Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2468 เรื่องราวเกี่ยวกับฮ่องแต้องค์ใหม่

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2468 เรื่องราวเกี่ยวกับฮ่องแต้องค์ใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ข่าวฮ่องแต้องค์ใหม่พักอาศัยอยู่ที่เขาหงฮวงซานได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเขาจิ่วเหลียนซาน จึงไม่ใช่ความลับอีกต่อไปแล้ว บรรดาศิษย์ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ที่มาพักอาศัยและบรรลุสัจธรรมที่เขาจิ่วเหลียนซานต่างก็รู้เรื่องนี้กันแล้ว

แม้ว่าในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ไม่ว่าจะเป็นศิษย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ที่เพิ่งจะเข้าสำนัก หรือผู้บำเพ็ญตนทั่วๆไป และหรือระดับบรรพบุรุษ พวกเขาต่างก็เคยได้ยินชื่อของฮ่องแต้องค์ใหม่

จะอย่างไรเสียงวันที่ฮ่องแต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ในวันนั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่คับฟ้าของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ รับรู้กันทั่วหล้า ภายหลังฮ่องแต้องค์ใหม่สูญเสียแผ่นดินไป ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มีการเปลี่ยนเจ้าของ เรื่องเช่นนี้จึงมีความเคลื่อนไหวที่ใหญ่มากยิ่งกว่า กล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่รู้ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับฮ่องแต้องค์ใหม่

แน่นอน ภาพลักษณ์ของฮ่องแต้องค์ใหม่สำหรับทุกคนมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือเป็นผู้ที่มั่วโกลีย์ไร้คุณธรรม! เป็นฮ่องแต้ชั่วที่โง่เขลาเบาปัญญา ไร้ความสามารถ มิฉะนั้นแล้วคงไม่สูญเสียแผ่นดินไป

โดยเฉพาะกองทัพส่วนกลางพวกเขาและหกกองทัพใหญ่และตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ และแคว้นว่านเจิ้นหลังจากเข้าควบคุมเมืองหลวงได้แล้ว พวกเขายิ่งจงใจเป่าประกาศความเป็นผู้มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรมของฮ่องแต้องค์ใหม่

ภายใต้การโฆษณาเป่าประกาศของพวกแคว้นว่านเจิ้น ผู้คนใต้หล้าต่างก็รู้ว่าขณะฮ่องแต้องค์ใหม่ครองราชย์อยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวมั่วสุรานารีเช่นใดล้วนแล้วแต่กระทำมาหมดแล้ว การอาศัยกำลังฉุดคร่าหญิงสาวชาวบ้าน แย่งภรรยาของผู้อื่น แย่งของรักของผู้เป็นขุนนาง อาศัยอำนาจบาตรใหญ่เกณฑ์หญิงสาว…กระทั่งเพื่อชิงตัวสาวงามแล้วเคยส่งกองทัพทำลายเผ่าทั้งเผ่า มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรม ถืออำนาจบาตรใหญ่เผด็จการ ชื่นชอบการสร้างผลงาน…

สรุปก็คือ ภายใต้การโฆษณาเป่าประกาศของพวกแคว้นว่านเจิ้น ฮ่องแต้องค์ใหม่กลายเป็นผู้ที่ทำชั่วทุกอย่าง ฟังดูแล้วทำให้ดูเหมือนว่าเป็นฮ่องแต้โหดร้ายที่ผู้คนต่างเกลียดจนเข้ากระดูกดำ และต้องการสังหารเสีย!

แน่นอนที่สุด การที่กองทัพส่วนกลางพวกเขาเที่ยวเป่าประกาศโฆษณาฮ่องแต้องค์ใหม่ลักษณะเช่นนี้ พูดเสียฮ่องแต้องค์ใหม่ไม่มีอะไรดีเลย ก็แค่ต้องการอำพรางเรื่องจริงเรื่องหนึ่งคือ เรื่องทรยศ!

พวกเขาก็แค่ต้องการให้พฤติกรรมในเรื่องที่ตนทรยศราชวงศ์ฟังดูมีเหตุผลสามารถพูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำ ขณะที่พวกของตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือและแคว้นว่านเจิ้นเป่าประกาศเช่นนี้ก็เพื่อให้ดูมีเหตุผลในการยกทัพออกปราบปราม โดยไม่ใช่เป็นการชิงบัลลังก์แย่งอำนาจอย่างที่ทุกคนจินตนาการ

ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสจำนวนไม่น้อยรู้ว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้เป็นอย่างไร แต่ว่า บรรดาผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะศิษย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเข้าสำนักเหล่านั้น พวกเขาไม่รู้อยู่แล้วถึงเบื้องหลังต่างๆ นานาเหล่านี้ ได้ยินเสียงลมก็เข้าใจว่าเป็นฝน

ดังนั้น เมื่อได้ข่าวว่าฮ่องแต้องค์ใหม่พักอาศัยอยู่ที่เขาหงฮวงซาน จึงสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับศิษย์ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย อยากจะเห็นหน้าของฮ่องแต้องค์ใหม่ที่ลือกันว่ามั่วโลกีย์ไร้คุณธรรมนั้นมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร

ดังนั้น บริเวณแถบเขาหงฮวงซานจึงปรากฏผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ขึ้นไปยังเขาหงฮวงซาน แต่ว่า มักจะมีผู้ที่คอยสอดส่องโดยห่างกันแค่ภูเขาลูกหนึ่ง หรือยู่บนท้องฟ้าที่อยู่ไม่ห่างไกลมากนักอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะช่วงเช้าของทุกวันที่หลี่ชิเย่หันหน้าเข้าหาคุกหลวงดึกดำบรรพ์เพื่อผ่อนเข้าออกกลิ่นอายชั่วร้ายนั้น ยิ่งนำมาซึ่งความสนใจของผู้คนจำนวนไม่น้อย

“คนนั้นก็คือฮ่องแต้องค์ใหม่นะเนี่ย” ผู้บำเพ็ญตน กลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยชี้มือชี้ไม้อยู่ในระยะห่างไกล และวิจารณ์กันเสียงแผ่วเบา หลังจากมองเห็นหลี่ชิเย่แล้ว

“ข้ายังเข้าใจว่าฮ่องแต้โหดที่เล่าลือกันจะมีสามเศียรหกกร และมีเขี้ยวอะไรอย่างนั้น ดูไปแล้วเขาก็เป็นเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งนี่” ศิษย์สาวกลุ่มคนรุ่นใหม่เดิมต้องการมาดูความครึกครื้น เพื่อเติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นในใจของตน แต่เมื่อมองเห็นท่าทางที่ธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษแล้วถึงกับรู้สึกผิดหวัง

ผู้คนจำนวนไม่น้อยได้ยินมาว่า ฮ่องแต้องค์ใหม่นั้นมั่วโลกีย์ไร้คุณธรรม อาศัยอำนาจชุดคร่าหญิงชาวบ้าน ฆ่าคนวางเพลิง ทุกคนต่างเข้าใจว่าฮ่องแต้องค์ใหม่จะต้องเป็นผู้ที่มีหน้าตาน่าชังหรือเป็นผู้ที่มีหน้าตาแลดูหยาบคายอัปลักษณ์ยิ่งคนหนึ่ง ไม่นึกเลยว่าพลันที่มองเห็น ฮ่องแต้องค์ใหม่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่ธรรมดาจนไม่รู้จะธรรมดาอีกแล้วเท่านั้นเอง นับว่าสร้างความผิดหวังให้กับผู้คนจำนวนมาก

“คนธรรมดาเช่นนี้ก็เป็นฮ่องแต้ได้? เหลือเชื่อเหลือเกิน” มีผู้บำเพ็ญตนที่เพิ่งจะเข้าสำนักรู้สึกแปลกใจ

จะอย่างไรเสียครั้งนั้นราชวงศ์โต่วเซิ่นควบคุมอำนาจใต้หล้าแต่เพียงผู้เดียว ผู้ที่สามารถขึ้นเป็นฮ่องแต้ได้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีฐานะสูงสุด ผู้ที่มองเห็นฮ่องแต้องค์ใหม่เป็นครั้งแรกต่างรู้สึกว่าเหลือเชื่อ เมื่อมองเห็นผู้ที่ธรรมดาๆ เช่นนี้ขึ้นมาเป็นฮ่องแต้

“ใครใช้ให้คนเขามีบิดาที่แสนดีเล่า” ผู้ที่อยู่ข้างๆ อดที่จะพูดประชดประชันขึ้นว่า “คนเขาคือลูกนอกสมรสของฮ่องแต้องค์ก่อน อาศัยแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ต่อให้เป็นนายหมูนายหมาก็เป็นฮ่องแต้ได้ เพียงแต่สามารถนั่งบัลลังก์ได้มั่นคงหรือไม่มันก็เป็นคนละเรื่องกัน เจ้าก็เห็นแล้วไม่ใช่รึ? มีคนที่นั่งบัลลังก์ฮ่องแต้ก้นยังไม่ทันร้อนก็เสียแผ่นดินไปแล้ว ฮึ คิดจะครองอำนาจใต้หล้าใช่ว่าสวะที่ไหนสักคนก็ได้อยู่แล้ว”

“คำพูดนี้มีเหตุผล” ศิษย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุแก่กว่าซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ได้พยักหน้า และกล่าวว่า “สถานการณ์ปัจจุบันของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่พวกเราเวลานี้ ข้าคิดว่านอกเหนือจากราชันแท้จริงปาเจิ้นแล้ว ไม่มีผู้ใดที่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นฮ่องแต้ได้อีกแล้ว และมีเพียงเขาเท่านั้นที่มีคุณสมบัติกุมอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้อย่างแท้จริง เวลานี้เขาคือราชันแท้จริงขั้นสองลัคนา อนาคตยังคงมีโอกาสได้กลายเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะปฐมบรรพบุรุษได้”

“นั่นสิ ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น ราชันแท้จริงปาเจิ้นคือผู้ที่ฟ้าประทานความสามารถมาให้ เป็นบุรุษผู้สูงส่ง ให้เขามาเป็นฮ่องแต้ของพวกเราย่อมสมเหตุสมผลอยู่แล้ว ฮึ เพียงแต่มีผู้ที่เกิดมาก็มีบิดาที่แสนดีเท่านั้นเอง” มีผู้ที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้น หัวเราะเยาะทีหนึ่งและกล่าวว่า “แต่ว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว อนาคตราชันแท้จริงปาเจิ้นจึงจะเป็นโอรสสวรรค์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่พวกเรา ดังนั้น คงมีเพียงองค์หญิงหานยวี่เท่านั้นที่คู่ควรกับราชันแท้จริงปาเจิ้น”

“ราชันแท้จริงปาเจิ้นกับองค์หญิงหานยวี่คือคู่สร้างคู่สมกัน” และมีพรรคพวกจ้องมองดูหลี่ชิเย่ที่อยู่ไกลออกไป ยิ้มเยาะและกล่าวว่า “โชคดีที่องค์หญิงหานยวี่ไม่ได้แต่งงานกับสวะเช่นนี้ มิฉะนั้นล่ะก็ เรียกว่าเป็นบุปผาปักลงบนมูลควายอย่างแท้จริงเลยล่ะ”

คำพูดเช่นนี้ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย ทยอยกันพยักหน้า

องค์หญิงหานยวี่ องค์หญิงแห่งตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือคือสาวงามคนหนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ชื่อเสียงด้านความงามเป็นที่รับรู้กันทั่วหล้า ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถือเป็นเทพธิดาในอุดมคติ โดยพวกเขามองว่า หากองค์หญิงหานยวี่แต่งงานกับฮ่องแต้องค์ใหม่จริงๆ นั่นคือบุปผาปักลงบนมูลควายที่แท้จริงแล้ว

“ฮ่องแต้องค์ใหม่กำพลังฝึกวิชาอยู่รึ? ” มีผู้บำเพ็ญตนที่รู้สึกแปลกใจ เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่นั่งอยู่บนยอดเขาหันหน้าไปยังคุกหลวงดึกดำบรรพ์ผ่อนลมปราณเข้าออกในทุกๆ เช้า

“ถูกต้อง เขามาฝึกปรือทุกวัน” มีศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ที่ให้ความสนใจในหลี่ชิเย่มานานแล้ว ดังนั้น จึงมีความเข้าใจในสภาพของหลี่ชิเย่เป็นอันมาก และกล่าวว่า “ดูไปแล้วฮ่องแต้องค์ใหม่นับว่าขยันมาก ตรงเวลายิ่งทุกวัน”

“บางที การสูญเสียแผ่นดินไปแล้วสร้างความกระทบกระเทือนเขามากกระมัง” มีผู้ที่ทอดถอนใจกับสิ่งนี้และกล่าวว่า “ไม่แน่นักฮ่องแต้องค์ใหม่อาจจะคิดกลับตัวและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงได้รั้งอยู่ที่เขาจิ่วเหลียนซาน ฝึกปรืออย่างหนักไม่หยุดหย่อน บางทีเขาอาจคิดจะเป็นยอดฝีมือแล้วค่อยหวนกลับมาอีกครั้งก็เป็นได้”

“ฝันเฟื่อง” มีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้การสนับสนุนราชันแท้จริงปาเจิ้นเชิดใส่ และกล่าวว่า “อาศัยกำลังที่อ่อนด้อยไม่คู่ควรจะกล่าวถึง ต่อให้เขาฝึกปรือไปอีกหนึ่งพันปีก็คงมีขีดจำกัด เทียบไม่ได้กับนิ้วๆ เดียวของราชันแท้จริงปาเจิ้น ฮึ ถึงเวลานั้นหากเขาคิดจะหวนกลับมาใหม่ ราชันแท้จริงปาเจิ้นอาศัยนิ้วๆ เดียวก็สามารถสังหารเขาได้อยู่แล้ว”

ทุกคนต่างไม่ต้องการพูดให้มากความสำหรับคำพูดเช่นนี้ของผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้นี้ เนื่องจากสถานการณ์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ในเวลานี้อ่อนไหวมาก ยิ่งไปกว่านั้น ในอนาคตราชันแท้จริงปาเจิ้นสามารถเป็นฮ่องแต้ได้หรือไม่นั้นยังพูดยาก

แต่ว่า ในใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยก็ให้การยอมรับว่า ใช่ว่าคำพูดของเขาจะไม่มีเหตุผล ต่อให้เวลานี้ฮ่องแต้องค์ใหม่กลับตัวกลับใจใหม่จริงๆ ในเวลานี้ ต่อให้ฮ่องแต้องค์ใหม่พยายามมากมายเท่าไร เกรงว่าก็คงไร้ประโยชน์

จะอย่างไรเสีย ใครๆ ก็มองออกว่าทักษะของฮ่องแต้องค์ใหม่อ่อนด้อยเกินไปแล้ว ไม่สามารถเทียบได้กับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเฉกเช่นพวกของราชันแท้จริงปาเจิ้นอยู่แล้ว คิดจะชิงอำนาจกลับคืนมานั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องฝันเฟื่องของคนเสียสติ

หลี่ชิเย่ไม่ให้ความสนใจสำหรับบรรดาผู้ที่เฝ้ามองดูและพูดเรื่อยเปื่อยเหล่านั้นอยู่แล้ว และไม่สามารถส่งผลกระทบอะไรต่อเขาแต่อย่างใด เขายังคงหันหน้าเข้าหาคุกหลวงดึกดำบรรพ์ผ่อนกลิ่นอายชั่วร้ายเข้าออกด้วยท่าทีเอ้อระเหยและตรงเวลาทุกวัน

แม้ว่าจะมีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่จำนวนมากที่มาล้อมวงมองดูฮ่องแต้องค์ใหม่ แต่ทว่า พวกเขาส่วนใหญ่เพียงต้องการสร้างความพึงพอใจในความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ต้องการรู้ว่าหลี่ชิเย่อยากจะทำอะไร

จะอย่างไรเสีย กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่แล้ว ฮ่องแต้องค์ใหม่ไม่ได้มีความขัดแย้งโดยตรงกับพวกเขา และไม่ได้มีความแค้นต่อกัน ต่อให้ฮ่องแต้องค์ใหม่มั่วโลกีย์และไร้คุณธรรมอย่างไรขณะยังอยู่ในตำแหน่งก็ตาม แต่ว่า มันยังคงเป็นเรื่องที่ไกลตัวพวกเขาเป็นอันมาก จะอย่างไรเสียในขณะนั้น พวกเขาคิดจะพบหน้าฮ่องแต้องค์ใหม่สักครั้งก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าฮ่องแต้องค์ใหม่จะสิ้นชาติไปแล้ว แต่ว่าบารมีของราชวงศ์ยังคงหลงเหลืออยู่ ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากต่างไม่ต้องการไปยุ่งกับเรื่องเช่นนี้ ดีไม่ดีอาจนำมาซึ่งภัยถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้

แน่นอนที่สุด มีผู้ที่อดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน เบื้องหลังของผู้ที่ไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว

มาวันนี้ มีชายหนุ่มผู้หนึ่งก้าวขึ้นเขาหงฮวงซาน ด้านหลังของชายหนุ่มผู้นี้ยังได้นำพาชายฉกรรจ์ท่าทางทะมัดทะแมงกว่าสิบคนมาด้วย ทุกคนต่างมีดวงตาที่ส่งประกายฟ้าแลบแวบวับ ท่าทางดุเดือดรุนแรง พลันที่มองเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขามีชาติกำเนิดเป็นทหาร

แม้ว่าชายหนุ่มผู้นี้จะสวมเสื้อวิเศษทั้งชุด แต่ว่า กล้ามเนื้อบนตัวที่นูนขึ้นมาทั่วร่าง พลันที่เห็นก็รู้ว่าเป็นผู้ที่ผ่านสมรภูมิรบมาแล้ว

“เจิงยี่ปิงไปหาฮ่องแต้องค์ใหม่แล้ว” ขณะที่ชายหนุ่มผู้นี้นำพาชายฉกรรจ์ท่าทางทะมัดทะแมงกว่าสิบคนก้าวขึ้นเขาหงฮวงซานนั้น มีผู้พบเห็นจึงได้กระจายข่าวออกไปทันที

“นี่เขาคิดจะทำอะไรของเขานะ? ” มีผู้ที่รู้สึกแปลกใจ เมื่อเห็นเจิงยี่ปิงพาชายฉกรรจ์สิบกว่าคน ท่าทางดุดัน

“เกรงว่าคงไปหาเรื่องกระมัง” มีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มาจากเมืองหลวงกล่าวเสียงแผ่วเบาว่า “อย่าลืมไปสิ เจิงยี่ปิงกับนายน้อยตระกูลหม่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน”

“ตระกูลหม่า” มีผู้รู้สึกเย็นวาบบในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ รู้สึกตื่นตระหนกในใจ และกล่าวว่า “กองทัพตระกูลหม่ารึ? กองทัพตระกูลหม่าแห่งกองทัพส่วนกลาง สายตรงของแม่ทัพหม่าหมิงชุน”

“ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ของพวกเรามีเพียงตระกูลหม่าตระกูลเดียวแหละ” มีผู้เอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมา

ผู้คนจำนวนไม่น้อยมองตากันและกันลับๆ เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ บางคนถึงกับรู้สึกใจหายใจคว่ำ

กองทัพส่วนกลางเป็นหนึ่งในกองทัพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ แม้แต่ในยุคของฮ่องเต้ไท่ชิง กองทัพส่วนกลางก็เคยเป็นหนึ่งในกองทัพหลักของราชวงศ์โต่วเซิ่น ได้รับการปกป้องจากกองทัพภาคทั้งสี่

อีกทั้งหม่าหมิงชุนที่อยู่ในฐานะแม่ทัพก็เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง ได้รับการการเคารพรักจากกองทัพภาคต่างๆ กล่าวได้ว่าหม่าหมิงชุนมีบารมีมากพอที่จะทำให้ผู้คนทั่วหล้ายอมติดตาม

ทุกคนต่างก็รู้ว่า ในครั้งนั้นผู้นำให้หกกองทัพของราชวงศ์โต่วเซิ่นทรยศ และหันกลับมาปราบปรามฮ่องแต้องค์ใหม่ก็คือหม่าหมิงชุน

ขณะที่เจิงยี่ปิงคือหลานชายที่เป็นบุตรของพี่สาวน้องสาวของหม่าหมิงชุน เคยทำงานรับใช้อยู่ในกองทัพส่วนกลางมาก่อน ดังนั้น เวลานี้เกรงว่าที่เขามาหาฮ่องแต้องค์ใหม่คงไม่ใช่มาในฐานะขุนนางมาเฝ้าฮ่องแต้กระมัง

ในเวลานี้ สายตาผู้คนจำนวนไม่น้อยพลันตกไปอยู่บนตัวของเจิงยี่ปิง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *