Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2096 สมบัติสวรรค์ไร้เทียมทาน

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2096 สมบัติสวรรค์ไร้เทียมทาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มดปลวกเท่านั้น ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง!” หลี่ชิเย่มองดูราชันมารกวงหมิงด้วยสายตาเย็นชา เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา เพียงจ้องมองไปที่โลงมรณะเท่านั้นเอง

“ดี เจ้าอีกาทมิฬ ตายเสียเถอะ!” ราชันมารกวงหมิงถูกยั่วโมโหจนโกรธจัด ร้องคำรามเสียงดัง มือที่พลิกกลับอย่างชำนาญ ปรากฏคันฉ่องมารที่แลดูดำมืดยิ่งนักอยู่ในมือ ส่งประกายแห่งความตายวูบวาบออกมา

เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ประกายแห่งความตายพลันสาดส่องลงบนตัวของหลี่ชิเย่ ได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดไม่ขาดสาย รอยด่างดำบนตัวของหลี่ชิเย่เริ่มแผ่ขยายเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

เคล็ดปราบกบฏ…ในขณะนี้ ราชันสวรรค์ยิวได้นำพาพวกจอมราชันเซียนหวังคนอื่นๆ ทำการสำแดง ‘เคล็ดปราบกบฏ’ ขึ้น พลังคำสาปจึงเข้าพันธนาการตัวของหลี่ชิเย่อีกครั้งหนึ่ง

ในเวลานี้ พวกของราชันสวรรค์ยิวต่างทุ่มสุดตัวต้องเสียค่าตอบแทนเท่าไรก็ยอม พวกเขาทุ่มเทอย่างเต็มความสามารถ กระทั่งไม่เสียดายยอมสิ้นเปลืองเลือดวัฒนะ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว หลี่ชิเย่นั้นน่าสยองขวัญเหลือเกิน วันนี้หากหลี่ชิเย่ไม่ตาย พวกเขาจะไม่มีวันสงบสุข ต่อให้วันนี้พวกเขาสามารถรอดชีวิตไปได้ ช้าหรือเร็วสักวันหนึ่งหลี่ชิเย่ก็ต้องฆ่าพวกเขาอยู่ดี

จี๊ด จี๊ด จี๊ดเสียงแห่งความตายดังก้องอยู่ในรูหูของทุกคนไม่จางหาย เดิมทีการปรากฎของสวรรค์ลงทัณฑ์ทำให้รอยด่างดำจางหายไปมากทีเดียว เนื่องจากเวลานั้น พวกกของราชันสวรรค์ยิวไม่มีกำลังพอที่จะไปส่งคำสาปต่อหลี่ชิเย่อีกแล้ว

เวลานี้ พวกของราชันสวรรค์ยิวได้สำแดง ‘เคล็ดปราบกบฏ’ อีกครั้ง ทำให้รอยด่างดำมีการขยายตัวออกไปบนร่างกายของหลี่ชิเย่อีกครั้งหนึ่ง เมื่อรอยด่างดำมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นๆ ร่างกายจึงเกิดการลุกไหม้ขึ้นมาอีก

เพียงชั่วพริบตาเดียว ร่างกายของหลี่ชิเย่ได้กลับกลายเป็นสีดำดังถ่าน ทั่วทั้งร่างเหมือนถูกไฟไหม้ที่ไม่ลุกไหม้ขึ้นมาไหม้ลามไปทั่ว

ต่อให้ร่างกายเสมือนดั่งถูกไฟที่ไม่ลุกขึ้นมาไหม้ลามไปทั่วตัว หลี่ชิเย่ยังคงตามอารมณ์ยิ่งนัก ยังคงไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่น้อย เขาเพียงยิ้มจางๆ และกล่าวว่า “พวกเจ้าเข้าใจว่าข้าใส่ใจในสิ่งที่เรียกว่า ‘เคล็ดปราบกบฏ’ อะไรของพวกเจ้าอย่างนั้นรึ? สิ่งนี้สำหรับข้าในวันนี้แล้ว มันก็แค่ฝีมือระดับต่ำต้อยเท่านั้นเอง!”

“ในสายตาของข้า อำนาจมืดไม่สามารถปรากฎต่อสาธารณะชนตลอดไปอยู่แล้ว!” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “พลังอำนาจของคำสาปมันก็แค่วิชามารเท่านั้นเอง วันนี้จะให้พวกเจ้าได้รู้จักว่าอะไรที่เรียกว่าสง่าผ่าเผย ให้พวกเจ้าได้รู้จักอะไรที่เรียกว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ปราศจากผู้ต่อกร!”

พลันที่หลี่ชิเย่กล่าวขาดคำ เสียงแว้งค์แต่ละเสียงที่ดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง หน้าอกของหลี่ชิเย่พวยพุ่งประกายออกมาเป็นสายๆ ประกายแต่ละสายช่างศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์อะไรอย่างนั้น ประกายศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวหาใช่พลังที่มาจากภายนอก และไม่ได้มาจากพลังการฝึกปรือ แต่มันออกมาจากภายในจิตใจของหลี่ชิเย่!

“ข้าคือปราชญ์ ปราศจากมารตลอดกาล!” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ นาทีนี้ประกายศักดิ์สิทธิ์บนตัวของเขามีความเข้มข้นรุนแรง มีความน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง เสมือนดั่งหลี่ชิเย่ได้กลับกลายเป็นนักปราชญ์อย่างนั้น

ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น ประกายศักดิ์สิทธิ์หนึ่งร้อยล้านล้านล้านสายพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง ส่องประกายสว่างไสวไปนิรันดร์ เวลานี้หลี่ชิเย่ก็คือปราชญ์ที่ยืนอยู่เหนือสุดยอดของโลก ประกายศักดิ์สิทธิ์ของเขาสาดส่องไปทั่วหล้าอย่างเท่าเทียม ขับไล่ความมืด ชี้นำสรรพสัตว์!

นี่คือจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร จิตที่ได้วิวัฒนาการกลายเป็นจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ดวงหนึ่ง เวลานี้หลี่ชิเย่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แกร่งจนไม่อาจทำลายได้ พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาสามารถชำระมารร้ายทั้งหมดในโลกให้บริสุทธิ์ สามารถครอบคลุมตลอดทั้งยุคสมัย ต่อให้กาลเวลาที่ไหลเคลื่อนไปเรื่อยๆ ประกายศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็จะไหลรินไปตามกาลเวลา

ดูเหมือนว่าหลี่ชิเย่ในเวลานี้ได้หลอมรวมเข้ากับยุคสมัยไปแล้ว ประกายศักดิ์สิทธิ์ของเขามีอยู่ทุกแห่งหน ไม่มีที่ใดที่ไม่มี ไม่ว่าความมืดใดๆ หากเจอะเจอกับประกายศักดิ์สิทธิ์ของเขาแล้วก็ต้องกลายเป็นเถ้าธุลี

“นี่คือสัจธรรมศักดิ์สิทธิ์รึ?” จอมเทพจำนวนมากต่างรู้สึกหวั่นไหว เมื่อมองเห็นประกายศักดิ์สิทธิ์ที่สาดส่องไปทั่วหล้าอย่างเสมอภาพ กระทั่งไหลรินไปตามสายน้ำแห่งกาลเวลาของยุคสมัยนี้ เวลานี้ผู้คนจำนวนมากต่างได้รับผลกระทบจากประกายศักดิ์สิทธิ์ บนตัวถึงกับเปล่งประกายออกมาเป็นสายๆ

“ไม่ใช่สัจธรรมศักดิ์สิทธิ์ นี่คือจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงหนึ่ง” มีเซียนหวังที่รู้สึกใจหายใจคว่ำ และกล่าวว่า “จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาแข็งแกร่งจนไม่สามารถทำลายได้อีกแล้ว เขาคิดอยากจะเป็นนักปราชญ์ก็เป็นนักปราชญ์ เขาต้องการกลับกลายเป็นมารร้ายก็ได้เป็นมารร้าย! เขาทำได้ตามแต่ใจปรารถนาแล้ว จะเป็นนักปราชญ์ก็ดี เป็นมารก็ช่าง มันก็แค่แวบหนึ่งของความคิดของเขาเท่านั้น! เขาได้ก้าวล้ำหน้าทุกคนในด้านจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไปแล้ว ก้าวเดินไปได้ไกลกว่าทุกๆ คน!”

เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น เวลานี้ รอยด่างดำบนตัวของหลี่ชิเย่ค่อยๆ จางหายไป เสมือนดั่งน้ำลงอย่างนั้น และลมปราณของหลี่ชิเย่ค่อยๆ คืนกลับมาหล่อเลี้ยงกายา ต่อให้พลังคำสาปรุนแรงและน่าสยองขวัญมากกว่านี้ ยังคงต้านพลังที่ศักดิ์สิทธิ์ของหลี่ชิเย่ไม่ได้ จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาแกร่งจนไม่อาจทำลายได้ และแหลมคมสุดต้านทาน! มันจึงทำลายพลังคำสาปนั้นไป

แม้พลังคำสาปจะทรงพลัง แม้ว่าจะน่าสยดสยอง แต่จะอย่างไรเสียมันก็คือวิชามาร เมื่อประกายศักดิ์สิทธิ์สาดส่องทั่ว่หล้าอย่างเสมอภาค พลังของคำสาปเมื่อเปรียบเทียบกับมัน ดูจะมีใจแต่ไร้เรี่ยวแรงเสียแล้ว

“เร็ว สลายพลัง รีบสลายพลังเร็ว!” ในเวลานี้ พวกของราชันสวรรค์ยิวต่างตกใจยิ่ง ร้องเสียงดังออกมา พยายามดึงเอาชะตาฟ้าของตนกลับ แต่ทว่า เมื่อไรที่มีการสำแดง ‘เคล็ดปราบกบฏ’ แล้วคิดจะเรียกคืนใช่จะเป็นเรื่องง่ายดาย เพราะถ้าหากง่ายขนาดนั้น พวกเขาคงหนีไปไกลตั้งแต่สวรรค์ลงทัณฑ์ปรากฏแล้ว

“ที่ข้าต้องการก็คือหัวใจศักดิ์สิทธิ์ดวงนี้ของเจ้า!” เมื่อเทียบกับราชันสวรรค์ยิวแล้ว ราชันมารกวงหมิงไม่ได้ตกใจกลับจะดีใจเสียด้วยซ้ำ พริบตาเดียวนั้นเอง ได้ยินเสียงดังปุเสียงหนึ่ง ราชันมารกวงหมิงพลันกางปีกออกสองข้าง ซึ่งไม่รู้ว่าเขามีปีกโผล่ออกมาสองข้างได้อย่างไร เป็นที่แปลกประหลาดมาก

ขณะที่ปีกคู่นี้กางออก เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา ความมืดหนึ่งร้อยล้านล้านล้านถูกเทราดลงมา ทำให้โลกดึกดำบรรพ์ทั้งหมดถูกครอบคลุมด้วยความมืดในฉับพลัน โลกดึกดำบรรพ์ทั้งโลกเสมือนหนึ่งกลายเป็นโลกแห่งความมืด ต้นไม้ใบหญ้าเมื่อแตะต้องถูกกับความมืดดังกล่าวจะเหี่ยวฉาวและตายลงทันที

ในเสี้ยววินาทีนี้เอง บริเวณหน้าอกของราชันมารกวงหมิงปรากฎเป็นค่ายกลประกายดาวขนาดใหญ่ขึ้นมา ร่างกายของราชันมารกวงหมิงสั่นเทิ้มทีหนึ่ง เสมือนดั่งถูกใครเขาเข้าสิงร่างอย่างนั้น เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ทุกอย่างดำสนิทอย่างสิ้นเชิง เหมือนว่าดวงตาคู่นี้ก็คือโลกแห่งความมืดอย่างนั้น เต็มไปด้วยความตาย เต็มไปด้วยความอยาก ไม่ว่าใครก็ตามหากตกสู่โลกแห่งความมืดนี้แล้ว จะไม่ได้ผุดได้เกิดตลอดไป ไม่มีวัฏสงสารเป็นนิรันดร์!

ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ราชันมารกวงหมิงได้ยื่นกรงเล็บที่เสมือนดั่งเล็บมารออกไป คว้าไปยังบริเวณหน้าอกของหลี่ชิเย่

กรงเล็บที่แหลมคมนี้มีความรวดเร็วยิ่งนัก ทิ่มแทงถึงหน้าอกของหลี่ชิเย่โดยพลัน หมายควักเอาหัวใจของหลี่ชิเย่ออกมา เขาต้องการจะได้หัวใจของหลี่ชิเย่นั่นแหละ!

ปุ…กรงเล็บมารนี้ยังไม่ทันได้แทงทะลุหน้าอกของหลี่ชิเย่ ปรากฏภายในใจของหลี่ชิเย่ปรากฎประกายศักดิ์สิทธิ์ที่มากมายมหาศาล ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่สามารถถมได้เต็มทั้งยุคสมัย ดังนั้นกรงเล็บมารจึงเจาะลงไปยังทะเลประกายศักดิ์สิทธิ์ทันที.ไอรีนโนเวล.

จังหวะที่กรงเล็บมารเจาะเข้าไปยังทะเลประกายศักดิ์สิทธิ์นั้น พลังของประกายศักดิ์สิทธิ์ได้ทำการกลั่นความมืดให้บริสุทธิ์ มองเห็นความมืดถูกหลอมละลายแยกออก กรงเล็บข้างนั้นถูกละลายสึกหรอไปเรื่อยๆ จนท้ายสุดเหลือเพียงกระดูกนิ้วเท่านั้น ทำให้ราชันมารกวงหมิงจำต้องหุบเอากรงเล็บมารกลับไป!

“เจ้าคิดว่าตนเองเทียบกับบรรพบุรุษหลุนหุยแล้วเป็นอย่างไรบ้าง? แม้แต่บรรพบุรุษหลุนหุยยังโจมตีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของข้าให้ทะลุไม่ได้ นับประสาอะไรกับเจ้า!” หลี่ชิเย่กล่าวยิ้มแต้ออกมา

“อย่างนั้นรึ?” เวลานี้เสียงของราชันมารกวงหมิงไม่ใช่เสียงเดิมของเขาอีกแล้ว แต่กลายเป็นเสียงที่แก่หง่อมและน่าสยดสยองยิ่งเสียงหนึ่ง พลันที่ได้ยินเสียงนี้ ทำให้ผู้คนต้องสั่นเทิ้มทีหนึ่ง ราชันมารกวงหมิงในเวลานี้ได้ถูกสิงร่างไปแล้ว เขาไม่ได้เป็นเพียงผู้นำทางให้กับอำนาจมืดคนหนึ่งเท่านั้นอีกแล้ว!

“วันนี้ ข้านี่แหละจะควักเอาจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเจ้าออกมาแล้วกินเสีย!” ราชันมารกล่าวเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า “ข้ารอวันนี้มานานมากแล้ว!”

“ข้าก็รอวันนี้มานานแล้วเช่นกัน!” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “เจ้าคิดไปเองว่าเป็นเจ้าที่ลอบโจมตีข้า แล้วไหนเลยจะไม่เป็นการตกลงไปในกรงขังของข้า!”

พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ เสียงตึง ตึง ตึงแต่ละเสียงที่ดังขึ้น ทั่วทั้งโลกดึกดำบรรพ์ถึงกับสว่างไสวขึ้นมา ในพริบตาเดียวนี้เอง ทั่วทั้งโลกดึกดำบรรพ์ได้พวยพุ่งกฎเกณฑ์ดึกดำบรรพ์นับไม่ถ้วนออกมา ทุกๆ กฎเกณฑ์ดึกดำบรรพ์ล้วนแล้วแต่มีขนาดที่ใหญ่มาก กฎเกณฑ์ดึกดำบรรพ์เหล่านี้พลันถักทอเข้าด้วยกันและจัดการพันธนาการโลกดึกดำบรรพ์เอาไว้ทั้งหมด

ก่อนหน้านั้น กระเรียนขาวได้กางปีกและเนรเทศโลกดึกดำบรรพ์ และทำการปิดผนึกโลกดึกดำบรรพ์เอาไว้จนกลายเป็นกรงขัง เวลานี้กรงขังดังกล่าวถูกเพิ่มความหนาเข้าไปอย่างไร้ขีดจำกัด ถ้าหากก่อนหน้านั้นเป็นเพียงกรงขังที่สร้างขึ้นจากหินเท่านั้น เช่นนั้นแล้วหละก็ ขณะนี้มันถูกเพิ่มความหนาเข้าไป มันคือกรงขังที่สร้างขึ้นจากเหล็กแล้ว

“ฝีมือเล็กน้อยเท่านั้นเอง ข้าจะฆ่าเจ้า!” ราชันมารกวงหมิงคำรามเสียงยาว ตูมเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทันใดนั้น พลังความมืดของเขาได้พวยพุ่งขึ้นมา ดูช่างน่าเกรงขาม ช่างดึกดำบรรพ์ และโบราณเหลือเกิน เหมือนว่าตัวเขาคือจอมมารที่เก่าแก่ดึกดำบรรพ์มากที่สุดอย่างนั้น มารร้ายทั้งหลายทั้งปวงล้วนแล้วแต่มาจากสำนักของเขาทั้งสิ้น

เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้นมา ทันใดนั้น โลงมรณะที่ต้านสวรรค์ลงทัณฑ์เอาไว้ได้พุ่งตรงลงมา โดยพุ่งตรงไปยังหลี่ชิเย่ การพุ่งกระแทกลงมาของโลงมรณะเป็นกระบวนท่าสังหารที่เด็ดขาด ไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้ อีกทั้งการพุ่งกระแทกเข้ามาของโลงมรณะนี้สามารถกระแทกจอมราชันเซียนหวังใดๆ ถึงตายได้ทุกคน

ได้ยินเสียงปังดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา โลงมรณะยังไม่ทันได้พุ่งกระแทกถึงพื้นดิน พื้นดินก็แตกสลายปรากฎเป็นชิ้นๆ ที่แตกออก ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกร ไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานกับการกระแทกลงมาเช่นนี้

“แย่แล้ว…” การพุ่งกระแทกลงมาของโลงมรณะในลักษณะเช่นนี้ ทำให้ผู้คนจำนวนมากถึงกับหวาดผวา แผดร้องเสียงดังขึ้นมา ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังก็ต้องสลดจนหน้าถอดสีเช่นกัน

หนึ่งในสมบัติสวรรค์นพเก้านับว่าน่าสยองขวัญเหลือเกิน พลันที่โจมตีก็สามารถสังหารจอมราชันเซียนหวังได้ อาวุธของจอมราชันเซียนหวังเมื่อเปรียบกับโลงมรณะที่เป็นหนึ่งในสมบัตินพเก้าแล้ว เรียกว่าไม่มีค่าคู่ควรจะกล่าวถึง อาวุธของจอมราชันเซียนหวังเสมือนดั่งเป็นเศษเหล็กเท่านั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าโลงมรณะ!

ปุ…จากการกระแทกลงมาของโลงมรณะนั้น หลี่ชิเย่เองก็ไม่สามารถต้านเอาไว้ได้ ถูกกระแทกจนกลายเป็นหมอกเลือดโดยพลัน เลือดสดๆ ของเขาพลันกระจายและสาดลงบนโลงมรณะ ทำให้โลงมรณะถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยเลือดของหลี่ชิเย่

ทั่วทั้งโลกดึกดำบรรพ์เงียบสงัดเมื่อหลี่ชิเย่ถูกโลงมรณะกระแทกใส่จนตาย ทุกคนต่างหวาดผวา ความแข็งกร้าวและพาลปราศจากผู้ต่อกรของหลี่ชิเย่เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างประจักษ์ เขาทำร้ายพวกราชันสวรรค์อย่างรุนแรง ต่อกรกับราชันซื่อตี้อย่างดุเดือด ด้วยศักยภาพที่องอาจห้าวหาญ เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกรในหล้า แต่ว่า เวลานี้กลับถูกโลงมรณะกระแทกร่างจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันที ออกจะสยดสยองมากเกินไปเสียแล้ว

“สมบัติสวรรค์นพเก้า นี่ นี่มันไร้เทียมทานมากเกินไปแล้วกระมัง” จอมราชันเซียนหวังต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ

จี๊ด จี๊ด จี๊ดเสียงของการสลักดังขึ้นเป็นระลอก เวลานี้เลือดของหลี่ชิเย่ที่ห่อหุ้มโลงมรณะเอาไว้นั้น ถึงกับอาศัยเลือดวัฒนะของตนบังคับสลักประทับเครื่องหมายเอาไว้บนโลงมรณะนั่น

“อย่าได้หวัง…” ราชันมารกวงหมิงที่ถูกอำนาจมืดสิงร่างเข้าใจโดยพลันว่าหลี่ชิเย่ต้องการทำอะไร ร้องเสียงดังขึ้นมา ความมืดดั่งคลื่นยักษ์ เพลิงแห่งความมืดเทราดลงมา หวังเผาไหม้เลือดของหลี่ชิเย่เสีย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *