Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1483 หลุมพรางน้ำแข็ง

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1483 หลุมพรางน้ำแข็ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1483 หลุมพรางน้ำแข็ง

เสียงเดินย่ำบนหิมะดังขึ้นต่อเนื่อง เมื่อหลี่ชิเย่พาซูหย่งหวงก้าวเดินเข้าไปยังหุบเขาหิมะที่มีหิมะขาวโพลนทีละก้าวๆ

ท่าทีของหลี่ชิเย่ดูเป็นธรรมชาติ เพียงแฝงรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าขณะที่ก้าวเดินอยู่ท่ามกลางหุบเขาหิมะนั่น เพียงแต่บอกกล่าวต่อซูหย่งหวงที่เดินอยู่ข้างกายว่า “เจ้าต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม การปกคลุมร่างของน้ำแข็งในนี้สามารถสังหารเจ้าถึงตายได้ภายในพริบตา อาศัยกายสุริยันคุ้มกายเอาไว้เสีย น้ำกับไฟเป็นปฏิปักษ์กัน ต่อให้การปกคลุมร่างของน้ำแข็งในนี้จะทรงพลังมากเช่นใดก็ไม่สามารถเอาชีวิตเจ้าไปได้”

“ต้นกำเนิดน้ำแข็งที่นี่ร้ายกาจขนาดนั้นจริงรึ?” สายตาของซูหย่งหวงถึงกับเพ่งมองไปข้างหน้า ในเวลานี้นางได้เก็งพลังลมปราณขึ้นมาอย่างช้าๆ ร่างกายได้เตรียมพร้อมรับมือ พร้อมปะทุขึ้นมาได้ทุกเวลา

“เป็นความจริงที่ที่ตรงนี้มีแหล่งต้นกำเนิดน้ำแข็งจริง แต่ไม่ได้ร้ายกาจขนาดนั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มอย่างตามอารมณ์และกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมยว่า “เพียงแต่ถูกคนเขากระทำการอะไรบางอย่าง ให้พลังของมันพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งเท่านั้นเอง”

“ในเมื่อรู้แล้วว่ามีอันตราย ยังจะลุยเข้ามาอีก” ซูหย่งหวงค้อนขวับเบาๆ ทีหนึ่ง แน่นอน นางไม่ได้ต้องการตำหนิหลี่ชิเย่จริงๆ ท่ามกลางการมองค้อนนั้น แฝงไว้ซึ่งท่าทีที่ออดอ้อนฉอเลาะอยู่สามส่วน ทำให้รู้สึกจั๊กจี้หัวใจ

“แค่เล็กน้อยเท่านั้น ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง เจ้าคอยดูอะไรสนุกๆ ก็พอแล้ว” หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มออกมาแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเขาต้องการหลอกข้า ข้าก็จะสงเคราะห์ให้เขา รอดูข้าเอาชีวิตสุนัขของเขาให้ดีก็แล้วกัน”

ซูหย่งหวงเพียงยิ้มนิดหนึ่ง เป็นรอยยิ้มที่สุภาพเยือกเย็น และมีออดอ้อนฉอเลาะอยู่สามส่วน ทำให้ผู้คนต้องหัวใจเต้นตูมตาม ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม นางก็จะมีความมั่นใจในตัวของหลี่ชิเย่เสมอ หลี่ชิเย่พูดได้ย่อมทำได้ กล่าวสำหรับเขาแล้วในโลกนี้ไม่มีอะไรยากสำหรับเขา!

ขณะที่หลี่ชิเย่และซูหย่งหวงเดินทางต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางหุบเขาหิมะอยู่นั้น ผู้คนจำนวนมากที่ยืนดูอยู่ด้านนอกหุบเขาถึงกับกลั้นลมหายใจ ทุกคนมองดูทุกย่างก้าวของหลี่ชิเย่ และซูหย่งหวงอย่างชนิดไม่คลาดสายตา มองดูหลี่ชิเย่ และซูหย่งหวงที่เดินลึกเข้าไปทุกที หลายคนรู้สึกใจเต้นระทึกขึ้นมา

“จี๊ด…” เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่หลี่ชิเย่และซูหย่งหวงเดินลึกเข้าไปถึงภายในหุบเขาหิมะนั้น ทันใดนั้นบังเกิดน้ำแข็งปกคลุมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รวดเร็วจนคาดไม่ถึง ฉับพลันก็ได้ผนึกร่างของหลี่ชิเย่ และซูหย่งหวงเอาไว้

เนื่องจากการปกคลุมของน้ำแข็งรวดเร็วจนเหลือเชื่อ พลันทำให้หลี่ชิเย่ และซูหย่งหวงกลายเป็นเหมือนรูปแกะสลักน้ำแข็ง

แต่ทว่า ซูหย่งหวงได้มีการเตรียมพร้อมตั้งแต่ก่อนหน้าเอาไว้แล้ว จังหวะที่ถูกผนึกร่างด้วยน้ำแข็งได้ปะทุพลังของกายสุริยันที่เยี่ยมยอดปราศจากผู้เทียบเทียมขึ้นมาทันที โดยที่พลังเพลิงแก่นสุริยันได้มีการพุ่งขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

เสียง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ดังขึ้น ในจังหวะที่ซูหย่งหวงถูกทำให้กลายเป็นรูปปั้นแกะสลักน้ำแข็งนั้น จากการปะทุขึ้นมาของกายสุริยันในทันที ได้อาศัยพลังเพลิงแก่นสุริยันที่ทรงพลังและแข็งกร้าวทำการขยายขอบเขตการละลายน้ำแข็งที่ห่อหุ้มตัวนั้นให้กว้างออกไปอย่างรวดเร็ว หวังจะละลายน้ำแข็งให้ได้ทั้งหมด

แต่ทว่า พลังอำนาจการครอบคลุมผนึกร่างของน้ำแข็งนี้ทรงพลังยิ่งนัก เหมือนดั่งที่เมิ่งเจิ้นเทียนได้พูดเอาไว้ว่า สามารถสังหารระดับอ๋องเทพให้ตายได้ในพริบตา ถ้าหากซูหย่งหวงไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนหน้าล่ะก็ เกรงว่าคงต้องจบชีวิตในทันทีเหมือนกัน

แม้ว่ากายสุริยันของซูหย่งหวงจะปะทุขึ้นมาอย่างทันท่วงที และอาศัยพลังที่สุดยอดไปละลายน้ำแข็งที่ปกคลุมผนึกร่างเอาไว้นั่น แต่ พลังอำนาจของน้ำแข็งก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งในการผนึกร่างของซูหย่งหวงเอาไว้ ไม่ปล่อยให้ซูหย่งหวงสามารถออกมาจากน้ำแข็งที่ผนึกร่างไปได้

พลังน้ำแข็งผนึกร่างสายนี้ทรงพลังยิ่งนัก อย่างน้อยก็ต้องเป็นพลังจากระดับจักรพรรดิเทพ ดังนั้น ซูหย่งหวงก็ไม่สามารถทำให้น้ำแข็งทั้งหมดละลายให้หมดภายในระยะเวลาอันสั้น ทำได้แค่ละลายน้ำแข็งที่อยู่บนตัวของตนเองเท่านั้น

ในเวลานี้ พลังเพลิงแก่นสุริยันของซูหย่งหวงกับพลังน้ำแข็งต่างประจัญกัน โดยที่ซูหย่งหวง ไม่สามารถทำการละลายน้ำแข็งที่ผนึกร่างอันเกิดจากการกระทำของระดับจักรพรรดิเทพได้ ขณะเดียวกันพลังน้ำแข็งนี้ก็ไม่สามารถทำอันตรายให้กับซูหย่งหวงแม้แต่น้อยเช่นกัน

สำหรับหลี่ชิเย่นั้นถูกน้ำแข็งผนึกร่างเอาไว้จนกลายเป็นรูปแกะสลักน้ำแข็งที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ไหวติง เหมือนว่าถูกพลังน้ำแข็งผนึกร่างฆ่าตายไปแล้วอย่างนั้น

“มีอันตรายอยู่ในนั้นจริงๆ พลังน้ำแข็งผนึกร่างนี้น่ากลัวเหลือเกิน” ภาพน้ำแข็งที่เข้าปกคลุมผนึกร่างโดยพลันได้สร้างความตระหนกให้กับผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่อยู่ด้านนอกหุบเขาหิมะ มองเห็นหลี่ชิเย่ที่เป็นยอดฝีมือเช่นนี้ถูกผนึกร่างจนกลายเป็นรูปแกะสลักน้ำแข็งในทันที ทำให้ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากถึงกับเหงื่อไหลโทรมตัว นับว่าโชคดีที่มีขุนพลชุดขาวเฝ้าอยู่ที่ตรงนี้ หาไม่แล้วจุดจบของตนก็คงเป็นเช่นเดียวกันกับหลี่ชิเย่ กลายเป็นรูปแกะสลักน้ำแข็งไม่สามารถกลับออกมาได้อีกตลอดกาล

บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ก่อนหน้านั้นได้รู้สึกหวั่นไหวในใจ เวลานี้ ต่างถอนใจออกมาและรู้สึกว่าก่อนหน้านั้นเข้าใจในตัวขุนพลชุดขาวผิดไป ดูไปแล้วเวลานี้เกรงว่าเมิ่งเจิ้นเทียนนั้นมีความหวังดีจริงๆ

มีเพียงยอดฝีมือที่แท้จริง ซึ่งเป็นยอดฝีมือรุ่นอาวุโสถึงกับจ้องเขม็งไปที่ซูหย่งหวงซึ่งถูกพลังน้ำแข็งผนึกร่างเอาไว้นั้น เนื่องจากบรรดายอดฝีมือรุ่นอาวุโสเหล่านี้มองเห็นร่องรอยอะไรบางอย่าง ขณะที่ซูหย่งหวงกำลังต่อต้านกับพลังน้ำแข็งผนึกร่างอยู่นั้น บริเวณด้านล่างของหุบเขาหิมะก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ทุกครั้งที่พลังเพลิงแก่นสุริยันของซูหย่งหวงระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง บริเวณใต้ดินก็จะปรากฏอักขระยันต์ขึ้นมา โดยที่อักขระยันเหล่านี้เพียงเกิดขึ้นแวบเดียวเท่านั้น ด้วยความไวที่สูงมาก หากไม่สังเกตให้ดีก็จะมองไม่เห็น

จังหวะที่อักขระยันต์แวบขึ้นมานี้เอง พลังน้ำแข็งผนึกร่างพลันเพิ่มขึ้นทันที และเป็นการเพิ่มขึ้นแบบเท่าทวีคูณ ด้วยเหตุที่มีพลังเช่นนี้คอยสนับสนุนอยู่ จึงทำให้น้ำแข็งและเพลิงแก่นสุริยันคู่คี่สูสีกัน ทำให้พลังเพลิงแก่นสุริยันของซูหย่งหวงและพลังน้ำแข็งผนึกร่างต่างฝ่ายต่างก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้

ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสที่มีประสบการณ์กว้างขวางเมื่อได้เห็นอักขระยันต์ที่แวบหายทันทีพลันรู้และเข้าใจได้ทันทีว่า พลังน้ำแข็งผนึกร่างที่อยู่ภายในหุบเขาหิมะไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ หรือก็คืออันตรายที่อยู่ในหุบเขาหิมะไม่ได้มีมาแต่เดิม แต่เป็นเพราะมีผู้ไปเล่นตุกติกในหุบเขาหิมะเอาไว้ โดยตัวของหุบเขาหิมะก็คือหลุมพรางอยู่แล้ว

ครั้นยอดฝีมือรุ่นอาวุโสมองเห็นภาพนี้แล้ว ได้ทำการประเมินอยู่ในใจเงียบๆ พลังน้ำแข็งผนึกร่างระดับเช่นนี้เกรงว่าคงไม่สามารถทำได้สำเร็จโดยระดับจักรพรรดิเทพเพียงคนเดียวเท่านั้น เกรงว่าอาจเกิดจากระดับจักรพรรดิเทพสองถึงสามคนร่วมมือกันวางหลุมพรางนี้ขึ้นมา ลักษณะของหลุมพรางเช่นนี้ต่อให้ไม่มีผู้ที่คอยบัญชาการ มันก็มีพลังมากมายนัก เหมือนดั่งที่เมิ่งเจิ้นเทียนได้กล่าวเอาไว้ว่า หากไม่ทันระวังตัว สามารถสังหารระดับอ๋องเทพได้ในพริบตา

ดังนั้น จึงมียอดฝีมือรุ่นอาวุโสถึงกับแอบมองดูเมิ่งเจิ้นเทียนที่ยืนอยู่บริเวณปากทางเข้าหุบเขาทีหนึ่ง ในใจของพวกเขารู้แล้วว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร เพียงแต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมาเท่านั้น บางคนถึงกับรู้สึกเสียดายอยู่ในใจ แม้ว่าหลี่ชิเย่จะมีความแข็งแกร่ง เสียดาย แผนการห่างจากเมิ่งเจิ้นเทียนมากเหลือเกิน

“น่าเสียดายที่ไม่ฟังคำเตือน ข้าก็บอกแล้วว่าหุบเขาแห่งนี้อันตรายมาก” เวลานี้ เมิ่งเจิ้นเทียนทำเป็นส่ายหัวเหมือนว่ารู้สึกเสียใจเสียดาย เป็นท่าทีที่มีความเศร้าอาดูรและเจ็บแค้นใจอย่างนั้น

“ปัง…” ขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังรู้สึกเสียดายหลี่ชิเย่อยู่นั้น ทันใดนั้น น้ำแข็งแตกละเอียด หลี่ชิเย่ที่เดิมถูกทำให้กลายเป็นรูปแกะสลักน้ำแข็งพลันทำลายน้ำแข็งที่หุ้มตัวเอาไว้ทั้งหมด ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลี่ชิเย่ลงมืออย่างไร และทำลายน้ำแข็งเหล่านั้นได้อย่างไร เนื่องจากเกิดขึ้นรวดเร็วเหลือเกิน

ความจริงแล้ว แม้ว่าพลังน้ำแข็งผนึกร่างจะทรงพลังยิ่ง แต่ยังคงไม่สามารถสังหารหลี่ชิเย่ได้ ภายใต้การปะทุของกายเซียนเหินและกายเทวะสยบอเวจี พลันทำให้น้ำแข็งแตกกระจาย

การที่หลี่ชิเย่สามารถทำลายน้ำแข็งได้ในฉับพลัน สร้างความตระหนกให้กับผู้คนจำนวนมาก ขณะที่พลังเพลิงแก่นสุริยันยังไม่สามารถละลายน้ำแข็งทั้งหมดได้ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่หลี่ชิเย่กลับทำลายน้ำแข็งได้ในพริบตา นับว่าเป็นกำลังที่แข็งแกร่งมากเหลือเกิน

สีหน้าของเมิ่งเจิ้นเทียนเปลี่ยนไปทันทีที่หลี่ชิเย่สามารถทำลายน้ำแข็งนั้นได้ พวกเขาได้ทุ่มเทกำลังกายใจกับหุบเขาหิมะไปไม่น้อย เพื่อรอให้หลี่ชิเย่กระโดดเข้าไปในกับดักหลุมพรางนี้ ในสายตาของเมิ่งเจิ้นเทียนมองว่า ต่อให้น้ำแข็งในหุบเขาหิมะไม่สามารถสังหารหลี่ชิเย่ได้ แต่ เป็นไปไม่ได้ที่หลี่ชิเย่จะทำลายน้ำแข็งนี้ลงได้ง่ายดายเช่นนี้ นับว่ากำลังของหลี่ชิเย่นั้นอยู่เหนือความคาดคิดของพวกเขามากนัก

หลังจากที่หลี่ชิเย่ทำลายน้ำแข็งแล้วไม่ได้ลงมือไปช่วยเหลือซูหย่งหวง เนื่องจากซูหย่งหวงยังจะไม่มีอันตรายในขณะนี้ นางสามารถรับมือได้โดยสิ้นเชิง

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ทำลายน้ำแข็งแล้วก็เหินฟ้าขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า จังหวะที่เขาเหินฟ้าขึ้นไปนั้น พลันได้ยินเสียง “ตึง ตึง ตึง” ดังขึ้น ปรากฏเป็นโซ่น้ำแข็งแต่ละเส้นที่มีขนาดใหญ่มากถูกยิงออกมาจากทุกทิศทุกทาง โซ่น้ำแข็งขนาดใหญ่แต่ละเส้นเกิดจากพลังน้ำแข็งที่ทรงพลังมาก มันได้ถูกลงยันต์เอาไว้แล้ว โดยที่โซ่น้ำแข็งแต่ละเส้นปรากฏลวดลายจากอักขระยันตเป็นเส้นๆ บนนั้นเต็มไปหมด และลวดลายเหล่านี้ก็รวมเข้ากันเป็นสายๆ แล้วหลอมรวมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำแข็งนั่น

“ตึง” สิ้นเสียงที่ดังขึ้น โซ่น้ำแข็งมีความรวดเร็วเป็นอันมาก ฉับพลันก็มีการพันธนาการตัวหลี่ชิเย่เอาไว้กลางอากาศ

ตัวของโซ่น้ำแข็งแต่เดิมก็นับว่ามีความแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว บวกกับลวดลายอักขระยันต์แต่ละสายที่หลอมรวมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันอีก คิดจะฉีกให้มันขาดคงไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายดายนัก

“จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ทันทีที่โซ่น้ำแข็งได้พันธนาการตัวหลี่ชิเย่เอาไว้แล้ว พลังน้ำแข็งผนึกร่างได้มีการปะทุขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หวังจะทำการทำให้ร่างของหลี่ชิเย่กลายเป็นรูปแกะสลักน้ำแข็งอีกครั้ง

แต่ทว่า ร่างกายของหลี่ชิเย่มีการสั่นสะเทือนทีหนึ่ง เห็นเศษน้ำแข็งทยอยกันร่วงหล่นลงพื้น พลังน้ำแข็งผนึกร่างไม่สามารถทำให้หลี่ชิเย่กลายเป็นรูปแกะสลักน้ำแข็งได้ในเวลานี้

“เมิ่งเจิ้นเทียน ลูกไม้ตื่นๆ นี้ทำได้แค่ลับๆ เท่านั้น” หลี่ชิเย่หัวเราะที่ส่ายหน้ากล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าร่วมมือกับพวกองค์ชายแห่งความชั่วร้ายทำการควบคุมค่ายกลพลังน้ำแข็งผนึกร่างด้วยตัวเองยังพอทำเนา แต่อาศัยลำพังพลังน้ำแข็งผนึกร่างเองกล่าวสำหรับข้าแล้วเป็นเพียงเรื่องจิ๊บๆ เท่านั้นเอง”

คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ด้านนอกหุบเขาหิมะถึงกับแอบมองไปที่เมิ่งเจิ้นเทียน ความจริงแล้ว เมื่อมองเห็นโซ่น้ำแข็งแต่ละเส้นที่หลอมรวมเข้าด้วยกันกับลวดลายอักขระยันต์ ต่อให้เป็นผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ก็รู้ได้ว่ามันไม่น่าจะเป็นพลังน้ำแข็งผนึกร่างตามธรรมชาติ มันคือพลังน้ำแข็งผนึกร่างที่ถูกยอดฝีมือสร้างขึ้นมา

เมื่อหุบเขาหิมะถูกคนทำการหลอมกลั่นมาก่อน ทุกคนไม่ต้องคิดมากก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือของใคร ดังนั้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยแอบมองไปที่เมิ่งเจิ้นเทียน เพียงแต่ไม่มีใครกล้าเปิดเผยความจริงออกมาเท่านั้น

เมิ่งเจิ้นเทียนไม่แสดงท่าทีโกรธและหรือหน้าแดง แม้ว่าถูกหลี่ชิเย่พูดออกมาตรงเป้า ถึงกับส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “สหายหลี่ เกรงว่าเรื่องนี้เจ้าจะใช้จิตใจของคนต่ำทรามมาประเมินวิญญูชน สหายหลี่ควรจะเข้าใจว่า ตัวของหุบเขาสังสารวัฏเองก็คือสิ่งที่มีอำนาจสูงส่งอยู่แล้ว พลังน้ำแข็งผนึกร่างของหุบเขาหิมะตรงหน้าก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่มีอำนาจสูงส่งเท่านั้นเอง หาใช่เป็นการเล่นตุกติกของพวกเรา”

ผู้บำเพ็ญตนบางคนรู้สึกว่าที่เมิ่งเจิ้นเทียนพูดมาก็มีเหตุผล บางที ค่ายกลพลังน้ำแข็งผนึกร่างนี้มีมาแต่เดิมอยู่แล้ว ไม่แน่ว่าจะต้องเป็นการเล่นตุกติกของพวกเมิ่งเจิ้นเทียนเสมอไป

“งั้นหรือ?” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะก๊ากออกมา และกล่าวว่า “พูดเช่นนี้แสดงว่าข้าตำหนิเจ้าผิดไปน่ะสิ”

“เจตนาดีต้องการช่วยเหลือผู้อื่นกลายเป็นถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเจตนาที่ไม่ดี!” เวลานี้ ขุนพลชุดขาวกล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “อาจารย์ของข้าเห็นแก่เจ้าเป็นบุคคลที่มีบทบาทคนหนึ่ง จึงเตือนด้วยความหวังดี ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะใช้จิตใจของคนถ่อยมาประเมินวิญญูชน”

“จะเป็นคนถ่อยก็ดี วิญญูชนก็ช่าง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวไปตามอารมณ์ว่า “ยังมีฝีมืออะไรก็สำแดงออกมาให้หมด ถือโอกาสข้ายังพอมีอารมณ์ว่างที่จะเล่นกับพวกเจ้า พวกเจ้าศิษย์อาจารย์สองคนจะเข้ามาทีละคนหรือจะร่วมมือกัน? ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ข้าก็ยินดี อยากจะลงมือก็ลงมือเร็ว ๆ หน่อย อย่าทำให้ทุกคนต้องเสียเวลา”

“สหายหลี่ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นเช่นนี้ นับว่าเป็นการเหยียดหยามกัน” เมิ่งเจิ้นเทียนในเวลานี้ถึงกับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป กล่าวเย็นชาออกมาว่า “ข้าน่ะใจดีโดยแท้…”

“เอาล่ะ ไม่ต้องแสร้งทำเป็นเห็นใจ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ทุกคนต่างก็ไม่ใช่คนดีอะไรหนักหนา จำเป็นต้องแสร้งปั้นหน้าเป็นนักบุญด้วยรึ การแย่งชิงชะตาฟ้าไม่ต้องการผู้ใจบุญ ผู้ใดแข็งแกร่งผู้นั้นก็ชนะ เอามาเลย ข้าจะให้เจ้าได้สมปรารถนา เจ้ากับข้ามาสู่กับที่นี่ให้ตายไปข้างหนึ่ง ดูสิว่าสุดท้ายแล้วใครจะเป็นผู้ชนะ”

“เจ้าคนแซ่หลี่ เจ้าอย่าคิดว่าตัวเองแน่!” เมิ่งเจิ้นเทียนไม่ได้พูดอะไรออกมา ขณะที่ขุนพลชุดขาวกลับพูดเสียงดังออกมาว่า “อาจารย์ของข้าถือว่าเจ้าเป็นผู้มีบทบาทคนหนึ่ง แต่เจ้ากับใส่ร้ายป้ายสี ดี งั้นข้าขอรับคำชี้แนะสุดยอดเคล็ดวิชาของเจ้าแทนอาจารย์ของข้า” กล่าวพลางก้าวเท้าเข้าไปภายในหุบเขาหิมะ

เมิ่งเจิ้นเทียนเพียงยืนนิ่งเฉยอยู่กับที่โดยไม่ได้พูดห้ามปรามกับการที่ขุนพลชุดขาวต้องการสู้กับหลี่ชิเย่

สำหรับคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านนอกหุบเขาต่างกลั้นลมหายในกันเอาไว้ ทุกคนต่างเข้าใจได้ว่า การแย่งชิงชะตาฟ้าได้มาถึงก่อนกำหนดเสียแล้ว

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *