ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 210 ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 210 ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 210 ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค

ระหว่างทางกลับสำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิงสรุปผลได้ผลเสียด้านต่างๆ จากภารกิจครั้งนี้ เขากลับค้นพบอย่างตกตะลึงว่า ทุกคนที่เข้าร่วมภารกิจนี้แทบจะเป็นผู้ชนะทั้งหมด แตกต่างเพียงว่าใครชนะมาก หรือชนะน้อยก็เท่านั้นเอง

ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีผู้แพ้เลย!

ไม่ต้องพูดถึงสำนักมือปราบเทพ เพียงมีประกาศไล่สังหารออกมา ก็ทำให้อวี๋ชางไห่กลายเป็นศัตรูของคนทั้งยุทธภพในชั่วพริบตาเดียว เมื่อถูกตัวละครสำคัญอย่างจั่วเหลิ่งฉานกับเย่ว์ปู้ฉวินไล่สังหารด้วยตัวเอง ชื่อเสียงก็พุ่งทะลุฟ้าแล้ว

นี่ก็คือผลลัพธ์ที่หวงโส่วจุนต้องการ โดยมีพื้นฐานว่าต้องทำภารกิจให้สำเร็จอย่างราบรื่น ทำให้สำนักมือปราบเทพดูมีระดับมากที่สุด ส่วนเนื้อแท้ของเรื่องนี้ก็คือ สำนักมือปราบเทพให้หลินผิงจือเป็นเจ้าสำนักชิงเฉิงแล้ว เขาจะกล้าไม่ฟังคำสั่งของสำนักมือปราบเทพเชียวหรือ

ยิ่งไปกว่านั้น ความแค้นอันยิ่งใหญ่ของน้องใหม่ในยุทธภพอย่างหลินผิงจือก็ได้รับการสะสางแล้ว ทั้งยังได้รับช่วงต่อของสำนักศัตรู แย่งชิงกิจการของศัตรูมาได้ ดำรงตำแหน่ง CEO แต่งภรรยา…แค่กๆ ถึงอย่างไรก็ได้เดินไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว

ส่วนสำนักชิงเฉิง?

หลังจากผ่านเรื่องราวครั้งนี้ แม้จะมีความเสียหายอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าได้กำจัดโรคเรื้อรังเช่นกัน ทั้งยังได้ยอดฝีมือที่มีศักยภาพแฝงไร้ที่สิ้นสุดมาเป็นเจ้าสำนัก มีราชสำนักคอยเป็นโล่ข้างหลังให้ด้วย จินตนาการถึงความก้าวหน้าในอนาคตได้เลย

เย่ว์ปู้ฉวิน แม้จะไม่ได้ ‘ตำรากระบี่พิชิตมาร’ ไป แต่ชื่อเสียงกระบี่วิญญูชนของเขาก็จะสว่างไสวขึ้นกว่าเดิมแน่นอน!

จั่วเหลิ่งฉาน แม้จะไม่ได้ครอง ‘ตำรากระบี่พิชิตมาร’ แต่เขากลับได้แสดงลักษณะอันน่าเกรงขามที่ประมุขห้าขุนเขาควรจะมีออกมาแล้ว!

ลิ่งหูชง ดูเหมือนเจ้าเด็กโชคร้ายคนนี้จะเสียเปรียบมาก

แต่โปรดอย่าลืมว่า เขาเสียเปรียบแทนเย่ว์ปู้ฉวิน!

ในใจเย่ว์ปู้ฉวินจะไม่รู้สึกผิดต่อเขาสักหน่อยเชียวหรือ

เดี๋ยวพอกลับไปแล้ว เย่ว์ปู้ฉวินอารมณ์ดีขึ้นมา ก็อาจจะมอบ ‘ลมปราณเมฆม่วง’ พร้อมบุตรสาวของตัวเองให้เขาก็ได้ อย่างไรเสียครั้งนี้เขาก็ไม่เจ็บตัวเปล่าแน่นอน จอมยุทธ์น้อยลิ่งหูมีเส้นทางแห่งอนาคตให้เดินแล้ว

ชีชี สถานการณ์ของเจ้าหมอนี่ก็พูดยาก

กำจัดอวี๋ชางไห่ทิ้งแม้จะได้ค่าประสบการณ์ ค่าตบะจำนวนมาก แต่การสังหารเจ้าสำนักก็เท่ากับเป็นศิษย์ที่ทรยศอาจารย์ตัวเอง บทลงโทษก็คือวิทยายุทธ์สำนักทั้งหมดที่เขามีจะถูกลดสองเลเวล

ขณะเดียวกันยังถูกหักค่าวีรบุรุษเยอะด้วย ค่าผลงานสำนักก็ยิ่งเหลือศูนย์

รางวัลที่ได้จากสังหารอวี๋ชางไห่ก็ยังไม่พอชดเชยความเสียหายเหล่านี้ด้วยซ้ำ

อย่างไรเสีย หลังจากเขาสังหารอวี๋ชางไห่แล้ว แม้แต่ไอเทมดรอปหลักๆ ก็ยังไม่ได้ไป!

แต่ถ้าจะบอกว่าเขาแพ้ นั่นก็ไม่แน่เสมอไป

ถ้าความปรารถนาเป็นจริง เขาไม่ถูกศิษย์สำนักซงซานที่กำลังทำภารกิจใกล้สังหารกำจัดทิ้ง ก็จะได้ตำรากระบี่ที่เป็นสุดยอดวิชาเล่มหนึ่งทันที นี่คือของที่เขาวางแผนอยากได้มานานแล้ว

เมื่อความปรารถนาเป็นจริง ถึงอย่างไรก็นับว่าแพ้ไม่ได้อยู่แล้ว

สามผู้เล่นจากสำนักมือปราบเทพก็ยิ่งไม่ต้องพูดอะไรมาก พวกเขาได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว!

ในระหว่างที่ทำภารกิจ พวกเขาไม่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบากเลย

สี่ปัญญาชนแห่งชิงเฉิงที่ถูกซานเย่ว์กับเฟยอวี๋สังหาร ก็ยังเป็นมอนสเตอร์ที่ไร้ความสามารถต่อต้านแล้ว

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิง ทั้งภารกิจใช้อยู่สองกระบวนท่า

ใช้วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ยิงหิน

ใช้มังกรซ่อนกบดานถล่มขุดหลุม

แบบนี้ไม่นับว่าเป็นการต่อสู้เลย

ถ้าเทียบกับผลตอบแทนของพวกเขา การต่อสู้ระดับนี้จะเรียกว่าเป็นการได้กำไรโดยไม่ต้องลงทุนก็ได้!

ถึงขั้นว่าแม้แต่อวี๋ชางไห่ก็ยังได้ผลตอบแทนไปไม่น้อย

อวี๋ชางไห่ ได้ที่พักอันหรูหรา…โลงไม้หนานมู่ที่ทำจากลวดทอง ทั้งยังจัดการพิธีการทั้งหมดภายในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งชั่วโมง ถือว่าได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าอย่างราบรื่น

หลังจากเขาวางมือจากยุทธภพแล้ว ยังได้ผู้แข็งแกร่งมาสืบทอดวิชาของสำนักชิงเฉิงด้วย นับว่ามีผู้สืบทอดแล้ว

พอพูดแบบนี้ ก็ถือว่าเขาได้กำไรเกินคาดแล้วชัดๆ!

อะไรนะ

ถามถึงสี่เดรัจฉานแห่งชิงเฉิง?

ก็บอกแล้วว่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน ย่อมนับพวกเขาในฐานะมนุษย์ไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องไปสนใจ

……

ในที่สุด เขาชิงเฉิงก็ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบท่ามกลางสถานการณ์ปรองดองที่ทุกคนเป็นฝ่ายชนะ

ผู้เล่นสามคนที่กลับถึงสำนักมือปราบเทพก็ได้รับการยอมรับและคำชมจากหวงโส่วจุนเช่นกัน หลังจากประเมินและชื่นชมผลงานของทั้งสามแล้ว ในที่สุดก็เข้าสู่ขั้นตอนการรับรางวัล ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เล่น

แจกรางวัลภารกิจ!

[ติ๊ง! คุณทำภารกิจ ‘ปราบชิงเฉิง’ ซึ่งเป็นภารกิจใหญ่ของสำนักสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ อิงตามการแสดงออกและผลงานในระหว่างที่ทำภารกิจ ได้รับรางวัลดังนี้: ค่าประสบการณ์ 400,000 แต้ม, ค่าตบะ 100,000 แต้ม มีโอกาสได้รับคำชี้แนะวิทยายุทธ์จากหวงโส่วจุนหนึ่งครั้ง]

[ติ๊ง! คุณได้อัปเลเวลแล้ว ตอนนี้เลเวลของคุณคือ 28!]

พอได้เห็นรางวัลภารกิจ แม้แต่คนที่สุขุมเยือกเย็นอย่างเยี่ยเว่ยหมิงก็ยังแอบดีใจอยู่พักหนึ่ง

นึกไม่ถึงว่าภารกิจนี้จะมอบค่าตบะ 100,000 แต้มให้ตน! ค่าตบะเยอะขนาดนี้ เพียงพอที่จะทำให้เขาอัพเลเวลของวิทยายุทธ์ที่สำคัญหนึ่งเลเวลแล้ว!

การที่เขาสิ้นเปลืองกำลังความคิดไปมากมายเพื่อวางแผน ถือว่าคุ้มค่ากับความพยายามจริงๆ

แสงสีทองสามแถวที่เป็นเครื่องหมายแสดงถึงการอัพเลเวลของตัวละครสว่างวาบอยู่ในหอประชุม ดูจากสีหน้าของเฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็รู้แล้วว่าผู้ที่ตื่นเต้นประหลาดใจกับรางวัลภารกิจครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงเยี่ยเว่ยหมิงคนเดียวแน่นอน

“เฟยอวี๋”

หวงโส่วจุนกวาดสายตามองบนตัวทั้งสามทีละคน แล้วเรียกชื่อเฟยอวี๋ก่อน “วิทยายุทธ์หลักที่เจ้าฝึกก็คือวิทยายุทธ์ระดับสูง ‘เคล็ดดาบตระกูลหู’ ตอนนี้เจ้าฝึกพอสมควรแล้ว ก่อนหน้านี้ขาดเพียงกำลังภายในระดับสูงที่จะใช้ฝึกร่วมกัน แต่ตอนนี้ข้าเห็นท่าทีเจ้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย หรือว่าได้รับกำลังภายในที่ดีกว่ามาแล้ว”

เมื่อได้ยินหวงโส่วจุนถามถึงทักษะยุทธ์ของตน เฟยอวี๋ก็ย่อมไม่กล้าเมินเฉย เขารีบพยักหน้าแล้วตอบตามความจริง “หลังจากสังหารอวี๋ชางไห่ตายแล้ว ข้าได้รับกำลังภายในระดับสูงของสำนักชิงเฉิงมา ชื่อ ‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ ตอนนี้ข้าเริ่มฝึกแล้วขอรับ”

หวงโส่วจุนพยักหน้า แล้วพูดต่อว่า “‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ เป็นหนึ่งในกำลังภายในระดับสูงสุดของสำนักชิงเฉิง มีจุดที่พิเศษอยู่จริงๆ สอดคล้องกับวิชาดาบและเคล็ดกระบี่ที่สุด เหมาะสมกับเจ้ามาก”

หลังจากเงียบไปครู่เดียว เขาก็พูดต่ออีกว่า “ให้เวลาเจ้าหนึ่งนาที ใช้ค่าตบะที่เพิ่งได้มาเสีย ไม่ว่าจะเพิ่มไปที่ ‘เคล็ดดาบตระกูลหู’ หรือเพิ่มไปที่ ‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ ก็ได้ทั้งนั้น จากนั้นค่อยก็มาหาข้าเพื่อให้ชี้แนะทักษะยุทธ์ใดก็ได้หนึ่งวิชา จะได้เพิ่มเลเวลวิชานั้นหนึ่งเลเวล!”

เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงกลับเริ่มบ่นหงชีกงในใจ

ดูหวงโส่วจุนของพวกเราสิ บอกไว้ชัดเจนว่าให้เจ้าใช้ค่าตบะก่อน จากนั้นค่อยไปให้เขาชี้แนะ ทำแบบนี้จะทำให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดได้

เทียบกับเจ้าหงชีกงขี้งกนั่น หวงโส่วจุนน่ารักกว่าไม่รู้ตั้งเท่าไร

คนสำนักเดียวกันดีกว่าจริงๆ ด้วย!

เขาเพียงเปรียบเทียบท่าทีของ NPC ระดับสูงสองคนเท่านั้น แต่กลับไม่เคยคิดเลยว่า รางวัลของภารกิจระดับหนึ่งดาวกับภารกิจระดับหกดาวจะเหมือนกันได้อย่างไร

หลังจากนั้นพักหนึ่ง เฟยอวี๋ก็เพิ่มค่าตบะเสร็จเรียบร้อยแล้วกล่าวอย่างแน่วแน่ว่า “หวงโส่วจุน ข้าอยากอัปเลเวลเคล็ดดาบตระกูลหู”

หวงโส่วจุนพยักหน้า “เคล็ดดาบตระกูลหู ให้ความสำคัญกับเคล็ดลับสี่ดาบ นั่นก็คือ…”

หลังจากนั้นสิบนาที เฟยอวี๋ก็ถอยมาอยู่ด้านข้างด้วยความอิ่มเอมใจ ดูจากสีหน้าโอ้อวดของเจ้าหมอนี่ก็รู้แล้วว่าสิ่งที่เขาได้รับต้องยิ่งใหญ่มากแน่นอน

หลังจากชี้แนะเฟยอวี๋แล้ว หวงโส่วจุนก็ย้ายสายตาไปบนตัวซานเย่ว์

เมื่อเทียบกับเฟยอวี๋ นางหนูคนนี้กระตือรือร้นกว่ามาก ไม่รอให้หวงโส่วจุนพูดอะไร นางก็เป็นฝ่ายพูดก่อนแล้ว “หวงโส่วจุน ข้าอยากเพิ่มเลเวล ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ที่ข้าเพิ่งเรียน ข้าเพิ่มค่าตบะทั้งหมดไปบนนั้นแล้ว หวงโส่วจุนได้โปรดชี้แนะ!”

“อย่ารีบ” คาดไม่ถึงว่าหวงโส่วจุนกลับยกมือห้าม “ในเมื่อเจ้าฝึก ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ของ‘สำนักชิงเฉิงแล้ว ก็น่าจะรู้ว่านั่นคือเคล็ดฝ่ามือที่ไม่สมบูรณ์ ถึงขั้นถูกประเมินให้เป็นเคล็ดวิชาระดับกลาง ตอนนี้ข้ามีทางเลือกให้เจ้าสองทาง หนึ่งคือเลือกวิทยายุทธ์หนึ่งวิชาให้ข้าชี้แนะเหมือนเฟยอวี๋ จะได้เพิ่มหนึ่งเลเวล หรือไม่อย่างนั้น…”

หวงโส่วจุนชะงักเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มหยอกล้อ “ข้าช่วยทำให้เคล็ดฝ่ามือของเจ้าสมบูรณ์ได้ เปลี่ยนให้มันเป็นเคล็ดฝ่ามือระดับสูงที่สมบูรณ์!”

ซานเย่ว์ได้ยินแล้วตะลึง ก่อนจะตอบอย่างดีใจมาก “ข้าต้องการเสริมให้เคล็ดฝ่ามือสมบูรณ์!”

ต้องทราบไว้ว่า การจะอัปเลเวลเคล็ดฝ่ามือหนึ่งเลเวล ก็แค่ประหยัดค่าตบะไว้เท่านั้นเอง แต่ถ้าอยากทำให้เคล็ดฝ่ามือสมบูรณ์ กลับต้องอาศัยจังหวะ

ถ้าจังหวะยังมาไม่ถึง ต่อให้เจ้าไปถึงจุดมุ่งหมายได้รวดเร็วเหมือนติดปีกบิน วิทยายุทธ์ที่ไม่สมบูรณ์ก็ยังเป็นวิทยายุทธ์ที่ไม่สมบูรณ์อยู่ดี!

สองทางเลือกนี้ ขอเพียงไม่ใช่คนโง่ ไม่ว่าใครก็รู้ว่าควรเลือกอย่างไร

หลังจากหวงโส่วจุนได้ยินซานเย่ว์เลือกแล้ว ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วบอกว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ตั้งใจฟังไว้ อันมรรคาแห่งฟ้า ทอนส่วนเกิน…”

หลังจากนั้นสิบนาที ซานเย่ว์จับภาพส่งไปในช่องทีม

[ฝ่ามือทะลวงใจ (ระดับสูง)]

เคล็ดฝ่ามือดุดันที่ใช้วิธีการโจมตีผ่านอากาศเพื่อใช้พลังภายในทำลายอวัยวะภายใน

เลเวล: …

……

ตอนที่ได้เห็นฝ่ามือทะลวงใจหลังจากเสริมให้สมบูรณ์แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ตะลึงค้างทันที!

มารดาเจ้าเถอะ ไม่น่าเชื่อว่าจะทำแบบนี้ได้ด้วย

ตอนที่หวงโส่วจุนหันกลับมามองที่ตน เยี่ยเว่ยหมิงก็ชิงพูดอย่างไม่ลังเลว่า “หวงโส่วจุนมีศักยภาพแข็งแกร่งจริงๆ ด้วย ใต้หล้าไร้เทียมทาน ปฏิบัติตนยุติธรรมไร้ความเห็นแก่ตัว ตอนแจกรางวัลภารกิจไม่มีทางลำเอียงแน่ ท่านดูสิ ขนาด ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ของซานเย่ว์ท่านยังทำให้สมบูรณ์ได้ เช่นนั้นก็ไม่น่าจะเลือกที่รักมักที่ชังหรอกใช่ไหม”

หวงโส่วจุนได้ยินแล้วอดยิ้มไม่ได้ “เจ้าอยากจะให้ข้าเลือกที่รักมักที่ชังอย่างไรล่ะ”

รอยยิ้มของเยี่ยเว่ยหมิงสดใสยิ่งกว่าเดิม “ที่จริงในภารกิจก่อนหน้านี้ ข้าเรียนเคล็ดฝ่ามือที่ไม่สมบูรณ์มาวิชาหนึ่ง ท่านเองก็ออกแรงช่วยเสริมความสมบูรณ์ของเคล็ดวิชานี้ให้ข้าสักหน่อยสิ”

ไม่อย่างนั้นจะมีคำกล่าวที่ว่า ‘คนหน้าด้าน ใต้หล้าไร้เทียมทาน’ หรือ

พอได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยคำขอแบบนี้ออกมา เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็อดมองเขาด้วยสายตาดูถูกไม่ได้

ส่วนหวงโส่วจุนก็เพียงยิ้มบางๆ จากนั้นบอกว่า “เจ้าจะลองใช้เคล็ดฝ่ามือที่เจ้าเรียนมาก่อนก็ได้ แต่ขอบอกไว้ล่วงหน้า ความสามารถของข้ามีจำกัด ใช่ว่าจะอัปเลเวลทุกทักษะยุทธ์ให้เต็มได้ ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ จัดเป็นกรณีพิเศษ ถ้าเคล็ดฝ่ามือที่เจ้าเรียนมาไม่ยากเกินไป ข้าก็จะพยายามช่วยเจ้าเสริมให้สมบูรณ์ ใช่ว่าจะลองดูไม่ได้”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วดีใจมาก เขาคิดเสียว่าเป็นการทดลอง ย่อเข่าแล้วผลักฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้งอย่างธรรมดาเรียบง่ายทันที

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงใช้ฝ่ามือนี้เหมือนทำเป็นเล่น เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็อดสงสัยไม่ได้ อย่าบอกนะว่าก่อนหน้านี้ตนเดาผิด

คาดไม่ถึงว่าหลังจากหวงโส่วจุนเห็นฝ่ามือนี้ของเขาแล้ว กลับด่าทอยกใหญ่ทันที “เจ้าเด็กเจ้าเล่ห์ เรียนรู้ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ได้เพียงหนึ่งกระบวนท่า เจ้าก็คิดจะเสริมให้มันเป็นสุดยอดวิชาที่สมบูรณ์แบบแล้วหรือ…

…ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค พุ่งพรวดขึ้นฟ้าเก้าหมื่นลี้[1]”

[1] ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค พุ่งพรวดขึ้นฟ้าเก้าหมื่นลี้ 问君何不乘风起,扶摇直上九万里 ส่วนหนึ่งจากบทกลอน 上李邕 ช่างหลี่ยงของกวีหลี่ไป๋ หมายถึง ต้องการให้เจ้าทำตามความมุ่งมาดปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 210 ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 210 ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 210 ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค

ระหว่างทางกลับสำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิงสรุปผลได้ผลเสียด้านต่างๆ จากภารกิจครั้งนี้ เขากลับค้นพบอย่างตกตะลึงว่า ทุกคนที่เข้าร่วมภารกิจนี้แทบจะเป็นผู้ชนะทั้งหมด แตกต่างเพียงว่าใครชนะมาก หรือชนะน้อยก็เท่านั้นเอง

ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีผู้แพ้เลย!

ไม่ต้องพูดถึงสำนักมือปราบเทพ เพียงมีประกาศไล่สังหารออกมา ก็ทำให้อวี๋ชางไห่กลายเป็นศัตรูของคนทั้งยุทธภพในชั่วพริบตาเดียว เมื่อถูกตัวละครสำคัญอย่างจั่วเหลิ่งฉานกับเย่ว์ปู้ฉวินไล่สังหารด้วยตัวเอง ชื่อเสียงก็พุ่งทะลุฟ้าแล้ว

นี่ก็คือผลลัพธ์ที่หวงโส่วจุนต้องการ โดยมีพื้นฐานว่าต้องทำภารกิจให้สำเร็จอย่างราบรื่น ทำให้สำนักมือปราบเทพดูมีระดับมากที่สุด ส่วนเนื้อแท้ของเรื่องนี้ก็คือ สำนักมือปราบเทพให้หลินผิงจือเป็นเจ้าสำนักชิงเฉิงแล้ว เขาจะกล้าไม่ฟังคำสั่งของสำนักมือปราบเทพเชียวหรือ

ยิ่งไปกว่านั้น ความแค้นอันยิ่งใหญ่ของน้องใหม่ในยุทธภพอย่างหลินผิงจือก็ได้รับการสะสางแล้ว ทั้งยังได้รับช่วงต่อของสำนักศัตรู แย่งชิงกิจการของศัตรูมาได้ ดำรงตำแหน่ง CEO แต่งภรรยา…แค่กๆ ถึงอย่างไรก็ได้เดินไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว

ส่วนสำนักชิงเฉิง?

หลังจากผ่านเรื่องราวครั้งนี้ แม้จะมีความเสียหายอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าได้กำจัดโรคเรื้อรังเช่นกัน ทั้งยังได้ยอดฝีมือที่มีศักยภาพแฝงไร้ที่สิ้นสุดมาเป็นเจ้าสำนัก มีราชสำนักคอยเป็นโล่ข้างหลังให้ด้วย จินตนาการถึงความก้าวหน้าในอนาคตได้เลย

เย่ว์ปู้ฉวิน แม้จะไม่ได้ ‘ตำรากระบี่พิชิตมาร’ ไป แต่ชื่อเสียงกระบี่วิญญูชนของเขาก็จะสว่างไสวขึ้นกว่าเดิมแน่นอน!

จั่วเหลิ่งฉาน แม้จะไม่ได้ครอง ‘ตำรากระบี่พิชิตมาร’ แต่เขากลับได้แสดงลักษณะอันน่าเกรงขามที่ประมุขห้าขุนเขาควรจะมีออกมาแล้ว!

ลิ่งหูชง ดูเหมือนเจ้าเด็กโชคร้ายคนนี้จะเสียเปรียบมาก

แต่โปรดอย่าลืมว่า เขาเสียเปรียบแทนเย่ว์ปู้ฉวิน!

ในใจเย่ว์ปู้ฉวินจะไม่รู้สึกผิดต่อเขาสักหน่อยเชียวหรือ

เดี๋ยวพอกลับไปแล้ว เย่ว์ปู้ฉวินอารมณ์ดีขึ้นมา ก็อาจจะมอบ ‘ลมปราณเมฆม่วง’ พร้อมบุตรสาวของตัวเองให้เขาก็ได้ อย่างไรเสียครั้งนี้เขาก็ไม่เจ็บตัวเปล่าแน่นอน จอมยุทธ์น้อยลิ่งหูมีเส้นทางแห่งอนาคตให้เดินแล้ว

ชีชี สถานการณ์ของเจ้าหมอนี่ก็พูดยาก

กำจัดอวี๋ชางไห่ทิ้งแม้จะได้ค่าประสบการณ์ ค่าตบะจำนวนมาก แต่การสังหารเจ้าสำนักก็เท่ากับเป็นศิษย์ที่ทรยศอาจารย์ตัวเอง บทลงโทษก็คือวิทยายุทธ์สำนักทั้งหมดที่เขามีจะถูกลดสองเลเวล

ขณะเดียวกันยังถูกหักค่าวีรบุรุษเยอะด้วย ค่าผลงานสำนักก็ยิ่งเหลือศูนย์

รางวัลที่ได้จากสังหารอวี๋ชางไห่ก็ยังไม่พอชดเชยความเสียหายเหล่านี้ด้วยซ้ำ

อย่างไรเสีย หลังจากเขาสังหารอวี๋ชางไห่แล้ว แม้แต่ไอเทมดรอปหลักๆ ก็ยังไม่ได้ไป!

แต่ถ้าจะบอกว่าเขาแพ้ นั่นก็ไม่แน่เสมอไป

ถ้าความปรารถนาเป็นจริง เขาไม่ถูกศิษย์สำนักซงซานที่กำลังทำภารกิจใกล้สังหารกำจัดทิ้ง ก็จะได้ตำรากระบี่ที่เป็นสุดยอดวิชาเล่มหนึ่งทันที นี่คือของที่เขาวางแผนอยากได้มานานแล้ว

เมื่อความปรารถนาเป็นจริง ถึงอย่างไรก็นับว่าแพ้ไม่ได้อยู่แล้ว

สามผู้เล่นจากสำนักมือปราบเทพก็ยิ่งไม่ต้องพูดอะไรมาก พวกเขาได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว!

ในระหว่างที่ทำภารกิจ พวกเขาไม่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบากเลย

สี่ปัญญาชนแห่งชิงเฉิงที่ถูกซานเย่ว์กับเฟยอวี๋สังหาร ก็ยังเป็นมอนสเตอร์ที่ไร้ความสามารถต่อต้านแล้ว

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิง ทั้งภารกิจใช้อยู่สองกระบวนท่า

ใช้วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ยิงหิน

ใช้มังกรซ่อนกบดานถล่มขุดหลุม

แบบนี้ไม่นับว่าเป็นการต่อสู้เลย

ถ้าเทียบกับผลตอบแทนของพวกเขา การต่อสู้ระดับนี้จะเรียกว่าเป็นการได้กำไรโดยไม่ต้องลงทุนก็ได้!

ถึงขั้นว่าแม้แต่อวี๋ชางไห่ก็ยังได้ผลตอบแทนไปไม่น้อย

อวี๋ชางไห่ ได้ที่พักอันหรูหรา…โลงไม้หนานมู่ที่ทำจากลวดทอง ทั้งยังจัดการพิธีการทั้งหมดภายในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งชั่วโมง ถือว่าได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าอย่างราบรื่น

หลังจากเขาวางมือจากยุทธภพแล้ว ยังได้ผู้แข็งแกร่งมาสืบทอดวิชาของสำนักชิงเฉิงด้วย นับว่ามีผู้สืบทอดแล้ว

พอพูดแบบนี้ ก็ถือว่าเขาได้กำไรเกินคาดแล้วชัดๆ!

อะไรนะ

ถามถึงสี่เดรัจฉานแห่งชิงเฉิง?

ก็บอกแล้วว่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน ย่อมนับพวกเขาในฐานะมนุษย์ไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องไปสนใจ

……

ในที่สุด เขาชิงเฉิงก็ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบท่ามกลางสถานการณ์ปรองดองที่ทุกคนเป็นฝ่ายชนะ

ผู้เล่นสามคนที่กลับถึงสำนักมือปราบเทพก็ได้รับการยอมรับและคำชมจากหวงโส่วจุนเช่นกัน หลังจากประเมินและชื่นชมผลงานของทั้งสามแล้ว ในที่สุดก็เข้าสู่ขั้นตอนการรับรางวัล ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เล่น

แจกรางวัลภารกิจ!

[ติ๊ง! คุณทำภารกิจ ‘ปราบชิงเฉิง’ ซึ่งเป็นภารกิจใหญ่ของสำนักสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ อิงตามการแสดงออกและผลงานในระหว่างที่ทำภารกิจ ได้รับรางวัลดังนี้: ค่าประสบการณ์ 400,000 แต้ม, ค่าตบะ 100,000 แต้ม มีโอกาสได้รับคำชี้แนะวิทยายุทธ์จากหวงโส่วจุนหนึ่งครั้ง]

[ติ๊ง! คุณได้อัปเลเวลแล้ว ตอนนี้เลเวลของคุณคือ 28!]

พอได้เห็นรางวัลภารกิจ แม้แต่คนที่สุขุมเยือกเย็นอย่างเยี่ยเว่ยหมิงก็ยังแอบดีใจอยู่พักหนึ่ง

นึกไม่ถึงว่าภารกิจนี้จะมอบค่าตบะ 100,000 แต้มให้ตน! ค่าตบะเยอะขนาดนี้ เพียงพอที่จะทำให้เขาอัพเลเวลของวิทยายุทธ์ที่สำคัญหนึ่งเลเวลแล้ว!

การที่เขาสิ้นเปลืองกำลังความคิดไปมากมายเพื่อวางแผน ถือว่าคุ้มค่ากับความพยายามจริงๆ

แสงสีทองสามแถวที่เป็นเครื่องหมายแสดงถึงการอัพเลเวลของตัวละครสว่างวาบอยู่ในหอประชุม ดูจากสีหน้าของเฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็รู้แล้วว่าผู้ที่ตื่นเต้นประหลาดใจกับรางวัลภารกิจครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงเยี่ยเว่ยหมิงคนเดียวแน่นอน

“เฟยอวี๋”

หวงโส่วจุนกวาดสายตามองบนตัวทั้งสามทีละคน แล้วเรียกชื่อเฟยอวี๋ก่อน “วิทยายุทธ์หลักที่เจ้าฝึกก็คือวิทยายุทธ์ระดับสูง ‘เคล็ดดาบตระกูลหู’ ตอนนี้เจ้าฝึกพอสมควรแล้ว ก่อนหน้านี้ขาดเพียงกำลังภายในระดับสูงที่จะใช้ฝึกร่วมกัน แต่ตอนนี้ข้าเห็นท่าทีเจ้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย หรือว่าได้รับกำลังภายในที่ดีกว่ามาแล้ว”

เมื่อได้ยินหวงโส่วจุนถามถึงทักษะยุทธ์ของตน เฟยอวี๋ก็ย่อมไม่กล้าเมินเฉย เขารีบพยักหน้าแล้วตอบตามความจริง “หลังจากสังหารอวี๋ชางไห่ตายแล้ว ข้าได้รับกำลังภายในระดับสูงของสำนักชิงเฉิงมา ชื่อ ‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ ตอนนี้ข้าเริ่มฝึกแล้วขอรับ”

หวงโส่วจุนพยักหน้า แล้วพูดต่อว่า “‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ เป็นหนึ่งในกำลังภายในระดับสูงสุดของสำนักชิงเฉิง มีจุดที่พิเศษอยู่จริงๆ สอดคล้องกับวิชาดาบและเคล็ดกระบี่ที่สุด เหมาะสมกับเจ้ามาก”

หลังจากเงียบไปครู่เดียว เขาก็พูดต่ออีกว่า “ให้เวลาเจ้าหนึ่งนาที ใช้ค่าตบะที่เพิ่งได้มาเสีย ไม่ว่าจะเพิ่มไปที่ ‘เคล็ดดาบตระกูลหู’ หรือเพิ่มไปที่ ‘วิชากระเรียนขาวคำรามเก้าชั้นฟ้า’ ก็ได้ทั้งนั้น จากนั้นค่อยก็มาหาข้าเพื่อให้ชี้แนะทักษะยุทธ์ใดก็ได้หนึ่งวิชา จะได้เพิ่มเลเวลวิชานั้นหนึ่งเลเวล!”

เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงกลับเริ่มบ่นหงชีกงในใจ

ดูหวงโส่วจุนของพวกเราสิ บอกไว้ชัดเจนว่าให้เจ้าใช้ค่าตบะก่อน จากนั้นค่อยไปให้เขาชี้แนะ ทำแบบนี้จะทำให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดได้

เทียบกับเจ้าหงชีกงขี้งกนั่น หวงโส่วจุนน่ารักกว่าไม่รู้ตั้งเท่าไร

คนสำนักเดียวกันดีกว่าจริงๆ ด้วย!

เขาเพียงเปรียบเทียบท่าทีของ NPC ระดับสูงสองคนเท่านั้น แต่กลับไม่เคยคิดเลยว่า รางวัลของภารกิจระดับหนึ่งดาวกับภารกิจระดับหกดาวจะเหมือนกันได้อย่างไร

หลังจากนั้นพักหนึ่ง เฟยอวี๋ก็เพิ่มค่าตบะเสร็จเรียบร้อยแล้วกล่าวอย่างแน่วแน่ว่า “หวงโส่วจุน ข้าอยากอัปเลเวลเคล็ดดาบตระกูลหู”

หวงโส่วจุนพยักหน้า “เคล็ดดาบตระกูลหู ให้ความสำคัญกับเคล็ดลับสี่ดาบ นั่นก็คือ…”

หลังจากนั้นสิบนาที เฟยอวี๋ก็ถอยมาอยู่ด้านข้างด้วยความอิ่มเอมใจ ดูจากสีหน้าโอ้อวดของเจ้าหมอนี่ก็รู้แล้วว่าสิ่งที่เขาได้รับต้องยิ่งใหญ่มากแน่นอน

หลังจากชี้แนะเฟยอวี๋แล้ว หวงโส่วจุนก็ย้ายสายตาไปบนตัวซานเย่ว์

เมื่อเทียบกับเฟยอวี๋ นางหนูคนนี้กระตือรือร้นกว่ามาก ไม่รอให้หวงโส่วจุนพูดอะไร นางก็เป็นฝ่ายพูดก่อนแล้ว “หวงโส่วจุน ข้าอยากเพิ่มเลเวล ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ที่ข้าเพิ่งเรียน ข้าเพิ่มค่าตบะทั้งหมดไปบนนั้นแล้ว หวงโส่วจุนได้โปรดชี้แนะ!”

“อย่ารีบ” คาดไม่ถึงว่าหวงโส่วจุนกลับยกมือห้าม “ในเมื่อเจ้าฝึก ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ของ‘สำนักชิงเฉิงแล้ว ก็น่าจะรู้ว่านั่นคือเคล็ดฝ่ามือที่ไม่สมบูรณ์ ถึงขั้นถูกประเมินให้เป็นเคล็ดวิชาระดับกลาง ตอนนี้ข้ามีทางเลือกให้เจ้าสองทาง หนึ่งคือเลือกวิทยายุทธ์หนึ่งวิชาให้ข้าชี้แนะเหมือนเฟยอวี๋ จะได้เพิ่มหนึ่งเลเวล หรือไม่อย่างนั้น…”

หวงโส่วจุนชะงักเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มหยอกล้อ “ข้าช่วยทำให้เคล็ดฝ่ามือของเจ้าสมบูรณ์ได้ เปลี่ยนให้มันเป็นเคล็ดฝ่ามือระดับสูงที่สมบูรณ์!”

ซานเย่ว์ได้ยินแล้วตะลึง ก่อนจะตอบอย่างดีใจมาก “ข้าต้องการเสริมให้เคล็ดฝ่ามือสมบูรณ์!”

ต้องทราบไว้ว่า การจะอัปเลเวลเคล็ดฝ่ามือหนึ่งเลเวล ก็แค่ประหยัดค่าตบะไว้เท่านั้นเอง แต่ถ้าอยากทำให้เคล็ดฝ่ามือสมบูรณ์ กลับต้องอาศัยจังหวะ

ถ้าจังหวะยังมาไม่ถึง ต่อให้เจ้าไปถึงจุดมุ่งหมายได้รวดเร็วเหมือนติดปีกบิน วิทยายุทธ์ที่ไม่สมบูรณ์ก็ยังเป็นวิทยายุทธ์ที่ไม่สมบูรณ์อยู่ดี!

สองทางเลือกนี้ ขอเพียงไม่ใช่คนโง่ ไม่ว่าใครก็รู้ว่าควรเลือกอย่างไร

หลังจากหวงโส่วจุนได้ยินซานเย่ว์เลือกแล้ว ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วบอกว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ตั้งใจฟังไว้ อันมรรคาแห่งฟ้า ทอนส่วนเกิน…”

หลังจากนั้นสิบนาที ซานเย่ว์จับภาพส่งไปในช่องทีม

[ฝ่ามือทะลวงใจ (ระดับสูง)]

เคล็ดฝ่ามือดุดันที่ใช้วิธีการโจมตีผ่านอากาศเพื่อใช้พลังภายในทำลายอวัยวะภายใน

เลเวล: …

……

ตอนที่ได้เห็นฝ่ามือทะลวงใจหลังจากเสริมให้สมบูรณ์แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ตะลึงค้างทันที!

มารดาเจ้าเถอะ ไม่น่าเชื่อว่าจะทำแบบนี้ได้ด้วย

ตอนที่หวงโส่วจุนหันกลับมามองที่ตน เยี่ยเว่ยหมิงก็ชิงพูดอย่างไม่ลังเลว่า “หวงโส่วจุนมีศักยภาพแข็งแกร่งจริงๆ ด้วย ใต้หล้าไร้เทียมทาน ปฏิบัติตนยุติธรรมไร้ความเห็นแก่ตัว ตอนแจกรางวัลภารกิจไม่มีทางลำเอียงแน่ ท่านดูสิ ขนาด ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ของซานเย่ว์ท่านยังทำให้สมบูรณ์ได้ เช่นนั้นก็ไม่น่าจะเลือกที่รักมักที่ชังหรอกใช่ไหม”

หวงโส่วจุนได้ยินแล้วอดยิ้มไม่ได้ “เจ้าอยากจะให้ข้าเลือกที่รักมักที่ชังอย่างไรล่ะ”

รอยยิ้มของเยี่ยเว่ยหมิงสดใสยิ่งกว่าเดิม “ที่จริงในภารกิจก่อนหน้านี้ ข้าเรียนเคล็ดฝ่ามือที่ไม่สมบูรณ์มาวิชาหนึ่ง ท่านเองก็ออกแรงช่วยเสริมความสมบูรณ์ของเคล็ดวิชานี้ให้ข้าสักหน่อยสิ”

ไม่อย่างนั้นจะมีคำกล่าวที่ว่า ‘คนหน้าด้าน ใต้หล้าไร้เทียมทาน’ หรือ

พอได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยคำขอแบบนี้ออกมา เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็อดมองเขาด้วยสายตาดูถูกไม่ได้

ส่วนหวงโส่วจุนก็เพียงยิ้มบางๆ จากนั้นบอกว่า “เจ้าจะลองใช้เคล็ดฝ่ามือที่เจ้าเรียนมาก่อนก็ได้ แต่ขอบอกไว้ล่วงหน้า ความสามารถของข้ามีจำกัด ใช่ว่าจะอัปเลเวลทุกทักษะยุทธ์ให้เต็มได้ ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ จัดเป็นกรณีพิเศษ ถ้าเคล็ดฝ่ามือที่เจ้าเรียนมาไม่ยากเกินไป ข้าก็จะพยายามช่วยเจ้าเสริมให้สมบูรณ์ ใช่ว่าจะลองดูไม่ได้”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วดีใจมาก เขาคิดเสียว่าเป็นการทดลอง ย่อเข่าแล้วผลักฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้งอย่างธรรมดาเรียบง่ายทันที

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงใช้ฝ่ามือนี้เหมือนทำเป็นเล่น เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็อดสงสัยไม่ได้ อย่าบอกนะว่าก่อนหน้านี้ตนเดาผิด

คาดไม่ถึงว่าหลังจากหวงโส่วจุนเห็นฝ่ามือนี้ของเขาแล้ว กลับด่าทอยกใหญ่ทันที “เจ้าเด็กเจ้าเล่ห์ เรียนรู้ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ได้เพียงหนึ่งกระบวนท่า เจ้าก็คิดจะเสริมให้มันเป็นสุดยอดวิชาที่สมบูรณ์แบบแล้วหรือ…

…ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค พุ่งพรวดขึ้นฟ้าเก้าหมื่นลี้[1]”

[1] ถามเจ้าไยมิขี่ลมเหมือนวิหค พุ่งพรวดขึ้นฟ้าเก้าหมื่นลี้ 问君何不乘风起,扶摇直上九万里 ส่วนหนึ่งจากบทกลอน 上李邕 ช่างหลี่ยงของกวีหลี่ไป๋ หมายถึง ต้องการให้เจ้าทำตามความมุ่งมาดปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด