โดยที่หลี่ชิเย่ได้ทุ่มเทพลังกายใจนับไม่ถ้วนไปกับสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ที่เป็นหนึ่งไม่มีสองนี้ เรียกว่าได้รวบรวมความรู้ทุกอย่างที่มีในตัวทั้งหมด แม้ว่าหลี่ชิเย่ไม่กล้าบอกว่าสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นี้ปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาล แต่ผู้ที่สามารถสร้างสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเอง

“ไม่เลวจริงๆ นับว่าเป็นแนวความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก” เมื่อร่างในอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยไม่สามารถโจมตีและทำลายสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของหลี่ชิเย่ได้ในครั้งเดียว จึงได้หดเอามือข้างนั้นของตนกลับมา และกล่าวขึ้นมาช้าๆ

“นับว่าไม่เลวจริงๆ ข้าน่ะรอพวกเจ้านานมากแล้ว” หลี่ชิเย่ที่อยู่ภายในสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ยิ้มกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย

ร่างในอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยถึงกับเผยรอยยิ้มออกมา และกล่าวว่า “สหายคิดว่าสามารถกักขังข้าเอาไว้ได้รึ? สหายทำขนาดนี้ไม่เพียงต้องการล่อให้ข้าออกมา ยังต้องการล่อให้ร่างในอดีตของข้าออกมา แต่ว่า สหายคิดว่าสามารถสังหารข้าที่ตรงนี้ได้อย่างนั้นรึ?”

ที่แท้หลี่ชิเย่ได้วางแผนล่วงหน้าเอาไว้อยู่แล้ว ได้วางแนวความคิดเอาไว้ทุกขั้นตอน เริ่มจากการหลอกล่อให้ร่างแท้จริงของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยออกมาก่อน จากนั้นบีบบังคับให้ร่างในอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยออกมา ทั้งหมดนี้เป็นไปตามแผนที่หลี่ชิเย่ได้คิดวางเอาไว้อยู่แล้ว

ขอเพียงร่างแท้จริง และร่างในอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยล้วนแล้วแต่ปรากฏออกมา เมื่อเป็นเช่นนั้น หลี่ชิเย่จะต้องปิดกั้นฟ้าดินเอาไว้ ไม่ปล่อยให้บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยหนีกลับไปรังเก่าของตนเองได้ และไม่ปล่อยให้บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยได้หลบหนี ที่หลี่ชิเย่ทำเช่นนี้ต้องการจับตัวบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยให้ได้ในคราเดียว และต้องการทำลายล้างบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยให้สิ้นซาก ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสได้ดิ้นรน

“เจ้ามิใช่ออกมาแล้วรึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “ลองสักหน่อยก็จะรู้เองแหละ”

“ที่พูดมาก็ถูก” บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ไม่สู้สักครั้งไหนเลยจะรู้ผลแพ้ชนะเล่า!” ร่างแท้จริงของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยได้ออกมาแล้ว แม้จะรู้ว่าสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นี้ยอดเยี่ยมเป็นหนึ่งไม่มีสองในหล้า ร่างในอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยก็ยังคงออกมา ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยมีความมั่นใจในตนเองว่าสามารถทำลายสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของหลี่ชิเย่ได้ การที่บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยกล้าออกมา ย่อมบ่งบอกว่าไม่กลัวเพราะมีสิ่งพึ่งพิง คิดว่าสามารถทำลายสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของหลี่ชิเย่ได้

เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเอง ความมืดที่น่ากลัวไร้ขอบเขตพลันปกคลุมสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งหมดของหลี่ชิเย่เอาไว้ ท่ามกลางเสียงที่แผ่วเบาเป็นระลอก ร่างของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยได้หายตัวไป

นาทีนี้ เรื่องที่แปลกประหลาดยิ่งได้เกิดขึ้นมาแล้ว ปรากฏเป็นสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ขึ้นมาอีกหนึ่ง โดยสุดยอดพลังอำนาจนี้เหมือนกับที่หลี่ชิเย่ได้วางเอาไว้อย่างกับแกะ ที่แปลกประหลาดมากไปกว่านั้นก็คือ หลี่ชิเย่ และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์ที่อยู่ในนั้นก็เหมือนกันกับของหลี่ชิเย่

ฉับพลัน ได้ปรากฏสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งสองที่เหมือนกันขึ้นมา หลี่ชิเย่ที่เหมือนกันสองคน และจอมราชันเซียนหวังที่เหมือนกันทั้งสองฝ่าย เป็นภาพที่สร้างความงุนงงให้กับทุกคนที่ได้เห็น

ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดจากการวิวัฒนาการขึ้นมาของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุย อีกทั้งเมื่อสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งสองเข้ามาใกล้กันแล้ว จะได้ยินเสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ดังขึ้น สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งสองถึงกับสั่นสะเทือนขึ้นมา

อีกทั้งยังสั่นสะเทือนมากยิ่งขึ้น เมื่อสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งสองก็จะเข้าใกล้มากขึ้น ยิ่งใกล้กันมากก็ยิ่งสั่นสะเทือนรุนแรงยิ่งขึ้น

ในขณะที่สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งสองมีการสั่นไหวกันอย่างรุถรุนแรงนั้น ในที่สุดเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นมาแล้ว มองเห็นสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ที่หลี่ชิเย่เป็นผู้สร้างขึ้นมานั้นปรากฎเป็นรอยตำหนิขึ้นมาบ้าง ภายใต้การสั่นสะเทือนของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งสอง พลังที่ไม่สมดุลของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ก็ได้ปรากฎขึ้นมา

ความไม่สมดุลนี้เกิดจากจอมราชันองค์ที่สิบเจ็ด เดิมทีจอมราชันองค์สุดท้ายไม่ได้มีปัญหาใดๆ แต่อย่างใด เนื่องจากเขากับหลี่ชิเย่เชื่อมต่อกันอยู่

เพียงแต่ข้างหน้าของราชันผู้นี้ซึ่งเป็นจอมราชันสององค์ที่สมมาตรต่อกัน ภายใต้พลังที่สมมาตรต่อกันเช่นนี้ พลังนั้นมีความสมดุลยิ่งนัก แต่ทว่า จากการที่สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยทำให้เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมานั้น จอมราชันองค์ที่สิบเจ็ดผู้นี้กลับไปสมมาตรกับจอมราชันองค์ที่สิบเจ็ดที่อยู่ในสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุย

แต่ทว่า ภายใต้พลังสมมาตรเช่นนี้ ย่อมไม่เป็นที่กังขาว่าจอมราชันองค์ที่สิบเจ็ดถูกดึงดูดโดยจอมราชันองค์ที่สิบเจ็ดที่อยู่ในสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุย ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการสมมาตรที่ลึกซึ้งพิสดารขึ้นมา

เมื่อมีการก่อตัวในลักษณะการสมมาตรเช่นนี้แล้ว พลันทำให้พลังที่สมดุลของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของหลี่ชิเย่ถูกทำลาย

ภายใต้การเสียสมดุล ได้ยินเสียงคร๊ากดังขึ้น เวลานี้ประกายที่คล้ายดั่งคริสตัลหลากสีที่กันให้แยกตัวออกมาปรากฏเป็นรอยร้าวขนาดเล็กมากขึ้นมา

รอยร้าวขนาดเล็กมากนี้เล็กจนยากจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หากเป็นช่วงเวลปรกติ และหรือต้านกับศัตรูคนอื่นๆ รอยร้าวขนาดเล็กมากเช่นนี้นับว่าไม่คู่ควรจะกล่าวถึง แต่ว่า เวลานี้ที่พวกของหลี่ชิเย่เผชิญหน้าอยู่คือบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุย

จี๊ด จี๊ด จี๊ด…ในเวลานี้ ความมืดที่เข้มข้นยิ่งนักได้ครอบคลุมไปทั่วสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นั่น ติดตามด้วยเสียงตูม ตูม ตูมแต่ละเสียงที่ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ความมืดดั่งเป็นสวรรค์ลงทัณฑ์อย่างนั้น หอบเอาพลังที่ไร้ขีดจำกัดพุ่งเข้าโจมตีรอยร้าวขนาดเล็กมากรอยนั้น ขณะที่ความมืดที่เข้มข้นยิ่งนักซึ่งปกคลุมสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่อยู่เป็นการรอคอยจังหวะเพื่อปฏิบัติการ ขอเพียงพลังความมือนี้โจมตีรอยร้าวขนาดเล็กมากจนปริออก พวกมันก็จะกรูกันเข้าไปตามนั้นอย่างบ้าคลั่ง ต้องการกลืนกินหลี่ชิเย่กับจอมราชันเซียนหวังอีกสิบเจ็ดองค์ในทันที

ตูม ตูม ตูม…ในเวลานี้ ภายใต้การพุ่งโจมตีของพลังความมืดที่บ้าคลั่งเช่นนี้แล้ว สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่เริ่มมีการสั่นไหวโคลงเคลงขึ้นมา อีกทั้งจากการพุ่งโจมตีของพลังความมืดอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่เริ่มไม่มั่นคงเสียแล้ว ประกายที่ดั่งคริสตัลหลากสีสันซึ่งกั้นแยกออกจากกันก็เริ่มมีประกายที่ติดๆ ดับๆ ไม่มั่นคงแล้ว

ฮึด…ในขณะนี้ หลี่ชิเย่และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์ร้องคำรามเสียงยาวขึ้นมา พวกเขาวิวัฒนาการพลังสัจธรรม โดยประกายที่ไม่มีสิ้นสุดพวยพุ่งออกมาจากทั่วร่างกายของพวกเขา ในขณะนี้พวกเขาได้อาศัยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดตลบอบอวลไปทั่วทั้งสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ พลังทุกสายของพวกเขาล้วนแล้วแต่ตรึงกาลเวลาทุกตารางนิ้วของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่เอาไว้

พวกของหลี่ชิเย่พยายามวิวัฒนาการและขับเคลื่อนสัจธรรมฟ้าดิน และพลังชะตาฟ้าอย่างเต็มที่ หวังสร้างความสมดุลให้กับพลังของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่

แต่ทว่า จากการที่สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยที่ทำการวิวัฒนาการและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทำให้สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของพวกหลี่ชิเย่ยังคงไม่สามารถปรับให้สมดุลขึ้นมาได้ แม้ว่ามีความไม่สมดุลเพียงน้อยนิด ก็สามารถส่งผลให้เกิดการลาดเอียงขึ้นภายใต้การนำของพลังเช่นนี้ได้

“พลังของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นี้แข็งแกร่งมากเหลือเกิน อานุภาพการทำลายล้างอยู่ในระดับทำลายฟ้าดินได้ พลันที่พลังเช่นนี้บังเกิดความไม่สมดุลขึ้นมาจะไม่สามารถชดเชยกันได้ เว้นแต่จะมีจอมราชันระดับสูงลงมือ และสามารถแบกรับความไม่สมดุลเช่นนี้เอาไว้ได้ โดยอาศัยพลังของตนมาชดเชยข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นกับสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นี้ หาไม่แล้ว จอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์และหลี่ชิเย่ก็ไม่สามารถควบคุมสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นี้ให้มั่นคงเอาไว้ได้นะเนี่ย” จอมราชันเซียนหวังองค์หนึ่งมองออกถึงเส้นสนกลในขณะยืนดูชมอยู่ กล่าวประเมินเอาไว้ว่า “ด้วยสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ลักษณะเช่นนี้ หากคิดจะชดเชยจุดเชื่อมต่อของพลังไม่สมดุลที่อ่อนด้อยที่สุดนี้ เกรงว่าจะต้องอาศัยการลงมือจากจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าตั้งแต่สิบสายขึ้นไป”

ความจริงแล้ว พลังที่ไม่สมดุลที่เกิดขึ้นภายในสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของหลี่ชิเย่และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์นั้นเล็กน้อยมาก แน่นอนสิ่งนี้เป็นเพียงการพูดถึงในแง่ภาพรวมของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่เท่านั้น

สมควรทราบว่า สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งหมดนี้ไม่เพียงแบกรับพลังจากของวิเศษปริมาณมหาศาลเท่านั้น ยังแบกรับชะตาฟ้าทั้งหมดของจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์ พลังของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่เช่นนี้เป็นพลังที่สามารถทำลายฟ้าดินได้อยู่แล้ว

ภายใต้พลังที่สามารถทำลายฟ้าดินเช่นนี้ แม้จะเป็นเพียงความแตกต่างที่เล็กน้อยมากก็สามารถเผยออกมาได้ทันที ความไม่สมดุลที่เล็กน้อยยิ่งภายใต้ระดับพลังที่สามารถทำลายฟ้าดินเช่นนี้ มันสามารถขยายจุดบกพร่องของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นี้ให้ขยายใหญ่ขึ้นแบบไร้ขีดจำกัดได้โดยพลัน

ความจริงแล้ว ความไม่สมดุลเพียงเล็กน้อยของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่เช่นนี้ หากเกิดขึ้นกับตัวของบุคคลมันคือพลังที่ทรงอานุภาพมาก เวลานี้หลี่ชิเย่และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์คิดจะทำให้ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยนี้ให้มันสมดุล แต่ ความสมดุลเช่นนี้เมื่อถูกทำลาย จะไม่สามารถชดเชยให้กลับมาดังเดิมได้อีก

เหมือนดั่งที่จอมราชันเซียนหวังผู้นั้นได้คิดคำนวณเอาไว้ว่า ความไม่สมดุลน้อยนิดนี้จำเป็นต้องอาศัยชะตาฟ้าสิบสายมาประความสมดุล ดังนั้น ในเวลานี้ หลี่ชิเย่และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์ก็ไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์นี้กลับมาได้

เสียงตูม ตูม ตูมดังตูมตามขึ้นมาไม่ขาดสาย พลังความมืดพุ่งโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ที่วิวัฒนาการจากบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยก็ได้สั่นสะเทือนอย่างหนัก ต้องการดึงความไม่สมดุลของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของหลี่ชิเย่แยกออกจากกัน ต้องการให้รอยร้าวเพียงเล็กน้อยนั่นให้เกิดการปริแยกได้มากที่สุด

ขณะที่ภายในสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ หลี่ชิเย่และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์ได้พยายามขับเคลื่อนฟ้าดินสรรพวิชาอย่างเต็มที่ ด้วยการขับเคลื่อนพลังที่น่ากลัวมากที่สุดในหล้าไปทำให้สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่นี้มีความสมดุล ซึ่งการขับเคลื่อนในลักษณะเช่นนี้มันไม่ง่ายอยู่แล้ว บวกกับบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยที่เข้าโจมตีและสร้างความสะเทือนขึ้นเป็นระลอก ยิ่งส่งผลให้เกิดการผันผวนไม่แน่นอนขึ้นในหลี่ชิเย่และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์ขึ้น

ดังนั้น ภายใต้การโจมตีเป็นระลอก ทำให้หลี่ชิเย่และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์ล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าเหมือนถูกค้อนยักษ์ทุบลงบนตัวอย่างนั้น ได้ยินเสียงดังปัง ปัง ปังดังขึ้น แต่ละค้อนแต่ละทีที่ทุบเข้าให้อย่างแรงบนตัว

ทั้งหลี่ชิเย่และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์ต่างมีร่างกายที่แข็งแกร่งดั่งโลหะศักดิ์สิทธิ์ การทุบอย่างแรงเช่นนี้แม้ไม่สามารถทุกร่างกายของพวกเขาให้แหลกละเอียดได้ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อพวกเขาอย่างหนัก ถูกทุบจนหายใจไม่สะดวก และมีใบหน้าที่ขาวซีด

ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เกรงว่าสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของพวกหลี่ชิเย่จะต้องถูกทำลายจนแหลกละเอียดแน่นอน ถึงแม้พวกเขาจะขับเคลื่อนพลังทั้งหมดที่มีอยู่ไปทำให้มันสมดุล แต่ก็ยากที่จะชดเชยพลังของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งหมดได้

สมควรทราบว่า พลังทั้งหมดของสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่หากถูกปลดปล่อยออกมา สามารถทำลายชิงโจวได้ทั้งหมด การที่จะอาศัยระยะเวลานั้นๆ ไปทำให้พลังที่ดั่งสัตว์ร้ายในยุคดึกดำบรรพ์ให้เรียบใช่จะทำได้ง่ายดายปานนั้น

“สหาย สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของเจ้าสามารถยืนหยัดไปได้อีกนานเท่าไรกัน?” ในขณะนี้ บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยได้ยิ้มกล่าวขึ้นมา

“สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของข้ายืนหยัดได้นานเท่าไรข้าไม่รู้หรอกนะ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “แต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ของเจ้าก็ไม่เห็นจะยืนหยัดต่อไปได้อีก ยามที่ความมืดถูกกวาดล้างจนสิ้น เจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนักปราชญ์อีกต่อไป ภายใต้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ต้องสังหารเจ้าได้แน่”

คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้ร่างในอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยหันกลับไปมองดูสายน้ำแห่งกาลเวลาทีหนึ่ง หลี่ชิเย่ ที่ร่วมมือกับนักปราชญ์ท่ามกลางยุคสมัยของพวกเขานั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบ

ในเวลานี้ประกายศักดิ์สิทธิ์ของนักปราชญ์กำลังกลั่นและสลายความมืดของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยอย่างบ้าคลั่ง นักปราชญ์ต้องการเผาผลาญความมืดให้หมดสิ้น จากนั้นค่อยสังหารบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยจากต้นกำเนิดนั่น ถ้าหากความมืดถูกทำให้บริสุทธิ์สลายไปสิ้นจริงๆ และบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยถูกสังหารจากต้นกำเนิดนั่น เมื่อเป็นเช่นนั้น ต่อให้บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยมีความฝืนลิขิตสวรรค์เช่นใด ไม่ว่าเขาจะมีการเตรียมทางหนีทีไล่ไว้อย่างไร ก็ต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป

ทำลาย…เมื่อร่างในอดีตของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยได้เห็นภาพเช่นนี้แล้ว ก็ให้รู้สึกเย็นวาบขึ้นในใจ เขาร้องคำรามเสียงยาว ความมืดได้พวยพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง เสียงสั่นไหวตูม ตูม ตูมดังขึ้นมาเป็นระลอกทำให้โลกทั้งโลกสั่นไหวโคลงเคลง

เสียงคร๊ากดังขึ้น ภายใต้การเพิ่มความเร็วในการวิวัฒนาการและโจมตีของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุย ในที่สุดได้ทำให้รอยร้าวขนาดเล็กถูกทะลวงจนปริแตกเป็นรอยแยกที่น้อยเลย หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป สุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ของหลี่ชิเย่ไม่สามารถรองรับการรุกล้ำเข้ามาของความมืดได้อย่างแน่นอน

เสียงปุ…ดังขึ้น เมื่อสุดยอดพลังอำนาจยิ่งใหญ่ถูกฉีกขาดเป็นแผลที่มีขนาดไม่เล็ก ส่งผลให้หลี่ชิเย่ และจอมราชันเซียนหวังทั้งสิบเจ็ดองค์ถูกโจมตีเข้าให้อย่างรุนแรง พลังที่มหาศาลที่ปราศจากผู้ต่อกรพลันพุ่งปะทะถึงตัวของพวกเขา ด้วยพลังพุ่งโจมตีที่รุนแรงทำให้พวกเขาต้องกระอักเลือดออกมาอย่างแรง