Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1717 การตัดสินใจของหนีชิวน้อย

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1717 การตัดสินใจของหนีชิวน้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1717 การตัดสินใจของหนีชิวน้อย
“เป็นแนวความคิดที่ไม่เลวนัก” หลี่ชิเย่พยักหน้าเบาๆ เมื่อเห็นหนีชิวน้อยตัดสินใจสุดท้ายออกมาแล้ว กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เก้าแดนมันก็งดงามอะไรอย่างนั้นแหละ และโลกนี้ก็มีความหมายมาก ขอเพียงเจ้าตั้งใจจะรั้งอยู่จริงๆ โลกนี้จะทำให้เจ้ามีมุมมองอีกแบบหนึ่ง”

“นั่นสิ จะอย่างไรเสียเก้าแดนกว้างใหญ่ขนาดนี้ ถ้าหากวันไหนข้าเบื่อแล้วก็ย้ายรังใหม่ คนอย่างข้าฝีมืออย่างอื่นไม่ค่อยมี แต่คิดจะไปไหนแล้วไม่มีปัญหาอะไรเลย” สุดท้าย หนีชิวน้อยก็ได้ตัดสินใจเลือกแล้ว และมีอารมณ์เบิกบานขึ้น อารมณ์ดีขึ้น หัวเราะและกล่าวว่า “ไม่แน่นักยุคสมัยไหนสักยุคหนึ่งข้าอาจจะตามก้นราชันเซียนคนใดคนหนึ่งแอบขึ้นไปยังแดนที่สิบ คนอื่นขึ้นไปไม่ได้ แต่ข้าน่ะมีโอกาสอยู่แล้ว”

“เรื่องนี่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะและหลี่ชิเย่ “แม้ว่าโดยหลักการแล้ว มีเพียงราชันเซียนคนเดียวเท่านั้นที่ขึ้นไปได้ แต่เจ้าได้ควบคุมกฎเกณฑ์ของช่องว่างเอาไว้ การตามก้นราชันเซียนขึ้นไปยังคงมีโอกาสขึ้นไปได้อยู่”

“ก็ใช่ แหะ อย่างไรเสียข้ามีเวลาเหลือเฟือ รอให้ข้าขึ้นไปยังแดนสิบเสียก่อน ข้าก็จะแปรเปลี่ยนเป็นมังกรแท้จริง เมื่อถึงตอนนั้นก็ถึงเวลาข้านี่แหละจะเกรียงไกรไปสิบทิศ ข้าน่ะมังกรในหมู่มวลมนุษย์ ไปถึงไหนก็ยังคงเปล่งประกายได้ดั่งทองคำอยู่แล้ว” เมื่อหนีชิงน้อยเอ่ยถึงตรงนี้ถือโอกาสโอ้อวดตนขึ้นมา

เจ้าหนีชิวน้อยมีสายเลือดที่ไม่เหมือนคนอื่น เขามีโอกาสเลื่อนชั้นขึ้นเป็นมังกรแท้จริงได้ และนี่ก็คือหนึ่งเหตุผลที่เขามีสีทองระยิบระยับไปทั่วตัว และมีกลิ่นอายมังกรแวบวับ เวลานี้โดยตัวของเขาเองก็มีเอกลักษณ์เฉพาะของเผ่ามังกรอยู่ในครอบครองแล้ว

หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “เจ้าอยู่ในโลกนี้ก็มีโอกาสกลายเป็นมังกรแท้จริงได้ในระดับหนึ่ง แน่นอน แต่ว่าขั้นตอนตรงนั้นยากมาก เมื่อเทียบกับแดนที่สิบแล้วเป็นความจริงที่สู้ไม่ได้”

ลักษณะของเจ้าหนีชิวน้อยในขณะนี้หากขึ้นไปยังแดนที่สิบ มีโอกาสไม่น้อยเลยที่จะกลายเป็นมังกรแท้จริงได้ แน่นอนที่สุด หากรั้งอยู่ที่เก้าแดนโอกาสตรงนั้นก็จะลดลงอย่างมากทีเดียว

“ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ได้ เรื่องแบบนี้คงไม่ไปฝืน” เจ้าหนีชิวน้อยมีจิตที่กว้างขวางมาก เขาเองก็ปลงแล้ว ยิ้มกล่าวว่า “ถ้าหากข้าเกิดเป็นมังกรแท้จริงขึ้นมาได้ล่ะก็ ราชันเซียนในโลกนี้จะอยู่กันอย่างไร เมื่อมีมังกรแท้จริงยึดครองอยู่บนโลกใบนี้ มิทำให้ราชันเซียนยังต้องเดินอ้อมไปอีกทางรึ? ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจไม่รีบเร่งกลายเป็นมังกรแท้จริง เพื่อราชันเซียนจะได้ไม่อยู่อย่างลำบาก คนอย่างข้ามีคุณธรรมนะ โอกาสนี้เหลือเอาไว้ให้ผู้เยาว์” กล่าวพลางเริ่มคุยโม้อีกแล้ว

เมื่อหลี่ชิเย่ได้ฟังการคุยโม้ของเจ้าหนีชิวน้อยแล้วถึงกับหัวเราะและส่ายหน้า แต่ว่า กล่าวสำหรับเขาแล้ว ความเบิกบานใจของเจ้าหนีชิวน้อยก็นับเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง

“แหะ แหะ แหะ คุณชายอย่าได้เสียชื่อเก้าแดนของพวกเรา” เวลานี้เจ้าหนีชิวน้อยได้เอาข้อศอกกระทุ้งหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง หัวเราะแหะ แหะ และกล่าวว่า “แม้ข้าจะรู้ว่าคุณชายไม่ชอบผู้หญิง สำหรับคุณชายแล้วผู้หญิงจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ว่า คุณชายจะมัวนึกถึงแต่ตัวเองไม่ได้นะ ควรนึกถึงเก้าแดนทั้งหมด ควรนึกถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดนะ…”

“คุณชายควรแพร่สายเลือดของคุณชายไปทั่วทั้งแดนสิบ ให้สายเลือดที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมสืบทอดต่อไปในแดนที่สิบไปเรื่อยๆ ดังนั้น เมื่อคุณชายขึ้นไปยังแดนที่สิบแล้ว จะต้องจับเอาพวกเทพธิดาเผ่าเทพ ธิดาสวรรค์ของเผ่าสวรรค์ที่หยิ่งผยองอะไรนั่นมาจัดการให้หนัก ให้พวกนางยอมศิโรราบภายใต้อำนาจของคุณชาย” เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว เจ้าหนีชิวน้อยหัวเราะอย่างชั่วช้าขึ้นมา

ความจริงแล้ว บนโลกใบนี้มีไม่กี่คนที่กล้าพูดล้อเล่นเช่นนี้กับหลี่ชิเย่ มีเพียงเจ้าหนีชิวน้อยที่ไม่ค่อยติดตามหลี่ชิเย่มานาน จึงกล้าพูดจาล้อเล่นที่ไม่สุภาพสักเท่าไร

หลี่ชิเย่จึงแจกมะเหงกเข้าให้ ด่าทีเล่นทีจริงว่า “เสนอความคิดเย่ๆ ให้มันน้อยๆ หน่อย นี่มันความคิดไร้สาระอะไรของเจ้า พูดส่งเดชไปเรื่อย”

แต่ทว่า เจ้าหนีชิงน้อยกลับไม่ยอมรับกับคำพูดเช่นนี้ ทำถลึงตาแล้วกล่าวว่า “ความคิดนี้มันเย่อย่างไร นี่ข้าไม่ได้พูดส่งเดชนะ มันเป็นเรี่องจริงแท้แน่นอน คุณชายอย่าลืมสิว่าเคยเล่าเรื่องเหล่านั้นให้ข้าฟัง ในอดีตเคยมีราชันเซียนที่ไปก่อเรื่องไม่ดีไปทั่ว…”

“…ข้าได้ยินกับหูตัวเอง ท่านบอกว่าเคยมีราชันเซียนที่ไปเกาะแกะเมียชาวบ้าน และมีราชันเซียนที่ไปชิงเอาเทพธิดา ธิดาสวรรค์เผ่าเทพ เผ่าสวรรค์อะไรนั้นมาเป็นเมีย แหะ ขนาดราชันเซียนยังกล้าทำชั่วเฉกเช่นโจรหรืออันธพาลได้ เรื่องเช่นนี้มีอะไรน่าอาย”

ถ้าหากมีใครได้ยินคำพูดของเจ้าหนีชิวน้อยเข้ารับรองต้องอ้าปากค้าง กล่าวสำหรับเก้าแดนแล้ว ระหว่างคนดีกับคนไม่ดีแบ่งได้ยาก ดังนั้น ในสายตาของผู้คนราชันเซียนจะดีหรือเลวนั้นยากที่จะสรุปได้

กล่าวสำหรับโลกมนุษย์แล้ว ราชันเซียนเหมือนกันมีคนมองว่าเป็นคนดี แต่ก็มีคนมองว่าเป็นคนเลว ไม่ว่าราชันเซียนจะเป็นคนดีหรือคนเลว แต่อย่างน้อยที่สุดราชันเซียนจะทำอะไรก็จะเปิดเผยและบริสุทธิ์ เนื่องจากระดับเช่นนี้คงไม่ทำอะไรลับๆ ล่อๆ พวกเขามีกำลังเพียงพอที่จะสยบทุกสิ่งทุกอย่างได้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ก้าวมาจนถึงระดับราชันเซียนจะไม่สนใจชาวโลกจะมองพวกเขาอย่างไรอยู่แล้ว

แม้จะกล่าวเช่นนี้ก็ตาม ถ้าหากจะบอกว่าราชันเซียนไปเกาะแกะเมียชาวบ้านหรือไปแย่งชิงลูกสาวคนอื่น เกรงว่าราชันเซียนคงไม่ทำเรื่องเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ตามหากได้ยินเรื่องนี้แล้วก็ต้องคิดว่าเป็นการใส่ความ

ในสายตาของชาวโลกมองว่า ราชันเซียนสามารถทำลายล้างเผ่าพันธุ์เผ่าหนึ่งได้ และสามารถฆ่าล้างตระกูลที่ต่อต้านเขาได้ แต่ว่าหากจะกล่าวว่าราชันเซียนไปแย่งชิงผู้หญิง โดยพื้นฐานแล้วเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากราชันเซียนแค่กระดิกนิ้ว ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงจากเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินจำนวนเท่าไรที่พร้อมจะโผเข้าอ้อมกอดของเขา

“นั่นเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว บอกได้แต่เพียงเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาโดยราชันเซียนในยุคไร้ซึ่งอารยะธรรมเท่านั้น” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าและยิ้มกล่าว

“แหะ แต่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงนะ เป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ” เจ้าหนีชิวน้อยหัวเราะแหะแหะ และกล่าวว่า “บรรดาราชันและเหล่าเทพของแดนที่สิบเก่งมากเลยนี่ไม่ใช่รึ ราชันเซียนของเก้าแดนเราสมควรทำลายความฮึกเหิมพวกเขาบ้างสิ ก็จะแย่งชิงผู้หญิงของเขาอย่างนี้แหละ…”

“แหะ อาศัยเสน่ห์ของคุณชายไปปรากฏตัวที่แดนสิบ ไม่รู้ว่าเทพธิดาและธิดาสวรรค์จำนวนเท่าไรที่ยินดีอุ่นเตียงให้กับท่าน ไม่รู้ว่ามีเทพธิดาและธิดาสวรรค์จำนวนเท่าไรที่ยินดีเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด แหะ ลองนึกดู คุณชายเป็นศัตรูกับตาเฒ่าของพวกเขา เวลานี้ยังได้รุ่นหลานของพวกเขามาเป็นเมีย ไม่ต้องให้คุณชายลงมือก็สามารถทำให้พวกเขาโมโหจนตายได้”

“เสนอแต่ความคิดแย่ๆ ทั้งนั้น” หลี่ชิเย่แจกมะเหงกเข้าให้ และด่าทีเล่นทีจริงว่า “ต่อให้ข้าเป็นศัตรูกับบรรดาราชันและเหล่าเซียน จำเป็นด้วยรึที่ข้าต้องอาศัยวิธีสกปรกเช่นนี้อย่างนั้นรึ? อาศัยกำลังของข้าช้าเร็วก็ต้องปราบพวกเขาจนราบคาบ”

“เจ้าหนีชิวน้อยรีบพูดขึ้นมาว่า “คุณชายพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ต่อให้คุณชายไม่เห็นพวกเทพธิดาธิดาสวรรค์อยู่ในสายตา แต่ว่า ก็ต้องนึกถึงตัวเองให้มากๆ หน่อย และคำนึงถึงเก้าแดนบ้าง คำนึงถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์บ้างนะ ท่านควรจะวางทายาทไปทั่วทั้งแดนที่สิบ มีเพียงวิธีให้สายเลือดที่สุดยอดเป็นหนึ่งไม่เป็นสองได้สืบทอดต่อไป เผ่าพันธุ์มนุษย์จึงจะมีความแข็งแกร่งในแดนที่สิบได้ และแพร่ออกไปเรื่อย”

“ยุคสมัยต่างกันแล้วหละ” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “แม้ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ในแดนที่สิบยังสู้เผ่าเทพ เผ่าสวรรค์ที่เป็นโอรสสวรรค์ไม่ได้ แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ในเวลานี้ก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนในอดีตอีก เวลานี้เผ่าพันธุ์มนุษย์ในแดนที่สิบมีการสืบทอดต่อไปไม่หยุดแล้ว ไม่ต้องมาบุกเบิกสายเลือดเผ่าพันธุ์มนุษย์เหมือนก่อนหน้านั้นอีกแล้ว ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของบรรดาราชันเซียนทั้งหลาย และเป็นผลสืบเนื่องจากการบุกเบิกของปรัชญาเมธีแต่ละรุ่น”

“ราชันเซียนที่ขึ้นไปในเวลานี้ล้วนแล้วแต่ใม่จำเป็นต้องไปคำนึงถึงปัญหาเรื่องสืบทอดสายเลือดอีกต่อไป” หลี่ชิเย่หัวเราะและพูดออกมาจากใจว่า “เวลานี้ หลังจากที่ราชันเซียนขึ้นไปแล้วมีความทะเยอทะยานที่ใหญ่กว่านั้น อีกทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์ในแดนที่สิบก็ไม่จำเป็นต้องให้ราชันเซียนเสียเวลาไปคุ้มครองอีกแล้ว”

“แหะ แต่ว่า คุณชาย การสืบทอดสายเลือดต่อไปก็ไม่ผิดใช่มั้ย” เจ้าหนีชิวน้อยหัวเราะแหะแหะและกล่าวว่า “อาศัยสายเลือดที่สุดยอดหนึ่งไม่มีสองของคุณชายได้สืบทอดต่อไป จะต้องนำมาซึ่งผลกระทบต่อแดนที่สิบ ต่อให้คุณชายไม่คำนึงถึงเก้าแดน ไม่คำนึงถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่คุณชายก็ต้องคำนึงถึงตัวเองนะ”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ ยากนักที่เจ้าหนีชิวน้อยจะจริงจังขนาดนี้ คำพูดเหล่านี้ล้วนแล้วคิดมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ในฐานะที่เป็นผู้ติดตามของหลี่ชิเย่ เจ้าหนีชิวน้อยย่อมคาดหวังให้หลี่ชิเย่สามารถสืบทอดสายเลือดของเขาต่อไป

เก้าแดนในเวลานี้ หนึ่งเดียวที่สามารถสืบทอดสายเลือดของหลี่ชิเย่ได้ก็คือปู้เหลียนเซียงเท่านั้น สำหรับผู้หญิงคนอื่นๆ หากไม่ติดตามหลี่ชิเย่ขึ้นไปแดนสิบ ก็คือผู้ที่หลี่ชิเย่ไม่เคยคิดที่จะให้พวกนางได้สืบทอดสายเลือดแต่อย่างใด

เจ้าหนีชิวน้อยก็รู้ดีว่าหลี่ชิเย่นั้นเลือกมากกับผู้หญิง ผู้หญิงที่สามารถทำให้เขายอมให้สืบทอดสายเลือดได้นั้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

แม้ว่าหลี่ชิเย่ไม่แน่เสมอไปว่าสามารถสืบทอดสายเลือดเอาไว้ในเก้าแดน แต่เจ้าหนีชิวน้อยก็กระหายต้องการให้หลี่ชิเย่สามารถสืบทอดสายเลือดเอาไว้ในแดนที่สิบ ดังนั้น ก่อนจากกันเจ้าหนีชิวน้อยจึงได้พูดความในใจออกมากับหลี่ชิเย่

คำพูดของเจ้าหนีชิวน้อยได้ทำให้หลี่ชิเย่ต้องตกอยู่ในความเงียบขรึม ความจริงแล้วเขาเองก็รู้ว่าคนที่อยู่ข้างกายเขาล้วนแล้วแต่ต้องการให้เขาได้สืบทอดสายเลือดเอาไว้ เทพแท้จริงสยบโลกาเป็นเช่นนี้ เจ้าหนีชิวน้อยเป็นเช่นนี้ พวกของยวีไท่จวินก็กระหายต้องการให้เป็นเช่นนี้

“โลกนี้มากด้วยความทุกข์” สุดท้ายหลี่ชิเย่พูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “สักวันหนึ่งข้าก็ต้องเดินทางไกล สักวันหนึ่งข้าต้องก้าวเดินบนเส้นทางที่ไม่หวนกลับมาอีกเลย ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นใดก็ตาม ข้าก็จะไม่หันหลังกลับเพื่อใคร ข้าจะไม่หยุดเพื่อใคร ในโลกนี้บางทีข้าอาจกลายเทพของเก้าแดน หรือบางทีอาจกลายเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรที่เกรียงไกรในเก้าแดนได้ แต่ ข้าเป็นพ่อที่ดีไม่ได้ ข้าไม่สามารถเป็นพ่อที่มีความรับผิดชอบ สายตาของข้าจะไม่หยุดอยู่ที่ใคร หัวใจของข้าจะไม่อ่อนแอเพื่อใคร”

เจ้าหนีชิวน้อยก็นิ่งเงียบกับคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ สุดท้ายเขากล่าวขึ้นมาเบาๆ ว่า “คุณชาย ในเมื่อผู้หญิงยินดีที่จะสืบทอดสายเลือดให้กับท่าน นางย่อมมีความเข้มแข็งมากกว่าที่คิด นางสามารถเข้าใจท่านได้ นางไม่ได้ต้องการรั้งให้ท่านอยู่ ไม่ต้องการให้ท่านหยุดก้าวเดิน องค์หญิงปู้ก็คือผู้หญิงเช่นนี้ นางยินดีมอบทุกสิ่งเพื่อคุณชาย ดังนั้น คุณชายไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องนี้”

คำพูดเช่นนี้ทำให้หลี่ชิเย่ต้องนิ่งเงียบ หลังจากผ่านไปนานมาก เขาทอดถอนใจเบาๆ และไม่พูดอะไรอีกเลย

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เจ้าหนีชิวน้อยได้สวมกอดหลี่ชิเย่ด้วยความซาบซึ้ง กล่าวว่า “ลาก่อน คุณชาย ในใจของข้าท่านปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาล และจะคงอยู่ในเก้าแดนตลอดไป ต่อให้ชั่วฟ้าดินสลาย จิตวิญญาณของคุณชายคงอยู่เป็นนิรันดร์”

“ลาก่อน” หลี่ชิเย่ก็เอ่ยขึ้นมาเบาๆ

ท้ายสุด เจ้าหนีชิวน้อยจากไปโดยไม่หันหลังกลับมา และเขาไม่อยากหันกลับมาอีก!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *