หลี่ชิเย่นั่งรอคอยเงียบๆ อยู่ข้างบ่อน้ำ ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวก็นั่งรอเงียบๆ อยู่ตรงนั้นเช่นกัน รอคอยโอกาสที่จะมาถึง

หลี่ชิเย่ในเวลานี้ห่างไกลจากความวุ่นวายทางโลก เขาไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่โลกภายนอกทั้งสิ้น และไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่ข้างบ่อน้ำเข้าฌานและปล่อยจิตใจให้ล่องลอย ทำการวิวัฒนาการสรรพสิ่งบนโลก บรรลุความลับที่สุดยอด กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้ว เขาสามารถเข้าฌานและปล่อยจิตให้ล่องลอย และบรรลุสุดยอดความลับได้ทุกที่ทุกเวลา

ความจริงแล้ว หลี่ชิเย่ไม่กลัวถูกคนมารบกวนขณะเข้าฌานและปล่อยจิตให้ล่องลอยอยู่แล้ว เนื่องจากเขามีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ไม่อาจสั่นคลอนได้ กล่าวสำหรับเขาแล้ว ต่อให้มีผู้ที่มาทำให้การเข้าฌานและปล่อยจิตให้ล่องลอยของเขาต้องสะดุดก็จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับเขา เขาสามารถกลับคืนสติได้โดยฉับพลันจากการเข้าฌานนั่น ไม่ทำให้ธาตุไฟเข้าแทรกอยู่แล้ว

เพียงแต่ตอนนั้นขณะอยู่ด้านนอกหวู่ปิงหนิงกับหลินซิม่อไม่ทราบถึงเรื่องนี้ ดังนั้น จึงได้เสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเขา

ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวก็เข้าฌานและปล่อยจิตให้ล่องลอยอยู่ที่นั่นเช่นกัน ขณะที่มันเข้าฌานและปล่อยจิตให้ล่องลอยอยู่นั้น บนตัวของเขามีประจุไฟฟ้าวิ่งผ่านเป็นระยะๆ ขณะที่ประจุไฟฟ้าวิ่งผ่านไปนั้น สามารถได้ยินเสียงดังเปรียะ เปรียะขึ้นมาไม่ขาดสาย

ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวคือปี้โซ่วจำพวกหนึ่ง แต่ต่างจากสิงสาราสัตว์และวิหกที่อยู่ด้านนอก กล่าวได้ว่า ปี้โซ่วคือสิ่งมีชีวิตที่มีเฉพาะในเงินทองตกพื้น ต้นกำเนิดของพวกมันเป็นปริศนา

ขณะที่ตัวของปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวเองนั้นมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่งในตัวของมันเองอยู่แล้ว คือราชาแห่งปี้โซ่ว เพียงพอที่จะเกรียงไกรไปทั่วทุกแห่งหน ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีสายเลือดของขุยหนิวกับฮว่าเสอในตัวขณะเดียวกัน กล่าวได้ว่าพลันที่มันถือกำเนิดเกิดขึ้นก็ถูกลิขิตเอาไว้แล้วว่ามีความเป็นทายาทของกษัตริย์ปราศจากผู้เทียบเทียม

แต่ว่า ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวก็จะแตกต่างกับสัตว์เทพที่แท้จริง เฉกเช่นขุยหนิว ฮว่าเสอที่เป็นสัตว์เทพ เมื่อก้าวไปถึงระดับนั้นแล้ว สติปัญญาของพวกมันก็จะไม่ธรรมดา กระทั่งเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน

จะอย่างไรเสีย ท้ายที่สุดแล้วปี้โซ่วก็เทียบไม่ได้กับสัตว์เทพอยู่ดี ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวก็นับว่ามีความแข็งแกร่งอย่างยิ่งแล้ว แต่ยังคงไม่ได้เบิกปัญญา ยังคงเป็นปี้โซ่วตัวหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น ในระดับที่สูงมากการกระทำของมันยังคงอาศัยสัญชาตญาณอยู่เสมอๆ และเป็นเช่นนี้กระทั่งการฝึกฝน

สาเหตุที่ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวมาที่นี่เป็นเพราะที่นี่มีโอกาสและโชคชะตาอย่างหนึ่ง บางทีโอกาสและโชคชะตาของที่นี่สามารถทำให้มันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หลุดจากการเป็นสัตว์

ส่วนที่ว่าโอกาสและโชคชะตาของที่นี่คืออะไรนั้น ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวก็อธิบายไม่ถูก บอกได้แต่เพียงสัญชาตญาณบอกมันว่าโอกาสและโชคชะตาก็คือสถานที่แห่งนี้

ดังนั้น ทุกๆ ครั้งที่ปรากฏตัวออกมามันก็ต้องการชิงเอาสถานที่แห่งนี้มา แต่ไม่เคยทำได้สำเร็จ มาคราวนี้ได้รับความช่วยเหลือจากหลี่ชิเย่ มันจึงประสบผลสำเร็จมาได้

บุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม…ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ในที่สุดน้ำใสสะอาดที่อยู่ในบ่อน้ำได้มีความเคลื่อนไหวแล้ว ท่ามกลางเสียงบุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม มองเห็นใต้บ่อปรากฏฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาตลอดเวลา

ท่ามกลางเสียงฟองอากาศที่ดังบุ๋ม บุ๋ม บุ๋มนั้น มองเห็นก้นบ่อได้ปรากฏฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาอีกเป็นระลอกๆ ติดต่อกัน ไอรีนโนเวล

ตามหลักแล้ว เมื่อฟองอากาศผุดขึ้นมาจากก้นบ่อแล้วมันควรจะโผล่ขึ้นเหนือน้ำ จากนั้นก็จะแตกออก แต่ทว่าฟองอากาศเป็นระลอกที่ว่าหลังจากผุดขึ้นมาจากก้นบ่อแล้ว มันกลับไม่ลอยโผล่ขึ้นผิวน้ำ แต่กลับจมลงสู่ก้นบ่อทีละฟองๆ

เมื่อเอามือไปช้อนมันขึ้นมา ก็จะพบว่าฟองอาการศแต่ละฟองถึงกับกลายเป็นเหมือนลูกแก้วน้ำ ฟองอากาศแต่ละฟองถึงกับมีลักษณะ นิ่มๆ เหมือนว่าขณะที่ฟองน้ำเหล่านี้เมื่อผุดขึ้นมาจากก้นบ่อแล้วก็หลอมรวมเข้ากับน้ำที่ใสสะอาดกลายเป็นลูกแก้วน้ำ เมื่อเป็นเช่นนี้ ฟองน้ำแต่ละฟองจึงไม่โผล่ขึ้นเหนือน้ำ และยิ่งไปกว่านั้นจะไม่แตกอีกด้วย มันได้แต่ลอยล่องอยู่ในน้ำ

ฮือออ…ขณะที่ฟองอากาศผุดขึ้นมานั้น ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวก็ได้กลับออกจากการเข้าฌานมาแล้ว มองดูฟองอากาศภายในบ่อที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มันตื่นเต้นดีใจคำรามเสียงต่ำออกมาทีหนึ่ง

เสียงฟองอากาศที่ดังบุ๋ม บุ๋ม บุ๋มไม่ขาดสาย ภายในระยะเวลาอันสั้น ภายในบ่อน้ำปรากฏมีฟองอากาศเต็มบ่อไปแล้ว จะว่าไปแล้วก็นับเป็นเรื่องแปลก เมื่อปรากฏฟองอากาศจำนวนนับไม่ถ้วนที่ลอยล่องอยู่ในบ่อน้ำนั้น น้ำที่ใสสะอาดภายในบ่อกลับไม่ล้นออกมา ไม่มีกระทั่งร่องรอยของน้ำที่เอ่อล้นออกมาแม้แต่น้อย เหมือนว่าแม้จะมีฟองอากาศถมจนเต็มบ่อ น้ำสะอาดในบ่อก็จะไม่มีการล้นออกมาแม้แต่น้อย

ท่าทางของปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวเหมือนอดทนรอต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เมื่อมองเห็นฟองอากาศที่มีเต็มบ่อนั่น เหมือนต้องการกระโดดลงไปในบ่อทันทีอย่างนั้น แต่มันยังคงมองไปที่หลี่ชิเย่

เวลานี้ หลี่ชิเย่จึงได้ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ มองดูบ่อน้ำที่มีฟองอกาศเต็มปรี่ ยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “นี่ก็คือวาสนาอย่างหนึ่ง เอาเถอะ ให้โอกาสเจ้าสักครั้งก็แล้วกัน เจ้าลงไปแช่ก่อนก็แล้วกัน หาไม่แล้วหากข้าลงมือไปแล้วเจ้าก็จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป”

ฮือออ…เมื่อปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่แล้วดูจะตื่นเต้นดีใจอย่างยิ่ง ร้องเสียงดังขึ้นมา จากนั้นได้ยินเสียงช่าาาดังขึ้น มันได้กระโดดลงไปทั้งตัวโดยพลัน ทำให้น้ำที่กระเซ็นแตกกระจายขึ้นสูงมาก

“จำเป็นต้องตื่นเต้นดีใจขนาดนี้รึ?” เมื่อหลี่ชิเย่มองเห็นปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวกระโดดลงไปบ่อน้ำชนิดที่เรียกว่ารอต่อไปไม่ได้ ถึงกับหัวเราะและส่ายหน้า

การตื่นเต้นดีใจของปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวก็เป็นส่วนของการตื่นเต้นดีใจ แต่เมื่อมันได้แช่อยู่ในน้ำแล้ว มันสามารถเริ่มต้นเข้าฌานได้อย่างรวดเร็ว

เปรียะ…จังหวะที่ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวแช่อยู่ในน้ำนั้น ถึงกับปรากฏขนที่ละเอียดยาวออกมาทั่วตัว แต่เมื่อสังเกตดูให้ละเอียดแล้วมันหาใช่เป็นขนยาวขนาดเล็ก แต่มันคือประจุไฟเป็นสายๆ

มันคือประจุไฟที่มีขนาดเล็กมากที่โผล่ออกมาจากภายในร่างของปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิว คล้ายเป็นเส้นขนยาวๆ ที่มีขนาดเล็กมาก อีกทั้งแต่ละเส้นตั้งตรง เมื่อมองดูแล้วมันจึงคล้ายเป็นเข็มยาวๆ ขนาดเล็กอย่างนั้น

จะว่าไปแล้วก็นับเป็นเรื่องแปลก ประจุไฟที่มีขนาดเล็กยาวและตั้งตรงนี้เมื่อแตะกับฟองอากาศแล้วนั้น มันเหมือนแทงทะลุจนฟองอากาศแตกอย่างนั้น กระทั่งผู้คนได้ยินเสียงประจุไฟดังเปรียะ เปรียะ เปรียะ

จังหวะที่ประจุไฟที่มีขนาดเล็กยาวและตั้งตรงนี้ได้แทงทะลุเข้าไปในฟองอากาศแล้ว ฟองอากาศได้กลายเป็นสีดำอย่างช้าๆ เมื่อมองดูให้ละเอียดอีกนิดก็จะพบว่า ใช่ว่าฟองอากาศได้กลายเป็นสีดำ แต่เป็นเพราะประจุไฟได้นำเอาของเหลวที่มีสีดำดั่งหมึกออกมาจากภายในร่างกายของปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิว

เมื่อของเหลวลักษณะเช่นนี้ถูกประจุไฟนำออกมาจากร่างกายของปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวและไหลเข้าไปในฟองอากาศแล้ว ของเหลวที่เป็นสีดำพลันกระจายตัวออกภายในฟองอากาศ ทำให้ฟองอากาศแตะละฟองกลายเป็นเหมือนลูกแก้วสีดำแต่ละลูกอย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม ของเหลวที่มีสีดำเข้มข้นดั่งหมึกนี้ ได้ทำให้ฟองอากาศที่กลายเป็นลูกแก้วสีดำนั้นดูไปแล้วคล้ายเป็นไข่มุกแต่ละเม็ดที่มีสีดำ

ว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องแปลก เมื่อฟองอากาศแต่ละฟองถูกของเหลวที่มีสีดำฉีดเข้าไปจนเต็มแล้ว มันถึงกับค่อยๆ ลอยตัวขึ้นและโผล่พ้นผิวน้ำในที่สุด ได้ยินเสียงปุเสียงหนึ่งดังขึ้น ฟองอากาศแต่ละฟองนี้ถึงกับแตกละเอียด

อย่างไรก็ตาม ของเหลวที่มีสีดำในฟองอากาศไม่ได้ไหลลงไปในบ่อน้ำ มันกลายเป็นควันดำลอยขึ้นไปในอากาศ อีกทั้งเมื่อของเหลวที่มีสีดำปรากฏออกมาอยู่ท่ามกลางอากาศ ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้นมาไม่ขาดสาย เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังเผาไหม้ของเหลวที่มีสีดำเหล่านี้อย่างนั้น เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ของเหลวที่มีสีดำที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศล้วนแล้วแต่ถูกเผาไปจนไม่เหลือ

ยิ่งปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวลงไปแช่เป็นเวลานานมากเท่าไร ก็จะมีฟองอากาศที่ลอยขึ้นมามากขึ้นๆ และแตก พร้อมกับของเหลวที่มีสีดำที่ล่องลอยขึ้นไปในอากาศ และตามติดด้วยการถูกเผาไหม้จนสิ้น

ไม่ว่าจะมีฟองอากาศลอยโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำและแตกไป แต่ฟองอากาศภายในบ่อน้ำก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เนื่องจากหลังฟองอากาศแตกไปแล้ว ก้นบ่อก็จะปรากฏฟองอากาศใหม่ขึ้นมาทันที

ยิ่งปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวลงไปแช่เป็นเวลานานมากเท่าไร ของเหลวที่ออกจากตัวของมันเริ่มมีสีที่เปลี่ยนเป็นจางลงเรื่อยๆ สุดท้าย ไม่มีของเหลวที่มีสีดำออกมาจากตัวของมันอีกต่อไป

ได้ยินเสียงสายฟ้าแลบดังเปรียะขึ้นมา ประจุไฟที่เหมือนขนยาวบนตัวทยอยกันหายไป หลังจากผ่านไปอีกครู่ใหญ่ ได้ยินเสียงเปรียะดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง มองเห็นบนตัวของปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวมีสายฟ้าแลบออกมาอีกครั้ง แต่ทว่า สายฟ้าแลบที่วิ่งพรวดออกมาครั้งนี้มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง สายฟ้าที่แลบออกมาในครั้งนี้เสมือนดังเป็นเส้นสีทองเป็นสายๆ ส่งประกายสีทองแวบวับ ประจุไฟทุกๆ ประจุคล้ายสร้างขึ้นมาจากทองคำแท้อย่างนั้น

เสียงช่าาาดังขึ้น สุดท้าย ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวได้พุ่งตัวขึ้นมาจากบ่อน้ำทันที ร่างกายของมันปรากฎฟ้าแลบสีทองแวบวับไปทั่วร่าง ภายใต้สายฟ้าแลบสีทองที่ส่องสะท้อน แม้แต่ผิวหนังของมันก็กลับกลายเป็นสีทอง มันได้กลายเป็นปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวทองคำตัวหนึ่งอย่างนั้น ทั่วทั้งร่างของมันได้แผ่กระจายกลิ่นอายที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองออกมา ดูจะมีอำนาจและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งมีความเป็นทายาทของกษัตริย์มากกว่าเดิม เหมือนว่าสายเลือดของมันไม่มีสิ่งใดสามารถเทียบเคียงได้อย่างนั้น

หลังจากปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวกระโดดขึ้นมาจากน้ำแล้วได้ตบอกตัวเองดังปัง ปัง ปัง เหมือนเป็นลั่นกลองที่ดังเกริกก้อง เหมือนฟ้าผ่าที่สยบจิตใจของผู้คน

โหหห โหหห โหหหในขณะนี้ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวได้ส่งเสียงร้องดังกับหลี่ชิเย่ เสียงที่ออกมาจากลำคอของมันเหมือนเป็นเสียงของมนุษย์อย่างนั้น ในเวลานี้เองปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว เมื่อใดที่มันสามารถออกจากความเป็นสัตว์ล่ะก็ เป็นการบ่งบอกว่ามันไม่เพียงมีการเบิกปัญญาเท่านั้น แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางของปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวที่ดีใจถึงเพียงนั้น ยิ้มกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นจริงๆ รอให้เจ้าออกจากความเป็นสัตว์ บางทีอาจมีสักวันที่เจ้าสามารถออกไปจากที่นี่ ไปดูโลกภายนอก แน่นอน หนทางยังอีกยาวไกล ไม่แน่เสมอไปว่าในอนาคตจะต้องประสบผลสำเร็จ”

เมื่อปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่แล้ว ก็ใช่ว่าจะฟังรู้มากเป็นพิเศษ

เวลานี้หลี่ชิเย่ไม่สนใจปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวอีกแล้ว ยื่นมือออกไป ได้ยินเสียงช่าาาดังขึ้นเสียงหนึ่ง ฟองอากาศที่อยู่ในน้ำทั้งหมดได้แยกตัวออกจากบ่อน้ำ ฟองอากาศทั้งบ่อล้วนแล้วแต่ล่องลอยอยู่กลางอากาศ

เมื่อมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่กดทับลงมา ได้ยินเสียงคร๊ากกก คร๊ากกก คร๊ากกกดังขึ้น บ่อน้ำเกิดแตกร้าวขึ้นมาทีละนิดๆ สุดท้าย ได้ยินเสียงดังปังเสียงหนึ่ง บ่อน้ำได้พังทลายลงทั้งหมด

ช่าาาเมื่อบ่อน้ำแตกละเอียดไปแล้ว หลังปรากฏเสียงน้ำดังขึ้น จึงพบว่าใต้บ่อน้ำถึงกับมีวังวนที่มีขนาดเท่าคันฉ่อง โดยที่วังวนดังกล่าวมีความใสเป็นประกายงดงามยิ่ง

ได้ยินเสียงดังปุ วังวนนี้ถูกหลี่ชิเย่ดึงให้แยกออกมาจากปฐพี จากนั้น มือขนาดใหญ่ได้ดูดเอาฟองอากาศทั้งหมดเข้ามา ได้ยินเสียงบุ๋ม บุ๋ม บุ๋มดังขึ้น ฟองอากาศทั้งหมดเสมือนดั่งเกี้ยวที่ถูกเทลงหม้ออย่างนั้น ถูกวังวนดูดเข้าไปทั้งหมด

สุดท้าย ได้ยินเสียงช่าาาขึ้นมาเสียงหนึ่ง วังวนได้หยุดหมุนและค่อยๆ รวมตัวจนกลางเป็นฟองอากาศที่มีขนาดใหญ่มากฟองหนึ่ง ฟองอากาศดังกล่าวส่งแสงระยิบระยับ มองดูมีส่วนคล้ายเป็นลูกคริสตัล

ดวงตาของหลี่ชิเย่เพ่งไปข้างหน้า มองดูฟองอากาศที่คล้ายลูกคริสตัลในมือ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “การมาครั้งนี้สิ่งที่ต้องการก็ได้มาแล้ว ได้เวลาพบหน้ากันสักครั้งได้แล้ว” กล่าวพลาง มีท่าทีดูหนักแน่น

…………………………………………….