Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1607

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1607 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1607 เกี่ยวดองสมรสกัน

ระหว่างที่หลี่ชิเย่เป็นแขกอยู่ที่ตระกูลยวีนั้น พลันมหาสมุทรอุดรมีข่าวออกมาว่า เมืองสมุทรสยบฟ้าจะมีการเกี่ยวดองสมรสกันขึ้น โดยจื่อชุ่ยหนิงเจ้าเมืองเมืองสมุทรสยบฟ้าจะแต่งงานกับหลงอ้าวเทียน ผู้สืบทอดของพรรคเซียนเหิน! จื่อชุ่ยหนิงจะได้พบกับหลงอ้าวเทียน เพื่อหารือร่วมกันเรื่องการเกี่ยวดองสมรสกัน สถานที่พบอยู่ที่พื้นที่ของพรรคเซียนเหินในมหาสมุทรอุดร

พลันที่ข่าวนี้ถูกแพร่ออกมา ได้สร้างความฮือฮาไปทั่วหล้า ก่อนหน้านั้นเคยมีข่าวลือเรื่องเมืองสมุทรสยบฟ้าจะมีการเกี่ยวดองสมรสกันกับพรรคเซียนเหิน แต่ทว่า ข่าวลักษณะเช่นนี้ส่วนใหญ่มาจากแหล่งอื่นๆ ที่แพร่กันออกมา ไม่ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจากเมืองสมุทรสยบฟ้า และพรรคเซียนเหินแต่อย่างใด

ดังนั้น ก่อนหน้านี้แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากที่เชื่อในเรื่องนี้ แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มีท่าทีเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เวลานี้ ข่าวดังกล่าวได้รับการประกาศและยืนยันอย่างเป็นทางการจากเมืองสมุทรสยบฟ้า และพรรคเซียนเหินทั้งสองฝ่าย

เมื่อเป็นเช่นนี้ การเกี่ยวดองสมรสระหว่างเมืองสมุทรสยบฟ้า กับพรรคเซียนเหินจึงไม่เป็นเพียงการคาดเดาที่เป็นข่าวลือเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่จริงแท้แน่นอนเสียแล้ว

เมื่อยามที่ข่าวเรื่องดังกล่าวถูกแพร่ออกมา จึงทำให้สะเทือนหวั่นไหวไปทั่วหล้า และเป็นที่ฮือฮาไปทั่ว

“ในที่สุด สองผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคก็ตัดสินใจเลือกที่จะร่วมมือกันแล้ว“ แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิแห่งหนึ่งเมื่อได้ข่าวนี้แล้วยังคงต้องเหม่อลอย

ขอเพียงเป็นผู้ที่พอมีประสบการณ์บ้างก็รู้ได้ว่า เมื่อใดที่พรรคเซียนเหินเกี่ยวดองสมรสกับเมืองสมุทรสยบฟ้าแล้วจะเกิดผลอะไรขึ้นมา!

การร่วมมือกันระหว่างผู้ยิ่งใหญ่เป็นการบ่งบอกถึงปราศจากผู้ต่อกร หนึ่งนั้นคือหนึ่งสำนักห้าราชันเซียน อีกหนึ่งคือผู้ได้รับการเคารพสูงสุดมาสามยุค เมื่อไหร่ที่สองสำนักนี้ร่วมมือกัน ในโลกนี้ยังจะมีสำนักใด บุคคลใดสามารถสั่นคลอนต่อพันธมิตรลักษณะเช่นนี้ได้?

เว้นแต่ราชันเซียนยังคงมีชีวิตอยู่ มิฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าใครลงมือ ไม่ว่าสำนักใดลงมือก็ตาม ก็ไม่สามารถสั่นคลอนมันได้ ความเป็นพันธมิตรลักษณะเช่นนี้หากสำเร็จลุล่วงเมื่อไร ย่อมครองความเป็นเจ้าทั้งเก้าแดน!

พรรคเซียนเหินหลุดออกจากเก้าแดนนานถึงสามยุค เมื่อปรากฏตัวอีกครั้งจึงเป็นความจริงที่พวกเขาต้องการพึ่งพาอาศัยสำนักที่ได้รับการเคารพสูงสุดอย่างเมืองสมุทรสยบฟ้า การที่สำนักแข็งแกร่งร่วมมือกับสำนักแข็งแกร่งด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างพึ่งพาอาศัยกันและกัน บนโลกใบนี้ ไม่มีพันธมิตรร่วมที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบมากไปกว่านี้อีกแล้ว” ต่อให้เป็นจักรพรรดิเทพรุ่นอาวุโสเมื่อได้ยินข่าวนี้แล้ว ยังต้องมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เมื่อไหร่ที่พันธมิตรลักษณะเช่นนี้ร่วมมือเป็นผลสำเร็จ ในเก้าแดนจะไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานพวกเขาได้ ไม่ว่าสำนักใดก็อย่าได้หวังไปต่อกรกับพวกเขาอีกเลย!

ที่แสดงปฏิกิริยาออกมามากที่สุดคงหนีไม่พ้นบรรดาสำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากที่อยู่ในมหาสมุทรอุดร การปรากฏตัวของพรรคเซียนเหินในมหาสมุทรอุดรก็เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการเห็นอยู่แล้ว เวลานี้ ยังจับมือกับเมืองสมุทรสยบฟ้าอีก ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองดำรงอยู่ในมหาสมุทรอุดรเช่นนี้ มันเป็นการบีบอัดช่องว่างแห่งความอยู่รอดของบรรดาสำนักเจ้าลัทธิทั้งหมดที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอุดรให้แคบลงไปอีก

การเป็นพันธมิตรของสองผู้ยิ่งใหญ่ เป็นการบ่งบอกว่าทุกอย่างในมหาสมุทรอุดรล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับพวกเขา สำนักเจ้าลัทธิทั้งหมดในมหาสมุทรอุดรจะต้องเชื่อฟังคำจากเมืองสมุทรสยบฟ้าและพรรคเซียนเหิน มิฉะนั้นล่ะก็ พวกเขาสามารถทำให้สำนักใดสำนักหนึ่งกลายเป็นเถ้าธุลีไปภายในชั่วข้ามคืน

บรรดาสำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากในมหาสมุทรอุดรไม่ต้องการเห็นสถานการณ์เช่นนี้ แต่ว่า ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้!

ยามที่ข่าวนี้ถูกแพร่สะพัดออกมาแล้วก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่คุยกันอย่างออกรสออกชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ยิ่งต้องการพูดคุยถึงเรื่องนี้ มุมมองที่พวกเขาพูดถึงไม่ได้พูดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการจับมือเป็นพันธมิตรต่อกันของสองผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขาพูดคุยกันถึงแง่มุมของความสัมพันธ์ส่วนตัวของชายหญิง

“การเป็นพันธมิตรระหว่างกันของเทพธิดาสยบฟ้า กับหลงอ้าวเทียน? มันคือคู่สร้างคู่สมกัน เป็นกิ่งทองใบหยก ไม่มีอะไรเหมาะสมมากไปกว่านี้อีกแล้ว” กลุ่มคนรุ่นใหม่ยินดีที่ได้เห็นการเกี่ยวดองสมรสในลักษณะเช่นนี้ โดยเฉพาะผู้ที่เลื่อมใสต่อหลงอ้าวเทียน ยิ่งมีความรู้สึกว่าไม่มีอะไรเหมาะสมมากไปกว่าการเกี่ยวดองสมรสเช่นนี้อีกแล้ว

“ได้ข่าวว่า ขณะที่เทพธิดาสยบฟ้าอยู่ที่เมืองร้อยเมืองบูรพาเคยใกล้ชิดอยู่กับคนโหดอันดับหนึ่งมากทีเดียวระหว่างอยู่ที่หอวิถีฟ้าเคยมีข่าวว่าเทพธิดาสยบฟ้ากับคนโหดอันดับหนึ่งมีความสัมพันธ์เป็นคู่รักกันน่ะเนี่ย” และมีคนสาระเนขึ้นมา

“ฮึ แม้ว่าคนโหดอันดับหนึ่งจะมีความฮึกเหิมที่รุนแรง และมีความแข็งแกร่งจริง แต่ว่า ยุคนี้เป็นยุคที่ว่ากันด้วยชาติกำเนิด คนโหดอันดับหนึ่งมีชาติกำเนิดมาจากสำนักโบราณสี่เหยียน มันก็แค่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาเท่านั้น ขณะที่หลงอ้าวเทียนนั้นต่างกัน หลงอ้าวเทียนมีชาติกำเนิดเป็นพรรคเซียนเหิน มีสายเลือดของราชันเซียน ทั้งยังรวบรวมจุดเด่นห้าราชันเซียนเอาไว้ในตัว ชาติกำเนิดสูงส่ง เรียกได้ว่าปราศจากผู้เทียบเทียม หาใช่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาเช่นหลี่ชิเย่สามารถเทียบเคียงได้…” ผู้บำเพ็ญตนอนุรักษ์นิยมกล่าวด้วยท่าทีดูแคลน

“…ด้วยชาติกำเนิดอันสูงส่งของเทพธิดาสยบฟ้า แน่นอน ย่อมต้องคู่กับหลงอ้าวเทียนที่มีความเป็นกษัตริย์หนึ่งไม่เป็นสองรองใครที่เป็นบุรุษผู้สูงส่งอยู่แล้ว หลี่ชิเย่เป็นเพียงผู้ที่ร่ำรวยขึ้นมาในชั่วข้ามคืนเท่านั้น ต่อให้โชควาสนาสูงส่งมากกว่านี้ก็ไม่คู่ควรกับเทพธิดาสยบฟ้าที่มีชาติกำเนิดเช่นนี้”

มีผู้ที่ไม่สบอารมณ์กับผู้บำเพ็ญตนที่มีลักษณะมองตนเองว่าสูงส่งกว่าคนอื่น โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เลื่อมใสในตัวของหลี่ชิเย่ จึงได้กล่าวว่า ชาติกำเนิดสูงส่งแล้วไง ฮึ คนโหดอันดับหนึ่งเหยียดหยามผู้ที่ถือว่ามีชาติกำเนิดอะไรนั่น กล้าเป็นศัตรูกับเขา ต่อให้เป็นบุตรราชันเซียน บุตรีราชันเซียนเขาก็จับเชือดดั่งไก่หรือสุนัข ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง”

“นั่นน่ะสิ” ผู้บำเพ็ญตนไร้สังกัดจำนวนมากที่มีชาติกำเนิดเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาจึงมีศัตรูร่วมกัน กล่าวว่า “มีชาติกำเนิดสูงส่งแล้วเก่งนักรึ ข้างกายของคนโหดอันดับหนึ่งไม่เคยขาดผู้หญิงอยู่แล้ว ผู้หญิงสูงศักดิ์ องค์หญิงที่มีฐานะสูงส่งจำนวนเท่าไรที่ต่างยินดีแต่งงานกับคนโหดอันดับหนึ่ง เช่น เทพธิดาเหมย ไป๋เจี้ยนเสิน พวกนางใครบ้างที่ไม่ได้มีชาติกำเนิดมาจากสายสำนักราชันเซียน พวกนางล้วนแล้วแต่ยินดีติดตามคนโหดอันดับหนึ่งเหมือนกัน…”

ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่มาจากสำนักขนาดเล็ก โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญตนไร้สังกัด พวกเขาเกลียดที่สุดก็คือ การได้ยินคำพูดลักษณะวิพากวิจารณ์ถึงเรื่องชาติกำเนิดสูงส่งจากผู้บำเพ็ญตนที่มีชาติกำเนิดจากสำนักเจ้าลัทธิเหล่านี้ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว การวิพากวิจารณ์เช่นนี้เป็นการทำให้พวกเขาต้องอัปยศอดสู

ขณะที่สำนักโบราณสี่เหยียนเป็นสำนักที่เสื่อมลงแล้ว การที่หลี่ชิเย่มีชาติกำเนิดเป็นสำนักโบราณสี่เหยียน ผู้บำเพ็ญตนจากสำนักขนาดเล็กจำนวนมากมองว่า ความสำเร็จของหลี่ชิเย่เป็นการตอบโต้กลับอย่างหนึ่งของบรรดาผู้บำเพ็ญตนที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อยเหล่านี้ สิ่งนี่กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว พวกเขาถือเอาหลี่ชิเย่เป็นความภาคภูมิใจ อาศัยหลี่ชิเย่เป็นเกียรติ!

“ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น อาศัยผลงานของคนโหดอันดับหนึ่ง ผู้หญิงมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เทพธิดาหรือองค์หญิงอะไรนั่น เขากวักมือตามอารมณ์ออกไปก็ได้แล้ว“ มีผู้บำเพ็ญตนที่กล่าวด้วยความไม่พอใจออกมาว่า การที่เทพธิดาสยบฟ้าแต่งงานกับหลงอ้าวเทียนก็แค่เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างสำนักทั้งสองเท้านั้น ไม่แน่นักนางอาจะไม่ได้ชอบหลงอ้าวเทียนเลย เกรงว่าคนที่นางชอบยังคงเป็นคนโหดอันดับหนึ่งที่เรียนหนังสือด้วยกันสมัยอยู่ที่หอวิถีฟ้า จะอย่างไรเสีย คนโหดอันดับหนึ่งจึงจะเป็นความรักครั้งแรกของเทพธิดาสยบฟ้า…”

จากการถกเถียงกันเช่นนี้ที่เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายนำมาซึ่งข่าวซุบซิบต่างๆ นานาขึ้นที่มหาสมุทรอุดร เมื่อลือกันถึงที่สุดแล้ว หลายคนบอกว่าเทพธิดาสยบฟ้าและคนโหดอันดับหนึ่งได้มีการหมั้นหมายกันเองก่อนหน้านั้นแล้วตั้งแต่เมื่อครั้งอยู่ที่หอวิถีฟ้า เวลานี้ที่นางจะแต่งงานกับหลงอ้าวเทียนเป็นเพียงทำเพื่อผลประโยชน์ของสำนักเท่านั้น และถูกบรรพบุรุษของสำนักบีบบังคับ นางจึงยอมแต่งงานกับหลงอ้าวเทียน

“ฮึ ข้าได้ยินมาว่า คนโหดอันดับหนึ่งจะไปชิงตัวเจ้าสาวที่พรรคเซียนเหิน เขาจะต้องแย่งเอาเทพธิดาสยบฟ้ากลับคืนมาแน่นอน” ไม่รู้ว่าเป็นการปล่อยข่าวอย่างลับๆ จากผู้บำเพ็ญตนคนไหน และไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร หรือต้องการแกล้งทำให้มันดูลึกลับ สรุปก็คือ ข่าวนี้ถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว

“ชิงตัวเจ้าสาว เรื่องจริงรึ?” หลายคนรู้สึกตะลึงเมื่อได้ยินข่าวเช่นนี้

“จริงแท้แน่นอน ลองคิดดูนะ คนโหดอันดับหนึ่งเป็นใคร? เขาเคยกลัวใครมาก่อนรึ? กล่าวสำหรับเขาแล้วพรรคเซียนเหินนับเป็นตัวอะไร หลงอ้าวเทียนนับเป็นตัวอะไร เมืองสมุทรสยบฟ้านับเป็นตัวอะไร! หลงอ้าวเทียนถึงกับหาญกล้าแย่งชิงผู้หญิงของเขา เขาไม่ทำลายพรรคเซียนเหิน ไม่ได้แล้วล่ะ ทำให้คนโหดอันดับหนึ่งต้องโกรธ ไม่แน่นักแม้แต่เมืองสมุทรสยบฟ้าก็ถูกทำลายไปในคราเดียวกันนี่แหละ!” คนที่ได้ยินข่าวนี้พูดยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะกับพรรคพวกที่อยู่ข้างๆ

มีคนที่แกล้งปล่อยข่าวเช่นนี้ ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่ได้ข่าวนี้ต่างรู้สึกว่ามันมีเหตุผล ทุกคนต่างรู้ดีถึงอารมณ์ของคนโหดอันดับหนึ่ง ใครกล้าขวางทางของเขา ฆ่าไม่มีละเว้น ใครกล้าเป็นศัตรูกับเขา ฆ่าไม่มีละเว้น!”

นับตั้งแต่คนโหดอันดับหนึ่งเข้าสู่ยุทธภพเป็นต้นมา เขาเคยกลัวใครอย่างนั้นรึ? โลกนี้ไม่มีเรื่องใดที่เขาไม่กล้าทำ เวลานี้ หลงอ้าวเทียนบังอาจแย่งชิงผู้หญิงของเขา หากเขาไม่พลิกพรรคเซียนเหินจนคว่ำนับเป็นเรื่องแปลก

“คนโหดอันดับหนึ่งจะต้องจัดการพลิกพรรคเซียนเหินจนคว่ำแน่นอน!” บรรดาบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิจำนวนมากในมหาสมุทรอุดรล้วนแล้วแต่ยินดีที่ได้เห็นเรื่องราวพัฒนาไปในทิศทางเช่นนี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่จนด้วยเกล้ากับเรื่องการเกี่ยวดองสมรสระหว่างกันของพรรคเซียนเหิน กับเมืองสมุทรสยบฟ้า แต่หากว่าในเวลานี้คนโหดอันดับหนึ่งกระโดดเข้ามาทำเรื่องให้ป่วน มันคือสิ่งที่ทุกคนอยากจะเห็น

เมื่อข่าวนี้ถูกลือกันจนเดือดปุดๆ ในมหาสมุทรอุดรนั้น ข่งเชียะหมิงหวางพลันได้ข่าวนี้ก็นำข่าวนี้ไปรายงานต่อหลี่ชิเย่

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ นิดหนึ่งเท่านั้น เมื่อได้ยินข่าวการเกี่ยวดองสมรสของเมืองสมุทรสยบฟ้าและพรรคเซียนเหิน

“เกรงว่าคงเป็นการบีบบังคับท่านเจ้าเมืองให้ตอบตกลงเรื่องการแต่งงานครั้งนี้ เพราะอำนาจของเจ้าเมืองถูกลอยแพไปแล้ว” ข่งเชียะหมิงหวางกล่าวด้วยความกังวล

“มีข้าอยู่ทั้งคน เล่ห์กลเล็กๆ ของกู้จุนใช้การอะไรไม่ได้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวท่าทีเรียบเฉยออกมา

ข่งเชียะหมิงหวางได้แต่พยักหน้าเงียบๆ อาศัยกำลังของนางเองไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ หากจะเปลี่ยนแปลงคงต้องหวังพึ่งหลี่ชิเย่เสียแล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว ข่งเชียะหมิงหวางจ้องมองดูหลี่ชิเย่อ้าปากเหมือนจะพูด แต่ สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“มีเรื่องอะไรก็พูดออกมาเถอะ” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยเมื่อมองเห็นข่งเชียะหมิงหวางที่ทำท่าจะพูดแต่ไม่พูด

ข่งเชียะหมิงหวางได้แต่หัวเราะเจื่อนๆ ท่าทีดูประหลาด มองดูหลี่ชิเย่แล้วสุดท้ายจึงกล่าวว่า “ข้างนอกเขาลือกันว่า คุณชายกับท่านเจ้าเมืองเคยหมั้นหมายกันเองตั้งแต่ครั้งอยู่ที่หอวิถีฟ้ามาแล้ว หลายคนจึงคาดเดาว่า คราวนี้คุณชายจะต้องไปชิงตัวเจ้าสาวที่พรรคเซียนเหินแน่นอน”

“มันเป็นการจงใจปล่อยข่าวของสำนักเจ้าลัทธิบางแห่ง” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมา กล่าวว่า “งั้นก็ดี ในเมื่อทุกคนอยากจะเห็นความครึกครื้น งั้นทำไมข้าจะไปชิงตัวเจ้าสาวไม่ได้ จะอย่างไรเสีย ครึกครื้นสิดี”

หลี่ชิเย่ย่อมเข้าใจ เรื่องนี้เป็นผู้ที่อยู่ในมหาสมุทรอุดรต้องการให้คนโหดอันดับหนึ่งมาทำป่วน แน่นอน กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้วอย่างไงก็ได้ไม่มีปัญหา ในเมื่อกู้จุนพุ่งเป้ามาที่ตัวของเขา เขาก็ยินดีที่จะทำลายความเป็นพันธมิตรเช่นนี้เสีย

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้รับรายงานจากข่งเชียะหมิงหวางแล้ว ก็ได้ไปพบกับยวีไท่จวิน

ยวีไท่จวินเองก็ได้ทราบข่าวนี้แล้วเช่นกัน เมื่อนางพบกับหลี่ชิเย่แล้วจึงกล่าวว่า “นี่เป็นการจงใจทำของกู้จุนกระมัง เขาต้องการลากเอาพรรคเซียนเหินลงน้ำด้วย ต้องการอาศัยกำลังของพรรคเซียนเหินมาต่อต้านกับใต้เท้า”

“ข้ารู้” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง กล่าวว่า “ในใจของกู้จุนย่อมเข้าใจเป็นอย่างดี อาศัยตัวเขาลำพังคนเดียวไม่สามารถรับมือกับข้าได้ เขาจำเป็นต้องดึงพันธมิตรมาร่วม พันธมิตรที่ดีที่สุดย่อมไม่มีใครดีไปกว่าพรรคเซียนเหิน ในเก้าแดนยังจะมีสำนักใดแข็งแกร่งไปกว่าพรรคเซียนเหิน รึ?”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *