แกร๊ง!

เสียงโลหะกระทบกันดังก้องชัดเจนอยู่ในห้องลับ เยี่ยเว่ยหมิงถูกพลังมหาศาลของ BOSS โจมตีจนถอยหลังรวดเดียวสามก้าว ทำให้การโจมตีต่อเนื่องของตัวเองขาดตอน!

เมื่อการโจมตีถูกขัดจังหวะ เยี่ยเว่ยหมิงก็รีบหันไปมองตรงตำแหน่งที่หน้าไม้เทพจูเก๋อตกพื้นก่อนหน้านี้ พอเห็นโหยวโหยวเก็บอาวุธล้ำค่าชิ้นนั้นขึ้นมาแล้ว เขาถึงได้โล่งใจ แล้วยื่นมือพุ่งกระบี่ยาวไปโจมตีเฉินหมิงอีกครั้ง

BOSS มีดาบอยู่ในมือ ครั้งนี้เยี่ยเว่ยหมิงไม่กล้าใช้ท่าไซซีกุมดวงใจต่อเนื่องอีกแล้ว แต่รวบรวมสมาธิค่อยๆ ใช้ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ สู้กับอีกฝ่าย เมื่อผ่านไปประมาณสิบวินาที การสนับสนุนของโหยวโหยวยังมาไม่ถึง แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะคิดว่าแค่อาศัยความได้เปรียบของเลเวลเคล็ดกระบี่ก็เอาอยู่ อีกทั้งภายในเวลาสั้นๆ นี้ก็แทงหลัง BOSS ตอนเผลอได้สองกระบี่ แม้จะไม่เกิดผลคริติคอล แต่เขาก็ยังพรากค่าพลังชีวิตของ BOSS ไปแล้วเกือบสองร้อยแต้ม

ถ้าโจมตีตามจังหวะนี้ต่อไป เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่า บางทีฉันอาจจะลองท้าสู้ตัวต่อตัวกับ BOSS ตัวนี้ได้

ทว่า แผนที่เขาเตรียมจะท้าสู้ตัวต่อตัวกับ BOSS นั้นยังเป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะตอนที่เขาเตรียมตัวจะต่อสู้ยืดเยื้อกับ BOSS ตัวนี้ต่อไป ในที่สุดโหยวโหยวก็โจมตีมาถึงแล้ว

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!…

ตามเสียงแฉลบลมของลูกธนูหน้าไม้ดังขึ้น ยอดศีรษะ BOSS ก็มีตัวเลขค่าพลังชีวิตลดสีแดงลอยขึ้นมาต่อเนื่อง

-734!

-721!

-1465!

ยิงโจมตีต่อเนื่องเจ็ดดอก แต่ละดอกโดนเป้าหมาย เฉินหมิงโดนถล่มยิงจนถอยไปไกลพอสมควร ขณะเดียวกันเหนือศีรษะก็มีตัวเลขสีแดงสะดุดตาลอยขึ้นมา ในจำนวนนั้นมีสองครั้งที่โจมตีถูกจุดสำคัญจนเกิดคริติคอล มิหนำซ้ำยังสร้างดาเมจอันน่าสะพรึงเกือบหนึ่งพันห้าร้อยแต้ม

บอกว่ายิงเจ็ดดอก แต่ที่จริงแล้วตอนยิงดอกที่หก แถบเลือดของ BOSS ก็ว่างเปล่าแล้ว ถ้าพูดตามความหมายที่เข้มงวด ธนูหน้าไม้ดอกสุดท้ายก็นับว่าเป็นการเฆี่ยนศพ[2] ทั้งยังตอกศพ BOSS ให้ห้อยไว้บนเสาหินข้างหลังโดยตรง

[ติ๊ง! ฆ่าเฉินหมิง BOSS เลเวล 30 สำเร็จ ได้รับ:

ค่าประสบการณ์ 4000 แต้ม

ค่าตบะ 400 แต้ม]

[ติ๊ง! เลเวลของคุณอัปถึงเลเวล 14 แล้ว]

[ติ๊ง! คุณสังหารเฉินหมิง หัวหน้าโจรลุ่มน้ำซีหูสำเร็จ ทำภารกิจ ‘กวาดล้างโจรลุ่มน้ำซีหู’ สำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ ได้รับรางวัล:

ค่าประสบการณ์ 6000 แต้ม

ค่าตบะ 600 แต้ม

เงิน 2 เหรียญทอง 50 เหรียญเงิน]

เมื่อเทียบกับรางวัลที่ประกาศในภารกิจ การปราบโจรลุ่มน้ำทั้งหมดจะได้รางวัลเยอะกว่าทำภารกิจสำเร็จเพียงอย่างเดียวจริงๆ ด้วย!

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง ศิษย์สำนักถังเหมิน โหยวโหยว สังหารเฉินหมิง BOSS เลเวล 15 หัวหน้าโจรลุ่มน้ำที่ยึดครองวังใต้ดินเจดีย์เหลยเฟิงสำเร็จในครั้งแรก

ได้รับรางวัลสังหารครั้งแรก:

ชื่อเสียงยุทธภพ 100 แต้ม

ค่าผลงานสำนัก 100 แต้ม]

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง…]

……

ประกาศระบบปรากฏสามรอบต่อเนื่องกัน แต่สิ่งที่เยี่ยเว่ยหมิงสนใจกว่านั้นก็คือ “อาวุธล้ำค่าชิ้นหนึ่งที่เหมือนกัน ทำไมตอนเจ้าใช้มันทำดาเมจต่อ BOSS ถึงสูงกว่าตอนที่ BOSS ใช้มันทำดาเมจอีกล่ะ”

“เพราะ BOSS ใช้งานไม่เป็นกระมัง” โหยวโหยวตอบอย่างสมเหตุสมผล “หน้าไม้อันนี้เมื่ออยู่ในมือ BOSS ก็ยังรับประกันไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเล็งแม่นหรือเปล่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโบนัสดาเมจที่มาพร้อมวิทยายุทธ์เลย แต่ ‘วิชาขนปักษา’ ที่ข้าฝึกฝนนั้นทำให้ช่ำชองการใช้หน้าไม้”

พอนึกถึงเคล็ดกระบี่ที่มีโบนัสโจมตีเจ็ดสิบเปอร์เซ็นของตัวเองอย่าง ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เยี่ยเว่ยหมิงก็ปล่อยวางแล้วเช่นกัน ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเห็นนางปลิดชีพ[3] BOSS ได้น่าตื่นตะลึงเกินไป ถึงไม่ได้นึกถึงจุดนี้ในทันที

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า แล้วจู่ๆ ก็ถามว่า “ส่งค่าสเตตัสมาให้ข้าดูหน่อยได้หรือเปล่า”

แม้ตอนนี้หน้าไม้เทพจูเก๋อได้อยู่ในมือโหยวโหยวแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ของของนาง ต้องนำมันกลับไปส่งมอบภารกิจที่สำนักถังเหมินก่อน สำหรับค่าสเตตัสของหน้าไม้คันนนี้ โหยวโหยวย่อมไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง นางจับภาพหน้าจอส่งให้เยี่ยเว่ยหมิงอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา

[1] จุดไท่หยาง 太阳穴 บริเวณรอยบุ๋มตรงขมับ

[2] เฆี่ยนศพ 鞭尸 เป็นการลงโทษในสมัยโบราณ สร้างความเสียหายให้ศพ มีเป้าหมายคือสร้างความอัปยศให้ผู้ตาย

[3] ปลิดชีพ 秒杀 การฆ่าให้ตายได้อย่างรวดเร็ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 22 สังหารครั้งแรกอีกครั้ง!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 22 สังหารครั้งแรกอีกครั้ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 22 สังหารครั้งแรกอีกครั้ง!

“หลานเอ๊ย ปู่อยู่นี่แล้ว!”

สกิลเย้ยหยันที่สร้างขึ้นเองโดยเยี่ยเว่ยหมิงแม้จะไม่เกิดผลตามที่ระบบกำหนดไว้ แต่กลับหลอกล่อความสนใจของ BOSS ได้ ทั้งยังทำให้มันยกหน้าไม้ขึ้นยิงโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วด้วย

แต่ท่าร่างของเยี่ยเว่ยหมิงเดิมทีก็เหนือกว่าผู้เล่นทั่วไปมากอยู่แล้ว หลังจากกรอกกำลังภายในก็ยิ่งเร็วจนน่าตกใจ ตอนที่เฉินหมิงเพิ่งยิงลูกดอกหน้าไม้ออกมาสองดอก เขาก็ไปหลบอยู่หลังเสาหินอีกต้นหนึ่งแล้ว ถือว่าเกินเกินระยะโจมตีไปหลายจั้ง

และอาศัยจังหวะที่เฉินหมิงถูกเยี่ยเว่ยหมิงดึงดูดความสนใจ โหยวโหยวก็ก้าวออกมาจากหลังเสาหิน เฉินหมิงเพิ่งเตรียมจะหมุนเลี้ยวหัวหน้าไม้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับปรากฏตัวจากหลังเสาหินอีกครั้ง แสดงประสิทธิภาพของท่าร่างแปดก้าวไล่ทันคางคกจนถึงขีดสุด พุ่งตัวสังหารไปยังตำแหน่งของเฉินหมิง

สองเป้าหมายปรากฏตัวพร้อมกัน แต่เฉินหมิงยังคงกำหนดเป้าหมายไปยังเยี่ยเว่ยหมิงที่อยู่ใกล้ตัวเองมากกว่าในทันที นี่ต่างหากคือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นจึงหันเลี้ยวหัวหน้าไม้อีกครั้ง แต่ยังไม่ทันรอให้เขายิงโจมตี ธนูหน้าไม้ของโหยวโหยวกลับชิงยิงมาตกบนตัวเขาก่อนแล้ว

ฉึก! ฉึก! ฉึก!…

ธนูหน้าไม้ยิงโดนจุดสำคัญรวดเดียวหกดอก เนื่องจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้ครั้งนี้โหยวโหยวจงใจผ่อนจังหวะยิงโจมตีให้ช้าลง อาศัยเวลา 0.2 วินาทีที่ BOSS ต้องเล็งก่อนยิงโจมตีเพื่อช่วยทำเวลาให้เยี่ยเว่ยหมิง ขณะเดียวกันก็ลดค่าพลังชีวิตของเฉินหมิงไปแล้วสามร้อยยี่สิบสี่แต้ม พลังชีวิตของเขากลายเป็น 6176/6500 แล้ว

ส่วนค่าพลังชีวิตที่หายไปเพราะโหยวโหยวโจมตีหลายระลอกก่อนหน้านี้น่ะหรือ

ขนาดนางที่บาดเจ็บสาหัสยังฟื้นฟูค่าพลังชีวิตกลับมาเต็มแล้วเลย นับประสาอะไรกับ BOSS ล่ะ จะฟื้นค่าพลังชีวิตช้ากว่าผู้เล่นเชียวหรือ

แน่นอน การยิงโจมตีหกดอกของโหยวโหยวลดค่าพลังชีวิต BOSS ไปเท่าไรนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญก็คือนางถ่วงเวลาให้เยี่ยเว่ยหมิงได้เกือบห้าวินาทีแล้ว!

เวลาห้าวินาทีก็เพียงพอที่จะทำให้เยี่ยเว่ยหมิงพุ่งจากขอบโถงใหญ่มาอยู่ตรงหน้า BOSS แล้ว ทั้งยังโจมตีเชื่อมโยงกับโหยวโหยวแล้วด้วย

เมื่อถูกโจมตีที่ต่อเนื่องจากทั้งสองคน ต่อให้เป็น BOSS ก็รู้สึกรับไม่ไหวเช่นกัน เพื่อที่จะปกป้องตัวเอง ชั่วพริบตาที่ดิ้นรนพ้นสถานะแช่แข็ง ก็โบกหน้าไม้เทพจูเก๋อมาบล็อกการโจมตีโดยจิตใต้สำนึก

ตามคำอธิบายของโหยวโหยวก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสสำนักถังเหมินสร้างหน้าไม้คันนี้ขึ้นมาโดยมีพื้นฐานจากหน้าไม้เทพจูเก๋อ เขาเก็บรวบรวมทองคำสกัดทั้งใต้หล้าและใช้เวลาไปสิบปีถึงจะสร้างมันขึ้นมาได้ นอกจากทำให้สมรรถนะการยิงต่อเนื่องเกิดประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว ที่มากกว่านั้นคือความแข็งแกร่งทนทาน ต่อให้ใช้มีดฟันขวานสับ แต่ก็ยากจะทำให้มันเสียหายได้

เยี่ยเว่ยหมิงคาดการณ์ได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีการนี้มาบล็อกการโจมตี จึงพลิกฝ่ามือทันที ใช้กระบี่คมที่กรอกกำลังภายในแล้วกวาดผ่านบนข้อมือของเฉินหมิงที่ถือหน้าไม้ด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ

“ไอ้หยา!” เฉินหมิงเจ็บจนร้องออกมา หน้าไม้เทพจูเก๋อหลุดมือตกลงพื้น ขณะเดียวกันร่างกายก็พลันถอยหลัง หมายจะดึงระยะให้ห่างจากเยี่ยเว่ยหมิง

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ดึงดันไม่ยอมถอย ฉวยโอกาสตอนอีกฝ่ายสองมือไร้อาวุธ ส่งกระบี่ยาวไปทางด้านหน้า ใช้ ‘ไซซีกุมดวงใจ’ ซึ่งเป็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดในเคล็ดกระบี่วีรสตรีโจมตีถูกหัวใจอีกฝ่ายโดยตรง

-326!

แม้จะเกิดคริติคอลเหมือนกัน แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับทำดาเมจสูงกว่าโหยวโหยวหนึ่งเท่า!

เมื่อโจมตีครั้งแรกสำเร็จ เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังไม่ถอย โจมตีอย่างดุดันครั้งแล้วครั้งเล่า โจมตีไปพลางตะโกนไปพลาง

“ไซซีกุมคอ!”

“ไซซีกุมตา!”

“ไซซีกุมจุดไท่หยาง[1]!”

“ไซซีกุมไต!”

……

เขาก็แค่ใช้กระบวนท่าที่มีพลังทำลายล้างที่สุดอย่าง ‘ไซซีกุมดวงใจ’ ซ้ำไปซ้ำมา เพียงแต่ทุกครั้งไม่ได้โจมตีซ้ำจุดเดิมก็เท่านั้นเอง เป็นการโจมตีต่อเนื่อง ทุกครั้งล้วนถูกจุดสำคัญ ภายใต้การโจมตีรวดเดียวเจ็ดครั้ง ก็ได้พรากพลังชีวิตสองพันกว่าแต้มของ BOSS ไปแล้ว

สาเหตุที่โจมตีจนเกิดผลอย่างนี้ได้ แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะท่า ‘ไซซีกุมดวงใจ’ ของเขาติด BUG จนโจมตีต่อเนื่องได้ไม่สิ้นสุด ที่จริงวิธีการโจมตีด้วยกระบวนท่านี้เรียบง่ายและตรงไปตรงมา ถ้าอยากจะรับมือก็ไม่ยาก สาเหตุที่เขากล้าทำอย่างนี้ ก็เพียงเพราะในมือ BOSS ไม่มีอาวุธ ทั้งยังไม่ถนัดวิทยายุทธ์หมัดมวยก็เท่านั้นเอง

หลังจากโจมตีไปเจ็ดกระบี่ ในที่สุดก็ทำให้ BOSS ชักดาบใหญ่หัวผีจากข้างหลังออกมาแล้ว จากนั้นฟันบนคมกระบี่ที่เยี่ยเว่ยหมิงกำลังใช้ท่า ‘ไซซีกุมท้อง’

แกร๊ง!

เสียงโลหะกระทบกันดังก้องชัดเจนอยู่ในห้องลับ เยี่ยเว่ยหมิงถูกพลังมหาศาลของ BOSS โจมตีจนถอยหลังรวดเดียวสามก้าว ทำให้การโจมตีต่อเนื่องของตัวเองขาดตอน!

เมื่อการโจมตีถูกขัดจังหวะ เยี่ยเว่ยหมิงก็รีบหันไปมองตรงตำแหน่งที่หน้าไม้เทพจูเก๋อตกพื้นก่อนหน้านี้ พอเห็นโหยวโหยวเก็บอาวุธล้ำค่าชิ้นนั้นขึ้นมาแล้ว เขาถึงได้โล่งใจ แล้วยื่นมือพุ่งกระบี่ยาวไปโจมตีเฉินหมิงอีกครั้ง

BOSS มีดาบอยู่ในมือ ครั้งนี้เยี่ยเว่ยหมิงไม่กล้าใช้ท่าไซซีกุมดวงใจต่อเนื่องอีกแล้ว แต่รวบรวมสมาธิค่อยๆ ใช้ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ สู้กับอีกฝ่าย เมื่อผ่านไปประมาณสิบวินาที การสนับสนุนของโหยวโหยวยังมาไม่ถึง แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะคิดว่าแค่อาศัยความได้เปรียบของเลเวลเคล็ดกระบี่ก็เอาอยู่ อีกทั้งภายในเวลาสั้นๆ นี้ก็แทงหลัง BOSS ตอนเผลอได้สองกระบี่ แม้จะไม่เกิดผลคริติคอล แต่เขาก็ยังพรากค่าพลังชีวิตของ BOSS ไปแล้วเกือบสองร้อยแต้ม

ถ้าโจมตีตามจังหวะนี้ต่อไป เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่า บางทีฉันอาจจะลองท้าสู้ตัวต่อตัวกับ BOSS ตัวนี้ได้

ทว่า แผนที่เขาเตรียมจะท้าสู้ตัวต่อตัวกับ BOSS นั้นยังเป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะตอนที่เขาเตรียมตัวจะต่อสู้ยืดเยื้อกับ BOSS ตัวนี้ต่อไป ในที่สุดโหยวโหยวก็โจมตีมาถึงแล้ว

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!…

ตามเสียงแฉลบลมของลูกธนูหน้าไม้ดังขึ้น ยอดศีรษะ BOSS ก็มีตัวเลขค่าพลังชีวิตลดสีแดงลอยขึ้นมาต่อเนื่อง

-734!

-721!

-1465!

ยิงโจมตีต่อเนื่องเจ็ดดอก แต่ละดอกโดนเป้าหมาย เฉินหมิงโดนถล่มยิงจนถอยไปไกลพอสมควร ขณะเดียวกันเหนือศีรษะก็มีตัวเลขสีแดงสะดุดตาลอยขึ้นมา ในจำนวนนั้นมีสองครั้งที่โจมตีถูกจุดสำคัญจนเกิดคริติคอล มิหนำซ้ำยังสร้างดาเมจอันน่าสะพรึงเกือบหนึ่งพันห้าร้อยแต้ม

บอกว่ายิงเจ็ดดอก แต่ที่จริงแล้วตอนยิงดอกที่หก แถบเลือดของ BOSS ก็ว่างเปล่าแล้ว ถ้าพูดตามความหมายที่เข้มงวด ธนูหน้าไม้ดอกสุดท้ายก็นับว่าเป็นการเฆี่ยนศพ[2] ทั้งยังตอกศพ BOSS ให้ห้อยไว้บนเสาหินข้างหลังโดยตรง

[ติ๊ง! ฆ่าเฉินหมิง BOSS เลเวล 30 สำเร็จ ได้รับ:

ค่าประสบการณ์ 4000 แต้ม

ค่าตบะ 400 แต้ม]

[ติ๊ง! เลเวลของคุณอัปถึงเลเวล 14 แล้ว]

[ติ๊ง! คุณสังหารเฉินหมิง หัวหน้าโจรลุ่มน้ำซีหูสำเร็จ ทำภารกิจ ‘กวาดล้างโจรลุ่มน้ำซีหู’ สำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ ได้รับรางวัล:

ค่าประสบการณ์ 6000 แต้ม

ค่าตบะ 600 แต้ม

เงิน 2 เหรียญทอง 50 เหรียญเงิน]

เมื่อเทียบกับรางวัลที่ประกาศในภารกิจ การปราบโจรลุ่มน้ำทั้งหมดจะได้รางวัลเยอะกว่าทำภารกิจสำเร็จเพียงอย่างเดียวจริงๆ ด้วย!

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง ศิษย์สำนักถังเหมิน โหยวโหยว สังหารเฉินหมิง BOSS เลเวล 15 หัวหน้าโจรลุ่มน้ำที่ยึดครองวังใต้ดินเจดีย์เหลยเฟิงสำเร็จในครั้งแรก

ได้รับรางวัลสังหารครั้งแรก:

ชื่อเสียงยุทธภพ 100 แต้ม

ค่าผลงานสำนัก 100 แต้ม]

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง…]

……

ประกาศระบบปรากฏสามรอบต่อเนื่องกัน แต่สิ่งที่เยี่ยเว่ยหมิงสนใจกว่านั้นก็คือ “อาวุธล้ำค่าชิ้นหนึ่งที่เหมือนกัน ทำไมตอนเจ้าใช้มันทำดาเมจต่อ BOSS ถึงสูงกว่าตอนที่ BOSS ใช้มันทำดาเมจอีกล่ะ”

“เพราะ BOSS ใช้งานไม่เป็นกระมัง” โหยวโหยวตอบอย่างสมเหตุสมผล “หน้าไม้อันนี้เมื่ออยู่ในมือ BOSS ก็ยังรับประกันไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเล็งแม่นหรือเปล่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโบนัสดาเมจที่มาพร้อมวิทยายุทธ์เลย แต่ ‘วิชาขนปักษา’ ที่ข้าฝึกฝนนั้นทำให้ช่ำชองการใช้หน้าไม้”

พอนึกถึงเคล็ดกระบี่ที่มีโบนัสโจมตีเจ็ดสิบเปอร์เซ็นของตัวเองอย่าง ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เยี่ยเว่ยหมิงก็ปล่อยวางแล้วเช่นกัน ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเห็นนางปลิดชีพ[3] BOSS ได้น่าตื่นตะลึงเกินไป ถึงไม่ได้นึกถึงจุดนี้ในทันที

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า แล้วจู่ๆ ก็ถามว่า “ส่งค่าสเตตัสมาให้ข้าดูหน่อยได้หรือเปล่า”

แม้ตอนนี้หน้าไม้เทพจูเก๋อได้อยู่ในมือโหยวโหยวแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ของของนาง ต้องนำมันกลับไปส่งมอบภารกิจที่สำนักถังเหมินก่อน สำหรับค่าสเตตัสของหน้าไม้คันนนี้ โหยวโหยวย่อมไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง นางจับภาพหน้าจอส่งให้เยี่ยเว่ยหมิงอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา

[1] จุดไท่หยาง 太阳穴 บริเวณรอยบุ๋มตรงขมับ

[2] เฆี่ยนศพ 鞭尸 เป็นการลงโทษในสมัยโบราณ สร้างความเสียหายให้ศพ มีเป้าหมายคือสร้างความอัปยศให้ผู้ตาย

[3] ปลิดชีพ 秒杀 การฆ่าให้ตายได้อย่างรวดเร็ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+