Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1472 กองทัพกระเรียนขาว

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1472 กองทัพกระเรียนขาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1472 กองทัพกระเรียนขาว

งานประชุมหมื่นเผ่าพันธุ์สิ้นสุดลงไปแล้ว เทพธิดาเก็บจันทราจากไป ขณะที่พวกของหลี่ชิเย่ กลับไปยังโรงเตี้ยม

หลังจากกลับไปถึงโรงเตี้ยมแล้ว หลี่ชิเย่สั่งการกับพวกของซูหย่งหวงว่า “พวกเจ้าออกไปให้หมด”

พวกของซูหย่งหวงกลับออกไปทั้งหมด เหลือเพียงเทพธิดาเจินหวู่เท่านั้น พวกของซูหย่งหวงต่างให้ความสนใจในความสัมพันธ์ระหว่างหลี่ชิเย่ และเทพธิดาเจินหวู่เป็นอันมาก

สิ่งนี้ไม่เพียงแต่พวกซูหย่งหวงเท่านั้น แม้แต่ขุนพลไป่หวู่ที่ติดตามอยู่ข้างกายเทพธิดาเจินหวู่เองก็รู้สึกประหลาดใจในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง ขณะเดียวกัน ก็สงสัยในประวัติความเป็นมาของหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่เป็นใครกันแน่นะ ถึงกับได้รับการโปรดปรานจากบุตรีเทพเจ้าแห่งทะเลของพวกเขาถึงเพียงนี้

หลังจากที่พวกของซูหย่งหวงได้ล่าถอยกลับออกไปแล้ว ภายในห้องเหลือเพียงหลี่ชิเย่กับเทพธิดาเจินหวู่เท่านั้น มองดูเทพธิดาเจินหวู่แล้วหลี่ชิเย่รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่เกิดขึ้นภายในใจ ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานานมาก นานมากๆ แล้ว คล้ายดั่งได้พบกับคนในครอบครัวเดียวกันก็ไม่ปาน

“รว่อหนาน ยินดีต้อนรับการกลับมาของเจ้า” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวพร้อมกับอ้าแขนออกทั้งสองแขน

เทพธิดาเจินหวู่ก็เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น เป็นรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความดีอกดีใจและเบิกบานใจ นางโผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของหลี่ชิเย่ ทั้งสองกอดกันแนบแน่นอยู่อย่างนั้น

“เจ้าปรากฏตัวกลับออกมาแล้วจริงๆ เหตุการณ์ต่างๆ ถูกลิขิตเอาไว้แล้วจะต้องสะเทือนหวั่นไหวเพราะเจ้า” เทพธิดาเจินหวู่ที่กอดและอิงแอบอยู่กับไหล่ของหลี่ชิเย่กล่าวออกมาด้วยความชื่นมื่น

“กว่าพวกเราจะได้พบกันสักครั้งมันไม่ง่ายนัก ไม่คุยเรื่องจิปาถะบนโลก” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว

หลี่ชิเย่ดึงตัวเทพธิดาเจินหวู่ให้นั่งลง ทั้งสองคนนั่งอิงอยู่ริมหน้าต่าง โดยมีเทพธิดาเจินหวู่นั่งอยู่ข้างกาย และอิงแอบอยู่กับไหล่ของเขา นั่งดูพระอาทิตย์อัสดงทางทิศตะวันตก

หลี่ชิเย่ยิ้มและเอ่ยขึ้นมาว่า “ทำไมถึงได้กลับออกมาในชาตินี้ล่ะ?”

เทพธิดาเจินหวู่ที่อิงแอบอยู่กับไหล่ของหลี่ชิเย่ ยิ้มกล่าวด้วยท่าทีสบายๆ ว่า “เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่แดนวิญญาณสวรรค์ ข้าจึงตั้งใจออกมาดูเป็นการเฉพาะ วังน้ำวนขนาดใหญ่ เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งทะเลกระดูกล้วนแล้วแต่มีการขยับตัว ข้าเองก็ถูกทำให้สะดุ้งตื่นขณะหลับไหลอยู่ ที่นึกไม่ถึงก็คือ ชาตินี้สามารถพบเห็นคุณชายที่กลับออกมา”

“นั่นสิ ฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลง มหันตภัยของแดนวิญญาณสวรรค์จะต้องมาถึงเร็วขึ้นกว่าเดิม” หลี่ชิเย่กล่าวพร้อมกับลูบไล้เส้นผมขอนางแผ่วเบา

เทพธิดาเจินหวู่เพียงอิงแอบอยู่กับไหล่ของหลี่ชิเย่ มองดูอาทิตย์ที่กำลังอัสดง โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

“บางที เจ้าสามารถพาเกาะเจินหวู่ไปจากที่นี่ ต่อให้ศิษย์ของเกาะเจินหวู่ไม่สามารถไปจากที่ตรงนี้ แต่เจ้าสามารถหลบไปจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานนี้ไปเสีย เจ้าได้ตัดสายเลือดทิ้งไปแล้ว อยากจะไปที่ไหนก็ไปได้” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีที่อ่อนโยนมาก

เทพธิดาเจินหวู่ไม่ได้พูดอะไรออกมา นางเพียงแนบอยู่กับหลี่ชิเย่เบาๆ กำลังเสพสุขความอ่อนโยนที่หาได้ยากเช่นนี้

เทพธิดาเจินหวู่มีชื่อจริงว่าถานไถรว่อหนาน บนโลกใบนี้มีน้อยคนที่รู้จักชื่อของนาง อีกทั้งคนที่สามารถเรียกชื่อนางว่า “รว่อหนาน” ได้นั้น นอกจากบิดาของนางที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ก็มีเพียงหลี่ชิเย่เท่านั้น

เทพธิดาเจินหวู่ หรือก็คือถานไถรว่อหนาน นางที่อยู่ในฐานะบุตรีเทพเจ้าแห่งทะเล บนตัวของนางมีสายเลือดของเทพเจ้าแห่งทะเลไหลรินอยู่ และมีสายเลือดเผ่าปีศาจทะเลอยู่ในกาย

แต่ทว่า เทพเจ้าแห่งทะเลเจินหวู่ในฐานะหนึ่งในเทพเจ้าแห่งทะเลที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าปีศาจทะเล เขาเป็นผู้ที่มองการณ์ไกลมาก แม้ว่าเขาจะอยู่ในฐานะเทพเจ้าแห่งทะเล แต่กลับไม่ต้องการให้บุตรสาวของตนเองนั้นก้าวเดินไปบนเส้นทางของตน เขาคาดหวังให้บุตรสาวของตนหลุดจากการมีสายเลือดปีศาจทะเลมากกว่า สามารถท่องไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ไม่ต้องถูกพันธนาการเอาไว้

แต่ทว่า ในฐานะเป็นบุตรสาวของเทพเจ้าแห่งทะเล นางไม่เพียงมีสายเลือดเผ่าปีศาจทะเลที่ไหลรินอยู่ภายในร่างกายเท่านั้น ทั้งยังมีสายเลือดเทพเจ้าแห่งทะเลไหลรินอยู่อีกด้วย ดังนั้น สายเลือดของนางจึงมีความแข็งแกร่งยิ่งนัก คิดจะตัดขาดสายเลือดของนางใช่เป็นเรื่องง่ายดายนัก

แม้แต่เทพเจ้าแห่งทะเลเจินหวู่ที่อยู่ในฐานะของเทพเจ้าแห่งทะเลก็ไม่สามารถทำการตัดสายเลือดของบุตรสาวตนให้ขาดจากการเป็นสายเลือดเผ่าปีศาจทะเลโดยไม่เกิดความเสียหายแม้แต่น้อยได้ ซึ่งตรงกับยุคของราชันเซียนหมิงเหรินเป็นผู้ปกครองทั้งเก้าแดน

ในเวลานี้เอง เทพเจ้าแห่งทะเลเจินหวู่ได้เชิญหลี่ชิเย่ที่อยู่ในร่างของอีกาทมิฬ และมีฐานะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของราชันเซียนมา หวังจะให้มาช่วยตัดสายเลือดปีศาจทะเลออกจากตัวของบุตรสาวตน

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ใช้เวลาตระเตรียมการแล้ว ได้ร่วมมือกับราชันเซียนหมิงเหรินทำการปิดกั้นความลับสวรรค์ทุกอย่าง ซ่อนเร้นผลกรรมทุกอย่าง สุดท้ายแล้ว ภายใต้การช่วยเหลือของราชันเซียนหมิงเหรินและเทพเจ้าแห่งทะเลเจินหวู่ ในที่สุดจึงได้ตัดขาดสายเลือดความเป็นปีศาจทะเลของถานไถรว่อหนานได้เป็นผลสำเร็จ ทำให้นางหลุดพ้นจากผลกรรมของเผ่าปีศาจทะเลไปได้ในที่สุด

ด้วยเหตุนี้เอง ต่อมาถานไถรว่อหนานได้หายสาบสูญไป นางผู้ซึ่งมีโอกาสได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลมากที่สุดกลับหายตัวไปภายในค่ำคืนเดียว เหมือนว่านางได้ระเหยหายไปจากโลกในค่ำคืนเดียวอย่างนั้น

“จะอย่างไรเสียที่นี่ก็คือสถานที่ที่ให้กำเนิดข้าและเลี้ยงดูข้าจนเติบใหญ่ แม้ว่าข้าได้ตัดขาดจากสายเลือดแห่งความเป็นเผ่าปีศาจทะเลไปแล้ว แต่ ข้ายังหวังรั้งอยู่ที่ตรงนี้ คาดหวังยามที่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ในเวลานั้น สามารถทำอะไรเพื่อโลกนี้ได้บ้าง” หลังจากเวลาผ่านไปนานมาก ถานไถรว่อหนานที่อิงแอบซบอยู่กับไหล่ของหลี่ชิเย่ได้เอ่ยขึ้นมาแผ่วเบา

“นั่นสิ แดนวิญญาณสวรรค์ สถานที่ที่มีผู้คนจำนวนเท่าไรที่หลงรักผืนแผ่นดินนี้อย่างลึกซึ้งกันเล่า มันคือป่าเขาธรรมชาติอันงดงามตระการตา คือแหล่งให้กำเนิดอัจฉริยะบุคคล แต่ พื้นดินกว้างใหญ่แห่งนี้สักวันจะต้องประสบกับภัยพิบัติที่น่ากลัว ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม มีผู้คนจำนวนมากมายเหลือเกินที่หลงรักดินแดนแห่งนี้ มีปรัชญาเมธีจำนวนมากมายที่ได้พยายามมาแล้ว” หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจออกมา

“คุณชายไม่ฝืนบังคับข้า ข้าก็ดีใจ ดีใจมากที่สุดแล้ว” ถานไถรว่อหนานเอ่ยเสียงแผ่วเบา

“ความจริงแล้ว ข้าอยากจะรั้งตัวเจ้าเอาไว้มาโดยตลอด ข้าอยากจะพาเจ้าขึ้นไป ต่อให้เจ้าไม่ใช้ราชันเซียนข้าก็ยังต้องการพาเจ้าขึ้นไป หากกองทัพกระเรียนขาวมีเจ้าอยู่ด้วย ย่อมเปล่งประกายหลากสีสันออกมา”

“ไม่ คุณชาย ภารกิจของข้าได้สำเร็จลุล่วงแล้ว ข้าเชื่อว่ากองทัพกระเรียนขาวแม้ไม่มีข้า วันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าก็ต้องเปล่งประกายหลากสีสันออกมาได้เช่นกัน มันต้องสร้างผลงานการสู้รบที่ลือลั่นให้กับคุณชายได้แน่นอน มันถูกทุ่มเทด้วยกำลังกายใจของคุณชายจำนวนนับไม่ถ้วน ในอนาคตจะต้องทำอะไรได้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน

กองทัพอีกาทมิฬทั้งสี่นั้น กองทัพพยัคฆ์โหดที่สุด กองทัพมังกรเขียวสละมากที่สุด กองทัพจิ้งจอกเงินเจ้าเล่ห์ที่สุด! ผู้ที่ทราบถึงการดำรงคงอยู่ของมือมืดที่อยู่เบื้องหลัง จะมากบ้างน้อยบ้างก็ต้องเคยได้ยินเรื่องราวของกองทัพอีกาทมิฬทั้งสี่ กระทั่งพวกดำรงอยู่ในฐานะดึกดำบรรพ์ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ พวกเขารู้ว่ากองทัพพยัคฆ์ทองแดง กองทัพจิ้งจอกเงิน กองทัพมังกรเขียวนั้นมีอยู่จริง

แต่ว่า เกี่ยวกับกองทัพที่สี่ของอีกาทมิฬนั้นมีการว่ากันไปต่างๆ นานาหลายกระแส แม้แต่ผู้ที่รับรู้ถึงการคงอยู่ของอีกาทมิฬก็ไม่ชัดเจนนักว่ากองทัพที่สี่ของอีกาทมิฬคือกองทัพอะไร

เคยมีผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเก่าแก่โบราณคาดเดาเอาไว้ดังนี้ บางคนบอกว่ามันคือกองทัพหงส์เพลิง และมีบางคนบอกว่าคือกองทัพราชามังกรดำ ยังมีบางคนเดาว่าคือกองทัพราชันเซียน…

ความจริงแล้ว เกี่ยวกับกองทัพที่สี่ของอีกาทมิฬนั้น กองทัพทั้งสามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นก็ไม่ชัดเจนว่ากองทัพที่สี่คือกองทัพไหนกันแน่ มีเพียงคนที่เป็นคนสนิทโดยแท้จริงของอีกาทมิฬเท่านั้นที่รู้ว่ากองทัพที่สี่ของอีกาทมิฬคือกองทัพอะไร

สี่กองทัพอีกาทมิฬ กองทัพพยัคฆ์โหดที่สุด กองทัพมังกรเขียวสละมากที่สุด กองทัพจิ้งจอกเงินเจ้าเล่ห์ที่สุด กองทัพกระเรียนขาวลึกลับที่สุด!

กองทัพกระเรียนขาวคือกองทัพที่ลึกลับที่สุดในบรรดากองทัพอีกาทมิฬทั้งสี่ ซึ่งกองทัพที่สี่นี้ไม่ใช่ทั้งกองทัพหงส์เพลิงที่เคยมีผลงานการสู้รบที่โด่งดัง ไม่ใช่กองทัพราชามังกรดำที่เคยสยบศัตรูมายาวนานถึงสามยุค และก็ไม่ใช่กองทัพที่ตั้งขึ้นโดยราชันเซียนองค์ใดองค์หนึ่งอย่างที่มีคนคาดเดากัน

แต่เป็นกองทัพกระเรียนขาวที่ซ่อนตัวและไร้ชื่อไร้เสียงมาโดยตลอด กองทัพกระเรียนขาวเสมือนดั่งผู้ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกและอยู่อย่างสันโดษตลอดมา น้อยคนนักที่รับรู้ถึงความคงอยู่ของพวกมัน ถึงแม้ว่ากองทัพนี้จะมีความแข็งแกร่งยิ่งนัก กระทั่งอีกสามในสี่กองทัพอีกาทมิฬก็ไม่รู้ถึงการดำรงอยู่ของกองทัพกระเรียนขาว

นับแต่วันแรกที่มีการก่อตั้งกองทัพกระเรียนขาวขึ้นมา มันก็เต็มไปด้วยความลึกลับ มันแอบซ่อนโดยไม่ปรากฏตัวมาโดยตลอด เว้นแต่อีกาทมิฬและคนสนิทที่สุดแล้ว คนอื่นๆ ล้วนแล้วแต่ไม่ได้รับรู้ถึงการดำรงอยู่ของกองทัพกองนี้ เพียงแต่เคยมีข่าวเรื่องกองทัพอีกาทมิฬที่สี่ซึ่งมีการการลือกันไปอยู่บนโลกใบนี้เท่านั้น

กองทัพกระเรียนขาวจัดตั้งขึ้นมากับมือโดยหลี่ชิเย่ มันถูกจัดตั้งขึ้นอย่างลับๆ ในยุคของราชันเซียนหมิงเหริน ขณะที่ถานไถรว่อหนานคือแม่ทัพคนแรกของกองทัพกระเรียนขาว ส่วนราชันเซียนหมิงเหรินคือหัวหน้าผู้ฝึกสอนของกองทัพกระเรียนขาว!

นับตั้งแต่วันแรกที่มีการก่อตั้งกองทัพกระเรียนขาวขึ้นมา มันก็จะมีภารกิจที่ไม่มีใครรู้เสมอ เนื่องจากการที่กองทัพกระเรียนขาวมีภารกิจที่ลับมากนี่เอง จึงทำให้มันแตกต่างไปจากกองทัพอีกสามกองทัพนั่น!

ความจริงแล้ว หลี่ชิเย่เคยมีแนวความคิดที่ยิ่งใหญ่มากก่อนจะมาถึงยุคของราชันเซียนหมิงเหรินด้วยซ้ำ เพียงแต่ช่วงก่อนหน้านั้นการสั่งสมประสบการณ์และกำลังยังยากที่จะปฏิบัติกับแนวความคิดที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ ดังนั้น ล่วงเลยมาจนกระทั่งถึงยุคของราชันเซียนหมิงเหริน ภายใต้การกำกับของเขา ราชันเซียนหมิงเหรินได้บุกเบิกยุคเหล่าราชันขึ้นมา จึงทำให้หลี่ชิเย่มีทรัพยากรและกำลังเพียงพอที่จะมาดำเนินการแนวความคิดที่ยิ่งใหญ่นี้ขึ้นมาได้

ด้วยเหตุนี้เอง กองทัพกระเรียนขาวจึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา มันถือกำเนิดขึ้นมาอย่างลับๆ มันได้แบกรับภารกิจที่ชาวโลกไม่เคยรับรู้มาก่อน!

“ในฐานะที่เป็นแม่ทัพคนแรก วันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าข้ายังจะได้เห็นการนำทัพกองทัพกระเรียนขาวด้วยตัวเจ้าเองอีกครั้ง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวออกมา

ครั้งนั้น หลังจากที่ถานไถรว่อหนานได้ตัดสายเลือดของนางไปแล้ว นางก็อยู่ข้างกายหลี่ชิเย่ มาโดยตลอด ขณะที่หลี่ชิเย่เองก็ตั้งใจสรรสร้างนางขึ้นมา ดังนั้น จึงได้ทุ่มเทกำลังกายใจบนตัวของนางเป็นอันมาก

กล่าวอย่างไม่ต้องเกรงใจเลย กำลังกายใจที่หลี่ชิเย่ได้ทุ่มให้กับนางนั้น ไม่ได้น้อยไปกว่าการบ่มฟักราชันเซียนขึ้นมาคนหนึ่งเลย แต่ว่า การดำรงอยู่ของถานไถรว่อหนานนั้นไม่ได้เพื่อเป็นราชันเซียน!

ควรจะทราบว่า ก่อนที่จะมีการตัดสายเลือดนั้น ถานไถรว่อหนานเองก็อยู่ในฐานะสตรีผู้สูงส่งแล้ว มีพรสวรรค์ที่สูงยิ่ง กำลังความสามารถของนางแข็งแกร่งมาก หลังจากที่นางมาอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่แล้ว ได้รับการบ่มฟักจากหลี่ชิเย่อย่างเต็มที่ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่านางจะประสบความสำเร็จสูงส่งเพียงใดแล้ว

“วันหนึ่งข้างหน้า ข้าคิดจะติดตามคุณชายไปอยู่เหนือเก้าแดน เพื่อจะได้เห็นท่วงทีที่มีความสง่างามของคุณชายขณะล่าเหล่าราชันและเหล่าเทพเหมือนกัน” ถานไถรว่อหนานที่อิงแอบอยู่กับไหล่ของหลี่ชิเย่ กล่าวว่า “แต่ ข้ายังคงต้องการมอบกำลังให้กับโลกใบนี้ เฉกเช่นบิดาของข้าก่อนจากไปก็ยังคงเป็นห่วงโลกใบนี้อยู่อย่างนั้น…”

“…เหมือนดั่งเช่นคุณชายที่คอยคุ้มครองเก้าแดนอย่างนั้น โลกลักษณะเช่นนี้ย่อมมีสิ่งที่ทำให้ต้องอาลัยอาวรณ์อยู่เสมอ ย่อมมีสิ่งที่ทำให้ต้องห่วงใยอยู่เสมอ เหมือนเช่นคุณชายอย่างนั้น ต่อให้ขึ้นไปอยู่เหนือเก้าแดนแล้ว แต่ยังคงกลับมายังเก้าแดน ยังคงคอยบ่มฟักราชันเซียนขึ้นมาที่เก้าแดนแห่งนี้”

“ข้าไม่ได้ยิ่งใหญ่ถึงปานนั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มและส่ายหน้า กล่าวว่า “ที่ข้ากลับมาก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะต้องปกป้องเก้าแดน มันเป็นการสั่งสมของข้า ก็เหมือนชาตินี้อย่างนั้น เมื่อข้าปีกกล้าขาแข็งแล้ว ข้าจะกลับไปอีกครั้ง!”

“ไม่ว่าคุณชายจะทำเพื่ออะไร สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ เพื่อโลกใบนี้แล้ว คุณชายได้ถ่ายโอนกำลังใหม่ๆ เข้าไปยังโลกใบนี้อย่างไม่ขาดสาย ผลงานเช่นนี้นับว่าเพียงพอแล้ว จะมีราชันเซียนคนไหนที่เทียบเคียงได้อีกกันเล่า?”

หลี่ชิเย่มองดูดวงอาทิตย์ที่อัสดงด้านนอกโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา ขณะที่ถานไถรว่อหนานเองก็อิงแอบอยู่กับไหล่ของหลี่ชิเย่โดยไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *