Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1906 เหยียบจอมเทพจมดิน

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1906 เหยียบจอมเทพจมดิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในเวลานี้ บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างจ้องมองดูหลี่ชิเย่ คนที่หาญกล้าดูหมิ่นจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง นับว่ายโสจนไม่สามารถหาคำใดมาเปรียบเปรยได้อีกแล้ว

“วาจาสามหาวนัก…” ในเวลานี้ ปรากฏเสียงหนึ่งดังขึ้น แม้ว่าเสียงนี้จะไม่ดังกังวานอะไรนัก แต่เปรียบเสมือนหนึ่งเป็นเสียงฟ้าร้องที่ดังลั่นไปทั่วท้องฟ้า กล่าวน่าเกรงขามว่า “ผู้ใดหยามอาจารย์ข้า…ตาย!”

สิ้นเสียง กลิ่นอายที่เย็นยะเยือกพลันกลั่นตัวเองอย่างรวดเร็ว เสมือนหนึ่งกลายเป็นโลกแห่งน้ำแข็งอย่างนั้น บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง ผู้ที่มีทักษะยุทธอ่อนด้อยรู้สึกว่าตนเองได้ถูกความเย็นที่น่ากลัวนี้ทำเอาจนกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งแกะสลักไปแล้ว

ที่น่าสยองที่สุดก็คือ ท่ามกลางกลิ่นอายที่เย็นยะเยือกนี้มีปณิธานการฆ่าที่สยองขวัญอยู่สายหนึ่ง โดยที่ปณิธานการฆ่านี้เสมือนดั่งเป็นมีดปลายแหลมที่คอยเชือดเฉือนกระดูกและเอ็นของทุกคนอย่างนั้น ทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกเจ็บปวดจนต้องทยอยกันถอยร่นออกไป ยากจะทนทานต่อปณิธานการฆ่าที่สยดสยองเช่นนี้ได้

นาทีนี้ปรากฏร่างเงาสายหนึ่งเหินฟ้าลงมา เห็นผู้เฒ่าผู้หนึ่งเข้ามาขวางอยู่ด้านหน้าของทารกมังกรหลวงเอาไว้ ผู้เฒ่าผู้นี้สวมใส่เสื้อวิเศษ สวมหมวกทรงสูง มีท่าทีที่หมางเมินต่อทั่วหล้า

ผู้เฒ่าผู้นี้พวยพุ่งอานุภาพความเป็นจอมเทพออกมา กฎเกณฑ์จอมเทพแต่ละสายที่พวยพุ่งออกมาคล้ายดั่งเป็นน้ำตกอย่างนั้น กฎเกณฑ์จอมเทพแต่ละสายได้ถักทอเข้าด้วยกันเสมือนหนึ่งเป็นปีกขนาดยักษ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ ยามที่ปีกขนาดยักษ์กางออกไป สามารถกวาดทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจนแหลกละเอียดได้

“ศิษย์พี่ใหญ่…” ทารกมังกรหลวงดีใจสุดขีดเมื่อได้เห็นผู้เฒ่าคนนี้ที่เหินฟ้าลงมา

“ซือหม่าหวิน…” ระดับบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิผู้หนึ่งจดจำผู้เฒ่าที่เหินฟ้าลงมาได้ ถึงกับหวาดผวาและสีหน้าขาวซีดร้องเสียงดังขึ้นมา

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่รู้จำนวนเท่าไรต้องรู้สึกสั่นเทิ้มเมื่อได้ยินชื่อ “ซือหม่าหวิน” กระทั่งหัวหน้าพรรคขนาดใหญ่ยังมีร่างที่สั่นเทิ้ม และกล่าวว่า “เจ้าคนฆ่าสัตว์ก็มาด้วยแล้ว!”

ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากเสมือนหนึ่งเป็นน้ำขึ้นน้ำลงที่ถอยร่นไปอย่างรวดเร็ว เว้นระยะห่างให้มากกว่าเดิม หลายคนต่างจ้องมองดูซือหม่าหวินด้วยความยำเกรง

ซือหม่าหวินคือศิษย์พี่ใหญ่ของทารกมังกรหลวง ศิษย์เอกของจอมเทพมังกรหลวง และผู้ก่อตั้งอัศวินมังกรหลวง อีกทั้งยังเป็นระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สองดวง

ซือหม่าหวินไม่เพียงเป็นระดับจอมเทพเท่านั้น เขายังมีฉายาว่าคนฆ่าสัตว์! เนื่องจากผู้ที่ถูกซือหม่าหวินสังหารนั้นมีมากมายเหลือเกิน

ในชิงโจวมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนอยู่เป็นจำนวนมาก ระดับจอมเทพก็มีไม่น้อย แต่ทว่า ระดับจอมเทพส่วนใหญ่เมื่อก้าวถึงระดับหนึ่งแล้ว ล้วนแล้วแต่บินในระดับสูงไม่ค่อยจะมีข้อขัดแย้งกับผู้ที่อ่อนด้อยกว่า

แต่ ซือหม่าหวินนั้นมีข้อแตกต่าง ภาษิตว่าไว้ว่า มังกรย่อมให้กำเนิดเป็นมังกร หงส์ย่อมให้กำเนิดเป็นหงส์ ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น

อาจารย์เป็นโจร ศิษย์ย่อมเป็นโจร ต่อให้ซือหม่าหวินกลายเป็นระดับจอมเทพแล้ว ยังคงปฏิบัติการอาชีพสกปรกด้วยการปล้นฆ่าชาวบ้านเหมือนเดิม กระทั่งทำได้ยิ่งกว่าสะอาดหมดจดเด็ดขาดมากกว่าเสียอีก

เวลานี้จอมเทพมังกรหลวงซึ่งเป็นอาจารย์ของเขาเลิกมีความคิดที่จะปล้นชิงพวกบุคคลระดับล่างแล้ว ขณะที่ซือหม่าหวินกลับแตกต่าง ขอเพียงพบเห็นสิ่งที่ถูกตาต้องใจ เขาก็จะเข้าปล้นชิงโดยไม่สนใจว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นผู้แข็งแกร่งหรืออ่อนด้อย ทั้งยังฆ่าปิดปากโดยไม่ละเว้นแม้แต่คนเดียวอีกด้วย มีผู้กล่าวว่า คนที่ถูกเขาสังหารนั้นมีมากกว่าที่อาจารย์เขาสังหารเสียอีก ดังนั้น จึงได้รับฉายาว่าเป็นคนฆ่าสัตว์

ทารกมังกรหลวงพลันดีใจเป็นอย่างยิ่งกับการมาถึงของศิษย์พี่ใหญ่ของตน ศิษย์พี่ใหญ่ของเขาคือระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สองดวง ต่อให้หลี่ชิเย่แข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม มันก็คือการรนหาที่ตายเอง!

“เจ้าเดรัจฉานน้อย วันตายของเจ้ามาถึงแล้ว!” ทารกมังกรหลวงได้จ้องมองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ โดยเผยให้เห็นคถึงท่าทีที่โหดเหี้ยม เขาพูดด้วยเสียงอันดังกับซือหม่าหวินว่า “ศิษย์พี่ เจ้าเดรัจฉานน้อยคนนี้แหละที่อาศัยวิชามารสังหารพี่น้องอัศวินมังกรหลวงน้อยทั้งหมด”

“ตึง…” เวลานี้ ซือหม่าหวินได้กลายเป็นกระบี่คมกริบเล่มหนึ่ง ปณิธานการฆ่ารุนแรง ทำให้ผู้คนต้องตัวสั่นดั่งลูกนก ผู้ที่ใจเสาะถึงกับทรุดตัวนั่งลงบนพื้น

“เจ้าหนู วันนี้วันตายของเจ้ามาถึงแล้ว!” ซือหม่าหวินกล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “ผู้ที่กล้าเป็นศัตรูกับข้าซือหม่าหวินล้วนแล้วแต่มีจุดจบที่ไม่ดี ข้านี่แหละจะให้เจ้าตายเสียดีกว่าอยู่!”

“หมาแมวที่ไหนมาเห่าหอนต่อหน้าข้า ตบปาก!” หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะมองดูซือหม่าหวินสักครั้งด้วยซ้ำ กล่าวเฉยเมยขึ้นมา

เสียง “ตูม…” ดังสนั่น ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ปรากฏฝ่ามือพุทธะขึ้นมากลางอากาศอย่างกะทันหัน ตบเข้าไปที่ซือหม่าหวินอย่างแรง

“ไสหัวไปให้พ้น…” ซือหม่าหวินคำรามเสียงดังปีกทั้งสองที่แปลงมาจากกฎเกณฑ์ของเขาได้กวาดออกไปทันที่ ได้ยินเสียงดัง “ปัง” ปีกคู่ของเขาได้ปะทะกับฝ่ามือพุทธอย่างแรง

เสียง “ตูม” ดังสนั่น ฝ่ามือพุทธะที่อยู่เหนือหมื่นแดน บงการสรรพสิ่งมีชีวิต ต่อให้ปีกยักษ์แข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ไม่สามารถต้านฝ่ามือพุทธะได้ จากนั้น ได้ยินเสียงดัง “ปัง” ฝ่ามือพุทธะซัดทะลุปีกทั้งสอง หนึ่งฝ่ามือตบเข้าที่ใบหน้าของซือหม่าหวินเต็มๆ!

“เพียะ…” ฝ่ามือพุทธะตบเข้าที่ใบหน้าของซือหม่าหวินอย่างแรงจนเขาต้องกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง สมควรทราบว่า ตัวเขาในฐานะจอมเทพจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งดั่งเหล็ก แต่ยังคงถูกหนึ่งฝ่ามือซัดจนกระอักเลือดออกมาอย่างแรง กระทั่งฟันหลุดร่วงออกมาซี่หนึ่งอีกด้วย

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่มองเห็นภาพนี้ พลันสถานที่แห่งนี้กลับกลายเป็นเงียบสงัด นี่ระดับจอมเทพนะเนี่ย จอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สองดวงกลับถูกตบหน้าต่อหน้าผู้คนทั่วหล้าเช่นนี้ อีกทั้งยังถูกตบจนกระอักเลือดออกมาอย่างแรง กระทั่งฟันหลุดร่วงไปซี่หนึ่งอีกด้วย

กล่าวสำหรับจอมเทพคนหนึ่งแล้ว การที่ถูกตบฟันร่วงในลักษณะเช่นนี้ นับว่าเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวงทีเดียว!

“เจ้าเดรัจฉานน้อย ตาย…” ซือหม่าหวินไม่สามารถกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างแน่นอน โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เป็นความอัปยศครั้งแรกนับตั้งแต่เขาเข้าสู่ยุทธภพมา! การที่ถูกหลี่ชิเย่ ตบหน้าต่อหน้าผู้คนทั่วหล้าเช่นนี้ หากเขาสังหารหลี่ชิเย่ไม่ได้ จากนี้ไปคงไม่ต้องออกมาหากินอีกต่อไปแล้ว

“ตูม…” เสียงดังสนั่น นาทีนี้ซือหม่าหวินสำแดงเป็นภูเขาลูกหนึ่งซัดออกไป ท่ามกลางเสียงที่ดังตูมตามมองเห็นภูเขามารลูกหนึ่งลงมาจากบนฟ้า พุ่งตรงเข้าสังหารหลี่ชิเย่ในทันที

เสียง “ปัง” ดังขึ้น ขณะที่ภูเขามารยังไม่ทันเข้าถึงตัวก็ถูกขวางเอาไว้ด้วยฝ่ามือพุทธะ โดยที่ฝ่ามือพุทธะปรากฏบทพระธรรมที่หมุนเคลื่อน เสมือนหนึ่งได้กลับกลายเป็นฝ่ามือพระธรรมนิรันดร์กาล

“เปิด…” ซือหม่าหวินคำรามเสียงดัง กลับกลายเป็นตราประทับภูเขามารที่ใหญ่โตมโหฬารและมีประกายที่ละลานตายิ่ง เสมือนหนึ่งส่องฟ้าดินจนสว่างไสวไปทันที นาทีนี้อานุภาพจอมเทพอาละวาดไปทั่ว และส่งเสียงดังเหมือนดั่งน้ำหลาก

“โฮกกก…” เสียงมักกรคำรามดังก้องไม่ขาดสาย มองเห็นภายในภูเขามารปรากฎมารมังกรแต่ละตัวที่พุ่งตัวออกมา ในขณะนี้ ตราประทับภูเขาเหมือนหนึ่งได้กลายเป็นรังมังกรไปแล้ว มารมังกรแต่ละตัวได้บินออกมาจากตราประทับภูเขา!

“ปัง ปัง ปัง” เสียงแตกกระจายที่เกิดจากการโจมตีดังขึ้นเป็นระลอก มองเห็นมารมังกรแต่ละตัวที่พุ่งออกมาแยกเขี้ยวกางเล็บ พุ่งเข้าโจมตีฝ่ามือพุทธะอย่างรุนแรง ภายใต้การพุ่งโจมตีของมารมังกรแต่ละตัวนี้ ทำให้รัศมีฝ่ามือพุทธะส่ายโอนเอนไปมา อานุภาพของฝ่ามือพุทธะอ่อนลงทุกที พร้อมที่จะถูกทำลายลงได้ทุกเมื่อ

“เจ้าเดรัจฉานน้อยข้านี่แหละจะถลกหนังของเจ้า ดื่มเลือด กินเนื้อของเจ้า!” เวลานี้หน้าตาของซือหม่าหวินดูน่าเกลียดน่ากลัว กล่าวด้วยท่าทีโหดเหี้ยมทารุณออกมา ขณะกล่าวพลางดวงตาทั้งสองเผยให้เห็นถึงประกายของความชื่นชอบในเลือดออกมา

กล่าวสำหรับซือหม่าหวินแล้ว การที่ถูกผู้เยาว์ตบหน้าถือเป็นความอัปยศใหญ่หลวงมาก ขอเพียงเขาจับเป็นหลี่ชิเย่มาได้ จะต้องทรมานหลี่ชิเย่อย่างสาสมเลยทีเดียว

“นับว่ามีความแข็งแกร่งจริง สำหรับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สองดวง” ผู้คนจำนวนมากตกใจจนใบหน้าขาวซีด ขาทั้งสองข้างสั่นเทา เมื่อมองเห็นมารมังกรแต่ละตัวที่พุ่งออกมาจากรังอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่สามารถรับมือเอาไว้ได้หรือไม่

“ปัง” จากการพุ่งเข้าชนและโจมตีของมารมังกรครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดฝ่ามือพุทธะก็ถูกทำลายจนแหลกละเอียดไป “กรรร” เสียงมังกรคำรามดังไม่ขาดสาย เห็นมารมังกรจำนวนหลายร้อยตัวที่พุ่งออกมาจากรัง และบุกเข้าหาหลี่ชิเย่อย่างบ้าคลั่ง ต้องการจับหลี่ชิเย่มาฉีกจนร่างกระจุย

“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้าตายแน่แล้ว!” ซือหม่าหวินควบคุมมารมังกรจำนวนหลายร้อยตัวบุกเข้าหาหลี่ชิเย่ และกล่าวด้วยเสียงโหดร้ายทารุณออกมา

“ข้าก็คือพุทธะ…” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ เมื่อต้องเผชิญกับมารมังกรหลายร้อยตัวทีพุ่งโจมตีเข้ามา ปากท่องบ่นเป็นคาถา สัจธรรมศาสนาพุทธดังสะท้อนก้องกังวานขึ้นมา

“ตูม…” เสียงหนึ่งดังสนั่นขึ้นมา ในเสี้ยววินาทีนี้เอง บนท้องฟ้าปรากฎเป็นบาทพระพุทธข้างหนึ่งที่มีความสูงเป็นล้านล้านจ้าง ทะลุไปถึงจักวาลได้เหยียบลงมา มองเห็นบาทพระพุทธที่มีดวงตะวันจันทรารายล้อมหมุนวน เคียงคู่ด้วยทางช้างเผือก โดยมีทางช้างเผือกที่มีขนาดใหญ่โตแต่ละสายห้อยอยู่บนพระบาทพระพุทธ เสมือนหนึ่งเป็นน้ำตกอย่างนั้น

บาทพระพุทธที่ลงมาจากท้องฟ้าถูกล้อมรอบด้วยพระธรรมที่ไม่มีสิ้นสุด ดั่งน้ำในมหาสมุทรไม่มีสิ้นสุด สามารถท่วมฝอเหย่จนจมมิด

“ปัง…” บาทพระพุทธขนาดยักษ์เหยียบลงมา ได้ยินเสียงร้องด้วยความเศร้าโศกดังไม่ขาดสาย มองเห็นมารมังกรหลายร้อยตัวถูกเหยียบจนแหลกละเอียดไปทันที ภายใต้บาทพระพุทธขนาดยักษ์แล้ว ต่อให้เป็นมารมังกรหลายร้อยตัวมันก็แค่เสมือนไส้เดือนเล็กๆ แต่ละตัวเท่านั้น ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง

“อ๊ากก…” เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น ท่ามกลางเสียงดัง “ปัง” มองเห็นร่างของซือหม่าหวินถูกบาทพระพุทธเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า เลือดสดๆ พุ่งกระฉูดออกมาอย่างรุนแรง

“คร๊ากก” เสียงของกระดูกแตกหักดังขึ้น กระดูกแต่ละซี่ทั่วทั้งร่างของซือหม่าหวินถูกเหยียบจนแตกหักไปทีละชิ้นๆ ในขณะนี้บาทพระพุทธเสมือนดั่งเป็นโลกธาตุที่ยิ่งใหญ่กดทับอยู่บนตัวของเขา ต่อให้เป็นระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สองดวงก็ตามที เมื่อถูกโลกทั้งโลกกดทับลงบนตัว ก็ต้องกลายเป็นปราศจากสิ้นเรี่ยวแรง ดูช่างเล็กจิ๋วไม่คู่ควรจะกล่าวถึง!

ภาพนี้สร้างความหวั่นไหวให้กับผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ทุกคนล้วนแล้วแต่อ้าปากค้าง มันน่าสะเทือนขวัญมากกว่าทุกสิ่งที่เคยได้เห็นมาก่อนหน้าทั้งหมด

ในเวลานี้ บาทพระพุทธที่ลงมาจากบนฟ้า อย่าว่าแต่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เลย มันได้สร้างความแตกตื่นไปทั่วฝอเหย่ แม้แต่จอมราชันเซียนหวังที่อยู่ในเมืองตี้ฮว่าก็ถูกทำให้ตื่นตกใจเช่นกัน พวกเขามองเห็นบาทพระพุทธที่ลงมาจากท้องฟ้าแล้วพลันนิ่งเงียบไปทันที

แม้ว่าจอมราชันเซียนหวังจะไม่รู้ว่าใครมา แต่ก็เข้าใจได้ว่ามีผู้ยิ่งใหญ่ลงมือแล้ว นี่คืออริยสงฆ์ระดับสูงสุด อยู่เหนือสัจธรรมของพุทธศาสนาแล้ว การเป็นศัตรูกับอริยสงฆ์สูงสุดในพื้นที่ของฝอเหย่เป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย

ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกทำให้หวั่นไหวจนไม่อาจเรียกสติกลับมา นี่คือจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สองดวงนะเนี่ย กลับถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าง่ายดายถึงเพียงนี้ ถ้าหากไม่ได้เห็นกับตาตนเอง พวกเขาไม่อยากเชื่อว่าเป็นความจริง

ใครจะไปเชื่อว่าจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สองดวงไม่สามารถรับมือได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว ถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าพระพุทธเพียงข้างเดียวเช่นนี้ได้

ในขณะนี้ มีผู้ที่แหงนหน้ามองดูบาทพระพุทธ มองเห็นบาทพระพุทธที่ใหญ่โตมโหฬารสูงทะลุไปถึงจักรวาล มองไม่เห็นที่สุดของมัน เหมือนว่าในแดนที่ไกลโพ้นของจักรวาลมีอริยสงฆ์สูงสุดองค์หนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น โดยที่อริยสงฆ์องค์นี้เมื่อเทียบความสูงกับท้องฟ้า เทียบความใหญ่โตกับพื้นพสุธาแล้ว เมื่ออยู่ตรงหน้าร่างกายที่สูงใหญ่เช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาแม่น้ำทุกอย่างล้วนแล้วแต่กลายเป็นเล็กจิ๋วอะไรอย่างนั้น

…………………………………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *