Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2399 อะไรเรียกว่าปราศจากผู้ต่อกร

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2399 อะไรเรียกว่าปราศจากผู้ต่อกร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พลันที่ได้เห็นหลี่ชิเย่ลงมือก็พันธนาการระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิงเอาไว้ ทำให้ใจมารหวู่จู่ไม่สามารถกลืนกินฟ้าดินได้อีกเลย สร้างความสะเทือนหวั่นไหวให้กับทุกๆ คน

“เยี่ยมมาก คนโหดอันดับหนึ่ง นับจากนี้เป็นต้นไปสมควรเปลี่ยนชื่อเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแล้ว” ระดับบรรพบุรุษถึงกับชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง

นาทีนี้ทุกคนต่างก็รู้ว่า คนโหดอันดับหนึ่งเมื่อเปรียบกับเทพสงครามมังกรคชาธารแล้วไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่ากันเท่าไร เวลานี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแดนลัทธิพรรษแล้ว

“เจ้าใช้วิชามารอะไร” สีหน้าของมู่เส้าเฉินเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อเห็นหลี่ชิเย่พันธนาการจูเซียงหวู่ถิงอาไว้ได้โดยพลัน เนื่องจากยังคงคาดหวังให้ใจมารหวู่จู่กลืนกินจูเซียงหวู่ถิงจนสิ้น

เนื่องจากใจมารหวู่จู่ในขณะนี้ยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ต่อให้สามารถเกรียงไกรแดนลัทธิพรรษในขณะนี้ได้ แต่ก็ไม่สามารถเกรียงไกรในแดนลัทธิราชัน ดังนั้น มีเพียงให้ใจมารหวู่จู่กลืนกินจูเซียงหวู่ถิงไปจนสิ้น กลับคืนสู่ขั้นสูงสุดแล้วจึงสามารถปราศจากผู้ต่อกรในแดนลัทธิราชันได้

แต่ว่า เวลานี้พลันที่หลี่ชิเย่ลงมือก็ทำการพันธนาการฟ้าดินของจูเซียงหวู่ถิงเอาไว้ ทำให้ความหวังของมู่เส้าเฉินล้มเหลวในทันที แล้วจะให้เขายอมรับได้อย่างไรกันเล่า

“เจ้าคนไร้สมอง โลกนี้ไหนเลยมีวิชามารเช่นนี้” หลี่ชิเย่ส่ายหน้า ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “แม้ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์ดีเยี่ยมก็เปล่าประโยชน์ เมื่อไม่มีความรู้ที่เป็นเลิศ มันก็ไม่ได้ต่างไปจากคนไร้ความสามารถสักเท่าไร”

“เจ้า…” มู่เส้าเฉินพลันมีสีหน้าที่แดงก่ำ จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

โฮ่วววเวลานี้ใจมารหวู่จู่เห็นว่าไม่สามารถกลืนกินจูเซียงหวู่ถิงได้อีก เขาจึงร้องคำรามเสียงดังออกมาอย่างไม่พอใจ เสียงดังก้องฟ้าดิน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากต่อให้เขาพยายามดูดอย่างเต็มกำลัง จูเซียงหวู่ถิงก็ไม่หวั่นไหว ทั่วทั้งจูเซียงหวู่ถิงถูกพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนา แม้ว่าเขากับจูเซียงหวู่ถิงจะมีต้นกำเนิดเดียวกันก็ตาม ยังคงดูดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

หลี่ชิเย่ลอยตัวขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างช้าๆ เหนือใจมารหวู่จู่ กระบองหวู่เต้าในมือชี้ไปตามอารมณ์ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ควรจบสิ้นได้แล้ว”

ฮือออเวลานี้ใจมารหวู่จู่ส่งเสียงคำรามเสียงดังขึ้นมา คำรามด้วยความเกรี้ยวกราด พริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น ใจมารหวู่จู่พลันไม่เป็นรูปร่างของคนอีกต่อไป ความมืดมนที่ไม่มีสิ้นสุดพลันพุ่งเข้าโจมตีต่อหลี่ชิเย่

นาทีนี้ ใจมารหวู่จู่เสมือนดั่งกลับกลายเป็นโลกธาตุที่มืดมนทั้งหมด ความมืดมนที่ดั่งกระแสน้ำขึ้นลงที่เชี่ยวกรากพุ่งเข้าหาหลี่ชิเย่

ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างสะเทือนหวั่นไหวกับภาพที่อยู่ตรงหน้า เนื่องจากตัวของหลี่ชิเย่จมหายไปอยู่ท่ามกลางโลกที่มืดมนเช่นนี้แหละ ท่ามกลางความมืดมนนี้ไม่มีแสงสว่าง มีเพียงความมืดมนที่ไม่แปรเปลี่ยนตลอดกาล ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหลบหนีออกมาจากความมืดมนเช่นนี้ไปได้

นาทีนี้ความมืดมนที่ไม่สิ้นสุดพลันปกคลุมท่วมร่างหลี่ชิเย่จนจมมิด ในการต่อสู้ชี้ขาดใจมารหวู่จู่ไม่อาศัยกระบวนท่าใดๆ แม้แต่ ‘สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่’ ที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรมากที่สุดก็ไม่ใช้ เขาอาศัยความมืดมนท่วมปกคลุมหลี่ชิเย่จนจมมิดโดยตรง

ความมืดมนนั้นไม่มีสิ้นสุด แทรกเข้าไปได้ทุกที่ เหมือนว่าไม่มีที่ใดที่ไม่มีพวกมันอย่างนั้น ท่ามกลางความมืดมิดที่ไม่สิ้นสุดเช่นนี้ เหมือนหนึ่งเป็นวัฏจักรทุกชาติภพอย่างนั้น ไม่สามารถหลีกหนีไปจากความมืดมนนี้ไปได้ตลอดกาล ท่ามกลางโลกที่มีแต่ความมืดมนที่ไม่สิ้นสุดนี้ เหมือนว่ามองไม่เห็นแสงสว่างไปตลอดกาล

ในเวลานี้ ความมืดมนที่ไม่สิ้นสุดนี้ไม่เพียงท่วมหลี่ชิเย่จนจมมิดโดยพลันเท่านั้น ทั้งยังห่อหุ้มตัวหลี่ชิเย่เอาไว้อย่างหนาแน่นในทันที ปิดตายฟ้าดินทั้งหมด คล้ายไม่ต้องการให้หลี่ชิเย่ออกมาจากความมืดมนได้อย่างสิ้นเชิง

ใจมารหวู่จู่ เขาคือใจมารนะเนี่ย เขาก็คือสิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากจิตด้านมืดของหวู่จู่นั่นเอง เขาย่อมรู้ว่าการที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้นั้น ควรลงมือจากด้านใดจึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

การเผชิญกับผู้ที่แข็งแกร่งเฉกเช่นหลี่ชิเย่ เกรงว่า ‘สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่’ อะไรนั่นก็ไม่แน่ว่าจะได้ผล แต่ว่า หากความมืดมนรุกเข้าไปในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาก็ไม่แน่แล้วล่ะ จะอย่างไรเสียคนที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีช่องโหว่ เมื่อใดที่เขาสามารถรุกเข้าไปในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้ เมื่อไรที่เขาทำได้สำเร็จ เขาก็สามารถยึดครองอยู่ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ไว้ได้

เมื่อถึงขั้นนี้ เขาไม่เพียงสามารถพลิกกลับจากพ่ายแพ้เป็นฝ่ายชนะเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถอาศัยจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่มาทำให้ตนมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

‘จิตแห่งความมืดมน’ สีหน้าของเทพสงครามมังกรคชาธารเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว รับรู้วัตถุประสงค์ของใจมารหวู่จู่ เขาที่เป็นยอดฝีมือก็รับรู้ถึงอันตรายได้เช่นกัน

ถ้าหากปล่อยให้ใจมารหวู่จู่ทำได้สำเร็จจริงๆ ล่ะก็ เช่นนั้นแล้วเขาก็จะกลับกลายเป็นมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เมื่อนึกถึงข้อนี้แล้ว เทพสงครามมังกรคชาธารถึงกับร่างสั่นเทาทีหนึ่ง หากเป็นเช่นนี้จริง ไม่เพียงเป็นการจบสิ้นสำหรับจูเซียงหวู่ถิงของพวกเขา เกรงว่าแดนลัทธิพรรษก็จบสิ้นไปด้วย

“แย่แล้ว นี่เป็นการเข้าแทรกของความมืดมน คนโหดอันดับหนึ่งสามารถปกป้องจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไว้ได้หรือไม่นะ?” ทุกคนต่างรู้สึกตกใจยิ่งนักเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว

กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว พวกเขามักสามารถต้านรับกับศัตรูที่แข็งแกร่งมากกว่าตนเองได้อยู่เสมอ แต่ว่า บางครั้งมักไม่สามารถปกป้องจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของตนได้ เมื่อไรที่ไม่อาจปกป้องจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเอาไว้ ปล่อยให้ความมืดมนเข้าแทรก มันเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญอย่างยิ่ง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่าเจ้าคนแซ่หลี่ เจ้าตายแน่แล้ว ต่อให้เจ้าแข็งแกร่งมากกว่านี้ เมื่อไรที่ถูกความมืดมนเข้าแทรก เจ้าก็เป็นได้เพียงหุ่นเชิดของความมืดมนเท่านั้น อาศัยเจ้า เกรงว่าคงปกป้องจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ของตนไม่ได้” มู่เส้าเฉินที่มองเห็นหลี่ชิเย่ถูกห่อหุ้มด้วยความมืดมนเอาไว้อย่างแน่นหนา ถึงกับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา

ในสายตาของเขามองว่า เฉกเช่นหลี่ชิเย่ที่ได้รับความพึงพอใจตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้ ไม่สามารถปกป้องจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของตนได้อยู่แล้ว

“เสียดาย ทำให้เจ้าต้องผิดหวังเสียแล้ว ในโลกนี้ยังจะมีใครที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรแกร่งมากไปกว่าข้าได้อีก?” ในเวลานี้เอง ท่ามกลางความมืดมนปรากฏเสียงที่เอ้อระเหยลอยออกมา

ในเวลานี้เอง ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ประกายแต่ละสายแผ่ออกมาจากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ทะลุผ่านความมืดมน หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยนิด

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนถึงกับหวั่นไหว เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ที่ยืนด้วยท่าทีที่เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่ามกลางความมืดมนที่ไม่มีสิ้นสุด ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยนิด ไม่รู้ว่าระดับบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่ต้องใจหายใจคว่ำ

“จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แกร่งมาก” ระดับบรรพบุรุษจำนวนมากต่างรู้สึกหวั่นไหว เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ที่อยู่ท่ามกลางความมืดมนที่ไม่มีสิ้นสุดแล้วยังคงเหมือนเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านของตนอย่างนั้น ผู้ที่สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ อย่าว่าแต่ในแดนลัทธิพรรษเลย เกรงว่าแม้แต่แดนสามเซียนทั้งหมดก็คงมีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น

“สมควรจบสิ้นได้แล้ว” หลี่ชิเย่ยกกระบองหวู่เต้าในมือขึ้น ท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว กระบองหวู่เต้าพลันพวยพุ่งประกายที่เจิดจ้าที่สุดออกมา พริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงมังกรคำรามหงส์คำรณ มังกรแท้จริงทะยานฟ้า พยัคฆ์ขาวโดดข้ามลำน้ำระหว่างซอกเขา หงส์ร่อนอยู่บนท้องฟ้า…เหตุการณ์ประหลาดแต่ละอย่างได้ปรากฏขึ้นมา

ตูมท่ามกลางเสียงที่ดังกึกก้อง ปรากฏความเป็นมงคลของมังกรและช้าง พยัคฆ์และซวนหนีเดินคู่กันไป สัตว์ขนาดยักษ์แต่ละตัว สัตว์ปีกศักดิ์สิทธิ์แต่ละตัวผูกสัมพันธ์ กลับกลายเป็นดวงตราสัญลักษณ์ที่โบราณยิ่งขึ้นมา

‘ตราสัญลักษณ์สัมพันธ์’ เทพสงครามมังกรคชาธารร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพนี้ กระบวนท่านี้เขาแค่เคยได้ยินมาเท่านั้นเอง ในจูเซียงหวู่ถิงของพวกเขา กระบวนท่านี้นอกเหนือจากหวู่จู่แล้วไม่มีใครเป็น

เนื่องจากเล่าลือกันว่า กระบวนท่านี้คือเค้าโครงหลักของ ‘สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่’ และคือการวิวัฒนาการสุดท้ายของสิบสองกระบวนท่า กลายเป็นตราสัญลักษณ์สูงสุด แต่ทุกคนไม่เคยได้เห็นกระบวนท่านี้มาก่อน มันคงอยู่ในตำนานเท่านั้น

ปังเสียงดังสนั่นเกิดขึ้น ตราสัญลักษณ์ได้สยบลงมา ด้วยฐานะที่สูงสุด ปิดกั้นสังหารเด็ดขาด พลันทำให้ความมืดมนที่ไม่สิ้นสุดกลับคืนร่างเดิม และตกลงมาจากบนท้องฟ้าในพริบตาเดียว

ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น ภายใต้การสยบของตราสัญลักษณ์ ความมืดมนที่ดั่งคลื่นยักษ์ไม่มีสิ้นสุดเริ่มลุกไหม้ขึ้นมา

“ไม่…” นาทีนี้ ได้ปรากฏเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธจากใจมารหวู่จู่ขึ้นมาในที่สุด นี่เป็นการพูดออกมาเป็นคำแรกตั้งแต่เขาได้ปรากฎตัวขึ้นนับถึงขณะนี้

“สมควรหลอมกลั่นได้แล้ว” หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาว ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น มองเห็นตราสัญลักษณ์พวยพุ่งแสงตะวันที่งดงามไม่สิ้นสุดออกมา พริบตาเดียวนั่นเอง แสงตะวันที่งดงามไม่สิ้นสุดพลันวิ่งผ่านความมืดมน คล้ายน้ำมันที่ลุกไหม้อยู่บนผิวน้ำอย่างนั้น

ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น ควันดำที่ยิงตรงขึ้นไปเป็นระลอก แต่ว่าเวลานี้ความมืดมนไม่ได้ถูกเผาไหม้จนไม่เหลืออะไรอีกต่อไป แต่ถูกหลอมกลั่นกลายเป็นพลังแก่นฟ้าดิน กลับคืนสู่แหล่งต้นกำเนิด

เนื่องจากใจมารหวู่จู่ได้กลืนกินพลังแก่นฟ้าดินของผืนแผ่นดินไปเป็นล้านลี้ ขณะที่ความมืดมนถูกเผาทิ้งไปนั้น พลังแก่นฟ้าดินทั้งหมดก็ถูกหลอมกลั่น และกลับคืนสู่ต้นกำเนิดตามเดิม

ทุกคนมองดูภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยความหวั่นไหวยิ่งนัก แม้แต่ใจมารหวู่จู่ที่ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกร นาทีนี้ก็ไม่มีกำลังที่จะต่อต้านขัดขืน ถูกตราสัญลักษณ์ของหลี่ชิเย่สยบโดยตรง และถูกตบจนหล่นจากท้องฟ้าแล้วถูกหลอมกลั่นตัวเป็นๆ

สมควรทราบว่า ก่อนหน้านั้นใจมารหวู่จู่ยังเอาชนะเทพสงครามมังกรคชาธารมา แต่เวลานี้เมื่ออยู่ในมือของหลี่ชิเย่กลับไม่สามารถขัดขืนได้แม้แต่น้อย ได้แต่ถูกหลอมกลั่นไปเป็นๆ ช่างเป็นภาพที่สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนเหลือเกิน

ผู้ซึ่งดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งเช่นนี้ก็มีมีชะตากรรมที่ต้องถูกหลอมกลั่นสถานเดียว ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าหลี่ชิเย่นั้นมีความน่ากลัวเช่นใดแล้ว

ปุเสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อถึงท้ายที่สุด ความมืดมนทั้งหมดถึงหลอมกลั่น กลับคืนสู่ต้นกำเนิดเดิม มองเห็นพลังแก่นฟ้าดินที่ดั่งคลื่นยักษ์ในทะเลที่โหมสาดซัดอย่างไม่ขาดสาย เสมือนดั่งคลื่นยักษ์ที่ซัดเข้าใส่ท้องฟ้า

ปังเสียงดังกึกก้องขึ้นมา กระบองหวู่เต้าภายใต้การห่อหุ้มด้วยตราสัญลักษณ์ได้แทงทะลุพลังแก่นฟ้าดินที่ดั่งน้ำในมหาสมุทร เหมือนกระบองหวู่เต้าได้แทงจนพลังแก่นฟ้าดินทะลุอย่างนั้น

“เวลานี้แหละ ได้เวลานำทางย้อนกลับไปต้นกำเนิดได้แล้ว” หลี่ชิเย่ร้องกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา

“ข้ามาแล้ว” เทพสงครามมังกรคชาธารร้องเสียงดังขึ้นมา กระโดดเหินฟ้าขึ้นไป แอ่นอกรับกับกระบองหวู่เต้าที่พุ่งสังหารลงมาจากที่สูง

ในชั่วพริบตาเดียวนี้เอง เทพสงครามมังกรคชาธารได้หลับตาลงช้าๆ ดูสงบสุขอย่างยิ่ง เขารู้ว่าจุดจบของตนจะเป็นอย่างไร แต่ว่า สำหรับการเลือกเช่นนี้เขาจะไม่โทษใครและไม่เสียใจ

นี่คือภัยพิบัติที่เขาเป็นผู้ชักนำเข้ามา เขาจะต้องให้คำตอบกับจูเซียงหวู่ถิงทั้งหมด เขาต้องไปชดเชยความเจ็บปวดของผืนแผ่นดินแห่งนี้ มีเพียงทำเช่นนี้เขาจึงช่วยจูเซียงหวู่ถิงได้ และทำให้ใจของเขาได้รับความสงบสุข

มิฉะนั้นล่ะก็ ต่อให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไป เขาก็ต้องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางเงาของความรู้สึกผิด ดังนั้น เวลานี้จูเซียงหวู่ถิงต้องการเขา เขายินดีมอบชีวิตของตนออกมา

ฉึกเสียงหนึ่งดังขึ้น กระบองหวู่เต้าพลันทิ่มทะลุอกของเทพสงครามมังกรคชาธาร และทะลุออกกลางหลังของเขาในทันที

ในขณะนี้ กระบองหวู่เต้ากำลังตรึงพลังแก่นฟ้าดินของผืนแผ่นดินนับล้านลี้พุ่งโจมตีลงมา อานุภาพของมันยิ่งใหญ่เช่นใด และน่ากลัวเพียงใด

………………………

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *