Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1851 การตัดสินใจขององค์หญิงเทียนหวง

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1851 การตัดสินใจขององค์หญิงเทียนหวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1851 การตัดสินใจขององค์หญิงเทียนหวง
ข่าวการกลับคืนสู่โลกปัจจุบันของจอมเทพท่าซิง สังหารจอมเทพเสินกงได้แพร่กระจายไปทั่วชิงโจวภายในระยะเวลาอันสั้น ข่าวนี้นับว่าได้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวให้กับแคว้นเจ้าลัทธิเป็นจำนวนมาก กระทั่งเหล่าสายสำนักราชันเซียน

แม้จะกล่าวว่าในชิงโจวที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตามีระดับจอมเทพอยู่เป็นจำนวนมาก แต่จอมเทพระดับสูงเฉกเช่นจอมเทพท่าซิงมีอยู่ไม่มาก โดยเฉพาะที่มีเลือดโบราณอยู่ในครอบครองยิ่งหาได้ยากยิ่ง

ดังนั้น แคว้นเจ้าลัทธิ และสายสำนักราชันเซียนจำนวนมากหลังจากได้ยินข่าวนี้แล้ว จะมากหรือน้อยก็ต้องใส่ใจอยู่บ้าง

เนื่องจากข่าวการกลับคืนสู่โลกปัจจุบันของจอมเทพท่าซิงสร้างความหวั่นไหวมากเหลือเกิน ตรงกันข้ามกลับลืมเลือนคนอีกผู้หนึ่งไป นั่นก็คือกษัตริย์เทียนหวงนั่นเอง

ภายใต้ข่าวการกลับคืนสู่โลกปัจจุบันของจอมเทพท่าซิง และข่าวการสังหารจอมเทพเสินกง ทำให้ทุกคนลืมนึกถึงกษัตริย์เทียนหวงบุคคลผู้เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์ และถูกสังหารไปในครั้งนี้ด้วย ผู้คนจำนวนมากยังไม่ได้สติกลับมาจากข่าวของจอมเทพท่าซิง

แต่ว่า มีคนผู้หนึ่งกลับไม่สามารถลืมเลือนเรื่องของกษัตริย์เทียนหวงนี้ไปได้ นั่นก็คือบุตรสาวของเขาองค์หญิงเทียนหวงนั่นเอง

ข่าวกษัตริย์เทียนหวงถูกฆ่าได้ส่งตรงถึงหูขององค์หญิงเทียนหวงในเวลาที่เร็วที่สุด สำหรับองค์หญิงเทียนหวงแล้วข่าวนี้ดั่งฟ้าผ่าลงมากลางวันแสกๆ เลยทีเดียว!

“ว่าไงนะ” องค์หญิงเทียนหวงลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินข่าวนี้ ร้องเสียงดังว่า “เสด็จพ่อถูกสังหารแล้ว!”

องค์หญิงเทียนหวงกุมกำลังทหารนับล้าน กระทั่งช่วยสามีดูแลกิจการงานต่างๆ ภายในตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง เรียกได้ว่าผ่านอุปสรรคมามากและเป็นผู้ที่หนักแน่นคนหนึ่ง แต่ว่า พลันที่ได้ยินว่าบิดาของตนถูกสังหาร นางยังคงควบคุมอารมณ์ของตนเอาไว้ไม่ได้ ร่างของนางสั่นเทาทีหนึ่ง มือทั้งสองประคองโต๊ะเอาไว้ กระตุกทีหนึ่งขาทั้งสองข้างรู้สึกอ่อนแรงจนเกือบจะยืนได้ไม่มั่นคง แต่นางยังคงยืนหยัดร่างกายขึ้นมาได้

“ถูกต้อง ฝ่าบาท ขอให้ส่งกองทัพไปแก้แค้นให้กับพระองค์!” ผู้ที่มาส่งข่าวคือขุนนางเฒ่าที่อยู่ข้างกายกษัตริย์เทียนหวง และเป็นผู้เฒ่าของราชสำนัก เวลานี้เขาได้คุกเข่าโขกศีรษะต่อองค์หญิงเทียนหวง

ข่าวนี้นับว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อองค์หญิงเทียนหวงเหลือเกิน ก่อนหน้านี้ไม่นาน น้องชายของนางเพิ่งถูกฆ่า เวลานี้ก็เป็นบิดาของนาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อนางมากเหลือเกิน

“เป็นใครกันที่สังหารเสด็จพ่อ!” ท่าทีขององค์หญิงเทียนหวงเย็นยะเยือกกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา

ขุนนางเฒ่ารีบกล่าวว่า “ก็คนโหดที่ชื่อหลี่ชิเย่นั่นแหละ เป็นเขาที่สังหารฝ่าบาท ยังสังหารผู้อาวุโสรุ่นบุกเบิก คนโหดผู้นี้ยังจะสังหารถอนรากถอนโคนแคว้นหงส์ฟ้าของพวกเรา”

“หลี่ชิเย่!” องค์หญิงเทียนหวงถึงกับมีท่าทีเย็นยะเยือกเมื่อได้ยินชื่อๆ นี้

ภาษิตว่าเอาไว้ เลือดข้นกว่าน้ำ ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเป็นครอบครัวกันได้แล้ว เวลานี้ น้องชายกับบิดาถูกฆ่าตายทั้งคู่ สิ่งนี้กล่าวสำหรับนางแล้วใช่เป็นเรื่องง่ายดาย

“เล่ามาให้ข้าฟังอย่างละเอียด” ไม่ง่ายนักกว่าที่องค์หญิงเทียนหวงจะได้สติกลับมาจากการสูญเสียบิดาไป นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เอ่ยขึ้นมาช้าๆ กับขุนนางเฒ่า

“ฝ่าบาท พระองค์ตั้งใจจะอวยพรวันเกิดให้กับจอมเทพท่าซิง ไม่นึกเลยว่าตระกูลเผิงจะสมคบคิดกับหลี่ชิเย่ ทำให้พระองค์ต้องอับอาย พระองค์ไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีของแคว้นหงส์ฟ้าพวกเรา จึงได้ปะมือกับหลี่ชิเย่…” เวลานี้ ขุนนางเฒ่าได้เล่าเรื่องราวรอบหนึ่งด้วยการต่อเติมเสริมแต่งเรื่องราวเข้าไป

แน่นอนที่สุด สิ่งที่เขาพูดมานั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง จากปากของเขาทำให้หลี่ชิเย่กลายเป็นคนร้ายที่ให้อภัยไม่ได้ พูดจาอวดดีไม่มียางอาย ทำให้แคว้นหงส์ฟ้าพวกเขา และตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังต้องเสียเกียรติ ขณะที่กษัตริย์เทียนหวงกลายเป็นผู้ดีที่อ่อนน้อมถ่อมตน ต่อให้เขาพยายามอดกลั้นถึงที่สุด แต่ก็ไม่อาจหลีกหนีการถูกหลี่ชิเย่สังหารจนได้

หลังจากได้ฟังคำจากขุนนางเฒ่าแล้ว องค์หญิงเทียนหวงนิ่งเงียบอยู่เป็นเวลานาน นางกลับไปนั่งอยู่ที่เดิมอย่างช้าๆ แม้ว่าฟังคำจากปากของขุนนางเฒ่าที่มีการต่อเติมเสริมแต่งเรื่องราว และกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ แต่ว่า เรื่องบางเรื่ององค์หญิงเทียนหวงยังคงสามารถแยกแยะได้ออก อย่างน้อยที่สุดนางเข้าใจได้ว่าต้องเป็นเสด็จพ่อของนางไปแก้แค้นหลี่ชิเย่แน่นอน

เมื่อองค์หญิงเทียนหวงนึกถึงตรงนี้แล้ว ทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดภายในใจ ก่อนบิดาของนางจะไปจาก นางเคยเตือนเสด็จพ่อของนางว่าอย่าได้หุนหันพลันแล่น รอให้สถานการณ์ต่างๆ เรียบร้อยแล้วค่อยไปแก้แค้นให้กับนองชายก็ยังไม่สาย แต่บิดาของนางไม่เชื่อคำเตือนของนาง รีบร้อนไปหาหลี่ชิเย่เพื่อแก้แค้น เวลานี้แม้แต่ชีวิตตัวเองก็ต้องพ่วงเข้าไปด้วยแล้ว

“ฝ่าบาท โปรดส่งกำลังทหารไปแก้แค้นแทนพระองค์ เจ้าคนโหดผู้นี้สังหารรัชทายาทอยู่ก่อน เวลานี้ยังสังหารพระองค์อีก ความจริงคือต้องการทำลายแคว้นหงส์ฟ้าของพวกเรา ขอให้ฝ่าบาทส่งกำลังทหารออกไปสังหารเจ้าคนอัปลักษณ์ผู้นี้เสีย เหยียบตระกูลเผิงให้ราบเป็นหน้ากลอง เพื่อแสดงบารมีของฝ่าบาท!” เวลานี้ขุนนางเฒ่าคุกเข่าอยู่ตรงนั้น โขกศีรษะให้กับองค์หญิงเทียนหวง ร้องห่มร้องไห้ออกมา

องค์หญิงเทียนหวงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง โบกมือเบาๆ กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “เรื่องนี้ข้าย่อมจะตัดสินใจเองได้ คงมีสักวันพวกเสด็จพ่อต้องไม่ตายเปล่าแน่นอน!”

“ฝ่าบาท โปรดส่งกองทัพออกไปเพื่อแก้แค้นให้กับพระองค์ และองค์รัชทายาท ทุกระดับในแคว้นหงส์ฟ้ายินดีตายเพื่อพระองค์!” ขุนนางเฒ่าน้ำตานองหน้า โขกศีรษะต่อองค์หญิงเทียนหวง

“ผู้อาวุโสสือเศร้าโศกเสียใจมากเกินไป สมควรพักผ่อนบ้าง พยุงผู้อาวุโสสือกลับห้อง” ในเวลานี้องค์หญิงเทียนหวงโบกมือและกล่าวขึ้นมาช้าๆ คำพูดของเขาไม่อาจปฏิเสธได้

“ฝ่าบาท จะต้องแก้แค้นให้กับพระองค์” ขุนนางเฒ่าไม่อยากจะจากไป แต่ ถูกคนข้างกายขององค์หญิงเทียนหวงประคองจากไป ขณะก้าวเท้าออกจากตำหนัก เขายังคงร้องเสียงดังออกมา

องค์หญิงเทียนหวงนั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ให้ความสนใจต่อคำพูดของขุนนางเฒ่า เมื่อขุนนางเฒ่าถูกพาตัวออกไปแล้ว องค์หญิงเทียนหวงได้หลับตาสองข้างลงช้าๆ นางกำหมัดแน่น ร่างกายสั่นเทิ้มทีหนึ่ง หางตาของนางได้เปียกชุ่มด้วยน้ำตาโดยไม่รู้ตัว

“ฝ่าบาทจะส่งกำลังทหารเพื่อแก้แค้นให้พระองค์รึ?” หลังจากเวลาผ่านไปนานมาก ยายเฒ่าผู้หนึ่งได้ปรากฎตัวขึ้นข้างกายองค์หญิงเทียนหวงดั่งภูติผีวิญญาณ

องค์หญิงเทียนหวงเผยให้เห็นใบหน้าที่เศร้าโศก นั่งเหม่ออยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่นาน กล่าวสำหรับนางแล้ว ความเจ็บปวดจากการสูญเสียบิดานั้นใช่จะแบกรับกันได้ง่ายดาย แม้ว่านางจะเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาก็ตาม

“อาศัยหน้าของฝ่าบาท หากจะขอให้จอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังลงมือเพื่อจับตัวหลี่ชิเย่คงไม่ใช่เรื่องยาก” เมื่อยายเฒ่าผู้นี้เห็นองค์หญิงเทียนหวงไม่พูดไม่จา นางจึงเสนอความเห็นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

องค์หญิงเทียนหวงยังคงไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ไม่ง่ายนักกว่านางจะก้าวข้ามความเจ็บปวดออกมาได้ นางส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “เสด็จพ่อไม่เชื่อคำเตือนของข้า ข้าได้คาดการณ์ถึงการมาถึงของวันนี้แล้ว”

กล่าวสำหรับภายในใจขององค์หญิงเทียนหวงเข้าใจแล้วว่า บิดาของนางจะต้องไปแก้แค้นกับหลี่ชิเย่แน่นอน แต่ นางก็ไม่อาจขัดขวางบิดาของตนได้ กล่าวสำหรับนางแล้ว วันนี้จะต้องมาถึงไม่ช้าก็เร็ว ไม่นึกเลยว่าวันนี้มาถึงแล้วจริงๆ

“เวลานี้พระองค์ก็ได้สวรรคตแล้ว ตรัสไปก็ไร้ประโยชน์ เวลานี้สิ่งที่จะทำได้มีเพียงแก้แค้นให้กับพระองค์เท่านั้น” ยายเฒ่าพูดขึ้นมาเบาๆ

ยายเฒ่าผู้นี้มาจากแคว้นหงส์ฟ้าโดยติดตามองค์หญิงเทียนหวงที่แต่งเข้าตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง ในด้านความผูกพันนางยังคงเอนเอียงไปที่แคว้นหงส์ฟ้าอยู่แล้ว นางให้การสนับสนุนอย่างแน่นอน หากบอกว่าจะแก้แค้นให้กับกษัตริย์เทียนหวง

“ไม่” องค์หญิงเทียนหวงส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “การที่ข้านั่งอยู่บนตำแหน่งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของแคว้นหงส์ฟ้า และไม่ใช่อาศัยอำนาจส่วนรวมมาแก้แค้นส่วนตัว การที่ข้าสามารถนั่งอยู่บนตำแหน่งนี้ได้ เป็นเพราะเหล่าจอมราชันจ้านหวังเชื่อใจข้า เชื่อว่าข้าสามารถนั่งอยู่บนตำแหน่งนี้ และกระทำการภายใต้ขอบเขตอำนาจของตน มิฉะนั้นล่ะก็ ข้าก็จะไม่ได้มานั่งอยู่บนตำแหน่งนี้”

จะอย่างไรเสีย องค์หญิงเทียนหวงก็คือบุคคลภายนอกตระกูล ลองคิดดู แค่บุคคลภายนอกคนหนึ่งที่แต่งเข้าตระกูลในฐานะสะใภ้ ขณะที่ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังที่เป็นหนึ่งสำนักห้าจอมราชัน จะอย่างไรเสียฐานะของนางก็คือบุคคลภายนอกคนหนึ่ง

ลองคิดดู ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังที่มีฐานะเป็นหนึ่งสำนักห้าจอมราชันจะมีบุคลากรผู้มีฝีมือจำนวนเท่าไร แต่ องค์หญิงเทียนหวงกลับสามารถนั่งอยู่บนตำแหน่งนี้ได้อย่างมั่นคง สามารถปกครองกองทัพนับล้านของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง กระทั่งจอมเทพบางส่วนก็ยินดีเชื่อฟังคำสั่งขององค์หญิงเทียนหวง เรื่องนี้เป็นเพราะนางคือคู่หมั้นของจินเก๋อเท่านั้นเองหน่ะหรือ?

ถ้าหากอาศัยเพียงเท่านี้หละก็ มันไม่เพียงพออย่างแน่นอน ต่อให้จินเก๋อโปรดปรานนางมากกว่านี้ก็ตาม องค์หญิงเทียนหวงในฐานะบุคคลภายนอกไม่มีสิทธิ์ได้ปกครองและเป็นผู้นำกองทัพนับล้านของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังได้อยู่แล้ว ยิ่งไม่มีสิทธิ์ไปสั่งการระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง!

การที่องค์หญิงเทียนหวงสามารถกุมอำนาจใหญ่เอาไว้ในมือ เรียกได้ว่าเป็นเพราะได้รับการเห็นชอบจากจอมราชันของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง มิฉะนั้นหละก็ เรื่องมอบอำนาจใหญ่ให้กับบุคคลภายนอกเช่นนี้ แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังก็ไม่สามารถตัดสินใจได้

“เรื่องนี้” เมื่อยายเฒ่าได้ยินคำพูดขององค์หญิงเทียนหวงแล้วถึงกับตะลึงนิดหนึ่ง การที่นางสามารถติดตามองค์หญิงเทียนหวงที่แต่งเข้าตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังได้ นางย่อมรู้ถึงความสำคัญของเรื่องต่างๆ ได้

“หรือจะปล่อยให้เรื่องราวผ่านไปอย่างนี้รึ?” ยายเฒ่าย่อมมีความรู้สึกไม่ยินยอมอยู่ จะอย่างไรเสียนางก็มีชาติกำเนิดมาจากแคว้นหงส์ฟ้า เป็นคนของแคว้นหงส์ฟ้า เวลานี้กษัตริย์ของพวกเขาถูกสังหาร ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถกล้ำกลืนความอัปยศนี้เอาไว้ได้

“ข้ารู้ ผู้คนในแคว้นหงส์ฟ้าไม่ว่าใครก็ต้องการแก้แค้นให้กับเสด็จพ่อ แต่ว่าไม่ใช่เวลานี้!” องค์หญิงเทียนหวงกล่าวเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า “แม้ว่าข้าจะกุมกำลังกองทัพเอาไว้ในมือ แต่ ไม่คุ้มค่ากับการเคลื่อนกำลังพลแม้แต่คนเดียวเพียงเพื่อบุญคุณความแค้นส่วนตัวของตระกูลข้า ในโลกนี้ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าให้ท่านพี่ของข้าได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งจอมราชันอีกแล้ว การที่ข้าสามารถมีฐานะเช่นนี้ได้ แคว้นหงส์ฟ้าสามารถมีเกียรติเช่นทุกวันนี้ นั่นเป็นเพราะอะไร…”

องค์หญิงเทียนหวงจ้องมองยายเฒ่า แล้วกล่าวเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า “…ทุกอย่างเป็นเพราะท่านพี่ของข้าสามารถเป็นจอมราชันได้ ทุกคนต่างเชื่อมั่นในตัวของเขา ดังนั้น ทรัพยากรจำนวนมหาศาลล้วนแล้วแต่ทุ่มลงไปบนตัวของเขา บรรดาเหล่าสวรรค์และเทพในสิบสามทวีปก็ต้องประเมินเขาในระดับสูง และให้เกียรติแก่เขา เวลานี้แคว้นหงส์ฟ้ามีฐานะที่ในอดีตไม่เคยมีมาก่อน นั่นเป็นเพราะอะไร? เช่นเดียวกัน เป็นเพราะท่านพี่ของข้าสามารถเป็นจอมราชันได้…”

“…ถ้าหากท่านพี่ของข้าไม่สามารถเป็นจอมราชันได้ ถ้าหากเขาเป็นเพียงศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง เจ้าคิดว่าข้าสามารถมีอำนาจอยู่ในมือรึ? เจ้าคิดว่าแคว้นหงส์ฟ้าของพวกเรายังจะมีฐานะเช่นทุกวันนี้รึ? ยังสามารถมีเกียรติยศดั่งทุกวันนี้รึ? เกียรติยศที่ตระกูลพวกเราได้รับมา อำนาจที่ได้มา ล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานท่านพี่ข้าได้เป็นจอมราชัน…” เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ท่าที่ขององค์หญิงเทียนหวงดูหนักแน่นและเคร่งขรึมจริงจัง

“…ถ้าหากไม่สามารถเป็นจอมราชันได้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นเพียงดอกไม้ในคันฉ่อง จันทราในน้ำเท่านั้นเอง! ดังนั้น ในขณะนี้ไม่มีสิ่งใดสำคัญมากไปกว่าการให้ท่านพี่ของข้าได้ขึ้นเป็นจอมราชัน หากเขาไม่ได้ขึ้นเป็นจอมราชันทุกอย่างก็จะไม่คงอยู่อีกต่อไป…” ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว องค์หญิงเทียนหวงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “นี่แหละคือเหตุผลว่าเพราะอะไรขณะเสด็จพ่อมาขอความช่วยเหลือ ข้าจึงไม่ได้ส่งกองทัพออกไป!”

“สิ่งนี้ใช่ว่าข้าเป็นคนใจหิน ข้าไม่ได้ต้องการเห็นบิดาและน้องชายถูกคนอื่นสังหารแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย!” เวลานี้ องค์หญิงเทียนหวงกล่าวต่อยายเฒ่าอย่างจริงจังว่า “ถ้าหากข้าเอากำลังทหารไปสิ้นเปลืองกับบุญคุณความแค้นส่วนตัว หากสามีของข้าไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งจอมราชัน เมื่อเป็นเช่นนั้นข้าก็คือคนบาป! ข้าไม่เพียงเป็นคนบาปของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง ยังเป็นคนบาปของแคว้นหงส์ฟ้าอีกด้วย! ปราศจากตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังเป็นสิ่งพึ่งพิง แคว้นหงส์ฟ้าของพวกเราจะแข็งแกร่งได้สักเพียงใดเชียว? ปราศจากลูกเขยที่อยู่ในฐานะจอมราชันคอยคุ้มครอง พวกเราสามารถแข็งแกร่งมากไปกว่าที่เป็นอยู่รึ?”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *