Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1736 หนึ่งลัคนา หนึ่งชะตาฟ้า

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1736 หนึ่งลัคนา หนึ่งชะตาฟ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1736 หนึ่งลัคนา หนึ่งชะตาฟ้า
เวลานี้ การที่สิบสองจอมราชันเกิดความกังวลใช่ว่าพวกเขาหวาดกลัว พวกเขาก้าวมาถึงระดับเช่นนี้จึงมีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่มั่นคงมาก คิดจะให้พวกเขาหวาดกลัวเป็นเรื่องที่ยากมาก

ที่พวกเขากังวลก็คือ ภายใต้การสยบของพวกเขา การจะหนีไปจากช่องว่างไม่สามารถทำได้ อย่างน้อยที่สุดโดยหลักการทั่วไปแล้วเป็นเช่นนี้ แต่ว่าก่อนหน้านี้หลี่ชิเย่สามารถหลบหนีไปได้ชัดๆ อีกทั้งการอำพรางและหลบหนีของหลี่ชิเย่นั้น แม้แต่เนตรฟ้าของพวกเขาสิบเอ็ดจอมราชันก็ไม่สามารถค้นพบได้

นี่แหละคือความน่ากลัวของเคล็ดวิชา “ช่องว่างกำบัง” เมื่อหลี่ชิเย่ที่อยู่ในฐานะราชันเซียนแล้วสำแดงเคล็ดวิชาดังกล่าวออกมา บรรดาจอมราชันที่ถือเป็นระดับราชันเซียนเช่นกันคิดจะค้นหาหลี่ชิเย่ให้พบมันไม่ง่ายดายนัก

การที่หลี่ชิเย่สามารถรอดไปจากสายตาของสิบเอ็ดจอมราชันได้นับเป็นเรื่องที่น่ากลัวยิ่งนัก เป็นการบ่งบอกว่าหลี่ชิเย่มีโอกาสหลบหนีไปจากพวกเขาขึ้นไปยังแดนที่สิบได้แน่นอน

แต่ว่า หลี่ชิเย่ในเวลานี้กลับไม่มีทีท่าจะหลบหนีไปแม้แต่น้อย เขายังคงต้องการต่อสู้กับพวกเขาจนถึงที่สุด ยิ่งเป็นการบ่งชี้ว่าหลี่ชิเย่นั้นมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม มั่นใจว่าตัวเองมีกำลังความสามารถในการท้าสู้กับราชันซื่อตี้กับอีกสิบสองจอมราชันได้ นี่แหละคือสิ่งที่พวกเขาเป็นกังวล

เวลานี้ ราชันซื่อตี้ก็ได้จ้องมองหลี่ชิเย่อย่างเย็นชา เขาเป็นศัตรูกับอีกาทมิฬมายุคแล้วยุคเล่า เขาจึงมีความเข้าใจในตัวอีกาทมิฬกว่าใคร เขารู้ดีมากว่า ผู้ดำรงอยู่ในฐานะอีกาทมิฬโดยปรกติแล้วจะไม่ทำสงครามที่เขาไม่มั่นใจ

เวลานี้อีกาทมิฬภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีราชันเซียนมาให้การช่วยเหลือ เขาสามารถที่จะหลบหนีไปได้แต่กลับไม่หนี นี่แหละคือเรื่องที่น่ากลัวที่สุด และเป็นเรื่องที่สมควรกังวลมากที่สุด!

บางทีอาจเป็นไปตามที่หลี่ชิเย่ได้พูดเอาไว้ก่อนหน้า เขาไม่ได้ต้องการให้ราชันเซียนมาช่วยเหลือเขา และหรือบางทีถึงพวกเขาจะไม่ซ่อนเร้นอำพรางพิกัดตำแหน่งก็จะไม่มีราชันเซียนรุดมาช่วยเหลือ เพราะว่าหลี่ชิเย่มีความมั่นใจว่าสามารถต่อสู้เอาชนะพวกเขาทั้งหมดเพียงลำพังคนเดียว!

“ข้ากลับต้องการเปิดหูเปิดตาชะตาฟ้าของเจ้า” ราชันซื่อตี้จ้องเขม็งน่าเกรงขามไปที่หลี่ชิเย่ เขาเป็นกองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดคอยสนับสนุนให้กับสิบสองจอมราชัน เขาจะไม่บุกขึ้นมาลงมือเป็นคนแรก

“ตาเฒ่าเฉี่ยน ดูท่าคราวนี้เจ้าเองก็ไม่มั่นใจนะเนี่ย” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “หมากกระดานนี้ เจ้าว่าใครจะชนะหละ เวลานี้เจ้ายังมีความมั่นใจอยู่กี่ส่วนว่าตัวเองคือผู้เดินหมากหละ!”

ท่าทีของราชันซื่อตี้เย็นชา แววตาที่น่ากลัวจับจ้องอยู่ที่หลี่ชิเย่ไม่ลดละ เขาต้องการเห็นชะตาฟ้าของหลี่ชิเย่ ตั้งแต่ต้นจนจบชะตาฟ้าของหลี่ชิเย่ก็ไม่เคยปรากฏออกมา เรื่องนี่แหละคือเรื่องหนึ่งที่เขารู้สึกกังวลมากที่สุดสิ่งหนึ่ง

ราชันซื่อตี้มั่นใจได้แล้วว่า หลี่ชิเย่มีฐานะเป็นราชันเซียนแน่นอน เขาต้องได้สืบทอดชะตาฟ้าแล้วแน่นอน แต่ว่า กระทั่งเวลานี้ชะตาฟ้าของหลี่ชิเย่ก็ยังไม่ได้ปรากฏออกมา เขาเพียงอาศัยสี่ยอดกายเซียนมาตีเสมอพวกเขา ซึ่งทำให้ราชันซื่อตี้อดที่จะกังวลขึ้นมาไม่ได้

สิ่งที่สามารถทำให้ราชันซื่อตี้ซึ่งจัดอยู่ในประเภทจอมราชันที่ยืนอยู่เหนือสุดยอดด้วยชะตาฟ้าสิบสองสายต้องกังวลใจคงมีอยู่ไม่มาก อีกาทมิฬที่อยู่ตรงหน้าก็คือหนึ่งในจำนวนนั้น!

“ยังจะสู้กันต่อหรือไม่?” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้ มองดูราชันซื่อตี้กับจอมราชันทั้งสิบสอง

“สู้สิ ทำไมจะไม่สู้ จอมราชันไม่เคยเกรงกลัวการต่อสู้และวิ่งหนีอยู่แล้ว” ราชันสวรรค์ต้าวหลงเอ่ยขึ้นมาช้าๆ เขายังคงแฝงรอยยิ้มบนใบหน้า

“แม้ว่าเขาจะถูกหมัดเดียวของหลี่ชิเย่ซัดจนกลายเป็นหมอกเลือดไป แต่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขายังคงไม่หวั่นไหว ไม่มองว่าตัวเองนั้นไร้ค่า แน่นอนก็จะไม่หลงตัวเองอย่างไม่มีเหตุผล เขาทำการประเมินคู่ต่อสู้ในทันที กำหนดแผนการเผชิญกับศัตรูขึ้นมาใหม่

ความจริงแล้วการที่ก้าวมาถึงรนะดับราชันเซียนแล้วนั้น พวกเขาจะไม่บังเกิดความหวาดกลัวขึ้นภายในใจแล้วหลบหนี อย่างดีก็จะใช้ยุทธวิธีการสู้รบแบบยอกย้อน

ศึกสงครามระหว่างผู้บำเพ็ญตนด้วยกัน มีผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยเมื่อพอกับศัตรูที่แข็งแกร่งแล้ว มักจะวิ่งหนีอยู่เสมอๆ ด้วยความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นภายในใจ ไม่ใช่การหนีแบบยุทธวิธี ขณะที่ราชันเซียนจะต่างกัน พวกเขาจะไม่บังเกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจ และจะหนีตามยุทธวิธีเท่านั้น!

“เจ้าอีกา เจ้ามีวิธีการอะไรก็ให้งัดออกมาให้หมด มีท่าไม้ตายอะไรพวกเรารับได้ทั้งหมด” ราชันซื่อตี้จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ กล่าวขึ้นมาช้าๆ ด้วยความหนักแน่นจริงจัง และรอบคอบยิ่งนัก

การที่หลี่ชิเย่ไม่ยอมเผยชะตาฟ้าออกมา สร้างความกังวลใจให้กับราชันซื่อตี้เป็นอันมาก เมื่อชะตาฟ้าของหลี่ชิเย่ไม่ปรากฏ เขาก็จะไม่สามารถคำนวณได้ว่าหลี่ชิเย่มีไพ่ตายอะไรอยู่ในมือ จะอย่างไรเสียระดับเช่นเขาก่อนที่จะลงมือมักสามารถคำนวณกำลังความสามารถของศัตรู ธาตุแท้ภายในของศัตรู ยุทธวิธีการต่อสู้ของศัตรูได้เสมอๆ

แต่ว่า คู่ต่อสู้ทีอยู่ในระดับจอมราชัน เหมือนกัน ระดับราชันเซียนเหมือนกันกลับไม่ยอมเผยชะตาฟ้าออกมา ถือเป็นเรื่องที่สร้างความหวาดกลัวได้มากที่สุด

ชะตาฟ้าคือสิ่งที่บรรดาราชันเซียน จอมราชันพี่งพาอาศัยที่ทรงพลังที่สุด เมื่อชะตาฟ้าปรากฎก็สามารถคำนวณกำลังความสามารถของจอมราชันหรือราชันเซียนได้ เวลานี้ หลี่ชิเย่กลับทำชักช้าไม่ยอมสำแดงชะตาฟ้าออกมาเสียที ไม่ต้องอาศัยพลังจากชะตาฟ้าก็กล้ารับมือกับพวกเขา แล้วถ้าหากชะตาฟ้าของเขาปรากฏหละ?

“ตาเฒ่าเฉี่ยนน่ะ ตาเฒ่าเฉี่ยน เจ้าไม่ทำศึกที่ไม่มีทางชนะมาโดยตลอด มาคราวนี้ในใจของเจ้าดูจะไม่มั่นใจนะเนี่ย” หลี่ชิเยิ้มกล่าวว่า “เอาเถอะ เจ้ากับข้าก็เป็นพ่อตาลูกเขยมานานขนาดนี้แล้ว หากข้าไม่นำเอาของขวัญชิ้นใหญ่มาให้ท่านพ่อตาได้เห็น ย่อมเท่ากับเป็นการแสดงถึงความไม่เอาไหนของลูกเขยคนนี้แล้ว…”

“…เอาเถอะ ของขวัญยามพบหน้ากันที่ลูกเขยอย่างข้าได้เตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเจ้าเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วยัง คิดจะมอบของขวัญใหญ่ตอบให้กับลูกเขยคนนี้อย่างข้าหละ!” หลี่ชิเย่จงใจหยอกล้อราชันซื่อตี้

ราชันซื่อตี้เพียงแสดงสีหน้าที่เย็นชากับการหยอกล้อของหลี่ชิเย่ เขาชาชินกับสิ่งนี้เสียแล้ว ใช่ว่าหลี่ชิเย่เพิ่งจะหยอกล้อเขาเป็นครั้งแรก พวกเขาเป็นศัตรูกันมาเนิ่นนานขนาดนี้ มีเรื่องอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

“แว้งค์…แว้งค์…แว้งค์…” ในขณะนี้เอง ลัคนาของหลี่ชิเย่ทยอยกันปรากฎออกมา เพียงชั่วพริบตาเดียว ปรากฏสิบสามลัคนาลอยอยู่เหนือศีรษะของหลี่ชิเย่

“สิบสามลัคนา…” แม้แต่ราชันสวรรค์ต้าวหลงยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ผู้ที่รู้สึกเช่นนี้ใช่จะมีเพียงราชันสวรรค์ต้าวหลงเท่านั้น จอมราชันคนอื่นๆ อีกสิบเอ็ดคนก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นเช่นกัน แม้แต่ราชันซื่อตี้ยังมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป

แม้ว่าพวกเขาที่ก้าวมาถึงระดับนี้แล้ว ไม่มีเรื่องใดสามารถสั่นคลอนจิตแห่งความบำเพ็ญเพียรของเขาได้แล้ว ไม่มีสิ่งใดสามารถทำให้พวกเขาต้องหวาดกลัวอีกแล้ว แต่ทว่า ในโลกนี้ไม่เคยปรากฏสิบสามลัคนามาก่อน ต่อให้ในแดนสิบของพวกเขาก็ไม่เคยมีสิบสามลัคนา

“สิบสามลัคนา ผลงานของใต้เท้าอีกาทมิฬได้แซงล้ำหน้าพวกเราไปไกลแล้ว ท่านเป็นผู้บุกเบิกขึ้นคนแรก” ราชันสวรรค์ต้าวหลงถึงกับทอดถอนใจออกมา และกล่าวด้วยท่าที่ที่เคารพนับถือยิ่ง

ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูหรือไม่ เมื่อพวกเขาก้าวมาถึงระดับความสูงเช่นนี้แล้ว มักจะให้ความเคารพต่อศัตรู ต่อให้ต้องการทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงตายก็ตามที! เวลานี้ หลี่ชิเย่ริเริ่มสิบสามลัคนาขึ้นมา จึงคู่ควรให้พวกเขาต้องเคารพนับถือ

ไม่เพียงราชันสวรรค์ต้าวหลงเท่านั้นที่มองหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเคารพเลื่อมใส จอมราชันคนอื่นๆ ก็เคารพเลื่อมใสเช่นกัน

“สิบสามลัคนานับเป็นปาฏิหาริย์ตลอดกาล ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน” จอมราชันอีกผู้หนึ่งก็พูดขึ้นด้วยความเคารพเลื่อมใส ท่าทีหนักแน่นจริงจังมาก

หนึ่งลัคนาก็คือหนึ่งชะตาฟ้า อย่างน้อยที่สุดแนวความคิดของจอมราชันและเซียนหวางของแดนสิบเป็นเช่นนี้ แม้ว่าหลี่ชิเย่คือราชันเซียนที่ขึ้นมาจากเก้าแดน แต่ว่าเขาได้ทำลายเครื่องพันธนาการอดีตกาล ใครจะไปรู้ได้ว่าอนาคตจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้อีก ไม่แน่นัก ตัวเขาที่มีชะตาฟ้าเก้าแดนในครอบครอง ยังมีความเป็นไปได้ที่จะได้สืบทอดชะตาฟ้าสิบสามสายในแดนสิบได้นะ

จอมราชันและเซียนหวางที่มีสิบสามชะตาฟ้าไม่เคยปรากฏในแดนสิบมาก่อน ถ้าหากมีชะตาฟ้าจากเก้าแดน แล้วมาสืบทอดชะตาฟ้าอีกสิบสามสายของแดนสิบอีกล่ะก็ เท่ากับหนึ่งเดียวตลอดกาลโดยแท้จริงแล้วหละ อดีตไม่ปรากฏ อนาคตไม่มีผู้ตาม

“สิบสามลัคนา ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นไปได้!” ราชันซื่อตี้เองไม่อาจไม่ยอมรับ การทำลายเครื่องพันธนาการตลอดกาลในครั้งนี้ พลันทำให้หลี่ชิเย่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ไม่มีขีดจำกัด

หลี่ชิเย่กล่าวหยอกล้อขึ้นว่า “ตาเฒ่าเฉี่ยน เจ้าเห็นว่าลูกเขยอย่างข้าเป็นอย่างไรบ้าง? ของขวัญชิ้นใหญ่นี้เจ้าคงพอใจกระมัง”

ราชันซื่อตี้ไม่ได้ใส่ใจต่อคำพูดหยอกล้อของหลี่ชิเย่ จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “การริเริ่มสิบสามลัคนาเป็นคนแรก ผลงานความสำเร็จของเจ้าอย่างน้อยที่สุดก็เทียบเคียงราชันเทพชิงมู่แล้ว”

ต่อให้ราชันซื่อตี้ต้องการทำทุกวิถีทางให้หลี่ชิเย่ต้องตาย เป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่มายุคแล้วยุคเล่า แต่ว่าเขายังคงให้ความเคารพเลื่อมใสศัตรูเช่นหลี่ชิเย่!

หลี่ชิเย่ที่มีสิบสามลัคนา ในฐานะที่เป็นราชันเซียน ไม่ว่าจะมีกำลังความสามารถแข็งแกร่งหรืออ่อนด้อยก็ตาม อาศัยผลงานเพียงชิ้นนี้ก็ไม่ด้อยไปกว่าจอมราชันหรือเซียนหวางที่มีสิบสองชะตาฟ้าคนใดๆ แล้ว!

ราชันซื่อตี้ในฐานะเป็นจอมราชันที่มีสิบสองชะตาฟ้าในครอบครอง สามารถให้คำวิจารณ์เช่นนี้ออกมา ต้องนับว่ายอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้าแล้ว

“ราชันเทพชิงมู่น่ะ” เมื่อเอ่ยถึงจอมราชันที่ลึกลับที่สุดของแดนสิบ หลี่ชิเย่เองก็อดที่จะกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “การขึ้นแดนสิบในชาตินี้ ถ้าหากจะกล่าวถึงสุดยอดความปรารถนาของข้าก็คือสู้รบจนถึงที่สุด ส่วนความปรารถนาอื่นๆ น่ะรึ หนึ่งในนั้นก็คือประลองกับราชันเทพชิงมู่!”

แม้แต่ราชันซื่อตี้ และจอมราชันทั้งสิบสองก็ไม่มีความเห็นเป็นอื่นกับคำพูดของหลี่ชิเย่ ถ้าหากคราวนี้หลี่ชิเย่สามารถมีชีวิตขึ้นไปยังแดนสิบได้จริง ในอนาคตเขาย่อมมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะท้าสู้กับราชันเทพชิงมู่ได้

ราชันเทพชิงมู่คือจอมราชันที่ลึกลับที่สุดของแดนที่สิบ และเป็นจอมราชันองค์แรกที่มีสิบสองชะตาฟ้าอยู่ในครอบครอง บรรดาราชันและเหล่าเทพในแดนสิบเมื่อเปรียบเทียบกับราชันเทพชิงมู่แล้ว ล้วนแล้วแต่เป็นแค่ผู้เยาว์เท่านั้น!

ในแดนที่สิบ ราชันเทพชิงมู่เปรียบเหมือนศิลาจารึกที่สูงใหญ่ ศิลาจารึกสูงใหญ่แผ่นหนึ่งที่ยากจะมีใครก้าวข้ามไปได้!

“พวกเรามาเริ่มต้นกันเถอะ จะเป็นหรือตายอยู่ที่ศึกในครั้งนี้!” ราชันซื่อตี้กล่าวขึ้นช้าๆ เขายังคงมีท่าทีเย็นชา แววตาเปี่ยมด้วยการฆ่าฟันที่ไร้ซึ่งความปราณี

แม้ว่าเขาจะให้เกียรติคู่ต่อสู้ จอมราชันทั้งสิบสองก็เต็มไปด้วยความเคารพเลื่อมใสที่หลี่ชิเย่เป็นผู้ริเริ่มมีถึงสิบสามลัคนา แต่ว่า พวกเขายังคงเป็นศัตรู

ศัตรูก็คือศัตรู ราชันซื่อตี้และสิบสองจอมราชันต้องการทำทุกวิถีทางให้หลี่ชิเย่ตาย ขณะที่หลี่ชิเย่ก็ไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ ระหว่างพวกเขามีเพียงต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย!

“ตึง ตึง ตึง…” ในเวลานี้ จอมราชันทั้งสิบสองได้ล้วงหยิบเอาอาวุธของตนออกมาช้าๆ อาวุธของพวกเขาจะมาเป็นชุด บ้างสวมเกราะราชัน มือถือหอกราชัน บ้างในมือถือโล่ราชัน ในมือพันเชือกราชัน…

“ตึง…” พริบตาเดียวกันนั้น ชะตาฟ้าของจอมราชันทั้งสิบสองได้ให้การรองรับอาวุธที่ปราศจากผู้ต่อกรของพวกเขา

“แว้งค์…” อาวุธที่ปราศจากผู้ต่อกรของจอมราชันทุกองค์ภายใต้การรองรับของชะตาฟ้าได้กลับกลายเป็นค่ายกลขนาดยักษ์สุดเปรียบเปรยและยอดเยี่ยมมาก

ทุกๆ จอมราชันต่างมีสุดยอดค่ายกลเป็นของตน อีกทั้งสิบสองค่ายกลสามารถสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน สามารถเข้ากันได้ ทุกๆ สุดยอดค่ายกลไม่เพียงไม่ขัดแย้งกัน ทั้งยังสามารถสนับสนุนกันและกัน

สิ่งนี่บ่งบอกว่าสิบสองสุดยอดค่ายกลนี้สามารถเป็นค่ายกลได้โดยลำพังของมันเอง และสามารถร่วมมือกันกลายเป็นค่ายกลที่มีขนาดใหญ่กว่าและน่ากลัวกว่าขึ้นมาได้

หลี่ชิเย่มองดูอาวุธปราศจากผู้ต่อกรสืบทอดชะตาฟ้ากลายเป็นสุดยอดค่ายกลแล้วกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ค่ายกลราชันอาวุธเซียน ทั้งยังเป็นอาวุธราชันที่เป็นชุด นับว่ามีอานุภาพปราศจากผู้เทียบเทียม สิบสองค่ายกลสามารถร่วมมือด้วยกัน การลอบสังหารข้าของพวกเจ้าไม่ได้เพิ่งจะคิดขึ้นมาชั่วครู่นะเนี่ย!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *