Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1727 ทำลายความแตกต่างของมิติกาลเวลา

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1727 ทำลายความแตกต่างของมิติกาลเวลา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1727 ทำลายความแตกต่างของมิติกาลเวลา
ความจริงแล้วผู้ที่หัวใจเต้นตูมตามไม่ได้มีเพียงผู้ยิ่งใหญ่บางส่วนที่หลบซ่อนตัวอยู่ในเก้าแดนเท่านั้น แม้แต่บรรดาอดีตขุนพลที่เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาของราชันเซียนบางคน และหรือโอรสธิดาของราชันเซียนที่ยังคงมีชีวิตเหลืออยู่บนโลก ในเวลานี้ก็อดที่จะใจเต้นตูมตามไม่ได้

บรรดาขุนพล และโอรสราชันเซียนต่างรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของแดนที่สิบ พวกเขาล้วนแล้วแต่เคยไปส่งบิดาของตน และพวกเขาก็คิดถึงราชันเซียนของตน คิดถึงบิดาของตน บางทีราชันเซียนที่ขึ้นไปยังแดนสิบอาจยังคงมีชีวิตอยู่บนแดนสิบ ดังนั้น ภายในใจของพวกเขาจึงบังเกิดความคิดที่จะติดตามขึ้นไป พวกเขาไม่เพียงต้องการพบเจอกับราชันเซียนอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ต้องการได้เห็นแดนที่สิบที่ดำรงอยู่เป็นตำนานตลอดมา

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ขณะที่ราชันเซียนกำลังจะขึ้นไปยังแดนที่สิบนั้น ราชันเซียนส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินทางไปคนเดียว เนื่องจากในขณะที่ขึ้นไปยังแดนที่สิบนั้น ไม่เพียงต้องเผชิญกับพลังสยบของความแตกต่างมิติกาลเวลา ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ในขณะที่กำลังขึ้นไปยังแดนที่สิบจะต้องเผชิญกับการลอบสังหารของบรรดาราชันและเหล่าเทพที่อยู่บนแดนสิบนั่น

เมื่อต้องเผชิญกับผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกัน กระทั่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชันเซียนจากบรรดาราชันและเหล่าเทพแล้ว ตัวราชันเซียนเองก็ไม่แน่ว่าจะรอดชีวิตไปได้ พวกเขายิ่งไม่สามารถไปให้ความคุ้มครองกับผู้ที่อยู่ข้างกายได้

ด้วยสาเหตุนี้เอง ขณะราชันเซียนขึ้นไปยังแดนที่สิบนั้น แม้แต่ราชินีราชันเซียนก็ต้องรั้งอยู่ในเก้าแดน เนื่องจากราชินีราชันเซียนก็ไม่ต้องการให้ตัวเองกลายเป็นภาระของราชันเซียน และราชินีราชันเซียนก็ไม่ต้องการให้ตนเองเป็นเหตุให้ราชันเซียนต้องมีใจวอกแวก ซึ่งจะเป็นตัวถ่วงการก้าวเดินไปข้างหน้าของราชันเซียน

เวลานี้ ราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลกลับหาญกล้าพาคนขึ้นไปมากมายถึงเพียงนี้ ย่อมบ่งบอกว่าทุกคนล้วนแล้วแต่มีโอกาสได้ขึ้นไปถึงยังแดนที่สิบ ดังนั้น ผู้ที่รับรู้ถึงจุดนี้ ผู้ที่รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับแดนที่สิบต่างรู้สึกใจเต้นตูมตามกับสิ่งนี้

“ที่แท้ก็อาศัยวิธีการทำลายความแตกต่างของมิติกาลเวลาระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบโดยตรงนี่เอง!” นาทีนี้ แม้แต่ปีศาจระกาแห่งเหมืองแร่เซียนปีศาจระกาก็เข้าใจแล้ว เขาจ้องมองดูสัจธรรมสามสายและกฎเกณฑ์สิบสองสายที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของหลี่ชิเย่ และเขาเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดอีกาทมิฬจึงสามารถพาคนจำนวนมากมายขึ้นไปได้

“นี่มันเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากยิ่งกว่ากงล้อศักราชนะเนี่ย วังวนทั้งสาม และสิบสองกฎเกณฑ์ต้องถือกำเนิดขึ้นในโลกยุคดึกดำบรรพ์ก่อนที่จะมีการแยกฟ้าดินออกเป็นสองส่วนแน่นอน ดึกดำบรรพ์ยิ่งกว่าทุกๆ ศักราช มีเพียงสิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นในยุคนั้นจึงจะแข็งแกร่งและทรงพลังเช่นนี้ได้ และมีเพียงสิ่งของเช่นนี้เท่านั้น จึงสามารถทำลายทะลุผ่านความแตกต่างของมิติกาลเวลาระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบได้โดยตรง!” ปีศาจระกาถึงกับบ่นพึมพำออกมา

ความจริงแล้วปีศาจระกาเองก็ใฝ่ฝันถึงเช่นกัน เมื่อมองเห็นประกายที่แวบวับบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน เนื่องจากสิ่งนี้คือพิกัดตำแหน่งที่เชื่อมต่อไปยังแดนที่สิบ เมื่อไหร่ที่มีการทำลายความแตกต่างของมิติกาลเวลาแล้วก็สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังแดนที่สิบได้ นี่คือการกลับไปยังบ้านเกิดนะเนี่ย น่าเสียดายที่เหมืองแร่เซียนปีศาจระกาของพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไปได้!

การเดินทางไปยังแดนที่สิบใช่เป็นเรื่องง่ายดายขนาดนั้น ต่อให้ราชันเซียนลงมือเองก็สามารถทำได้เพียงทำลายความแตกต่างของมิติกาลเวลาให้เปิดเป็นทางผ่านชั่วคราวที่ให้ตัวเขาผ่านไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น จะอย่างไรเสีย ความแตกต่างของมิติกาลเวลานี้เป็นพลังสยบของสวรรค์ คิดจะเปิดทางออกมาจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก และมีเพียงราชันเซียนที่ได้สืบทอดชะตาฟ้าแล้วเท่านั้นที่สามารถทำได้

สืบเนื่องจากทางผ่านที่เปิดออกมามักจะอนุญาตให้ราชันเซียนผ่านเข้าไปได้เพียงคนเดียวอยู่เสมอๆ จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่มีเพียงราชันเซียนได้ขึ้นไปยังแดนสิบตามลำพังตลอดเวลาที่ผ่านมา

หลี่ชิเย่ในเวลานี้ได้ทำการล็อคเป้าหมายเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ดวงตาที่เยือกเย็นทั้งสองของเขาพลันจ้องมองไปบนท้องฟ้า และกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “พวกเจ้าเตรียมพร้อมแล้วยัง”

“โฮกกก…” ขณะนี้ หวงหลงคำรามเสียงยาวออกมา และป้าหู่คำรามออกมาคำหนึ่ง พวกเขาต่างรู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที พลันมีปณิธานการต่อสู้ที่ฮึกเหิม ในเวลานี้กลิ่นอายที่ปราศจากผู้เทียบเทียมได้ตลบอบอวลไปทั่วทั้งเก้าแดน นี่คือพลังระดับราชันเซียน ทำให้สรรพชีวิตในเก้าแดนล้วนแล้วแต่ต้องสั่นเทา

ราชันเซียนอันดับหนึ่งตลอดกาลนับว่าน่ากลัวเพียงพออยู่แล้ว เวลานี้ยังเพิ่มมังกรหนึ่งพยัคฆ์อีกหนึ่งที่เป็นสัตว์เทพ ด้วยกำลังเช่นนี้นับว่าในอดีตไม่เคยมีปรากฏมาก่อน

พลังเช่นนี้สามารถสยบได้ตลอดกาลเลยนะเนี่ย ในเวลานี้ด้วยสถานการณ์เช่นนี้เกือบจะเท่ากับมีราชันเซียนสามองค์ปรากฎตัวพร้อมกัน ด้วยกำลังลักษณะเช่นนี้ ไม่ว่าอยู่ในยุคสมัยใดก็ไม่มีผู้ใดสามารถสั่นคลอนได้อยู่แล้ว

ในเวลานี้ ผู้ที่ตื่นเต้นดีใจไม่ได้มีเพียงหวงหลงและป้าหู่เท่านั้น แม้แต่แดนอสูรปีอานก็ตื่นเต้นดีใจเช่นกัน ในขณะนี้แดนอสูรปีอานได้ปล่อยให้กลิ่นอายสัตว์ที่อยู่ในยุคดึกดำบรรพ์ไร้ซึ่งอารยะธรรมปะทุออกมาอย่างไม่ขาดสาย นาทีนี้เหมือนว่ามีสัตว์ดุร้ายสมัยดึกดำบรรพ์นับหนึ่งล้านล้านตัวได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากแดนอสูรปีอานอย่างนั้น ด้วยกลิ่นอายสัตว์ที่ไม่มีสิ้นสุดเช่นนี้ ทำให้สัตว์บกและสัตว์ปีกของเก้าแดนต้องสั่นเทา ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือวิหคดุร้ายก็ตาม เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายสัตว์ที่น่ากลัวเช่นนี้แล้วก็ต้องคุกเข่าลงกับพื้นในทันที

เมื่อบรรดาผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมือของเก้าแดนทั้งหมดต้องเผชิญกับพลังของหวงหลงป้าหู่ และแดนอสูรปีอานแล้วก็ต้องสั่นเทากับพลังเช่นนี้เ ทั่วทั้งโลกหล้ายังจะมีผู้ใดสามารถมีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้อยู่ในครอบครองได้อีก!

ต่อให้เป็นพรรคเซียนเหินในยุคที่รุ่งเรืองที่สุดก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังเช่นนี้ พลังที่เห็นอยู่ตรงหน้าสามารถบดขยี้ทุกหนทุกแห่งในเก้าแดนได้อย่างแน่นอน!

ความจริงแล้ว นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เดิมทีก่อนไปจากเขาคิดอาศัยมือของหวงหลงและป้าหู่ทำการเข่นฆ่าอเวจีสักครั้ง น่าเสียดายที่อเวจีอาศัยมิติมหัศจรรย์หลบซ่อนตัวไม่ยอมปรากฏตัวออกมา ทำให้หลี่ชิเย่ไม่มีโอกาสแม้แต่ต้องการกวาดล้างมารชั่วร้ายที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของอเวจีเป็นครั้งสุดท้ายตามที่คิดเอาไว้

“แว้งค์…” เวลานี้บริเวณหน้าผากของหลี่ชิเย่เปล่งเป็นประกายออกมา “ตูม ตูม ตูม” เสียงสะเทือนหวั่นไหวดังขึ้นเป็นระลอก ยามที่บริเวณหน้าผากของหลี่ชิเย่เปล่งเป็นประกายออกมา สัจธรรมทั้งสามสาย กฎเกณฑ์สิบสองสายก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมาเช่นกัน ทั้งสั่นสะเทือนรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ดูไปแล้วคล้ายดั่งเป็นดอกสว่านขนาดยักษ์ที่หมุนอย่างรวดเร็วอย่างนั้น

ขณะที่ในเวลาเดียวกันนี้ สัจธรรมสามสายและกฎเกณฑ์สิบสองสายได้เปล่งเป็นประกายสว่างไสวขึ้นมา พวกมันพลันกลายเป็นเจิดจ้ายิ่งนัก พลังที่พวกมันแผ่ออกมาทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินแทบหายใจไม่ออก ฉับพลันนั้นพลังที่สัจธรรมสามสายและกฎเกณฑ์สิบสองสายได้ปะทุออกมาสยบทุกสิ่งโดยพลัน ผู้ดำรงอยู่ในเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินล้วนแล้วแต่ไม่สามารถต้านทานกับพลังเช่นนี้ได้!

“น่ากลัว…” แม้แต่ปีศาจระกาก็รู้สึกหวาดหวั่นยิ่งนัก เมื่อรับรู้ถึงพลังที่ปะทุออกมาจากสัจธรรมสามสายและกฎเกณฑ์สิบสองสาย

แม้แต่บริเวณที่อยู่ลึกเข้าไปด้านในของสุสานเทียนกู่ก็มีดวงตาคู่หนึ่งเปล่งประกายออกมา ดวงตาคู่นี้มองดูพลังที่สามารถสยบทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งปะทุออกมาจากสัจธรรมสามสายและกฎเกณฑ์สิบสองสายแล้ว รูม่านตาทั้งสองก็ต้องหดลง พลังเช่นนี้น่ากลัวเหลือเกิน

ผีเฒ่าของสุสานเทียนกู่เองก็เข้าใจเป็นอย่างดี วันนั้นหลี่ชิเย่มาคุยเรื่องเงื่อนไขกับสุสานเทียนกู่นั้น เขาก็มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมแล้ว ถ้าหากสุสานเทียนกู่ปฏิเสธเงื่อนไขของหลี่ชิเย่ล่ะก็ เกรงว่าหลี่ชิเย่คงพลิกแผ่นดินของสุสานเทียนกู่ขึ้นมา และทำลายสุสานเทียนกู่ของพวกเขาจริงๆ !

“ตูม…ตูม…ตูม…” จากการที่สัจธรรมสามสาย และกฎเกณฑ์สิบสองสายมีการหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายไม่สามารถมองเห็นพวกมันได้อย่างชัดเจนอีกต่อไป แลดูไปแล้วก็เหมือนดั่งดอกสว่านขนาดใหญ่โตมโหฬารที่กำลังหมุนอย่างบ้าคลั่งอย่างนั้น

ขณะสิ่งที่แลดูเหมือนดอกสว่านขนาดยักษ์ที่หมุนจนถึงขีดความเร็วสูงสุดของมันแล้ว ปรากฏเสียง “ตูม” ดังสนั่นขึ้นมา ทันใดนั้น มันได้พุ่งไปยังความแตกต่างของมิติกาลเวลาระหว่างเก้าแดนและแดนที่สิบ

เสียง “ปัง…” ดังก้องทั้งเก้าแดน ภายใต้การโจมตีเช่นนี้กระทั่งเก้าแดนยังโคลงแคลงไปมา เกิดเป็นคลื่นยักษ์ขึ้นบนทะเล ดวงดาวของเก้าแดนพากันร่วงหล่นลงมา สรรพชีวิตในเก้าแดนล้วนแล้วแต่ยืนไม่ติดพื้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งเช่นใดก็ตาม ท่ามกลางการสะเทือนหวั่นไหวเช่นนี้ล้วนแล้วแต่โคลงเคลงจนล้มลงกับพื้น

หนึ่งการโจมตีทลายฟ้า เป็นการถล่มทลายของท้องฟ้าอย่างแท้จริง! ในเวลานี้บนท้องฟ้าปรากฎช่องที่ฉีกขาดขนาดยักษ์ขึ้นมา มันคือความแตกต่างของมิติกาลเวลาระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบถูกโจมตีจนกลายเป็นช่องที่ฉีกขาดขนาดใหญ่มากนั่นเอง

เสียง “คร๊ากก…คร๊ากก…คร๊ากก…” ดังขึ้น ขณะที่ช่องที่ฉีกขาดขนาดยักษ์ปรากฏบนท้องฟ้า มิติกาลเวลาบนท้องฟ้าได้ปรากฏเป็นรอยปริแยกขึ้นมาสายแล้วสายเล่า อีกทั้งรอยปริแยกแต่ละสายกำลังขยายตัวใหญ่ขึ้นๆ

จากการที่รอยแยกแต่ละสายที่ปริออกและตัดเชื่อมกันไปมาเป็นร่างแหนั้น ได้ยินเสียงดัง “ปัง ปัง ปัง” ความแตกต่างของมิติกาลเวลาระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบได้พังทลายลงหลายแห่ง กลายเป็นช่องที่ฉีกขาดขนาดยักษ์แต่ละช่องขึ้นมา

ขณะที่ช่องที่ฉีกขาดขนาดยักษ์แต่ละช่องปรากฏออกมานั้น เส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังแดนที่สิบได้ปรากฏแก่สายตาผู้คนอยู่ตรงหน้า เมื่อมองลอดผ่านช่องที่ฉีกขาดขนาดยักษ์สามารถมองเห็นประกายที่ส่องลงมาจากข้างบน ประกายแต่ละสายที่เหมือนประกายเซียนนี้ดูงดงามยิ่งนัก และน่าหลงใหล ไม่ว่าผู้ใดก็ตามหากได้เห็นแล้วก็ต้องหัวใจเต้นตูมตาม และต้องการขึ้นไป

“นั่นเป็นแดนสวรรค์หรือ?”หลายคนต่างรู้สึกฮือฮา เหมือนว่าข้างบนนั้นมีโลกที่ใหม่เอี่ยมโลกหนึ่งรอทุกคนอยู่ หลังจากที่ได้เห็นประกายแต่ละสายที่สาดส่องลงมา ล้วนแล้วแต่รู้สึกในเต้นตูมตามทั้งสิ้น

“พวกเราก็ขึ้นไปด้วยไหม?” ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกใจเต้นตูมตาม เมื่อมองเห็นช่องที่ฉีกขาดแต่ละช่องบนท้องฟ้า ถึงกับอยากจะลองดูยิ่งนัก ข้างบนนั้นอาจจะเป็นแดนสวรรค์ที่อยู่ในตำนาน แล้วจะไม่ให้ผู้คนต้องหัวใจเต้นตูมตามได้อย่างไรกัน

“จะขึ้นไปก็ต้องผ่านด่านทะเลไฟฟ้าที่อยู่ข้างหน้าไปก่อน” ระดับบรรพบุรุษรุ่นอาวุโสจ้องมองดูช่องที่ฉีกขาดที่อยู่บนท้องฟ้าแล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ

แม้ว่าด้านบนภายในช่องที่ฉีกขาดนั้นจะมีประกายลงมา แต่ว่ายังคงมีอันตรายมากอยู่ บริเวณช่องที่ฉีกขาดดังกล่าวในส่วนที่อยู่ใกล้กับเก้าแดนมากที่สุดกลับเป็นสนามไฟฟ้า ในนั้นปรากฎให้เห็นถึงประกายฟ้าแลบที่แวบวับเหมือนมังกรยักษ์ที่วิ่งพล่านอยู่ในนั้น สายฟ้าที่วิ่งไล่หลังตามกันมา เพียงพอที่จะทำลายทุกคนที่เข้าไปอยู่ในอาณาจักรนั้น

มีเพียงก้าวข้ามเขตฟ้าผ่านี้ไปได้แล้ว จึงสามารถเข้าไปยังเขตที่กว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งจะเป็นเขตผ่อนปรนการปะทะระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบ เป็นเขตที่ดีที่สุดสำหรับราชันเซียนจากเก้าแดนที่ขึ้นไปยังแดนที่สิบ โดยปรกติแล้วที่ตรงนี้ก็เป็นสมรภูมิรบเช่นกัน เป็นสถานที่ที่บรรดาราชันและเหล่าเทพของแดนที่สิบทำการลอบสังหารราชันเซียน โดยปรกติแล้วบรรดาราชันและเหล่าเทพจะอาศัยสถานที่แห่งนี้ต่อต้านการบุกขึ้นแดนสิบของราชันเซียน ไม่ยอมให้ราชันเซียนก้าวเท้าขึ้นไปยังแดนที่สิบได้

เนื่องจากข้อตกลงในครั้งครานั้น หากว่าเมื่อไรที่ราชันเซียนได้ก้าวเท้าลงบนพื้นแผ่นดินของแดนที่สิบแล้ว ก็ต้องยุติการลอบสังหารทุกอย่าง

แน่นอนที่สุด ยามที่ช่องที่ฉีกขาดลักษณะเช่นนี้ปรากฏขึ้นมานั้น หากมองจากแดนที่สิบลงมาก็จะได้ภาพที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ขณะมองจากแดนสิบลงไป บริเวณด้านล่างของเขตชะลอการปะทะคือเหวลึกที่มองไม่เห็นก้นเหว มันคือเหวลึกช่องว่างและกาลเวลา หากตกลงไปล่ะก็จะมีการทำลายกาลเวลาและช่องว่าง นั่นหมายความว่า หากตกลงไปเมื่อใดก็จะทำให้ผู้นั้นต้องสูญเสียกาลเวลาไปหลายหมื่นปีกระทั่งหลายแสนปี หรือก็คือหากต้องการลงจากแดนที่สิบไปยังเก้าแดนก็ต้องสูญเสียอายุขัยไปกว่าแสนปีเป็นอย่างน้อยเป็นค่าตอบแทน

แม้แต่บรรดาราชันและเหล่าเทพก็จ่ายค่าตอบแทนเช่นนี้ไม่ไหว เมื่อมีการเดินทางจากแดนที่สิบไปยังเก้าแดน คนผู้นั้นก็ต้องแก่ตายอยู่ท่ามกลางเหวลึกแห่งกาลเวลา โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครสามารถรอดชีวิตจากการลงมาจากแดนที่สิบถึงเก้าแดนได้

เมื่อเปรียบเทียบกับแดนที่สิบถึงเก้าแดนแล้ว การเดินทางจากเก้าแดนไปยังแดนที่สิบดูง่ายกว่ากันมาก กระทั่งเรียกได้ว่าง่ายเหลือเกิน

ในเวลานี้ บรรดาผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมือต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ต่อให้มีผู้ที่หัวใจเต้นตูมตามก็ไม่มีใครกล้าที่จะแย่งบุกขึ้นไป จะอย่างไรเสียไม่มีใครรู้ว่าข้างบนนั้นคืออะไร

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *