Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1850 สายเลือดเก้ากระถาง

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1850 สายเลือดเก้ากระถาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1850 สายเลือดเก้ากระถาง
เสียง “ปุ…” ดังขึ้น เพียงชั่วพริบตาเดียว ดาบเล่มนั้นของจอมเทพเสินกงยังคงฟันเข้าร่างของจอมเทพท่าซิง แต่ทว่า ชั่วพริบตาเดียวกันนี้ทุกๆ อณูบนตัวของจอมเทพท่าซิงล้วนเปล่งประกายดึกดำบรรพ์ออกมา อักขระยันต์หมุนเคลื่อน ร่างกายของจอมเทพท่าซิงเหมือนสวมใส่ชุดเกราะเอาไว้อย่างนั้น

ได้ยินเสียงดัง “ปัง” เงาดาบได้ฟันฉับลงบนเสื้อเกราะจนสะเก็ดไฟแตกกระจาย เสื้อเกราะตัวนี้ได้ต้านดาบที่ปราศจากผู้ต่อกรเอาไว้ แต่ว่า อานุภาพของดาบนี้มีมากเหลือเกิน ประกายดาบยังคงฟันใส่ร่างกายของจอมเทพท่าซิง ทันใดนั้น ได้ยินเสียงดัง “ปุ” มีประกายดาบที่สามารถทะลุผ่านเสื้อเกราะและฟันใส่บนตัวของจอมเทพท่าซิง

ชั่วพริบตาเดียวนี้เอง บนตัวของจอมเทพท่าซิงปรากฏรอยดาบที่น่ากลัวขึ้นมา เลือดไหลเป็นทาง แต่ว่า ได้ยินเสียง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ดังขึ้นมาอย่าง มองเห็นร่องรอยบาดแผลจากดาบหายเป็นปรกติอย่างรวดเร็ว แม้แต่บาดแผลก่อนหน้านั้นก็หายไปด้วย

เลือดโบราณเก้ากระถาง หนึ่งในสองสายเลือดสำคัญของเผ่าพันธุ์มนุษย์ สายเลือดนี้มีความลึกลับมหัศจรรย์อยู่ที่ไม่อาจสั่นคลอนมันได้ มันก็เหมือนกระถางทั้งเก้าที่สามารถสยบเก้าทวีป สยบตลอดกาล สามารถรองรับการโจมตีของอาวุธได้เป็นจำนวนมาก!

หนึ่งดาบประสบความพ่ายแพ้ ทำให้จอมเทพเสินกงสีหน้าเปลี่ยนไปมากทีเดียว เขาถอนตัวถอยหลังกลับไปทันที เพียงแวบเดียวก็ถอยหลังจากจุดนั้นห่างออกไปกว่าสิบแผ่นฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ออกห่างจากจอมเทพท่าซิงให้มากที่สุด

“นี่มัน…” เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว มีเพียงจอมเทพระดับล่างเท่านั้นที่ดูออกถึงความลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายใน ถึงกับใจหายใจคว่ำและพึมพำออกมาว่า “นี่มันจะฝืนลิขิตสวรรค์มากไปแล้วกระมัง ถึงกับสามารถต้านรับกับตำราและอาวุธสวรรค์ได้ นี่มันคือตำราครึ่งเล่มและอาวุธที่ไม่สมประกอบนะเนี่ย ต่อให้ระดับจอมราชันเซียนหวังก็ไม่แน่ว่าจะรับมือกับมันได้!”

“เลือดโบราณย่อมเป็นเลือดโบราณนะเนี่ย” หลี่ชิเย่ก็ทอดถอนใจด้วยความเป็นจริงออกมาว่า “ในสิบสามทวีปอาศัยสายเลือดเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะ สิ่งนี้ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล หากเปลี่ยนเป็นกายเพชรขั้นสมบูรณ์ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ล่ะก็ เกรงว่าต่อให้ไม่ตายก็ต้องนอนรักษาตัวเป็นพันปี!”

ในสิบสามทวีปไม่มีเรื่องของคุณสมบัติกาย ไม่มีกายกษัตรา ไม่มีกายเซียน ที่สิบสามทวีปมีเพียงสายเลือดเท่านั้น

เนื่องจากในสายเลือดในสิบสามทวีปได้แซงล้ำหน้าคุณสมบัติกายไปแล้ว เป็นต้นว่า สายเลือดเก้ากระถางที่เป็นหนึ่งในแปดเลือดโปราณ มันมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับกายเพชรที่เป็นหนึ่งในสิบสองกายเซียนนั่น

แต่ทว่า สายเลือดเก้ากระถางจะเหนือกว่ากายเพชรเสียอีก เมื่อมีสายเลือดอยู่ในครอบครอง ไม่เพียงแต่เป็นการปกปักษ์รักษาร่างกายเอาไว้เท่านั้น ยังเป็นการปลุกเสกปกป้องลมปราณของผู้บำเพ็ญตน ปกป้องพรสวรรค์ และชะตาแท้ของผู้บำเพ็ญตน เป็นต้น

ขณะที่คุณสมบัติกายในเก้าแดนแค่ปกป้องร่างกายเท่านั้น แต่การปกป้องของสายเลือดในสิบสามทวีปนั้นจะครอบคลุมทั้งหมด

“สายเลือดเก้ากระถาง!” จอมเทพระดับล่างที่สามารถมองเห็นสิ่งนี้ได้อย่างชัดเจนต้องรู้สึกหวั่นไหวในใจ พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่า การที่ตำราและอาวุธสวรรค์ที่สำแดงโดยจอมเทพระดับสิบเอ็ดดวงตราสัญลักษณ์นั้น ถึงกับมีกายเนื้อที่สามารถต้านรับเอาไว้ได้ ต่อให้เป็นเพียงแค่ตำราครึ่งเล่มและอาวุธที่ไม่สมประกอบก็ตาม อานุภาพของมันก็เป็นที่สยองขวัญยิ่งนัก หาใช่กายเนื้อสามารถต้านทานเอาไว้ได้อยู่แล้ว

แม้แต่ตัวจอมเทพเสินกงเองก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เมื่อไม่สามารถสังหารจอมเทพท่าซิงได้ในดาบเดียว เขามีความเชื่อมั่นในดาบของตนเป็นอันมาก อย่าว่าแต่จอมเทพระดับเก้าดวงตราสัญลักษณ์เลย ต่อให้เป็นจอมเทพระดับสิบเอ็ดดวงตราสัญลักษณ์เขาก็มั่นใจว่าสามารถสังหารเขาได้ แต่ กลับไม่สามารถสังหารจอมเทพท่าซิงได้

“สายเลือดเก้ากระถาง ทำให้น่าทึ่งนัก!” ในเวลานี้ จอมเทพท่าซิงไม่อาจไม่ยอมรับว่าตัวเขาเองยังรู้สึกเหม่อลอยอยู่บ้าง สายเลือดเช่นนี้แข็งแกร่งมากเหลือเกิน

หากจะพูดถึงด้านกำลัง จอมเทพเสินกงเหนือกว่าจอมเทพท่าซิง แต่ว่า เมื่อสายเลือดเก้ากระถางของจอมเทพท่าซิงปรากฎ ความได้เปรียบของจอมเทพท่าซิงก็ไม่หลงเหลืออีกเลย

“พวกเรามาตัดสินแพ้ชนะในกระบวนท่าเดียวก็แล้วกัน!” จอมเทพท่าซิงหัวเราะเสียงดัง ได้ยินเสียงดัง “ตูม” ร่างของเขาได้พวยพุ่งประกายทองแดงไม่มีสิ้นสุดออกมา โบราณเรียบง่าย เสมือนหนึ่งตัวเขาได้กลายเป็นมนุษย์ทองแดงชราตนหนึ่งอย่างนั้น

“หนึ่งทวนทำลายสวรรค์!” จอมเทพท่าซิงคำรามเสียงดัง ประกายทองแดงพลันถูกถ่ายทอดปลุกเสกลงบนหมิงเหรินเก๋อ นาทีนี้เดิมหมิงเหรินเก๋อที่มีขนาดเล็กและสั้นพลันปรากฎประกายทองแดงเสียบทะลุจักรวาล เหมือนหนึ่งกลับกลายเป็นทวนสวรรค์ที่ยาวทอดข้ามท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเป็นล้านล้านผืน ภายใต้ทวนสวรรค์นี้ กระทั่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเป็นล้านล้านผืนก็ดูเล็กลงถนัด

“ตูม…” เสียงดังสนั่น ทวนที่กวาดขวางออกไปพร้อมกับอานุภาพทำลายโลก ทำการกวาดล้างฟ้าดินจนราบเรียบ ทำลายทุกๆ ระเบียบหลักกฎเกณฑ์ต่างๆ ภายใต้ทวนดังกล่าวทุกอย่างดูเหมือนเปราะบางและอ่อนแออย่างนั้น

นี่คือกระบวนท่าปราบสวรรค์ที่คิดค้นขึ้นโดยราชันเซียนหมิงเหริน ท้ายสุดไม่ได้นำไปใช้ และถ่ายทอดให้กับจอมเทพท่าซิง

แม้แต่จอมเทพระดับล่างที่มองเห็นกระบวนท่าโจมตีที่ชื่อว่าหนึ่งกระบวนท่าทำลายสวรรค์แล้ว ต้องสั่นเทาทีหนึ่ง ภายใต้การโจมตีเช่นนี้สามารถสังหารจอมเทพอย่างพวกเขาจนกลายเป็นเถ้าธุลีได้อย่างแน่นอน!

“เปิด…” จอมเทพเสินกงคำรามเสียงดังออกมา เมื่อเห็นกระบวนท่าการโจมตีเช่นนี้ ต้วนเจียงที่อยู่ในมือได้ฟันสวนออกไปอีกครั้ง

ภายใต้ดาบนี้ ต้วนเจียงได้พกพาเอาพลังขมุกขมัวที่ไม่มีสิ้นสุด พร้อมกับหอบเอาไร้ขอบเขตไร้สิ้นสุดที่เป็นพลังแห่งสวรรค์มาด้วย ดาบนี้คมกริบสามารถฟันทุกอย่างในโลกหล้าจนขาดสะบั้น ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านทานกับดาบที่ปราศจากผู้ต่อกรนี้ได้

“ตึง…” อาวุธทั้งสองเข้าปะทะกัน เสียงปะทะดังก้องสะเทือนไปทั้งโลก สะเก็ดไฟที่เกิดขึ้นสามารถทำลายทางช้างเผือกแต่ละสาย ทะลุผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแต่ละผืน!

แต่แล้ว ดาบที่ปราศจากผู้ต่อกรดาบนี้กลับถูกขวางต้านเอาไว้ได้ อีกทั้งยังไม่ได้ฝากร่องรอยใดๆ บนหมิงเหรินเก๋ออีกด้วย แรกเริ่มเดิมทีนั้น เมื่อต้วนเจียงฟันฉับลงบนหมิงเหรินเก๋อนั้นยังได้ทิ้งร่องรอยคมดาบเอาไว้ เวลานี้กลับไม่สามารถทิ้งร่องรอยเอาไว้ได้

สิ่งนี้ไม่เพียงเป็นแค่อานุภาพของ “หนึ่งทวนทำลายสวรรค์” เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพราะความยากจะหาสิ่งใดเทียมของสายเลือดเก้ากระถาง สายเลือดเก้ากระถางไม่เพียงทำให้ไม่สามารถสั่นคลอนต่อร่างกายของจอมเทพท่าซิง เมื่อมีการปลุกเสกลงบนอาวุธแล้ว ทำให้อาวุธนั้นไม่สามารถสั่นคลอนได้เช่นกัน

“ปัง…” จังหวะที่อาวุธทั้งสองเข้าปะทะกันนัน ภายใต้อานุภาพของสายเลือดเก้ากระถาง ต้วนเจียงที่ไม่สามารถสั่นคลอนต่อหมิงเหรินเก๋อได้พลันถูกพลังกระแทกเข้าจนหลุดมือปลิวออกไป แม้แต่จอมเทพเสินกงก็กุมดาบเอาไว้ไม่อยู่

ได้ยินเสียงดัง “ป้าบ” ทวนเล่นนั้นได้ฟาดลงบนตัวของจอมเทพเสินกงอย่างแรง พริบตาเดียวกันนั้น ผู้คนจำนวนมากต่างได้ยินเสียงกระดูกแตกจนทำให้ร่างสั่นเทาดัง “คร๊ากก” ขึ้นมา!

สิ้นเสียงหนึ่งทวนที่ทุบลงบนตัว ทำให้จอมเทพเสินกงล้มลงทันที ลมปราณแตกซ่านล้มตัวอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่ว่างเปล่า ก่อนสิ้นลมเขาถึงกับพูดออกมาคำหนึ่งว่า “ในที่สุดฝีมือยังคงแพ้อยู่ขั้นหนึ่ง!” กล่าวขาดคำหลับตาลงทั้งสองข้างสู่ปรโลกในทันที!

จอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงในครอบครองต้องตายสู่ปรโลกในลักษณะเช่นนี้ ไม่มีโอกาสที่จะได้ช่วยเหลือ!

ในเวลานี้ ทั่วทั้งจักรวาลกลับกลายเป็นเงียบสงัด ทำคนต่างนิ่งเงียบกระทั่งสามารถได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกของแต่ละคนได้อย่างชัดเจน

ศึกครั้งนี้ได้รูดม่านลงแล้วในที่สุด จอมเทพเสินกงต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุดจนตัวตาย จอมเทพแห่งยุคต้องร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าด้วยประการเช่นนี้

ในเวลานี้ ไม่มีใครไปหัวเราะเยาะจอมเทพเสินกง และไม่มีใครมีสิทธิ์ไปหัวเราะเยาะจอมเทพเสินกง หากเปลี่ยนเป็นจอมเทพผู้อื่น เกรงว่าคงน่าอนาถยิ่งกว่านี้ ด้วยกำลังความสามารถของจอมเทพเสินกง อย่าว่าแต่จอมเทพระดับล่างทั่วไปเลย ต่อให้เป็นราชันเซียนทั่วไปหากคิดจะท้าสู้กับเขาก็ต้องคิดให้รอบคอบ!

“ไม่…” เมื่อระดับบรรพบุรุษและศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงได้สติกลับมา ถึงกับร้องออกมาด้วยความเวทนายิ่ง ในเวลานี้พวกเขาทั้งหมดเหมือนหนึ่งได้ตกลงไปในหุบเหวลึกหมื่นจ้าง อารมณ์แห่งความสิ้นหวังตลบอบอวลในใจของศิษย์ทุกคน!

บรรพบุรุษจอมเทพเสินกงพ่ายแพ้และเสียชีวิต เป็นการบ่งบอกว่าตระกูลขุนนางโบราณตงกงของพวกเขาจะกลายเป็นเถ้าธุลีไปนับจากนี้เป็นต้นไป ตระกูลขุนนางโบราณตงกงต้องถอนตัวออกจากเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรนับแต่นี้ กระทั่งถอนตัวออกจากโลกของผู้บำเพ็ญตน

จุดจบเช่นนี้ได้สร้างความสิ้นหวังไปทั่วตระกูลขุนนางโบราณตงกง ต่อให้ระดับบรรพบุรุษและศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงยากจะยอมรับในผลเช่นนี้ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

เวลานี้ จอมเทพท่าซิงได้แบกเอาศพของจอมเทพเสินกงกลับมาที่ตระกูลขุนนางโบราณตงกง และมอบให้กับศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกง กล่าวด้วยท่าทีเฉยเมยว่า “หาที่ๆ มีฮวงจุ้ยดีๆ และฝังศพบรรพบุรุษพวกเจ้าอย่างสมเกียรติเถอะ”

แม้ว่าเขากับจอมเทพเสินกงจะเป็นศัตรูกัน แต่ว่า บุญคุณความแค้นทุกอย่างล้วนมลายไปพร้อมกับการตายของจอมเทพเสินกง อีกอย่างด้วยฐานะของจอมเทพท่าซิง เขาขี้คร้านจะไปคิดบัญชีกับบรรดาผู้เยาว์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกง

เวลานี้ บรรดาศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำ รับเอาศพของจอมเทพเสินกงด้วยน้ำตานองหน้าเพื่อไปจัดการศพต่อไป

“นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลขุนนางโบราณตงกงของพวกเจ้าให้แยกย้ายกันไป โดยจะมีตระกูลเผิงเป็นผู้รับช่วงดูแลแทน อนุญาตให้พวกเจ้าเก็บข้าวของส่วนตัวแล้วไปจาก” ในขณะนี้เอง จอมเทพท่าซิงได้ประกาศต่อตระกูลขุนนางโบราณตงกง

ไม่มีศิษย์คนใดของตระกูลขุนนางโบราณตงกงออกมาพูดอะไรอีกแม้แต่คนเดียวสำหรับประกาศของจอมเทพท่าซิง แม้แต่จอมเทพเสินกงยังร่วงหล่นจากฟ้า คนอื่นหากคิดจะดิ้นรนต่อต้านก็รังแต่เอาไข่ไปกระทบหินเท่านั้น มิสู้เหลือสมาชิกของตระกูลขุนนางโบราณตงกงให้มากสักหน่อยจะดีกว่า

หลังจากที่บรรดาบรรพบุรุษและศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงได้ยินคำประกาศของจอมเทพท่าซิงแล้ว พวกเขาได้แต่ไปเก็บข้าวของกันเงียบๆ ต่อให้ภายในใจของพวกเขาจะไม่ยินยอมอย่างไรก็ตาม พวกเขาจำต้องลาจากผืนแผ่นดินอันเป็นสถานที่ที่หล่อเลี้ยงพวกเขามา และไปจากเมืองสวรรค์นอกอาณาจักร

นับจากนาทีนี้เป็นต้นไป เมืองสวรรค์นอกอาณาจักรไม่มีที่ยืนสำหรับพวกเขาอีกต่อไปแล้ว การที่ตระกูลเผิงไม่ฉวยโอกาสซ้ำเติมพวกเขา นับว่าเปี่ยมด้วยเมตตาและคุณธรรมแล้ว

“ดี ดี ดี!” ระดับบรรพบุรุษเช่นเผิงเย่ที่ได้เห็นจุดจบของเรื่องนี้ ถึงกับพูดคำว่า “ดี” ติดๆ กันสามครั้ง ตื่นเต้นจนควบคุมตนเองไม่ได้ ขณะที่ศิษย์ของตระกูลเผิงก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ

ในที่สุดตระกูลเผิงของพวกเขาก็โล่งอกได้แล้ว ศึกครั้งนี้เป็นการวางรากฐานให้กับตระกูลเผิงของพวกเขาในเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรอีกครั้ง! การได้รับชัยชนะกลับมาของจอมเทพท่าซิงกล่าวสำหรับตระกูลเผิงของพวกเขาแล้ว ไม่มีข่าวใดทำให้รู้สึกดีใจได้มากกว่า และสะเทือนหวั่นไหวมากกว่าอีกแล้ว

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ กับจุดจบเช่นนี้เท่านั้นเอง การปิดฉากเช่นนี้ไม่ได้อยู่เหนือความคาดคิดของเขา จะอย่างไรเสียจอมเทพท่าซิงคือผู้ที่เคยติดตามเขามาก่อน เขาจึงมีความเชื่อมั่นในกำลังความสามารถของจอมเทพท่าซิง

ดังนั้น เวลาที่การศึกยิ่งใหญ่นี้ได้เสร็จสิ้นลงเขาได้กลับเข้าไปยังตระกูลเผิงแล้ว ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นดีใจอะไรมากมายนัก ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ปรกติมากอยู่แล้ว

จอมเทพเสินกงเสียชีวิต ตระกูลขุนนางโบราณตงกงประกาศยุบ รูปแบบในเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรถูกเปลี่ยนไปภายในชั่วข้ามคืน ตระกูลเผิงที่เดิมเหมือนดั่งอาทิตย์อัสดงได้เปล่งประกายขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ผู้คนจำนวนมากมองเห็นการกลับมาผงาดอีกครั้งของตระกูลเผิง บางที่หลังจากการศึกในครั้งนี้แล้ว ตระกูลเผิงอาจกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง!

สำหรับตระกูลขุนนางโบราณตงกงได้ถูกลบชื่อออกจากเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรในชั่วข้ามคืน จากนี้ต่อไปก็จะไม่มีตระกูลขุนนางโบราณตงกงอีกแล้ว ในภายภาคหน้าจะไม่มีใครได้พบเห็นศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณตงกงอีกต่อไป พวกเขาได้ถอนตัวออกจากเวทีของเมืองสวรรค์นอกอาณาจักร

ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองสวรรค์นอกอาณาจักร เมื่อข่าวนี้ได้แพร่ไปถึงชิงโจวได้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวขึ้นมาไม่น้อย

แม้ว่าระดับจอมเทพมีจำนวนอยู่ไม่น้อย แต่เฉกเช่นจอมเทพระดับจอมเทพท่าซิงนั้นมีอยู่ไม่มาก ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นจอมเทพผู้ที่เคยผ่านศึกล่าราชันมาแล้วอีกด้วย

เวลานี้ จอมเทพท่าซิงได้สร้างความตระหนกจากการรบอีกครั้ง ทำให้ไม่มีใครกล้าสงสัยในอานุภาพของเขาอีกต่อไป!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *