Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1500

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1500 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1500 เหตุการณ์ล้วนเกิดขึ้นท่ามกลางความเอ้อระเหย

ในเวลานี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างเปิดเนตรฟ้าขึ้นมา เพื่อตามหาร่องรอยของหลี่ชิเย่ แต่ทว่า ภายใต้เนตรฟ้าทุกคนยังคงมองไม่เห็นตัวหลี่ชิเย่ เหมือนว่าหลี่ชิเย่ได้อันตธารหายไปในลักษณะเช่นนี้เอง

“เจ้ารู้หรือไม่ว่า ที่สุดความลี้ลับมหัศจรรย์ของสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งคืออะไรหรือไม่? ประโยชน์อันแท้จริงของมันคืออะไร?” ในเวลานี้เอง เสียงเอ้อระเหยของหลี่ชิเย่ดังขึ้นมา

ทันใดนั้น ร่างเงาที่ร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยพลันหันควับกลับมา และจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่

“อยู่ตรงนั้น! ” มีผู้ที่มองไปตามเสียงแล้วถึงกับชี้นิ้วไปและร้องเสียงแหลมออกมา

ทุกคนล้วนแล้วแต่จ้องมองไปยังทิศทางดังกล่าว เวลานี้ มองเห็นหลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม่เก่าแก่โบราณต้นนั้น เขาได้ยืนอยู่ท่ามกลางสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งเรียบร้อยแล้ว เขายืนใต้ต้นไม่เก่าแก่โบราณโดยหันหลังให้กับทุกคน สายตาของเขาตกไปอยู่ที่ต้นสังสารวัฏเก้าใบที่ขึ้นอยู่บยรากแก่ของต้นไม่เก่าแก่โบราณนั่น

ร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยพลันมีคู่ดวงตาที่เจิดจ้าขึ้นมาทันที ประกายตาของมันเหมือนว่าต้องการก้าวข้ามตั้งแต่โบราณกาลถึงปัจจุบัน และสังหารหลี่ชิเย่ที่อยู่ท่ามกลางสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งนั้นเสีย

เสียดาย หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่ง ลำพังอาศัยแค่ประกายตาร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนั้นไม่สามารถสังหารหลี่ชิเย่ได้

“นี่ นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร…” อ๋องเทพเฒ่าผู้นั้นที่มองดูหลี่ชิเย่ซึ่งยืนอยู่ใต้ต้นไม่เก่าแก่โบราณนั้นแล้วรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ รู้สึกเสียวสันหลังวาบบ กล่าวว่า “ลักษณะของสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งเช่นนี้ ลือกันว่าแม้แต่ราชันเซียนก็ไม่แน่ว่าจะตีฝ่าเข้าไปได้ เขา เขา เขาเข้าไปได้อย่างไรกัน? ”

ทุกคนต่างจ้องมองไปยังหลี่ชิเย่ที่อยู่ท่ามกลางสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่ง ไม่มีใครรู้ว่าหลี่ชิเย่นั้นเข้าไปได้อย่างไร สมควรรู้ว่า แม้แต่พวกขององค์ชายแห่งความชั่วร้ายก็ไม่สามารถเข้าไปได้ พวกเขาต่างจนปัญญา มิฉะนั้นล่ะก็ พวกเขาคงขุดเอาสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะที่อยู่ในตำนานไปนานแล้ว

แน่นอนที่สุด ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยถึงกับหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นหลี่ชิเย่บังคงปลอดภัย ในความรู้สึกของพวกเขาแล้ว ย่อมไม่ต้องการให้หลี่ชิเย่ต้องตาย พวกเขาคาดหวังให้หลี่ชิเย่ได้สร้างความมหัศจรรย์เพิ่มขึ้นอีก

“นี่ก็คืออีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์! ” มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่พูดทอดถอนใจออกมา เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่สามารถเขาไปอยู่ท่ามกลางสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งอย่างเงียบเชียบโดยหลุดรอดไปจากสายตาของทุกคนได้

แม้แต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเผ่าวิญญาณเทพยังอดที่จะพูดขึ้นมาว่า “เขาสามารถฝึกแม้กระทั่งสิบสามลัคนาได้ ยังจะมีสิ่งมหัศจรรย์ใดที่เขาทำไม่ได้อีก”

“ตูม…” เวลานี้ ร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนั้นก้าวเข้าไปหาสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่ง มันคิดจะบุกเข้าไปภายในสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งเช่นกัน เมื่อมันก้าวขาเข้าไป ประดุจดั่งเป็นโลกๆ หนึ่งที่ทุบลงไปอย่างนั้น ด้วยพลังน้ำหนักที่หนักอึ้งยิ่งนักเหมือนต้องการทุบจนเสินจื่อโจวต้องจมลงอย่างนั้น

ปรากฏเสียงดัง “ปัง…” อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม หลังจากที่มันก้าวเท้าเหยียบลงไปนั้น ปรากฎว่าสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งนั้นได้สะท้อนพลังกลับจนร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยถูดดีดจน “ตึง ตึง ตึง” ก้าวถอยหลังไปหลายก้าวติดต่อกัน ไม่สามารถก้าวเข้าไปยังสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งนั้นได้

ทุกคนต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อได้เห็นภาพนี้ ความแข็งแกร่งของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนั้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของคนทุกคนจนยากที่จะจินตนาการได้ แต่ว่า นาทีนี้ มันกลับถูกดีดกลับออกมาจนต้องก้าวถอยหลังไปหลายก้าวติดต่อกัน ย่อมจินตนาการได้ว่าพลังสะท้อนกลับของสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งนั้นทรงพลังเช่นใดแล้ว

“ตูม…” ทันใดนั้น ร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยได้ลงมือแล้ว มันได้ควงแขนทั้งสองข้างทุบลงไปอย่างสุดแรงเกิด พลังที่เกิดจากการทุบด้วยแขนสองข้างอย่างแรงนั้น เหมือนได้รวบรวมเอาน้ำหนักของทางช้างเผือกจำนวนนับสิบล้านสายเอาไว้อย่างนั้น ซึ่งการทุบด้วยท่อนแขนทั้งสองข้างในลักษณะเช่นนี้ เพียงพอที่จะทำให้พื้นดินทั้งหมดถูกทุบจนแหลกลาญไป

“ตูม…” เสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหว กระทั่งพื้นดินยังสั่นไหวโคลงเคลงไปมาจากการทุบลงมานครั้งนี้ ระดับความรุนแรงอันเกิดจากการสั่นไหวโคลงเคลงไปมาของพื้นดิน ทำให้ผู้คนถึงกับสงสัยว่าพื้นดินถูกทุบจนจมไปแล้วใช่หรือไม่

แน่นอน พื้นดินไม่ได้ถูกทุบจนจมลงยังคงดีอยู่เหมือนเดิม ขณะที่ร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนั้นกลับถูกพลังที่สะท้อนกลับจนลอยไปไกลมากจึงสามารถยืนได้อย่างมั่นคง

“สิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งทรงพลังยิ่งเหลือเกิน” ผู้คนที่มองเห็นร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยซึ่งอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ยังถูกดีดจนลอยออกไป แม้แต่ตัวมันก็ยังไม่สามารถรองรับกับพลังเช่นนี้ได้ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งนั้นมีพลังที่น่ากลัวเพียงใดแล้ว

“มันจะไม่ทรงพลังได้รึ? ” อ๋องเทพเฒ่าถึงกับพึมพำขึ้นมาว่า “นี่มันคือสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะในตำนานที่ใครๆ ต่างกล่าวขวัญถึง ถ้าหากสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งซึ่งทำหน้าที่เฝ้าคุ้มครองมันไม่ทรงพลังพอล่ะก็ เกรงว่าสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะที่อยู่ด้านในนั้นคงถูกคนเขาเอาไปนานแล้ว ยังรอจนถึงคนรุ่นนี้อีกรึ? ”

“แล้วหลี่ชิเย่เขาเข้าไปได้อย่างไรกัน? ” มีคนอดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

สำหรับปัญหาข้อนี้ อ๋องเทพเฒ่าก็ไม้สามารถตอบได้ ความจริงแล้วไม่ว่าใครก็ไม่สามารถตอบปัญหาข้อนี้ได้

“ตูม ตูม ตูม…” เวลานี้ ร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยได้ระดมกำลังเข้าโจมตีอย่างหนักหน่วง เวลานี้การโจมตีของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยดุจดั่งพายุฝนฟ้าคะนองที่โหมกระหน่ำเข้าไปอย่างรุนแรง

ความแข็งแกร่งของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนั้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน ยามที่มันบุกโจมตีดั่งพายุฝนฟ้าคะนองที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง และความเกรี้ยวกราดของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยที่ดั่งมังกรที่โกรธแค้นจนคลั่งนั้น ทำให้ทุกคนถึงกับตัวสั่นงันงกขึ้นมา ภายใต้การโจมตีสังหารด้วยอานุภาพที่น่ากลัวเช่นนี้ เหมือนวันสิ้นโลกได้มาถึงแล้วอย่างนั้น

ภายใต้การโจมตีของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยแต่ละครั้ง ได้ทำการทั่วทั้งฟ้าดินสั่นไหวโตลงเคลงไปมาไม่หยุด ภายใต้พลังที่สุดรุนแรงเช่นนี้ แม้แต่เสินจื่อโจวที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร เวลานี้ยังคงมีสภาพคล้ายดั่งเป็นเรือลำน้อยที่อยู่ท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนองที่กระหน่ำอย่างรุนแรง ภายใต้พลังที่รุนแรงเช่นนี้ ทำให้เรือลำน้อยลำนี้เหมือนว่าพร้อมจะพลิกคว่ำได้ทุกเวลาอย่างนั้น

ขณะที่บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คล้ายดั่งเป็นมดปลวกหรือฝุ่นผงที่อยู่ท่ามกลางเรือลำน้อยอย่างนั้น ถ้าหากเรือลำน้อยลำนี้เกิดพลิกคว่ำเมื่อไร พวกเขาต้องตายอย่างไร้ที่ฝังอย่างแน่นอน

ดังนั้น จึงมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ฟุบอยู่กับพื้น ภายใต้พลังที่รุนแรงเช่นนี้ พวกเขาถูกสยบจนร่างสั่นเทาไปทั้งตัว ไมรู้ว่ามีผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่ตกใจจนปัสสาวะอุจจาระราดกันไป

มีเพียงหลี่ชิเย่ที่อยู่ท่ากลางสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งยังคงมีท่าทีที่เฉยเมย ลักษณะที่อิสระเสรีสบายๆ และหันหลังให้กับสรรพชีวิต มองดูด้วยความชื่นชมอยู่กับต้นสังสารวัฏเก้าใบที่ขึ้นอยู่บนรากแก่นั่น เหมือนว่าในสายตาของเขามองว่าต้นสังสารวัฏเก้าใบคือสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลกอย่างนั้น

ในเวลานี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ หลี่ชิเย่ ไม่เคยได้หันไปมองดูร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ภายใต้การบุกร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยเข้าโจมตีของในแต่ละรอบ แต่ยังคงไม่สามารถบุกฝ่าสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งนั้นไปได้ กระทั่งไม่สามารถสั่นคลอนต่อสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งได้เลย ท้ายที่สุด มันได้แต่ละทิ้งและยืนดูหลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งนั้นด้วยท่าทีน่าเกรงขาม

นาทีนี้ ทุกคนถึงกับกลั้นหายใจมองดูภาพที่อยู่ตรงหน้า ทุกคนต่างลงความเห็นว่าร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยกำลังรอคอยจังหวะอยู่ เมื่อไรที่หลี่ชิเย่ก้าวออกมาจากสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่ง เกรงว่ามันคงจะตรงเข้าสังหารหลี่ชิเย่ในทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้หลี่ชิเย่แม้แต่น้อย

ในเวลานี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต่างกำลังคาดเดากันอยู่ และต้องการรู้ว่าหลี่ชิเย่จะมีวิธีการใดไปรับมือกับวิกฤติที่อยู่ตรงหน้าอย่างไร

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ หลี่ชิเย่ได้หันหลังกลับมา มองดูร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนั้นทีหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉยว่า “การละทิ้งคือการกระทำที่ชาญฉลาด อย่าว่าแต่สุดยอดค่ายกลเช่นนี้เลย ต่อให้ราชันเซียนมาด้วยตนเองและลงมือเพื่อหักหาญเข้าไป หากไม่แลกด้วยค่าตอบแทนก็บุกเขาไปไม่ได้เช่นกัน”

ความจริงแล้ว สิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งในลักษณะเช่นนี้หากจะอาศัยกำลังหักเข้าไปเป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งนัก เนื่องจากสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งนี้มีความสัมพันธ์แน่นเฟ้นอยู่กับเสินจื่อโจวและเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เป็นอันมาก ถ้าหากคิดจะใช้วิธีบุกโจมตีเพื่อหักหาญเข้าไป เท่ากับเป็นการสั่นคลอนต่อเสินจื่อโจวทั้งหมด และก็คือการสั่นคลอนต่อเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งกล่าวได้ว่าต้องการถอนรากถอนโคนเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา

เรื่องเช่นนี้ ต่อให้เป็นราชันเซียนหากไม่แลกด้วยค่าตอบแทนก็ยากที่จะทำได้โดยง่ายดาย

ความจริงแล้ว หลี่ชิเย่มีแนวความคิดต่อต้นสังสารวัฏเก้าใบมาเนิ่นนานมากๆ แล้ว ดังนั้น เขาจึงได้มีการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเสินจื่อโจว เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งที่อยู่ตรงหน้ามาแล้วหลายยุคหลายสมัย กระทั่งเคยพาราชันเซียนอื่นๆ มาทำการศึกษาค้นคว้า ณ ที่ตรงนี้มาก่อน

ต่อมาภายหลัง ภายใต้การคิดทบทวนมาหลายตลบในแต่ละยุคสมัย สุดท้าย จึงทำให้เขาขบคิดถึงความลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายในได้ และมันก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลี่ชิเย่สามารถเข้าไปภายในสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งได้อย่างเงียบเชียบ

เวลานี้ สายตาของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยยังคงครอบคลุมอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่อยู่ นาทีนี้เหมือนว่าสายตาของเขาได้ล็อกเป้าหลี่ชิเย่เอาไว้ ภายใต้การล็อกเป้าจากสายตาของเขา ดูเหมือนหลี่ชิเย่ไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้อีก และเป็นไปไม่ได้ที่หลี่ชิเย่จะหนีไปจากเงื้อมมือของมันได้อีกต่อไป

หลี่ชิเย่ไม่ได้ใส่ใจต่อการที่ร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยได้ล็อกเป้าตนเอาไว้ แสดงท่าทียิ้มๆ แล้วหันไปจ้องมองดูต้นสังสารวัฏเก้าใบต่อไป ยิ้มกล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “สำหรับต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะที่พวกเจ้าพูดถึงต้นนี้ เคยมีราชันเซียนมาดูแล้ว และเคยมีเทพเจ้าแห่งทะเลมาพินิจพิเคราะห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรมาจารย์พฤกษาก็เคยมาศึกษาค้นคว้า แต่ ท้ายที่สุดพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้นำเอาต้นที่เรียกว่าเป็นต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะนี้ไปด้วย พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่ามันเป็นเพราะอะไร? ”

คำพูดลักษณะเช่นนี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ต้องการรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร เมื่อหลี่ชิเย่พูดขึ้นมาเช่นนี้

แม้จะกล่าวว่า ถึงจะเป็นราชันเซียนก็ไม่แน่ว่าจะหักหาญบุกฝ่าเข้าไปได้ แต่ทว่า ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากก็เข้าใจได้ว่า ขอเพียงราชันเซียนยินดีจ่ายค่าตอบแทนก็ยังคงสามารถบุกเข้าไปได้ เพียงแต่ค่าตอบแทนที่ว่านั้นจะคุ้มค่าหรือไม่เท่านั้นเอง

ขณะที่ร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยเพียงจ้องมองหลี่ชิเย่อย่างน่าเกรงขาม โดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ หรือบางทีมันอาจเป็นเพียงสิ่งที่เกิดจากการวิวัฒนาการขึ้นมาจากสุดยอดค่ายกลเท่านั้นเอง ไม่แน่ว่ามันจะพูดได้

“นอกจากเหตุผลที่สิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งนี้ยากแก่การโจมตีแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งนั่นก็คือ ต้นที่พวกเจ้าเรียกว่าเป็นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะต้นนี้ยังไม่ได้ที่ การที่คิดจะนำเอาต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะที่ยังคงไม่ได้ที่ของมันไปใช่จะเป็นเรื่องง่ายดาย ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ ต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะลักษณะเช่นนี้หากนำเอาไปด้วยวิธีหักหาญล่ะก็ มันจะต้องเหี่ยวเฉาตายอย่างแน่นอน และกลายเป็นต้นหญ้าแห้งๆ ต้นหนึ่งที่ไร้ประโยชน์แม้แต่น้อยต้นหนึ่งเท่านั้น” หลี่ชิเย่พูดขึ้นมาด้วยท่าทีเอ้อระเหย

“แต่ว่า…” ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ได้หันหลังกลับมา มองดูร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรย เผยให้เห็นถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และกล่าวว่า “เวลานี้มันใกล้จะสุกได้ที่แล้ว ขาดอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น เมื่อไรที่มันได้ที่แล้ว รากของมันก็จะหลุดออกมา คล้ายดั่งผลไม้เมื่อสุกขั้วย่อมจะพหลุดออกมาเองอย่างนั้น”

กระทั่งยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน จำนวนมากที่หมอบอยู่กับพื้นในเวลานี้ ยังต้องใจเต้นตูมตามเมื่อได้ยินคำว่า “สมุนไพรเซียนอายุวัฒนะกำลังจะได้ที่แล้ว

ถ้าหากบอกว่ามีใครที่ไม่หวั่นไหวกับเรื่องนี้ล่ะก็ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น นี่มันคือสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะเลยนะ ไม่ว่าใครก็กระหายอยากได้มีสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะไว้สักต้นหนึ่ง โดยเฉพาะพวกยอดฝีมือรุ่นอาวุโสที่อายุขัยใกล้จะหมดและต้องตายอยู่แล้ว ยิ่งกระหายอยากได้มันมาครอบครอง

“ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรจึงจะได้ที่ล่ะ? ” เวลานี้ กระทั่งมีคนอดไม่ได้ที่จะร้องถามหลี่ชิเย่ด้วยเสียงอันดังออกมา

“ยังขาดอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มอย่างมีเลศนัย ยิ้มกล่าวว่า “แต่ว่า ข้าสามารถช่วยเหลือมันเล็กน้อยอีกแรง เพื่อให้มันได้ที่เร็วมากขึ้น ให้มันได้ที่นาทีถัดไปนี้แหละ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *