Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1459 การกลับมาของซูหย่งหวง

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1459 การกลับมาของซูหย่งหวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1459 การกลับมาของซูหย่งหวง

หลังจากกลับไปยังโรงเตี้ยมเรียบร้อยแล้ว หลี่ชิเย่มองดูซูหย่งหวงแล้วกล่าวว่า “หมอนั่นทำไมถึงได้ลอบจู่โจมเจ้ากะทันหันอย่างนี้?”

“ข้าข้าเจ้าเจ้าอะไรของเจ้า” ซูหย่งหวงจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่อย่างเคืองๆ มองค้อนด้วยสายตาที่โกรธและกล่าวว่า “ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า เจ้าควรจะเรียกข้าอาจารย์สักคำแต่โดยดี อย่าทำเป็นไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่”

โฉมตรูอย่างซูหย่งหวงนั้นนับว่ามีความสุภาพเยือกเย็นมีความล้ำเลิศที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร ในฐานะที่เป็นทายาทของราชันเซียน นางจึงมีกลิ่นอายที่ภูมิฐานสง่าผ่าเผยและสูงส่งบนตัว ยามที่นางมองเขม็งไปที่หลี่ชิเย่พร้อมด้วยจริตอยู่สามส่วน มีท่วงทีความงดงามที่แตกต่างคุ้มค่าแก่การลิ้มลองอย่างละเอียด

“เอาล่ะ ข้ารู้ว่าเจ้าคืออาจารย์ค่าตัวถูกๆ คนหนึ่ง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “แม้ว่าจะเป็นอาจารย์ที่แค่ซื้อกับข้าวก็ได้มาเป็นของแถม แต่ว่า ก็อย่าได้เอาเปรียบข้าอยู่ร่ำไป”

“เจ้า…” ซูหย่งหวงถูกหลี่ชิเย่ยั่วโมโหจนกัดฟันด้วยความเคียดแค้น จ้องตาถมึงไปที่หลี่ชิเย่ แต่ก็จนด้วยเกล้า เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ อาจารย์อย่างนางไม่มีลักษณะที่น่าเกรงขามเลยแม้แต่น้อย

แทนที่จะบอกว่านางคืออาจารย์ของหลี่ชิเย่ บอกว่าหลี่ชิเย่เป็นอาจารย์ของนางน่าจะเหมาะกว่า แม้ว่านางที่เป็นอาจารย์แต่ในนามมานานมากแล้ว แต่ว่า นางไม่เคยได้ชี้แนะด้านการฝึกทักษะให้กับหลี่ชิเย่เลย ตรงกันข้าม กลับเป็นหลี่ชิเย่ที่ให้การชี้แนะด้านการฝึกให้กับนาง

ในหลายๆ โอกาส หลี่ชิเย่ยิ่งดูเหมือนเป็นอาจารย์ของนางเสียมากกว่า คอยดูแลนาง ชี้แนะให้กับนาง จึงไม่แปลกที่หลี่ชิเย่จะเยาะเย้ยความเป็นอาจารย์ของนางว่าเป็นอาจารย์ราคาถูก

มองดูซูหย่งหวงที่ถูกยั่วโมโหจนกัดฟันด้วยความเคียดแค้นแล้ว หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มมองดูนางและกล่าวว่า “เจ้าค้นพบสถานที่แห่งนั้นแล้วสิ”

“พบแล้ว ทั้งยังได้พบของวิเศษของตระกูลซูอีกด้วย” ซูหย่งหวงถึงกับทอดถอนใจออกมาเบาๆ กล่าวว่า “บรรพบุรุษเสียชีวิตอยู่ที่นั่นจริงๆ”

“ทำไปเพื่อต้องการแต่งงานกับหญิงที่อยู่ในดวงใจน่ะสิ” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเมินเฉยว่า “เขาน่าจะไปรับปากผู้อาวุโสของฝ่ายหญิงว่า จะไปเอาสิ่งของสิ่งหนึ่งที่นั่น”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” ซูหย่งหวงรู้สึกตกใจเป็นอันมาก นางล่วงรู้เรื่องนี้จากการที่บรรพบุรุษได้ทิ้งข้อความเอาไว้ก่อนตาย หลังจากที่นางได้ค้นพบสถานที่แห่งนั้นแล้ว

“แค่นับนิ้วเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่กล่าวไปตามอารมณ์ว่า “การไปยังสถานที่แบบนั้น สามารถไปเพื่ออะไรได้ล่ะ”

“ไม่เพียงบรรพบุรุษเท่านั้น แม่นางคนนั้นก็ไปด้วยกันกับเขา ทั้งสองคนต่างเสียชีวิตที่นั่นด้วยกัน” ซูหย่งหวงถึงกับทอดถอนใจออกมา

“เรื่องนี้นับว่าเป็นความโชคดีท่ามกลางความโชคร้าย” หลี่ชิเย่หัวเราะ และกล่าวว่า “นับว่าตายได้สมความปรารถนาแล้ว สถานที่เช่นนั้น เขายังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ”

ซูหย่งหวงถึงกับนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง เมื่อได้สติกลับมารู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นมา กล่าวต่อหลี่ชิเย่ว่า “ที่ตรงนั้นมีสมุนไพรวิเศษอยู่ต้นหนึ่ง เป็นต้นสมุนไพรวิเศษที่สุดยอดมาก”

“ข้ารู้” หลี่ชิเย่ไม่ได้รู้สึกเป็นเรื่องที่เหนือความคาดคิดแม้แต่น้อย กล่าวว่า “ต้นสมุนไพรวิเศษที่ผู้คนอยากได้มันมาก แม้แต่ราชันเซียนก็เคยรอคอย เสียดายรอไม่ไหว โอกาสยังไม่สุกงอม”

“แล้วตอนนี้ล่ะ? ข้ารับรู้ถึงสถานการณ์อะไรบางอย่าง เหมือนว่าได้บรรลุถึงเซียนแล้วอย่างนั้น แม้ว่าข้าจะไม่รู้เรื่องของสมุนไพร แต่ ข้อรู้สึกว่าสถานการณ์สุกงอมแล้ว สมุนไพรนั่นน่าจะใช้ได้แล้วสิ” ซูหย่งหวงเล่าสิ่งที่ตนได้พบประสบมาให้ฟัง

“เจ้าสมควรกล่าวว่าตนเองนั้นโชคดีที่สามารถควบคุมจิตเอาไว้ได้ ไม่ได้ถูกสถานการณ์เช่นนั้นดึงดูดใจ มิฉะนั้นล่ะก็ จุดจบของเจ้าจะอนาถมากกว่านี้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย

“เรื่องนี้ต้องให้เจ้าบอกรึ? ข้าไม่ได้โง่นี่!” ซูหย่งหวงที่สุภาพเยือกเย็นสูงส่งล้ำเลิศเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร มองหลี่ชิเย่อย่างเคืองๆ ใบหน้าแฝงไว้ด้วยลักษณะงามหยาดเยิ้มอยู่สามส่วน ความหยาดเยิ้มเช่นนี้ทำให้ผู้ที่พบเห็นต้องใจเต้นตูมตาม

ซูหย่งหวงสามารถเข้าไปยังบริเวณนั้นได้ก็เพราะแผ่นภาพสองแผ่นที่นำมาต่อกัน จนสามารถค้นพบโครงกระดูกของบรรพบุรุษ และอาศัยข้อความบรรพบุรุษตระกูลซูได้ทิ้งเอาไว้ก่อนตาย ทำให้รู้ว่าที่ตรงนี้มีต้นสมุนไพรวิเศษอยู่ต้นหนึ่ง และท่ามกลางสถานที่แห่งนั้น นางรับรู้ได้ถึงสถานการณ์ที่กำลังจะกลายเป็นเซียนของสมุนไพรวิเศษนั่น

แต่ว่า ก่อนจะมาที่ตรงนี้หลี่ชิเย่ได้เคยกำชับนางเอาไว้ ดังนั้น นางจึงได้ยึดมั่นใจจิตของตนให้มั่นคง ไม่ถูกความยั่วยวนใจดึงดูด ไม่กล้าลึกเข้าไปภายในนั่น หลังจากได้ของวิเศษประจำตระกูลซูแล้วก็ล่าถอยกลับมา

ขณะที่โอรสสวรรค์ปกสมุทรลงมือจู่โจมนางครั้งนี้ ก็เป็นเพราะเรื่องของแผ่นภาพสองแผ่นนี้ ไม่รู้ว่าโอรสสวรรค์ปกสมุทรรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร และไม่รู้ว้าเขาไปรู้มาจากไหนว่าในมือของนางมีแผ่นภาพสองแผ่นนี้ ดังนั้น นางยังไม่ทันได้ไปจากเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกโอรสสวรรค์ปกสมุทรเข้าจู่โจม หวังจะแย่งชิงแผ่นภาพที่อยู่ในมือของนาง

หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มออกมา เมื่อมองเห็นท่าทีที่สวยหยาดเยิ้มอยู่สามส่วนของซูหย่งหวง

ซูหย่งหวงทอดถอนใจเบาๆ ออกมา ล้วงเอากล่องโบราณใบหนึ่งออกมายื่นให้กับหลี่ชิเย่ กล่าวว่า “นี่คือของวิเศษตระกูลซูของข้า”

ซูหย่งหวงไม่มีอะไรต้องปิดบังเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ นางไม่มีอะไรที่ไม่สามารถให้หลี่ชิเย่ล่วงรู้ได้ นางมีความจริงใจต่อหลี่ชิเย่ นางสามารถบอกกล่าวทุกสิ่งทุกอย่างให้กับหลี่ชิเย่ สามารถมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับหลี่ชิเย่

หลี่ชิเย่เปิดกล่องวิเศษออกมา ภายในกล่องวิเศษส่งประกายเซียนออกมา มองดูของวิเศษที่อยู่ในกล่องวิเศษ หลี่ชิเย่ ถุงกับทอดถอนใจเบาๆ ออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตได้ปรากฏขึ้นมาในใจ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขารู้สึกว่าตัวเองติดค้างบรรพบุรุษตระกูลซู เป็นเขาที่ดึงเอานางเข้ามาอยู่ในโลกนี้ เป็นเขาที่ได้ให้คำมั่นสัญญาสูงสุดให้กับนาง บนเส้นทางที่สุดแสนจะยาวไกล นางได้เสียสละมากมายเหลือเกิน นางคอยวางแผนให้กับราชันเซียนหมิงเหริน นางยกทัพปราบปรามไปเก้าแดนเพื่อราชันเซียนหมิงเหริน นางคอยปกปักรักษาทั่วทุกแดนเพื่อราชันเซียนหมิงเหริน…

ท่ามกลางเส่นทางอันยาวไกล เวลาที่ราชันเซียนหมิงเหรินประสบความล้มเหลว นางคอยอยู่เคียงข้าง ยามที่ราชันเซียนหมิงเหรินสำเร็จสัจธรรม นางก็คอยเป็นเพื่อนอยู่ข้างกายเงียบๆ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางหัวเราะเป็นเพื่อนอยู่กับราชันเซียนหมิงเหริน ร้องไห้เป็นเพื่อนกับราชันเซียนหมิงเหริน มีความสุขกับราชันเซียนหมิงเหริน จิตตกกับราชันเซียนหมิงเหริน…

เพื่อราชันเซียนหมิงเหรินแล้ว นางถึงกับไม่คำนึงถึงการทรยศตระกูล กระทั่งไม่คำนึงว่าจะต้องไปจากบ้านเกิดเมืองนอน

เสียดาย ท้ายที่สุดเขาที่อยู่ในฐานะอีกาทมิฬกลับไม่สามารถบรรลุสิ่งที่ได้รับปากนางเอาไว้ ไม่สามารถผลักดันให้นางก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งราชันเซียน! ในเวลานั้น ราชันเซียนหมิงเหรินคล้ายดั่งถูกผีเข้าสิงอย่างนั้น ไม่สามารถละทิ้งผู้หญิงปัญญาอ่อนคนนั้นไปได้

ในที่สุดนำมาซึ่งเขากับราชันเซียนหมิงเหรินต้องหันหลังให้แก่กัน ตลอดทางที่ก้าวเดินกันมานั้น ราชันเซียนหมิงเหรินไม่เคยชักสีหน้ากับเขาเลยสักครั้ง มาครั้งนี้ ทั้งสองกลับต้องเลิกรากันไป และทำให้เขาต้องเข้าสู่ภาวะหลับใหลเร็วขึ้น

แม้ว่า บรรพบุรุษของตระกูลซูไม่เคยตำหนิเขา นางถือว่าสิ่งนี้เป็นการตัดสินใจเลือกของนางเอง นี่คือชะตาชีวิตของนางเอง แต่ว่า ในใจของหลี่ชิเย่เข้าใจเป็นอย่างดี เป็นเขาที่ติดค้างบรรพบุรุษของตระกูลซู หากไม่เป็นเพราะเขาที่ดึงตัวนางเข้ามาอยู่ในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ บางทีนางอาจจะเป็นคุณหนูที่มีความสุขคนหนึ่ง หรือบางทีนางอาจจะได้เป็นองค์หญิงที่ปราศจากความทุกข์ความกังวล ใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างมีความสุข มีครอบครัวที่อบอุ่น….

เมื่อนึกถึงเรื่องราวต่างๆ นานา หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจออกมาเบาๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก ไม่แน่เสมอไปว่าราชันเซียนหมิงเหรินจะต้องเป็นฝ่ายผิด ตัวเขาเองก็ไม่แน่ว่าจะต้องเป็นฝ่ายถูก ขณะที่ผู้ถูกทำร้ายกลับเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียสละมากมาย มากมายเหลือเกิน!

หลี่ชิเย่รู้สึกสลด ทอดถอนใจออกมาคำหนึ่ง ส่งมอบกล่องวิเศษคืนให้กับซูหย่งหวง กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “ของวิเศษตระกูลซู แฝงไว้ซึ่งความลึกลับที่ยอดเยี่ยมมาก เจ้าศึกษาให้ดีๆ เมื่อไรที่เจ้าสามารถกุมความเร้นลับที่อยู่ภายในแล้ว จะทำให้เจ้าได้ประโยชน์ไปชั้วชีวิต”

“ข้ารู้” ซูหย่งหวงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยักหน้าด้วยความหนักแน่น

“นี่ สมุนไพรวิเศษที่พวกเจ้าพูดถึงอยู่ที่ไหนกัน? พวกเราไปดูกันเถอะ” เย่เสี่ยวเสี่ยวที่ยืนอยู่ข้างๆ ตลอดโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา ในที่สุดก็ได้โอกาสพูดแล้ว จึงพูดออกมาด้วยความดีใจ

หลี่ชิเย่มองดูเย่เสี่ยวเสี่ยวที่อยากจะไปดูเต็มที่ หัวเราะและกล่าวว่า “ต้องพาเจ้าไปดูแน่นอน แต่ ไม่ใช่ตอนนี้ รอให้อาการบาดเจ็บของนางหายเดีและสังหารโอรสสวรรค์ปกสมุทรเสียก่อนแล้วค่อยไปก็ยังไม่สาย”

“หลี่ชิเย่หาใช่คนดิบดีอะไรนัก เขาเสนอตาต่อตาฟันต่อฟันอยู่แล้ว การที่โอรสสวรรค์ปกสมุทรจู่โจมซูหย่งหวง เช่นนั้นแล้ว เขาก็จะให้โอกาสซูหย่งหวงได้เป็นผู้สังหารโอรสสวรรค์ปกสมุทร

“อย่างนั้นก็ได้” แม้ว่าบ่อยครั้งที่เย่เสี่ยวเสี่ยวมักจะดุเด็ดเผ็ดร้อนอยู่เสมอ กระทั่งเรียกว้าดื้อรั้นไม่มีเหตุผล แต่ นางก็เป็นเด็กผู้หญิงที่รู้หลักการโดยรวม รู้จักกาลเทศะ

“เจ้านี่ชอบหาเศษหาเลยไปทั่วก็ช่างเถอะ นี่ยังถึงขั้นล่อลวงเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเสียอีก” ซูหย่งหวงมองดูเย่เสี่ยวเสี่ยวแล้ว จ้องตาเขม็งไปที่หลี่ชิเย่อย่างเคืองๆ

“ใครว่าข้ายังเด็ก…” คำพูดลักษณะเช่นนี้ของซูหย่งหวงเหมือนไปเหยียบเอาหางของเย่เสี่ยวเสี่ยวเข้าให้ นางเต้นผางขึ้นมาทันที ทำมือเท้าสะเอว ยืดอกที่พอจะมองเห็นร่องอกได้บ้างขึ้น พูดด้วยท่าทีขึงขังว่า “ข้าท่องไปทั่วทั้งแปดทิศ ชื่อเสียงโด่งดังทุกเขตขาม ใครว่าข้ายังเด็ก!”

ซูหย่งหวงถึงกับทำอะไรไม่ถูกได้แต่ส่ายหน้า เมื่อมองเห็นท่าทีขึงขังของเย่เสี่ยวเสี่ยว

หลี่ชิเย่ไม่สนใจเย่เสี่ยวเสี่ยวที่กำลังทำท่าทีขึงขัง กล่าวต่อซูหย่งหวงว่า “คิดจะสังหารโอรสสวรรค์ปกสมุทร ข้าจะช่วยคลายพลังสยบของเสินจื่อโจวให้กับเจ้าเสียก่อน” กล่าวพลาง มือขนาดใหญ่ทาบลงตรงระหว่างอกของซูหย่งหวง

ซูหย่งหวงรู้สึกหน้าแดงขึ้นมา และรู้สึกถึงความร้อนผ่าว เมื่อถูกมือขนาดใหญ่กดทับอยู่บนอก รับรู้ถึงมือใหญ่ที่ทรงพลังและหยาบกร้านของหลี่ชิเย่ ผู้หญิงที่สุภาพเยือกเย็นเช่นนางยังต้องก้มหน้าลงช้าๆ แสดงความอ่อนหวานที่บอกไม่ถูกออกมา

“แกร้งค์ แกร้งค์ แกร้งค์…” หลักสัจธรรมหมุนเคลื่อนไป เสียงดังขึ้นมาเป็นระลอก สุดท้ายคล้ายดั่งกุญแจขนาดใหญ่ถูกปลดล็อคอย่างนั้น พลังสัจธรรมที่สยบเอาไว้นั้นถูกคลายออก

“อย่างนี้แหละ…” หลังจากคลายล็อคแล้ว ซูหย่งหวงถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เหมือนได้ปลดเครื่องพันธนาการออก แม้ว่าพลังสยบจะไม่ถึงขั้นทำอันตรายให้กับผู้ใด แต่ทว่า หากรั้งอยู่ที่เสินจื่อโจวเป็นเวลานาน ภายใต้การสยบเช่นนี้ ไม่เพียงทำให้รู้สึกเหมือนถูกล่ามโซ่ตรวนเอาไว้ กระทั่งทำให้รู้สึกเหมือนอึดอัดหายใจไม่สะดวก

เวลานี้ ซูหย่งหวงรู้สึกสบายตัวยิ่งนัก เมื่อได้รับการคลายล็อคจากหลี่ชิเย่แล้ว พลังลมปราณพลุ่งพล่าน นาทีนี้ พลังลมปราณที่แข็งกร้าวและพาลได้กลับมาอีกครั้ง กลับคืนสู่สภาวะปรกติของนาง

หลังจากได้รับการคลายล็อคแล้ว กลิ่นอายความเป็นกษัตริย์ของซูหย่งหวงยิ่งพลุ่งพล่านขึ้นกว่าเดิม ภายใต้พลังที่ไม่โกรธแต่เปี่ยมด้วยปณิธานการต่อสู้ที่รุนแรงยิ่ง

“พักฟื้นให้ดีเถอะ รอให้อาการบาดเจ็บหายดีแล้ว เจ้าจะต้องได้ต่อสู้แน่นอน ไม่ต้องใจร้อน” เมื่อหลี่ชิเย่รับรู้ถึงปณิธานการต่อสู้ที่อยู่บนตัวของซูหย่งหวงแล้ว จึงยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “โอรสสวรรค์ปกสมุทรหนีไปไหนไม่รอดหรอก เขามีผู้คอยให้ท้ายอยู่ในเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เขาคงไม่หนีไปไกล เขาต้องกลับมาแก้แค้นแน่นอน”

“ข้าจะรอให้เขามา ข้าจะตัดหัวของเขาด้วยมือของข้าเอง!” นัยน์ตาทั้งสองของซูหย่งหวงดูน่าเกรงขาม เปี่ยมด้วยปณิธานการต่อสู้ การจู่โจมของโอรสสวรรค์ปกสมุทรได้สร้างึความโกรธแค้นให้กับนางยิ่งนัก หากไม่เป็นเพราะถูกพลังสยบของเสินจื่อโจว นางจะต้องสังหารโอรสสวรรค์ปกสมุทรอย่างแน่นอน!

…………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *