Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1585

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1585 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยวีเจิ้งฟงยังคงดื่มเหล้าต่อไป หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดจึงได้พูดขึ้นมาว่า “ข้าอยากรู้นัก เพราะเหตุใดราชันเซียนมู่จั๋วจึงต้องกลับมาก้าวเดินบนเส้นทางเส้นนี้อีก”

หลักสัจธรรมที่ยวีเจิ้งฟงฝึกนั้น เป็นหลักสัจธรรมที่มาจากราชันเซียนมู่จั๋ว แต่มันไม่ใช่หลักสัจธรรมที่ราชันเซียนมู่จั๋วใช้ในการบรรลุเป็นราชันเซียน

หลักสัจธรรมของยวีเจิ้งฟงได้รับการขนานนามว่าหลักสัจธรรมเบื่อโลก เป็นหลักสัจธรรมที่ราชันเซียนมู่จั๋วคิดค้นขึ้นหลังจากได้เป็นราชันเซียนแล้ว เขาเองก็ไม่ได้ไปฝึกมัน แต่ได้ทิ้งเอาไว้

ภายหลังยวีเจิ้งฟงได้พบโดยโชคนำพา ได้รับความลับที่ราชันเซียนมู่จั๋วทิ้งเอาไว้ในครั้งนั้น

“เจ้าสามารถไปถามเขาได้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “บางที เก้าแดนอาจไม่มีแรงดึงดูดสำหรับเจ้าแล้ว แต่เจ้าสามารถก้าวออกจากร้านเหล้าเล็กๆ นี้ของเจ้า ไปมองดูแผ่นดินที่กว้างใหญ่มากกว่านี้ บางที เจ้าอาจจะไปถามราชันเซียนมู่จั๋วด้วยตัวของเจ้าเองว่า ตัวเขาที่ปราศจากผู้ต่อกรแล้วทำไมถึงต้องก้าวเดินไปบนเส้นทางสายนี้”

ตามหลักแล้ว ราชันเซียนมู่จั๋วนับว่าอยู่ในระดับปราศจากผู้ต่อกร และชีวิตของเขาก็สมบูรณ์ ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่เขาจะต้องกลับไปเดินบนเส้นทางของหลักสัจธรรมเบื่อโลกอีก เรื่องเช่นนี้ เกรงว่าไม่ว่าใครก็ตามก็คิดไม่ตก

ยวีเจิ้งฟงถึงกับนิ่งเงียบพักหนึ่ง สุดท้ายเขาส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการรู้แล้ว ราชันเซียนมู่จั๋วก็คือราชันเซียนมู่จั๋ว ข้าก็คือข้า”

หลี่ชิเย่ได้แต่นิ่งเงียบ เขาดื่มเหล้าเลิศรสอย่างเงียบๆ และไม่สามารถพูดอะไรได้อีก หลังจากผ่านไปนานมาก หลี่ชิเย่จึงได้พูดว่า “นอกจากรอความตายแล้ว ยังมีความปรารถนาสิ่งใดหรือไม่?”

“มี” ยวีเจิ้งฟงหัวเราะและกล่าวว่า “ให้ข้าได้ตายอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน สามารถตายในสถานที่ที่ข้าเกิดข้าก็พึงพอใจแล้ว และไม่เรียกร้องสิ่งใดอีก ดังนั้น ข้าจะรอความตายอยู่ที่นี่”

“เอาเถอะ” หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มเจื่อนๆ ส่ายหน้าและกล่าวว่า “เจ้าชนะแล้ว ช้าเองก็จนปัญญาแล้ว มันเป็นการเลือกของเจ้าเอง”

“ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ข้าสำนึกบุญคุณในใต้เท้าชั่วชีวิต การที่ข้ารั้งอยู่ที่ตรงนี้ ข้าเองก็รู้ว่าใต้เท้าได้คิดจะช่วยเหลือข้ามาหลายครั้ง ต้องการให้ข้าได้ก้าวออกจากร้านเหล้าเล็กๆ แห่งนี้ แต่ว่า ข้าบอกได้แต่เพียงข้าทำให้ใต้เท้าต้องผิดหวัง ข้าต้องการแค่หมกอยู่แต่ร้านเหล้าเล็กๆ แห่งนี้”

หลี่ชิเย่ดื่มเหล้าไปคำหนึ่ง ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ไม่ บางทีความคิดของเจ้าก็ถูก จะอย่างไรเสีย ทุกคนย่อมมีการเลือกที่แตกต่างกัน การได้ตายในที่ที่เกิดก็ใช่ว่าจะไม่ดี ได้กลับบ้านเกิดในวัยชรา”

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ถึงกับนิ่งเงียบขึ้นมา หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เขาได้พูดออกมาเบาๆ ว่า “การได้กลับบ้านเกิดในวัยชรานับเป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องหนึ่ง การได้ตายในสถานที่ที่เกิดก็เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ว่า กล่าวสำหรับข้า กล่าวสำหรับราชันเซียนจำนวนมากแล้ว มันเป็นเรื่องที่ฟุ่มเฟือยมาก มีราชันเซียนจำนวนมากเท่าไรที่เคยคิดว่าสักวันจะสามารถกลับไป เพื่อตายอยู่ในสถานที่ที่ซึ่งตัวเองถือกำเนิดขึ้น แต่ทว่า พวกเขาทำไม่ได้ ข้าก็ไม่สามารถทำได้”

“ดังนั้น ข้าว่าล่ะนะนี่เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง สามารถตายในสถานที่ที่ตัวเองเกิด กล่าวสำหรับพวกเราแล้วเป็นเรื่องที่ฟุ่มเฟือยมาก แต่เจ้ากลับทำให้เป็นจริงได้ นับเป็นเรื่องที่ดีมาก” สุดท้าย หลี่ชิเย่ถึงกับกระดกเหล้าที่อยู่ในถ้วยรวดเดียวจนหมด

“นี่แหละคือความยิ่งใหญ่ของใต้เท้า และเป็นความยอดเยี่ยมของราชันเซียน ใต้เท้าคิดจะตายให้ได้ดั่งที่ปรารถนา ราชันเซียนคิดจะตายให้คุ้มค่า ราชันเซียนต้องการตายในสถานที่ที่สมควรให้พวกเขาตาย ดังนั้น พวกเขายืนหยัดต่อสู้ ใต้เท้าเองก็ไม่เคยผ่อนคลายตลอดมา…”

เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ยวีเจิ้งฟงดูจะมีท่าทีสบายๆ ยิ่งนัก หัวเราะและกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “…การที่ราชันเซียนสามารถกลายเป็นราชันเซียน ใต้เท้าสามารถกลายเป็นมือมืดนิรันดร์กาล สิ่งนี้แหละคือสิ่งที่เยี่ยมยอดที่สุดของพวกท่าน นี่แหละคือเสน่ห์ที่เป็นบุคลิกลักษณะเฉพาะตัวที่พวกท่านได้เปล่งเป็นประกายออกมาตลอดกาล ขณะที่ข้ากลับไม่สามารถทำได้ ดังนั้น สิ่งที่ข้าทำได้ก็คือ ข้าจะตายในสถานที่ที่ข้าได้ถือกำเนิดขึ้นมา”

“บางทีอาจเป็นเช่นนั้น ข้าหวังว่าสามารถตายดั่งที่ปรารถนาเอาไว้!” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา

ยวีเจิ้งฟงรินเหล้าให้หลี่ชิเย่จนเต็ม หลี่ชิเย่กระดกรวดเดียวจนหมด สุดท้าย ยิ้มกล่าวว่า “ช่างเถอะเรื่องภายในครอบครัวอย่าไปพูดถึงมันอีกเลย ที่ข้ามาวันนี้มีเรื่องที่สองก็คือ จะยืมเชื้อไฟจากเจ้าสักหน่อย ข้ามีเตาอยู่เตาหนึ่ง ข้าต้องการใช้มันหลอมสร้างอาวุธแต่ยังขาดเชื้อไฟอยู่ ดังนั้น ข้าจึงต้องการยืมกับเจ้าสักหน่อย”

“ที่ใต้เท้าต้องการคือไฟเบื่อโลกน่ะสิ”

หลี่ชิเย่พยักหน้า และกล่าวว่า “หากโลกนี้สามารถหาไฟเบื่อโลกที่บริสุทธิ์ที่สุดล่ะก็ จะเป็นที่อื่นไปไม่ได้นอกจากที่ตรงนี้ของเจ้าแล้ว”

ยวีเจิ้งฟงไม่พูดอะไรให้มากความ ไปหยิบเชื้อไฟมาให้กับหลี่ชิเย่ทันที

สุดท้าย การมาครั้งนี้ของหลี่ชิเย่ก็ได้บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ได้เวลาสมควรที่เขาต้องจากไปแล้ว

ก่อนจาก หลี่ชิเย่ถึงกับจ้องมองดูยวีเจิ้งฟง สุดท้ายได้แต่หัวเราะและกล่าวว่า “ไอ้หนู วันเวลายังอีกยาวไกล เจ้ารอความตายให้ดีๆ ก็แล้วกัน ไม่แน่นัก อนาคตข้าอาจตายก่อนเจ้าก็เป็นได้”

“ใต้เท้าอายุมั่นขวัญยืน” ยวีเจิ้งฟงก็หัวเราะและกล่าวว่า “ข้าจะต้องตายก่อนใต้เท้าแน่นอน”

ก่อนลาจาก พวกเขามีพันคำหมื่นวจีที่จะเอ่ย กล่าวสำหรับการดำรงอยู่ในสถานะดั่งพวกเขา และสามารถมีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้ เหลือผู้ที่สามารถพูดคุยกันได้อยู่เพียงไม่กี่คนแล้ว ก่อนจากกัน พวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา ได้แต่พูดคำพูดที่มีลักษณะเช่นนี้

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้จากไปแล้ว ยวีเจิ้งฟงได้กลับไปนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะเถ้าแก่ร้านตามเดิม เขาขดตัวเอาไว้ ค่อยๆ หลับตาลงเหมือนว่านอนหลับไปแล้วอย่างนั้น เวลานี้ ตะเกียงน้ำมันที่อยู่บนโต๊ะเถ้าแก่ยังคงเห็นเป็นแสงขนาดเท่าถั่วเหลือง แสงที่รำไรสาดส่องลงบนใบหน้าของเขาดูเลือนลางเหลือเกิน

คนแก่คนหนึ่ง ร้านเหล้าเล็กๆ ร้านหนึ่งที่เงียบสงัดเช่นนี้แหละ มันตั้งอยู่ท่ามกลางตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่ง เหมือนว่าไม่มีใครให้ความใส่ใจมันตลอดกาล ไม่มีใครให้ความสนใจมันตลอดกาล มันดำรงอยู่เช่นนี้ตลอดไป จนกว่าจะถึงวันที่ตายจากไป!

ข่งเชียะหมิงหวางไม่อาจจินตนาการได้ว่า เพราะเหตุใดยอดฝีมือที่ปราศจากผู้ต่อกรถึงได้ปลีกตัวมาอยู่ในร้านเหล้าเล็กๆ เช่นนี้ แม้ว่า ในโลกจะมียอดฝีมือที่ปลีกตัวจากสังคมอยู่ไม่น้อย แต่ทว่า ยอดฝีมือจำนวนมากล้วนแล้วแต่อาศัยอยู่ในสถานที่ที่ทิวทัศน์งดงาม กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นดินแดนในอุดมคติ

อย่างไรก็ตาม สุดยอดยอดฝีมือในหล้าผู้นี้กลับปลีกตัวมาอยู่ในร้านเหล้าซอมซ่อเล็กๆ แห่งนี้ เรื่องเช่นนี้หากพูดออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ

“ไม่ต้องหันไปดูแล้ว” หลี่ชิเย่เดินไปพลางส่ายหน้าไป และกล่าวว่า “เขาจะพักอยู่ที่ร้านเหล้าเล็กๆ นี้ตลอดไป คิดจะให้เขาก้าวออกจากร้านเหล้าเล็กๆ แห่งนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก” ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจออกมาเบาๆ

ข่งเชียะหมิงหวาง ถึงกับนิ่งเงียบเช่นกัน อะไรที่ทำให้สุดยอดฝีมือแห่งยุคคนหนึ่งต้องปลีกตัวออกจากสังคมมาอยู่ ณ ร้านเหล้าเล็กๆ แห่งนี้

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ข่งเชียะหมิงหวางยังคงอดสงสัยไม่ได้ต้องเอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นว่า “คุณชาย ผู้อาวุโสท่านนี้กับยวีไท่จวินใครแข็งแกร่งกว่าใคร?”

ชื่อเสียงของยวีไท่จวินนั้นไม่ต้องพูดถึง นางเคยต่อสู้กับราชันเซียนหยินเทียน และราชันเซียนหยินเทียนยอมรับว่า นางมีกำลังความสามารถในการต่อสู้กับราชันเซียนซึ่งหน้าได้  ขณะที่ผู้เฒ่าผู้นี้คือพี่ชายของยวีไท่จวิน และเป็นคนที่มีชีวิตอยู่มาแล้วสามชาติ แล้วจะไม่ให้ข่งเชียะหมิงหวางรู้สึกแปลกใจได้อย่าไรกัน

“เจ้าคงคิดว่าเขาไม่ค่อยมีชื่อเสียงอะไรน่ะสิ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ของพรรค์นี้ไม่สามารถวัดกันด้วยชื่อเสียง ยวีไท่จวินมีความสามารถในการต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ เป็นการต่อกรซึ่งหน้าได้จริงๆ ไม่ใช่การคุยโตโอ้อวด ขณะที่ยวีเจิ้งฟงนั้น เขาแข็งแกร่งกว่ากันมากทีเดียว”

“แข็งแกร่งกว่ายวีไท่จวิน?” ข่งเชียะหมิงหวางถึงกับสะเทือนหวั่นไหวภายในใจ ไม่ง่ายนักกว่านางจะได้สติกลับมา และกล่าวว่า “ลือกันว่า ผู้ที่สามารถรับมือกับราชันเซียนได้หนึ่งร้อยกระบวนท่าก็จะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้!”

“รับมือหนึ่งร้อยกระบวนท่าได้ก็ยกย่องเป็นผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้?” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา กล่าวว่า “นี่มันมดปลวกมาจากไหนกัน แค่หนึ่งร้อยกระบวนท่าก็ยกย่องเป็นผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ เช่นนั้นแล้วใต้หล้ามีผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้มากมายเหลือเกิน ใช่ว่าราชันเซียนทุกคนจะชมชอบฆ่าคน สำหรับชนรุ่นหลังนั้น ราชันเซียนยังคงเสียดายในความสามารถของเขา หรือราชันเซียนลงมือไปตามอารมณ์ แล้วจักรพรรดิเทพคนหนึ่งสามารถรับมือได้หนึ่งร้อยกระบวนท่า เขาก็คือผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้รึ?”

เมื่อหลี่ชิเย่กล่าวถึงตรงนี้แล้ว  ส่ายหน้าและกล่าวว่า “วิธีการพูดแบบนี้ เป็นเพียงวิธีการพูดของพวกสวะที่ยกหางตัวเองเท่านั้น เป็นการโก่งค่าตัวของตนเองเท่านั้น”

แล้วผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ต้องเป็นอย่างไร?” ข่งเชียะหมิงหวางถึงกับถามด้วยึความสงสัยยิ่ง

เรื่องราวเกี่ยวกับผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้นั้น ข่งเชียะหมิงหวางได้ยินได้ฟังมาหลากหลาย ที่มีการพูดถึงกันมากที่สุดก็คือ ผู้ที่สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้หนึ่งร้อยกระบวนท่าได้ ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้

“สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ไม่ได้ราคาถูกขนาดนั้น” หลี่ชิเย่ กล่าวว่า “ตามมาตรฐานที่ปรกติแล้ว ภายใต้เงื่อนไขราชันเซียนอาศัยพลังที่ปรกติ ภายใต้หลักสัจธรรมของราชันเซียน ภายใต้ราชันเซียนไม่ได้ออมมือ สามารถรับมือได้เกินกว่าหนึ่งพันกระบวนท่า ก็มีสิทธิ์ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้”

“พลังปรกติ?” ข่งเชียะหมิงหวางถึงกับตะลึง

“หมายถึงภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้ใช้ชะตาฟ้า” หลี่ชิเย่กล่าวว่า “การประเมินว่าเป็นผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้นั้นมีความเข้มงวดมาก ใช่ว่าแค่ราชันเซียนลงมือไปตามอารมณ์ก็ได้แล้ว เมื่อราชันเซียนเผชิญหน้ากับผู้ที่มีกำลังความสามารถเป็นผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้อย่างแท้จริงแล้ว ราชันเซียนก็จะสำแดงอย่างเต็มที่ เฉกเช่นประเภทที่สามารถรับมือราชันเซียนได้หนึ่งหรือสองร้อยกระบวนท่านั้น เป็นเพราะราชันเซียนเสียดายในความสามารถและไม่ได้สำแดงพลังเต็มที่เท่านั้นเอง”

เมื่อข่งเชียะหมิงหวางได้รับการชี้แนะจากหลี่ชิเย่แล้วจึงได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ภายใต้เงื่อนไขราชันเซียนอาศัยพลังปรกติและลงมือโดยไม่ออมมือ สามารถรับมือได้หนึ่งพันกระบวนท่า จึงถือว่าเป็นผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้โดยแท้จริง

“ครั้งนั้น ยวีไท่จวินต่อสู้กับราชันเซียนหยินเทียน โดยราชันเซียนหยินเทียนมีอาวุธราชันเซียนอยู่ในมือ สู้รบกันจนฟ้าถล่มดินทลาย ยวีไท่จวินอาศัยพลังที่น่าทึ่งของตนรับมือได้พันกว่ากระบวนท่า ดังนั้น ราชันเซียนหยินเทียนจึงให้การยอมรับในกำลังความสามารถของนาง ประทานให้นางเป็นผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ เรียกได้ว่า ความเป็น “ผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้” ของยวีไท่จวินนั้นมีความแท้จริงที่สูงมาก ซึ่งหาใช่ผู้ที่อ้างตัวเองว่าเป็นผู้สามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้เหล่านั้นสามารถเทียบเคียงได้” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ

ภายในใจของข่งเชียะหมิงหวางรู้สึกหวั่นไหว เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของยวีไท่จวินนั้นนางเคยได้ยินมาก่อน แต่ทว่า รายละเอียดการต่อสู้ในครั้งนั้นไม่มีใครรู้ ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วยวีไท่จวินสามารถรับมือกับราชันเซียนหยินเทียนได้กี่กระบวนท่ากันแน่

เวลานี้ เมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมา จึงสร้างความสะเทือนหวั่นไหวให้กับข่งเชียะหมิงหวาง การที่ราชันเซียนองค์หนึ่งที่มีอาวุธราชันเซียนในมือมันคือความปราศจากผู้ต่อกรเพียงใด ต่อให้ไม่อาศัยพลังจากชะตาฟ้า ภายใต้หนึ่งกระบวนท่าก็สามารถทำลายฟ้าดินได้

แต่ว่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ยวีไท่จวินยังคงยืนหยัดได้ถึงพันกว่ากระบวนท่าได้ ความแข็งแกร่งของยวีไท่จวินย่อมสามารถจินตนาการได้

………………………………………………………………………..

นิยายเรื่องนี้เข้าร่วมโปรโมชั่น

บวกความสนุก อัปเพิ่ม +1 

เพิ่มตอน +1 จากปกติ ตลอดช่วงแคมเปญ

18-31 มี.ค. 64 เท่านั้น!

*เฉพาะเรื่อง ‘พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง’ เพิ่มตอนถึง 24 มี.ค. 64

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *