Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2363 สังหารเทพด้วยมือเดียว

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2363 สังหารเทพด้วยมือเดียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แล้วอย่างไร ต่อให้ปฐมบรรพบุรุษตระกูลมู่มาก็ฆ่าตามระเบียบ” หลี่ชิเย่เพียงเลิกหนังตาทีหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทางที่อย่างไรก็ได้โดยสิ้นเชิง

คำพูดนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้สีหน้าของมู่เส้าเฉินเปลี่ยนไปมากทีเดียว แววตาของเขาดูน่าครั่นคร้าม กล่าวเสียงเย็นชาว่า “ลบหลู่ปฐมบรรพบุรุษตระกูลมู่ของข้า ฆ่าไม่มีละเว้น!”

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นร่างเงาที่สูงใหญ่พลันลงมือ มือซ้ายถือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ มือขวาถือดาบเทพ ดาบและกระบี่ไขว้กันพลันอาศัยกระบวนท่าตัดสินประหารตรงเข้าสังหารทันที ด้วยกระบวนท่าสังหารเช่นนี้ ทำให้ทั่วหล้าสั่นเทา เสมือนดั่งต้องการผ่าเงินทองตกพื้นให้แยกออก ต้องการสับทั่วแผ่นดินให้แตกละเอียดยับเยิน

“ถอย…” จากการฟาดฟันลงมาเช่นนี้ ฟ้าดินกลับคืนสู่ความขมุกขมัว ไม่รู้ว่าได้ทำให้ผู้คนจำนวนเท่าไรตื่นตระหนกจนวิญญาณแทบออกจากร่าง ดาบและกระบี่ยังไม่ทันฟาดฟันลงมาถึง ปณิธานของดาบและกระบี่ที่น่ากลัวพลันอาละวาดทั่งฟ้าดิน ผู้บำเพ็ญตน ที่มีทักษะอ่อนด้อยจำนวนเท่าไรที่ต้องถูกบดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือด การฟาดฟันที่น่ากลัวเช่นนี้ พลันทำให้ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่อยู่ในเหตุการณ์มีสีหน้าขาวซีด นำพาผู้เยาว์ของตนล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็วในทันที

“ไปเถอะ” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับดาบและกระบี่ที่ฟาดฟันลงมาเช่นนี้ หลี่ชิเย่เพียงยิ้มนิดหนึ่งและกล่าวว่า “ให้พวกเจ้าได้รู้จักวิชากระบี่ที่แท้จริง”

ในพริบตาเดียวนั่นเอง เห็นมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ที่แบขึ้น ปรากฏสุสานหนึ่งหลังบนฝ่ามือ สุสานกระบี่หลังนี้ไม่มีแผ่นศิลาจารึกหน้าสุสาน บนสุสานมีกระบี่ปักอยู่เล่มหนึ่ง ตัวของสุสานทั้งหลังได้สลักยันต์กระบี่ไม่มีสิ้นสุดเอาไว้

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง สุสานหลังนี้เสมือนหนึ่งถูกเปิดออกมาอย่างนั้น และพวยพุ่งปณิธานกระบี่ออกมาดั่งสายน้ำไม่ขาดสาย ปณิธานกระบี่พุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรง สั่นคลอนเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ขณะที่ปณิธานกระบี่เช่นนี้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงนั้น เสมือนดั่งอัจฉริยะกระบี่ที่สูงสุดมาด้วยตนเอง ภายใต้ปณิธานกระบี่เช่นนี้ กระทั่งโลกทั้งโลกก็ดูจะมีขนาดที่เล็กจิ๋วยิ่งนัก

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้นมา มองเห็นประกายกระบี่ของสุสานหลังนี้ที่กวาดออกไปคล้ายดั่งพัดขนาดยักษ์ที่ปิดกั้นทั่วแดนจนสนิท ต้านการฟาดฟันลงมาของดาบและกระบี่ไว้อย่างง่ายดายโดยพลัน

สุสานกระบี่…สีหน้าของมู่เส้าเฉินเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อมองเห็นสุสานกระบี่หลังนี้ กล่าวด้วยท่าทีตระหนกว่า “เจ้า เจ้าได้สุสานกระบี่มา!”

“ถูกต้อง” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย และกล่าวว่า “เหนือกว่าเจ้านิดหนึ่ง เจ้าแค่มองจากระยะห่างไกลแวบหนึ่ง แอบเห็นวิชากระบี่มาบางส่วนเท่านั้นเอง”

สีหน้าของมู่เส้าเฉินพลันดูไม่จืดทันทีที่ได้เห็นสุสานกระบี่หลังนี้ เขาเองก็ได้เข้าไปยังแดนมือผีมาเช่นกัน แต่กลับไม่สามารถนำเอาสุสานกระบี่หลังนี้ของอัจฉริยะกระบี่มาได้ ได้แต่แอบสอดแนมวิชากระบี่ได้มาบ้าง แต่ว่า เวลานี้สุสานกระบี่กลับตกอยู่ในมือของหลี่ชิเย่

สุสานกระบี่นี้คือสุดยอดผลงานของอัจฉริยะกระบี่ มู่เส้าเฉินย่อมรู้ว่าสุสานกระบี่หลังนี้มีความแข็งแกร่งเช่นใด

สุสานกระบี่…ทุกคนต่างหวั่นไหวเมื่อมองเห็นสุสานกระบี่ที่ย่อขยายได้หลังนี้ สุสานกระบี่คือแกนหลักต้นกำเนิดสัจธรรมของสุสานกระบี่ มันคือสิ่งที่อัจฉริยะกระบี่ได้ทุ่มเทกำลังกายใจนับไม่ถ้วนลงไปในนั้น

ภายหลังไม่ทราบเป็นเพราะสาเหตุใด สุสานกระบี่นี้ได้บินหนีไปกะทันหัน และด้วยเหตุนี้เอง หลังจากนั้นเป็นต้นมาตระกูลหลินได้ตกต่ำลง และสุสานกระบี่ได้เปลี่ยนผู้ปกครอง การที่สุสานกระบี่ปรากฎตัวขึ้นมาอีกครั้งในวันนี้ แล้วจะไม่ให้สะเทือนหวั่นไหวจิตใจของผู้คนได้อย่างไรเล่า

สุสานกระบี่…หลินซิม่อหวั่นไหวจนน้ำตาแห่งความตื้นตันเต็มเบ้าตา เมื่อมองเห็นสุสานกระบี่หลังนี้ สุสานกระบี่ที่นางเฝ้าฝันให้ได้มาอยู่ตรงหน้านี้เอง ตระกูลหลินทั้งตระกูลเฝ้าปรารถนาและฝากความหวังอยู่กับสุสานกระบี่หลังนี้ มันเกี่ยวพันถึงความเจริญรุ่งเรืองและตกต่ำของตระกูลหลิน

สีหน้าของมู่เส้าเฉินเปลี่ยนไปมากทีเดียว เขาไม่สามารถครอบครองสุสานกระบี่นี้ เวลานี้หลี่ชิเย่กลับเป็นผู้ที่ได้มันมา พริบตาเดียวนั่นเอง เขาเริ่มตระหนักถึงอันตรายแล้ว

ตูม…เสียงดังสนั่น ทันใดนั้นเอง เห็นร่างเงาที่สูงใหญ่พลันระเบิดอานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่ทรงพลังปราศจากผู้ต่อกรขึ้นมา พริบตาเดียวนี้เอง เกราะหัวใจที่อยู่บริเวณหน้าอกของเขาได้พวยพุ่งลำแสงออกมาสายหนึ่ง โดยที่ลำแสงดังกล่าวมีความเจิดจรัสยิ่งนัก พุ่งโจมตีเข้าไป ทำให้สุริยันจันทราและดวงดาวแตกละเอียด ยิงทะลุพื้นดิน

ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น ลำแสงลักษณะเช่นนี้ที่พุ่งโจมตีเข้ามาได้ยิงทะลุประกายกระบี่ และพุ่งตรงไปยังสุสานกระบี่ทันที

แม้ว่าหลี่ชิเย่ไม่ได้ควบคุมสุสานกระบี่ ตัวของสุสานกระบี่เองก็มีความแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว และมันก็มีจิตวิญญาณที่สะเทือนเลื่อนลั่นอย่างยิ่ง ดังนั้น เมื่อลำแสงโจมตีเข้ามาจึงได้ยินเสียงกระบี่ร้องคำรามดังตึง สุสานกระบี่ได้พวยพุ่งประกายกระบี่ที่ดังสายน้ำไม่ขาดสายออกมา เสียงตูมดังสนั่น ประกายกระบี่ดั่งแท่งเสาโจมตีสวนไปโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย

เสียงตูมดังสนั่น เมื่อลำแสงทั้งสองปะทะกัน ทำเอาฟ้าดินสั่นไหวโคลงเคลง สุริยันจันทราอับแสง ทุกคนต่างตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

“เจ้ายังมีลูกไม้อะไรอีกล่ะ?” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ โดยไม่ได้สนใจอะไรมากมายกับภาพที่อยู่ตรงหน้า

“หลี่ชิเย่ อย่าได้โอหัง…” เวลานี้บรรพบุรุษระดับเทพแท้จริงเถี่ยฉี และบรรพบุรุษจูเซียงหวู่ถิงได้เข้ามาขวางหน้าหลี่ชิเย่เอาไว้ พวกเขาทั้งสองคนร้องตวาดเสียงดังต้องการคุ้มกันให้กับมู่เส้าเฉิน

เทพแท้จริงเถี่ยฉีไม่พูดให้มากความ ธงผืนใหญ่ในมือตวัดทีหนึ่ง ขณะที่ธงขนาดใหญ่ตวัดนั้น ตะวันจันทราล้วนอับแสง เสมือนดั่งได้ตวัดม้วนเอาจักรวาลทั้งจักรวาลเข้าไปอยู่ภายใน ขณะที่ธงใหญ่นั้นกวาดผ่านไปนั้น สามารถได้ยินเสียงดังปัง ปัง ปังดังขึ้น พลันเฉือนเอาภูเขาแต่ละลูกให้ลอยออกไป

ไม่เสียทีที่เทพแท้จริงเถี่ยฉีเป็นถึงเทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นเก้า พลันที่ลงมือก็สะเทือนเลื่อนลั่นทันที

ระดับบรรพบุรุษของจูเซียงหวู่ถิงก็ใช่ว่าจะรังแกกันได้ง่ายๆ ได้ยินเสียงฮือดังสนั่น พลันลงมือก็เป็นกระบวนท่า ‘ซวนหนีไฟฟ้าลงเขา’ ที่เป็นหนึ่งในสิบสองกระบวนท่าหวู่จู่ ฉับพลันนั้นเองสายฟ้าดั่งน้ำหลากที่พุ่งพรวดพราดออกไป ซวนหนีไฟฟ้าขนาดยักษ์ปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งเข้าสังหารทันที ภายใต้กรงเล็บแหลมคมของมัน ผืนแผ่นดินดั่งกระดาษอย่างนั้น

ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ระดับบรรพบุรุษเทพแท้จริงเถี่ยฉี และจูเซียงหวู่ถิงต่างโจมตีเข้าไปขนาบข้างซ้ายขวา พลันที่ลงมือก็ต้องการให้ถึงแก่ชีวิต พวกเขารู้ถึงความน่ากลัวของหลี่ชิเย่ ดังนั้นจึงไม่เปิดโอกาสใดๆ ให้กับหลี่ชิเย่ หวังจะสังหารให้ได้จากการโจมตีครั้งเดียว

หลี่ชิเย่ไม่ได้มองดูมากมายเมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ มือขนาดใหญ่กางออก เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว เสมือนทุกหนทุกแห่งล้วนแล้วแต่ถือกำเนิดขึ้นจากฝ่ามือของเขา ฝ่ามือของเขามีจักรวาลอยู่นับล้านล้านจักรวาล ทุกสิ่งบนโลกเมื่ออยู่ภายใต้ฝ่ามือของเขาล้วนแล้วแต่ดูเล็กจิ๋วอย่างนั้น

เสียงปังดังสนั่น ฝ่ามือขนาดยักษ์ตบลงมาตรงๆ ไม่มีกระบวนท่าเปลี่ยนแปลง แต่เป็นการสังหารที่เด็ดขาด ได้ยินเสียงร้องน่าเวทนาดังฮือขึ้นมา ซวนหนีไฟฟ้าขนาดยักษ์ถูกหนึ่งฝ่ามือของหลี่ชิเย่ตบจนกลายเป็นเนื้อบด สายฟ้าทั้งหมดพลันล่มสลายไปทันที

เสียงคร๊ากกกแต่ละเสียงที่ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน ภายใต้หนึ่งฝ่ามือสังหารที่เด็ดขาด ธงเหล็กของเทพแท้จริงเถี่ยฉีแตกหักเป็นท่อนๆ ธงเหล็กพลันกลายเป็นผ้าขาดๆ !

ภายใต้หนึ่งฝ่ามือก็ทำลายหนึ่งกระบวนท่าสังหารเด็ดขาดของเทพแท้จริงเถี่ยฉีกับบรรพบุรุษจูเซียงหวู่ถิง ทั้งสองคนถึงกับหวาดผวายิ่ง รีบเร่งถอยหลังหวังไปให้พ้นจากสมรภูมิต่อสู้

แต่ว่า ทุกอย่างสายเกินไปเสียแล้ว เสียงตูมดังสนั่นขึ้นมาเสียงหนึ่ง หมัดของหลี่ชิเย่สั่นสะเทือนทีหนึ่ง หนึ่งหมัดพุ่งข้ามวันเวลา ทำลายกาลเวลา ภายใต้หนึ่งหมัดนี้ต่อให้มีความเร็วเช่นใดก็ตามก็หนีไปไหนไม่พ้น ต่อให้มีแนวป้องกันที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ตามก็ป้องกันเอาไว้ไม่ได้

จังหวะที่หนึ่งหมัดโจมตีซัดเข้ามานั้น พวกของเทพแท้จริงเถี่ยฉีทั้งสองคนต่างรู้สึกหวาดผวา คำรามเสียงดังขึ้นมา สำแดงกระบวนท่าป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตขึ้นมา แต่ยังคงไร้ประโยชน์ ได้ยินเสียงดังปัง ปังสองเสียง มองเห็นเลือดสดๆ ที่แตกกระจาย หนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ซัดทะลุหน้าอกของเทพแท้จริงเถี่ยฉีทั้งสองคน

สุดท้าย ได้ยินเสียงปังดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ศพของพวกเทพแท้จริงเถี่ยฉีสองคนหงายหลังกับพื้น ดวงตาคู่นั้นของทั้งสองเบิกโพลง พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่า แม้แต่หมัดเดียวของหลี่ชิเย่ก็รับเอาไว้ไม่ได้

“เจ้า…” สีหน้าของมู่เส้าเฉินเปลี่ยนไปมากทีเดียว และถอยหลังออกไปทันที เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่อาศัยเพียงหมัดเดียวก็สังหารเทพแท้จริงเถี่ยฉี และบรรพบุรุษจูเซียงหวู่ถิง

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่หลี่ชิเย่ได้สังหารพวกของเทพแท้จริงเถี่ยฉีไปนั้น เหมือนว่าสุสานกระบี่เองก็ไม่ยอมแพ้ ฉับพลันนั้น มันพวยพุ่งประกายกระบี่ชนิดมืดฟ้ามัวดินออกมา สุดท้าย สุสานกระบี่เปิดออกกว้าง กระบี่เล่มที่ปักอยู่บนสุสานกระบี่บินออกจากตัวของสุสานกระบี่ คล้ายดั่งเซียนเหินเหนือฟ้าที่ยิงออกไป

หนึ่งกระบี่ที่ดั่งเซียนเหินเหนือฟ้าเปี่ยมด้วยสุดยอดปณิธานกระบี่ที่สูงสุด หนึ่งกระบี่ที่พุ่งเข้าหาไม่ว่าจะเป็นผู้ดำรงอยู่ในสถานะเช่นใดก็มิอาจต้านได้

ร่างเงาสูงใหญ่ยังคงอาศัยกระบวนท่าดาบและกระบี่ที่ไขว้กันที่ฟาดฟัน แม้มองเห็นหนึ่งกระบี่ที่พุ่งเข้าหา หวังต้านเพลงกระบี่เซียนเหินเหนือฟ้าเพลงนี้ แต่ทว่ามันไร้ผล ได้ยินเสียงดังปัง ดาบและกระบี่แตกละเอียดไม่สามารถต้านกับกระบี่เซียนเหินเหนือฟ้านี้ไว้ได้

ตามติดด้วยเสียงปังเสียงหนึ่ง หนึ่งกระบี่แทงทะลุเกราะหัวใจ ได้ยินเสียงตึงเสียงหนึ่ง กระบี่คำรามดังก้องเก้าชั้นฟ้า หนึ่งกระบี่พุ่งทะลุร่างเงาสูงใหญ่นั่นโดยตรง เหลือไว้เพียงรูขนาดยักษ์เอาไว้บนร่างนั้น

ตูม…เสียงดั่งสนั่นหวั่นไหว เมื่อร่างนั้นถูกเซียนเหินเหนือฟ้าทะลุร่างกายไป ทำให้ภาพค่ายกลของมู่เส้าเฉินแตกละเอียด และร่างที่สูงใหญ่ดังกล่าวก็เกิดระเบิดขึ้นจนแหลกเป็นจุณ

จังหวะที่ภาพค่ายกลแตกละเอียดไปนั้น มองเห็นกระบี่จากสุสานกระบี่เล่มนี้ที่ส่งเสียงดังแกร้งค์ขึ้นมา หนึ่งกระบี่ที่กวาดออกไป ได้ยินเสียงน่าเวทนาดังอ๊ากกกขึ้นไม่ขาดสาย ปรากฏเลือดสดๆ พุ่งทะลักไปทั่วท้องฟ้า ปรากฏเป็นฝนเลือดขึ้นมาทันที เห็นศีรษะทั้งหมดที่ลอยขึ้นสูง

ระดับบรรพบุรุษ และยอดฝีมือของสุสานกระบี่ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิไคเทียน ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหวินตู้ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ้งหยาง…จำนวนนับหมื่นคนถูกสังหารสิ้นภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ โดยไม่มีผู้ใดรอดชีวิตไปได้แม้แต่คนเดียว

หนึ่งกระบี่สุสานกระบี่นี้น่าสยดสยองอย่างยิ่ง เป็นกระบี่แห่งการฆ่าล้างอย่างแน่นอน หลังจากหนึ่งกระบี่ที่กวาดออกไป เข่นฆ่าสิ้นระดับบรรพบุรุษ ยอดฝีมือจากหลายสิบระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนนับหมื่นไปแล้ว ได้ยินเสียงตึงดังขึ้นเสียงหนึ่ง กระบี่เล่มนั้นกลับไปปักอยู่กับสุสานกระบี่ตามเดิม

สุสานกระบี่…ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่เย็นวาบไปทั้งตัวเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว รู้สึกหวาดผวาจนขนลุกซู่ ในเวลานี้เอง ทุกคนจึงได้เข้าใจแล้วว่า สุสานกระบี่ที่กระบี่อัจฉริยะทิ้งเอาไว้นั้นน่าสยองขวัญเพียงใด มิน่าเล่า หลังจากที่กระบี่อัจฉริยะจากไปหลายปี มันยังคงบินกลับไปเงินทองตกพื้นเพื่อสยบแดนมือผีได้อีก

“สมควรกลับไปอยู่ในมือของทายาทรุ่นหลังของกระบี่อัจฉริยะได้แล้ว” หลี่ชิเย่เหมือนมองไม่เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า ยิ้มเฉยเมยและกวักมือเรียกสุสานกระบี่

เสียงแว้งค์ดังขึ้น มองเห็นสุสานกระบี่ที่บินออกไป แล้วไปหยุดอยู่ตรงหน้าของหลินซิม่อ

หลินซิม่อถูกภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้หวั่นไหว ไม่สามารถเรียกสติกลับมาได้อยู่นาน ไม่ง่ายนักหลังจากที่นางได้สติกลับมาแล้วจึงรีบแบมือออกไป

สุสานกระบี่ค่อยๆ ย่อส่วนเล็กลง และตกอยู่บนฝ่ามือของหลินซิม่อ นางถึงกับสองมือสั่นเทาและจับสุสานกระบี่ที่อยู่ในมือเอาไว้แน่น สุสานกระบี่คือสิ่งที่มุ่งมาดปรารถนาของตระกูลหลินของพวกเขา ไม่นึกไม่ฝันเลยว่ามาวันนี้ได้กลับมาอยู่ในมือของนางแล้วในที่สุด

“ได้ยินมาว่าเจ้าได้พกพาเอาอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคมาด้วย ข้าอยากจะชมสักหน่อย” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง เหมือนมองไม่เห็นศพที่เกลื่อนกลาดบนพื้น

เลือดสดๆ ไหลรินอยู่บนพื้น ศพหัวขาดแต่ละศพที่ลอยอยู่ท่ามกลางเลือดสดๆ นั่น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งแสบจมูกจนอยากจะอาเจียนออกมา

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง และเข่าอ่อนทั้งสองข้างขณะมองดูหลี่ชิเย่ในเวลานี้ที่ยิ้มเรียบเฉย ในสายตาของผู้คนจำนวนมากมองว่า หลี่ชิเย่ในเวลานี้ก็คือจอมมารที่มาจากนรกอเวจี แค่ขยับตัวก็สามารถสังหารทำลายเหมื่นยุคได้

มองดูหลี่ชิเย่ที่ก้าวเดินเข้ามาทีละก้าวๆ แม้แต่มู่เส้าเฉินที่เคยพบเจอกับราชันแท้จริงมาแล้วจริงๆ ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตาย

……………………………………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *