Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1686 หอกสรรพชีวิตเก้าแดนพิชิตมาร

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1686 หอกสรรพชีวิตเก้าแดนพิชิตมาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1686 หอกสรรพชีวิตเก้าแดนพิชิตมาร
“ตึง” สะเก็ดไฟแตกกระจาย แม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างดูเชื่องช้าเมื่อบรรยายด้วยตัวอักษร แต่ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นเอง

ในเวลานี้ กระบี่กระดูกที่ฟันใส่หลี่ชิเย่ได้ถูกต้านเอาไว้ พริบตาเดียวกันนี้ในมือของหลี่ชิเย่ปรากฏหอกเล่มหนึ่ง หอกเล่มนี้พันไว้ด้วยหลักสัจธรรม สัจธรรมแต่ละสายแทนราชันเซียนแต่ละองค์ เช่น ราชันเซียนหมิงเหริน ราชันเซียนหญิงหงเทียน ราชันเซียนเชียนหลี่ ราชันเซียนหยินเทียน…เป็นต้น ที่เป็นราชันเซียนในยุคเหล่าราชันล้วนแล้วแต่ได้ทำการปลุกเสกอยู่ในนั้น กระทั่งรวมทั้งราชันเซียนท่าคงด้วย!

หอกเล่มนี้แทนปณิธานการต่อสู้ของราชันเซียนส่วนใหญ่ในยุคของเหล่าราชัน และหอกเล่มนี้ยังแทนปณิธานทั้งหมดของสรรพชีวิตในเก้าแดน นี่คือหอกที่ปกป้องเก้าแดนเล่มหนึ่ง มันถูกซ่อนเอาไว้ในพื้นที่ทุกตารางนิ้วของเก้าแดน มันหลบอยู่ภายในใจของสรรพชีวิตทุกๆ ชีวิต!

“ข้าเคยพูดเอาไว้ว่า ผู้สมคบคิดอเวจีฆ่าไม่มีละเว้น! ไม่ว่าอเวจียังคงมีผู้ดำรงอยู่ในระดับเช่นใดที่หลบซ่อนอยู่ก็ตาม เวลานี้แหกตามองดูให้ชัดๆ เก้าแดนจะได้รับการปกป้องคุ้มครองตลอดไป อเวจีจงไสหัวออกไปจากเก้าแดนเสีย! ” น้ำเสียงของหลี่ชิเย่เยือกเย็นไร้ซึ่งความปราณี มีเพียงเข่นฆ่า และกลิ่นคาวเลือด

ประกายตาของหลี่ชิเย่นาทีนี้ดูเยือกเย็นจนไม่ว่าผู้ใดก็ต้องหวาดกลัว เป็นประกายที่ชื่นชอบโลหิตแม้แต่ราชันเซียนเห็นแล้วยังต้องสั่นเทา

“ปุ” ทันใดนั้น หลี่ชิเย่ได้ลงมือแล้ว หอกที่อยู่ในมือถูกพุ่งออกไป พลันตรึงเข้ากับร่างของราชินีเหรินเสียนทันที

“อ๊ากก” เสียงแหลมดังที่น่าเวทนายิ่งดังขึ้น ไม่ต้องสงสัย หอกที่พุ่งออกไปพลันตรึงร่างของราชินีเหรินเสียนเอาไว้กับพื้น ต่อให้นางที่มีกำลังระดับเทียบเคียงกับราชันเซียนก็ไม่สามารถต้านกับหอกเล่มนี้ได้ ถูกตรึงเอาไว้ตรงนั้นเพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น

“อ๊ากก” เสียงแหลมดังที่น่าเวทนายิ่งดังก้องทั่วฟ้าดิน นางพยามดิ้นรนหวังถอนหอกที่ตรึงอยู่บนตัวของตนแต่ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ นางถูกหอกตรึงอยู่กับพื้น กฎเกณฑ์แต่ละสายพลันพันธนาการนางเอาไว้ ทำการแยกและกลั่นพลังของนางทีละนิดๆ เวลานี้ประกายศักดิ์สิทธิ์บนตัวของราชินีเหรินเสียนเริ่มหมองลง กลิ่นอายที่ศักดิ์สิทธิ์บนตัวของนางเริ่มจางหาย สายเลือดที่เดิมทีดูขาววับเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ค่อยๆ ปรากฏสายเลือดที่มืดมิดอันเป็นคุณสมบัติดั้งเดิมของอเวจี

“เก้าแดนไหนเลยจะเป็นที่ที่อเวจีสามารถแตะต้องได้! ”หลี่ชิเย่มองดูราชินีเหรินเสียนทีหนึ่งด้วยท่าทีเย็นชา ในเวลานี้ท่าทีของเขาเยือกเย็นไร้ซึ่งความปราณี

อย่าว่าแต่ราชินีเหรินเสียนเลย ต่อให้เป็นราชันเซียนจริงๆ ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย หากถูกหอกเล่มนี้ตรึงอยู่กับพื้น ขอเพียงบุคคลนั้นเป็นสายเลือดอเวจี ก็จะหนีไม่พ้นการถูกสังหารโดยไม่มีทางตอบโต้เช่นนี้ได้!

หอกสรรพชีวิตเก้าแดนพิชิตมารคือชื่อของอาวุธหอกเล่มนี้! นี่ไม่ใช่อาวุธ แต่มันคือการสังหารโดยไม่มีทางตอบโต้อย่างหนึ่ง มันเป็นปณิธานของราชันเซียนแต่ละองค์ มันคือปณิธานของสรรพชีวิตในเก้าแดน และก็เป็นพลังของพื้นที่ทุกตารางนิ้ว เส้นชีพจรใต้ดินทุกเส้นในเก้าแดน

ความหมายในการดำรงอยู่ของ “หอกสรรพชีวิตเก้าแดนพิชิตมาร” คือเฝ้าปกป้องเก้าแดน ต่อต้านอเวจี!

ครั้งนั้น หลังจากยุคอเวจีสิ้นสุดลง แต่ว่าอเวจีไม่ได้ถูกเข่นฆ่าจนหมดสิ้น ในมือของอเวจีมีกายล่องหนอยู่ ดังนั้น จึงยังคงมีผู้ยิ่งใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งมากของอเวจีที่หบซ่อนตัวไม่ยอมปรากฏตัวออกมา

เมื่ออเวจีมีกายล่องหนอยู่ในมือ หลี่ชิเย่ก็จนปัญญาที่จะฆ่าล้างอเวจีได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เขาต้องกลัดกลุ้มเรื่องหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรั้งอยู่ในเก้าแดนตลอดไป หากเก้าแดนปราศจากการปกป้องคุ้มครอง มีความเป็นไปได้ที่อเวจีจะย้อยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง มีความเป็นไปได้ที่เก้าแดนจะถูกยึดครองตกไปอยู่ในมือของอเวจีอีกครั้งหนึ่ง

ดังนั้น หลี่ชิเย่ที่อยู่ในฐานะอีกาทมิฬจึงได้มีแนวความคิดที่ยิ่งใหญ่ ด้วยการให้มีการลงนามในข้อตกลงสูงสุด โดยราชันเซียนที่ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวคนแรกก็คือราชันเซียนหมิงเหริน

หลี่ชิเย่ได้ทุ่มเทกำลังกายใจนับไม่ถ้วนในการวางแผนและโครงสร้างระยะยาวให้กับเก้าแดน ผ่านราชันเซียนแต่ละรุ่น เช่นราชันเซียนหมิงเหริน ราชันเซียนหญิงหงเทียนเป็นต้นในการปลุกเสกและกลั่นกรอง ทำการวางม่านฟ้าแหดินทั่วทั้งเก้าแดน ราชันเซียนแต่ละยุคสมัยล้วนแล้วแต่ทำการปลุกเสกจนกลายมาเป็นหอกสรรพชีวิตเก้าแดนพิชิตมาร!

นี่คือวิธีการสุดท้ายที่จะต่อต้านกับอเวจี ถ้าหากวันหนึ่งเก้าแดนจะต้องถูกยึดครองจริงๆ และความมืดมิดจากอเวจีได้หวนคืนสู่เก้าแดนอีกครั้ง อย่างน้อยที่สุดสิ่งมีชีวิตของเก้าแดนยังจะมีแสงอรุโณทัยอยู่บ้าง ยังมีวิธีการสุดท้ายที่จะต่อต้านอเวจี!

หอกสรรพชีวิตเก้าแดนพิชิตมารที่เป็นเครื่องมือสังหารที่ไม่มีทางตอบโต้ได้ไม่ได้อยู่ในมือของหลี่ชิเย่ แต่อยู่ในเก้าแดน อยู่ในมือของคนทุกคน ขอเพียงผู้นั้นมีจิตแน่วแน่ที่จะสู้กับอเวจี ก็จะมีโอกาสได้ครอบครองหอกสรรพชีวิตเก้าแดนพิชิตมาร!

“ไม่” โอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ถึงกับร้องเสียงแหลมออกมา เมื่อเห็นมารดาของตนถูกตรึงและส่งเสียงร้องโหยหวนอยู่บนพื้น แต่ว่า พวกเขาก็จนปัญญาในเวลานี้

“ถึงตาพวกเจ้าแล้ว! ” ท่าทีหลี่ชิเย่ที่เยือกเย็นจ้องมองดูโอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ ทันใดนั้นสายฟ้าพลันพุ่งเข้าไปภายในร่างกายของพวกเขา พลันดึงเอาเลือดแก่น ทักษะแยกออกมาทั้งหมด เพียงพริบตาเดียวก็ถูกกลั่นเป็นแก่นเพื่อกลั่นบูชาสี่กายเซียนของพวกเขา

“อ๊ากก” โอรสราชันเซียนเหรินเสียนทั้งสี่ถึงกับร้องเสียงแหลมเศร้ารันทดขึ้นมา นาทีนี้พวกเขาสี่พี่น้องล้วนแล้วแต่ถูกสายฟ้าเผาจนกลายเป็นเถ้าธุลีไป ขณะที่กายเซียนของพวกเขาถูกหลี่ชิเย่อาศัยสวรรค์ลงทัณฑ์ทำการกลั่นจนกลายเป็นแก่นกายที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก

“ไม่” ราชินีเหรินเสียนถึงกับร้องเสียงแหลมที่เศร้ารันทดออกมา เมื่อมองเห็นลูกๆ ทั้งสี่ของตนกลายเป็นจุณ แต่นางกลับไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่มองตาปริบๆ จนพวกเขาถูกเผาไป

“เจ้าคนแซ่หลี่ ถึงข้าจะเป็นผีก็จะไม่ละเว้นเจ้า! ” ราชินีเหรินเสียนร้องเสียงแหลมออกมา ใบหน้าบิดเบี้ยว นางที่เดิมมีความเป็นกษัตริย์หนึ่งไม่เป็นสองรองใคร เวลานี้กลับมีท่าทีที่น่าเกลียดน่ากลัวมาก

ท่าทีหลี่ชิเย่เย็นชากล่าวน่าเกรงขามว่า “ครั้งนั้น ขณะที่ข้าเข่นฆ่าอเวจีด้วยปณิธานที่แข็งกร้าวก็เคยมีอเวจีแต่ละละคนที่สาบแช่งข้าเช่นนี้ ผีร้ายน่ะหรือ? นับเป็นอะไรได้ เมื่ออยู่ต่อหน้ามารร้ายอย่างข้าผีร้ายก็ทำได้แค่คุกเข่าตรงหน้าข้าเท่านั้น! ”

เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วก็ไม่ได้ให้ความสนใจต่อราชินีเหรินเสียนอีก “ปุ” กายแก่นทั้งสี่พลันถูกหลี่ชิเย่หลอมรวมเข้ากับร่างของตน

“แว้งค์” ทันใดนั้น กายทั้งสี่ของหลี่ชิเย่ได้เจิดจ้าขึ้นมายิ่งนัก “ตูม” เสียงดังสนั่น ร่างกายของหลี่ชิเย่ได้ปรากฎประกายเซียนพวยพุ่งออกมาทันที พลังของสี่ยอดกายเซียนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างของหลี่ชิเย่เวลานี้กลับกลายเป็นสูงใหญ่ยิ่งนัก ประกายสีนิลของกายเทวะสยบอเวจี ประกายเซียนของกายเซียนเหิน ความศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ของกายพิสุทธิ์ และพลังปราศจากสิ้นสุดของกายขวานทลายฟ้าล้วนแล้วแต่ทะลุฟ้าดินในฉับพลันทันที นาทีนี้ไม่มีสิ่งใดสามารถพันธนาการตัวเขาได้อีกแล้ว

สี่ยอดกายเซียนขั้นสมบูรณ์ นาทีนี้สี่ยอดกายเซียนของหลี่ชิเย่ก็ได้ประสบผลสำเร็จสมบูรณ์ในที่สุด เมื่อดวงตาทั้งสองของหลี่ชิเย่ส่งประกายออกมา เหล่าชั้นฟ้าสิบแดนดินล้วนแล้วแต่สั่นเทา ต่อให้ราชันเซียนเมื่อได้เห็นยังต้องหวาดกลัว!

“ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว สี่ยอดกายเซียน หนึ่งเดียวเท่านั้นนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน” เมื่อยวีไท่จวินได้เห็นภาพนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก ครั้งนั้น ราชามังกรดำแค่สองยอดกายเซียนก็สามารถเกรียงไกรไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน เวลานี้ใต้เท้ามีถึงสี่ยอดกายเซียนในครอบครอง ต่อให้ราชันเซียนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!

กู้จุนที่ไม่ได้หลบหนีไปไหนเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ รู้ว่าตัวเองพ่ายแพ้แล้ว เมื่อก้าวเดินมาถึงจุดนี้ ไพ่ตายอะไรก็ไม่สามารถเอาชนะได้แล้ว

“เหล่าปราชญ์ทั้งหลาย อย่าลืมคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เมื่อคราวก่อนนั้น! ” ราชินีเหรินเสียนถึงกับร้องด้วยเสียงแหลมดังกับท้องฟ้าด้วยความสิ้นหวัง เมื่อเห็นหลี่ชิเย่สำเร็จสี่กายเซียนขั้นสมบูรณ์

หลี่ชิเย่ในเวลานี้สองมือไพล่หลัง ดวงตาทั้งสองดั่งตะเกียงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องฟ้าดินจนสว่างไสว สำรวจตรวจตราทุกๆ เป้าหมายในเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน !

แต่ว่า ต่อให้ราชินีเหรินเสียนร้องเสียงแหลมดังออกมา บนท้องฟ้ายังคงเงียบสงบไม่มีสิ่งใดตอบสนอง เหมือนว่านั่นเป็นเพียงการร้องของนางเพียงผู้เดียวเท่านั้น

“เสียดาย สุดท้ายแล้วพวกเขายังจะไม่ลงมือ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว เจ้าเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่เขาใช้ทดสอบดูเท่านั้นเอง” เมื่อท้องฟ้าเงียบสงัด หลี่ชิเย่จึงกล่าวน่าเกรงขามต่อราชินีเหรินเสียน

“ไม่” ราชินีเหรินเสียนที่สิ้นหวังไม่อาจเชื่อในสิ่งนี้ ร้องเสียงแหลมออกมาว่า “ข้าคือผู้ที่สามารถยกระดับสายเลือดสำเร็จเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น พวกเขาจะทอดทิ้งข้าเช่นนี้ไม่ได้! ”

“แม้แต่ราชันเซียนเหรินเสียนยังทอดทิ้งเจ้าไปแล้ว นับประสาอะไรกับอเวจี ผู้ชายที่รักเจ้าสุดหัวใจก็ไม่สนใจความเป็นความตายของเจ้าแล้ว เจ้าคิดว่าอเวจีจะให้ความสนใจกับความเป็นความตายของหมากตัวหนึ่งรึ? ” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเฉยเมยว่า “หากเจ้ารู้ร่องรอยของกายล่องหนอเวจี ยังพอจะมีโอกาสช่วยไถ่ตัวเจ้านิดหนึ่ง! ”

“เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ เหรินเสียนต้องไม่ทอดทิ้งข้า! ” ราชินีเหรินเสียนที่อยู่ในภาวะสิ้นหวังพึมพำกับตัวเองออกมา นางไม่ได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่แล้ว

หลี่ชิเย่รู้สึกผิดหวังเช่นกัน ราชินีเหรินเสียนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับร่องรอยของกายล่องหนเลย อเวจีมีความรอบคอบมาก กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว พวกเขามีโอกาสเพียงครั้งเดียว ดังนั้น สำหรับพวกเขาหากลงมือจะต้องสำเร็จ มิฉะนั้นล่ะก็สิ่งที่พวกเขาได้สั่งสมมาทั้งหมดก็จะล้มเหลวโดยเปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะกายล่องหนที่พวกเขาถือเป็นที่พึ่งสุดท้าย ถ้าหากพวกเขาสูญเสียกายล่องหนไป อเวจีของพวกเขาจะต้องถูกเข่นฆ่าจนไม่เหลือหลออีกต่อไป! ”

ท้องฟ้ายังคงเงียบสงัดไม่มีการตอบรับใดๆ ทังสิ้น ยิ่งไม่มีการปรากฏตัวของอเวจี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกายล่องหนที่หลี่ชิเย่รอคอย

มองดูท้องฟ้าที่เงียบสงัด หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจเบาๆ รู้ว่ากายล่องหนคงไม่ปรากฎตัวแล้ว

พันล้านปีแห่งการรอคอย เขายังคงไม่สามารถรอไปจนถึงนาทีสุดท้าย กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้วชาตินี้เขาไม่มีทางเลือกอีก เนื่องจากเขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่เป็นอมตะอีกแล้ว เขาไม่สามารถรอคอยต่อไปเรื่อยๆ เหมือนก่อนหน้าได้อีกแล้ว ชาตินี้เขาจะต้องก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ สู้รบจนถึงที่สุด เขารอไม่ถึงวันนั้น วันที่อเวจีไม่สามารถอดกลั้นต่อไปได้อีก

การกู้แหในครั้งนี้ด้วยการสังหารพวกของราชินีเหรินเสียน เป็นเพียงการปิดโครงการเร็วกว่าแผนการที่วางเอาไว้เท่านั้น ขณะเดียวกัน ก็เป็นการกวาดล้างให้สิ้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะไปจากเก้าแดน และเป็นการสยบอเวจีที่หลบซ่อนตัวอยู่ในเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินเป็นครั้งสุดท้าย ทำให้อเวจีที่หลบซ่อนตัวอยู่ไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่าม

สำหรับเก้าแดนในอนาคตจะเป็นเช่นใดนั้น สามารถต่อต้านอเวจีได้หรือไม่ ในอนาคตได้แต่พึงตนเองแล้วหละ สิ่งที่เขาสามารถทำให้ได้ก็คงมีเพียงเท่านี้ ในอนาคตเขาจะไม่ใส่ใจต่อเก้าแดนอีกต่อไป และไม่มาเฝ้าปกป้องคุ้มครองอีกต่อไป

สุดท้าย หลี่ชิเย่ละสายตากลับมา และสายตาไปตกอยู่บนตัวของกู้จุน กู้จุนยังคงยืนสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น เขาไม่สะทกสะท้าน ทันใดนั้นเอง หลี่ชิเย่เหมือนมองเห็นเงาของตนบนตัวของกู้จุน นับว่ากู้จุนได้เรียนรู้จากตัวของเขาไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

“เสียดาย เจ้าไม่ได้รอจนถึงโอกาสนั่น” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าและกล่าวขึ้นมาช้าๆ

“ข้ารู้” กู้จุนรู้ว่าตนเองนั้นได้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว เขาไม่รู้สึกตระหนก และกลับกลายเป็นมีจิตที่เยือกเย็นยิ่งนัก เขากล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้าเองก็เสียดายแทนใต้เท้าสุดท้ายแล้วใต้เท้าก็ไม่ได้รอจนกว่าอเวจีมาถึง อเวจียังคงไม่กล้าลงมือ เหยื่อที่หวานมันขนาดนี้พวกเขายังคงไม่กล้าตะครุบ พวกเขาได้แต่ทอดทิ้งหมากตัวที่ดีที่สุดตัวนี้ไป”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *