Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 1658 ภัยพิบัติมาเยือน

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 1658 ภัยพิบัติมาเยือน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1658 ภัยพิบัติมาเยือน
ในเวลานี้ เสียงร้องน่าเวทนาดังก้องฟ้าดิน สำนักเจ้าลัทธิแห่งหนึ่งที่มีศิษย์จำนวนนับหมื่นคน แต่เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็ถูกพายุทอร์นาโดสีดำฉีกร่างจนแหลกเหลว ตายอย่างไร้ที่ฝัง!

ผู้ที่สามารถมองเห็นเช่นนี้ต่างขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัวยิ่งนัก นี้มันคือพลังอะไรกันแน่ ถึงกับสามารถทำลายสำนักเจ้าลัทธิแห่งหนึ่งได้ในพริบตา ออกจะสยองมากเกินไปแล้วกระมัง

“ตูม” เสียงดังสนั่นดังขึ้น พายุทอร์นาโดสีดำที่น่ากลัวพุ่งโจมตีลงมา พลันพุ่งทะลุลงไปในพื้นที่บรรพชนของสำนักเจ้าลัทธิแห่งนี้ จากนั้น เกิดเสียงดัง “ตูม ตูม ตูม” ดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย สร้างความสะเทือนหวั่นไหวไปทั้งพื้นดิน คลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัด เหมือนหนึ่งวันสิ้นโลกได้มาถึงแล้วอย่างนั้น

ภายในระยะเวลาอันสั้น พายุทอร์นาโดสีดำไม่เพียงทะลุทะลวงพื้นที่บรรพชนเท่านั้น มันยังพุ่งทะลุเข้าไปยังส่วนที่ลึกของพื้นดินเข้าไปยังเส้นชีพจรพื้นดิน

“ตูม ตูม ตูม” เสียงดังตูมตามที่เป็นจังหวะจะโคนดังขึ้นไม่ขาดสาย ยามเมื่อพายุทอร์นาโดสีดำนี้ได้มุดลงไปถึงเส้นชีพจรพื้นดินแล้ว มันกลับมีท่าทีที่อ่อนโยนขึ้น ไม่บ้าคลั่งเหมือนเดิมอีกต่อไป คล้ายดั่งเป็นสัตว์ดุร้ายที่ถูกทำให้เชื่องอย่างนั้น เส้นชีพจรพื้นดินเสมือนหนึ่งเป็นสายโซ่ขนาดยาวที่พันธนาการพายุทอร์นาโดสีดำนี้เอาไว้อย่างนั้น

ภายหลังจากที่พายุทอร์นาโดสีดำมุดเข้าไปถึงเส้นชีพจรพื้นดินแล้ว หางของเจ้าพายุร้ายที่ลากยาวโอนเอนไปมาอยู่บนท้องฟ้า เหมือนดั่งว่าวที่ล้อลมส่ายไปส่ายมาตามลมอย่างนั้น

“นี่มันคืออะไร?” ผู้คนจำนวนมากมองดูด้วยความหวาดกลัวจนขนลุกซู่ ผู้คนจำนวนมากหวาดผวาจนสั่นเทา เมื่อเห็นพายุทอร์นาโดสีดำถึงกับทำลายสำนักเจ้าลัทธิหนึ่งภายในพริบตาได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากได้แต่มองหน้ากันไปมา ทุกคนต่างไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ตูม ตูม ตูม” เกิดเสียงดังตูมตามขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่ผู้คนทั้งหมดกำลังอึดอัดกับเรื่องที่ว่าเจ้าพายุทอร์นาโดสีดำคืออะไรกันแน่นั้น ทันใดนั้น บนท้องฟ้าได้ปรากฎพายุทอร์นาโดสีดำอีกสายหนึ่งที่ทิ้งตัวลงมาอีกครั้ง ทำลายท้องฟ้าจนแหลกลาญและพุ่งตรงลงมา จากนั้นวิ่งเข้าหาเมืองหลวงของแคว้นเจ้าลัทธิแห่งหนึ่ง

“ฆ่า” บรรดาศิษย์ทั้งหมด และยอดฝีมือของแคว้นเจ้าลัทธิแห่งนั้นต่างคำรามเสียงดังและเหินฟ้าขึ้นไป เพื่อรับการโจมตีของพายุทอร์นาโดสีดำที่พุ่งเข้ามา กระทั่งจักรพรรดิเทพที่เป็นบรรพบุรุษอาวุโสของแคว้นเจ้าลัทธิแห่งนี้ได้บุกไปอยู่ด้านหน้าสุด หวังจะอาศัยกระบวนท่าพิฆาตที่อหังการและดุดันที่สุดของตนรับกับการโจมตีของพายุทอร์นาโดสีดำเอาไว้!

เสียง “ปัง” ดังขึ้น ภายใต้การเข้าโจมตีของพายุทอร์นาโดสีดำนี้ กำแพงเมืองที่ตั้งตระหง่านยิ่งของเมืองหลวงแคว้นเจ้าลัทธิแห่งนี้ถึงกับแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี ต่อให้เป็นแนวป้องกันที่ยาวนับหมื่นลี้ก็ถูกทะลุทะลวงไปทันที เสมือนหนึ่งสร้างขึ้นด้วยกระดาษอย่างนั้น ไม่สามารถรับเอาไว้ได้เลย

“อ๊ากก” ภายใต้การคำรามอย่างบ้าคลั่งของพายุทอร์นาโดสีดำ เสียงร้องน่าเวทนาดังขี้นสลับไม่ขาดสาย ศิษย์ทั้งหมดของแคว้นเจ้าลัทธิแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ถูกพายุทอร์นาโดสีดำฉีกร่างจนแหลกละเอียดกลายเป็นหมอกเลือด เป็นการตายอย่างไร้ที่ฝัง

“อ๊ากก” เสียงร้องที่แหลมและเศร้ารันทดของจักรพรรดิเทพดังก้องอยู่บนท้องฟ้าไม่ขาด แม้แต่จักรพรรดิเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของแคว้นเจ้าลัทธิแห่งนี้ก็รับมือพายุทอร์นาโดสีดำไม่ได้เลย ความแรงของลมได้พุ่งทะลุอกและฉีกร่างของเขาจนแหลกละเอียด เห็นหมอกเลือดที่ฟุ้งกระจาย

ท่ามกลางเสียงร้องแหลมทีเศร้ารันทดเปี่ยมด้วยความรู้สึกที่ไม่ยอมรับและสิ้นหวังของจักรพรรดิเทพ ต่อให้จักรพรรดิเทพที่แข็งแกร่งเช่นเขายังคงดูเล็กจิ๋วเหลือเกินในเวลานี้ ยังคงไม่สามารถปกบ้านป้องเมืองของตนเอาไว้ได้ ไม่สามารถปกป้องลูกหลานของตนเอาไว้ จุดจบเช่นนี้สำหรับระดับจักรพรรดิเทพคนหนึ่งช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ

“ตูม” เศษดินเศษหินปลิวกระจายขึ้นท้องฟ้า ท้ายที่สุด พายุทอร์นาโดสีดำนี้ได้พุ่งเจาะทะลุพื้นที่บรรพชนของแคว้นเจ้าลัทธิแห่งนี้ มุดลงไปถึงเส้นชีพจรใต้ดิน เฉกเช่นเดียวกันกับพายุทอร์นาโดสีดำลูกแรกที่พอมุดเขาไปถึงเส้นชีพจรใต้ดินแล้วก็กลับกลายเป็นอ่อนโยนยิ่งนัก และลากหางที่ยาวเหยียดลอยอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” การปรากฏพายุทอร์นาโดสีดำลูกแรก ผู้คนจำนวนมากบางทียังเข้าใจว่ามันคืออุบัติเหตุ หรือเป็นภัยพิบัติจากสวรรค์ทำนองนั้น แต่ว่า เมื่อเกิดพายุทอร์นาโดสีดำซ้ำเป็นลูกที่สอง ทุกคนต่างรู้แล้วว่า นี่มันไม่ใช่อุบัติเหตุหรือภัยพิบัติจากสวรรค์แล้ว แต่เกิดจากการกระทำของคน!

แต่ทว่า ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าพายุทอร์นาโดสีดำเป็นฝีมือของใคร การที่พายุทอร์นาโดสีดำนี้ทำการทำลายสำนักแต่ละแห่งมีจุดประสงค์เช่นใดกันแน่?

“ตูม” บังเกิดเสียงทำลายท้องฟ้าจนแหลกละเอียดอีกครั้งขณะที่จิตใจของผู้คนในมหาสมุทรอุดรกำลังระส่ำ พายุทอร์นาโดสีดำลูกที่สามได้พุ่งลงมาอีกครั้ง และมุ่งไปยังสายสำนักราชันเซียนแห่งหนึ่ง

“ท้าทายต่อสายสำนักราชันเซียนนะเนี่ย!” ผู้คนจำนวนมากรู้สึกตระหนกเมื่อเห็นพายุทอร์นาโดสีดำพุ่งเข้าโจมตีสายสำนักราชันเซียนแห่งหนึ่งโดยพลัน

“ท้าทายต่อสายสำนักราชันเซียนเลยนะ!” ผู้คนจำนวนมากรู้สึกตกใจ หลายคนจ้องมองตากันและกัน เมื่อเห็นพายุทอร์นาโดสีดำที่พุ่งเข้าโจมตีต่อสายสำนักราชันเซียนแห่งหนึ่ง ถึงกับพึมพำออกมา

“แว้งค์” ขณะที่พายุทอร์นาโดสีดำพุ่งเข้าโจมตีสายสำนักราชันเซียนแห่งนั้น ปรากฎว่าสำนักดังกล่าวได้เปิดระบบป้องกันภัยขึ้นทันทีเพื่อต้านการโจมตีของพายุทอร์นาโดสีดำนี้เอาไว้

“ตูม ตูม ตูม” พายุทอร์นาโดสีดำได้พัดเข้าโจมตีแนวป้องกัน แรกทีเดียวดูเหมือนถูกต้านเอาไว้ได้ แต่ หลังจากที่พายุทอร์นาโดสีดำพัดเข้าโจมตีซ้ำๆ สามครั้งติดต่อกัน แนวป้องกันระดับราชันเซียนก็ไม่สามารถต้านเอาไว้ได้ สุดท้าย ได้ยินเสียงดัง “ปัง” พายุทอร์นาโดสีดำได้ทำลายระบบป้องกันชั้นราชันเซียนได้สำเร็จ พุ่งตรงไปโจมตีต่อพื้นที่บรรพชนของสายสำนักราชันเซียน

“อัญเชิญปรมาจารย์สำแดงเดช! ในห้วงแห่งความเป็นความตาย บรรดาบรรพบุรุษของสายสำนักราชันเซียนแห่งนี้อาศัยเลือดวัฒนะทำการอธิษฐาน โดยมีศิษย์ของสำนักคุกเข่าร้องไห้กระซิกด้วยความเศร้ารันทดยิ่งนัก เพื่ออธิฐานจิตกับปรมาจารย์ของตนให้สำแดงเดชเพื่อปกป้องสำนัก

“ตูม” ภายใต้การอธิฐานด้วยเลือดวัฒนะของบรรดาบรรพบุรุษ และศิษย์จำนวนนับพันนับหมื่นที่ร้องไห้ต่อกระซิก ราชันเซียนของสายสำนักราชันเซียนแห่งนี้ได้สำแดงเดชขึ้น จิตที่ยึดติดของราชันเซียนพลันปะทุขึ้นมา ปรากฏร่างเงาที่สูงใหญ่ยิ่งบนท้องฟ้าเหนือสายสำนักราชันเซียนแห่งนี้ มือขนาดใหญ่ที่ค้ำยันฟ้าได้เข้าขวางพายุทอร์นาโดสีดำที่บุกโจมตีเข้ามา

“ปรมาจารย์ปราศจากผู้ต่อกร” บรรดาศิษย์ของสำนักถึงกับโห่ร้องขึ้นด้วยความยินดี เมื่อมองเห็นจิตที่ยึดติดของราชันเซียนอาศัยฝ่ามือขนาดใหญ่ปิดกั้นฟ้า ขวางพายุทอร์นาโดสีดำที่พุ่งโจมตีลงมา ในห้วงอันตรายยังคงได้ปรมาจารย์ของพวกเขาคอยปกป้องพวกเขาเอาไว้

“ราชันเซียนย่อมเป็นราชันเซียน” เมื่อผู้คนจำนวนมากได้มองเห็นภาพนี้แล้วถึงกับกล่าวทอดถอนใจออกมาว่า “ธาตุแท้ภายในของราชันเซียนอย่างไรเสียก็หาใช่สำนักเจ้าลัทธิทั่วไปสามารถเทียบเคียงได้ การได้รับการปกป้องคุ้มครองจากราชันเซียนย่อมเหนือกว่าสิ่งอื่น!”

“ตูม” เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วฟ้าดิน ขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังดีอกดีใจกับการที่จิตยึดติดของราชันเซียนสามารถต้านการโจมตีของพายุทอร์นาโดสีดำเอาไว้ได้นั้น ทันใดนั้น ท่ามกลางพายุทอร์นาโดสีดำกลับปรากฏอานุภาพราชันเซียนแต่ละสายที่พุ่งโจมตีลงมา เสมือนหนึ่งเป็นการลงมือของราชันเซียนแต่ละคนอย่านั้น อานุภาพราชันเซียนทุกสายล้วนแล้วแต่กลับกลายเป็นหอกยาวที่แหลมคมและพาลอันตรายที่สุดในโลก พุ่งลงมาสู่เบื้องล่าง สามารถทะลุทุกสิ่งทุกอย่างได้

“ปัง” ภายใต้การโจมตีของอานุภาพราชันเซียนที่พุ่งลงมา พลันพุ่งทะลุร่างเงาที่สูงตระหง่านของราชันเซียน ทำลายจิตที่ยึดติดของราชันเซียนได้โดยพลัน

“ไม่” บรรดาลูกหลานของสายสำนักราชันเซียนแห่งนี้ถึงกับร้องเสียงแหลมดังออกมา เมื่อเห็นจิตที่ยึดติดของปรมาจารย์ตนถูกทำลาย ท่ามกลางเสียงร้องที่แหลมดังนี้เปี่ยมด้วยความสิ้นหวัง เนื่องจากแม้แต่จิตยึดติดของปรมาจารย์ยังถูกทำลาย พวกเขาคงมีแต่ความตายสถานเดียวเท่านั้น!

“เป็นไปไม่ได้” บรรดาผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากของมหาสมุทรอุดรเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้แล้ว ตกใจจนใบหน้าขาวซีด แม้แต่จิตที่ยึดติดของราชันเซียนยังถูกทำลาย นี่มันเป็นพลังที่ทรงพลังและน่ากลัวเพียงใด

ผู้ที่สามารถมองเห็นภาพนี้ได้ต่างรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่ เวลานี้ถึงกับตื่นตะลึงอยู่อย่างนั้น พวกเขารู้แล้วว่าจะต้องเผชิญกับศัตรูที่น่ากลัวเพียงใด

ไม่ต้องสงสัย เมื่อพายุทอร์นาโดสีดำทำลายสายสำนักราชันเซียนแห่งนี้แล้ว ได้โจมตีทะลุและมุดลงใต้ดินไปถึงเส้นชีพจร โดยคงหางของพายุที่ยาวเอาไว้บนท้องฟ้า

“เป็นการลงมือของใครกันนะ?” นาทีนี้ทุกคนเข้าใจแล้วว่ามันไม่ใช่ภัยพิบัติอะไร และก็ไม่ใช่อุบัติเหตุ เป็นเป็นการกระทำของคน ทั้งยังมาด้วยวัตถุประสงค์เพื่อต้องการทำลายแต่ละสำนักเหล่านี้

ขณะที่เกิดเหตุนี้ขึ้นมา พวกของหลี่ชิเย่ที่อยู่เมืองหมิงจูได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด มองเห็นพายุทอร์นาโดสีดำแต่ละลูกที่พุ่งโจมตีลงมาและทำลายสำนักแต่ละแห่ง หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มเฉยเมยขึ้นมา

“พรรคเซียนเหินต้องการอาศัยชีพจรใต้ดินของมหาสมุทรอุดรนะเนี่ย” ยวีไท่จวินดูรู้ถึงความลึกลับมหัศจรรย์ของเรื่องและเอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นภาพนี้

“ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคเซียนเหินต้องการควบคุมทุกอย่างจากการรบเพียงครั้งเดียว คิดอาศัยพลังของเส้นชีพจรใต้ดินมาสนับสนุนสุดยอดค่ายกลของพวกเขา มีเพียงพลังของชีพจรฟ้าดินจึงสามารถสนับสนุนค่ายกลใหญ่ระดับเช่นนี้ได้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย

“นี่มันคือค่ายกลอะไร?” ยวีไท่จวินอดถามไม่ได้เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว

หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ผู้ที่อยู่เบื้องหลังพรรคเซียนเหินรู้ว่าข้าเชี่ยวชาญวิชาของเก้าแดน อีกทั้งเคล็ดราชันส่วนใหญ่ของพรรคเซียนเหินข้าก็เข้าใจเป็นอย่างดี รวมทั้งค่ายกลประจำพรรคของพรรคเซียนเหินข้าก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ กระทั่งมีสุดยอดค่ายกลที่เกิดจากฝีมือข้า ดังนั้น เขาจึงคิดหาวิธีใหม่ๆ ที่ไม่ปรกติทั่วไป คิดจะหาค่ายกลใหม่ๆ ที่ข้าไม่รู้จักมาเพื่อควบคุมทุกอย่างได้จากการรบเพียงครั้งเดียว!”

“ลือกันว่า ครั้งนั้นราชันเซียนเฟยได้คุกเซียนมา ขณะเดียวกันก็ได้สิ่งต่างๆ อีกไม่น้อย หนึ่งในนั้นรวมทั้งภาพค่ายกลภาพหนึ่ง เป็นสิ่งที่ดึกดำบรรพ์โบราณยิ่งนัก ไม่อยู่ในศักราชของพวกเรา” หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมาและกล่าวว่า “คนที่อยู่เบื้องหลังพรรคเซียนเหิน ผู้นี้สามารถบรรลุถึงของโบราณชิ้นนี้ได้นับว่าไม่ง่ายนัก มีพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง มีสติปัญญาที่เยี่ยมยอด ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสามารถสร้างสุดยอดค่ายกลเช่นนี้จนสำเร็จขึ้นมาได้”

“ดูท่าพรรคเซียนเหินมีการเตรียมตัวมาก่อนน่ะเนี่ย ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเตรียมการมาไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองยุคเท่านั้นแล้ว” ยวีไท่จวินพึมพำออกมา

“เป็นความจริง เฉกเช่นค่ายกลที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ถึงแม้จะมีพรสวรรค์ที่ปราศจากผู้เทียบเทียม เนื่องจากมันเป็นเคล็ดวิชาลับที่ดึกดำบรรพ์โบราณยิ่ง คิดจะบรรลุมันได้ใช่ว่าสามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งการที่คิดจะฝึกค่ายกลนี้ให้สำเร็จได้ ยิ่งต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานมาก” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “บอกได้เพียงพรรคเซียนเหินได้ถูกแทรกซึมเข้าไปแล้ว กลุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงของพรรคเซียนเหินอยากจะกลับสู่ยุทธภพให้มันรู้แล้วรู้รอดไปมานานแล้ว

“ค่ายกลนี้มีชื่อเรียกหรือไม่?” เทพแท้จริงสยบโลกามองดูค่ายกลนี้ ดวงตาทั้งสองปรากฎประกายน่าเกรงขามที่แวบวับ ท่าทีเหมือนดีใจที่เห็นเหยื่ออย่างนั้น

“ถ้าหากข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ ค่ายกลนี้มีชื่อว่า ค่ายกลเซียนทำลายสิบทิศ” หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มออกมา และยิ้มกล่าวว่า “แม้ว่าข้าจะไม่มีภาพค่ายกลนี้อยู่ในมือ แต่ว่า เคล็ดวิชาที่ยโสโอหังของศักราชนี้ทั้งหมดข้าล้วนแล้วแต่รู้เคร่าๆ มาแล้ว ของเช่นนี้ในสายตาคนอื่นอาจจะมองไม่ออกไปชั่วชีวิต แต่อย่าหวังหลอกตาทั้งสองของข้าไปได้”

“ผู้อาวุโสสยบโลกาต้องการรอให้ตั้งค่ายกลให้สำเร็จก่อนรึ?” ยวีไท่จวินเอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นท่าทีของเทพแท้จริงสยบโลกา

“ไม่เคยได้อุ่นเครื่องมานานมาก หลังจากการศึกพิฆาตเซียนครั้งนั้นแล้ว” เทพแท้จริงสยบโลกาเผยให้เห็นถึงท่าทางอหังการปราศจากผู้ต่อกร กล่าวช้าๆ ว่า “ได้เวลาที่กองทัพมังกรเขียวพวกเราได้ปะทุท่าทีที่ปราศจากผู้ต่อกรได้แล้ว อาศัยพรรคเซียนเหินมาลับดาบพอดีเลย!”

ยวีไท่จวินไม่พูดอะไรมากความ ครั้งนั้น กองทัพมังกรเขียวหาญกล้าต่อต้านอเวจี กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วพรรคเซียนเหินนับเป็นอะไรได้ พวกเขาไม่กลัวแม้แต่ช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุด หรือจะต้องเกรงกลังพรรคเซียนเหินอย่างนั้นรึ!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *