Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1728 บุกขึ้นแดนที่สิบ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1728 บุกขึ้นแดนที่สิบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1728 บุกขึ้นแดนที่สิบ
มองดูความแตกต่างมิติกาลเวลาที่ถูกทำลาย เวลานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องกลืนน้ำลายลงคอเอือก โดยเฉพาะผู้ยิ่งใหญ่ที่รับรู้ถึงการดำรงอยู่ของแดนที่สิบ ดวงตาทั้งสองของเขายิ่งส่งประกายแวบวับออกมา เวลานี้ ท่ามกลางเก้าแดนมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่แอบวางแผนเอาไว้ พวกเขาก็คิดจะอาศัยโอกาสที่หาได้ยากยิ่งนี้บุกขึ้นแดนที่สิบ ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิเทพที่ไม่รู้ถึงการดำรงอยู่ของแดนที่สิบก็รู้สึกคันตะหงิดๆ บางทีข้างบนอาจจะเป็นแดนสวรรค์ในตำนาน หากมีโอกาสได้ขึ้นไปดูสักครั้งก็ถือว่าเป็นโชคดีในชีวิตอย่างหนึ่ง ไม่แน่นักอาจได้เป็นอมตะ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในแต่ละยุคก็จะมีผู้ที่ได้ขึ้นไปยังแดนที่สิบเพียงคนเดียวเท่านั้น ราชันเซียนในทุกยุคล้วนแล้วแต่อาศัยชะตาฟ้าทำลายความแตกต่างมิติกาลเวลาระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบแล้ว โดยทั่วไปก็ได้แต่ตัวราชันเซียนขึ้นไปเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ง่ายนักหากราชันเซียนคิดจะพาคนอื่นขึ้นไปด้วย

แต่ว่า ราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลกลับทำลายความแตกต่างมิติกาลเวลาทั้งหมด ทำให้ความแตกต่างมิติกาลเวลาเกิดเป็นรอยปริแยกจำนวนนับไม่ถ้วน ทั้งยังปรากฏเป็นช่องที่ฉีกขาดมากมาย ย่อมบ่งบอกว่าไม่เพียงราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลเท่านั้นที่ขึ้นไปแดนที่สิบได้ ขอเพียงสามารถบุกขึ้นไปยังช่องที่ฉีกขาด และสามารถรองรับกับฟ้าผ่าที่อยู่ในช่องที่ฉีกขาดนั้น ไม่ว่าใครก็สามารถขึ้นไปยังแดนที่สิบได้

แต่ว่า เวลานี้ราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลยังไม่ได้ขยับตัว คนอื่นๆ ต่อให้อยากติดตามขึ้นไปยังแดนสิบด้วยก็ต้องรอให้ราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลขึ้นไปก่อน ในขณะนี้ใครรึจะกล้าแย่งราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลขึ้นไปก่อน?

“แดนที่สิบ ในที่สุดพวกเราก็จะได้กลับไปแล้ว!” หวงหลงและป้าหู่ที่มองดูช่องที่ถูกฉีกขาดแต่ละจุดแล้วถึงกับตื่นเต้นดีใจ ดวงตาทั้งสองของพวกเขาปรากฏเป็นประกายตาที่เร่าร้อนออกมา

ข้อแตกต่างของพวกราชันทักษิณก็คือ การไปยังแดนที่สิบของพวกราชันทักษิณเป็นการไปในฐานะคนนอก ขณะที่การไปยังแดนที่สิบของหวงหลงป้าหู่เป็นการกลับบ้าน กล่าวสำหรับผู้ที่จากบ้านเกิดมานานนับสิบล้านปีแล้ว การมีโอกาสได้กลับบ้านเกิดอย่างกะทันหันจะไม่ให้พวกเขารู้สึกดีใจได้อย่างไรกัน

แม้แต่พวกของราชันทักษิณก็ตื่นเต้นดีใจเช่นกัน มองดูประกายที่ส่องลงมาจากช่องที่ฉีกขาดแล้ว พวกเขาถึงกับอยากลองมาก ด้านบนจะมีโลกที่ใหม่ทั้งหมดรอคอยพวกเขาอยู่ และพวกเขาจะได้สำแดงฝีมือเต็มที่กับโลกใบใหม่นี้

จากการที่บนท้องฟ้าปรากฏช่องที่ฉีกขาดแต่ละช่อง ตัวของหลี่ชิเย่เองได้ล็อกพิกัดเป้าหมายและช่องฉีกขาดเอาไว้แห่งหนึ่ง จากนั้น เขาได้ชี้ไปที่ช่องๆ หนึ่งและกล่าวกับหวงหลงและป้าหู่ว่า “พวกเจ้าอาศัยทางนี้ขึ้นไป! ระวังตัวด้วยหละ”

“ตกลง ออกเดินทาง!” หวงหลงและป้าหู่ทนรอไม่ไหวตั้งนานแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่แล้ว พวกเขาทั้งสองต่างคำรามเสียงยาวออกมา ท่าทางดีใจเป็นยิ่งนัก

“ตูม ตูม ตูม…” ในเวลานี้เอง เสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก ภายใต้การกำกับของหวงหลงและป้าหู่ เรือรบขนาดยักษ์ได้บินไปยังช่องที่ฉีกขาดตามที่หลี่ชิเย่ได้ชี้เป้าเอาไว้!

เวลานี้ พวกของหม่ากูที่อยู่บนเรือรบทยอยกันโบกมืออำลาต่อหลี่ชิเย่ พวกเขาไม่สามารถร่วมเดินทางไปกับหลี่ชิเย่ ได้แต่รอพบกันบนแดนที่สิบอีกครั้ง

สิ่งนี้หาใช่หลี่ชิเย่ไม่ยอมเดินทางร่วมกับพวกเขา แต่เป็นเพราะไม่สามารถร่วมเดินทางกับพวกเขาได้ เนื่องจากเขาในฐานะของอีกาทมิฬมีศัตรูอยู่มากมายเหลือเกินในแดนสิบ การที่เขาทำเรื่องใหญ่ขึ้นมาขนาดนี้ แน่นอนที่สุด บรรดาราชันและเหล่าเทพจะต้องรู้เรื่องแล้วแน่นอน อีกทั้งพวกเขาจะต้องคำนวณพิกัดที่ตั้งที่เขาอยู่ในขณะนี้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

ดังนั้น ขอเพียงหลี่ชิเย่ขึ้นไปถึงแดนทีสิบ จะต้องพบกับการล่าสังหารแบบตะลุมบอนเข้าใส่อย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เอง หลี่ชิเย่จึงไม่ต้องการให้พวกของหม่ากูร่วมเดินทางกับตน เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย

“พวกเจ้าขึ้นไปเส้นทางเส้นนั้น” หลี่ชิเย่ชี้ไปที่ช่องที่ฉีกขาดอีกแห่งหนึ่ง กล่าวกับหมิงเย่เสวี่ยที่คอยควบคุมอยู่บนแดนอสูรปีอาน

หมิงเย่เสวี่ยพยักหน้า จากนั้นเสียง “ตูม” ดังสนั่นขึ้นมา แดนอสรูปิอานที่ใหญ่โตมโหฬารได้พุ่งไปยังช่องที่ฉีกขาดช่องนั้น!

การที่หลี่ชิเย่ให้เรือรบขนาดยักษ์ และแดนอสูรปิอานพวกเขาแยกกันเดินทางนั้นมีเหตุผล เป็นการป้องกันไม่ให้ถูกบรรดาราชันและเหล่าเทพสามารถจัดการกับพวกเขาพร้อมกันทีเดียวจนหมด การแยกกันเดินทางเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากที่สุด

“ตูม ตูม ตูม……….” ในขณะที่เรือรบขนาดยักษ์ และแดนอสูรปีอานบุกขึ้นไปยังช่องที่ฉีกขาดนั้น สายฟ้าที่อยู่ภายในช่องฉีกขาดพลันฟาดเปรี้ยงเข้าใส่เรือรบขนาดยักษ์และแดนอสูรปีอานอย่างบ้าคลั่งทันที

สายฟ้าฟาดที่เด็ดขาดและเสียงดังมากได้ฟาดเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า อำนาจการทำลายล้างที่สามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้แหลกลาญได้ สายฟ้าที่เสมือนดังเป็นเชือกเส้นยักษ์สุดเปรียบเปรยเปี่ยมด้วยพลังอำนาจที่ฟาดเข้าใส่ หากถูกมันฟาดใส่ก็จะต้องไหม้เกรียมและกลายเป็นเถ้าธุลีไปในพริบตาเดียว

“มาได้จังหวะ…” หวงหลงและป้าหู่ไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญกับวิบากกรรมสายฟ้าฟาด คำรามเสียงยาวออกมา คนหนึ่งคือเสียงมังกรคำรามไม่ขาดสาย อีกคนเสียงคำรามของพยัคฆ์ที่ดังก้องเก้าชั้นฟ้า

ทันใดนั้นเอง พลังลมปราณของหวงหลงและป้าหู่พวยพุ่ง กลิ่นอายของสัตว์เทพพลันอาละวาดไปทั่วฟ้าดิน คนหนึ่งยันต์มังกรปลิวว่อน คนหนึ่งลายพยัคฆ์บดบังดินแดน ยามที่ยันต์มังกรและลายพยัคฆ์พุ่งโจมตีสวนขึ้นไป พลันทำให้ทั่วทั้งทะเลสายฟ้าถูกกวนจนสั่นไหว

เสียง “ตูม” ดังสนั่น จากการโจมตีของหวงหลงและป้าหู่ พลันทำให้ทะเลสายฟ้าถูกโจมตีจนแยกออกเป็นเส้นทางขึ้นมาสายหนึ่ง ทำให้เรือรบขนาดยักษ์สามารถแล่นผ่านไปยังดินแดนผ่อนปรนที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาได้!

ขณะเดียวกัน เรือรบขนาดยักษ์ได้ปรากฏแนวป้องกันเป็นชั้นๆ ขึ้นมา แนวป้องกันแต่ละชั้นมีความแข็งแกร่งยากที่จะทำลายได้ เมื่อเรือรบขนาดยักษ์บุกฝ่าขึ้นไปยังทะเลสายฟ้าจึงไม่ได้รับอันตรายจากสายฟ้าฟาดที่เสียงดังมาก

เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ท่ามกลางการเปิดทางของหวงหลงและป้าหู่เรือรบขนาดยักษ์จึงได้แล่นผ่านทะเลสายฟ้าไปได้ และหายเข้าไปยังเขตผ่อนปรนที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตานั่น

ผู้ที่สามารถมองเห็นภาพนี้ได้ล้วนแล้วแต่เกิดความสะเทือนหวั่นไหว ความแข็งแกร่งของหวงหลงและป้าหู่ไม่ได้ด้อยไปกว่าราชันเซียนองค์ใดองค์หนึ่งเลย นับว่าเป็นการฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งนัก เมื่อพวกเขาสองคนลงมือใครเล่าที่จะต้านทานพวกเขาได้!

“ฮือ…” ในเวลานี้เอง แดนอสูรปีอานก็บังเกิดเสียงสัตว์คำรามดังขึ้นมา เสียงคำรามดังกล่าวสยบฟ้าดิน เหมือนว่าภายในแดนอสูรปีอานมีราชาแห่งสัตว์อาศัยอยู่อย่างนั้น ทันใดนั้น ปรากฏอักขระสัตว์ที่พุ่งขึ้นมาเต็มท้องฟ้า และอักขระสัตว์เหล่านี้พลันถักทอเข้าด้วยกัน กลายเป็นแนวป้องกันที่มหึมาขึ้นมาทันที

“ตูม ตูม ตูม…” ด้วยแนวป้องกันลักษณะนี้นี่เอง แดนอสูรปีอานคล้ายดั่งเป็นลูกบอลกลมๆ ขนาดใหญ่โตมโหฬารที่บุกฝ่าเข้าไปยังทะเลสายฟ้า โดยที่ประกายสายฟ้าที่เด็ดขาดและเสียงดังมากได้ฟาดเข้าใส่แนวป้องกันของแดนอสูรปีอานอย่างบ้าคลั่ง

แต่ทว่า แนวป้องกันที่เกิดจากอักขระสัตว์นับว่าน่ากลัวยิ่ง ภายใต้การฟาดเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งของสายฟ้ายังคงทำลายแนวป้องกันไม่ได้ และแดนอสูรปีอานก็สามารถวิ่งผ่านทะเลสายฟ้าไปได้ เข้าสู่เขตผ่อนปรนที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาไปได้

ความจริงแล้ว ขั้นตอนการก้าวพ้นทะเลสายฟ้าใช่จะเป็นเรื่องที่ยากมากอะไรนัก คิดจะขึ้นไปยังแดนที่สิบนั้นมีเรื่องสองเรื่องที่ยากเย็นที่สุด

หนึ่งนั้นคือเส้นทางผ่าน ความแตกต่างของมิติกาลเวลาระหว่างเก้าแดนและแดนที่สิบนั้น ต้องอาศัยชะตาฟ้าจึงสามารถทำลายได้ อีกทั้งชะตาฟ้าสายหนึ่งสามารถสร้างเป็นทางผ่านสำหรับราชันเซียนเท่านั้น สอง คือขณะก้าวข้ามเขตผ่อนปรนนั้นจะต้องพบกับการตามล่า

ในความเป็นจริง ขอเพียงบุคคลนั้นเป็นราชันเซียนล้วนแล้วแต่สามารถก้าวข้ามทะเลสายฟ้าได้ทั้งสิ้น แต่ว่า หลังจากผ่านทะเลสายฟ้าแล้ว เขตผ่อนปรนจึงจะเป็นสถานที่ที่อันตรายมากที่สุด ที่ตรงนี้จะมีบรรดาราชันและเหล่าเทพของแดนสิบทำการลอบสังหารราชันเซียนที่ขึ้นมาจากเก้าแดนทุกคน

ลองคิดดู ถ้าหากต้องประสบกับการตามล่าสังหารของบรรดาราชันและเหล่าเทพ มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใด

ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องรู้สึกอิจฉา เมื่อเห็นเรือรบลำยักษ์และแดนอสูรปีอานต่างบุกเข้าไปยังเขตผ่อนปรนที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตานั่น ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากกลืนน้ำลายเอือก คิดเอาไว้ว่าจะติดตามเข้าไปยังแดนสิบบ้าง ไม่แน่นักอาจโชคดีสามารถบุกขึ้นไปได้เช่นกันเลยนะ

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้มองดูเรือรบลำยักษ์และแดนอสูรปีอานที่ได้บุกเข้าไปยังเขตผ่อนปรนแล้ว สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ทีหนึ่ง เดิมทีตั้งใจจะไม่ยอมหันหลังกลับไป แต่เวลานี้อดที่จะหันกลับไปมองดูปู้เหลียนเซียงทีหนึ่ง

ปู้เหลียนเซียงโบกมือให้เขาด้วยความอ่อนโยนดุจสายน้ำ ให้กำลังใจกับเขาเพิ่มขึ้นไปอีก นางอาศัยสายตาที่แกร่งในการส่งเขาเดินทางในครั้งนี้ นางส่งกำลังใจให้หลี่ชิเย่มีใจฮึกเหิมบุกไปข้างหน้าโดยไม่มีหยุดตลอดกาล

หลี่ชิเย่สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ อีกครั้ง สายตายิ่งมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาพยักหน้าต่อปู้เหลียนเซียงอย่างหนักแน่น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็จะก้าวไปข้างหน้าต่อไปโดยไม่หยุดการก้าวเดินเพื่อใครทั้งสิ้น!

สุดท้าย หลี่ชิเย่มองดูเก้าแดนอีกแวบหนึ่ง เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “ลาก่อน…” ขาดคำ สี่ยอดกายเซียนปะทุขึ้น ร่างกายของเขาเจิดจรัสยิ่งนัก!

“ตูม…” เสียงดังสนั่น หลี่ชิเย่ในเวลานี้ยังคงยืนอยู่ที่ยอดเขาลูกนั้น แต่ว่า เขาทั้งลูกกลับถูกถอนขึ้นมาทั้งลูก ทำให้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกนั้นเสมือนดั่งธนูที่บรรทุกหลี่ชิเย่พุ่งตรงไปยังช่องที่ถูกฉีกขาดนั่น

มันไม่ใช่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกดังกล่าวที่บรรทุกหลี่ชิเย่ไป แต่เป็นหลี่ชิเย่ต่างหากที่บังคับควบคุมภูเขาศักดิ์สิทธิ์เหมือนว่าเป็นพาหนะของหลี่ชิเย่อย่างนั้น

เสียง “ตูม…” ดังขึ้นสนั่น ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกนั้นได้บรรทุกหลี่ชิเย่พุ่งเข้าไปยังช่องที่ถูกฉีกขาดซึ่งได้เลือกเอาไว้แล้วก่อนหน้า สี่ยอดกายเซียนได้ปะทุอานุภาพที่ปราศจากผู้ต่อกรออกมา ฉับพลันก็พุ่งชนทำลายทะเลสายฟ้าที่อยู่ภายในช่องว่างที่ฉีกขาดนั้น ทะลุผ่านเข้าไปยังเขตผ่อนปรนที่กว้างไกลนั้น

ในขั้นตอนนี้ แม้แต่สายฟ้า และฟ้าผ่าที่มีเสียงดังมากก็ไม่สามารถกล้ำกรายตัวของหลี่ชิเย่ได้แม้แต่น้อย กระทั่งเรียกได้ว่าภายใต้กายพิสุทธิ์ แม้แต่สายฟ้า และฟ้าผ่าที่มีเสียงดังมากก็ต้องยอมอ่อนข้อให้

ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกสะเทือนหวั่นไหวเมื่อได้เห็นภาพนี้ แม้แต่ภัยพิบัติยังต้องถอยห่างไปเก้าสิบลี้ ไม่สามารถแตะต้องตัวได้เลย ช่างเป็นกำลังความสามารถที่น่ากลัวเพียงใด ราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลย่อมเป็นราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาล ไม่มีใครสามารถต่อกรกับเขานับแต่อดีตที่ผ่านมา!

“กำลังจะเริ่มแล้ว…” ครั้นเรือรบลำยักษ์บุกเข้าไปยังเขตผ่อนปรน หวงหลงและป้าหู่ที่แยกกันคุมอยู่หัวเรือและท้ายเรือพลันมีสายตาที่แหลมคมขึ้นมา สายตาของพวกเขาเหมือนว่าสามารถทะลุผ่านทั่วทั้งเขตผ่อนปรนอย่างนั้น ไม่มีสิ่งใดสามารถปิดกั้นสายตาของพวกเขาได้

“ไม่ว่าใครมาก็ตาม ต้องให้พวกเขาได้ลิ้มลองความร้ายกาจของพวกเรา แหะ ไม่ได้กลับมาเสียนาน สั่งสอนผู้เยาว์สักหน่อยจะเป็นไร ขอเพียงไม่ใช่จอมราชันที่มีสิบสองชะตาฟ้า แต่เป็นจอมราชันคนอื่นๆ แหะ อย่างไรเสียพวกเราก็ขอสู้สักครั้ง!” ป้าหู่กล่าวด้วยท่าทีที่พาลยิ่งนัก

“ตูม…” บังเกิดเสียงดังสนั่น ทันใดนั้นบนท้องฟ้าพลันมีฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่งสยบลงมา เป็นฝ่ามือยักษ์ที่ปิดกั้นฟ้าดิน อานุภาพราชันเซียนยิ่งใหญ่ สยบสรรพวิชา เป็นอานุภาพที่ไม่ด้อยไปกว่าการลงมือของราชันเซียนองค์ใดๆ ของเก้าแดนเลย

“มาได้เหมาะเจาะพอดี เจ้าผู้เยาว์ แจ้งชื่อแซ่มา เจ้าเป็นจอมราชันจากเผ่าไหน!” ป้าหู่กล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดังและคำรามเสียงยาวออกมา

“ถูกต้อง แจ้งชื่อแซ่มา” หวงหลงก็หัวเราะเสียงดังเช่นกัน ขาดคำ กรงเล็บแหลมคมได้ตะปบสวนขึ้นไป

ยิ่งป้าหู่แล้วไม่เกรงใจเอาเสียเลย หัวเราะเสียงดังพร้อมกับพุ่งตัวขึ้นไปข้างบนเป็นคนแรก กรงเล็บพยัคฆ์เข้าโจมตีต่อฝ่ามือปิดกั้นฟ้าขนาดยักษ์นั่น

ทันใดนั้น บนท้องฟ้าที่เลือนรางไม่ชัดเจนพลันปรากฏประกายสองสายขึ้นมา ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าจอมราชันที่อยู่ข้างบนได้สาดส่องลงมา เขานึกไม่ถึงว่าจะได้พบกับหวงหลงป้าหู่ที่เป็นคู่ต่อสู้น่ากลัวเช่นนี้ และไม่นึกเลยว่าในเก้าแดนจะมีผู้ดำรงอยู่ในสถานะเช่นนี้อยู่

“ตูม…” ทันทีที่ป้าหู่และหวงหลงลงมือ ทำให้เกิดเสียงดังสนั่น พลังจากชะตาฟ้าได้อาละวาดไปทั่ว พลันสยบจนผู้คนแทบหายใจไม่ออก เมื่อต้องเผชิญกับผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะเฉกเช่นหวงหลงป้าหู่แล้ว จอมราชันที่อยู่เบื้องบนไม่อาจไม่งัดเอาพลังชะตาฟ้ามาใช้ทันทีที่มีการลงมือ

กล่าวสำหรับ จอมราชันที่สืบทอดชะตาฟ้านั้น ต่อให้อยู่ในระดับต้านรับราชันเซียนได้ ก็ไม่เห็นพวกเขาจะต้องอาศัยพลังจากชะตาฟ้า แต่ เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีพร้อมกันของหวงหลงและป้าหู่แล้ว จอมราชันไม่อาจไม่อาศัยพลังจากชะตาฟ้า มิฉะนั้นแล้ว เขาจะถูกหวงหลงและป้าหู่สังหารเอาได้

“เจ้ามีชะตาฟ้ากี่สายหละ? สี่หรือห้าสาย?” ป้าหู่และหวงหลงไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญกับพลังจากชะตาฟ้า ยิ่งป้าหู่ด้วยแล้ว เขาหัวเราะเสียงดังและเขี้ยวของเขาไถฟ้าดินจนราบเรียบ และฝากร่องรอยที่ลึกมากไว้บนช่องว่างปักเขี้ยวลงไปโดยพลัน

“โดยปรกติแล้ว จอมราชันที่มีชะตาฟ้าตั้งแต่หกสายขึ้นไปในครอบครองจะไม่ออกมาโดยง่ายดาย เพื่อป้องกันการลงทัณฑ์จากสวรรค์โจร เวลานี้ต่อให้เจ้ามีหกชะตาฟ้าในครอบครองหากมาลำพังคนเดียวล่ะก็ เกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเรา” ขณะที่หวงหลงดูจะอ่อนโยนกว่า ยิ้มกล่าวพร้อมกับหนึ่งฝ่ามือตบออกไป

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *