Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1640 น้ำแก่นผลึก

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1640 น้ำแก่นผลึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1640 น้ำแก่นผลึก
ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองนิ่งเงียบเป็นเวลานานมากกับคำพูดของหลี่ชิเย่ หลังจากผ่านไปแล้วนานมาก นางจึงค่อยๆ พูดขึ้นมาว่า “คนที่ล้มเหลวใช่ว่าจะมีเพียงพวกเรา”

“ข้ารู้” คราวนี้หลี่ชิเย่ไม่ได้ยั่วเย้าผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลือง เขาพยักหน้าเบาๆและกล่าวว่า “เป็นความจริงที่คนที่ล้มเหลวใช่จะมีเพียงพวกเรา ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรได้ทดลองมาแล้ว ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่เคยพยายามมาแล้ว และไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต่อสู้กับมัน แต่ สุดท้ายล้วนแล้วแต่จบลงด้วยความล้มเหลว”

“เส้นทางสายนี้ถูกปูลาดเต็มไปด้วยกระดูก คนที่ตายมีจำนวนนับไม่ถ้วน” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองเอ่ยขึ้นมาช้าๆ

“ต่อให้ไม่ก้าวไปบนเส้นทางสายนี้หรือว่าจะไม่ตายอย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะและกล่าวว่า “ นับแต่โบราณกาลเป็นต้นมาคนที่ตายยังไม่มากพอรึ? บางทีทุกคนเกิดไม่เหมือนกัน แต่ จุดจบของทุกคนล้วนแล้วแต่เหมือนกัน ท้ายที่สุดทุกคนต้องกลับกลายเป็นดินกองหนึ่งเท่านั้น ต่างก็เป็นกองกระดูกของฟ้าดินแห่งนี้เท่านั้นเอง! เมื่อก้าวเดินถึงที่สุดแล้ว ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่มีอะไรแตกต่าง”

“ราชันเซียนก็ดี ปราศจากผู้ต่อกรก็ช่าง ไม่ว่าเจ้าจะดำรงอยู่ในฐานะอย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วก็หนีความตายไปไม่พ้น ต่อให้เจ้าครอบครองมาหนึ่งยุคสมัยก็ยังหนีความตายไม่พ้น!” เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจด้วยความหดหู่อยู่บ้าง

“แต่ว่า ต่อให้ชีวิตคนหนีความตายไม่พ้นแล้วไง โลกนี้ก็ต้องเจิดจรัสอยู่แล้ว” เวลานี้ หลี่ชิเย่ได้เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็นอีก เป็นอะไรที่เฉยเมย และมั่นคงอะไรอย่างนั้น กล่าวว่า “ต่อให้รู้อยู่แล้วว่าต้องตายก็จะสู้จนถึงที่สุด ชีวิตคนหากไม่สู้แล้วความตื่นเต้นจะไม่จากไหนกัน ทุกๆ ยุคสมัยจะเจิดจรัสได้อย่างไร ความเจิดจรัสของแต่ละยุคสมัยล้วนแล้วแต่ เป็นเส้นทางที่ผู้ก้าวเดินก่อนหน้าคนและคนเล่าได้ปูเอาไว้ทั้งสิ้น!”

แต่ว่า เจ้าคิดว่าอาศัยกำลังเพียงลำพังคนเดียวสามารถสู้จนถึงสุดท้ายอย่างนั้นรึ?” จังหวะที่หลี่ชิเย่กำลังเบิกบานและมั่นคงแน่วแน่นั้น ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองอดที่จะพูดให้เสียกำลังใจไม่ได้ “บางคนมีกำลังขนาดแบกโลกได้ สุดท้ายก็กลายเป็นเถ้าธุลีไป ขณะที่เจ้าคิดจะอาศัยกำลังเพียงลำพังคนเดียวมาเสี่ยงกับการต่อสู้ขั้นสุดท้าย เจ้าคิดว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จรึ?”

“แน่นอน” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “เพราะว่าข้าคือหลี่ชิเย่! ดังนั้น ข้าจะต้องสำเร็จ”

“ฮึ คนหลงตัวเอง” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองถึงกับกล่าวด้วยท่าทีจริงจังว่า “ในยุคสมัยนั้นก็เคยมีผู้ที่เหมือนกับเจ้า วางแผนมายุคแล้วยุคเล่า แต่ว่า สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ เจ้าคิดว่าเจ้าอาศัยอะไรสามารถทำได้สำเร็จ”

“อาศัยที่ข้าเป็นหลี่ชิเย่” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหย

คำพูดลักษณะเช่นนี้พลันทำให้ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองพูดอะไรไม่ออก แบบนี้ไม่สามารถใช่คำว่า “คนหลงตัวเอง” มาเปรียบเปรยได้อีกแล้ว

เสียง “แว้งค์” ดังขึ้น ในขณะนี้ สถานที่ที่หลี่ชิเย่อยู่พลันถูกช่องว่างแห่งกาลเวลาปกคลุมจนจมมิด ทุกสิ่งทุกอย่างพลันยุบตัวลงไปในทันที ทันใดนั้น หลี่ชิเย่เองก็หายไปพร้อมกับช่องว่างแห่งกาลเวลาและทุกสิ่งทุกอย่าง

เมื่อหลี่ชิเย่สามารถมองเห็นสภาพโดยรอบได้อย่างชัดเจนนั้น ตัวของเขาได้ปรากฎอยู่ในสถานที่ที่มีประกายวาววับระยิบระยับแห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้ดูไปแล้วคล้ายดั่งเป็นห้องผลึกคริสตัล

สถานที่ลักษณะเช่นนี้ ทุกๆ ด้านล้วนแล้วแต่เป็นผนังคริสตัลที่ดูใสเป็นประกายสวยงาม บนผนังผลึกคริสตัลลักษณะเช่นนี้มีแท่งผลึกคริสตัลที่มีสีสันละลานตาโผล่ออกมาเป็นจำนวนมาก

ความจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่ผลึกคริสตัล มันเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างนั้น เหมือนว่ามันมีการหายใจเข้าออก อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นผนังผลึกคริสตัล หรือว่าแท่งผลึกคริสตัลที่เกิดขึ้นที่ตรงนี้ แลดูเหมือนล้วนแล้วแต่มีหยดน้ำซึมออกมา

หยดน้ำที่ซึมออกมาเหล่านี้ดูแวววาวยิ่งนัก เหมือนเป็นเพชรแต่ละเม็ดอย่างนั้น มันส่งประกายระยิบระยับที่เย้ายวนใจยิ่งนัก

หลังจากเวลาผ่านไปนานมาก หยดน้ำแต่ละหยดเหล่านี้ได้ไหลหยดลงบนพื้น มันค่อยๆ ไหลรวมตัวกันกลายเป็นสายน้ำเล็กมากๆ สายหนึ่ง สุดท้ายสายน้ำขนาดเล็กจนมองข้ามไปได้นั้นได้ไหลไปรวมตัวอยู่บริเวณพื้นที่ที่ยุบตัวลงไปกลายเป็นแอ่งน้ำ

เวลานี้ หลี่ชิเย่ได้ยืนอยู่ข้างๆ แอ่งน้ำนั่นเอง น้ำที่ไหลไปรวมอยู่ในแอ่งน้ำที่อยู่ตรงหน้าได้สะสมจนกลายเป็นบ่อน้ำขึ้นมาแล้ว น้ำในบ่อที่อยู่ตรงหน้าดูแล้วไม่สมจริงสักเท่าไร เหมือนภาพในความฝันอย่างนั้น เนื่องจากน้ำในบ่อมันพร่างพราวแวววาวเหลือเกินจนสุดจะจินตนาการ

ขณะที่ด้านข้างแอ่งน้ำมีขวดหยกวางตั้งอยู่ใบหนึ่ง ขวดหยกใบนี้เรียบง่ายโบราณ อ่อนโยนละมุนละไมดั่งหยก เหมือนว่าขวดหยกใบนี้แกะสลักขึ้นมาจากหยกวิเศษทั้งก้อน ภาพรวมของมันดูเหมือนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีรอยตำหนิแม้แต่น้อย!

ขวดหยกลักษณะเช่นนี้เมื่อวางอยู่บนน้ำมันกลับไม่จมลง ที่แปลกประหลาดมากกว่านั้นก็คือน้ำในบ่อน้ำกลับค่อยๆ ไต่ย้อนขึ้นไปบนปากขวดหยกนั่น แล้วค่อยๆ ไต่ลงไปในขวดหยกใบนั้น

หรืออาจจะกล่าวได้ว่า นี่หาใช่เป็นการไต่ขึ้นไป แต่เป็นการไหลรินช้าๆ ย้อนขึ้นไป สุดท้ายไหลเข้าไปอยู่ในขวดหยก

ภาพลักษณะเช่นนี้มองดูแล้วแปลกประหลาดยิ่งนัก แต่ทว่าเมื่อมันเกิดขึ้นที่ตรงนี้เหมือนว่ามันช่างดูเป็นธรรมชาติ ช่างสมจริงอะไรอย่างนั้น

หลี่ชิเย่มองดูทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าแล้ว กล่าวเรียบเฉยว่า “ผลึกพิสุทธิ์กาลเวลา ที่แท้เจ้าไม่ได้มาค้นหาสิ่งที่เรียกว่าของวิเศษ แต่เพื่อชำระตัวเองให้บริสุทธิ์”

“เจ้ารู้จักผลึกพิสุทธิ์กาลเวลา” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองถึงกับกล่าวด้วยความตกใจรู้สึกเหนือความคาดคิด

หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “สิ่งที่ข้าไม่รู้นับว่ามีไม่มากจริงๆ เจ้าผลึกพิสุทธิ์กาลเวลานี้นับได้ว่าดึกดำบรรพ์มากเหลือเกิน ตามตำนานเล่าว่าผลึกลักษณะเช่นนี้ คือหินอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในยุคที่เพิ่งกำเนิดฟ้าดิน พบเห็นได้ยากมาก มันกำเนิดในบริเวณส่วนที่สูงที่สุดของเส้นชีพจรหลักของแดนๆ หนึ่ง ผู้คนในโลกหาพบมันได้ยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการขุดค้นแล้วล่ะ”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่มองดูผนังผลึกคริสตัลรอบๆ กล่าวว่า “ห้องศิลาทั้งห้องที่อยู่ตรงหน้าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ได้ผ่านการแกะสลักขึ้นมา ห้องทั้งห้องล้วนแล้วแต่ก่อขึ้นมาจากผลึกพิสุทธิ์กาลเวลา ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือมันอยู่เป็นเอกเทศของตัวมันเอง แยกตัวออกจากกาลเวลาและอยู่ในส่วนลึกของมิติ อยู่นอกกาลเวลาและช่องว่าง สถานที่ลักษณะเช่นนี้เรียกว่าช่องว่างมิติพิสุทธิ์ก็ไม่นับว่าเกินเลยไป”

หลังจากนั้น หลี่ชิเย่มองดูผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองทีหนึ่ง กล่าวขึ้นมาเฉยเมยว่า “ที่แท้พวกเจ้าเคยทำอะไรกับที่นี่เอาไว้ แม้ว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงสถานที่แห่งนี้ แต่ได้ล็อคช่องว่างและกาลเวลาของมันเอาไว้ จึงทำให้มันอยู่ที่จุดเชื่อมต่อของมิติ ดังนั้น ไม่ว่าโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรเกิดขึ้น ไม่ว่ายุคสมัยแปรเปลี่ยนไปแล้วกี่ยุคสมัย สถานที่แห่งนี้ยังคงอยู่เหมือนเดิม”

“ฮึ เจ้ารู้อะไรมาไม่น้อยเลยนี่” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองส่งเสียงฮึออกมาเบาๆ เมื่อหลี่ชิเย่สามารถสาธยายถึงความเร้นลับที่ซ่อนอยู่ภายใน

“ที่แท้นี่คือก้าวแรกที่เจ้าต้องการหวนกลับคืนสู่โลกนี้อีกครั้ง แม้ว่าภัยพิบัติเจ้าจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ว่า หากคิดจะออกมาจากผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองนั่น ยังต้องผ่านการชำระล้างให้บริสุทธิ์” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวกับผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลือง

“ถูกต้อง ข้าจำเป็นต้องออกมาจากผ้าเช็ดหน้าสีเหลือง มันไม่เพียงต้องการอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานมาก ยิ่งต้องการการชำระล้างที่บริสุทธิ์ยิ่งเพื่อทำให้บริสุทธิ์ มีเพียงทำเช่นนี้จึงสามารถแยกตัวออกมาได้อย่างแท้จริง และทำลายล้างคำสาป” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองกล่าวจริงจังขึ้นมา

หลี่ชิเย่หัวเราะและมองดูขวดหยกที่ลอยอยู่แอ่งน้ำนั้น เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ขวดใบนี้เรียกได้ว่าเป็นสิ่งยอดเยี่ยม เกรงว่าขวดหยกใบนี้จะต้องสร้างขึ้นมาด้วยมือของผู้ที่มีทักษะอยู่ในฐานะสูงสุดในยุคสมัยของเจ้า การที่ขวดใบนี้ถูกนำมาวางไว้ตรงนี้ต้องการดูดซับพลังแก่น ขจัดสิ่งแปลกปลอมและให้คงไว้เฉพาะส่วนที่เป็นแก่นแท้ ทำให้สามารถได้รับน้ำแก่นผลึกที่ดีที่สุด”

ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ มองดูแอ่งน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำ และกล่าวว่า “มีบันทึกกล่าวไว้ว่า ทุกๆ หนึ่งหมื่นปีผลึกพิสุทธิ์กาลเวลาถึงจะมีน้ำแก่นผลึกซึมออกมาได้เพียงหยดเดียว เวลานี้น้ำแก่นผลึกที่นี่ได้สะสมจนกลายเป็นแอ่งน้ำขึ้นมาแล้ว จากนั้นใช้ขวดหยกที่สามารถขจัดสิ่งแปลกปลอมและให้คงไว้เฉพาะส่วนที่เป็นแก่นแท้เอาไว้ ด้วยการดูดเอาน้ำแก่นผลึกที่ดีที่สุดบริสุทธิ์ที่สุดเข้าไปในขวด”

“นี่นับว่าเป็นของดีโดยแท้ ถ้าหากสามารถได้รับน้ำแก่นผลึกที่แก่นแท้และบริสุทธิ์ที่สุดในโลกเช่นนี้ ย่อมสามารถชำระล้างทุกสิ่งทุกอย่างได้จริง ไม่ว่าจะเป็นความมืดมิด เป็นพลังเช่นใด ไม่ว่าจะเป็นคำสาป หรือความชั่วร้ายอย่างไร เมื่อมีน้ำแก่นผลึกเช่นนี้แล้วก็สามารถทำให้มันบริสุทธิ์” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นช้าๆ

“เมื่อล้างคำสาปของข้าออกไปได้แล้ว ข้าจะได้หลุดพ้นจากผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองได้เร็วขึ้น และหวนกลับมาโลกนี้เร็วขึ้น สิ่งนี้กล่าวสำหรับเจ้าแล้วก็นับเป็นเรื่องดี”

“เรื่องนี้มันก็จริง เมื่อมีสิ่งนี้แล้วทำให้ข้าประหยัดเวลาข้าได้เยอะมากจริงๆ” เมื่อหลี่ชิเย่พูดมาถึงตรงนี้แล้วได้เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น และกล่าวว่า “แต่ว่าข้ากลับรู้สึกแปลกใจ ครั้งนั้นเจ้าไปพานพบอะไรมากันนะ เป็นใครที่แค้นเจ้าถึงเพียงนี้ ใช้วิธีเช่นนี้ทำให้เจ้าไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันไปตลอดกาล!”

“อาศัยความเข้าใจส่วนตัวของข้า การที่เจ้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ มันไม่ใช่การลงมือของสวรรค์โจรอย่างแน่นอน สวรรค์โจรต้องไม่ว่างขนาดนี้แน่” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้กล่าวว่า “ในเมื่อไม่ใช่สวรรค์โจร มันเป็นบุคคลที่ฝืนลิขิตปราศจากผู้เทียบเทียมคนใดนะที่ทำให้เจ้าต้องกลายเป็นจุดดำจุดหนึ่งภายในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองเท่านั้น”

“ฮึ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า” ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองส่งเสียงออกมาน่าเกรงขาม เมื่อเอ่ยถึงเรื่องในอดีต

แต่ว่า เฉกเช่นผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองนางมาจากยุคสมัยที่ดึกดำบรรพ์มาก นางเคยเป็นผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรยิ่งนัก แต่ว่า ท้ายที่สุดแล้วกลับต้องคำสาปของผู้อื่น ถูกขังเอาไว้ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองผืนหนึ่ง กลายเป็นจุดดำเล็กๆ จุดหนึ่งในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองตลอดไป

อย่างไรก็ตาม คำสาปลักษณะเช่นนี้แม้ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน ต่อให้ผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองถึงผนึกและชำระล้างให้บริสุทธิ์มาไม่รู้ว่านานเท่าไร แต่ว่า พลังอำนาจของคำสาปยังคงสามารถปนเปื้อนผืนแผ่นดิน สุดท้าย ส่งผลให้พรรคเทวะยอดเขาสวรรค์ต้องพินาศย่อยยับไป!

สามารถประเมินได้ว่า ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองในครั้งนั้นมีความน่ากลัวเช่นใด ขณะเดียวกันก็สามารถดูออกว่า ผู้ที่ลงมือต่อผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองนั้น ต้องมีความแค้นที่ลึกล้ำเช่นใดกับผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลือง

“เป็นความจริงที่ไม่เกี่ยวกับข้า” หลี่ชิเย่ทำท่ายักไหล่ยังไงก็ได้ กล่าวว่า “แต่ว่า ทุกอย่างล้วนแล้วแต่กลายเป็นเถ้าธุลีไปไม่คงอยู่อีกต่อไปแล้ว ต่อให้เจ้ามีความแค้นมากแค่ไหนในครั้งนั้นก็ไม่สามารถแก้แค้นได้อีก”

คำพูดประโยคนี้ทำให้ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองต้องตกอยู่ในสภาวะนิ่งเงียบ ข้อนี้หลี่ชิเย่พูดถูก ยุคสมัยของพวกเขาไม่ได้คงอยู่อีกต่อไป ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่กลายเป็นเถ้าธุลี ทุกอย่างได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว ทุกอย่างได้สูญหายไปในสายน้ำแห่งกาลเวลา

ต่อให้ครั้งนั้นมีความแค้นที่ยิ่งใหญ่เพียงใด มาวันนี้ทุกอย่างได้สูญสลายไปแล้ว ผู้คนในครั้งนั้นได้ตายไปนานแล้ว ต่อให้นางคิดอยากจะแก้แค้นจริงก็ไม่สามารถทำได้อีก

“สุดท้าย ผู้หญิงที่อยู่ในผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองกล่าวจริงจังออกมาว่า “ใส่ข้าลงไปในขวดหยกก็พอแล้ว”

หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ตามที่เจ้าปรารถนา หวังว่าเจ้าสามารถออกมาได้ในเร็ววัน สามารถสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ และหวนคืนสู่โลกใบนี้”

“ฮึ จะได้ทำงานให้เจ้าเร็วขึ้นน่ะสิ”

“เรื่องนี้ข้าไม่ปฏิเสธ” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “เจ้าบอกว่าเคล็ดวิชาที่เจ้าฝึกนั้นยอดเยี่ยมมากไม่ใช่รึ? หลังจากที่เจ้าสร้างกายเนื้อขึ้นมาได้ใหม่แล้ว ข้าอยากจะได้เห็นเป็นบุญตาสักหน่อย”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *