Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1595

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1595 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1595 ขึ้นบันไดเสียง

หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา เมื่อมองเห็นท่าทางของยวียวี่เหลียน ยิ้มกล่าวว่า “เจ้าคนที่ชื่อหลงอ้าวเทียนนั้นรู้หรือไม่ว่าเจ้าชอบเขา?”

ยวียวี่เหลียนพลันมีใบหน้าที่แดงก่ำ เมื่อถูกหลี่ชิเย่เปิดเผยเรื่องที่ตนแอบรักเขาข้างเดียวต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้ นางถึงกับจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “เกี่ยวอะไรกับเจ้า”

หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมา ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “แม้ว่าข้าจะไม่ได้สนับสนุนความรักระหว่างเจ้ากับหลงอ้าวเทียน จะอย่างไรเสียมันไม่มีจุดจบที่ดีอยู่แล้ว แต่จะว่าไปนะ การเป็นคนที่กล้ารักกล้าเกลียดคนหนึ่งก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี…”

“ในเมื่อชอบก็ไปบอกเขาสิ ไปเปิดเผยเสีย มัวแต่แอบชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ นับเป็นอะไร? ต่อให้เจ้าทำอะไรให้เขามากมายเขาก็ไม่รู้ กระทั่งอาจมีความเป็นไปได้ที่ในใจของเขานั้นเจ้าไม่ได้เป็นบุคคลที่มีความสำคัญอะไรเลย”

ใช่ว่าหลี่ชิเย่จะมีอคติต่อคนที่ชื่อหลงอ้าวเทียนแต่อย่างใด เพียงแต่ การที่พรรคเซียนเหินดึงดันที่ต้องการเข้าสู่ยุทธภพในชาตินี้ให้ได้ ย่อมเท่ากับได้ลิขิตจุดจบของพรรคเซียนเหินเอาไว้แล้ว พรรคเซียนเหินได้ฉีกคำมั่นสัญญาที่ให้เอาไว้ในครั้งนั้นเพียงฝ่ายเดียว เป็นเรื่องที่ไม่ต้องพูดถึงอีกต่อไป

คำพูดเช่นนี้ทำเอายวียวี่เหลียนอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ทั้งอับอายทั้งโกรธแค้นยิ่งนัก สำหรับบรรดาผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีใจต่อยวียวี่เหลียน ยิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก

ขนาดยวียวี่เหลียนยังเป็นเช่นนี้ แล้วบรรดาผู้ที่หลงรักยวียวี่เหลียนอย่างเงียบๆ จะไม่เป็นเช่นนี้รึ

หลี่ชิเย่ เจ้าไม่ต้องทำเป็นเล่นลิ้น…” ยวียวี่เหลียนร้องกล่าวเสียงดังออกมาทันที “ถ้าหากเจ้าไม่มีปัญญาขึ้นบันไดเสียงสิบสองขั้นก็ยอมแพ้เสียแต่โดยดี ไม่ต้องทำเป็นเฉไฉ!”

หลี่ชิเย่มองดูยวียวี่เหลียนยิ้มและส่ายหน้า ยวียวี่เหลียนหลงรักเจ้าคนที่ชื่อหลงอ้าวเทียนเข้าแล้วจริงๆ เสียดาย นางไม่กล้าแม้แต่จะเปิดเผย ได้แต่หลบอยู่ภายใต้เงามืดแอบรักเขาอยู่เงียบๆ

“เจ้ายืนยันต้องการให้ข้าขึ้นบันไดเสียงสิบสองขั้นเพื่อชี้ขาดกับคนในดวงใจเจ้ารึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้กล่าวพร้อมกับจ้องมองดูยวียวี่เหลียน

“หลี่ชิเย่ เจ้าแน่จริงก็ขึ้นไปที่ขั้นสิบเอ็ดให้ได้ก่อนค่อยมาตีฝีปาก” หลินเฮ่าเห็นว่าหลี่ชิเย่ไม่มองศิษย์พี่ใหญ่ของตนอยู่ในสายตาถึงเพียงนี้ ถึงกับร้องตะโกนออกมาเช่นกัน

ยวียวี่เหลียนชักสีหน้า กล่าวจริงจังออกมาว่า “ถ้าหากเจ้าไม่กล้าขึ้นไปยังบันไดเสียงสิบสองขั้น ยอมแพ้เสียตั้งแต่ตอนนี้ยังทัน”

“เอาเถอะ งั้นก็ให้ข้าเป็นคนทำลายความฝันของเจ้าก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “เพื่อไม่ให้เจ้าต้องถลำลึกลงไปมากกว่านี้ กลับใจเวลานี้ยังทัน”

เดิมการมาที่นี่ของหลี่ชิเย่ต้องการพาข่งเชียะหมิงหวางมาดู ไม่นึกเลยว่ากลับจะต้องมาเอะเจอเรื่องของยวียวี่เหลียน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ให้นางได้ตื่นขึ้นบ้างก็ดี อย่ารอให้ถึงวันที่กลายเป็นเถ้าธุลี ถึงนางจะเสียใจจนน้ำตากลายเป็นสายเลือดก็สายเกินไปเสียแล้ว

เวลานี้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่กลั้นลมหายใจเอาไว้ เมื่อได้ยินว่าหลี่ชิเย่จะขึ้นบันไดเสียงสิบสองขั้น ทุกคนมองไปที่หลี่ชิเย่ เฝ้าดูทุกอิริยาบถของหลี่ชิเย่

ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการรู้ว่าหลี่ชิเย่สามารถขึ้นไปได้กี่ขั้น ก่อนหน้านั้นมีหลงอ้าวเทียนที่ขึ้นไปได้ถึงขั้นที่สิบเอ็ด ผลงานลักษณะเช่นนี้ของหลงอ้าวเทียนได้กดทับบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนนับไม่ถ้วนจนหายใจไม่ออก

เรียกได้ว่าไม่มีกลุ่มคนรุ่นใหม่คนใดกล้าท้าทายผลงานของหลงอ้าวเทียน แต่ว่า เวลานี้ การมาของคนโหดอันดับหนึ่ง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

ผู้คนจำนวนมากต่างคาดเดาว่าหลี่ชิเย่สามารถขึ้นบันไดเสียงไปได้กี่ขั้น ภายในใจของผู้คนจำนวนมากมองว่า หากหลี่ชิเย่ไม่สามารถก้าวขึ้นไปถึงขั้นที่สิบเอ็ด จะส่งผลให้หลี่ชิเย่ต้องสลดและอับแสงภายใต้ชื่อเสียงและเกียรติยศของหลงอ้าวเทียน

ถ้าหากว่า หลี่ชิเย่สามารถขึ้นไปบนบันไดเสียงขั้นที่สิบเอ็ดได้ บอกได้เพียงหลี่ชิเย่เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งของหลี่ชิเย่อย่างแท้จริง

ภายในใจของผู้คนจำนวนมากต่างเข้าใจได้ว่า การที่หลี่ชิเย่ก้าวขึ้นบันไดเสียงสิบสองขั้นหลังหลงอ้าวเทียนเป็นการเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากหลงอ้าวเทียนขึ้นไปแล้วก่อนหน้า หลงอ้าวเทียนจึงแย่งเอาความโดดเด่นไปครอบครอง เวลานี้ต่อให้หลี่ชิเย่ปีนขึ้นไปได้ถึงขั้นที่สิบเอ็ด ก็ตาม แต่ปฏิกิริยาตอบรับก็จะไม่เร่าร้อนเหมือนเช่นคราวที่หลงอ้าวเทียนก้าวขึ้นสู่ขั้นที่สิบเอ็ดได้ในตอนนั้น

เวลานี้ มีเพียงทางเดียวหลี่ชิเย่ต้องขึ้นไปขั้นที่สิบสองให้ได้ เมื่อสามารถเคียงคู่กับกู้จุนที่เป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลนับแต่อดีตถึงปัจจุบันเท่านั้น จึงสามารถทำให้หลี่ชิเย่คว้าชัยมาได้อย่างมีเกียรติ และทำให้ความโดดเด่นของหลี่ชิเย่สยบหลงอ้าวเทียนเอาไว้ได้

มิฉะนั้นล่ะก็ ต่อให้ได้ผลงานเท่ากัน ความโดดเด่นของหลี่ชิเย่ก็สู้หลงอ้าวเทียนไม่ได้

ในขณะที่ผู้คนต่างกลั้นลมหายใจอยู่นั้น ระหว่างที่หลายคนคาดเดาว่าหลี่ชิเย่สามารถขึ้นบันไดเสียงไปได้กี่ขั้น ขณะเดียวกันก็มีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีใจชอบพอต่อยวียวี่เหลียน ถึงกับคาดหวังในจลึกๆ ให้หลี่ชิเย่สามารถทำลายสถิติที่หลงอ้าวเทียนทำเอาไว้ ก้าวขึ้นบันไดเสียงขั้นที่สิบสอง

สำหรับบรรดาผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีใจชอบพอเหล่านั้น พวกเขาต้องการมให้มีผู้ที่สามารถปราบหลงอ้าวเทียนได้จริงๆ เพื่อให้หลงอ้าวเทียนเสียหน้า มีเพียงวิธีนี้จึงสามารถทำให้ยวียวี่เหลียนได้เข้าใจว่า หลงอ้าวเทียนที่นางชื่นชอบไม่ได้ดีเลิศเช่นนั้น

ความจริงแล้ว เวลานี้ ข่งเชียะหมิงหวางเองก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาบ้าง ที่นางตื่นเต้นนั้นหาใช่หลี่ชิเย่สามารถเทียบได้กับผลงานของหลงอ้าวเทียน ที่นางตื่นเต้นคือ หลี่ชิเย่สามารถขึ้นไปถึงยอดสูงสุดจริงหรือไม่

ก่อนหน้านั้น หลี่ชิเย่เคยบอกว่าเขาสามารถขึ้นไปถึงยอดสูงสุดได้ ถ้าหากว่าหลี่ชิเย่ สามารถขึ้นไปด้ถึงยอดสูงสุดจริงล่ะก็ มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน เนื่องจากมีคนเคยบอกว่า มีเพียงราชันเซียนที่สามารถทำลายพันธนาการของสัจธรรมได้จึงสามารถขึ้นไปได้ ถ้าหากวันนี้หลี่ชิเย่สามารถขึ้นไปถึงยอดสูงสุดได้ก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวยิ่งนัก

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ได้ก้าวเท้าของเขาออกไปแล้ว เริ่มต้นก้าวขึ้นสู่บันไดเสียงขั้นที่หนึ่ง เมื่อหลี่ชิเย่เหยียบลงบนบันไดเสียงขั้นที่หนึ่งนั้น บันไดเสียงได้ส่งเสียงดัง “ตึง” เป็นจังหวะดนตรีขึ้นมา

ขณะที่เสียงดนตรีดังขึ้นมานั้น คนที่อยู่ด้านนอกบันไดเสียงเมื่อได้ยินแล้วจะไม่รู้สึกอะไร แต่ว่า คนที่ก้าวขึ้นบันไดเสียงจาะแตกต่างกัน เสียง “ตึง” เสียงนี้คือเสียงสัจธรรม เสมือนเป็นเสียงจากระฆังที่หนักแน่นยิ่งใหญ่ มันมุ่งโจมตีต่อจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรในทันที มันมีอำนาจที่น่ากลัวยิ่ง เสมือนหนึ่งสามารถทำลายร่างกายของคนๆ หนึ่งได้ในฉับพลันทันที ซึ่งสร้างความหวาดหวั่นต่อจิตใจของผู้คน หากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรอ่อนแอเพียงน้อยนิด ก็จะถูกจัวหวะดนตรีนี้สยบจนต้องคุกเข่าลงตรงนั้นในทันที

การก้าวขึ้นสู่งบันไดเสียงสิบสองขั้นอาศัยความสามารถในการเข้าใจ จิตใจที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ และจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร แต่ว่ามีสองสิ่งที่หลี่ชิเย่ไม่จำเป็นต้องใช้ เขาไม่มีความจำเป็นต้องไปบรรลุเสียงสัจธรรมของที่นี่ ยิ่งไม่ต้องอาศัยจิตใจที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่มายืนหยัด เขาอาศัยจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงเดียวก็เพียงพอแล้ว!

หลี่ชิเย่มีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ผ่านการขัดเกลามานานนับพันล้านปี ความแข็งแกร่งของจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรหาใช่แค่บันไดเสียงสิบสองขั้นสามารถสั่นคลอนได้ มิฉะนั้นล่ะก็ เขาคงไม่ยืนหยัดมานานนับพันล้านปี

ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากกลั้นลมหาใจอยู่นั้น “ตึง ตึง ตึง…” หลี่ชิเย่ได้เริ่มต้นก้าวขึ้นบันไดสิบสองขั้นทีละขั้นๆ

“หนึ่ง สอง สาม…” บางคนถึงกับพึมพำออกมา ขณะมองดูหลี่ชิเย่ที่ก้าวขึ้นบันไดเสียงสิบสองขั้นทีละขั้นๆ คอยนับทุกฝีก้าวของหลี่ชิเย่

“เก้า สิบ…” ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ได้ก้าวขึ้นไปถึงขั้นที่สิบแล้วในที่สุด ยามที่เขายืนอยู่ ณ บันไดเสียงขั้นที่สิบนั้น ยวียวี่เหลียนพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที แม้แต่เสียงหายใจก็ดูจะหนักแน่น นางถึงกับพนมมืออธิฐานเบาๆ หวังว่าหลี่ชิเย่จะไม่สามารถก้าวขึ้นบันไดเสียงขั้นที่สิบเอ็ดได้

ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่ยกเท้าก้าวขึ้นไปยังบันไดเสียงขั้นที่สิบเอ็ด และเวลานี้ หลี่ชิเย่จงใจหยุดนิดหนึ่งมองดูพวกของยวียวี่เหลียนทีหนึ่ง

“ไม่ไหวแล้วใช่ไหม?” ในขณะที่หลี่ชิเย่หยุดอยู่ระหว่างขั้นที่สิบและขั้นที่สิบเอ็ดของบันไดเสียงนั้น มีคนที่พูดด้วยเสียงแผ่วเบาออกมา

ยวียวี่เหลียนที่มองเห็นหลี่ชิเย่หยุดอยู่ที่บันไดเสียงระหว่างขั้นที่สิบกับสิบเอ็ดอยู่นั้น นางถึงกับหายใจด้วยความโล่งอกทีหนึ่ง

“ข้ายังจะต้องเดินหน้าต่อหรือไม่?” หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้น กล่าวด้วยท่าทียิ้มแต้

ในเวลานี้ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากต่างมองหน้ากันและกัน เมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมาเช่นนี้ ทำให้หลายคนไม่มีความมั่นใจทันที ไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่ ขึ้นไปได้ต่อหรือไม่กันแน่ ที่หลี่ชิเย่ทำเช่นนี้เป็นการหาทางลงให้กับตัวเองหรือจงใจท้าทายกันแน่?

ยวียวี่เหลียนรู้สึกไม่สบายใจนัก กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “การแข่งขันนั้น มิตรภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าหากขึ้นไม่ได้ก็อย่าฝืน การพ่ายแพ้ให้กับพี่หลงหาใช่เป็นเรื่องน่าอาย เขาคือโอรสแห่งสรรค์!”

“นั่นสิ” หลินเฮ่าเมื่อได้ยินหลี่ชิเย่พูดเช่นนี้ เข้าใจว่าหลี่ชิเย่ต้องการหาทางลงให้กับตัวเอง จึงกล่าวเยาะเย้ยถากถางว่า “พ่ายให้กับราชันเซียนในอนาคตเป็นเรื่องที่เห็นใจกันได้ เมื่อขึ้นไปไม่ได้ก็อย่าได้อวดเก่ง รีบๆ ลงมาเถอะ”

บางคนที่เห็นหลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่มีการเคลื่อนไหว คิดว่าหลี่ชิเย่กำลังหาทางลงเช่นกัน ภายในใจของคนเหล่านี้รู้สึกผิดหวัง พวกเขายังเข้าใจว่าหลี่ชิเย่สามารถบั่นทอนความฮึกเหิมของหลงอ้าวเทียน ได้

“เห็นทีข้ายังคงต้องพยายามต่อไปอีก” ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มออกมา จากนั้นก้าวเท้าออกไป

“สิบเอ็ด…” ไม่รู้ว่าผู้บำเพ็ญตนคนไหนร้องด้วยเสียงอันดังออกมา เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ก้าวเท้าขึ้นไปยังบันไดเสียงขั้นที่สิบเอ็ด จากนั้น มีเสียงคนปรบมือดังขึ้นมา

ขณะยืนอยู่บันไดเสียงขั้นที่สิบเอ็ด หลี่ชิเย่มองดูร่างเงาของหลงอ้าวเทียนแวบบหนึ่ง ยิ้มเฉยเมยออกมา เพียงนิ้วเดียวที่ปัดขวางออกไปทีหนึ่ง เสียงดัง “ปัง” ร่างเงาของหลงอ้าวเทียนที่ยืนอยู่ตรงนั้นพลันถูกทำลาย ไม่เหลือร่องรอยอะไรเอาไว้เลย

“ไม่…” ยวียวี่เหลียนถึงกับร้องเสียงดังออกมา พลันมีสีหน้าที่ซีดเผือดเมื่อเห็นภาพเช่นนี้

“นี่มันโหดเกินไปแล้วกระมัง” หลายคนต้องมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาก เมื่อเห็นหลี่ชิเย่แค่อาศัยนิ้วเดียวชี้ไปตามอารมณ์ก็สามารถทำลายร่างเงาของหลงอ้าวเทียนได้แล้ว

สมควรทราบว่า การที่ยืนอยู่บนบันไดเสียงขั้นที่สิบเอ็ดด้วยกันนั้น พลังสยบที่หลี่ชิเย่ได้รับจะเช่นเดียวกันกับหลงอ้าวเทียน ขณะที่สุดท้ายแล้วร่างเงาของหลงอ้าวเทียน สามารถคงอยู่ ณ ที่ตรงนี้ได้นั้นมาจากเสียงของสัจธรรมทำให้ก่อเกิดขึ้นมา ใช่ว่าคิดจะทำลายก็สามารถทำลายได้โดยง่าย

“เจ้าทำอะไร…” หลินเฮ่าก็ร้องเสียงดังออกมาเช่นกัน เมื่อเห็น/หลี่ชิเย่อาศัยนิ้วเพียงนิ้วเดียวทำลายร่างเงาของหลงอ้าวเทียนทิ้งไป

“นี่ไม่มีความท้าทายเอาเสียเลย” หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะเป็นสนใจหลินเฮ่า ยิ้มเฉยเมยก้าวเท้าออกไปอีกครั้ง มุ่งสู่บันไดขั้นที่สิบสอง

“บันไดขั้นที่สิบสอง!” ไม่รู้ว่าใครร้องเสียงแหลมออกมา ขณะหลี่ชิเย่ยืนอยู่บันไดเสียงขั้นที่สิบสอง

“ร้ายกาจเหลือเกิน” บรรดาผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างอดที่จะปรบมือออกมาไม่ได้

“นี่นับว่ายอดเยี่ยมเหลือเกิน จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเช่นนี้ พรสวรรค์สามารถเทียบเคียงสิบสุดยอดอัจฉริยะตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันนะเนี่ย” หลายคนต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้น

หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มๆ และส่ายหน้าเมื่อมองเห็นร่างเงาของกู้จุนที่ยืนอยู่บันไดขั้นที่สิบสองด้วยกันดีดนิ้วเบาๆ ได้ยินเสียงดัง “ปัง” ร่างเงาของกู้จุนก็มลายหายไปทันที!

“เจ้า…” สีหน้าบรรดาศิษย์ของเมืองสมุทรสยบฟ้าที่อยุ่ในเหตุการณ์ดูไม่จืดยิ่งนัก จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *