Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1484 ชี้ขาดกับขุนพลชุดขาว

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1484 ชี้ขาดกับขุนพลชุดขาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1484 ชี้ขาดกับขุนพลชุดขาว

“ตึง…” ขุนพลชุดขาวก้าวเท้าเข้าไปในหุบเขาหิมะ ทวนในมือแหวกอากาศตรงเข้าหาหลี่ชิเย่ในทันที

ทวนยาวในมือพุ่งตรงเข้าไปด้วยประกายทวนที่เจิดจ้า หนึ่งเพลงทวนที่มีอานุภาพร้ายแรงเสมือนดั่งดาวหางที่พาดผ่านกลางเวหา ความเจิดจ้าของประกายทวนประดุจดั่งดาวหางที่ลากหางยาวมากๆ ปรากฎอยู่บนท้องฟ้าในยามค่ำคืน

อานุภาพหนึ่งเพลงทวนที่แหวกอากาศเข้าไป ด้วยพลังที่ร้ายแรงสามารถทิ่มแทงทะลุร้อยอาณาจักรพันแม่น้ำ ภายใต้ทวนเดียวนี้กระทั่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังสั่นเทา พลันที่ระดับจักรพรรดิเทพชั้นสัจธรรมลงมือก็ได้สร้างความตื่นตกใจไปทั่วหล้า ทำให้ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนต้องสั่นเทา

หนึ่งทวนทลายฟ้าของขุนพลชุดขาว ทำให้บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่อยู่ด้านนอกหุบเขาหิมะ แม้รู้อยู่แล้วว่าทวนนี้ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่ตนแต่มุ่งไปที่หลี่ชิเย่ แต่ทว่า พวกเขากลับรู้สึกเย็นวาบที่ลำคอของตน ทำให้อ้าปากอยากจะร้องออกมาดังๆ แต่ก็ร้องไม่ออก เป็นความรู้สึกที่อึดอัดยิ่งนัก

ด้วยอานุภาพของทวนกระบวนท่านี้ ทำให้บรรดาผู้บำเพ็ญตนด้านนอกหุบเขาหิมะที่มีทักษะยุทธอ่อนถึงกับหงายหลัง เนื่องจากหนึ่งทวนที่ได้ปกคลุมไปทั่วฟ้าดินบริเวณนี้เอาไว้ ผู้บำเพ็ญตนที่มีทักษะยุทธอ่อนไม่สามารถรับกับพลังของทวนนี้เอาไว้ได้ บังเกิดเป็นภาพมายาว่าตนเองนั้นถูกทิ่มทะลุคอหอยไปแล้ว

“ตึง…” สะเก็ดแตกกระจาย แม้ว่ากระบวนเพลงทวนของขุนพลชุดขาวนับว่าน่ากลัวยิ่งนัก แต่ทว่า ถูกหลี่ชิเย่ต้านรับเอาไว้ได้ ในเวลานี้ มือซ้ายของหลี่ชิเย่กำดาบเอาไว้เล่มหนึ่ง ดาบหมิงเหรินได้เปล่งประกายเจิดจ้าออกมา ดาบยาวที่ดูสั่นไหวคล้ายดั่งได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างนั้น

ในขณะนี้ ดาบหมิงเหรินที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่นั้นตลบอบอวลไปด้วยประกายเซียน ดาบยาวดูเงาวับดั่งหิมะ ดุจดั่งเป็นจันทร์เสี้ยวที่ประดับอยู่บนท้องฟ้า มันถึงกับส่องสว่างทั่วทั้งบริเวณนี้

ท่ามกลางประกายเซียนที่ตลบอบอวล คล้ายดั่งมีร่างเงาคนที่สูงใหญ่ยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อร่างเงาที่ยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนได้ทำการเปิดศักราชใหม่ขึ้นมา การยืนอยู่ตรงนั้นของเขา เหมือนว่าได้ตัดขาดอดีตและก้าวไปสู่อนาคต ภายใต้ร่างเงาทีสูงใหญ่ของเขา เหมือนว่าความมืดดำทมิฬในโลกล้วนปราศจากที่ที่จะหลบซ่อนตัวได้อีก

“ราชันเซียนหมิงเหริน…” ระดับปราชญ์รุ่นอาวุโสที่มีประสบการณ์กว้างไกลผู้หนึ่งได้พึมพำออกมา เขาสามารถจดจำประวัติความเป็นมาของดาบเล่มยาวที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่ได้

บรรดายอดฝีมือที่รู้เรื่องดีถึงกับเสียวสันหลังวาบ เมื่อมองเห็นสัจอาวุธราชันเซียนที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่เหมือนดั่งฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างนั้น แม้ว่าใครก็สามารถใช้สัจอาวุธราชันเซียนได้ แต่ถ้าจะให้สำแดงอานุภาพราชันออกมามันก็เป็นคนละเรื่องกัน ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ทักษะไม่แข็งแกร่งเพียงพอนั้น อย่าว่าแต่จะสำแดงอานุภาพราชันให้ทรงพลังสักเท่าไรเลย เกรงว่าแค่สำแดงอานุภาพราชันหนึ่งหรือสองกระบวนท่าไปตามอารมณ์ก็ถูกสัจอาวุธราชันเซียนรีดเอาพลังลมปราณจนเหือดแห้งไปแล้ว

มีเพียงยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มีทักษะแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งเท่านั้น จึงสามารถควบคุมสัจอาวุธราชันเซียนได้

อย่างไรก็ตาม ดาบหมิงเหรินที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่เวลานี้กลับเหมือนฟื้นคืนชีพมาอย่างนั้น อานุภาพราชันตลบอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณ ย่อมไม่เป็นที่สงสัย หากอยู่ในลักษณะเช่นนี้ เมื่อหลี่ชิเย่มีดาบนี้อยู่ในมือ ย่อมสามารถสำแดงท่าโจมตีราชันเซียนที่ปราศจากผู้ต่อกรออกมาได้ตามอารมณ์!

ควรจะทราบว่า ต่อให้ระดับจักรพรรดิเทพเป็นผู้ควบคุมสัจอาวุธราชันเซียน ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะสามารถทำให้สัจอาวุธราชันเซียนฟื้นตื่นขึ้นมาได้ เนื่องจากการฟื้นหรือตื่นขึ้นมาของสัจอาวุธราชันเซียนเป็นการบ่งบอกว่าได้รับการยอมรับจากสิ่งซึ่งอยู่ในระดับสูงของสัจอาวุธราชันเซียนมาแล้ว

เมื่อไรที่สัจอาวุธราชันเซียนได้ฟื้นขึ้นมา แสดงว่าสัจอาวุธราชันเซียนนั้นจะมีอานุภาพอยู่ในขั้นสูงสุด การสำแดงท่าโจมตีราชันออกมาในขณะที่อานุภาพสัจอาวุธราชันเซียนก็อยู่ในระดับสูงสุด อานุภาพที่ปรากฏออกมาย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับการโจมตีในช่วงที่อยู่ในระดับปรกติ

“ตูม ตูม ตูม…” พลังลมปราณของขุนพลชุดขาวในเวลานี้ ปรากฏออกมาอย่างรุนแรง นาทีนี้เขาไม่ได้มีการเก็บงำพลังของตนแม้แต่น้อยอีกต่อไป พลังลมปราณพวยพุ่งดั่งน้ำหลากในแม่น้ำ พลันอาละวาดไปทั่วฟ้าดิน ทันทีที่พลังลมปราณของเขาปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง ทำให้อานุภาพของทวนในมือเพิ่มมากขึ้น ด้วยประกายทวนที่รุนแรง คมทวนที่ส่งประกานยแวววับ อาศัยพลังของลมปราณ ทวนยาวของขุนพลชุดขาวอาศัยพลังหนึ่งหมื่นห้าพันล้านตันเข้าสยบดาบหมิงเหรินที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่

ย่อมไม่ต้องสงสัย ขุนพลชุดขาวใช่เป็นประเภทมีแต่ชื่อเสียงจอมปลอมเท่านั้น ตัวเขาที่อยู่ในฐานะจักรพรรดิเทพชั้นสัจจธรรมยังคงสามารถอาศัยพลังที่พาลและแข็งกร้าวมาสยบสัจอาวุธราชันเซียนได้

“ตูม…” จังหวะที่ขุนพลชุดขาวต้องการสยบดาบหมิงเหรินที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่นั้น ดาบหมิงเหรินได้ระเบิดพลังอานุภาพออกมาในทันใด ประกายเซียนไม่มีสิ้นสุดได้พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงทันใดนั้น อานุภาพราชันเซียนได้ปะทุขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งและรุนแรง เสมือนหนึ่งองค์ราชันเซียนได้ฟื้นและตื่นขึ้นมา เหมือนว่าราชันเซียนได้ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างนั้น

“ปัง…” ทันทีที่ดาบหมิงเหรินปะทุพลังออกมา ไม่เพียงทำให้ทวนเล่มนั้นของขุนพลชุดขาวที่ต้องการสยบดาบหมิงเหรินถูกพลังกระแทกจนหลุดมือ ยังทำให้โซ่หิมะที่พันธนาการอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่แตกละเอียดไปด้วย

ในเวลาเดียวกันนี้ “ปัง” น้ำแข็งที่ปกคลุมร่างของซูหย่งหวงก็พลันแตกละเอียดไปด้วย ทำให้ซูหย่งหวงหลุดจากการถูกควบคุมและออกจากพื้นที่อันตรายไปได้

“ฆ่า…” จังหวะที่ถูกพลังกระแทกจนกระเด็น ขุนพลชุดขาวได้เหินฟ้าสวนขึ้นมา ทวนยาวดั่งห่าฝนที่ทิ่มแทงเข้าหาหลี่ชิเย่อย่างรวดเร็ว แต่ละทวนที่แทงออกไป “ตูม ตูม ตูม” เสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก ในเสี้ยววินาทีนี้เอง คมทวนที่ทิ่มแทงเข้ามาของขุนพลชุดขาวดุจดั่งดาวตกจำนวนนับล้านดวงอย่างนั้น ทุกๆ คมทวนที่ทิ่มแทงเข้ามามีพลังเพียงพอที่จะทำลายภูเขาได้ลูกหนึ่ง

“แช้งค์…” เสียงดาบที่คำรามก้องไปหมื่นอาณาจักร ดาบหมิงเหรินที่ฟาดฟันขนานออกไป ด้วยตัวดาบที่วาววับดั่งหิมะ ท่ามกลางประกายดาบที่วาววับดั่งหิมะ ทุกสิ่งบนโลกล้วนแล้วแต่ต้องสลด สุริยันจันทราอับแสง ภายใต้ดาบเดียว เหลือไว้เพียงความสุกใสวาววับดั่งหิมะเท่านั้น

ท่ามกลางดาบเดียวที่วาววับดั่งหิมะ ทุกสิ่งอย่างบนโลกล้วนแล้วแต่ปราศจากที่ซ่อนตัว ความมืดมิดทุกสิ่งบนโลกล้วนแล้วแต่อันตทานหายไปสิ้น

กระบวนท่าที่หนึ่งของเพลงดาบหมิงเหรินสามกระบวนท่า การรู้แจ้งทำให้ใต้หล้าปราศจากความเข้มงวดที่จุกจิก) หนึ่งดาบส่องประกายสว่างไสวไปเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ขอเพียงดาบนี้ดาบเดียวก็เพียงพอแล้ว

เดิมทีเพลงดาบหมิงเหรินสามกระบวนท่านับว่ามีอานุภาพมากอยู่แล้ว การสำแดงเพลงดาบหมิงเหรินสามกระบวนท่าภายใต้ช่วงที่มีพลังขั้นสูงสุด นั่นย่อมหมายถึงคล้ายดั่งราชันเซียนหมิงเหรินลงมือด้วยตนเองอย่างนั้น หนึ่งดาบที่ฟันฉับลงมา กระทั่งจักรพรรดิเทพก็ต้องถวายศีรษะให้

“ปัง…” ต่อให้ขุนพลชุดขาวอยู่ในระดับจักรพรรดิเทพชั้นสัจธรรม ภายใต้หนึ่งดาบที่ฟาดฟันลงมาก็ต้องตัวลอยออกไป

“เอาไปอีกดาบหนึ่ง…” หลี่ชิเย่ที่เหินฟ้าขึ้นไป ไล่ตามไป และสำแดงเพลงดาบหมิงเหรินสามกระบวนท่าอีกครั้ง หนึ่งดาบที่ไม่สะทกสะท้านพุ่งตรงไปที่ขุนพลชุดขาว

เพลงดาบที่สำแดงออกมาไม่ได้แปรเปลี่ยนด้านกระบวนท่า ไม่มีความลึกลับพิสดาร มีเพียงจิตอันแน่วแน่ จิตอันแน่วแน่ของราชันเซียนหมิงเหรินคุณธรรมที่ส่องสว่างเก้าแดน! ภายใต้จิตอันแน่วแน่นี้ ไม่ว่าการดำรงอยู่ของสิ่งใดๆ ก็ตาม ก็ไม่สามารถต่อกรกับเขาได้

เพลงดาบที่สองของเพลงดาบหมิงเหรินสามกระบวนท่า มีคุณธรรมเกินไป สังคมปราศจากปัญญาที่จะหลุดพ้นได้ ดาบนี้ได้สืบทอดจิตอันแน่วแน่ของราชันเซียนหมิงเหริน ทุกสิ่งกลับกลายเป็นล้ำลึกและสุดยอดอะไรปานนั้น

หนึ่งดาบที่กลับกลายเป็นสัจธรรมสูงสุด เวลานี้ปราศจากซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่สลายไปท่ามกลางดาบนี้ สิ่งที่เหลือไว้ภายใต้ดาบนี้มีเพียงจิตอันแน่วแน่ของราชันเซียนหมิงเหรินเท่านั้น

จิตอันแน่วแน่ของราชันเซียนหมิงเหรินมีฐานะสูงสุด สามารถบัญชาการทุกสิ่งใต้หล้า ดังนั้น ภายใต้ดาบนี้จึงทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่อยู่ด้านนอกหุบเขาหิมะไม่สามารถยืนได้ ถึงกับคุกเข่าลงเข่ากระทบกับพื้นเสียงดัง เพราะว่าไม่สามารถต้านกับจิตอันแน่วแน่ของ ราชันเซียนหมิงเหรินได้

“ฆ่า…” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจิตอันแน่วแน่ของราชันเซียนหมิงเหริน ขุนพลชุดขาวก็ไม่สามารถถอยได้อีก เขาร้องคำรามเสียงดังออกมา ทันใดนั้น วงแหวนจักรพรรดิเทพปรากฏขึ้นมา วงแหวนจักรพรรดิเทพดุจดั่งได้ดันเอาเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินให้ขยายออกไป ทุกๆ วงแหวนล้วนแล้วแต่รองรับสัจธรรมสายหนึ่งเอาไว้ ประหนึ่งว่าเวลานี้ ขุนพลชุดขาวยืนอยู่จุดสูงสุดของหมื่นสัจธรรม หากก้าวพ้นจุดสูงสุดของหมื่นสัจธรรมแล้วก็คือทะลุขีดจำกัดสูงสุดของสัจธรรมไปแล้ว

เสียงคำรามของมังกรดังไม่ขาดสาย ท่ามกลางเสี้ยววินาทีนี้เอง ทวนยาวของขุนพลชุดขาวพลันขดตัวเสมือนหนึ่งเป็นมังกรแท้จริงที่ขดตัวอยู่ระหว่างฟ้าดินแห่งนี้ กลิ่นอายมังกรที่พวยพุ่ง อาณาจักรมังกรปรากฏ โดยมีอักขระมังกรแต่ละตัวที่ใหญ่โตเท่าภูเขาลอยล่องอยู่ภายในอาณาจักรมังกรนั่น

ในเวลานี้ ทวนยาวของขุนพลชุดขาวทำการเปิดอาณาจักรมังกรขึ้นมา อาศัยมังกรแท้จริงปกป้องเอาไว้ทุกทิศทุกทาง หวังอาศัยสิ่งนี้มาต้านกับจิตอันแน่วแน่ของราชันเซียนหมิงเหริน

การที่ขุนพลชุดขาวงัดเอากระบวนท่านี้ออกมาใช้ ถือว่าเป็นหนึ่งในกระบวนท่าที่ทรงพลังมากที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว หากไม่ถึงที่สุดแล้ว เขาจะไม่สำแดงท่านี้ออกมา

“ไม่เลวนี่ เอาไปอีกดาบหนึ่ง” หลี่ชิเย่หัวเราะเสียงยาว “ตูม” ทันใดนั้น พลังลมปราณของหลี่ชิเย่ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง “แช้งค์…” ดาบหมิงเหรินคำรามเสียงยาวออกมา นาทีนี้เอง ดาบหมิงเหรินคล้ายดั่งกำลังลอกคราบอย่างนั้น เหมือนว่ามันไม่ใช่แค่อาวุธธรรมดาๆ เล่มหนึ่งอีกต่อไป เหมือนว่ามันคือดาบยาวที่มีชีวิตอย่างนั้น!

“แช้งค์…” ดาบหมิงเหรินคำรามเสียงยาวไม่หยุด หนึ่งดาบที่ฟาดฟันลงมา ฟ้าดินสว่างไสว ท้องฟ้าแจ่มใสทั้งเก้าแดน ทุกอย่างดูสมจริง ขณะเดียวกันก็แปรเปลี่ยนเป็นเลือนราง

ความปรารถนาของหมิงเหรินปราศจากขอบเขต เพลงดาบเพลงที่สามของเพลงดาบหมิงเหรินสามกระบวนท่า

ภายใต้ดาบนี้ ดูเหมือนไม่มีสิ่งใดในเก้าแดนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ เหมือนว่าในหมื่นอาณาจักรไม่มีความมายลึกซึ้งอะไร สัจธรรมที่ลึกล้ำมหัศจรรย์มากกว่านี้ก็ดี ความลับที่ลึกล้ำมากกว่านี้ก็ช่าง เรื่องเล่าลือที่ดึกดำบรรพ์กว่านี้ก็ดี…ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่ออยู่ภายใต้ดาบนี้ล้วนแลดูตื้นเขิน และเข้าใจง่ายเหลือเกิน

ดาบนี้หาใช่ดาบเดียวอีกแล้ว แต่เป็นหมื่นสัจธรรมที่สลายฟ้าดิน ภายใต้ดาบนี้ได้ทำการสลายทุกสิ่งอย่างบนฟ้าดิน แม้จะเป็นเคล็ดวิชาการป้องกันที่ทรงพลังมากที่สุดของขุนพลชุดขาว ก็กลับกลายเป็นไร้ค่าสุดจะรับมือกับการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้

นาทีนี้ เหมือนว่าดาบหมิงเหรินไม่ได้อยู่ในมือของหลี่ชิเย่อีกแล้ว เหมือนว่ามือซ้ายที่จับดาบเล่มนี้เอาไว้นั้นเป็นมือของราชันเซียนหมิงเหริน

ลองคิดดู การที่มือของราชันเซียนหมิงเหรินที่ถือดาบหมิงเหรินแล้วฟาดฟันลงมานั้น ความปรารถนาของฟ้าดินจะมีอานุภาพเพียงใด และมีความน่ากลัวเช่นใด แม้จะเป็นจักรพรรดิเทพชั้นสัจธรรม ภายใต้ดาบนี้ก็ได้แต่ถวายศีรษะให้!

“ถอยไป…” สีหน้าของเมิ่งเจิ้นเทียนพลันเปลี่ยนไปเมื่อมองเห็นอานุภาพของดาบนี้ ร่างของเขาดั่งวิญญาณ อาศัยความเร็วที่สุดประเมินพุ่งตัวเข้าไปภายในหุบเขาหิมะ เขาลงมือทันทีด้วยการควบคุมจักรวาล บังคับบัญชาสัจธรรม “ตูม” ปรากฏเป็นเส้นทางสายหนึ่งมาขวางกั้น เป็นเส้นทางที่ทอดยาวกั้นขวางระหว่างหลี่ชิเย่กับขุนพลชุดขาวเอาไว้ เหมือนว่ามันได้ทอดยาวก้าวข้ามอาณาจักรและข้ามกาลเวลา เมื่ออยู่ท่ามกลางเส้นทางสายนี้แล้ว ทุกอย่างดูจะเล็กจิ๋วยิ่งนัก

ขณะเดียวกัน เสียง “จี๊ด” ดังขึ้น ท่ามกลางน้ำแข็งที่ปกคลุมเต็มพื้นที่ บนท้องฟ้าได้ปรากฎโซ่น้ำแข็งแต่ละเส้นที่ทิ้งตัวห้อยลงมา ได้ยินเสียงดัง “ตึง ตึง ตึง” โซ่น้ำแข็งแต่ละเส้นได้อาศัยความรวดเร็วที่สุดเปรียบเปรยเข้าพันธนาการหลี่ชิเย่เอาไว้

“ปัง…” ถึงแม้เมิ่งเจิ้นเทียนจะลงมือเข้าช่วยเหลือ แต่ ดาบนี้ของราชันเซียนหมิงเหรินยังคงฟันเส้นทางนั้นจนขาด และขุนพลชุดขาวยังคงกระเด็นไปตามแรงของดาบที่ฟาดฟันลงมา

เวลานี้ ทวนยาวที่อยู่ในมือของขุนพลชุดขาวถูกฟันจนขาดเป็นสองท่อน และปลายดาบได้เฉียดผ่านไปเท่านั้น แต่ก็ได้ฝากรอยดาบที่บาดลึกมากบนตัวของเขา เลือดสดๆ ย้อมชุดของเขาจนแดงฉาน

ถ้าหากเสี้ยววินาทีนั้น เมิ่งเจิ้นเทียนลงมือช้าไปกว่านี้ล่ะก็ เกรงว่าที่ถูกฟันจนขาดคงไม่เพียงแค่ทวนยาวของขุนพลชุดขาวเท่านั้น แต่เกรงว่าตัวของขุนพลชุดขาวก็ต้องถูกผ่าเป็นสองซึก

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *