Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1704 หญ้าอายุวัฒนะ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1704 หญ้าอายุวัฒนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1704 หญ้าอายุวัฒนะ
สีหน้าของหลี่ชิเย่พลันแปรเปลี่ยนไปมาก เมื่อมองเห็นแปลงดอกไม้ที่มีแต่ความว่างเปล่า เขาวิ่งเข้าไปยืนอยู่ข้างแปลงดอกไม้นั้นอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น หลี่ชิเย่ได้เปิดเนตรสวรรค์ขึ้นมา ยื่นมือไปคว้าดินที่อยู่ในแปลงดอกไม้ขึ้นมากำมือหนึ่ง ขณะที่ดินในมือทยอยเล็ดลอดออกมาจากช่องว่างระหว่างนิ้วมือนั้น เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้เป็นภาพมายา ไม่ได้มีสิ่งที่ทำให้ลุ่มหลง แต่เป็นความรู้สึกขแงความจริงแท้แน่นอน

นาทีนี้ หลี่ชิเย่มั่นใจได้เต็มร้อยว่าในแปลงดอกไม้ไม่ได้มีอะไรอยู่ในนั้นจริงๆ ไม่ได้มีการใช้วิชาบังตาอะไรหรือวิชาปิดบังซ่อนเร้น แต่เป็นภาพจริงทั้งสิ้น

“เป็นไปไม่ได้…” สีหน้าของหลี่ชิเย่เวลานี้พลันดูไม่ดีเลย เหมือนมีลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างหนึ่งผุดขึ้นกลางใจและขยายวงกว้างมากขึ้น สิ่งนี้กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้วไม่ใช่เป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน

ท่ามกลางความทรงจำจากร่างชาติแรกของราชามังกรดำ หลี่ชิเย่มองเห็นราชามังกรดำขณะนำทัพบุกโจมตีถ้ำเซียนมาร แล้วจู่ๆ อเวจีก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน พวกเขาหวังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย แต่ว่า ในความทรงจำของร่างชาติแรกราชามังกรดำไม่ได้มีการบันทึกจุดจบของสงครามในครั้งนั้น

แต่ว่า หลี่ชิเย่คาดเดาว่าคงจะบาดเจ็ดด้วยกันทั้งสามฝ่าย อย่างไรก็ตามหลี่ชิเย่เข้าใจว่าโดยพื้นฐานแล้วหากอเวจีคิดจะสังหารตาเฒ่าถ้ำเซียนมารคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จะอย่างไรเสียความน่ากลัวของถ้ำเซียนมารใช่ว่าบุคคลภายนอกจะสามารถจินตนาการได้

แต่ว่า เวลานี้ไม่เพียงตาเฒ่าของถ้ำเซียนมารหายไป แม้แต่หญ้าอายุวัฒนะที่ปลูกอยู่ตรงนี้ก็หายไปด้วย

หญ้าอายุวัฒนะคือหนึ่งในเก้าของสมบัติสวรรค์นพเก้า หากมีหญ้าอายุวัฒนะอยู่ในครอบครองย่อมมีชีวิตเป็นอมตะไม่มีวันตาย ขอเพียงได้ครอบครองหญ้าอายุวัฒนะ ไม่ว่าจะต้องพบกับการทำลายล้างที่น่ากลัวเช่นใดก็ตาม ไม่ว่าศัตรูจะสังหารเจ้าเช่นใด เจ้ายังคงอมตะไม่ตาย

ต่อให้กาลเวลาผ่านไปอย่างยาวนาน แม้ว่ากาลเวลาจะไร้ซึ่งความปราณี แม้ว่าจะผ่านกาลเวลาจะผ่านไปเป็นนิรันดร์ ขอเพียงเจ้ามีหญ้าอายุวัฒนะในครอบครอง เจ้ายังคงจะไม่ตายและมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ

กล่าวได้ว่า หญ้าอายุวัฒนะคือสิ่งเดียวในโลกที่สามารถทำให้เป็นอมตะไม่มีวันตาย เรียกได้ว่าขอเพียงมีหญ้าอายุวัฒนะอยู่ในครอบครอง บุคคลผู้นั้นก็สามารถเป็นเช่นเดียวกับสวรรค์โจรที่ไม่มีวันตายเป็นนิรันดร์

เนื่องเพราะถ้ำเซียนมารมีหญ้าอายุวัฒนะ จึงสามารถสร้างสรรค์อีกาทมิฬที่ไม่มีวันตายขึ้นมา ณ ที่แห่งนี้ หญ้าอายุวัฒนะไม่เพียงขึ้นอยู่ในแปลงดอกไม้นี้เท่านั้น ขณะเดียวกันหญ้าอายุวัฒนะยังขึ้นอยู่บนตัวของเจ้าของถ้ำเซียนมารและหลี่ชิเย่อีกด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง หญ้าอายุวัฒนะได้รวมเอาถ้ำเซียนมาร เจ้าของถ้ำเซียนมาร และร่างกายของหลี่ชิเย่ร่วมกับหนึ่งเดียว ดังนั้น ขอเพียงกายเนื้อของหลี่ชิเย่ไม่ตาย อีกาทมิฬที่อยู่ภายนอกไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็ดอย่างไร หรือถูกทำลายล้างเช่นใด วิญญาณที่อยู่ภายในร่างของอีกาทมิฬก็ไม่ถูกทำลาย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้อีกาทมิฬไม่มีวันตายไม่ไม่มีวันถูกทำลาย

การมีหญ้าอายุวัฒนะในครอบครอง แล้วยังมีผู้ดำรงไว้ซึ่งแข็งแกร่งยิ่งเช่นเจ้าของถ้ำเซียนมาร คิดจะแย่งเอากายเนื้อของหลี่ชิเย่กลับคืนใช่เป็นเรื่องง่ายดาย

ขณะเดียวกันหลี่ชิเย่ยังรู้มาอีกว่า ถ้าหากคิดจะได้หญ้าอายุวัฒนะจากที่ตรงนี้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แม้ว่าตาเฒ่าของถ้ำเซียนมารไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ แต่ตัวเขามีความแข็งแกร่งยิ่งนัก ต่อให้ราชันเซียนเป็นผู้ลงมือก็ทำอะไรไม่ได้! ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าหญ้าอายุวัฒนะขึ้นอยู่บนตัวของเขา ภายใต้สภาพของไม่มีวันตายและไม่สามารถทำลายได้ของเขา ไม่สามารถแย่งชิงหญ้าอายุวัฒนะได้อยู่แล้ว

ความจริงแล้วในอดีตที่ผ่านมาหลี่ชิเย่เคยวางแผนให้ได้มาซึ่งหญ้าอายุวัฒนะ เพียงแต่กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้วโอกาสมันไม่อำนวย เนื่องจากโอกาสเช่นนี้มีได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าหากทำไม่สำเร็จ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าจะสูญเสียโอกาสที่จะได้หญ้าอายุวัฒนะไปตลอดกาล

เวลานี้ หญ้าอายุวัฒนะหายไป ตาเฒ่าก็หายไป จึงทำให้สีหน้าของหลี่ชิเย่เปลี่ยนไปมากที่เดียว กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้วมันไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน

ในเวลานี้ ความน่าจะเป็นสารพัดได้โผล่ขึ้นกลางใจของหลี่ชิเย่ การคาดการณ์ที่ทำให้ไม่เป็นสุขขยายวงขึ้นภายในใจของหลี่ชิเย่ ทำให้ใจของหลี่ชิเย่รู้สึกไม่สงบ

ต่อให้ระดับหลี่ชิเย่ที่ดำรงอยู่ในฐานะผู้ที่คงอยู่มาแต่ดึกดำบรรพ์ ทันใดนั้นยังบังเกิดความไม่เป็นสุขขึ้นภายในใจ เนื่องจากสถานการณ์เช่นนี้ไม่ดีเอาเสียเลย

คาดการณ์ไปในทางที่เลวร้ายที่สุดก็คือ อเวจีเป็นผู้ได้หญ้าอายุวัฒนะไป ถ้าหากเป็นไปตามที่คาดการณ์นี้ล่ะก็ ผลร้ายย่อมเกินกว่าที่จะคาดคิด เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่เพียงเก้าแดนต้องสั่นเทา แม้แต่แดนที่สิบก็จะต้องสั่นเทาเช่นกัน

ตัวอเวจีเองมีมิติมหัศจรรย์อยู่แล้ว เวลานี้หากมีหญ้าอายุวัฒนะอีกล่ะก็ ผลในเรื่องนี้นับว่าน่ากลัวมากเกินไปเสียแล้ว เนื่องจากนับแต่อดีตที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครได้ครอบครองสมบัติสวรรค์นพเก้าพร้อมกันสองชิ้น อีกทั้งยังเป็นสมบัตินพเก้าสองชิ้นที่แตกต่างกับชั้นอื่นๆ เป็นสมบัติสวรรค์ที่สามารถสำแดงอานุภาพบนตัวของผู้ครอบครองได้โดยตรง

ถ้าหากมีใครสักคน หรือเผ่าพันธุ์ใดเผ่าพันธุ์หนึ่งได้ครอบครองสมบัติสวรรค์เช่นนี้ล่ะก็ ต่อให้ไม่ใช่ประเภทปราศจากผู้ต่อกรก็นับว่าใกล้เคียงมากแล้วหละ แต่หากว่ามีใครสักคน หรือเผ่าพันธุ์ใดเผ่าพันธุ์หนึ่งได้ครอบครองสมบัติสวรรค์ถึงสองชิ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น การใช้คำว่าปราศจากผู้ต่อกรหรือน่ากลัวไม่เพียงพอที่จะเปรียบเปรยได้อีกแล้ว

หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาจริง เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ใด หรือต่อให้บรรดาเทพและเหล่าราชันในแดนที่สิบก็ต้องหวาดกลัวจึงจะถูกต้อง

การที่อเวจีมีมิติมหัศจรรย์ในครอบครอง ทำให้หลี่ชิเย่ทุ่มเทสรรพกำลังของเก้าแดนก็ไม่สามารถทำลายล้างพวกเขาให้สิ้นซากได้แล้ว ถ้าหากเวลานี้อเวจีปได้หญ้าอายุวัฒนะมาครอบครองอีก เช่นนั้นแล้วที่ต้องถูกทำลายล้างไม่ใช่อเวจี แต่เป็นหมื่นเผ่าพันธุ์ในเก้าแดนต่างหาก

จะอย่างไรเสีย หลี่ชิเย่ก็คือผู้ดำรงอยู่ในฐานะผู้บงการเก้าแดน เป็นมือมืดนิรันดร์กาล เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์เอาไว้ เขาจะต้องค้นหาร่องรอยให้พบให้ได้ ดูว่าหญ้าอายุวัฒนะตกอยู่ในมือของอเวจีใช่หรือไม่

หลี่ชิเย่เปิดเนตรฟ้าออกมาเต็มที่ ปลดปล่อยพลังลมปราณ ดวงตาทั้งสองกลับกลายเป็นเจิดจรัสยิ่งนัก ทันใดนั้นสายตาของหลี่ชิเย่ได้ทำการกวาดมองไปทั่วทั้งถ้ำเซียนมาร และฟ้าดิน โดยไม่ละเลยรายละเอียดแม้แต่น้อย ไม่ละเลยร่องรอยแม้เพียงน้อยนิด

สุดท้าย สายตาของหลี่ชิเย่ยังคงตกอยู่ที่ภูเขาที่อยู่ใต้เท้าลูกนี้ เขาพิจารณาถึงภูเขาที่อยู่ใต้เท้าอย่างละเอียดครั้งแล้วครั้งเล่า

หลังจากที่ประกายตาที่ดั่งสายฟ้าของหลี่ชิเย่ทำการกวาดมองภูเขาลูกนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าแล้ว เขานิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก้าวเดินไปอยู่ตรงหน้าบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ที่แตกเสียหาย ใช้มือกดลงไปที่บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์นั้นอย่างชำนาญ

เสียง “แว้งค์” ดังขึ้น ในเวลานี้บัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ที่แตกร้าวพลันเปล่งประกายขึ้นวูบวาบ ได้ยินเสียงดัง “คร๊ากก” ดังขึ้น ชิ้นส่วนที่แตกหักทั้งหมดพลันประกบรวมตัวกันขึ้น และกลายเป็นบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์ตัวหนึ่งขึ้นมาตรงหน้า

“เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด…” ในเวลาเดียวกันกับที่หลี่ชิเย่ได้ประกบชิ้นส่วนของบัลลังก์ที่แตกหักแล้วนั้น บนพื้นปรากฏเสียงการเคลื่อนที่ของสิ่งของที่มีน้ำหนัก จากนั้นปรากฏศพๆ หนึ่งโผล่ขึ้นมาจากใต้ดินช้าๆ

ศพๆ นี้ค่อนข้างจะแห้งเหี่ยว หลายๆ ส่วนของร่างกายเหลือเพียงโครงกระดูกที่แห้งกรัง อีกทั้งโครงกระดูกบริเวณที่แห้งกรังนั้นมีส่วนที่แตกละเอียดอยู่เป็นจำนวนมาก พลันที่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าศพนี้ก่อนตายได้ผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดโหดร้ายทารุณมาก่อน

“ตาเฒ่า…” สีหน้าของหลี่ชิเย่เปลี่ยนไปเมื่อมองเห็นศพนี้แล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปประคองศพนี้ขึ้นมาจากพื้นดิน มือประทับลงบนหน้าผากอย่างชำนาญ และทำการถ่ายทอดลมปราณที่ไม่มีสิ้นสุดเข้าไป

ศพนี้เป็นศพของผู้เฒ่า ดูจากรูปร่างของศพนี้แล้ว ขณะมีชีวิตอยู่น่าจะสูงใหญ่กำยำมาก เพียงแต่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากตายแล้วจึงทำให้ร่างกายของเขาหดตัวเล็กลงไม่น้อยเลยทีเดียว

“ข้า ข้า ข้ายังมีชีวิตอยู่!” ในที่สุดได้ปรากฎเสียงที่อ่อนแอมากขึ้นมาเสียงหนึ่งหลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เวลานี้ ผู้เฒ่าได้ลืมตาทั้งสองขึ้นพร้อมกับกะพริบตาอย่างมีลมหายใจแต่ไร้เรี่ยวแรง ยามที่เขาเปิดปากพูดออกมานั้น ได้ปรากฏใบไม้สองสามใบออกจากปาก โดยที่ใบไม้สองสามใบดังกล่าวได้สูญเสียความมีชีวิตชีวาไปแล้ว

“เหอะ เหอะ เหอะ…” ตาเฒ่าผู้นี้กะพริบตาอย่างมีลมหายใจแต่ไร้เรี่ยวแรง เสียงที่พูดออกมาขาดๆ หายๆ “เจ้าหนู เหอะ เหอะ ในที่สุด เจ้า เจ้า เจ้ายังคงมาจนได้ ข้า ข้า ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะไม่เลิกล้มความตั้งใจแน่นอน”

หลี่ชิเย่ถ่ายทอดพลังลมปราณต่อไป เพื่อให้เขาได้พูดต่อเนื่องกันไป

“ศัตรูของ ของ ของพวกเจ้า พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่” ผู้เฒ่าพยายามยกมือขึ้น ชี้ไปที่หลี่ชิเย่และพูดอย่างมีลมหายใจแต่ไร้เรี่ยวแรงว่า “พวก พวก พวกเขามีชีวิตอยู่ อยู่ได้ไม่เลวนัก”

“ข้ารู้” หลี่ชิเย่กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ครั้งนั้น หากเจ้าไม่ปล่อยพวกเขาไป ก็จะไม่ต้องตกอยู่ในสภาพจุดจบเช่นนี้ เป็นเจ้าเองที่เก็บพวกเขาเอาไว้ให้เป็นภัยแก่ตัวเองในภายหลัง!”

“ครั้งนั้น…” ดวงตาคู่นั้นของผู้เฒ่าสลดและไร้แวว มองดูหลี่ชิเย่และหัวเราะ “เหอะ เหอะ เหอะ เจ้า เจ้าพูดถึงครานั้น เจ้าหนู ครานั้น ครานั้นหากข้าฆ่าพวกเขาแล้วเป็นอย่างไร? เหอะ เหอะ พวกเขามีมิติมหัศจรรย์ คิดจะสังหารพวกเขาให้หมดล่ะก็ เหอะ เหอะ เหอะ มันต้องแลกด้วยค่าตอบแทนนะ หากจะฆ่าพวก พวกเขาจริงล่ะก็ เหอะ เหอะ มิเท่ากับทำให้เจ้าสมหวังน่ะสิ เจ้าหนู ข้า ข้า ข้าหน่ะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเจ้าคิดแผนอะไรอยู่ เจ้าต้องการได้มิติมหัศจรรย์และหญ้าอายุวัฒนะในเวลาเดียวกัน”

“หญ้าอายุวัฒนะหละ…” หลี่ชิเย่ไม่ต้องการพูดให้มากความ กล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา

แต่ว่าผู้เฒ่าไม่ยอมตอบปัญหาของหลี่ชิเย่ เขาเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าแพ้แล้ว ข้า ข้าแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว ต่อ ต่อ ต่อให้หวนกลับมาใหม่อีกครั้งก็เอาชนะไม่ได้ เหอะ เหอะ เหอะ เจ้าหนู ข้า ข้า ข้าไม่ได้พ่ายแพ้ให้กับอเวจี และ และไม่ได้แพ้ให้กับเจ้า ข้า ข้า ข้าแพ้ให้กับสวรรค์โจร!”

“ข้า แค่ต้องการรู้ว่าหญ้าอายุวัฒนะใช่ตกไปอยู่ในมืออเวจีหรือไม่!” หลี่ชิเย่กล่าวเสียงทุ้มต่ำ กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้ว นี่คือคำตอบที่เขาต้องการรู้มากที่สุด กล่าวสำหรับเขาแล้ว ต่อให้หญ้าอายุวัฒนาะหายไปก็ยังดีกว่าตกไปอยู่ในมืออเวจีเป็นร้อยเท่า

“เหอะ เหอะ เหอะ ไม่รีบ ไม่รีบ ช้าๆ หน่อย ข้า ข้า ข้าบอกเจ้าอยู่แล้ว” เมื่อเปรียบเทียบกับหลี่ชิเย่ที่กังวลและร้อนรน ผู้เฒ่าที่ใกล้จะตายอยู่แล้วกลับไม่รีบแม้แต่น้อย เขากล่าวว่า “เหอะ เหอะ เหอะ อย่าง อย่างไรเสียข้าก็จะตายอยู่แล้ว ก็ ก็ ก็ไม่ต้องรีบขนาดนี้”

หลี่ชิเย่เองก็จนปัญญาสำหรับคำพูดลักษณะเช่นนี้ของผู้เฒ่า

“เจ้าหนู เจ้าไม่ต้องไม่พอใจข้า เจ้าควรจะขอบใจข้า แม้ว่าพวกสารเลวอเวจีเหล่านั้นจะฆ่าข้าได้ แต่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไร ต่อ ต่อให้พวกเขามีมิติมหัศจรรย์ พวก พวก พวกเขาก็จำเป็นต้องทนทุกข์ช่วงระยะเวลาที่ยาวมากช่วงหนึ่ง พวกเขา พวกเขาก็อยู่ไม่เป็นสุขนัก ข้า ข้า ข้าไม่ใช่พวกกินมังนะ คิดว่าจะได้เปรียบข้ามันไม่ง่ายหรอกนะ” ผู้เฒ่าที่มีลมหายใจแต่ไร้เรี่ยวแรงกล่าวเสียงขาดๆ หายๆ ต่อไป

หลี่ชิเย่นิ่งเงียบไม่ตอบ จ้องมองดูผู้เฒ่า

ขณะที่ผู้เฒ่าก็ไม่สนใจว่าหลี่ชิเย่จะไม่พอใจ เขายังคงกล่าวต่อไปด้วยลักษณะที่ขาดๆ หายๆ ว่า “เจ้าหนู ข้าอยากถามเจ้า เจ้า เจ้าคิดจะทำการใหญ่จริง จริงหรือ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *