Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1674 ท่าโจมตีเซียนเหิน

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1674 ท่าโจมตีเซียนเหิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1674 ท่าโจมตีเซียนเหิน
ผู้คนจำนวนมากถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ เมื่อเห็นหลี่ชิเย่จะสังหารหลงอ้าวเทียน ทุกคนย่อมสามารถมองออกได้ว่า หลงอ้าวเทียนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่ง ถ้าหากไม่มีใครจากพรรคเซียนเหินออกมาคุ้มครองหลงอ้าวเทียนล่ะก็ หลงอ้าวเทียนต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะที่หลงอ้าวเทียนกำลังตกอยู่ระหว่างอันตรายนั้น ในเวลานี้เองปรากฏร่างเงาขึ้นมา เมื่อร่างเงานี้ปรากฏตัวออกมา กลิ่นอายที่บอกไม่ถูกสายหนึ่งพลันตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดินทันที

เขาเป็นบุรุษผู้หนึ่งที่พลันปรากฏตัวออกมาก็ทำการหนุนหลังให้กับหลงอ้าวเทียน อีกทั้งแวบแรกที่เขาปรากฎตัวแล้วก็ได้ให้ความรู้สึกกับผู้คนถึงความสงบและไม่สะทกสะท้าน เหมือนว่าขอเพียงเขาลงมือทุกอย่างก็จะสำเร็จและจบลงทันที

บุรุษผู้นี้ก็คือหลงจ้านเทียน เป็นบรรพบุรุษในสายของหลงอ้าวเทียน ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ไม่รู้จักเขา แต่ว่า ต่อให้เขาไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังใดๆ ในขณะที่เขาปรากฏตัวออกมาในเวลานี้นั้น ทุกคนต่างรู้สึกได้ว่าตัวเขาน่ากลัวยิ่งนัก เนื่องจากเขามีท่าทีที่สามารถจบสิ้นทุกอย่างพลันที่ลงมือ ซึ่งท่าทีลักษณะเช่นนี้มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งมากเท่านั้นจึงมีอยู่ในครอบครอง

“เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้ารึ?” บางคนรู้สึกสั่นเทาในใจทีหนึ่งเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ พึมพำออกมาว่า “กลิ่นอายบนตัวของหลงจ้านเทียนทำให้นึกถึงผู้ที่สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าโดยตรงขึ้นมาทันที”

“บนโลกหล้าไม่มีผู้ใดสามารถปราศจากผู้ต่อกรได้ตลอดกาล” หลังจากที่หลงจ้านเทียนได้ก้าวออกมาแล้ว ได้จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ด้วยท่าทีมังกรพยัคฆ์ของเขา ท่าทีของเขาคล้ายดั่งเป็นเสือตัวหนึ่งที่จับจ้องเหยื่อของตนเอาไว้อย่างนั้น

แน่นอนที่สุด คำพูดของหลงจ้านเทียนย่อมเป็นการพุ่งเป้าไปที่ผู้ดำรงอยู่ในฐานะของอีกาทมิฬ แม้ว่าเขาไม่เคยพบเห็นอีกาทมิฬมาก่อน แต่เขารู้ถึงชนวนที่แท้จริงของเรื่องนี้!

“ไม่มีผู้ใดปราศจากผู้ต่อกรได้ตลอดกาล” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “แต่ ข้ากลับเป็นผู้เที่หัวเราะจนถึงสุดท้ายตลอดกาล”

“ดี ข้ากลับอยากจะรู้นักว่าความสามารถของเจ้าเรียนรู้มาได้กี่ส่วน” ดวงตาทั้งสองของหลงจ้านเทียนดูน่ากลัว กล่าวน่าครั่นคร้ามออกมา

หลงจ้านเทียนมองหลี่ชิเย่ที่อยู่ตรงหน้าเป็นศิษย์ของอีกาทมิฬ ขณะที่ตัวเขาเองมีอคติต่ออีกาทมิฬมาช้านาน และเปี่ยมด้วยจิตที่เป็นศัตรูกับอีกาทมิฬมานานแล้ว หากไม่เป็นเพราะอีกาทมิฬปิดกั้นพรรคเซียนเหิน เขาคงเป็นราชันเซียนไปนานแล้ว และคงไม่มีราชันเซียนหยินเทียนอะไรนั่น

ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงมองอีกาทมิฬเป็นศัตรูมาตั้งแต่เยาว์วัย ในสายตาของเขามองว่าอีกาทมิฬคือศัตรูของเขา เป็นอีกาทมิฬที่ทำให้เขาไม่สามารถเป็นราชันเซียนได้ เป็นอีกาทมิฬที่ทำลายเขา ดังนั้น เขาเคยสาบานเอาไว้แล้วว่า คงมีสักวันที่เขาจะต้องแก้แค้นให้จงได้!

การเข้าสู่ยุทธภพในชาตินี้ของพรรคเซียนเหินก็มีตัวเขาเป็นผู้เสนออย่างเต็มที่ เนื่องจากเขาต้องการล้างแค้นในครั้งนั้น เขาต้องการบ่มฝักราชันเซียนขึ้นมากับมือ และอาศัยสิ่งนี้มาสยบและสังหารอีกาทมิฬเสีย!

“มากพอที่จะทำลายล้างพรรคเซียนเหินของเจ้าได้สบายๆ!” สำหรับคำพูดที่ข่มขวัญผู้อื่นนั้น หลี่ชิเย่ได้กล่าวตอบด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ดวงตาทั้งสองของหลงจ้านเทียนเผยปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวออกมา เขามองสบตากับหลงอ้าวเทียนทีหนึ่ง ฉับพลันนั้นเขาได้แยกออกห่างจากหลงอ้าวเทียน ไปอยู่ตำแหน่งหน้าหลังในลักษณะที่จะโจมตีขนาบข้าง

เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นหลงอ้าวเทียน หรือหลงจ้านเทียนก็ตามที พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่กล้าประมาท โดยเฉพาะหลงจ้านเทียนนั้นเขาแข็งแกร่งกว่าหลงอ้าวเทียนมากมายนัก กายเซียนเหินขั้นสมบูรณ์ของเขานั้นมีความสมบูรณ์เต็มที่ ไม่เหมือนกายเซียนเหินของหลงอ้าวเทียนที่เต็มไปด้วยตำหนิ ยิ่งไปกว่านั้น ระดับความชำนาญของสัจธรรมเขามีความช่ำชองมากกว่าหลงอ้าวเทียนเสียอีก และมีฝีมืออยู่ในระดับสุดยอดมากยิ่งกว่าหลงอ้าวเทียน ไม่ว่าจะด้านทักษะ ด้านกำลังความสามารถเขาก็เหนือกว่าหลงอ้าวเทียนอยู่มากทีเดียว

เวลานี้ หลงอ้าวเทียน และหลงจ้านเทียนคนหนึ่งอยู่ด้านหน้าคนหนึ่งอยู่ด้านหลัง พวกเขาต่างจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่โดยไม่ได้รีบเร่งลงมือ เนื่องจากพวกเขากำลังมองหาจุดอ่อนของหลี่ชิเย่กันอยู่ พวกเขาต่างใช้ความคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะโจมตีชนิดเห็นผลถึงตายได้ในครั้งเดียว!

ขณะที่หลี่ชิเย่กลับมีท่าทีเฉยเมย เพียงมองดูหลงอ้าวเทียน และหลงจ้านเทียนไปตามอารมณ์ จากนั้น หันมองขึ้นไปบนท้องฟ้า กล่าวต่อกองทัพมังกรเขียวที่กลายร่างเป็นมังกรเขียวว่า “จบสิ้นกันไปเหอะ ที่สมควรปรากฏตัวออกมาต้องไม่ออกมาแน่ ไม่ว่าจะรออย่างไรก็คงไม่ปรากฎออกมาหรอกนะ!”

คำพูดของหลี่ชิเย่ทำเอาผู้ที่ได้ยินรู้สึกงงงันไปตามๆ กัน ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจคำพูดของหลี่ชิเย่ว่าหมายถึงอะไร

กลับกลายเป็นว่ากู้จุนที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้เผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมา ต่อให้เขาที่สูญเสียอิสระภาพไปแล้วยังอดที่จะมองไปบนท้องฟ้าทีหนึ่งและพึมพำว่า “ข้าคาดหวังจริงจังว่าในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่สามารถมองเห็นการเข่นฆ่าครั้งใหญ่ ไม่รู้สิว่าใครกันที่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ บางทีคนที่อดกลั้นเอาไว้ได้จึงจะเป็นผู้ที่สามารถหัวเราะจนเป็นคนสุดท้าย!”

“ตูม ตูม ตูม” ในสมรภูมิรบดำดำบรรพ์ เสียงตูมตามดังขึ้น มังกรเขียวขนาดใหญ่ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตสิบปีกอย่างดุเดือด แต่ว่า จากเวลาที่ผ่านไปมังกรเขียวดูจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ สิ่งมีชีวิตสิบปีกเริ่มจะสู้ไม่ได้

แม้ว่าพลังลงทัณฑ์ของสิ่งมีชีวิตสิบปีกยังคงความแข็งแกร่งยิ่งนัก แต่ว่าความไวเริ่มลดลงเรื่อยๆ บางทีการเคลื่อนไหวของเขาดูเฉื่อยชา เหมือนว่าใจยังสู้แต่กำลังกลับไม่ได้ดั่งใจ

แม้ว่าสิ่งมีชีวิตสิบปีกจะมีพลังจากเส้นชีพจรใต้ดินสิบเส้นอยู่ในครอบครอง แล้วยังมีการหยิบยืมพลังลงทัณฑ์จากสวรรค์ แต่ว่า ภายใต้สภาพของการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ พลังลมปราณของกองทัพทั้งแปดของพรรคเซียนเหิน ไม่สามารถยืนหยัดต่อไปได้ เนื่องจากค่ายกล “เซียนทำลายล้างสิบทิศ” ไม่เพียงรองรับพลังจากเส้นชีพจรใต้ดินสิบเส้นเท่านั้น ยังรองรับพลังลงทัณฑ์จากสวรรค์อีกด้วย!

ภายใต้การต่อสู้ที่ยืดเยื้อ กองทัพราชันเซียนทั้งแปดที่นำพลังลมปราณอัดฉีดเข้าไปใน “เซียนทำล้ายล้างสิบทิศ” เริ่มจะยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว จะอย่างไรเสียไม่ว่าจะเป็นพลังของเส้นชีพจรใต้ดิน หรือพลังจากสวรรค์ก็ไม่ใช่ของพวกเขา แปดกองทัพพวกเขาจำเป็นต้องอัดฉีดลมปราณออกไปอย่างไม่ขาดสาย ต่อให้พวกเขามีความแข็งแกร่งมากกว่านี้ พลังลมปราณมีความคึกคักและมีชีวิตชีวามากกว่านี้ เมื่อต้องต่อสู้กันยืดเยื้อเป็นเวลานานเช่นนี้ ย่อมทำให้พลังลมปราณอ่อนแอลง

“มันก็แค่นี้เอง สมควรสิ้นสุดลงได้แล้ว” สุดท้าย มังกรเขียวคำรามเสียงดังออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้น เห็นประกายสีเขียวที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรุนแรง กลิ่นอายมังกรอาละวาดไปหมื่นอาณาจักร

“ปัง ปัง ปัง…” เสียงที่เกิดจากการกระแทกอย่างหนักหน่วงดังขึ้นมา สิ่งมีชีวิตสิบปีกถูกมังกรเขียวกระแทกลงไปกองกับพื้นภายในระยะเวลาอันสั้น และถูกมังกรเขียวสยบและเข้าสังหาร ขณะที่สิ่งมีชีวิตสิบปีกพยายามดิ้นรนอย่างทรหด แต่ว่า ภายใต้ความแข็งแกร่งที่เด็ดขาด การตอบโต้ของสิ่งมีชีวิตสิบปีกครั้งแล้วครั้งเล่าไม่บังเกิดผลแต่อย่างใด

ไม่มีใครคาดคิดว่ามังกรเขียวจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วขึ้นมากะทันหัน อีกทั้งสามารถสยบและทำร้ายอย่างรุนแรงต่อสิ่งมีชีวิตสิบปีกได้ภายในระยะเวลาอันสั้น เป็นเรื่องที่ผู้คนไม่กล้าจะคาดคิด ความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตสิบปีกเป็นที่ประจักษ์ของทุกๆ คน อาศัยกระบี่เดียวเข่นฆ่านับล้าน ช่างเป็นสิ่งดำรงอยู่ที่น่าสยดสยองยิ่งนัก แต่ว่าเวลานี้กลับถูกมังกรเขียวซัดจนไม่มีแรงจะตอบโต้ได้

ความจริงแล้ว กองทัพมังกรเขียวไม่ได้ต่อสู้เต็มที่ตั้งแต่ต้น และกองทัพมังกรเขียวยังคงรอคอย รอคอยให้คู่ปรับเก่าปรากฏตัว เสียดายกลับไม่มีการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด เวลานี้กองทัพมังกรเขียวพลันเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วกะทันหัน พรรคเซียนเหินไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ได้!

หลี่ชิเย่มองดูกองทัพมังกรเขียวทุบตีสิ่งมีชีวิตสิบปีกอย่างโหดร้าย ถึงกับยิ้มกล่าวขึ้นมาว่า “เสียดาย คู่ปรับเก่าไม่ได้ปรากฏตัว”

“แคร้งค์” เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่หลี่ชิเย่กำลังเสียสมาธิ หลงจ้านเทียนและหลงอ้าวเทียนพลันลงมือ กายเซียนเหินของทั้งสองคนเจิดจรัสปราศจากผู้เทียบเทียม พลันเร่งพลังกายเซียนเหินจนถึงขีดสูงสุด

ทั้งสองคนพลันโจมตีขนาบหน้าหลังเข้าหาหลี่ชิเย่ การโจมตีครั้งนี้ทำให้กาลเวลาไหลย้อนกลับไปสู่อดีต การโจมตีในครั้งนี้ไม่มีผู้ใดต้านทานได้ การโจมตีครั้งนี้ทำลายล้างสิ้นเทพมาร การโจมตีครั้งนี้กาลเวลาเหือดแห้งและเน่าเปื่อย ยุคสมัยเน่าสลาย ภายใต้การโจมตีเช่นนี้ไม่ว่าใครก็ต้านเอาไว้ไม่ได้

“ท่าโจมตีเซียนเหิน!” แม้แต่ผู้ดำรงอยู่เฉกเช่นยวีไท่จวินยังคงมีสีหน้าที่ดูจะไม่สู้ดีนัก เมื่อเห็นการโจมตีในลักษณะเช่นนี้ กล่าวหนักแน่นจริงจังขึ้นมา

ท่าโจมตีเซียนเหิน เป็นท่าโจมตีกายเซียนที่คิดค้นและสร้างโดยราชันเซียนเฟย ได้รับการยกย่องว่าเป็นท่าโจมตีกายเซียนที่ทรงพลังที่สุดในโลก แม้แต่เคล็ดวิชาชะตาฟ้ายังต้องสลดอับแสงเมื่อเปรียบเทียบกับมัน

ท่าโจมตีเซียนเหินจะทรงอานุภาพมากเพียงใดย่อมสามารถจินตนาการได้ เมื่อถูกสำแดงออกมาโดยผู้ที่สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ ขณะที่เวลานี้ทั้งหลงอ้าวเทียน และหลงจ้านเทียนล้วนแล้วแต่เป็นผู้สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ พวกเขาลงมือพร้อมกันในระหว่างที่หลี่ชิเย่กำลังถูกเบี่ยงเบนความสนใจ ช่างเป็นการโจมตีที่น่ากลัวเหลือเกิน!

ท่าโจมตีเซียนเหินขึ้นชื่อด้วยความรวดเร็วที่สูงมาก เมื่อมีการลงมือโจมตีคู่ต่อสู้ต้องสิ้นชื่อแน่นอน ไม่มีใครสามารถต้านทานการโจมตีเช่นนี้ได้ และเป็นเหตุผลที่เคล็ดวิชานี้มีชื่อเสียงโด่งดังหลังจากที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยราชันเซียนเฟย

กาลเวลาหยุดนิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ชัดเจน ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างมองเห็นการโจมตีนี้ได้ไม่ชัดเจน มีเพียงผู้ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซี่งหน้าได้เท่านั้นที่ดูรู้ถึงความพิสดารของท่าโจมตีเช่นนี้ได้ และมีเพียงผู้ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซี่งหน้าได้เท่านั้นที่ตามทันกับความเร็วของท่าโจมตีเซียนเหินได้

ขณะที่ทุกคนสามารถเรียกสติกลับคืน เสียงดัง “ปุ” เมื่อทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนนั้น ปรากฏว่าได้เห็นเพียงเลือดสดๆ ที่พวยพุ่งขึ้นมา ดวงตาทั้งสองของหลงจ้านเทียนและหลงอ้าวเทียนเบิกกว้าง

หัวของหลงจ้านเทียนถูกฟันจนขาด และหัวของเขากระเด็นลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ขณะที่หัวของเขาลอยอยู่กลางอากาศ เขามองเห็นร่างของตน มองเห็นเลือดสดๆ ที่กำลังพวยพุ่งออกมา

กลางหน้าผากของหลงอ้าวเทียนถูกทิ่มทะลุเข้าไป และทะลุออกด้านหลัง ในจังหวะที่เขาถูกสังหารวินาทีนั้นดวงตาทั้งสองของเขาก็เบิกกว้างเช่นกัน เนื่องจากเขาได้มองเห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ

ขณะที่นาทีนี้หลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่ที่ตรงนั้น เหมือนว่าเขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลยแม้แต่น้อย กระทั่งนิ้วมือยังไม่ได้ขยับด้วยซ้ำ ด้วยลักษณะเช่นนี้แหละหลี่ชิเย่ได้ทำลายท่าโจมตีเซียนเหินของหลงอ้าวเทียน และหลงจ้านเทียน พร้อมกับสังหารพวกเขาทั้งสองคน

แม้ว่าในเวลานี้หลี่ชิเย่ไม่ได้ขยับตัว แต่ว่าลัคนาของเขากลับเปิดออกมาแล้ว ภายในลัคนาปรากฎต้นไม้แห่งชีวิต เตาแห่งชีวิต เสาแห่งชีวิต และน้ำพุแห่งชีวิตที่เป็นลัคนาจตุลักษณ์ขึ้นมา

ขณะที่ภายในลัคนาจตุลักษณ์นั้น ดวงตรามิติโบราณ บทสัจธรรมสวรรค์แรกเริ่ม ต้นกำเนิดสัจธรรมสวรรค์ หน้าแห่งศักราชล้วนแล้วแต่ ไหลวนอยู่ในนั้นไม่หยุดนิ่ง เหมือนว่าพวกมันได้กลับกลายเป็นนิรันดร์ไปแล้วอย่างนั้น

แม้ว่าหลี่ชิเย่ไม่ได้ขยับกระทั่งนิ้วมือ แต่ เขากลับอาศัยลัคนาจตุลักษณ์สังหารหลงอ้าวเทียน และหลงจ้านเทียน

“ผู้คนในโลกหล้าไม่เข้าใจในความลึกซึ้งพิสดารของลัคนาจตุลักษณ์มาโดยตลอด มีเพียงได้เป็นราชันเซียนแล้วจึงพอจะรับรู้ได้บ้าง เสียดายมันสายเกินไปเสียแล้ว” หลี่ชิเย่กล่าวพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ

ในเวลานี้ ทั่วทั้งฟ้าดินดูจะเงียบสงัดวิเวกจนน่ากลัว หลงอ้าวเทียนอาจจะด้อยกว่าผู้ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซี่งหน้าได้อยู่บ้าง แต่ ตัวของหลงจ้านเทียนกลับเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซี่งหน้าได้อย่างแท้จริง แต่ว่า นาทีนี้กลับถูกหลี่ชิเย่สังหารโดยพลัน นับว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเหลือเกิน ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถจินตนาการเรื่องนี้ได้

ทุกคนต่างงุนงงกับภาพที่เห็น แม้แต่ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซี่งหน้ายังต้องเสียวสันหลังวาบ เนื่องจากต่อให้เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะเช่นนี้ก็ไม่เข้าใจในท่าโจมตีที่ลึกซึ้งพิสดารเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ท่าการโจมตีที่สังหารหลงจ้านเทียนและหลงอ้าวเทียนในพริบตา ได้ซ่อนความลึกลับไว้ข้างในมากมายเหลือเกิน

แม้แต่กู้จุนที่สงบนิ่งก็หัวเราะไม่ออกเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว สีหน้าของเขาได้กลับกลายเป็นหนักแน่นจริงจังขึ้นมา

ตัวของกู้จุนเองไม่เพียงมีความแข็งแกร่งมากยิ่ง อีกทั้งเขายังเป็นถึงหนึ่งในสิบอัจฉริยะบุคคลตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เขาย่อมรู้ดีมากกว่าใครๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสติปัญญา ด้านสายตา ในโลกนี้มีไม่กี่คนที่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้ แม้แต่บุคคลอย่างยวีไท่จวินก็สู้ไม่ได้

“นี่มัน” สีหน้าของกู้จุนกลับกลายเป็นหนักแน่นจริงจังสุดเปรียบเปรย เนื่องจากการโจมตีในลักษณะเช่นนี้ตัวเขาในฐานะที่เป็นหนึ่งในสิบอัจฉริยะบุคคลตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันก็ยังไม่เข้าใจ ข้างในนั้นมีความลึกซึ้งพิสดารมากเหลือเกิน หลังจากผ่านไปนานมาก กู้จุนจึงได้กล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจังว่า “ชาตินี้เขาจะเป็นราชันเซียนหรือไม่ก็ได้ทั้งนั้นแล้ว!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *