ตึง ตึง ตึง…เสียงกลองที่ดังขึ้นมาเป็นระลอก คลื่นเสียงพลันพุ่งเข้าโจมตีหลี่ชิเย่ ด้วยลักษณะการทำลายล้างที่รุนแรง ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ปราศจากสิ่งใดต้านทานได้

เสียงตูมดังสนั่น มองเห็นคลื่นเสียงที่พุ่งโจมตีเข้ามา ปรากฏภูเขาแต่ละลูกที่ทุกทำลายในทันที กลายเป็นฝุ่นผงที่ล่องลอยไปตามลม

พลันที่กลองเทพเจ้าฟ้าผ่าดังขึ้น ทันใดนั้นเสมือนดั่งมีเทพเจ้าแห่งฟ้าผ่าได้ประทานภัยพิบัติยิ่งใหญ่ลงมาอย่างนั้น ได้ยินเสียงเปรียะเปรียะที่ดังขึ้น ขณะที่คลื่นเสียงพุ่งโจมตีเข้าหาหลี่ชิเย่พริบตาเดียวนั้น ปรากฎฟ้าผ่าที่ดุดันลงมาจากท้องฟ้า สายฟ้าสีทองที่มีขนาดใหญ่ดั่งเทือกเขาได้โจมตีเข้าหาหลี่ชิเย่ อานุภาพยากจะหาใดเทียม

เสียงเปรียะ เปรียะดังขึ้น ขณะที่สายฟ้าสีทองแต่ละสายที่ผ่าลงพื้นดินนั้น บนพื้นดินพลันปรากฏควันดำลอยขึ้นมา มองเห็นสายฟ้าที่ฟาดฟันลงมา ถึงกับทำให้พื้นดินถูกฟาดใส่จนกลายเป็นหลุมขนาดยักษ์ที่สุดเปรียบเปรย โดยที่หลุมดังกล่าวนี้ลึกจนมองไม่เห็นก้นหลุม

นี่ยังแค่เป็นเพียงสายฟ้าแต่ละสายที่ฟาดใส่พื้นดินเท่านั้นเอง ถ้าหากเป็นสายฟ้าสีทองขนาดเขื่องฟาดลงมาล่ะก็จะไหวรึ มิทำให้ธรณีถูดฟาดจนจมลงทั้งหมด ทำให้พื้นแผ่นดินจำนวนมากมายมิต้องถูกฟาดจนกลายเป็นเถ้าธุลีไป

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อได้เห็นภาพนี้ล้วนแล้วแต่ถึงกับหวาดผวาจนขนลุกซู่ ภายใต้คลื่นเสียงและสายฟ้าฟาดโจมตีเข้ามา แม้ระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ก็ต้องถูกสายฟ้าฟาดจนดำเป็นตอตะโกในทันที

อย่างไรก็ตาม เวลานี้เทพอินทรีหวินตู้อยู่ห่างไกลจากหลี่ชิเย่ เขาอาศัยอยู่บนท้องฟ้าที่สูงขึ้นไป ห่างไกลจากหลี่ชิเย่นับสิบล้านลี้ หากหลี่ชิเย่ต้องการโจมตีและสังหารเทพอินทรีหวินตู้ เกรงว่าอันดับแรกจะต้องรับมือซึ่งหน้าโดยตรงกับสายฟ้าฟาดที่ดุดัน และเสียงกลองซึ่งลงมาจากท้องฟ้าให้ได้เสียก่อน ถ้าหากไม่สามารถต้านรับกับสายฟ้าฟาดและเสียงกลองที่น่ากลัวนี้ได้ จะต้องกลายเป็นจุณอย่างแน่นอน

การที่เทพอินทรีหวินตู้ห่างไกลจากหลี่ชิเย่มากมายเช่นนี้ เป็นเพราะต้องการหลบเลี่ยงกระบี่คริสตัลที่คมกริบเล่มนั้นของหลี่ชิเย่ เนื่องจากกระบี่เล่มนี้มันคมมากเหลือเกิน ถ้าหากไม่ดึงระยะให้ห่างไกลเกิดถูกกระบี่ครัสตัลฟาดฟันเข้าให้ล่ะก็ เกรงว่าแม้ว่าเขาจะเป็นขั้นอมตะก็ต้องถูกสังหารได้เช่นกัน

กลองเทพเจ้าฟ้าผ่าที่ถูกตีให้ดังก้อง ทำลายฟ้าดิน คลื่นเสียงที่พุ่งกระทบโจมตีเข้ามาทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง สายฟ้าฟาดที่ดุดันสังหารสิ้นเหล่าเทพ ด้วยกระบวนท่าที่น่ากลัวเช่นนี้ ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากต่างหวาดผวาจนขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัวอย่างยิ่ง

“สามารถต้านกับการโจมตีของกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าที่มาเป็นระลอกๆ ได้หรือไม่นะ?” เมื่อระดับเทพแท้จริงที่มองเห็นหลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้นได้ท่าทีสงบนิ่งแล้ว ถึงกับรู้สึกหวาดผวาจนขนลุกซู่

การลั่นกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าดังขึ้น มันไม่เพียงมีอานุภาพที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุดเท่านั้น ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ เมื่อกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าไม่หยุด คลื่นเสียงจากสายฟ้าแลบและฟ้าผ่าก็จะเหมือนดั่งสายน้ำที่ไม่ขาดพุ่งเข้าโจมตีต่อหลี่ชิเย่ ด้วยท่วงท่าการโจมตีที่ดุร้ายต่อเนื่องไม่ขาดช่วงเช่นนี้ แม้ว่ามีความแข็งแกร่งถึงขั้นรับมือได้หนึ่งระลอก ก็ไม่สามารถต้านการโจมตีที่ต่อเนื่องดั่งสายน้ำไม่มีสิ้นสุดนี้ได้

เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่เสียงกลอง ฟ้าแลบฟ้าผ่าที่ดุร้ายพุ่งเข้าโจมตีหลี่ชิเย่พร้อมกันนั้น มือของหลี่ชิเย่ที่จิ้มไปด้วยความชำนาญ สัจธรรมกระเพื่อม พริบตาเดียวนั่นเอง สัจธรรมที่กว้างใหญ่ไพศาลเสมือนหนึ่งท่วมทั่วหล้าจนจมมิด ในเวลานี้เองพลังสัจธรรมดั่งปรอทที่เทลงพื้นอย่างนั้น มันแทรกไปทุกซอกทุกมุมอย่างไม่ขาดสาย คงอยู่ทุกๆ ที่ทุกหนทุกแห่ง

ภายใต้พลังสัจธรรมลักษณะเช่นนี้ที่ท่วมจนฟ้าดินจมมิดนั้น ปรากฏปณิธานกระบี่ที่ตลบอบอวล เหมือนว่าปณิธานกระบี่มีอยู่ทุกที่ แซกซอนทุกรูขุมขน

แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น มองเห็นทะเลสาบขนาดยักษ์ยากจะหาใดเทียมปรากฏลอยอยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่อย่างนั้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทะเลสาบดังกล่าวดุจดั่งสามารถรองรับเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินเอาไว้ได้

เสียงกลอง และสายฟ้าแลบและเสียงฟ้าผ่าที่ดุดันซึ่งโจมตีเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกทะเลสาบแห่งนี้รองรับเอาไว้ในทันที แม้ว่าทะเลสาบนี้จะปรากฏอยู่เพียงแค่ตรงหน้าของหลี่ชิเย่เท่านั้น แต่ทว่า กลับคล้ายจุโลกทั้งโลกเอาไว้ได้อย่างนั้น โลกทั้งโลกล้วนแล้วแต่อยู่ท่ามกลางทะเลสาบแห่งนี้

ปัง ปัง ปังเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น ขณะที่สายฟ้าแลบและเสียงฟ้าผ่าและเสียงกลองอาศัยท่วงท่าที่ทำลายฟ้าดินเข้าโจมตีหลี่ชิเย่นั้น พลัง การเข่นฆ่าสังหาร กระบวนท่าทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกทะเลสาบนี้ดูดกลืนรองรับเอาไว้

ดังนั้น เมื่อสายฟ้าแลบและเสียงฟ้าผ่าถูกทะเลสาบดูดกลืนเข้าไป ภายในทะเลสาบจึงมีเสียงดังขึ้นมาแผ่วเบาเป็นระลอก อีกทั้งภายใต้พลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียม ทำให้ทะเลสาบยุบลงไปเหมือนถูกโจมตีอย่างหนักอย่างนั้น ทำให้ทะเลสาบได้รับความกดดันจากพลังที่แกร่งมากจนมันต้องบุ๋มลึกลงไป

จังหวะที่ทะเลสาบยุบลงไปทั้งหมดนั้น ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้นมาเป็นระลอก และขณะที่เสียงตึง ตึง ตึงนี้ดังขึ้นมานั้น ภายในทะเลสาบเสมือนหนึ่งได้ปรากฏเป็นลายคลื่น

ลายคลื่นแบบนี้ถึงกับลอยขึ้นมาจากน้ำภายในทะเลสาบ เป็นอะไรที่ประหลาดมาก จังหวะเมื่อลายน้ำลักษณะเช่นนนี้ลอยขึ้นมานั้น ถึงกับแยกตัวออกและวิวัฒนาการกลายเป็นกระบี่วิเศษแต่ละเล่ม

เหมือนว่าการโจมตียิ่งรุนแรงมากเท่าไร กระบี่วิเศษที่วิวัฒนาการขึ้นมาจากน้ำทะเลสาบก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งกระบี่วิเศษก็จะวิวัฒนาการขึ้นมาจากน้ำทะเลสาบนี้แหละ แต่ผู้คนสามารถมองออกถึงกระบี่วิเศษแต่ละเล่มนี้ได้อย่างชัดเจน ไม่ปะปนอยู่กับน้ำที่อยู่ภายในทะเลสาบ

เวลาที่ได้ยินเสียงดังตึง ตึง ตึงที่เป็นเสียงร้องคำรามของกระบี่ดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสายนั้น มองเห็นภายกระบี่จำนวนมากมาอยู่ในน้ำทะเลสาบ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ได้วิวัฒนาการกระบี่น้ำขึ้นมเป็นร้อยเป็นพันเล่ม กระบี่น้ำทุกเล่มล้วนแล้วแต่ มีปณิธานกระบี่ที่น่ากลัวมาก เยือกเย็นรุนแรง การฆ่าฟันตลบอบอวล ด้วยกระบี่จำนวนมากมายเพียงนี้ ทำให้ผู้พบเห็นต้องหวาดกลัวจนขนลุกซู่

ตึง ตึง ตึงในเวลานี้เอง เทพอินทรีได้ทำการรัวกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าของเขาราวกับพายุฝนฟ้าคะจอง ยิ่งเสียงกลอง สายฟ้าแลบ และฟ้าผ่าที่ดุดันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทะเลสาบที่คอยดูดซับเสียงกลองสายฟ้าแลบและฟ้าผ่าก็จะบุ๋มลึกลงไปเรื่องๆ แรงกดที่มีต่อทะเลสาบมามากขึ้นๆ น้ำในทะเลสาบถูกกดให้บุ๋มลงไปจนเกือบจะถึงก้นทะเลสาบแล้ว เหมือนว่าหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เสียงกลอง สายฟ้าแลบ และฟ้าผ่าที่ดุดันสามารถทำให้ทะเลสาบทั้งหมดทะลุได้อย่างนั้น และจากการที่อานุภาพกลองเทพฟ้าผ่าของเทพอินทรีหวินตู้ที่โจมตีเข้ามาทวีความรุนแรงมากขึ้นๆ ทำให้กระบี่น้ำที่มีการวิวัฒนาการภายในทะเลสาบก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นๆ

ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกตกใจ เมื่อมองเห็นทะเลสาบแห่งนี้ได้ดูดกลืนพลังโจมตีทั้งหมดเอาไว้ ทุกคนต่างไม่รู้ว่าทะเลสาบลักษณะเช่นนี้คือสิ่งใดกันแจ่ หรือว่านี่คือฝีมือการป้องกันของหลี่ชิเย่?

“ดูว่าเจ้าจะยืนหยัดได้นานสักเท่าไร! ข้าจะทำลายมันแน่นอน!” เทพอินทรีหวินตู้คำรามเสียงดังด้วยความบ้าคลั่งออกมา ไม้ตีกลองที่อยู่ในมือยิ่งรัวกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง เมื่อมองเห็นว่า ภายใต้การโจมตีด้วยกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าของเขาแล้ว ได้ทำให้ทะเลสาบตรงหน้าหลี่ชิเย่บุ๋มลึกลงไปรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เกือบจะถึงก้นทะเลสาบอยู่แล้ว หากยังคงเป็นเช่นนี้เต่อไป การโจมตีของเขาต้องทำให้ทะเลสาบทั้งทะเลสาบทะลุได้แน่ๆ

ในเวลานี้ เสียงกลองตึง ตึง ตึงดังก้องทั่วฟ้าดินหมื่นอาณาจักร คลื่นที่คงเหลืออยู่ของกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าสามารถทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกได้

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ภายใต้การโจมตีของเสียงกลอง สายฟ้าแลบ และฟ้าผ่าที่ดุดัน เสียงกระบี่คำรามดังก้องเก้าชั้นฟ้า มองเห็นภายในทะเลสาบได้วิวัฒนาการกระบี่น้ำขึ้นมาเป็นพันเป็นหมื่นเล่มแล้ว ปณิธานกระบี่ที่ตลบอบอวลทั่วฟ้าดิน แต่ว่า เวลานี้มองเห็นรอยบุ๋มลึกลงไปของทะเลสาบเกือบจะแตะพื้นทะเลสาบอยู่แล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้น ทะเลสาบนี้ก็จะถูกเสียงกลองของเทพอินทรีหวินตู้โจมตีจนทะลุแล้ว

“เกือบทะลุแล้ว เกรงว่าคงต้านเอาไว้ไม่อยู่แล้ว” มีผู้ร้องออกมาด้วยความตระหนก เมื่อมองเห็นรอยบุ๋มลึกลงไปจนเกือบจะถึงก้นทะเลสาบอยู่แล้ว ถ้าหากทะเลสาบถูกโจมตีจนทะลุล่ะก็ พลังโจมตีที่น่ากลัวของกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าทั้งหมดก็จะเข้าโจมตีหลี่ชิเย่ในทันที

เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้ร่างกายของหลี่ชิเย่แข็งแกร่งมากไปกว่านี้ ก็ไม่สามารถรองรับการโจมตีที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ได้ เกรงว่าจะต้องถูกโจมตีจนกลายเป็นเถ้าธุลีไปโดยพลัน

ตึง…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง เสียงกระบี่คำรามดังก้องฟ้าดิน ดังก้องกังวานไพเราะน่าฟัง ลำพังเวลาที่เสียงกระบี่คำราม ก็คล้ายดั่งมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มที่แทงทะลุฟ้าดิน

ตูม…เสียงดังสนั่นขึ้น จังหวะที่ทะเลสาบได้บุ๋มลึกลงไปเกือบจะแตะพื้นทะเลสาบอยู่นั้น ภายในทะเลสาบดุจดั่งมีกระบี่น้ำนับพันนับหมื่นเล่มที่พุ่งโจมตีออกมา ขณะที่กระบี่น้ำนับพันนับหมื่นโจมตีขึ้นมาพร้อมๆ กันนั้น คล้ายดั่งกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งโลกได้โจมตีขึ้นพร้อมๆ กัน กระบี่น้ำดุจดั่งเป็นแม่น้ำกระบี่ที่โจมตีขึ้นมา ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม เหมือนว่าทั่วทั้งโลกล้วนแล้วแต่ต้องถูกกระบี่น้ำโจมตีทำลายไปทั้งหมดอย่างนั้น

ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ การโจมตีของกระบี่น้ำนับพันนับหมื่นเล่มนี้ ได้รวบรวมเอาพลังการโจมตีทั้งหมดด้วยกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าของเทพอินทรีหวินตู้เอาไว้ หรือจะกล่าวว่า ก่อนหน้านั้นคลื่นเสียง สายฟ้าแลบ และฟ้าผ่าที่ดุดันจากกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าทั้งหมดของเทพอินทรีหวินตู้ ได้กลับกลายเป็นลักษณะของกระบี่น้ำโจมตีกลับไปยังเทพอินทรีหวินตู้ในพริบตาเดียว

มันไม่เพียงแค่นำเอาพลังโจมตีทั้งหมดโจมตีกลับไปยังเทพอินทรีหวินตู้เท่านั้น ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือพลังโจมตีที่ทบเข้าไปอย่างไม่มีสิ้นสุด เหมือนดั่งสายน้ำในแม่น้ำที่ไม่ขาดสายอย่างนั้น

แม้จะกล่าวว่ากระบี่นับพันนับหมื่นเล่มนี้จะเกิดขึ้นมาจากการวิวัฒนาการของน้ำที่อยู่ในทะเลสาบ แต่มันกลับมีความแหลมคมยิ่งนัก คล้ายเป็นกระบี่น้ำแข็งแต่ละเล่มที่แทงทะลุฟ้าดินได้โดยพลัน ผ่ากาลเวลาจนปริแยกออก

ตึง…กระบี่น้ำนับพันนับหมื่นเล่มคำรามขึ้นพร้อมกัน และพุ่งเข้าโจมตีต่อเทพอินทรีหวินตู้เหมือนสายน้ำที่ไม่ขาดสาย สามารถทำลายพลังทุกสิ่งทุกอย่าง

มองเห็นกระบี่น้ำที่พุ่งโจมตีต่อเทพอินทรีหวินตู้อย่างมืดฟ้ามัวดิน กระทั่งสามารถได้ยินเสียงท้องฟ้าที่แตกละเอียดดังคร๊ากกกขึ้นมา ภายใต้การโจมตีของกระบี่น้ำนับพันนับหมื่นเล่มนั้น ท้องฟ้าถูกทำลายแหลกละเอียด กลายเป็นจุณไป

สีหน้าของเทพอินทรีหวินตู้เปลี่ยนไปทันที เมื่อมองเห็นการโจมตีที่มืดฟ้ามัวดินของกระบี่น้ำ ตึง ตึง ตึงทันใดนั้น เขาได้ทำการลั่นกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าอย่างบ้าคลั่ง ได้ยินเสียงดังสนั่นตูม ตูม ตูมขึ้นมา นาทีนี้เขาได้ลั่นกลองเทพเจ้าฟ้าผ่าอย่างบ้าคลั่ง ได้ยินเสียงตูม ตูม ตูมดั่งสนั่น เสียงกลอง สายฟ้าแลบ และฟ้าผ่าที่ดุดันได้โจมตีเข้าใส่กระบี่น้ำที่พุ่งเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน

ได้ยินเสียงปัง ปัง ปังดังขึ้น ภายใต้การโจมตีของคลื่นเสียงได้ทำให้กระบี่น้ำที่มากันอย่างมืดฟ้ามัวดินถูกทำลายแตกละเอียดไปไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับจำนวนกระบี่น้ำนับพันนับหมื่นเล่มแล้ว เป็นเพียงน้อยนิดเท่านั้น

ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง กระบี่น้ำได้โจมตีมาถึง เทพอินทรีหวินตู้แหงนหน้าขึ้นมอง โลกตรงหน้าของเขาล้วนแล้วแต่ถูกกระบี่น้ำคลุมจนมิด กระบี่น้ำทั้งหมดล้วนแล้วแต่โจมตีเข้าหาเขา ต่อให้เขาหลบหนีไปไกลพันลี้ผลที่ออกมายังคงเหมือนเดิม

“ทำลาย…” เทพอินทรีหวินตู้ตื่นตระหนกยิ่ง ร้องคำรามเสียงดัง และเสกเอาของวิเศษที่สะเทือนเลื่อนลั่นออกมาชิ้นแล้วชิ้นเล่า ทำการก่อเป็นแนวป้องกันขึ้นมาชั้นแล้วชั้นเล่า

เสียงแตกละเอียดดังปัง ปัง ปังขึ้นมา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของกระบี่น้ำที่เข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดินและไม่มีสิ้นสุดเช่นนี้ ต่อให้แนวป้องกันของเทพอินทรีหวินตู้มีความแข็งแกร่งเพียงใดก็ตามก็ช่วยอะไรไม่ได้ แนวป้องกันทั้งหมดถูกโจมตีจนแหลกละเอียดเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น ของวิเศษที่สะเทือนเลื่อนลั่นแต่ละชิ้นถูกทำลายไปสิ้น

ตึงเสียงกระบี่คำรามดังขึ้น ในพริบตาเดียวนี่เอง กระบี่น้ำที่มากันมืดฟ้ามัวดินก็ได้โจมตีมาถึงด้านหน้า เทพอินทรีหวินตู้ในเวลานี้เรียกได้ว่าความสามารถที่คงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็ถูกใช้ไปจนหมดสิ้นไปแล้ว ไม่สามารถต้านได้กับการโจมตีสังหารของกระบี่น้ำเช่นนี้ได้อีกแล้ว

“จนสิ้นแล้วชีวิตข้า…” ในใจของเทพอินทรีหวินตู้ตกใจยิ่งนัก ได้ปล่อยแนวป้องกันชิ้นสุดท้ายออกไป แต่ก็รู้ว่ามันไร้ประโยชน์ ไม่อาจต้านทานได้อยู่แล้ว

“ผู้อาวุโส ข้าจะช่วยท่านอีกแรง” ในเสี้ยววินาทีนั่นเอง มู่เส้าเฉินคำรามเสียงดังก้อง บริเวณใต้เท้าของเขาปรากฎพลังที่เจิดจ้าขึ้นมา ตูมเสียงดังสนั่นขึ้นมา โล่ศักดิ์สิทธิ์โล่หนึ่งได้พุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว และขวางอยู่ด้านหน้าสุด

เสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา ภายใต้การโจมตีเช่นนี้ แม้ว่าโล่ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถต้านการโจมตีของเทพมารที่ปราศจากผู้ต่อกรได้ก็ถูกกระบี่น้ำพุ่งโจมตีจนกระเด็นออกไป

แต่ทว่า กระบี่น้ำที่มืดฟ้ามัวดินเมื่อถูกขวางไว้ด้วยโล่ศักดิ์สิทธิ์ ได้ทำให้พลังลดลงไปมากที่เดียว ยังคงมีกระบี่น้ำที่โจมตีเข้าถึงร่างของเทพอินทรีหวินตู้

……………………………………………..