Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1457 กายมายา

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1457 กายมายา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1457 กายมายา

ทุกคนต่างเคยได้ยินชื่อโหดของหลี่ชิเย่มาก่อน เข่นฆ่าปลาทะเลกว้างไพศาลนับล้านล้าน ทำลายหุบเขาจักรพรรดิ แคว้นชี ยิ่งไปกว่านั้นยังสังหารร่างตัวแทนของเมิ่งเจิ้นเทียน ชื่อเสียงโด่งดังขนิดกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่มีใครเทียบเคียงได้

มาวันนี้ พลันลงมือก็จัดการเขี่ยโอรสสวรรค์ปกสมุทร ซึ่งมี่สถานะเป็นดาวรุ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่เหนือสุดของปีศาจทะเลให้ร่วงลงสู่พื้นดิน แค่เท้าข้างเดียวก็ถีบจนโอรสสวรรค์ปกสมุทรได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยท่วงท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ ไม่ว่าใครพบเห็นก็ต้องสะดุ้งและมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป

เวลานี้ เย่เสี่ยวเสี่ยว และซือหม่ายวี่เจี้ยนได้ประคองซูหย่งหวงเดินเข้ามา หลี่ชิเย่ได้ยื่นยาเม็ดให้กับซูหย่งหวงเม็ดหนึ่ง ซูหย่งหวงไม่ได้พูดอะไรจัดการกินยาเม็ดนั้นไปทันที

เมื่อผู้คนจำนวนมากได้เห็นภาพนี้แล้วต่างรู้สึกสะท้านขึ้นภายในใจ กระทั่งมีบางคนเหงื่อเย็นไหลโทรมกายขึ้นมา

“ผู้หญิงคนนี้เป็นคนของหลี่ชิเย่ งานนี้โอรสสวรรค์ปกสมุทรไปแหย่เอารังแตนเข้าให้แล้วจริงๆ” บางคนกล่าวด้วยความรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกขนพองขึ้นมา

ทุกคนต่างรู้ดีว่า ใครกล้าแตะต้องคนข้างกายของหลี่ชิเย่ล่ะก็ หลี่ชิเย่ก็จะทำลายล้างทั้งครอบครัวกระทั่งทั้งเผ่าพันธุ์ แคว้นชี สำนักฉลามโลหิตก็คือตัวอย่างที่โชกไปด้วยเลือดสดๆ นั้น!

“หลี่ชิเย่ เจ้า…” หลังจากที่โอรสสวรรค์ปกสมุทรลุกขึ้นยืนแล้ว อดที่จะร้องเสียงดังออกมาทั้งตระหนกระคนกับความโกรธ

หลี่ชิเย่มองหน้าโอรสสวรรค์ปกสมุทรทีหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า “ข้าอะไร อาจารย์ของข้าให้เจ้าแตะต้องได้เหรอ?”

ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องมองหน้ากันและกัน เมื่อได้ยินหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทุกคนไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าถึงกับเป็นอาจารย์ของหลี่ชิเย่ได้ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ตาม ความเป็นศิษย์อาจารย์ของทั้งสองคนมันห่างชั้นกันเหลือเกิน ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้แข็งแกร่ง ไม่ได้อวดดีเหมือนเช่นหลี่ชิเย่เลย

ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อกับความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์ของทั้งสองคน กระทั่งมีคนคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน หากบอกว่าซูหย่งหวงคือศิษย์ของหลี่ชิเย่ ผู้คนจำนวนมากยังจะเชื่อในเรื่องนี้ แต่ทว่าซูหย่งหวงคืออาจารย์ของหลี่ชิเย่ เป็นเรื่องที่ผู้คนจำนวนมากไม่สามารถเชื่อในเรื่องนี้ได้

แต่ว่า เรื่องที่ผู้คนไม่สามารถเชื่อถือได้ กลับออกมาจากปากของหลี่ชิเย่เอง

“เจ้าเข้ามารับความตายเองเพื่อขอขมาต่ออาจารย์ของข้า ข้าก็จะให้เรื่องนี้มันแล้วกันไป หาไม่แล้ว ต่อจากนี้ข้าพบเห็นศิษย์สำนักแตรสังข์คนหนึ่งก็จะสังหารคนหนึ่ง จนกว่าจะเหยียบสำนักแตรสังข์จนราบ! ” หลี่ชิเย่เพียงมองหน้าโอรสสวรรค์ปกสมุทรด้วยท่าทีน่าเกรงขาม

คำพูดที่พาลและไร้เหตุผลของหลี่ชิเย่ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องหนาวสั่น ทุกคนต่างเข้าใจคนโหดอย่างหลี่ชิเย่พูดแล้วทำได้ตามที่พูดเสมอ ตลอดทางที่เขาก้าวเดินมา เจอะเจอเทพสังหารเทพ ไม่มีใครสามารถขวางเขาเอาไว้ได้

โอรสสวรรค์ปกสมุทรถูกยั่วโมโหจนร่างของเขาสั่นเทา สีหน้าปั้นยากจนถึงขีดสุด สีหน้าแดงคล้ำ โกรธจนสุดจะบรรยายได้

โอรสสวรรค์ปกสมุทรมีชื่อเสียงโด่งดังมาโดยตลอด ก่อนที่หลี่ชิเย่จะปรากฏออกมา ชื่อเสียงของเขายากจะมีผู้ใดเทียบเทียม ในแดนวิญญาณสวรรค์มีเพียงราชินีเทพเจ็ดสมุทร เท่านั้นที่มีคุณสมบัติเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาได้

อาจกล่าวได้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเป็นคนที่อวดดีว่าตัวเองอยู่เหนือผู้อื่นไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ความจริงแล้ว เขานับว่ามีต้นทุนเพียงพอที่จะอวดดีอยู่เหมือนกัน อาศัยทักษะยุทธที่แข็งแกร่งของเขา กายมายาขั้นกลาง เพียงพอสำหรับให้เขาได้ยืนอยู่เหนือสุดขอดของกลุ่มคนรุ่นใหม่แล้ว

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าโอรสสวรรค์ปกสมุทรไปถึงไหนก็จะได้รับการเคารพยกย่องดั่งดาวล้อมเดือน เวลานี้จากปากของหลี่ชิเย่เขากลายสภาพเหมือนดั่งมดปลวกอย่างนั้น สิ่งนี้กล่าวสำหรับเขาแล้ว มันคือความอัปยศอย่างใหญ่หลวง

“หลี่ชิเย่ เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถกำแหงได้ตลอดชีวิตอย่างนั้นรึ?” โอรสสวรรค์ปกสมุทรกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า “สำนักแตรสังข์พวกเราไม่ได้ปั้นขึ้นมาจากดิน ใช่ว่าใครก็สามารถมาบีบมาบี้ได้! ยอดฝีมือในสำนักแตรสังข์มีจำนวนนับไม่ถ้วน การเป็นศัตรูกับสำนักแตรสังข์ของเรา เป็นการรนหาที่ตายเอง…”

“ในสายตาของข้า สำนักแตรสังข์พวกเจ้าปั้นขึ้นมาจากดินนั่นแหละ” หลี่ชิเย่กล่าวตัดบทโอรสสวรรค์ปกสมุทรด้วยท่าทีเรียบเฉย “ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนอะไรของเจ้า ล้วนแล้วแต่เป็นพวกมีชื่อเสียงจอมปลอมทั้งสิ้น เจ้ามีจักรพรรดิหอยสังข์อะไรนั่นคอยคุ้มครองให้เจ้าน่ะสิ…”

“…ดีมาก ถ้าหากเจ้ายังคงมีชีวิตรอดกลับไปได้ล่ะก็ ฝากบอกเขาว่า หากรู้จักกาลเทศะก็จงคลานกลับเข้าไปอยู่ในรังเต่าหลบซ่อนตัวเหมือนเดิมเสีย มิฉะนั้นล่ะก็ หากมาเป็นศัตรูกับข้า ข้าจะตัดหัวมันเสียทำเป็นซุปเต่า!” หลี่ชิเย่มองหน้าโอรสสวรรค์ปกสมุทรอย่างน่าเกรงขาม

เมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมาเช่นนี้ ทำให้บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องรู้สึกใจหายใจคว่ำ การที่หลี่ชิเย่พูดดูถูกโอรสสวรรค์ปกสมุทรนั้นทุกคนสามารถจินตนาการได้ จะอย่างไรเสีย กำลังความสามารถของหลี่ชิเย่เห็นกันอยู่ตรงหน้า เขาสามารถแย่งชิงชะตาฟ้ากับเมิ่งเจิ้นเทียนได้ ย่อมบอกได้ว่าเขาต้องมีความแข็งแกร่งกว่าโอรสสวรรค์ปกสมุทรโดยไม่ได้ด้อยกว่าอย่างแน่นอน

แต่ เวลานี้ หลี่ชิเย่ดูถูกกระทั่งจักรพรรดิหอยสังข์ ทำให้ในใจของผู้คนรู้สึกหนาวสะท้าน ควรจะรู้ว่า จักรพรรดิหอยสังข์เป็นบุตรของเทพเจ้าแห่งทะเลคนหนึ่ง เป็นบุตรแท้ๆ ของเทพเจ้าแห่งทะเล และเป็นระดับบรรพบุรุษที่เก่าแก่โบราณที่สุดของสำนักแตรสังข์ การดำรงอยู่ในสถานะเช่นนี้ของเขา ทอดสายตาออกไปในแดนวิญญาณสวรรค์มีใครบ้างที่ไม่ให้เกียรติเขาอยู่สามส่วน? เกรงว่าแม้แต่เมิ่งเจิ้นเทียนเมื่อมาอยู่ต่อหน้าเขาก็ไม่กล้าทะนงตน ต้องยกย่องเขาเป็นผู้อาวุโส

อย่างไรก็ตาม หลี่ชิเย่ในเวลานี้กลับอวดดีถึงขั้นท้าทายต่อจักรพรรดิหอยสังข์ โดยไม่เห็นจักรพรรดิหอยสังข์อยู่ในสายตาเลย ด้วยความพาลและไร้เหตุผล ความดุร้ายเช่นนี้ มันไม่สามารถบรรยายได้ด้วยปากกาอีกแล้ว

“เจ้า…” โอรสสวรรค์ปกสมุทรชี้หน้าหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ จากการที่เขาโกรธจนถึงขีดสุด ทำให้พูดอะไรไม่ออกอยู่นาน เห็นหน้าอกของเขาที่หายใจแรงขึ้นลง แทบจะโกรธจนกระอักเลือดออกมาอย่างแรง

สุดท้าย โอรสสวรรค์ปกสมุทรสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง กล่าวน่าเกรงขามว่า “ดี หลี่ชิเย่ ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ วันนี้ข้าจะต้องขอคำชี้แนะให้ได้!” พลันขาดคำร่างของเขาหายไปทันที

กายมายานับเป็นหนึ่งในสิบสองเคล็ดกายเซียน เมื่อฝึกกายเซียนนี้สำเร็จสามารถไปมาไร้ร่องรอย ปรากฏตัวได้ทุกที่ สามารถหลอมกลั่นท้องฟ้าที่ว่างเปล่าได้ สามารถควบคุมฟ้าดินได้

หลังจากที่โอรสสวรรค์ปกสมุทรล่องหนหายตัวไปแล้ว ผู้คนจำนวนมากได้เปิดเนตรสวรรค์ขึ้นเพื่อตรวจสอบว่าเขาไปอยู่ ณ ที่ใด แต่ว่า ไม่ว่าจเป็นยอดฝีมือระดับไหนก็ไม่สามารถตรวจพบเจอโอรสสวรรค์ปกสมุทรได้ เหมือนว่าเขาได้หายสาบสูญไปแล้วอย่างนั้น

ทันใดนั้น ปรากฎหมัดหนึ่งที่พุ่งสยบเข้ามา หมัดนี้มาอย่างไร้ซุ่มเสียงแต่เปี่ยมด้วยพลังที่แข็งแกร่งยิ่งนัก หนึ่งหมัดนี้สามารถทะลุพื้นพสุธา สามารถจมทะเลได้

“ปัง…” หมัดนี้ไม่ตรงตามเป้าหมายที่ศีรษะของหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่เพียงซัดไปหนึ่งฝ่ามือตามอารมณ์ก็สลายมันได้ และตัวของโอรสสวรรค์ปกสมุทรถูกเปิดเผยในทันที ภายใต้หนึ่งฝ่ามือของหลี่ชิเย่ ร่างของเขาปลิวออกไป

ท่วงท่าของหลี่ชิเย่เป็นไปอย่างตามอารมณ์ยิ่ง เพียงเท่านี้ก็สามารถเอาชนะโอรสสวรรค์ปกสมุทรได้แล้ว ใช่ว่าโอรสสวรรค์ปกสมุทรไม่แข็งแกร่งพอ แต่เป็นเพราะหลี่ชิเย่แข็งแกร่งเกินไปต่างหาก

หลังจากที่เขาได้ก้าวสู่สวรรค์วิถีแล้ว ได้บุกเบิกเส้นทางที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้แต่ละกระบวนท่าของเขาล้วนแล้วแต่เปี่ยมด้วยพลังที่สามารถทำลายฟ้าดินได้ สัจธรรมดั่งแรกเริ่ม ความหมายลึกซึ้งทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของเขาทั้งสิ้น นาทีนี้เว้นแต่ต้องไปสืบทอดชะตาฟ้า มิฉะนั้นล่ะก็ ระดับต่างๆ กล่าวสำหรับเขาแล้วล้วนไม่มีความสำคัญอีกแล้ว

ผู้คนจำนวนมากต้องเหงื่อเย็นไหลโทรมกาย และถึงกับร่างสั่นเทิ้ม เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่อาศัยท่วงท่าที่ตามอารมณ์เช่นนี้ สามารถเอาชนะโอรสสวรรค์ปกสมุทรได้อย่างง่ายดาย

สำหรับปีศาจทะเลนั้นยิ่งให้รู้สึกถึงความสิ้นหวัง ทั้งโอรสสวรรค์ปกสมุทร และราชินีเทพเจ็ดสมุทร ทั้งสองต่างเป็นความภาคภูมิใจของปีศาจทะเล เวลานี้โอรสสวรรค์ปกสมุทรกลับพ่ายอย่างไม่เป็นท่าต่อหลี่ชิเย่ เท่ากับความหยิ่งในศักดิ์ศรีตนเองของปีศาจทะเลถูกทำลายสิ้น

“ตูม…” ทันใดนั้นเอง โอรสสวรรค์ปกสมุทรได้หายตัวไป ขณะที่ท้องฟ้าที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้นได้กลายเป็นเตากลั่นที่น่ากลัวขึ้นมา ท้องฟ้าบริเวณนั้นพลันหลอมละลายเหมือนเป็นของเหลว ตรงเข้าท่วมหลี่ชิเย่จนมิด

พลังที่น่ากลัวกำลังทำการหลอมกลั่นหลี่ชิเย่อยู่ เหมือนว่าต้องการหลอมหลี่ชิเย่เฉกเช่นท้องฟ้าที่หลอมกลายเป็นของเหลวอย่างนั้น

“การหลอมกลั่นท้องฟ้า” ยอดฝีมือที่เข้าใจในเคล็ดกายมายาถึงกับร้องกล่าวด้วยความตระหนก เมื่อเห็นภาพตรงหน้า “นี่คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของกายมายา เมื่อไรที่ท้องฟ้าเริ่มหลอมละลายขึ้น มันก็สามารถหลอมเอาท้องฟ้าบริเวณที่ศัตรูยืนอยู่ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะวิ่งหนีไปที่ใดก็ตามขอเพียงมีช่องว่างอยู่ผลที่ออกมาก็จะเหมือนกัน ไม่สามารถรอดพ้นชะตากรรมจากการถูกหลอมกลั่นได้”

ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับกลั้นลมหายใจเอาไว้ มองดูภาพที่อยู่ตรงหน้า ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ต้องการดูว่าหลี่ชิเย่จะอาศัยวิธีเช่นใดรอดพ้นจากการถูกวิธีหลอมละลายช่องว่างนี้ไป ความแข็งแกร่งของหลี่ชิเย่นั้นไม่เป็นที่กังขา เพียงแต่ ทุกคนต้องการรู้ว่าหลี่ชิเย่จะอาศัยวิธีใดหนีรอดเท่านั้นเอง

“เล่นช่องว่างรึ?” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มเฉยเมยเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว กล่าวว่า “เว้นเสียแต่เจ้าจะสำเร็จกายมายาขั้นสมบูรณ์ ถึงขั้นสมารถรักษาช่องว่างได้ หาไม่แล้ว วิธีการเล่นช่องว่างลักษณะเช่นนี้ไม่คู่ควรจะกล่าวขวัญถึง” ขาดคำ หลี่ชิเย่ยื่นมือข้างหนึ่งกดลงบนท้องฟ้าเบาๆ

“แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์” ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนแผ่วเบาเป็นระลอก ช่องว่างที่แต่เดิมกำลังหลอมละลายอยู่นั้น ภายใต้การสั่นสะเทือนเบาๆ กลับค่อยๆ สร้างกลับคืนสู่สภาพเดิมขึ้นมาใหม่ เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ช่องว่างถูกสร้างกลับมาเหมือนเดิม คล้ายไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนเลย

“ปัง…” ขณะที่ทุกคนยังไม่ได้สติกลับคืนมา โอรสสวรรค์ปกสมุทรที่หลบซ่อนตัวอยู่บนท้องฟ้าโดยที่ไม่มีใครสามารถพบเห็นตัวเขาได้นั้น ถูกฝ่ามือของหลี่ชิเย่ตบจนร่วงลงไปอยู่กับพื้น เวลานี้ ตัวเขาก็คล้ายดั่งเป็นแมลงวันตัวหนึ่งที่ไม่ว่าหลบไปไหนก็ถูกฝ่ามือตบจนลงไปกองกับพื้นอย่างง่ายดาย

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อมองเห็นผลการต่อสู้เช่นนี้แล้วถึงกับอึ้งกันไปทั่วหน้า โอรสสวรรค์ปกสมุทรไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่เลย ต่อหน้าหลี่ชิเย่ โอรสสวรรค์ปกสมุทรได้แต่ถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว ทักษะยุทธของทั่งสองฝ่ายห่างกันมากเหลือเกิน

“คงมีเพียงระดับอย่างเมิ่งเจิ้นเทียน องค์ชายแห่งความชั่วร้าย เทพธิดาเจินหวู่ลงมือด้วยตนเองจึงสามารถสั่นคลอนต่อหลี่ชิเย่ได้ หาไม่แล้ว คนอื่นเมื่อเปรียบกับหลี่ชิเย่แล้ว เกรงว่าคงไม่คนามือ” เวลานี้ ปีศาจทะเลที่สิ้นหวังได้แต่ยอมรับความจริงเช่นนี้ ทุกคนต่างเข้าใจดีว่า หลี่ชิเย่นั้นมีความแข็งแกร่งมาก โอรสสวรรค์ปกสมุทรเมื่อเทียบกับหลี่ชิเย่แล้วมันอยู่คนละชั้นอยู่แล้ว

ซือหม่ายวี่เจี้ยนที่ยืนอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่อย่างเงียบๆ มาโดยตลอด เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้วก็ต้องนิ่งเงียบอยู่เป็นเวลานาน ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ และนางเข้าใจอย่างแท้จริงแล้วว่า ก่อนหน้านั้นเป็นเพราะหลี่ชิเย่ยั้งมือเอาไว้ ถ้าหากหลี่ชิเย่ต้องการจะสังหารนางล่ะก็ เกรงว่าภายในสองหรือสามกระบวนท่าก็สามารถเอาชีวิตนางได้อย่างง่ายดาย

ดูจากกำลังความสามาถของหลี่ชิเย่เวลานี้แล้ว ในสายตาของหลี่ชิเย่เคล็ดพิฆาตเทพของนางไม่สามารถนับเป็นอะไรได้ คล้ายดั่งมดปลวกอย่างนั้น

ซือหม่ายวี่เจี้ยนถึงกับทอดถอนภายในใจเบาๆ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เมื่อมีคนอย่างหลี่ชิเย่อยู่บนโลกนี้แล้ว คนอื่นถูกลิขิตเอาไว้แล้วว่าจะต้องอับแสง ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งที่ยอดเยี่ยมปานใดก็ตาม เกรงว่าท้ายที่สุดคงเป็นได้แค่โครงกระดูกที่อยู่ข้างทางที่มุ่งไปสู่ราชันเซียนของเขาเท่านั้น

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *