Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1875 ทวนมังกร

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1875 ทวนมังกร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในขณะนี้ อู่ฟ่งหยิ่งที่ถือทวนมังกรอยู่ในมือ ด้วยท่าทางทรงพลังดั่งคลื่นยักษ์ในทะเล เสมือนหนึ่งเป็นเทพสงครามสตรีอย่างนั้น ดวงตาทั้งสองของนางพวยพุ่งประกายที่แหลมคมยิ่งออกมา และพลังที่ข่มขวัญผู้คนถูกเปล่งออกมาทั่วร่าง ทำให้นางดูไม่โกรธแต่เปี่ยมด้วยอำนาจ

เมื่ออู่ฟ่งหยิ่งมีทวนมังกรอยู่ในมือ ทำให้นางมีความมุทะลุดุดันที่สามารถแทงทะลุฟ้าดินได้ มีความปราศจากผู้ต่อกรที่สามารถบดขยี้ศัตรู ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ เวลานี้อู่ฟ่งหยิ่งก็เหมือนดั่งมังกรโหดตัวหนึ่ง มีท่าทีที่ข้านี่แหละคือผู้ปราศจากผู้ต่อกร มุทะลุดุดันและบ้าระห่ำอันธพาล

เมื่อท่าทีลักษณะเช่นนี้ไปปรากฏตัวอยู่บนผู้หญิงคนหนึ่ง เดิมทีมันเป็นสิ่งที่เข้ากันไม่ได้เลย แต่ทว่า เมื่อความมุทะลุดุดันและบ้าระห่ำอันธพาลเช่นนี้ไปปรากฎอยู่บนตัวของอู่ฟ่งหยิ่งแล้วกลับลงตัวพอดี เหมือนว่าไม่รู้สึกว่าโดดเด่นแม้แต่น้อย

ตัวของอู่ฟ่งหยิ่งเองนับเป็นโฉมตรูที่สุดยอดในหล้าคนหนึ่ง แต่ว่า เวลานี้ไม่มีใครไปสนใจถึงรูปโฉมของอู่ฟ่งหยิ่ง เหมือนว่านางได้หลุดออกจากขอบเขตที่สาวงามคนหนึ่งควรจะมีไปแล้ว สิ่งที่ทุกคนนึกถึงคือการต่อสู้!

“สารเลว…” ในเวลานี้อู่ฟ่งหยิ่งร้องเสียงแหลมออกมา “รับทวนข้า…”

“แว้งค์…” ทวนยาวของอู่ฟ่งหยิ่งพลันแหวกอากาศมาทันที ได้ยินเสียง “ปัง” ทวนยาวของอู่ฟ่งหยิ่งพลันแทงทะลุช่องว่างและพุ่งตรงเข้าหาลำคอของหลี่ชิเย่ทันที เพลงทวนนี้รวดเร็วจนปราศจากผู้เทียบเทียม กระทั่งเนตรฟ้ายังตามไม่ทัน

อย่างไรก็ตาม หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่เคลื่อนไหว จากนั้นได้ยินเสียงดัง “ปัง ปัง ปัง” เสียงวัตถุแตกละเอียดดังขึ้นเป็นระลอก

เดิมทีทวนมังกรของอู่ฟ่งหยิ่งได้แทงเข้าที่ลำคอของหลี่ชิเย่ได้แล้ว แต่ เพียงชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ช่วงห่างระหว่างหลี่ชิเย่กับส่วนปลายแหลมของทวนเหมือนว่ามีระยะห่างที่ไกลมากสุดจะเอื้อมถึง หรือบางทีคำว่าระยะห่างไม่สามารถนำมาเปรียบเปรยได้อีกแล้ว

เพียงชั่วพริบตาเดียวนี้เอง ช่วงห่างระหว่างหลี่ชิเย่กับส่วนปลายแหลมของทวนไม่สามารถนำเอาคำว่าใกล้ไกลมาวัดกันอีกแล้ว แต่มันเป็นการห่างกันช่องว่างแล้วช่องว่างเล่า ในพริบตาเดียวนี้เอง ระหว่างหลี่ชิเย่กับอู่ฟ่งหยิ่งเหมือนได้มีการสับหลีกกันช่องว่างแล้วช่องว่างเล่า

สับหลีกช่องว่าง เป็นหนึ่งในวิชาการควบคุมช่องว่าง เพียงชั่วพริบตาเดียว ระยะห่างระหว่างหลี่ชิเย่กับอู่ฟ่งหยิ่งถูกถ่างออกจนไม่สามารถเอื้อมถึงได้

“ทำลาย…” อู่ฟ่งหยิ่งคำรามเสียงดังออกมา ทวนยาวในมือส่งเสียงคำราม ฉับพลันนั้นเอง ปรากฏเสียงวัตถุแตกละเอียดดัง “ปัง ปัง ปัง” ขึ้นมาเป็นชุด ทวนมังกรที่อยู่ในมือของอู่ฟ่งหยิ่งได้แทงทะลุผ่านช่องว่างแล้วช่องว่างเล่า พุ่งตรงเข้าหาลำคอของหลี่ชิเย่โดยพลัน

แต่ว่า เมื่ออู่ฟ่งหยิ่งได้แทงทะลุช่องว่างแล้วช่องว่างเล่าไปแล้ว หลี่ชิเย่ก็ไปปรากฎอยู่ในช่องว่างที่ห่างไกลมากอีกแห่งหนึ่ง ทำให้ส่วนปลายแหลมของทวนมังกรกับหลี่ชิเย่ห่างไกลกันมากเหลือเกิน

“นี่มัน…” ผู้คนจำนวนมากต่างมองดูด้วยความงงงัน เมื่อเห็นอู่ฟ่งหยิ่งอาศัยทวนมังกรที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้แทงทะลุช่องว่างไปตั้งมากมายก็ทำอันตรายหลี่ชิเย่ไม่ได้

“ควบคุมช่องว่าง…” ผู้ที่เป็นรุ่นอาวุโส ซึ่งอยู่ในระดับผู้ได้รับการเคารพสูงสุดของสวรรค์สัจธรรมถึงกับพึมพำออกมาเมื่อมองเห็นภาพเช่นนี้ “เขาเชี่ยวชาญด้านเคล็ดวิชาช่องว่าง พลันทำให้ทั้งสองฝ่ายถูกกั้นขวางออกจากกัน แม้ว่ามองดูคือยืนอยู่ตรงหน้า แต่ห่างกันลิบลับ กระทั่งห่างกันหนึ่งช่องถึงหลายช่อง ถ้าหากทำลายช่องว่างไม่ได้ก็ไม่สามารถทำอันตรายเขาได้ตลอดกาล”

“มังกรร่อนหมื่นแดน…” อู่ฟ่งหยิ่งคำรามเสียงดัง ทวนยาวที่อยู่ในมือพลันกลับกลายเป็นมังกรแท้จริงตัวหนึ่ง ได้ยินเสียงมังกรแท้จริงคำรามเสียงยาว “กรรร” มังกรแท้จริงได้เหินฟ้าขึ้นไป พลันหลุดพ้นไปจากโลกใบนี้ และก้าวข้ามช่องว่างแล้วช่องว่างเล่าในพริบตาเดียว หลังจากที่ก้าวข้ามช่องว่างลักษณะเช่นนี้แล้ว สามารถไล่ตามทันหลี่ชิเย่ในพริบตาเดียว แยกเขี้ยวกางเล็บเข้าสังหารต่อหลี่ชิเย่ในทันที

แต่ทว่า จังหวะที่มังกรแท้จริงกำลังจะไล่ตามทันหลี่ชิเย่แล้วนั้น ทั้งคู่ได้กลับกลายเป็นห่างไกลกันลิบลับอีก ทั้งคู่ได้ทิ้งระยะห่างช่วงแล้วช่วงเล่าอีก

“มังกรร่อนหมื่นแดน…” อู่ฟ่งหยิ่งคำรามออกมาด้วยความโกรธ นางไม่เชื่อว่าจะชั่วร้ายผิดปรกติเช่นนี้ได้ ปะทุพลังลมปราณออกมาอย่างบ้าคลั่ง ฉับพลันได้ก้าวข้ามช่องว่างแล้วช่องว่างเล่า นางควบคุมทวนยาวมุ่งหน้าไป ไม่เชื่อว่าจะตามหลี่ชิเย่ไม่ทัน

ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าดูประหลาดยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นหลี่ชิเย่ก็ดี หรืออู่ฟ่งหยิ่งก็ช่าง พวกเขาทั้งสองดูไปแล้วเหมือนยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่มีการขยับตัว ที่เห็นได้ก็คือตัวของอู่ฟ่งหยิ่งที่ร้องคำรามอยู่ตรงนั้น

ถ้าหากคนที่ไม่รู้ความเมื่อเห็นภาพเช่นนี้แล้ว จะต้องเข้าใจว่าระหว่างพวกเขาต้องมีคนๆ หนึ่งเสียสติแน่นอนเลย มีเพียงยอดฝีมือเท่านั้นที่สามารถดูออกถึงความลึกซึ้งพิสดารได้อย่างแท้จริง แม้ว่าพวกเขาสองคนดูแล้วไม่ได้ก้าวขาแม้แต่ก้าวเดียว แต่ความจริงแล้ว ในเสี้ยววินาทีเท่านั้น พวกเขาได้ก้าวข้ามมิติแห่งช่องว่างแล้ว่ช่องว่างเล่า ซึ่งความลึกซึ้งพิสดารในนั้นหาใช่ผู้อ่อนด้อยสามารถดูออก

อู่ฟ่งหยิ่งได้ก้าวข้ามช่องว่างอีกครั้ง แต่ว่า ยังคงห่างจากหลี่ชิเย่ ต่อให้ความเร็วของนางมากไปกว่านี้ก็ยังคงไล่ไม่ทันหลี่ชิเย่อยู่ดี

“ต่อให้เจ้าออกแรงมากกว่านี้ก็แตะต้องข้าไม่ได้แม้แต่รูขุมขน ถ้าหากเจ้ามีความสามารถเพียงเท่านี้ จงกลับไปดื่มนมเสียแต่โดยดีเถอะ อาศัยความสามารถเพียงเท่านี้อย่าได้ออกมาอวดเก่งอีกเลย” หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่นอกมิติแห่งช่องว่างกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้ว การเข้าในและสามารถพลิกเอามาใช้กับการควบคุมช่องว่างเรียกได้ว่าสามารถทำได้เป็นไปตามแต่ใจปรารถนาอยู่แล้ว กล่าวสำหรับเขาแล้ว การก้าวข้ามมิติช่องว่างแล้วช่องว่างเล่าเป็นเพียงเรื่องจิ๊บๆ เท่านั้นเอง

“ไร้สาระ…” เวลานี้อู่ฟ่งหยิ่งไม่เหลือความเป็นกุลสตรีแม้แต่น้อย แน่นอนที่สุดนางไม่เคยมีอยู่แล้ว ร้องตะโกนเสียงดังออกมาว่า “เจ้าสารเลว ได้แต่หนีอย่างเดียวนับว่ามีความสามารถอย่างนั้นรึ แน่จริงอย่าหนีสิ! มาเล่นกับข้าซึ่งหน้าสักตั้งสิ!”

คำพูดของอู่ฟ่งหยิ่งฟังดูแล้วรู้สึกคลุมเครือยิ่งนัก กระทั่งมีคนที่เขาถึงกับคิดไกลไปโน่น

แน่นอน หลี่ชิเย่ไม่ได้พูดจาแทะโลมอู่ฟ่งหยิ่ง เขาหัวเราะและส่ายหน้าเบาๆ กล่าวว่า “ข้าแน่อยู่แล้ว อีกทั้งข้ายืนอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา จะบอกว่าข้าหลบหนีได้อย่างไร? เจ้าตามข้าไม่ทัน ได้แต่บอกว่าเจ้าน่ะอ่อนเกินไป แม้แต่ตามยังไม่ทัน แล้วนับประสาอะไรกับการต่อสู้ซึ่งหน้า”

“เจ้า…” ด้วยคำพูดคำเดียวของหลี่ชิเย่ ทำเอาอู่ฟ่งหยิ่งโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ เดิมนางกำลังจะอาละวาด แต่สุดท้ายแล้วกลับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่งและสงบสติลงมาได้

“แว้งค์” ทันใดนั้น นัยน์ตาของอู่ฟ่งหยิ่งพลันปรากฏประกายเย็นยะเยือกออกมา ประกายแต่ละสายดูแหลมคมยิ่งนัก กระทั่งเจิดจ้าละลานตา ประกายเยือกเย็นแต่ละสายเหมือนดั่งของจริงอย่างนั้น สามารถทิ่มแทงผู้คนจนรู้สึกเจ็บ

พริบตาเดียวนั่นเอง ดวงตาคู่นั้นของอู่ฟ่งหยิ่งจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ เหมือนว่าต้องการมองหาจุดอ่อนของหลี่ชิเย่อย่างนั้น

“แว้งค์…”ในเสี้ยววินาทีนี้เอง อู่ฟ่งหยิ่งลงมือแล้ว แต่ว่าคราวนี้นางใช้ความเร็วไม่มาก ทวนมังกรในมือของนางค่อยๆ ยกขึ้นมา อีกทั้งขณะที่นางยกทวนมังกรขึ้นอย่างช้าๆ นั้น เหมือนว่าทวนมังกรมีน้ำหนักมากเป็นล้านตันอย่างนั้น

แต่ว่า จังหวะที่อู่ฟ่งหยิ่งยกทวนมังกรที่มีน้ำหนักเป็นล้านตันขึ้นมานั้น ทำให้ช่องว่างกลับกลายเป็นอึดอัดขึ้นมา แม้ว่าอู่ฟ่งหยิ่งไม่ได้ทำลายช่องว่างจะแหลกละเอียด แต่บรรยากาศทั่วช่องว่างกลายเป็นหนักแน่นยิ่งนัก แม้แต่อากาศธาตุก็กลายเป็นหนักขึ้นมา ทำให้ผึ้นรู้สึกหายใจลำบาก

“แว้งค์…” ช่องว่างเกิดการสั่นเทาขึ้นมา ทวนมังกรของอู่ฟ่งหยิ่งวาดเป็นวงกลมขึ้นมา พลันสามารถรวบเอาช่องว่างกว้างไกลนับล้านล้านลี้เข้ามาอยู่ในรัศมีของทวนมังกรได้

จังหวะที่ทวนมังกรกำลังรวบเอาช่องว่างมาไว้กับตัวนั้น ได้ทำให้ช่องว่ากระเพื่อมขึ้นมา เหมือนว่าภายใต้ทวนมังกร ช่องว่างทั้งหมดกลายเป็นเหนียบหนึบยากจะก้าวออกไปแม้แต่ก้าวเดียว อย่าว่าแต่เหินบินอยู่ในช่องว่างที่เหนียบหนึบเลย กระทั่งก้าวออกไปก้าวเดียวยังยากเลย

นับว่าเจ้าไม่โง่เขลานัก” หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางมิติของช่องว่างยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจถึงการสยบและหลอมละลายช่องว่างแล้ว สามารถปิดช่องว่างหลักเอาไว้ อย่างน้อยก็ทำให้ข้าไม่สามารถก้าวข้ามช่องว่างรองได้ นับว่าได้เบิกปัญญาแล้วหละ”

“ทำลาย…” ขณะที่หลี่ชิเย่ยังพูดไม่ทันขาดคำ อู่ฟ่งหยิ่งได้ลงมือด้วยทวนยาว ในเสี้ยววินาทีนี้เองก็ได้ทิ่มแทงไปยังหลี่ชิเย่ โดยที่ทวนนี้ของอู่ฟ่งหยิ่งมีความรวดเร็วมาก พลันแทงไปถึงคอหอยของหลี่ชิเย่

“ปัง” ขณะที่ทวนนี้กำลังแทงไปถึงคอหอยของหลี่ชิเย่ เพิ่งจะได้ยินเสียงช่องว่างที่แตกละเอียดดังตามหลังมา ทวนนี้รวดเร็วเหลือเกิน

แม้กระทั่งผู้ได้รับการเคารพสูงสุดระดับสวรรค์สัจธรรมที่แข็งแกร่งกว่านี้ก็ต้องขนลุกซู่ในใจเมื่อได้เห็นทวนที่แทงเข้ามาทวนนี้ ความดุดันของทวนนี้สามารถแทงทะลุคอหอยของยอดฝีมือคนใดก็ได้ทุกเวลา

ทั้งๆ ที่ทวนนี้ไม่ได้แทงใส่คอหอยของตน แต่ทุกคนต่างรู้สึกเย็นวาบที่คดของตน เหมือนรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากการถูกทิ่มแทง ทำให้ผู้คนจำนวนมากถึงกับสะท้าน ทวนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

แต่ว่า ทวนนี้ยังคงไม่สามารถแทงทะลุคอหอยของหลี่ชิเย่ได้ เหมือนมีมือยักษ์ที่ไร้รูปทำการขวางเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถรุดหน้าไปได้ ภายใต้ปณิธานสูงสุดของหลี่ชิเย่ ทวนมังกรของอู่ฟ่งหยิ่งไม่สามารถทะลุผ่านแนวป้องกันของหลี่ชิเย่ได้อยู่แล้ว

“ปัง” ทันใดนั้น มือยักษ์ไร้รูปเหมือนงอนิ้วแล้วดีด ได้ยินเสียงดัง “ตึง” ทวนมังกรในมือของอู่ฟ่งหยิ่งถูกดีดจนผละออก และตัวของอู่ฟ่งหยิ่งถูกพลังสะเทือนจนต้องถอยหลังไปหลายก้าวติดต่อกัน

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ไม่ควบคุมช่องว่างอีกต่อไปแล้ว ถ้าหากจะเล่นกันจริงๆ อาศัยเพียงปณิธานสูงสุดก็สามารถสยบอู่ฟ่งหยิ่งเอาไว้ได้แล้ว

“เจ้าสารเลว เข้ามาสิ พวกเรามาสู้กันสักครั้งหนึ่ง!” แม้ว่าอู่ฟ่งหยิ่งจะกระเด็นไปตามแรงหลายก้าวติดต่อกัน แต่ นางกลับไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย กระทั่งเรียกได้ว่ายิ่งสู้ยิ่งห้าว ดวงตาทั้งสองปรากฎประกายที่ร้อนแรงวูบวาบ เรียกว่านางชื่นชอบการต่อสู้ยิ่งนัก!

สุดยอดโฉมตรูที่ชื่นชอบการต่อสู้และมุทะลุดุดัน นับว่าเป็นคนแปลกโดยแท้จริง เป็นอะไรที่พบเห็นได้ยากแน่นอน

“ไม่เลว” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะทีหนึ่ง กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “แต่ว่า เจ้านี่ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาเสียเลย วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้รู้จักความไร้เทียมทานที่แท้จริง เตรียมตัวพร้อมแล้วยัง อย่าได้มีเงามืดที่ไม่สามารถทำลายได้หลงเหลืออยู่ในใจไปตลอดชีวิต”

“มีฝีมืออะไรงัดออกมาให้หมด ถ้าหากข้ากลัวเจ้าข้าก็คือลูกสุนัข!” อู่ฟ่งหยิ่งก็อหังการยิ่งนัก ส่งเสียงฮึเย็นชาออกมา

“อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้า กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “งั้นอย่าปัสสาวะรดกางเกงหละ ไม่งั้นล่ะก็ชื่อเสียงของหลงเฉินก็จะเสียหายมากเลยนะ”

“พูดจาไร้สาระ…” จะอย่างไรเสียอู่ฟ่งหยิ่งก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ด่าออกไปว่า “เจ้าสิที่ปัสสาวะรดกางเกง”

“เริ่มแล้วนะ…” หลี่ชิเย่ไม่สนใจต่อเสียงก่นด่าของอู่ฟ่งหยิ่ง เพียงยิ้มเฉยเมยออกมา

แม้ว่าอู่ฟ่งหยิ่งจะพูดจามุทะลุดุดัน แต่นางหาใช่คนที่ประมาทศัตรู และไม่ใช่ประเภทโง่เขลา ดังนั้นในพริบตาเดียวกันนี้ เสียงมังกรคำรามดังไม่ขาดสาย ทวนมังกรในมือของนางได้กลับกลายเป็นมังกรแท้จริง ขดตัวอยู่ข้างกายของนางด้วยท่าทางป้องกันและปกป้องนางเอาไว้

ในขณะนี้ อู่ฟ่งหยิ่งได้ตั้งมั่นพร้อมรับมือกับศัตรู รอคอยการลงมือของหลี่ชิเย่

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *