ตอนที่ 1773 เทคนิคการพนันศิลา
ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างจ้องมองไปที่รัชทายาทเทียนหวง ไม่ว่ามือคู่นั้นของหลี่ชิเย่จะมีค่าสมราคาศิลาขมุกขมัวระดับธรรมมังสัจธรรมหนึ่งล้านเม็ดหรือไม่ แต่ว่า รัชทายาทเทียนหวงเป็นผู้ริเริ่มเสนอให้มีเกมพนันในครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นคนแรก

ถ้าหากรัชทายาทเทียนหวงเลือกที่จะถอย ตัวเขาในฐานะรัชทายาทเทียนหวงจะเอาหน้าไปไว้ไหน เวลานี้ ไม่ก็ยอมควักเงินจำนวนศิลาขมุกขมัวระดับธรรมมังสัจธรรมหนึ่งล้านเม็ดออกมาเดิมพันกับหลี่ชิเย่ หรือไม่ก็นำเอาแขนสองข้างของตนมาเดิมพันพนันกับหลี่ชิเย่

มิฉะนั้นล่ะก็ เขาผู้ซึ่งริ่เริ่มให้มีการพนันขึ้นแล้วถอยฉาก การทำเช่นนี้ไม่เพียงทำให้ตัวเขาซึ่งเป็นผู้สืบทอดของสายสำนักราชันเซียนต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ยิ่งกว่านั้น ยังจะทำให้ไม่หลงเหลือซึ่งความเป็นรัชทายาทที่มีฐานะสูงส่งอีกเลย เป็นถึงรัชทายาทกลับถูกมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งทำให้ต้องเสียเกียรติ

“ปัง” เสียงหนึ่งดังขึ้น รัชทายาทเทียนหวงได้โยนศาสตราวุธเต๋ารับธรรมมังสัจธรรมรวดเดียวออกมาถึงสามชิ้น ทั้งสามชิ้นล้วนแล้วแต่ อยู่ในชั้นคุณภาพเลี่ยมทอง

“บนตัวของข้าไม่ได้มีศิลาขมุกขมัวมากมายขนาดนั้น ใช้ศาสตราวุธเต๋าระดับธรรมมังสัจธรรมสามชิ้นนี้แทนก็แล้วกัน!”

ศาสตราวุธเต๋าระดับธรรมมังสัจธรรมของรัชทายาทเทียนหวงทั้งสามชิ้นนี้ มีค่าเทียบได้กับศิลาขมุกขมัวระดับธรรมมังสัจธรรมหนึ่งล้านเม็ดได้อย่างแท้จริง

หลี่ชิเย่มองดูศาสตราวุธเต๋าระดับธรรมมังสัจธรรมสามชิ้นที่อยู่ตรงหน้าแล้วเพียงยิ้มนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “ก็ได้ เจ้าคิดจะพนันอย่างไรหละ?”

รัชทายาทเทียนหวงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ตบบ่าหลี่ล่างซวนที่อยู่ข้างกาย และกล่าวว่า “มอบให้พี่ล่างซวนแทนข้า พี่ล่างซวนช่วยเอาชนะเขาแทนข้า ข้าต้องการแขนสองข้างของเขา!” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้แล้ว สายตาของเขาพลันดูน่ากลัว เผยให้เห็นถึงประกายที่ทารุณโหดร้ายออกมา

การตัดแขนสองข้างของหลี่ชิเย่ กล่าวสำหรับรัชทายาทเทียนหวงแล้วเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าหากหลี่ล่างซวนสามารถเอาชนะเกมนี้ได้ล่ะก็ หลี่ชิเย่คิดจะก้าวลงจากโต๊ะพนันตัวนี้คงไม่ง่ายนัก เขาจะทรมานเจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาตรงหน้าคนนี้ให้ตายทีละนิดๆ

เขาต้องการทรมานเจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้อย่างหนักต่อหน้าธารกำนัล ให้เขาตายเสียดีกว่าอยู่ เขาต้องการให้เสียงร้องที่เศร้าโศกของมนุษย์ปุถุชนผู้นี้ดังก้องไปทั่วเมืองประจิม

แม้ว่าจะไม่สามารถฆ่าคนในเมืองประจิมได้ แต่หากว่ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้แพ้พนัน ทุกอย่างก็จะสมเหตุสมผล ใครก็ไม่สามารถช่วยมนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้ได้!

หลี่ล่างซวนตะลึงนิดหนึ่ง เมื่อถูกรัชทายาทเทียนหวงกำหนดให้เป็นผู้ลงเล่นเกมพนันกับหลี่ชิเย่ แต่ว่า เมื่อได้สติกลับมาและมองไปที่หลี่ชิเย่แล้ว ปรากฏแววตาที่เต้นระริกทีหนึ่ง

กล่าวสำหรับหลี่ล่างซวนแล้ว มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าคู่ควรให้เขาท้าสู้โดยแท้จริง ก่อนหน้านั้น หลี่ชิเย่ได้แสดงฝีมือใสการผ่าก็ทำให้ผู้คนเข้าใจได้ว่า มนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้ก็เป็นผู้ชำนาญการศิลาที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งอย่างแท้จริง

หลี่ล่างซวนได้รับการยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งผู้ชำนาญการศิลา ฉายาผู้ชำนาญการศิลาอันดับหนึ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่แห่งชิงโจว เวลานี้ เมื่อหลี่ล่างซวนได้เห็นวิธีการผ่าศิลาของหลี่ชิเย่แล้วถึงกับอยากลองของ มีความคิดที่จะวัดกับหลี่ชิเย่ว่าใครจะเหนือกว่าใครจริงๆ

“ฝ่าบาทให้เกียรติกับข้าเหลือเกิน เกรงว่าข้าจะรับภาระหนักนี้ไม่ไหว” หลังจากที่หลี่ล่างซวนได้สติกลับมา ย่อมต้องกล่าวถ่อมตนออกมาบ้าง

“พี่หลี่ล่างซวนคือผู้ชำนาญการศิลาอันดับหนึ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ แค่ผู้ชำนาญการศิลามนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งจะไปมีอะไร พี่ล่างซวนช่วยข้าเอาชนะแขนสองข้างของเขาก็พอ”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าเคารพมิสู้ปฏิบัติตามแล้ว” หลี่ล่างซวนแสดงคารวะแบบจีนและกล่าวต่อรัชทายาทเทียนหวง

เมื่อหลี่ล่างซวนยินดีเข้าแข่งขันแทนรัชทายาทเทียนหวงแล้ว คู่สายตาทุกคู่จึงได้ตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ กับหลี่ล่างซวน ความสามารถในฐานะผู้ชำนาญการศิลาของหลี่ชิเย่ ทุกคนต่างได้ประจักษ์แก่สายตาจากการลงมือก่อนหน้า ขณะที่หลี่ล่างซวนย่อมไม่ต้องพูดถึง ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้กันทั่ว

คนหนึ่งคือผู้ชำนาญการศิลาของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา อีกคนหนึ่งคือดาวรุ่งผู้ชำนาญการศิลา ย่อมไม่ต้องสงสัย เกมการแข่งขันในครั้งนี้ผู้ที่ได้เปรียบก็คือหลี่ล่างซวน และไม่แปลกที่รัชทายาทเทียนหวงขอให้หลี่ล่างซวนเป็นผู้ลงแข่งขันแทน

“การลงแข่งพนันศิลาของหลี่ล่างซวน แม้แต่ผู้ชำนาญการศิลารุ่นอาวุโสก็ไม่ต้องการลงมือด้วย ในชิงโจวมีผู้ชำนาญการศิลาจำนวนไม่น้อยที่พ่ายแพ้ให้กับหลี่ล่างซวนมาแล้ว” ยอดฝีมิอผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เกมการพนันในครั้งนี้เป็นที่ดึงดูดสายตาผู้คนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเวลานี้ทุกคนต่างจ้องมองไปที่พวกเขาสองคน

“ไม่ทราบว่าท่านจะพนันอย่างไร?” หลี่ล่างซวนแสดงคารวะแบบจีนต่อหลี่ชิเย่ หลี่ล่างซวนยังคงให้ความเคารพต่อหลี่ชิเย่ในฐานะที่เป็นผู้ชำนาญการศิลาด้วยกัน ต่อให้หลี่ชิเย่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

“เจ้าคิดจะพนันแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น ข้ายินดีรับคำท้า” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว ท่าทีตามอารมณ์ยิ่งนัก

หลี่ล่างซวนก็ไม่กล้าประมาท เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “สายตาของท่านก็นับว่าเหนือผู้คน มิสู้พวกเราต่างไปเลือกหาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนในเขตรอการประเมินดีกว่า ตัวอ่อนของใครดีกว่าคนนั้นเป็นฝ่ายชนะ ท่านมีความเห็นว่าอย่างไรหละ?”

“ได้ เอาตามนี้ก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ปราศจากความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น กล่าวด้วยท่าที่ตามอารมณ์ยิ่งนัก

เขตรอการประเมิน เป็นเขตที่มีลักษณะพิเศษของร้านศิลา ภายในเขตรอการประเมินได้จัดวางวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนเอาไว้มากมาย บรรดาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนเหล่านี้กระทั่งผู้ชำนาญการศิลาของร้านศิลาก็ไม่สามารถประเมินได้ว่า วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนเหล่านี้จัดอยู่ในชั้นคุณภาพเช่นใด

วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่อยู่ท่ามกลางเขตรอการประเมิน มีความเป็นไปได้ที่สามารถผ่าออกมาแล้วได้ตัวอ่อนที่มีชั้นคุณภาพดีที่สุด และก็เป็นไปได้ที่จะได้คุณภาพระดับขาวบริสุทธิ์

วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่อยู่ภายในเขตรอการประเมินล้วนแล้วแต่มีราคาที่ไม่ธรรมดา ได้ยินมาว่าเป็นความจงใจของร้านศิลา และด้วยสาเหตุนี้เอง ผู้บำเพ็ญตนที่เล่นพนันศิลาจึงมักจะชอบเลือกวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนในเขตรอการประเมินมาพนันกัน นี่แหละคือการพนันที่วัดดวงของแต่ละคน และหรือวัดฝีมือกันจริงๆ !

“ได้ยินมาว่า วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่อยู่ในเขตรอการประเมินส่วนใหญ่จะเป็นขาวบริสุทธิ์ เพื่อกำไรและดึงดูดให้ผู้บำเพ็ญตนไปร่อนหาของวิเศษและเสี่ยงโชค ทางร้านศิลาจงใจนำวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนคุณภาพดีปนเข้าไปด้วย” ผู้บำเพ็ญตนที่มายังร้านศิลาเป็นประจำยิ้มกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา

คำพูดของผู้บำเพ็ญตนผู้นี้ได้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยหัวเราะขึ้นมา ความจริงแล้ว เรื่องที่ว่าวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่อยู่ในเขตรอการประเมินมีชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์อยู่เป็นจำนวนมากนั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างรู้กันดี แต่ว่า ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ทางร้านศิลาได้นำเอาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นคุณภาพเลิศจำนวนน้อยปนเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย และมีวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่แม้แต่ผู้ชำนาญการศิลาของร้านศิลาก็ไม้สามารถประเมินคุณภาพได้ จึงถือโอกาสรวมเข้าไปอยู่ในเขตรอการประเมินเพื่อดึงดูดนักพนัน

หลังจากที่หลี่ชิเย่ และหลี่ล่างซวนทั้งสองคนมาถึงเขตรอการประเมินแล้ว ทั้งสองต่างเลือกหาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนแต่ละชิ้นและคัดเลือกอย่างละเอียด กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว เวลานี้จะเป็นการทดสอบสายตาของพวกเขา

ลักษณะของตัวอ่อนภายในวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ต้องผ่าออกมาเท่านั้นจึงจะรู้ว่าเป็นตัวอ่อนเช่นใด

แต่ทว่า ผู้ชำนาญการศิลาที่มากด้วยประสบการณ์สามารถอาศัยคุณสมบัติของ ประวัติความเป็นมา น้ำหนัก รูปร่าง และอื่นๆ ของวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนมาประเมินถึงตัวอ่อนที่เกิดขึ้นในนั้น

เป็นต้นว่า ถ้าหากวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้เป็นกระดูกส่วนหนึ่งของสัตว์เทวะ เช่นนั้นแล้ว โอกาสที่วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้ผ่าออกมาแล้วจะได้ตัวอ่อนที่มีชั้นคุณภาพดีสูงกว่าวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่เป็นเพียงกระดูกของสัตว์ร้ายธรรมดา

ด้วยเหตุนี้เอง เฉกเช่นร้านศิลาที่เป็นร้านขนาดใหญ่ พวกเขาจะมีการระบุถึงคุณสมบัติ ที่มาของวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนเอาไว้อย่างละเอียด โอกาสที่จะมีกรณีของการเอาของปลอมมาตบตาเกิดขึ้นได้น้อยมากสำหรับร้านขนาดใหญ่เช่นนี้

หลี่ล่างซวนคือดาวรุ่งผู้ชำนาญการศิลากลุ่มคนรุ่นใหม่ของชิงโจว การฝึกยุทธของเขาเทียบไม่ได้กับบรรดาโอรสราชันเหล่านั้น แต่ว่า ในด้านของการเป็นผู้ชำนาญการศิลา ฝีมือของเขาห่างชั้นกับบรรดาโอรสราชัน ซึ่งไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้เลย

เวลานี้ หลี่ล่างซวนมองว่ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาอย่างหลี่ชิเย่คือศัตรูที่แข็งแกร่ง ดังนั้น ขณะที่ทำการเลือกวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนภายในเขตรอการประเมินนั้น เขาจึงละเอียดรอบคอบและจริงจังกับวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนทุกๆ ชิ้น เรียกได้ว่างัดฝีมือทั้งหมดที่มีออกมาใช้จนหมดสิ้น

หลี่ชิเย่ก็พิจารณาดูวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนแต่ละชิ้นเช่นกัน แต่ เมื่อเปรียบเทียบกับหลี่ล่างซวนที่ทั้งดม ฟังเสียง ดู เคาะต่างๆ เรียกว่างัดทุกอย่างออกมาใช้แล้ว ท่าทางของหลี่ชิเย่ดูจะผ่อนคลายกว่ากันมากทีเดียว เขาเพียงมองดูคุณสบัติของวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนทุกชิ้นอย่างละเอียดเท่านั้น

หลี่ชิเย่ไม่ถึงกับต้องเหมือนดั่งหลี่ล่างซวนที่ต้องงัดทุกวิชาที่มีอยู่ในตัวออกมาทั้งหมด ใช่ว่าหลี่ชิเย่จะประมาทคู่ต่อสู้มากเกินไป แต่เป็นเพราะฝีมือทางด้านนี้ของเขาสูงกว่าหลี่ล่างซวนเป็นอันมาก เมื่อหวนนึกถึงในอดีต ขณะที่เขามาพนันศิลาที่แดนสิบในตอนนั้น มีจอมราชันและเซียนหวังจำนวนมากที่ยังไม่ได้กำเนิดเกิดมาด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่ามีผู้ที่ได้รับฉายาว่าเทพพนันเมื่อเจอะเจอกับเขาแล้วยังต้องเรียกเขาว่าปฐมปรมาจารย์ด้วยซ้ำ

หลังจากที่คัดเลือกอยู่ครั้งหนึ่ง ในที่สุดหลี่ล่างซวนก็เลือกวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนมาได้ชิ้นหนึ่ง ลักษณะของวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้มีรูปร่างกลมมนเหมือนไข่ มีคุณสมบัติเป็นหิน สามารถมองเห็นเส้นบางเบาภายในเนื้อหินทีเป็นสีแดงคล้ำ วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้เหมือนเปื้อนโลหิตมาอย่างนั้น

ระดับปรมาจารย์ย่อมเป็นปรมาจารย์ พลันที่ลงมือก็ไม่เหมือนคนทั่วๆ ไป” ผู้บำเพ็ญตนที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ชำนาญการศิลาเหมือนกันก็กล่าวด้วยความมั่นใจว่า “วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้มีเนื้อละเอียดเกลี้ยงเกลา ความละเอียดอ่อนแฝงไว้ซึ่งน้ำมัน แม้ว่าข้าจะมองไม่ออกว่ามีประวัติความเป็นมาเช่นใด แต่ว่า ข้าเข้าใจว่าวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้ มีความน่าจะเป็นว่าถือกำเนิดในสายแร่ของเหมือนแร่เซียนหยกแดงสูงมาก และถ้าหากกำเนิดจากสายแร่ของเหมืองแร่เช่นนี้ล่ะก็ โอกาสที่วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้จะผ่าออกมาได้เป็นตัวอ่อนชั้นคุณภาพแสดสามัญ”

บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มีประสบการณ์เมื่อได้ยินยคำชื่นชมจากผู้ชำนาญการศิลาผู้นี้ หลังจากได้มองดูวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่อยู่ในมือของหลี่ล่างซวนอย่างละเอียดแล้ว ก็รู้สึกว่าโอกาสที่วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนของหลี่ล่างซวนชิ้นนี้จะผ่าออกมาได้ตัวอ่อนที่ดีจะสูงมาก

แน่นอน ราคาของวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้ก็ไม่ธรรมดา หลังจากที่หลี่ล่างซวนได้ชำระค่าสินค้าแล้ว ก็ไม่รอหลี่ชิเย่อยู่ที่โต๊ะพนัน

เวลานี้ หลี่ล่างซวนมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เขามั่นใจในวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่อยู่ในมือเต็มเปี่ยม ในฐานะที่เป็นดาวรุ่งผู้ชำนาญการศิลา ชื่อของเขาหาใช่เป็นชื่อเสียงจอมปลอม เขาเคยเอาชนะผู้มีชื่อเสียงรุ่นอาวุโสมาแล้วมากมาย

“พี่หลี่ วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” รัชทายาทเทียนหวงเอ่ยถามหลี่ล่างซวน เมื่อเห็นเขามีท่าทีมั่นใจเต็มเปี่ยม

หลี่ล่างซวนยิ้มกล่าวว่า “ไม่เสียทีที่ฝ่าบาทให้ความสำคัญ ข้ามั่นใจว่าสามารถผ่าออกมาเป็นแสดสามัญ หากโชคดีล่ะก็ ไม่แน่นักอาจได้สวรรค์ตราตั้ง”

เมื่อรัชทายาทเทียนหวงได้ยินคำพูดที่มั่นใจเต็มเปี่ยมเช่นนี้ถึงกับมีกำลังขึ้นมา ดวงตาทั้งสองดูน่าเกรงขาม เผยให้เห็นปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวออกมา เขากล่าวอย่างครั่นคร้ามว่า “คราวนี้ข้าจะตัดแขนสองข้างของเขาก่อน จากนั้นตัดขาสองข้างแล้วควักลูกตาทั้งสองของเขา! ในเมื่อจะพนันกับข้าก็อย่าหวังได้ลงจากโต๊ะอีกเลย” เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว เผยให้เห็นรอยยิ้มที่โหดร้ายทารุณออกมา

หลี่ล่างซวนได้แต่ส่ายหน้าสำหรับคำพูดของรัชทายาทเทียนหวง การที่เขาลงแทนรัชทายาทเทียนหวงไม่ได้ต้องการทำร้ายหลี่ชิเย่อย่างโหดเหี้ยม ทีทำไปนอกจากความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ไม่เลวนักกับรัชทายาทเทียนหวงแล้ว ขณะเดียวกันเขาอยากลองของมาก อยากจะท้าสู้กับผู้ชำนาญการศิลาที่เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาอย่างหลี่ชิเย่

สุดท้าย หลี่ชิเย่ก็สามารถเลือกวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนได้แล้ว เขาใช้มือตบลงบนวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนแล้วกล่าวว่า “ชิ้นนี้แหละ” และได้จ่ายชำระค่าวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนเช่นกัน

วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่หลี่ชิเย่เลือกมานั้นมีราคาถูกมาก วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นที่อยู่ในมือของเขาแลดูคล้ายเป็นถ่านดำท่อนหนึ่ง เหมือนว่ามันไหม้ไฟเพราะถูกฟ้าผ่ามาก่อน โดยที่วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้ไม่สะดุดตาเอาเสียเลย

“ประวัติความเป็นมาของวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้ธรรมดามาก นี่อย่าบอกนะว่าเขาคิดจะพบโชคดีครั้งใหญ่อีกแล้วสิ” ผู้บำเพ็ญตนที่เป็นผู้ชำนาญการศิลาเมื่อมองเห็นวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนในมือของหลี่ชิเย่แล้วกล่าวว่า “นี่คือวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่ขึ้นเกาะอยู่กับต้นเถี่ยซัน ควรจะบอกว่าขณะที่ฟ้าดินหลอมรวมเข้าด้วยกัน บังเกิดเป็นตัวอ่อนขึ้นที่รากแก่ของต้นเถี่ยซัน วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนลักษณะเช่นนี้นับว่าพบเห็นได้ง่ายเหลือเกิน เป็นตัวเลือกขั้นพื้นฐานสำหรับผู้บำเพ็ญตนน้อย และวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนสำหรับซ้อมมือของผู้ชำนาญการศิลามือใหม่