Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 2987 ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 2987 ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2987 ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ลุกขึ้นยืนและกล่าวเรียบเฉยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะเปิดให้กับเจ้า” กล่าวพลางเดินเข้าหาก้อนหินยักษ์นั่น

ในเวลานี้ ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ต่างมองดูทุกๆ ความเคลื่อนไหวของหลี่ชิเย่ ภายในใจของทุกคนล้วนแล้วแต่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

กระทั่งถึงขั้นนี้แล้วยังคงมีผู้ที่กระซิบขึ้นมาว่า “ข้าไม่เชื่อว่าเขาสามารถเปิดได้จริง แม้แต่พระอาจารย์จินกวงก็เปิดไม่ได้ เขาสามารถเปิดได้รึ? ”

ในเวลานี้จะไปโทษว่ายังคงมีผู้ที่ไม่เชื่อว่าหลี่ชิเย่สามารถเปิดก้อนหินก้อนนี้ออกมาได้ก็ไม่ถูก ความจริงแล้ว ในขณะนี้ยังคงมีผู้คนส่วนใหญ่มีท่าทางที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าหลี่ชิเย่สามารถเปิดก้อนหินก้อนนี้ได้

ลองนึกภาพดู ยอดฝีมือทั้งหมดที่อยู่ในงานต่างได้ทดลองกับก้อนหินก้อนนี้มาแล้ว รวมทั้งพวกของราชันแท้จริงหวงจุน และราชันแท้จริงเซิ่นซวง

ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้พวกของเทพสงครามจินเปี้ยน หมิงหวังฝอก็เคยทดลองมาแล้ว แต่ว่า พวกเขาต่างทำไม่สำเร็จ กระทั่งพระอาจารย์จินกวงที่ปราศจากผู้ต่อกรยังคงไม่สามารถเปิดก้อนหินก้อนนี้ได้

แต่ว่า เวลานี้หลี่ชิเย่กลับพูดง่ายขนาดนั้น เหมือนว่าแค่ง่ายๆ ตามอารมณ์ก็สามารถเปิดก้อนหินนี้ได้อย่างนั้น ดังนั้น ยิ่งทำให้ผู้คนยากที่จะเชื่อ หรือว่าหลี่ชิเย่จะเหนือกว่าพระอาจารย์จินกวงอย่างนั้นรึ?

ทุกคนต่างรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นพระอาจารย์จินกวง หรือว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซูก็ตาม พวกเขาสามารถกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษ ประสบความสำเร็จในวันนี้ได้นั้น ได้ผ่านการขัดเกลามาครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมาครั้งแล้วครั้งเล่า

แม้หลี่ชิเย่ในวันนี้ก็นับว่าแข็งแกร่งมาก เคยสังหารสามราชันมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น มาวันนี้ได้สังหารหลวงจีนต้าเจวี๋ บดขยี้สังหารร่างจำแลงของเทพสงครามจินเปี้ยน และหมิงหวังฝอ

แต่ว่า ในสายตาของทุกคนมองว่า ต่อให้หลี่ชิเย่ในวันนี้แข็งแกร่งมากไปกว่านี้ เมื่อเปรียบเทียบกับพระอาจารย์จินกวง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูแล้ว ยังคงมีช่วงห่างอีกมากทีเดียว การสั่งสมด้านธาตุแท้ภายในเรียกว่าห่างชั้นเทียบไม่ได้กับพระอาจารย์จินกวง และปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้อยู่แล้ว

เวลานี้หลี่ชิเย่กล่าวคำโอ้อวดไม่รู้ยางอายเช่นนี้ เข้าใจว่าตัวเองสามารถเปิดก้อนหินก้อนนี้ได้อย่างง่ายดาย แม้แต่เรื่องที่พระอาจารย์จินกวงยังทำไม่ได้เขากลับสามารถทำได้ แล้วจะไม่ให้ผู้ยิ่งใหญ่ และยอดฝีมือทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งได้อย่างไรกันเล่า

รวมทั้งไท่อิ๋นสี่ ภายในใจของเขาก็ไม่ค่อยจะมั่นใจนัก สิ่งนี้ใช่ว่าไท่อิ๋นสี่ดูถูกหลี่ชิเย่ ตรงกันข้าม ไท่อิ๋นสี่หลังจากได้เห็นหลี่ชิเย่ลงมือแล้ว ได้ทำการวางตำแหน่งด้านกำลังความสามารถของหลี่ชิเย่ใหม่

แต่ว่า นับตั้งแต่เขาได้ก้อนหินก้อนนี้มาแล้ว เขาได้มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งกับก้อนหินก้อนนี้ และมีการครุ่นคิดพินิจพิเคราะห์มาเป็นเวลานานมาก สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ตัวเขาไม่สามารถเปิดก้อนหินก้อนนี้ออกมาได้ และไม่เพียงพระอาจารย์จินกวงที่เปิดออกไม่ได้ แม้แต่นางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานก็เปิดไม่ได้

สุดท้ายภายในใจของไท่อิ๋นสี่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เขาคิดว่าหากจะเปิดหินก้อนนี้ออกมา บางทีอย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษชั้นแดนลัทธิเซียนจึงสามารถทำได้ กระทั่งเป็นไปได้ว่าต้องเป็นผู้ที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งอย่างปฐมบรรพบุรุษเกาหยางจึงจะทำได้

แต่ว่า เวลานี้ท่าทางของหลี่ชิเย่ที่เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนว่าไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย ดุจดั่งก้อนหินก้อนนี้เปิดออกได้ง่ายมาก เป็นความจริงที่สิ่งนี้ทำให้ในใจของไท่อิ๋นสี่เกิดความสงสัย

บางทีผู้อยู่งานที่สามารถสงบนิ่งได้อย่างแท้จริงคงมีแต่นางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานฮุ่ยชิงเสียน และกระบือดำขนาดใหญ่แล้ว กระบือดำขนาดใหญ่นั้นไม่ต้องพูดถึง เขาเชื่ออย่างสิ้นเชิงว่าหลี่ชิเย่มีความสามารถเช่นนี้ ส่วนฮุ่ยชิงเสียนนั้น ดูเหมือนนางก็มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมในตัวของหลี่ชิเย่เช่นกัน

เวลานี้ ภายใต้สายตาของผู้คนมากมาย มองเห็นหลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าก้อนหิน จากนั้นได้วางมือขนาดใหญ่บนก้อนหินและค่อยๆ หลับตาลง สุดท้ายไม่มีการขยับตัว และไม่ได้มีท่าทางที่มากไปกว่านั้น

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าก้อนหินคล้ายกลับกลายเป็นรูปแกะสลักไปแล้วอย่างนั้น

“แบบนี้ก็ได้ด้วย? ” มองเห็นหลี่ชิเย่เพียงอาศัยวางมือบนก้อนหิน ไม่ได้อาศัยวิธีการอื่นๆ ทั้งไม่ได้อาศัยสัจธรรมสูงสุดไปวิวัฒนาการ และไม่ได้อาศัยของวิเศษที่ปราศจากผู้ต่อกรเข้าทำการทดสอบ

หลี่ชิเย่เพียงอาศัยมือขนาดใหญ่วางบนก้อนหินเท่านั้นเอง ง่ายดายจนถึงขั้นทำให้ผู้คนไม่สามารถเชื่อถือได้

เนื่องจากก่อนหน้านั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่งัดเอาสรรพวิชาออกมา มีทั้งที่อาศัยของวิเศษฟาดฟันเข้าไป มีทั้งอาศัยสัจธรรมไปวิวัฒนาการ กระทั่งยังมีผู้อื่นที่อาศัยวิธีการที่พิเศษ…แต่ว่า พวกเขาล้วนทำไม่สำเร็จ

เวลานี้ทุกคนยังคงเฝ้ารอคอยว่าหลี่ชิเย่จะใช้วิธีการพิเศษอะไร และหรือใช้เคล็ดวิชาที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้ามาเปิดก้อนหินก้อนนี้ออกมา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ทุกคนล้วนนึกไม่ถึงก็คือ หลี่ชิเย่ไม่ได้ใช้อะไรเลย แค่เอามือวางบนก้อนหินเท่านั้นเอง

“ถ้า ถ้า ถ้าหากเช่นนี้ก็เปิดได้เรียกว่าเป็นมหัศจรรย์โดยแท้จริงแล้ว คือความมหัศจรรย์ตลอดกาล” แม้แต่ระดับคงความอมตะตลอดกาลที่เป็นรุ่นอาวุโสและมีประสบการณ์มากมาย เมื่อเห็นการกระทำของหลี่ชิเย่แล้วพวกเขาก็ไม่ค่อยจะเชื่อนัก และรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดหินก้อนนี้

ผู้ที่อยู่ในงานมีเพียงกระบือดำขนาดใหญ่ และนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงที่ไม่รู้สึกเหนือความคาดคิด พวกเขาไม่รู้สึกตกใจระคนกับความแปลกใจแม้แต่น้อย

“นี่คือจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ปราศจากผู้ต่อกร” ฮุ่ยชิงเสียนถึงกับทอดถอนใจและเอ่ยขึ้นมาเบาๆ

ความจริงแล้วฮุ่ยชิงเสียนรู้ว่าอาศัยวิธีการใดสามารถเปิดหินก้อนนี้ออกได้ เสียดาย นางยังขาดระดับความลึกซึ้งความชำนาญอีกนิด ไม่สามารถเปิดหินก้อนนี้ได้

ดังนั้น เมื่อเห็นการกระทำเช่นนี้ของหลี่ชิเย่แล้ว นางเข้าใจว่าหลี่ชิเย่สามารถเปิดหินก้อนนี้ได้แน่นอน และไม่ได้มีความยากเย็นอะไรสักเท่าไร

เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า หลี่ชิเย่ยังคงยืนเหมือนรูปแกะสลัก ไม่มีการขยับตัวอยู่ตรงนั้น

ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ สายตาแต่ละคู่จ้องไปที่หลี่ชิเย่ แต่ว่า จากเวลาที่เคลื่อนผ่านไปทุกๆ นาที เริ่มมีผู้ที่ดูจะทนไม่ได้แล้ว

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ มีผู้ที่กระซิบขึ้นมาเบาๆ ว่า “ทำได้จริงรึ? เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้ อย่างนี้ก็เปิดหินก้อนนี้ได้ มันไร้เหตุผลสิ้นดี”

“ตามความเห็นของข้านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ฮึเขาแค่แกล้งทำท่าไปอย่างนั้นเอง” อัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่สบอารมณ์ในตัวหลี่ชิเย่อยู่แล้ว และมีความแค้นกับหลี่ชิเย่

เวลานี้ในใจของเขาถึงกับแอบดีใจ และดีใจที่เห็นผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนอยู่บ้าง เมื่อเห็นก้อนหินไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อยในขณะนี้ เขาแอบยิ้มเยาะนิดหนึ่ง แม้ว่าจะไม่กล้าพูดเสียงดังมากนัก ด้วยหวั่นเกรงในความแข็งแกร่งของหลี่ชิเย่ แต่ยังคงกระซิบเสียงแผ่วเบา

“ถ้าหากทำเช่นนี้แล้วเปิดก้อนหินออกได้ ข้าจะเอาก้อนหินก้อนนั้นทั้งก้อนมาเทะกิน” อัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่อีกผู้หนึ่งก็กระซิบด้วยเสียงเบามาก และมีท่าทางที่เหยียดหยามหลี่ชิเย่ในที

แต่ว่า พลันที่คำพูดของอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้นี้พูดขาดคำ ได้ยินเสียงคร๊ากกก คร๊ากกก คร๊ากกกดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นลายเต๋าของหินก้อนนี้ล้วนแล้วแต่สว่างไสวขึ้นมา จากนั้น หินทั้งก้อนเสมือนดั่งเป็นจิ๊กซอที่ต่อเข้าด้วยกัน มีการเคลื่อนที่ของแต่ละชิ้น และเปลี่ยนแปลงรูปทรง

สุดท้าย ท่ามกลางเสียงคร๊ากกก คร๊ากกกที่ดังขึ้น ลายเต๋าของหินทั้งก้อนที่ตัดสลับไปมาได้ปริแยกออก และหินก้อนนี้ก็ได้เปิดออกช้าๆ

ขณะที่หินก้อนนี้ค่อยๆ เปิดออกมานั้น คล้ายเป็นดอกบัวดอกหนึ่งที่ค่อยๆ เบ่งบานออกมาอย่างนั้น

สุดท้าย ก้อนหินดังกล่าวได้เปิดออกอย่างสิ้นเชิงแล้ว มันเหมือนเป็นดอกบัวที่บานเต็มที่ดอกหนึ่ง แต่ว่า ตรงกลางของดอกบัวไม่ใช่เกสรเท่านั้นเอง เห็นเพียงหีบไม้ใบหนึ่งวางอยู่กลางก้อนหินก้อนนั้น

หีบไม้ใบนี้มีความงดงามเรียบง่ายแบบโบราณ เหมือนว่าได้สืบต่อกันมาเป็นเวลานานมาก ท่ามกลางวันเวลาที่ยาวนาน หีบไม้ใบนี้ยังคงสามารถคงอยู่มาได้ แม้ว่ามันจะผ่านการจมอยู่ท่ามกลายสายน้ำแห่งกาลเวลามานานนับไม่ถ้วน ผ่านการขัดเกลาจากวันเวลาที่ยาวนาน มันยังไม่ได้มีส่วนใดถูกทำให้เสียหาย

เปิดได้แล้ว เปิดได้แล้วจริงๆ…ยอดฝีมือที่อยู่ในงานต่างร้องด้วยความเหลือเชื่อ

ในเวลานี้ผู้ที่อยู่ในงานจำนวนมากต่างทยอยกันลุกขึ้นยืน ต่างยืดคอยาวเพื่อมองดูก้อนหินที่ถูกเปิดออกก้อนนั้น ในเวลานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวั่นไหวยิ่งในใจ

ทุกคนล้วนแล้วแต่นึกไม่ถึงว่าหลี่ชิเย่สามารถเปิดหินก้อนนี้ได้จริงๆ ก่อนหน้านั้นทุกคนต่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง กระทั่งรู้สึกว่าหลี่ชิเย่ไม่สามารถเปิดก้อนหินนี้ได้จะมีความน่าจะเป็นมากกว่า

แต่ว่า เวลานี้ไม่ได้ใช้วิธีการใดๆ และไม่ได้อาศัยของวิเศษใด เพียงแค่เอามือวางไว้บนก้อนหินเท่านั้นเอง ก็สามารถเปิดหินก้อนนี้ได้ มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ

“นี่ นี่ นี่เป็นปาฏิหาริย์นะเนี่ย พระอาจารย์จินกวง ใต้เท้าอิ๋นสี่ล้วนไม่สามารถเปิดหินก้อนนี้ออกมาได้ คนโหดอันดับหนึ่งถึงกับเปิดได้ นี่ นี่มันช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะรุ่นอาวุโสถึงกับทอดถอนจขึ้นมา

แม้แต่ผู้ที่ไม่สบอารมณ์กับหลี่ชิเย่ก่อนหน้า และหรือมีความแค้นกับหลี่ชิเย่ เวลานี้ก็ไม่มีอะไรจะพูด พูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นหินก้อนนี้ถูกเปิดออก

เนื่องจากความจริงกองอยู่ตรงหน้า หลี่ชิเย่ไม่ได้เล่นตุกติกอะไรเลย ต่อให้มีการเล่นตุกติกก็ถือเป็นฝีมือของเขา

ลองนึกภาพดู ผู้ที่อยู่ในงานทุกคนล้วนแล้วแต่ทดลองกันมาแล้ว แม้แต่พระอาจารย์จินกวงก็ลองมาแล้ว ต่างไม่สามารถเปิดหินก้อนนี้ออกมาได้ แต่ เวลานี้หลี่ชิเย่เปิดออกได้แล้ว

ไม่ว่าจะอาศัยวิธีการอย่างไรก็หาใช่เป็นการฉกฉวยโอกาสแล้ว เขามีผีมือเช่นนี้จริงๆ

หากจะกล่าวว่าฉกฉวยโอกาสสามารถเปิดหินก้อนนี้ได้ ทำไมทุกคนจึงทำไม่ได้? แม้แต่พระอาจารย์จินกวงก็ทำไม่ได้?

“นี่มันฝืนลิขิตสวรรค์เหลือเกิน เป็นความลึกซึ้งยอดเยี่ยมเช่นใดกันแน่นะ” ยังคงมีผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยที่มองไม่ออกถึงเส้นสนกลใน เมื่อเห็นหินก้อนนั้นที่ถูกเปิดออก เนื่องจากหลี่ชิเย่ไม่ได้สำแดงวิธีการใดๆ เลย ไม่ได้อาศัยของวิเศษอะไร และเปิดออกมาอย่างนี้แหละ

ส่วนผู้ที่มองออกถึงเบาะแส พวกเขากลับนิ่งเงียบ

“ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยขึ้น หลังจากที่เปิดหินก้อนนี้ได้แล้ว

ผู้ที่อยู่ในงานต่างไม่กล้าพูดอะไรอีก ก่อนหน้านี้หลี่ชิเย่เคยพูดคำพูดเช่นนี้ออกมา แต่ว่า ทุกคนต่างเมินใส่ คิดว่านั่นเป็นเพียงการคุยโตโอ้อวดของหลี่ชิเย่เท่านั้นเอง

เวลานี้หลี่ชิเย่ได้เปิดหินก้อนนี้ช่างง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ ดังนั้นจึงทำให้พวกที่เชิดใส่ กระทั่งผู้ที่ออกปากพูดประชดประชันพลันรู้สึกแสบร้อนที่ใบหน้า เหมือนว่าถูกผู้คนตบเข้าให้ที่ใบหน้าหนึ่งฉาดอย่างนั้น

“เมื่อครู่เหมือนมีคนพูดว่าจะเทะหินก้อนนี้ให้หมด ไม่รู้ว่าฟันของเจ้าคมได้ขนาดนี้หรือไม่” ในเวลานี้ แววตาของหลี่ชิเย่กวาดมองไปรอบหนึ่ง กล่าวเรียบเฉยขึ้นมา

บรรดาอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่เหล่านั้นที่ออกปากเยาะเย้ยหลี่ชิเย่เหล่านั้น พลันมีใบหน้าแดงก่ำ เวลานี้พวกเขาต่างไม่กล้าพูดอไรออกมาสักคำ ก้มหัวลงต่ำมาก

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด