Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1454

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1454 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1454 ความลับของเทพเจ้าแห่งทะเล

ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง เมื่อได้ยินคำพูดที่เย่อหยิ่งอวดดีของหลี่ชิเย่ ถ้าหากหลี่ชิเย่ไม่เห็นโอรสสวรรค์ปกสมุทรอยู่ในสายตาถือเป็นเรื่องปรกติ เพราะว่าจะอย่างไรเสีย เขาก็คือคนที่สามารถแย่งชิงชะตาฟ้ากับเมิ่งเจิ้นเทียนได้

แต่ว่า พลันที่เขาพูดออกมา แม้แต่จักรพรรดิหอยสังข์ก็กลายเป็นพวกมีแต่ชื่อเสียงจอมปลอม เกรงว่าคงไม่มีคำพูดใดที่เย่อหยิ่งอวดดีมากไปกว่านี้อีกแล้ว

จักรพรรดิหอยสังข์ถึงกับฝืนยิ้มออกมา ก่อนที่จะได้พบกับหลี่ชิเย่ นางได้ยินกิตติศัพท์ต่างๆ ของหลี่ชิเย่มานานแล้ว ความเย่อหยิ่งอวดดีและพาลของหลี่ชิเย่นางได้ยินมาแล้วแต่ เมื่อได้พบกับตัวจริงของหลี่ชิเย่แล้ว จึงได้รู้ว่าเขาช่างเย่อหยิ่งอวดดีและพาลเช่นใด

ราชินีเทพเจ็ดสมุทรนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “ข้าจะต้องได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแน่! ข้าสามารถแผ้วถางเส้นทางนี้ได้แน่” ความหมายของนางชัดเจนมาก นางได้ปฏิเสธความหวังดีของหลี่ชิเย่แล้ว

“ข้ารู้ มีบรรพบุรุษเจ็ดคุ้มครองให้กับเจ้า บวกกับความสามารถและพรสวรรค์ของตน การที่จะเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลของเจ้ามีโอกาสสูงมาก” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่งและกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย

“แต่ว่า การเชื่อมเจ็ดกระบวนท่าเข้าด้วยกัน เจ้าเป็นได้แค่เทพเจ้าแห่งทะเล เจ้าไม่รู้สึกว่าเจ้าขาดความทะเยอทะยานมากเกินไปรึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ต่อให้ได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้ว เจ้าสามารถฝึกฝนเจ็ดกระบวนท่าจนถึงขั้นชำนาญ แต่เจ้าไม่สามารถแซงล้ำหน้าปฐมบรรพบุรุษของเจ้าไปได้”

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ หลี่ชิเย่หยุดนิดหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ฐานะของเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อในหอสัตตะยุทธของพวกเจ้า กระทั่งปีศาจทะเลทั้งหมดก็อยู่ในมาตรฐานที่สูงมาก คือจะล้ำหน้าเขาเกรงว่าคงยากมากๆ อย่างน้อยที่สุดข้ายังมองไม่เห็นสิ่งที่จะทำให้ล้ำหน้าเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อบนตัวของเจ้า ระดับขั้นที่เจ้าสามารถทำได้ตลอดชั่วชีวิตของเจ้านั้น หากสามารถก้าวถึงระดับของเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อ เกรงว่าก็คงจะเป็นที่สุดของเจ้าแล้ว”

“ใช่ว่าข้าดูถูกเจ้า ตามความเห็นของข้า ชั่วชีวิตของเจ้าระดับที่เจ้าสามารถไต่ไปถึงอย่างมากก็คือระดับของเทพเจ้าแห่งทะเลเซินหลัน” หลี่ชิเย่หลุดหัวเราะออกมา

คำพูดเช่นนี้ทำให้ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับนิ่งเงียบ นางเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในตนเอง หาใช่คนที่มองว่าตัวเองไร้ค่าอย่างเด็ดขาด สำหรับอนาคต นางมั่นใจว่าสามารถกลายเป็็นเทพเจ้าแห่งทะเลได้แน่ ขอเพียงนางไม่ถูกผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นจักรพรรดิหอยสังข์ลอบสังหารเสียก่อน

แต่ว่า ถ้าหากหลังจากที่นางได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้ว ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด แล้วสามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อ ปฐมบรรพบุรุษของหอสัตตะยุทธนั้น นางไม่มีความมั่นใจจริงๆ

เหมือนอย่างที่หลี่ชิเย่ได้พูดเอาไว้ กรณีของเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อ อย่าว่าแต่หอสัตตะยุทธของพวกเขาเลย กระทั่งเผ่าปีศาจทะเลทั้งหมด เขาก็ครองอยู่ในระนาบเดียวกัน เป็นระดับที่ไม่สามารถก้าวล้ำไปได้

ควรจะทราบว่า เคยมีตำนานเล่าว่า แม้ในมือของเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อไม่มีทวนสามง่าม ก็สามารถตีเสมอกับราชันเซียนมู่จั๋วที่อยู่ในยุคเดียวกันได้ เรียกได้ว่า เทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อคือผู้ดำรงอยู่ใยฐานะสามารถฝึกเคล็ดเจ็ดกระบวนท่าจนถึงระดับสูงสุด

เนื่องเพราะเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อประสบความสำเร็จที่สูงส่งเช่นนี้ เขาจึงถูกเผ่าปีศาจทะเลมองว่าเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลที่แข็งแกร่งที่สุด กระทั่งถูกเผ่าปีศาจทะเลยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลอันดับหนึ่ง

ต่อมาภายหลัง เทพเจ้าแห่งทะเลเจินหวู่ ชั่วชีวิตของเขานับว่ามีความปราดเปรื่องน่าทึ่งยิ่งนัก เคยมีผลงานการสู้รบที่สูงสุด กระทั่งสามารถตีเสมอราชันเซียนหมิงเหรินได้ ความสำเร็จชั่วชีวิตของเชานั้น สุดท้ายแล้ว เผ่าปีศาจทะเลเห็นว่าแค่สามารถเคียงบ้าเคียงไหล่กับเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อเท่านั้นเอง

ควรจะทราบว่า ราชันเซียนหมิงเหรินคือราชันเซียนคนแรกของยุคเหล่าราชัน เคยบุกเบิกยุคสมัยที่สุดยอดมากขึ้นมา

“ชั่วชีวิตของเจ้าไม่สามารถแซงหน้าปฐมบรรพบุรุษของเจ้าได้อยู่แล้ว” จังหวะที่ราชินีเทพเจ็ดสมุทรกำลังอยู่ในอาการนิ่งเงียบ หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวออกมา

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ ราชินีเทพเจ็ดสมุทรกล่าวขึ้นมาอย่างช้าๆ ว่า “เช่นนั้นท่านจะช่วยข้าอีกแรงได้อย่างไร? หรือว่าท่านสามารถช่วยให้ข้าก้าวข้ามที่สุดของข้าไปได้ กลายเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าอย่างนั้นรึ?”

“หากข้าลงมือ เจ้าต้องได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแน่นอน เป็นเรื่องที่ปราศจากข้อสงสัย” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ที่ข้าเลือกเจ้า นอกเหนือจากที่เจ้าเป็นทายาทของเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อแล้ว ที่สำคัญมากกว่าก็คือ เจ้ามีความเชื่อมั่น มีจิตที่แข็งดั่งหินดวงหนึ่ง แต่ว่า หากเจ้าคิดจะแซงล้ำหน้าปฐมบรรพบุรุษของเจ้า เส้นทางนั้นยังคงต้องเจ้าเป็นคนก้าวเดินออกมา”

“แล้วมันมีข้อแตกต่างตรงไหน?” ราชินีเทพเจ็ดสมุทรกล่าวว่า “หากไม่มีจักรพรรดิหอยสังข์ลอบสังหารข้า ข้ามั่นใจตนเองว่าสามารถเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลได้ หากบรรพบุรุษเจ็ดกลับสู่ยุทธภพ ข้าคงไม่ต้องหวาดหวั่นต่อการลอบสังหารของจักรพรรดิหอยสังข์แล้ว!”

“อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่หลุดหัวเราะออกมา กล่าวว่า “เห็นทีสิ่งที่เจ้ารู้นั้นมีน้อยนิดเหลือเกิน ตาเฒ่าเจ็ดนี่ปิดปากเงียบดีจริงๆ ดูท่าเขามีความกังวลอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว”

“ขอพี่หลี่ได้โปรดชี้แนะทางสว่างให้ด้วย” ราชินีเทพเจ็ดสมุทรเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ คำพูดนี้นางพูดได้จริงใจมาก เพราะคำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจ

“เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่า เพราะอะไรปีศาจทะเลของพวกเจ้าเป็นได้แค่เทพเจ้าแห่งทะเล ทั้งที่อาศัยอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันในแดนวิญญาณสวรรค์ ทำไมปีศาจทะเลพวกเจ้าจึงไม่สามารถเหมือนเช่นเผ่าวิญญาณเทพกลายเป็นราชันเซียน หรือว่าเป็นความจริงรึที่เผ่าวิญญาณเทพเป็นลูกรักของสวรรค์อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาอย่างช้าๆ

ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับหวั่นไหวเมื่อได้ยินเช่นนี้ ความจริงแล้วปัญหาข้อนี้นางเคยมีอยู่ในใจ เพียงแต่นางไม่สามารถหาคำตอบได้ ดังนั้นจึงไม่ไปสืบเสาะปัญหาข้อนี้

“เจ้าเคยคิดบ้างไหม เพราะอะไรเทพเจ้าแห่งทะเลพวกเจ้าจำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากทวนสามง่าม!” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “แล้วทวนสามง่ามมาจากที่ใด ทวนสามง่ามได้ซ่อนความลับอะไรเอาไว้กันแน่?”

การย้อนถามของหลี่ชิเย่ทำเอาราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ค่อยจะออก

“ปัญหาข้อนี้ รอให้ข้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลเสียก่อน ก็จะไปสืบเสาะหาความชัดเจนเอง” สุดท้าย ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง และกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น

การที่นางพูดคำๆ นี้ออกมานั้น ภายในใจของนางได้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วจริงๆ ว่า หากนางได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลจริงล่ะก็ นางจะต้องทำปัญหานี้ให้กระจ่างอย่างแน่นอน

“รอจนกว่าเจ้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้ว ทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะและส่ายหน้ากล่าวว่า “ครั้งนั้น ปฐมบรรพบุรุษพวกเจ้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน เสียดาย หลังจากที่ได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้ว ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว”

ภายในใจของราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับเต้นตูมตามขึ้นมา เมื่อได้ยินคำพูดลักษณะเช่นนี้ นางถึงกับจ้องมองที่หลี่ชิเย่กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “พูดแบบนี้ แสดงว่าปฐมบรรพบุรุษกระทั่งเทพเจ้าแห่งทะเลอีกสองคนของหอสัตตะยุทธ ก็เคยสืบเสาะความลับที่อยู่ภายในนี้มาแล้วสิ”

“ถูกต้อง พวกเขาล้วนแล้วแต่สืบเสาะเรื่องนี้มา ความจริงแล้ว เคยมีเทพเจ้าแห่งทะเลจำนวนไม่น้อยที่สืบเสาะเรื่องนี้มาก่อน” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ความลับที่เกี่ยวพันในนั้น ในใจของบรรพบุรุษเจ็ดเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เพียงแต่เขาปากแข็งมาก ขณะที่เจ้ายังก้าวไม่ถึงระดับนั้น เขาก็จะไม่บอกกล่าวความลับที่อยู่ข้างในให้เจ้าได้รู้”

ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับนิ่งเงียบพักหนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ แน่นอน นางไม่ได้โทษบรรพบุรุษเจ็ด การที่บรรพบุรุษเจ็ดปิดเป็นความลับย่อมมีเหตุผล เป็นเพราะเขาหวังดีกับนางจึงได้ทำเช่นนี้

“บางทีหอสัตตะยุทธของพวกเราอาจมีหนทางแก้ไขแล้วก็เป็นได้!” สุดท้าย ราชินีเทพเจ็ดสมุทรได้เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ราชินีเทพเจ็ดสมุทรยังคงมั่นใจในหอสัตตะยุทธของตน นางมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมกับบรรพบุรุษของตนเสมอ

“ใช่ มีหนทางแก้ไข” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “ก็เหมือนดั่งเช่นวิธีการแก้ไขแบบตาเฒ่าบรรพบุรุษเจ็ดของพวกเจ้าแบบนั้น เกี่ยวดองสมรสกับข้า รอให้ข้าได้เป็นราชันเซียนแล้ว เจ้ากับข้าสองคนแต่งงานกัน อาศัยสายเลือดดึกดำบรรพ์ของข้าให้กำเนิดทายาทที่แข็งแกร่ง จากนั้นตัดรากเพื่อให้ทายาทได้หลุดออกจากการพันธนาการด้านสายเลือด”

ราชินีเทพเจ็ดสมุทรรู้สึกได้ถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าว เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ เรื่องนี้หอสัตตะยุทธของพวกเขาได้มีการประชุมหารือกันก่อนหน้าแล้ว บรรพบุรุษเจ็ดเคยเรียกนางไปพบและคุยกับนาง ความจริงแล้ว นางได้ตอบตกลงเห็นด้วยกับเรื่องข้อเสนอเกี่ยวดองสมรสไปแล้ว

แต่ว่า เรื่องดังกล่าวออกจากปากของหลี่ชิเย่ในเวลานี้มันไม่เหมือนกัน แม้ว่านางดูจะเป็นผู้หญิงที่สง่างามเปิดเผยตรงไปตรงมา แต่ก็ต้องมีความเขินอายอยู่บ้างเหมือนกัน

“แต่ สิ่งที่ข้าพูดถึงกับสิ่งที่บรรพบุรุษพวกเจ้าคิดมันเป็นคนละเรื่อง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “ข้าสามารถบอกเจ้าเกี่ยวกับความเร้นลับของทวนสามง่ามได้บ้าง และข้าก็สามารถถ่ายทอดวิธีการสยบสายเลือดของตนเองให้กับเจ้า รอให้เจ้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้ว หากเจ้าสามารถกุมความลึกล้ำพิสดารเหล่านี้ได้ เจ้าจะต้องขอบคุณข้าอย่างยิ่ง”

“ความเร้นลับของทวนสามง่าม?” ราชินีเทพเจ็ดสมุทรเอ่ยอย่างช้าๆ ว่า “ข้าไม่ปฏิเสธว่าพี่หลี่นั้นคือบุคคลที่สุดยอดเป็นหนึ่งไม่มีสอง ความตื้นลึกหนาบางของพี่หลี่สุดจะหยั่งรู้ได้อย่างละเอียด แต่ทว่า เกี่ยวกับความเร้นลับของทวนสามง่ามนั้น เกรงว่าสิ่งที่พี่หลี่มีอยู่คงไม่เท่าหอสัตตะยุทธของพวกเรา”

คำพูดของราชินีเทพเจ็ดสมุทรก็ใช่ว่าจะสามหาวอวดดี สิ่งที่นางพูดนั้นคือความจริง หอสัตตะยุทธของพวกเขาเคยให้กำเนิดเทพเจ้าแห่งทะเลถึงสามคน ครอบครองทวนสามง่ามมาถึงสามสมัย เรียกได้ว่าบรรพบุรุษหอสัตตะยุทธของพวกเขาได้ทำการศึกษาทวนสามง่ามมาแล้วอย่างละเอียด

“คำพูดนี้ข้าไม่ปฏิเสธ” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “เสียดาย ข้าสามารถควบคุมทวนสามง่ามได้ดีกว่าหอสัตตะยุทธของพวกเจ้าเสียอีก เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ ต่อให้เจ้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้วก็ตาม หากเจอะเจอกับข้า แล้วข้าต้องการให้ทวนสามง่ามที่อยู่ในมือเจ้าไปกับข้าเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้ สิ่งนี้ไม่เพียงแค่เข้าใจในตัวของทวนสามง่ามเท่านั้น ข้างในนั้นยังเกี่ยวพันถึงเรื่องของสายเลือด”

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า พวกเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อของหอสัตตะยุทธได้ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับทวนสามง่ามได้ละเอียดมา แต่ทว่า ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง แม้แต่เทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อก็จนด้วยเกล้า

ในอดีต หลี่ชิเย่เองก็เคยได้ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับทวนสามง่ามมาแล้วอย่างละเอียด มิฉะนั้นล่ะก็เขาคงไม่สามารถสร้างเลียนแบบทวนสามง่ามที่มีอานุภาพมากขึ้นมาได้

กล่าวอย่างไม่ต้องเกรงใจ ในจำนวนคนที่มีชีวิตยกเว้นทะเลกระดูก ไม่มีใครเข้าใจทวนสามง่ามมากไปกว่าเขาอีกแล้ว ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ เขามีวิธีการควบคุมที่สุดยอดมากชุดหนึ่ง ซึ่งไม่เพียงเพราะเขาได้ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับทวนสามง่ามมาอย่างละเอียดเท่านั้น แต่เขายังได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสายเลือดของเผ่าปีศาจทะเลมาอย่างละเอียดอีกด้วย

คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้ราชินีเทพเจ็ดสมุทรต้องนิ่งเงียบ นางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลี่ชิเย่ได้กุมความลับอะไรเอาไว้กันแน่

“พี่หลี่คงต้องมีเงื่อนไขกระมัง” ในที่สุด ราชินีเทพเจ็ดสมุทรได้เอ่ยขึ้นมาอย่างช้าๆ

“ถูกต้อง ข้ามีเงื่อนไข” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเรียบเฉยว่า “ไม่เคยมีของที่ได้มาง่ายๆ ในไต้หล้าอยู่แล้ว! คิดจะได้มันมาก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”

“ตกลง ไม่ทราบว่าพี่หลี่ต้องการอะไร? เจ็ดกระบวนท่ารึ? ”ราชินีเทพเจ็ดสมุทรกล่าวอย่างช้าๆ

“เจ้าจะดูถูกข้ามากเกินไปเสียแล้ว” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมา และกล่าวว่า “สาวน้อย เจ้าไม่เข้าใจข้าเลยแม้แต่น้อย พูดกันตามตรงเลยนะ ถ้าหากข้าต้องการเจ็ดกระบวนท่านั้นจริงล่ะก็ ข้าไม่จำเป็นต้องเจรจากับหอสัตตะยุทธพวกเจ้า หากข้าต้องการเอามันมาให้ได้ ข้าจะไปที่หอสัตตะยุทธพวกเจ้า แล้วแย่งเจ็ดกระบวนท่ามาจากมือ ง่ายๆ แค่นี้แหละ”

“ก่อนหน้านั้นที่ข้าเจรจาว่าต้องการเจ็ดกระบวนท่าเป็นเพียงให้เกียรติแก่บรรพบุรุษพวกเจ้าเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่หัวเราะตามอารมณ์ และกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการเข่นฆ่าหอสัตตะยุทธพวกเจ้าจนเลือดนองเป็นทะเล อย่างน้อยที่สุดหอสัตตะยุทธพวกเจ้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง”

………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *