Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2382 ตรอกมนุษย์ไม้

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2382 ตรอกมนุษย์ไม้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เวลานี้ไอหมอกตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดินและปกคลุมถนนแต่ละสาย เสมือนหนึ่งเข้าไปยังโลกที่เลือนลางอย่างนั้น

หลังจากนั้น ไอหมอกที่ตลบอบอวลบนท้องฟ้าได้จางหายไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาหลี่ชิเย่ตรงหน้าคือถนนยาวๆ สายหนึ่ง เหมือนว่าถนนสายนี้ยาวไม่มีที่สิ้นสุดอย่างนั้น

ถนนสายนี้ดูเก่าแก่โบราณยิ่ง เหมือนว่ามันถูกสร้างขึ้นในยุคสมัยที่เก่าแก่โบราณอย่างยิ่ง กาลเวลาที่เคลื่อนผ่านไปได้ขัดเกลาทุกสิ่งทุกอย่าง และทิ้งร่องรอยเอาไว้บนถนนสายนี้

ด้านซ้ายและขวาของถนนสายนี้มีต้นหลิวที่พลิ้วไหวไปตามสายลม เปี่ยมล้นด้วยสภาพที่เขียวชอุ่ม ที่ยอดเยี่ยมมากกว่านั้นก็คือ บ้านที่อยู่สองข้างทางของถนนสายยาวๆ สายนี้ล้วนแล้วแต่อาศัยวัสดุที่เป็นไม้สร้างขึ้นมา

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ถนนสายนี้แลดูเรียบง่าย มีท่วงทำนองและจังหวะที่บอกไม่ถูก

‘ตรอกมนุษย์ไม้’ ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิถึงกับพึมพำออกมาเมื่อมองเห็นถนนที่เรียบง่ายสายนี้แล้ว

ผู้คนจำนวนมากต่างมองความนัยเกี่ยวกับถนนที่เก่าแก่โบราณสายนี้ไม่ออก ตรอกโบราณเช่นนี้เปี่ยมด้วยความรู้สึกที่เก่าแก่โบราณ มีความรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก กระทั่งกล่าวได้ว่าเต็มไปด้วยความงดงามที่เหมือนดั่งอยู่ในบทกวีหรือภาพวาด

“ตรอกมนุษย์ไม้มันเป็นอย่างไรล่ะ?” แม้แต่ผู้เยาว์ระดับอัจฉริยะก็ต้องเอ่ยถามขึ้น ดูไม่ออกว่าตรอกมนุษย์ไม้นี้มีอะไรที่ยอดเยี่ยมพิสดาร

ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิกล่าวว่า “ตรอกมนุษย์ไม้เป็นกลไกที่แข็งแกร่งมากของจูเซียงหวู่ถิง เล่าลือกันว่า ตรอกมนุษย์ไม้ถูกสร้างขึ้นด้วยมือของหวู่จู่เอง ทุกๆ ก้าวที่ก้าวไปก็จะเป็นหนึ่งกระบวนท่า ฟังว่าหากสามารถก้าวเดินจนสุดตรอกมนุษย์ไม้ก็สามารถเชี่ยวชาญกระบวนท่าของจูเซียงหวู่ถิง…”

“…อีกทั้งทุกๆ กระบวนท่าล้วนแล้วแต่มีพลังของปฐมบรรพบุรุษ ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาตรอกมนุษย์ไม้ก็คือสถานที่ที่จูเซียงหวู่ถิงใช้ในการทดสอบราชันแท้จริง หรือจะกล่าวว่า โดยปรกติแล้วมีเพียงราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งจึงสามารถก้าวเดินไปได้ตลอดเส้นทางของตรอกมนุษย์ไม้ได้ทั้งสาย มาวันนี้ไม่นึกไม่ฝันเลยว่ายายเฒ่าเทวะล่าวายุถึงกับใช้ตรอกมนุษย์ไม้กับบุคคลภายนอกคนหนึ่ง”

“แม้จะกล่าวว่า จูเซียงหวู่ถิงได้ให้กำเนิดราชันแท้จริงมาหลายคน แต่ใช่ว่าราชันแท้จริงทุกคนล้วนแล้วแต่ก้าวเดินตรอกมนุษย์ไม้จนสุดสายได้ทุกคน และมีผู้กล่าวไว้ว่า ที่สามารถก้าวเดินจนสุดสายได้อย่างแท้จริงมีอยู่ไม่เกินห้าคน” ระดับบรรพบุรุษอีกผู้หนึ่งกล่าวเสริม

เวลานี้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนแล้วแต่กลั้นลมหายใจเอาไว้มองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้า หลังจากได้ยินคำพูดของระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิผู้นี้แล้ว ทุกคนต่างต้องการดูว่าหลี่ชิเย่จะก้าวข้ามตรอกมนุษย์ไม้ที่อยู่ข้างหน้าไปได้อย่างไรกันแน่

ผู้คนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าการที่หลี่ชิเย่สามารถก้าวข้ามตรอกมนุษย์ไม้ก็ไม่แปลก จะอย่างไรเสียเขาก็คือผู้ที่มีสิทธิ์ต่อสู้ชี้ขาดกับเทพสงครามมังกรคชาธาร ปัญหาอยู่ที่ว่า หลี่ชิเย่จะอาศัยวิธีการและท่าทีเช่นใดในการก้าวข้ามตรอกมนุษย์ไม้กันแน่?

มองดูตรอกมนุษย์ไม้ที่อยู่ตรงหน้า หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่งแล้วก้าวเท้าออกไปทันที

ชั่วพริบตาเดียวที่หลี่ชิเย่ก้าวผ่านเข้าไป ปรากฏฝ่ามือไม้ขึ้นมาข้างหนึ่ง ฝ่ามือไม้ข้างนี้ที่ฟาดเข้ามาโดยหอบเอาอานุภาพของปฐมบรรพบุรุษมาด้วย ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ หนึ่งฝ่ามือไม้นี้ได้ซ่อนพลังดวงดาวอยู่ในนั้น เป็นดวงดาวที่อยู่ท่ามกลางฝ่ามือ หนึ่งฝ่ามือที่ฟาดเข้ามาก็เหมือนท้องฟ้าคลาคล่ำด้วยดวงดาวแห่งหนึ่งที่สยบลงมา เสมือนมีพลังที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุดอย่างนั้น

หนึ่งฝ่ามือลักษณะเช่นนี้ที่ฟาดเข้ามา สามารถทำลายเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ สามารถทำให้ขั้นอมตะต้องล่าถอยกลับไป นับว่าปราศจากผู้ต่อกรโดยแท้

แต่ว่า หลี่ชิเย่เพียงแค่งัดเบาๆ ทีหนึ่งก็ก้าวเท้าออกไปก้าวที่สอง ขณะที่ก้าวออกไปก้าวที่สอง นิ้วหนึ่งได้ปาดเข้ามา มันเป็นเพียงนิ้วไม้นิ้วหนึ่งเท่านั้น

นิ้วไม้หนึ่งนิ้วทำลายท้องฟ้า ทำลายสุริยันจันทราและดวงดาวแหลกละเอียด ภายใต้นิ้วเดียวซ่อนแฝงไว้ซึ่งการเปลี่ยนแปลงแปดร้อยกว่ากระบวนท่า พลันปิดตายทางไปของหลี่ชิเย่ และโจมตีด้วยท่าสังหารเด็ดขาดมาจากทุกทิศทุกทาง

หนึ่งนิ้วที่ผงาดฟ้าเข้ามานั้น หลี่ชิเย่ก็เพียงแค่เคาะเบาๆ เท่านั้นเอง ในพริบตาเดียวนั่นเอง เข้าได้ก้าวเท้าก้าวที่สามออกไปแล้ว

เมื่อมาถึงก้าวที่สาม พริบเดียวนั้นเองหนึ่งหมัดได้โจมตีเข้ามา ภายใต้หนึ่งหมัดคล้ายดั่งพระพุทธเจ้าปราบมาร ทั้งแกร่งและความเป็นหยางที่รุนแรง ภูตผีปีศาจคนชั่วล้วนกลายเป็นเถ้าธุลี…

หนึ่งหมัดลักษณะเช่นนี้ หลี่ชิเย่เพียงแค่อาศัยมือที่รองเอาไว้เบาๆ แล้วก้าวเท้าก้าวที่สี่ออกไป…

หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว สี่ก้าว…ทุกสิ่งหากบรรยายด้วยพู่กันก็จะดูเชื่องช้า แต่ความจริงแล้วจังหวะก้าวของหลี่ชิเย่รวดเร็วจนไม่สามารถเปรียบเปรย ไม่มีสิ่งใดเทียบเทียมได้

ดูไปแล้ว ความเร็วจังหวะการย่างก้าวของหลี่ชิเย่ก็ไม่ได้รวดเร็วเป็นพิเศษ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่เหมือนเช่นสายฟ้าแลบอย่างนั้น ดูไปแล้วเข้าก้าวเท้าไปทีละก้าวๆ เสมือนดั่งเมฆและสายน้ำที่ล่องลอยและไหลไปอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างเป็นไปอย่างอิสระเสรี

ความจริงแล้ว ความเร็วของแต่ละย่างก้าวที่หลี่ชิเย่ก้าวออกไปนั้น เรียกว่าเร็วจนถึงขีดสุดแล้ว นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เขาก้าวเท้าออกไปจนถึงก้าวสุดท้ายนั้นเป็นเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นเอง กระทั่งกล่าวได้ว่าทั้งสองก้าวนี้มีช่วงห่างกันเพียงแค่เสียงดังฟ่าวววที่ดังขึ้นมาเสียงหนึ่งเท่านั้นเอง

พูดอย่างไม่เกรงใจก็คือ ก้าวแรกจนถึงก้าวสุดท้ายของหลี่ชิเย่เกือบจะเป็นเวลาเดียวกัน เหมือนเป็นก้าวเดียวโดยสิ้นเชิงอย่างนั้น เขาก้าวเท้าจากปากตรอกมนุษย์ไม้จนถึงท้ายตรอกก็คล้ายดั่งเป็นสายฟ้าแลบที่แลบผ่านไปอย่างนั้น ระยะเวลาดังกล่าวสั้นมากจนสามารถจินตนาการได้แล้ว

การที่ทุกคนที่มองเห็นหลี่ชิเย่ดั่งเมฆและสายน้ำก้าวข้ามตรอกมนุษย์ไม้ไปนั้น เป็นเพราะความเร็วของหลี่ชิเย่ที่รวดเร็วมากเกินไป เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นก็ก้าวผ่านตรอกมนุษย์ไม้ไปแล้ว ทำให้ทุกคนที่ได้มองเห็นภาพเช่นนี้ก็เพราะเงาที่ยังคงหลงเหลืออยู่จากการชงักงันของกาลเวลาเท่านั้นเอง

จังหวะที่หลี่ชิเย่เริ่มต้นก้าวเท้าออกไปในพริบตาเดียวนั้น พอก้าวต่อไปก็ได้ไปยืนอยู่ตรงปลายสุดของตรอกมนุษย์ไม้แล้ว เรียกได้ว่าเพียงแค่เสียงฟ่าวววดังขึ้นเสียงหนึ่งก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าของยายเฒ่าเทวะล่าวายุแล้ว

ปัง ปัง ปัง…นาทีนี้เอง ตรอกมนุษย์ไม้บังเกิดเสียงแตกละเอียดดังขึ้นเป็นระลอกทั่วทั้งสาย เมองเห็นฝ่ามือไม้แต่ละข้าง หมัดไม้แต่ละหมัด นิ้วมือไม้แต่ละนิ้วที่ทยอยแตกละเอียดไป

มีฝ่ามือไม้ที่แต่เดิมเป็นดวงดาวอยู่ท่ามกลางฝ่ามือ แต่ว่า ขณะที่หนึ่งฝ่ามือที่ฟาดเข้ามานั้น ใช้พลังรุนแรงเกินไป ทำให้ดวงดาวภายในฝ่ามือหลุดออกจากฝ่ามือไปและอยู่เหนือการควบคุม และฝ่ามือไม้กูกดวงดาวที่หลุดออกจากฝ่ามือลากจนแตกละเอียดไป ขณะที่นิ้วมือไม้หนึ่งนิ้วที่ผงาดฟ้า ทำลายสุริยันจันทราและดวงดาว พลังทั้งหมดของนิ้วมือนิ้วนี้ล้วนแล้วแต่รวมอยู่ที่การจี้เพียงครั้งเดียว เป็นพลังทำลายล้างที่น่าสยองขวัญอย่างยิ่งจนสุดจะจินตนาการได้ แต่ทว่าช่องทางที่พลังนิ้วมือที่จี้ออกไปถูกปิดกั้นโดยพลัน ทำให้พลังทั้งหมดถูกกักเอาไว้ในนิ้วมือนั้น และเกิดระเบิดขึ้นโดยพลัน…

ยังมีหนึ่งหมัดที่สังหารลงมาเสมือนดั่งท้าวจตุโลกบาลปราบมาร ที่สังหารเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ภายใต้การสังหารที่เด็ดขาดเหมือนว่าพลังทั้งหมดพลันไม่สามารถควบคุมได้ และช่องว่างถูกดึงให้แยกออกจากันอย่างนั้น พลังโจมตีที่มาจากทุกทิศทุกทางจึงสะท้อนกลับและพุ่งเข้าโจมตีหมัดไม้ที่โจมตีลงมา ภายใต้เสียงตูมดังสนั่น หมัดไม้ถูกพลังสังหารเด็ดาขาดของตนทำลายจนละเอียด…

นับตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงก้าวสุดท้าย การเผชิญหน้ากับอานุภาพทุกๆ กระบวนท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรภายในตรอกมนุษย์ไม้นั้น หลี่ชิเย่เพียงอาศัยความสงบนิ่งในการรับมือ แค่งัด เคาะ และรองมือ…ที่เป็นจังหวะเคลื่อนไหวเล็กน้อยเท่านั้น การลงมือของเขาเป็นไปอย่างธรรมชาติและผ่อนคลาย ไม่ได้อาศัยอานุภาพที่สะเทือนเลื่อนลั่น เป็นเพียงท่วงท่าการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยเท่านั้น

เสียงตูม…ดังสนั่น สุดท้ายตรอกมนุษย์ไม้ทั้งสายไม่อาจรองรับกับการล่มสลายของกระบวนท่าทั้งหมดภายในตรอกมนุษย์ไม้ พริบตาเดียวนั่นเอง ตรอกมนุษย์ไม้ถูกแต่ละกระบวนท่าของตนโจมตีจนแหลกละเอียด ท่ามกลางเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังขึ้นเป็นระลอก มองเห็นตรอกมนุษย์ไม้ที่พังครืนลงมา ตรอกเก่าแก่โบราณที่ยาวมากพังครืนแตกละเอียดไปทุกที่ตลอดทั้งสาย จนกลายเป็นเศษซากปรักหักพังไปทั้งสายในทันที

สิ่งนี้หาใช่เป็นหลี่ชิเย่ที่ทำให้ตรอกมนุษย์ไม้แตกละเอียดไปโดยพลัน แต่เป็นเพราะแต่ละกระบวนท่าของตรอกมนุษย์ไม้เองที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้มีการโจมตีจนตรอกมนุษย์ไม้ทั้งสายละเอียดจนกลายเป็นซากปรักหักพังไป

ทุกคนต่างมองดูตรอกมนุษย์ไม้ที่แตกหักไปทั้งสายในพริบตาเดียวจนตะลึงและตาค้าง เนื่องจากผู้คนจำนวนมากไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลี่ชิเย่ลงมือด้วยวิธีอย่างใด กระทั่งทุกคนต่างไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่อาศัยกระบวนท่าเช่นใด

“เยี่ยม เยี่ยมมาก” มีระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่แข็งแกร่งที่มองเห็นความนัยอะไรบางอย่างอย่างยากเย็น ถึงกับชมเปาะว่า “ยอดเยี่ยมถึงที่สุด แพ้ชนะอยู่แค่นิดเดียวเท่านั้น”

กล่าวสำหรับระดับบรรพบุรุษที่สามารถมองภาพเช่นนี้ออกล่ะก็ มันน่าสะเทือนหวั่นไหวเหลือเกิน เนื่องจากการลงมือของหลี่ชิเย่นั้นไม่ได้สิ้นเปลืองพลังของตนเลยแม้แต่น้อย ทุกท่วงท่าจังหวะล้วนแล้วแต่พอเหมาะพอเจาะ เหมือนว่าได้ผ่านการคิดคำนวณมายังละเอียดและแม่นยำแล้วอย่างนั้น ภายใต้การงัด เคาะ และรองด้วยมือ เป็นจังหวะที่พอดิบพอดีทำให้แต่ละกระบวนท่าของตรอกมนุษย์ไม้ระหว่างหลุดจากการควบคุมและอยู่ในความควบคุมเพียงแค่เส้นยาแดงเท่านั้น

ด้วยช่วงห่างเพียงนิดเดียวเช่นนี้ ก็ตกอยู่ในความควบคุมของหลี่ชิเย่ ภายใต้การควบคุมในลักษณะเช่นนี้ของเขานั่นเอง ทำให้แต่ละกระบวนท่าในตรอกมนุษย์ไม้จากอยู่ในควบคุมจนหลุดออกจากการควบคุม ท้ายสุดแล้ว แต่ละกระบวนท่าของตรอกมนุษย์ไม้เองโจมตีจนตรอกมนุษย์ไม้ทั้งสายจนแหลกละเอียดไป

สูงสุด ยอดเยี่ยมสูงสุด สิ่งนี้คือความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่หลี่ชิเย่บรรลุจากหน้าผนังหินนั่นเอง และวิชานี้หลี่ชิเย่ก็ได้ตั้งชื่อให้มันว่าสูงสุด!

จากการที่เสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา ตรอกมนุษย์ไม้ทั้งสายแตกละเอียดกลายเป็นซากปรักหักพังกองหนึ่ง นับจากนี้ไปจูเซียงหวู่ถิงจะไม่มีตรอกมนุษย์ไม้อีกต่อไป ภาพเช่นนี้สร้างความตะลึงจนตาค้างให้กับทุกคน

“เวลานี้ล่ะ?” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มเฉยเมยเมื่ออยู่ตรงหน้ายายเฒ่าเทวะล่าวายุ

ยายเฒ่าเทวะล่าวายุพลันตะลึงจนตาค้าง เวลานี้ไม่อาจเรียกสติกลับมา เมื่อคำพูดของหลี่ชิเย่ดังขึ้นที่ข้างหูของนาง พลันทำให้นางถึงกับร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง

ในพริบตาเดียวนั่นเอง ยายเฒ่าเทวะล่าวายุอาศัยความเร็วที่รวดเร็วที่สุดถอยห่างออกไป นาทีนี้นางเองถูกทำให้ตกใจสุดขีด นางไม่นึกไม่ฝันเลยว่า ตรอกมนุษย์ไม้ที่จูเซียงหวู่ถิงพวกเขานำมาเป็นเครื่องทดสอบราชันแท้จริงต้องมาถูกหลี่ชิเย่ทำลายได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้

แม้ความเร็วของยายเฒ่าเทวะล่าวายุจะรวดเร็วกว่านี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ในพริบตาเดียวนั้นเอง เสียงดังตูมตามดังขึ้น มือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่คล้ายดั่งเป็นโม่หินที่บดขยี้ลงมา

ขณะที่มือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่บดขยี้ลงมานั้น ไม่ว่าจะเป็นช่องว่างหรือเวลา ทั้งหมดเหมือนหนึ่งจับตัวจนแข็งอย่างนั้น ยายเฒ่าเทวะล่าวายุที่แข็งแกร่งในระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยพลัน

ตูม…หนึ่งฝ่ามือที่บดขยี้ลงมา ช่องว่าและเวลาพลันแตกละเอียด เสียงคร๊ากกกเสียงหนึ่งดังขึ้น ร่างกายของยายเฒ่าเทวะล่าวายุก็เริ่มแตกร้าวขึ้นมา

“ท่านอาจารย์ ช่วยข้าด้วย…” เวลานี้ยายเฒ่าเทวะล่าวายุส่งเสียงร้องแหลมดังขึ้นมา นาทีนี้นางตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ตกใจจนอ่อนแรงไป

แต่ว่า เทพสงครามมังกรคชาธารกลับไม่ได้ปรากฏตัว และไม่ได้ช่วยศิษย์ของตนเอาไว้ ได้ยินเสียงจี๊ดดังขึ้น ร่างของยายเฒ่าเทวะล่าวายุถูกบดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือดไป และกระจายหายไปในพริบตาเดียว

เวลานี้ ทั่วหวู่ถิงล้วนแล้วแต่ถูกทำให้ตกใจจนเงียบสงัด ทุกคนจ้องมองดูภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตะลึงและอ้าปากค้าง

ที่สร้างความหวั่นไหวไม่เพียงเพราะระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ที่แข็งแกร่งดั่งยายเฒ่าเทวะล่าวายุถูกบดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือดไป ที่น่าหวั่นไหวมากกว่าก็คือ ภายในจูเซียงหวู่ถิง ต่อหน้าต่อตาเทพสงครามมังกรคชาธาร ศิษย์ของเขาถึงกับถูกหลี่ชิเย่บดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือดไป

………………………………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *