Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1448

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1448 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1448 กระบี่เดียวปลิดชีพ

“แว้งค์…” เมื่อสวรรค์สาดส่องทั้งหมดได้ครอบคลุมลงบนตัวของหลี่ชิเย่ แล้ว ปรากฎสวรรค์สาดส่องทั้งหมดพลันหลอมรวมเข้าด้วยกัน และคงเหลือสวรรค์สาดส่องไว้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

ครั้นเมื่อสวรรค์สาดส่องเช่นนี้ปรากฏขึ้นมา เห็นเป็นหลุมดำหลุมหนึ่งลอยขึ้นมา ฉับพลันนั้น ภายในหลุมดำปรากฏเป็นมือขนาดใหญ่ยื่นออกมา โดยที่มือขนาดใหญ่นี้มีสีดำสนิท ดำจนกระทั่งสามารถดูดเอาแสงสว่างจากรอบๆ เข้ามา เหมือนว่าประกายแสงใดๆ ก็ตามล้วนแล้วแต่ไม่สามารถรอดพ้นไปจากมือสีดำขนาดใหญ่นี้ไปได้

“ปัง” มือสีดำพลันทำการสยบลงมา ตรงเข้าบดขยี้หลี่ชิเย่ มันมีความเป็นอันธพาลและกระทำกันตรงๆ เช่นนี้แหละ ขณะที่ทำการบดขยี้ลงมานั้น ไม่ได้อาศัยเคล็ดวิชาใดๆ ไม่มีกระบวนท่า และไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เป็นการเข้าสยบอย่างตรงไปตรงมา

ขณะที่มือสีดำลักษณะเช่นนี้ทำการสยบลงมา บรรดาผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่อยู่ในเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ต่างมีความรู้สึกว่า มือสีดำข้างนี้มาจากส่วนที่ลึกที่สุดของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งไม่นับเป็นพลังของผู้บำเพ็ญตน และไม่ถือว่าเป็นพลังสัจธรรม ยิ่งไม่ใช่พลังของเทพเจ้าโบราณทะเลลึก

เหมือนว่าพลังเช่นนี้เป็นของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น เหมือนว่าในบริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มีพลังที่ผู้คนไม่สามารถศึกษาอย่างละเอียดได้อยู่สายหนึ่ง โดยที่พลังสายนี้สามารถกำราบเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินได้ สามารถสยบเหล่าเทพได้

ขณะที่มือสีดำลักษณะเช่นนี้ทำการสยบลงมา ผู้คนจำนวนมากถึงกับขนลุกขนพอง ความแข็งแกร่งของเทพเจ้าโบราณทะเลลึกใช่จะไม่มีเหตุผล การที่เทพเจ้าโบราณทะเลลึกได้กุมความลี้ลับพิสดารจำนวนมากที่ผู้คนไม่รู้เอาไว้ อาจเป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้เทพเจ้าโบราณทะเลลึกยังคงยืนหยัดอยู่ที่เสินจื่อโจวได้โดยไม่ล่มสลาย

“จับทารกที่น่ารักไปฝังเอาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของเทพเจ้าโบราณทะเลลึก ถึงจะบ่มฟักออกมาได้มันก็เป็นเพียงสัตว์ประหลาดเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ โดยไม่ได้ใส่ใจกับการที่ต้องเผชิญหน้ากับการสยบเช่นนี้

หลี่ชิเย่ไม่ได้มีท่วงท่ามากมายกับมือสีดำที่กำลังสยบเข้ามา เพียงแค่ใช้มือข้างเดียวกดลงไปท่ามกลางความว่างเปล่า เสียงตึงตึงตึงดังขึ้น เหมือนมีบทคัมภีร์อะไรสักอย่างถูกคลายออกอย่างเป็นธรรมชาติ ทันใดนั้น ดูเหมือนฝ่ามือข้างนี้นของหลี่ชิเย่ได้ทำการควบคุมพลังฟ้าดินเอาไว้ทั้งหมดในทันที เหมือนว่าเส้นชีพจรหลักของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ถูกเขาควบคุมเอาไว้ในมือ

“ปัง” มือสีดำที่สยบบนตัวหลี่ชิเย่พลันแตกสลายไปในพริบตาด้วยท่วงท่าเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ และพลังที่สยบบนตัวพลันสลายหายไปทันที

“แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์”ประกายสีดำจากสวรรค์สาดส่องของกองกำลังปฏิบัติการลับที่ครอบคลุมบนตัวหลี่ชิเย่ในเวลานี้ ทั้งหมดกลับสะท้อนกลับออกมาและพุ่งกลับเข้าไปหาสวรรค์สาดส่องทันที

“อ๊ากก………” เสียงร้องอันน่าเวทนาดังขึ้นเป็นระลอก “ปัง ปัง ปัง” เสียงแตกหักดังขึ้น สวรรค์สาดส่องของกองกำลังปฏิบัติการลับทั้งหมดพลันแตกสลายไปในทันใด และบนตัวของพวกเขาเหล่านั้นปรากฏเสียง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ดังขึ้น เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ศิษย์ที่เป็นสมาชิกกองกำลังปฏิบัติการลับทั้งหมดล้วนแล้วแต่กลายเป็นศพแห้ง  เหมือนว่ามีบางสิ่งทำการดูดเอาพลัง เลือดแก่น ชีวิต………..ที่อยู่ในตัวของพวกเขาจนหมดสิ้น กลายเป็นศพแห้งไปในที่สุด

ผู้ที่ได้เห็นสภาพของศิษย์ที่เป็นสมาชิกกองกำลังปฏิบัติการลับทั้งหมดล้วนแล้วแต่กลายเป็นเหมือนดั่งศพแห้ง ทยอยกันล้มลงกับพื้นแล้วถึงกับขนลุกขนพองขึ้นมาพร้อมกับร่างที่สั่นเทิ้มขึ้นทีหนี่ง ไม่มีใครรู้ว่าหลี่ชิเย่อาศัยวิธีการอะไร

“ล่วงรู้ถึงความลี้ลับพิสดารเพียงน้อยนิดเท่านั้น ยังคิดจะยืมเอาพลังของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มาสยบข้ารึ? ” หลี่ชิเย่หัวเราะนิดหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ในเสินจื่อโจวแห่งนี้ พลังความลี้ลับพิสดารที่เรียนรู้มาก็แค่ผิวเผินเท่านั้นเอง ด้วยมาตรฐานเพียงเท่านี้คิดจะสยบข้าอย่างนั้นรึ เรียกว่าหัวเราะจนฟันหักเลยล่ะ ในเมื่อพลังเหล่านี้เป็นของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ก็คืนให้กับเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็แล้วกัน…………….”

“……………จับเด็กทารกฝังเอาไว้ใต้พื้นดิน แล้วอาศัยพลังที่อยู่ใต้พื้นดินของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นตัวหล่อเลี้ยง วิธีการที่เป็นมาตรฐานเด็กๆ เขาเล่นกันแบบนี้ก็เข้าใจว่าตนเองสามารถควบคุมพลังของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว นับว่าเป็นที่ขบขันไปทั่วหล้า ถ้าหากอาศัยเพียงเท่านี้ก็สามารถควบคุมพลังของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วล่ะก็ เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คงไม่กลายเป็นหนึ่งในสิบสองสุสานได้แล้ว”

ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ได้มองหน้ากู่หลิงโซว่จู่ตามอารมณ์ทีหนึ่ง ขณะที่สีหน้าของกู่หลิงโซว่จู่ดูไม่จืดถึงที่สุด

กองกำลังปฏิบัติการลับของเทพเจ้าโบราณทะเลลึกเป็นที่หวั่นเกรงของผู้คนตลอดมา กระทั่งกล่าวได้ว่า กองกำลังปฏิบัติการลับของเทพเจ้าโบราณทะเลลึกเป็นคู่ปรับของผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่มาจากต่างถิ่น ใครหาญกล้าเป็นศัตรูกับเทพเจ้าโบราณทะเลลึก กองกำลังปฏิบัติการลับของพวกเขาก็สามารถสยบฝ่ายตรงข้ามได้ ด้วยการสยบทักษะยุทธของพวกเขาให้อยู่ในมาตรฐานที่ต่ำสุด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผู้ที่ถูกพวกเขาสยบเอาไว้ก็จะกลายเป็นเนื้อบนเขียงที่สุดแล้วแต่เทพเจ้าโบราณทะเลลึกของพวกเขาจะเชือดเฉือน

อย่างไรก็ตาม เวลานี้กองกำลังปฏิบัติการลับที่ได้ชื่อว่ารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งของพวกเขากลับพังไม่เป็นท่าต่อหน้าหลี่ชิเย่

“หลี่ชิเย่ได้ควบคุมความลี้ลับพิสดารบางอย่างของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ได้” ระดับผู้ยิ่งใหญ่ที่รับรู้ถึงประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับกองกำลังปฏิบัติการลับถึงกับสะท้านภายในใจ และกล่าวด้วยความรู้สึกใจหายใจคว่ำออกมา

ศิษย์ทุกคนที่เป็นกองกำลังปฏิบัติการลับของเทพเจ้าโบราณทะเลลึก พวกเขาถูกจับไปฝังเอาไว้ใต้พื้นดินส่วนที่ลึกที่สุดของเทพเจ้าโบราณทะเลลึก ได้ยินมาว่า สถานที่ตรงนั้นสามารถเชื่อมต่อไปถึงชีพจรใต้พื้นดินของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้ และเทพเจ้าโบราณทะเลลึกอาศัยหยิบยืมพลังของเส้นชีพจรใต้ดินลักษณะนี้มาหล่อเลี้ยงศิษย์ที่จะเป็นกองกำลังปฏิบัติการลับ เพื่อให้ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยพลังของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์

ด้วยสาเหตุนี้เอง จึงทำให้ศิษย์ที่เป็นกองกำลังปฏิบัติการลับมีความสามารถในการสยบผู้บำเพ็ญตนคนใดก็ตามที่มาจากที่อื่น

น่าเสียดาย พวกเขากลับต้องการเจอกับหลี่ชิเย่ ความลี้ลับพิสดารที่หลี่ชิเย่ควบคุมเอาไว้ในมือมีมากกว่าที่เทพเจ้าโบราณทะเลลึกมีอยู่ การลงมือเมื่อครู่ของหลี่ชิเย่คือการสลายพลังออกไปทั้งหมด เมื่อพลังถูกสลายไป ทำให้พลัง เลือดแก่น พลังชีวิตทั้งหมดของศิษย์ที่เป็นกองกำลังปฏิบัติการลับถูกดึงออกไปจากตัว คืนกลับไปยังพื้นปฐพีของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ตามเดิม อันเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นศพแห้งไป

“หลี่ชิเย่ ………..” กู่หลิงโซว่จู่กัดฟันด้วยความเคียดแค้น ร้องเสียงดังออกมาว่า “เทพเจ้าโบราณทะเลลึกจะไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้า! อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอดไปจากเสินจื่อโจว! ”

ภายในใจของกู่หลิงโซว่จู่ถึงกับหลั่งเป็นเลือดออกมา การที่เทพเจ้าโบราณทะเลลึกพวกเขาจะบ่มฟักศิษย์กองกำลังปฏิบัติการลับขึ้นมาสักคนใช่จะเป็นเรื่องง่ายดาย แต่ละคนต้องอาศัยการบ่มฟักเป็นเวลาหลายสิบปีกระทั่งหลายร้อยปี เวลานี้ เพียงพริบตาเดียวเท่านั้นกลับถูกหลี่ชิเย่สังหารสิ้นทั้งหมด เป็นการสูญเสียอย่างหนักสำหรับเทพเจ้าโบราณทะเลลึกของพวกเขา

“เอาล่ะ คำพูดนี้ข้าเข้าใจแล้ว” หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ ยิ้มกล่าวว่า “เจ้ายังคงคิดดูสักครั้งว่า เจ้าจะมีชีวิตรอดไปจากที่นี่ได้หรือไม่ก็แล้วกัน”

“ต่อให้เทพเจ้าโบราณทะเลลึกของพวกเราสู้จนเหลือคนสุดท้าย ก็จะเอาหัวของเจ้าให้จงได้” กู่หลิงโซว่จู่ร้องคำรามเสียงดังออกมา

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มเฉยเมยกับคำพูดที่โกรธแค้นยิ่งของกู่หลิงโซว่จู่ กล่าวว่า “อาศัยคำพูดลักษณะเช่นนี้ของเจ้า ข้าก็สมควรตัดเอาหัวของเจ้าออกมา แต่ว่า หัวของเจ้ามีคนเขาจับจองเอาไว้แล้ว”

“ดูท่านออกจะวาจาสามหาวเกินไปแล้ว วันนี้มีข้าอยู่ทั้งคนจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าก่อกรรมทำชั่วได้” ในเวลานี้ เจียวเสินจวู๋ที่นั่งอยู่ข้างๆ กู่หลิงโซว่จู่ทนดูต่อไปไม่ไหว ลุกขึ้นยืนพรวดพราดและกล่าวน่าเกรงขามออกมา

 จุดประสงค์การมาเสินจื่อโจวครั้งนี้ของเจียวเสินจวู๋ก็เพื่อต้องการร่วมมือกับเทพเจ้าโบราณทะเลลึก อีกทั้งจู่ลู่ของพวกเขาก็ต้องการแก้แค้นต่อหลี่ชิเย่อีกด้วย เวลานี้เจียวเสินจวู๋อยู่ที่นี่ด้วยแล้ว จะยอมปล่อยให้โอกาสอันดีนี้หลุดลอยไปได้อย่างไรกัน

“มา มาเลย มา ในเมื่อเจ้าต้องการรนหาที่ตายข้าก็จะสงเคราะห์เจ้า” หลี่ชิเย่หัวเราะนิดหนึ่ง แล้วทำกวักมือต่อเจียวเสินจวู๋ และยิ้มกล่าวว่า “ก็ดี จัดการตัวน้อยไม่ต้องกลัวว่าตัวใหญ่จะไม่โผล่ออกมา ข้ากำลังคิดจะดูดเจ้าหลงจวู๋อะไรนั่นให้มันแห้งอยู่พอดีเลย”

“บังอาจ……….” เมื่อเจียวเสินจวู๋ได้ยินหลี่ชิเย่ลบหลู่อาจารย์ของตนเช่นนี้จึงอดกลั้นต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว คำรามเสียงดังออกมาแล้วก้าวเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง “ปัง” ทันใดนั้น เจียวเสินจวู๋พลันหยั่งรากลงสู่พื้นดิน เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา

ในเวลานี้ ปรากฏต้นไผ่เขียวที่ใหญ่โตมโหฬารต้นหนึ่งอยู่ตรงหน้าของคนทุกคน มันสูงทะลุเมฆา ขนาดของใบไผ่ใหญ่จนสามารถปกคลุมท้องฟ้าเอาไว้

โดยต้นไผ่เขียวที่ใหญ่โตเช่นนี้กลับมีมังกรชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าเจียวหลงอาศัยอยู่ตรงนั้น โดยที่เจียวหลงตัวนี้มีร่างกายที่ค่อนข้างหน้าและใหญ่โต และยาวเป็นพันลี้ ดูไปก็คล้ายเป็นเทือกเขาที่พันอยู่กับไผ่ยักษ์อย่างนั้น

ขณะที่เจียวหลงตัวนี้หายใจเข้าออก กลิ่นอายที่พลุ่งพล่าน มันได้แผ่กลิ่นอายที่น่ากลัวออกมา เสมือนหนึ่งเป็นพายุที่รุนเรงและน่ากลัว โดยเฉพาะท่ามกลางกลิ่นอายของมังกรยังแฝงไว้ซึ่งพลังสั่นสะเทือนที่สามารถสยบผู้คนได้ ทำให้ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากถูกพลังลักษณะเช่นนี้กดดันจนต้องถอยร่นไปเรื่อยๆ เพื่อออกห่างจากบริเวณที่เป็นสมรภูมิการสู้รบ

สิ่งนี้คือรูปลักษณะตัวตนที่แท้จริงของเจียวเสินจวู๋ เป็นการรวมเป็นร่างเดียวกันระหว่างมังกรเจียวหลงและต้นไผ่ยักษ์ ความจริงแล้ว ตัวตนที่แท้จริงของมันคือต้นไผ่ยักษ์ ขณะที่เจียวหลงนั้นเป็นเพราะในตัวของเขามีสายเลือดเผ่ามังกรไหลรินอยู่ แม้ว่าสายเลือดที่ว่าจะเจือจางมากแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีความแข็งแกร่งมาก สามารถแปลงเป็นมังกรเจียวหลงได้

“มาตรฐานเพียงเท่านี้ เทียบกับเมิ่งเจิ้นเทียนแล้วยังห่างไกลอีกมาก ข้าอาศัยสองถึงสามหมัดก็สังหารเจ้าได้แล้ว” ถึงแม้เจียวเสินจวู๋จะสำแดงท่าทีที่แข็งแกร่งยิ่งออกมา แต่ทว่า หลี่ชิเย่กลับไม่เห็นอยู่ในสายตา แต่มองดูด้วยท่าทีเฉยเมยทีหนึ่ง

เจียวเสินจวู๋โกรธแค้นจนร่างสั่นเทิ้ม เมื่อถูกหลี่ชิเย่เปรียบจนไม่เหลือราคา จะอย่างไรเสียเขาก็นับเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งเหมือนกัน แต่ออกจากปากหลี่ชิเย่แล้วกลับกลายเป็นเหมือนมดปลวกเท่านั้น จะไม่ให้เข้าโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟได้อย่างไร

“ผู้อาวุโส ข้าจะช่วยท่านอีกแรง ท่านกับข้าร่วมมือกันสังหารเจ้าอัปลักษณ์นี้เสีย” กู่หลิงโซว่จู่ร้องกล่าวเสียงดังหวังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเจียวเสินจวู๋ ทันใดนั้น สวรรค์สาดส่องของกู่หลิงโซว่จู่ถูกเปิดออกมา

“ตูม” ภายในสวรรค์สาดส่องของกู่หลิงโซว่จู่ปรากฏหงส์ตัวหนึ่งขึ้นมา ภายในสวรรค์สาดส่องหงส์ตัวนี้ได้อาละวาดไปเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน เหมือนว่าหงส์ตัวนี้พร้อมจะโบยบินออกมาทุกเวลา ลองคิดดู หากหงส์ตัวหนึ่งบินออกมาแล้ว ความแข็งแกร่งของมันจะสร้างความหวาดหวั่นแก่ผู้คนได้เช่นใด

ขณะที่สวรรค์สาดส่องของกู่หลิงโซว่จู่เปิดออกมาจังหวะนั้น เห็นประกายกระบี่แวบหนึ่งประกายเยือกเย็นสายหนึ่งวิ่งข้ามกาลเวลาด้วยความรวดเร็ว พลันทิ่มตรงไปยังคอของกู่หลิงโซว่จู่ ประกายเยือกเย็นสายนี้รวดเร็วจนผู้คนมองเห็นไม่ชัดเจน

“อิ๊วว……..” จังหวะระหว่างความเป็นความตาย หงส์ที่อยู่ภายในสวรรค์สาดส่องของกู่หลิงโซว่จู่พลันร้องเสียงดังขึ้นมา กรงเล็บของหงส์พลันยื่นออกมาด้วยความเร็วที่เหนือความคาดคิดเช่นกัน ถึงกับสามารถคว้าจับประกายกระบี่ที่ทิ่มแทงเข้าใส่ลำคอของกู่หลิงโซว่จู่ในช่วงจังหวะระหว่างความเป็นความตายเอาไว้ได้

มันเป็นกระบี่ยาวเล่มหนึ่ง ประกายกระบี่ที่เปี่ยมไปด้วยปณิธานการฆ่า ตัวกระบี่สามารถแทงทะลุร่างกายของทุกคน

“ตึง……….” อย่างไรก็ตาม ทันทีที่หงส์ได้จับเอากระบี่ยาวเอาไว้นั้น เสียงกระบี่คำรามก้องฟ้าดิน ปณิธานการฆ่าเพิ่มทวีมากขึ้น ปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวเหมือนน้ำหลากที่ล้นจากเขื่อนยิงเข้าใส่

“แช้งค์ แข้งค์ แช้งค์………..” กระบี่ยาวที่ถูกจับเอาไว้พลันอาศัยท่วงท่าที่ทรงพลังปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งตรงเข้าไปข้างหน้า โดยที่กรงเล็บหงส์ไม่สามารถรั้งเอาไว้ได้อีกต่อไป กระบี่ยาวเสียดสีกับกรงเล็บหงส์จนเกิดเป็นสะเก็ดไฟกระจายไปทั่ว

กู่หลิงโซว่จู่ไม่สามารถหลบกระบี่ที่อาศัยท่วงท่าที่ทรงพลังปราศจากผู้เทียบเทียมที่ทิ่มแทงเข้ามา “ปุ” กระบี่ยาวได้แทงทะลุคอหอยของเขาในทันที

……………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *