Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1732 ราชันซื่อตี้

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1732 ราชันซื่อตี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1732 ราชันซื่อตี้
จอมราชันสิบสององค์อยู่กันที่ตรงนี้ สยบด้วยชะตาฟ้าสี่สิบสาย รูปขบวนเช่นนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน และเป็นที่สะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนเหลือเกิน ในโลกนี้เกรงว่าคงยากจะมีผู้ใดกล้าที่จะต่อต้านได้ ไม่ว่าใครก็ตาม คงยากที่จะต้านทานกับสุดยอดขบวนการสังหารที่เป็นหนึ่งไม่มีสองเช่นนี้

“ใต้เท้าอีกาทมิฬ การที่ท่านถูกสังหาร ณ ที่ตรงนี้ถือว่าไม่เสียชาติเกิด นอกจากสงครามครั้งสุดท้าย ศึกล่าสังหารราชันที่เป็นศึกยิ่งใหญ่แล้ว ไม่มีศึกไหนที่มีขบวนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้อีกแล้ว ในโลกนี้คงไม่มีใครสามารถทำให้จอมราชันทั้งสิบสองต้องลงมือล้อมปราบอีกแล้ว” ราชันสวรรค์ต้าวหลงกล่าวขึ้นมาช้าๆ

จอมราชันสี่องค์มาด้วยตนเอง ส่วนจอมราชันอีกแปดองค์ต่างส่งร่างตัวแทนที่สืบทอดชะตาฟ้าสองสายมาร่วม ขบวนทัพเช่นนี้นับว่าเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร ยากจะมีใครเสมอเหมือนนับแต่อดีตเป็นต้นมา ยกเว้นการรบครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นไม่กี่ครั้ง และศึกล่าสังหารราชันในครั้งนั้นที่เป็นการสู้รบครั้งยิ่งใหญ่แล้ว คงไม่มีใครที่คุ้มค่าคู่ควรแก่การเกณฑ์คนมากมายเช่นนี้อีกแล้ว ต่อให้ราชันเซียนของเก้าแดนขึ้นมายังแดนที่สิบก็ไม่คุ้มกับการลงมือด้วยตนเองจากจอมราชันสิบสององค์!”

“พูดจนข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา เขายังคงไม่หวาดหวั่นแม้ต้องเผชิญกับจอมราชันถึงสิบสององค์ ยังคงพูดจาสนุกสนานว่า “บอกตามตรงนะ ข้ามีศัตรูมากมายในแดนที่สิบ แต่หากจะกล่าวว่า สามารถทำให้จอมราชันสิบกว่าคนรวมตัวกันแล้วมาลอบสังหารข้า นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ในแดนที่สิบ คนที่สามารถเรียกให้จอมราชันมากมายให้มาลงมือด้วยตนเองได้ก็คงมีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น”

ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว เผยให้เห็นรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมา ท่าทีเอ้อระเหยไม่สะทกสะท้านและกล่าวว่า “ผู้ที่ทำให้จอมราชันในแดนที่สิบจำนวนมากมายต้องให้เกียรตินับว่ามีอยู่ไม่มาก แม้จะกล่าวว่าผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นศัตรูกับข้าก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ นับไปนับมาผู้ที่สามารถเรียกให้จอมราชันมากมายมาเช่นนี้ได้ ทั้งยังต้องการเล่นงานข้าถึงตายนั้น ดูเหมือนจะมีเพียงตาเฒ่าเฉี่ยนเท่านั้นเองแล้วหละ”

“ตาเฒ่าเฉี่ยน ข้ารู้นะว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ไม่ว่าเจ้าจะมาด้วยตนเองหรือมาด้วยร่างตัวแทน ในเมื่อมาแล้วก็แสดงตัวออกมาพบปะสหายสักหน่อย อย่าทำเป็นขี้น้อยใจหน่อยเลย” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะเสียงดังออกมา และร้องกล่าวออกไปด้วยเสียงอันดัง

“ฮึ…” จังหวะที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ ได้ยินเสียงฮึดังขึ้น ในเวลานี้เองบนท้องฟ้าปรากฎเงาขึ้นมาสายหนึ่ง โดยที่เงาสายนี้ดูเลือนรางมาก มองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาได้ไม่ชัดเจน

ต่อให้ร่างเงานี้ดูเลือนรางยิ่งนัก ยากที่จะมองเห็นโฉมหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน แต่การที่เขาอยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า เมื่อยืนอยู่ตรงนั้นแล้วเหมือนว่าเขาได้กลายเป็นผู้บงการของฟ้าดิน เหมือนว่ากลายเป็นราชาของเหล่าเทพ

จอมราชันที่อยู่ในเหตุการณ์มีองค์ไหนบ้างที่ไม่ใช่อานุภาพราชันยิ่งใหญ่ องค์ไหนบ้างที่ไม่ใช่อานุภาพราชันดั่งคลื่นยักษ์ องค์ไหนบ้างที่ไม่ใช่สยบหมื่นอาณาจักร อำนาจสยบสรรพชีวิต แต่ว่า เมื่อเทียบกับร่างเงาสายนี้แล้วล้วนแล้วแต่ดูจะเทียบกันไม่ได้!

เหมือนว่าร่างเงาที่อยู่ตรงหน้าก็คือนายของบรรดาราชัน เป็นราชาของเหล่าเทพ เหมือนว่าเขาคือผู้ที่สามารถบัญชาแดนที่สิบ สามารถบัญชาบรรดาจอมราชันเซียนหวางของสิบสามทวีปได้ทั้งหมด

“อีกา เดิมเจ้าควรจะหลบอยู่ในเก้าแดนแต่โดยดี ไม่ควรคลานขึ้นมาที่แดนสิบของพวกเรา!” เสียงของเงาสายนี้ดังก้องฟ้าดิน เปี่ยมด้วยอำนาจที่น่าเกรงขาม ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถขัดขืนได้ ภายใต้อำนาจที่น่าเกรงขามของเขาอย่าว่าแต่จักรพรรดิเทพเลย เกรงว่าแม้แต่ระดับสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ก็ต้องคุกเข่าลงในทันที!

“ผ่านไปกี่ปีแล้วเนี่ย ตาเฒ่าเฉี่ยนเจ้ายังคงเหมือนเดิม” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา ส่ายหน้าและกล่าวว่า “แดนที่สิบไม่ใช่บ้านของเจ้า ต่อให้ตระกูลเฉี่ยนเป็นผู้สร้างแดนที่สิบ ข้าหลี่ชิเย่อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป หรือข้าจะต้องเกรงกลัวตระกูลเฉี่ยนของเจ้าอย่างนั้นรึ?”

“ในเมื่อเจ้าคลานขึ้นมาอยู่ในแดนที่สิบของพวกเรา พวกเราได้แต่ฆ่าโดยไม่มีการยกเว้น บรรดาราชันยินดีร่วมกับข้าทำการกำจัดต้นตอของภัยพิบัติและความยุ่งยากทั้งหลาย!” ร่างเงาสายนี้มีอำนาจน่าเกรงขามยิ่งนัก เมื่อกล่าวคำๆ นี้ออกมาแล้วสะท้านไปทั่วฟ้าดิน ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของการฆ่าฟัน ภายใต้กลิ่นอายการฆ่าฟันเช่นนี้มีเพียงระดับจอมราชันที่ไม่รู้สึกหวาดกลัว ส่วนคนอื่นๆ อาจจะหัวใจวายตายกับกลิ่นอายฆ่าฟันลักษณะเช่นนี้ก็เป็นได้!

“จริงหรือนี่?” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมา และกล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “พูดแบบนี้ ข้าก็ยิ่งใหญ่มากน่ะสิ สุดยอดมาก เฉี่ยนต้าวซิน เพื่อแดนที่สิบแล้วเจ้านี่เรียกได้ว่าไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย เป็นศัตรูกับข้ามายุคแล้วยุคเล่า กระทั่งยอมเสี่ยงอันตรายถูกสวรรค์ลงทัณฑ์เล่นไม่เลิกกับข้า แดนที่สิบมีจอมราชันอย่างเจ้านี่ นับว่าเป็นบุญของแดนที่สิบนะเนี่ย!”

แน่นอน มันเป็นคำพูดที่เหน็บแนมฝ่ายตรงข้าม เพียงแต่ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากมายนัก สายตาที่เยือกเย็นของเขาจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น ต่อให้เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในระดับสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้คงอ่อนยวบไปนานแล้ว ภายใต้สายตาที่เยือกเย็นเช่นนี้ของเขา

เอ่ยถึงชื่อเฉี่ยนต้าวซินชื่อนี้ เกรงว่าในแดนที่สิบคงมีคนรู้จักอยู่ไม่กี่คน แต่ว่า “ราชันซื่อตี้” กลับเป็นชื่อที่มีอำนาจสยบทั่วแดนที่สิบ ชื่อนี้เรียกได้ว่าก้าวข้ามยุคที่ยาวนานมากมายุคแล้วยุคเล่า!

ชื่อของราชันซื่อตี้ใช่จะโด่งดังปราศจากผู้เทียบเทียม กระทั่งกล่าวได้ว่าร่างเงาของเขาได้ปรากฎขึ้น ณ แดนสิบในยุคที่ยาวนานมาก เขาเคยบงการสถานการณ์โดยรวมในแดนที่สิบ มีอำนาจบารมีสูงส่ง ได้รับความเคารพนับถือจากบรรดาราชันและเหล่าเทพ!

หลี่ชิเย่ยังคงเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภายใต้สายตาที่เย็นยะเยือกของราชันซื่อตี้ ยิ้มกล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “ตาเฒ่าเฉี่ยน ทุกครั้งที่เจ้าต้องการตามสังหารข้า เฮ่อ อย่าพูดให้มันน่าเกลียดอย่างนี้ได้หรือเปล่า เพื่อแดนสิบอะไรอย่างนั้น มันก็แค่เพื่อลูกสาวของเจ้าเท่านั้นเอง”

เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยถึงเรื่องนี้ สายตาของราชันซื่อตี้พลันเย็นยะเยือกยิ่งนัก แม้แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังต้องสยบต่อสายตาที่น่ากลัวของเขา ตกใจจนหัวหด

หลี่ชิเย่มองดูร่างเงาของราชันซื่อตี้ แล้วมองดูจอมราชันที่อยู่ในเหตุการณ์อีกสิบสององค์ ยิ้มกล่าวเอ้อระเหยว่า “ข้าใช่ว่าจะมีความแค้นกับตาเฒ่าเฉี่ยนมาไม่นาน บุญคุณความแค้นระหว่างข้ากับเขาสามารถไล่เรียงถึงกาลเวลาที่เนิ่นนานสุดบรรยาย นับว่าตาเฒ่าเฉี่ยนนี่ยืนหยัดไม่เลิกราจริงๆ ทุกๆ ครั้งที่ข้ามาแดนที่สิบเขาจะต้องมาทำให้ข้าต้องเสียเรื่อง ทุกครั้งก็บอกว่าจะสังหารข้า น่าเสียดายที่ทำไม่สำเร็จทุกครั้ง”

“ตาเฒ่าเฉี่ยนพูดเสียเด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผาย ทุกครั้งที่จะสังหารข้าก็จะอ้างว่าต้องการขจัดภัยให้กับแดนที่สิบ ทำไปทำมาท้ายสุดมันก็แค่ตาเฒ่าเฉี่ยนต้องการแก้แค้นส่วนตัวโดยเอาส่วนรวมมาบังหน้าเท่านั้นเอง ครั้งนั้นข้าได้ลวงเอาลูกสาวของเขาไป ดังนั้น ตาเฒ่าเฉี่ยนจึงจดจำใส่ใจอยู่ตลอดเวลา สาบานว่าหากไม่ฆ่าข้าจะไม่ยอมเลิกรา! ตาเฒ่าเฉี่ยนมาอีกแล้วเวลานี้ รวบรวมเหล่าจอมราชันมาตามสังหารข้า เฮ่อ การที่ข้าคิดจะเป็นลูกเขยนี่มันง่ายมั้ยเนี่ย?” ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วผายมือออกพร้อมกับหัวเราะขึ้นมา

จากนั้น หลี่ชิเย่ได้ยิ้มตะโกนต่อร่างเงาของราชันซื่อตี้ว่า “ตาเฒ่าเฉี่ยน ความจริงแล้วพวกเราไม่จำเป็นต้องทำกันถึงขนาดนี้ก็ได้ ชั่วดีอย่างไรข้าก็คือลูกเขยของเจ้า หากจะนับญาติกันล่ะก็ ข้ายังต้องเรียกเจ้าว่าท่านพ่อตาเลย!”

ราชันซื่อตี้ที่อยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมเพียงจ้องมองหลี่ชิเย่อย่างเย็นชา ไม่ได้มีอารมณ์ที่สะเทือนหวั่นไหวแต่อย่างใด

สำหรับจอมราชันสิบสององค์ที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้วิจารณ์คำพูดของหลี่ชิเย่ มีเพียงราชันสวรรค์ต้าวหลงที่มีอายุอ่อนเยาว์ที่สุดใบหน้าเปื้อนยิ้มกล่าวว่า “ใต้เท้าอีกาทมิฬไม่จำเป็นต้องเสี้ยมให้แตกกัน พวกเราเชื่อใจราชันตี้ซื่อ จอมราชันของเผ่าสวรรค์ มาร เทพทั้งสามเผ่าของพวกเราต่างก็มีดวงตาที่ใส รู้ว่าใครคือมิตรใครคือศัตรู ทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจ”

คำพูดของราชันสวรรค์ต้าวหลงมีเหตุผล พวกเขาในฐานะจอมราชัน นับว่ายืนอยู่จุดสูงสุดของแดนที่สิบแล้ว ยากที่จะมีเรื่องราวใดๆ สามารถรอดจากสายตาของพวกเขาไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม พวกเขาต่างก็มีความเข้าใจที่เป็นหนึ่งไม่มีสองรองใครทั้งสิ้น!

“มันก็จริง” หลี่ชิเย่ทำท่าผายมือ หัวเราะและกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้าไม่เชื่อในคำพูดของข้า ข้าก็จนด้วยเกล้า แต่จะว่าไปแล้ว ไม่ง่ายนักที่ทุกคนจะได้มาอยู่ร่วมกันสักครั้ง ข้าในฐานะลูกเขยเมื่อพบท่านพ่อตาแล้ว สมควรพูดคุยเรื่องสัพเพเหระเกี่ยวกับครอบครัวบ้าง ทุกคนคงไม่มีปัญหากระมัง”

จอมราชันที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างนิ่งเงียบ พวกเขาเองไม่ได้รีบร้อนจะลงมือ ความจริงแล้วพวกเขาก็หวาดหวั่นอยู่เหมือนกัน พวกเขาก็เกรงว่าอีกาทมิฬมีท่าไม้ตายอื่นๆ อยู่ จะอย่างไรเสียชื่อเสียงอันโด่งดังของอีกาทมิฬเล่าลือกันในกลุ่มจอมราชันมาทุกยุคสมัย เขาคือมือมืดที่อยู่เบื้องหลังในการกำกับศึกล่าสังหารราชันในครั้งนั้น ต่อให้ผู้เป็นจอมราชันและเซียนหวางก็ยังคงต้องหวั่นเกรงในตัวเขาอยู่สามส่วน!

“พวกเราไม่มีอะไรต้องพูดกัน ไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย!” ท่าทีของราชันตี้ซื่อเย็นชา เสียงที่เข้มและทรงอำนาจสูงสุดเปี่ยมด้วยความเยือกเย็นและไร้ซึ่งความเมตตา

“หรือว่าเจ้าไม่ต้องการรับรู้สภาพความเป็นอยู่ของลูกสาวบ้างรึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวท่าทีเรียบเฉย

คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้ราชันตี้ซื่อนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ต่อให้เขาเป็นถึงจอมราชันที่ปราดเปรื่องที่สุดตลอดกาล ต่อให้เขาคือจอมราชันผู้อยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า ต่อให้เขาคือจอมราชันผู้ยืนอยู่เหนือสุดยอดของแดนสิบก็ตาม เวลานี้ยังถึงกับต้องนิ่งเงียบ จะอย่างไรเสียก็คือลูกสาวของเขา เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆ ของเขา!

“ตาเฒ่าเฉี่ยน เจ้ากับข้ารู้อยู่แก่ใจ บุญคุณความแค้นระหว่างเจ้ากับข้าไม่ได้มีเหตุเกิดเพราะลูกสาวของเจ้า ข้าก็แค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่ในเวลานี้ดูจริงใจยิ่งนัก เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ไม่ว่าครั้งนั้นเป็นข้าที่ล่อลวงลูกสาวของเจ้าก็ดี หรือนางยินดีติดตามข้าไปก็ช่าง เรื่องนี้กล่าวสำหรับเจ้ากล่าวสำหรับข้าแล้ว ล้วนเป็นเรื่องที่ปล่อยวางได้ทั้งสิ้น การที่สามารถเป็นถึงจอมราชัน เจ้าคงไม่ใช่ประเภทคิดเล็กคิดน้อย…”

“…เรื่องที่ทำให้เจ้าต้องโกรธแค้น หาใช่เป็นเพราะอีกาทมิฬอย่างข้าล่อลวงลูกสาวของเจ้าไป แต่เป็นเพราะลูกสาวของเจ้าไม่ได้สืบทอดตำแหน่งของเจ้า อีกทั้งนางยังได้ฝ่าฝืนปณิธานของเจ้า เจ้าเข้าใจว่านางไม่เพียงฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเจ้า ยังฝ่าฝืนต่อเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร เผ่าเทพทั้งสามเผ่า ฝ่าฝืนต่อสิบสามทวีปแห่งแดนสิบอีกด้วย!”

ท่าทีของราชันซื่อตี้เย็นชายิ่งกับคำพูดของหลี่ชิเย่ สำหรับจอมราชันอีกสิบสององค์ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่แสดงความเห็น นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของราชันซื่อตี้ และถือเป็นบุญคุณความแค้นส่วนตัวระหว่างราชันซื่อตี้กับอีกาทมิฬ

“ตาเฒ่าเฉี่ยน เจ้าก็ดี ข้าก็ช่าง แม้แต่ราชันสวรรค์หุ้นหยวน ราชันเทพจุงหนานที่ได้เสียชีวิตไปแล้วในครั้งนั้น ท้ายที่สุดแล้ว แม้ทุกคนมีเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่ก็มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน ความจริงแล้ว ลูกสาวของเจ้าก็เช่นกัน เพียงแต่ความคิดของนางแตกต่างกับเจ้าเท่านั้นเอง และไม่เหมือนกับข้า” เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ หลี่ชิเย่ได้ทอดถอนใจออกมาเบาๆ และกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ตาเฒ่าเฉี่ยน เจ้าแค้นข้าก็ดี จะฆ่าข้าก็ช่าง กระทั่งเจ้าคิดจะสับร่างข้าให้เป็นหมื่นๆ ชิ้น ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่จะอย่างไรก็ได้…”

“…ไม่ว่าจะยืนอยู่ในฐานะบุญคุณความแค้นส่วนตัว หรือว่ายืนอยู่ในสถานะของเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร และเผ่าเทพทั้งสามเผ่า เจ้าก็มีหมื่นเหตุผลที่จะสังหารข้า แต่ว่า มีเรื่องหนึ่งข้าอยากจะขอร้องเจ้า วันหน้าเมื่อถึงคราวที่ที่ราบสูงฝังพุทธะออกเดินทาง เมื่อท้าวสักกะต้องการสู้รบเป็นครั้งสุดท้าย ข้าหวังว่าเจ้าในฐานะเป็นบิดาจะกล่าวเตือนนาง โดยอาศัยฐานะของความเป็นบิดากล่าวเตือนนาง ศึกครั้งนี้พวกเขาไม่มีทางชนะได้!”

ครั้นหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้ท่าทีจริงใจมาก กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ข้ารู้ ในโลกไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของนาง ข้าเองก็เปลี่ยนไม่ได้ แต่ ข้าหวังว่าเจ้าที่เป็นบิดาสามารถลองสักครั้ง ทำเช่นนี้ไม่เพียงเพราะข้าหวังว่านางจะยังคงรั้งอยู่ต่อไป ไม่เพียงข้าที่ไม่หวังให้นางไปร่วมรบ ขณะเดียวกันพวกเจ้าเป็นพ่อลูก…”

“…ปฏิเสธไม่ได้ ครั้งนั้นที่ข้าพานางไปที่เก้าแดนนั้น ข้ามีเจตนาเห็นแก่ตัวจริง แต่ว่า ต่อให้เป็นเวลานี้ข้าก็ไม่ต้องการให้พวกเจ้าพ่อลูกต้องเป็นศัตรูกัน นางสมควรได้รับความรักจากผู้เป็นบิดา!” ครั้นหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วก็หยุดไม่พูดต่อไปอีก

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *