Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3000 การเดินทัพของทหารอเวจี

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3000 การเดินทัพของทหารอเวจี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3000 การเดินทัพของทหารอเวจี

“ไปทางนี้” ขณะที่หลิวซันเฉียงวิ่งไปและร้องเสียงดังเพื่อเร่ขายบัตรออกจากงานของตนต่อไป หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะและส่ายหน้า แล้วก้าวเดินไปด้านหนึ่ง

กระบือดำขนาดใหญ่และราชันแท้จริงเซิ่นซวงพวกเขาต่างติดตามหลี่ชิเย่ก้าวเดินไปข้างหน้า

ขณะก้าวเดินบนโลกใบเล็กนั้น ทุกคนจึงได้พบว่าขนาดของโลกใบเล็กอยู่เหนือจินตนาการของพวกเขาไปมากทีเดียว พูดได้อย่างเต็มปากว่า โลกใบเล็กที่อยู่ตรงหน้านี้ เกรงว่าจะใหญ่กว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ ที่อยู่ในแดนลัทธิเซียน

หรือก็คือ เรือปราบปรามไกลลำนี้อย่างน้อยที่สุดก็คือได้บรรทุกระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งหนึ่งล่องลอยอยู่ท่ามกลางทะเลปุ๊ตู้ไห่ ทุกคนสามารถจินตนาการได้ถึงสภาพเช่นนี้ได้แล้ว

เมื่อเดินอยู่ท่ามกลางโลกใบเล็กลักษณะเช่นนี้แล้ว ทุกคนจึงค่อยๆ เข้าใจว่า เพราะเหตุใด หลังจากที่ระดับปฐมบรรพบุรุษ ราชันแท้จริง เทพแท้จริงขั้นคงความอมตะตลอดกาลจำนวนมากมายเช่นนั้นเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้ว จึงไม่ได้กลับมาอีก

ต่อให้ทะเลปุ๊ตู้ไห่สามารถกลับมาได้ ลองจินตนาการดู บรรดาปฐมบรรพบุรุษพวกเขาสามารถนำพาโลกใบเล็กใบหนึ่งออกสำรวจไปยังที่ที่ห่างไกลยิ่งกว่าแล้ว ในระดับหนึ่งก็จะเป็นการลดความน่าจะเป็นในการกลับมาของปฐมบรรพบุรุษและราชันแท้จริง

ขณะที่ทุกคนก้าวเดินบนโลกใบเล็กแห่งนี้ก็จะพบว่า โลกใบเล็กแห่งนี้มีทุกสิ่งทุกอย่าง สุริยันจันทราและดวงดาว ภูเขาแม่น้ำทุกสิ่งล้วนมีพร้อมสรรพ

ขณะที่หลี่ชิเย่นำพาพวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวงก้าวเดินบนโลกใบเล็กนั้น พวกเขาได้ก้าวข้ามภูเขาหิมะทีสุดลูกหูลูกตา หลังจากก้าวข้ามภูเขาหิมะแล้ว พวกเขามองเห็นสภาพที่ยับเยินระเนระนาดตรงหน้า

มองเห็นภูเขาแม่น้ำจำนวนไม่น้อยที่ถูกทำลายไป และไม่เพียงแค่ภูเขาแม่น้ำถูกทำลายไปเท่านั้น แม่น้ำถูกเผาจนแห้ง แม้แต่พื้นแผ่นดินก็ถูกฉีกขาดเป็นริ้วๆ

“พลังที่แข็งแกร่งมาก ที่ตรงนี้ได้เกิดการต่อสู่ที่สะเทือนเลื่อนลั่น” เมื่อกระบือดำขนาดใหญ่เหยียบเข้าพื้นที่ที่แตกยับเสียหายถึงกับสูดลมหายใจเข้าทีหนึ่ง ไม่รู้ว่าศึกในครั้งนี้ได้เกิดขึ้นมานานเท่าไรแล้ว แต่ว่า ยังคงสามารถรับรู้ได้ถึงพลังที่ตลบอบอวลไม่จางหายนั่น

ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า โลกใบเล็กเช่นนี้ควบคุมบัญชาการโดยพวกของปฐมบรรพบุรุษอัคคีในครั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกใบเล็กทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยห้างเจียวเหิงที่ทุ่มทุนและทรัพยากรมหาศาล โลกใบเล็กลักษณะเช่นนี้มีความแข็งแกร่ง่ยิ่งกว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ เสียอีก แต่ว่า ที่ตรงนี้ยังคงถูกโจมตีทำลายจนแหลกไม่มีชิ้นดี ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า ได้เกิดการสู้รบที่น่ากลัวเพียงใดที่นี่

“เกรงว่านี่คือการต่อสู้ระดับปฐมบรรพบุรุษ” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเองก็รู้สึกตกใจ เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังแข็งแกร่งรุนแรงที่ตลบอบอวลไม่จางหาย

“นี่เป็นการต่อสู้ระดับปฐมบรรพบุรุษจริงๆ ทั้งยังไม่ใช่ปฐมบรรพบุรุษระดับทั่วไป เป็นการต่อสู้ของปฐมบรรพบุรุษขั้นสูงสุด” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “ระบบป้องกันของเรือปราบปรามไกลถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ระบบป้องกันแบบนี้ไม่มีเพียงปฐมบรรพบุรุษอัคคีเท่านั้นที่สามารถสร้างขึ้นมาได้”

“ตาเฒ่าปฐมบรรพบุรุษอัคคีผู้นี้ หนึ่งในสิบสุดยอดปฐมบรรพบุรุษ ปราดเปรื่องน่าทึ่งปราศจากผุ้เทียบเทียม พูดได้เต็มปากว่าเรือปราบปรามไกลลำนี้ก็คือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของเขา กระทั่งเรียกได้ว่ามีแต่เหนือกว่าไม่มีด้อยกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นช่างสะเทือนเลื่อนลั่นเพียงใด” ท่าทีของกระบือดำขนาดใหญ่ก็ดูหนักแน่นจริงจังขึ้นไม่น้อยทีเดียว

สมควรทราบว่า ขบวนทัพที่เดินทางปราบปรามไกลในครั้งนั้น นอกเหนือจากปฐมบรรพบุรุษอัคคีแล้ว ยังมีปฐมบรรพบุรุษคนอื่นๆ อีกสี่คน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีราชันแท้จริงขั้นสูงสุดอีกหลายสิบคน เทพแท้จริงขั้นคงความอมตะตลอดกาลอีกร่วมร้อยคน ขบวนทัพเช่นนี้เพียงพอที่จะสร้างโลกใบน้อยนี้ให้กลายเป็น-ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

ปัง ปัง ปัง…ในเวลานี้ ปรากฏเสียงที่ไม่ได้ดังกังวานมากขึ้นมาเป็นระลอก เสียงที่ดังเป็นระลอกนี้ฟังดูเป็นระเบียบอย่างยิ่ง เหมือนเป็นสิ่งของอะไรบางอย่างที่กำลังเคลื่อนที่อย่างนั้น

“เสียงอะไร” กระบือดำขนาดใหญ่ถึงกับกระดิกหูของเขา

“เจ้าจะได้เห็นเร็วๆ นี้แล้ว” หลี่ชิเย่เพ่งสายตาทั้งสองไปข้างหน้าและเอ่ยขึ้น จากนั้นก้าวเดินเร็วไปข้างหน้า

เป็นจริงดังคาด หลังจาผ่านไปชั่วครู่ พวกของหลี่ชิเย่ก็ได้เห็นภาพที่น่าตื่นตระหนกภาพหนึ่ง มองเห็นเป็นขบวนทัพที่ยาวมากกำลังเคลื่อนขบวนอยู่

เรือปราบปรามไกลที่เสมือนดั่งวิญญาณพลันปรากฏกองทัพที่ยาวมากกำลังเดินทัพให้เห็นกะทันหัน นับว่าสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้กับผู้คนอย่างแท้จริงอยู่บ้าง

ที่สร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงมากกว่านี้ก็คือ ขบวนทัพที่ยาวมากๆ ขบวนนี้หาใช่คนเป็นๆ ยิ่งไม่ใช่ทหารที่มีจิตฮึกเหิมในสมรภูมิรบแต่อย่างใด

กองทัพที่มีขบวนทัพยาวเหยียดขบวนนี้ถึงกับเป็นคนตาย ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นทหารที่ได้ตายไปแล้วทั้งสิ้น

ขบวนทัพแห่งความตายนี้ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นทหารที่ได้ตายไปในสมรภูมิสู้รบแล้ว ทหารเหล่านี้สวมใส่ชุดเกราะที่เย็นยะเยือก แม้ว่าพวกเขาได้ตายไปแล้วก็จริง แต่ว่า ชุดเกราะที่อยู่บนตัวของพวกเขาไม่ได้แตกเสียหายแม้แต่น้อย หรือจะกล่าวว่าชุดเกราะบนตัวของพวกเขา อาวุธที่อยู่ในมือของพวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ของที่แตกหักเสียหายอะไร

ชุดเกราะที่สวมใส่บนตัวของพวกเขาสร้างขึ้นมาจากเหล็กนิลที่ดีที่สุด อาวุธในมือของพวกเขาสร้างขึ้นมาจากโลหะศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงสุด

ไม่ว่าใครที่มองเห็นกองทัพลักษณะเช่นนี้แล้วก็จะรู้ว่า ล้วนแล้วแต่เป็นมาตรฐานระดับปฐมบรรพบุรุษ กล่าวได้ว่าหากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั่วไปคิดจากสร้างกองทัพลักษณะเช่นนี้ล่ะก็ เกรงว่าจะรองรับไม่ไหว ลำพังแค่วัสดุที่ใช้สำหรับสร้างชุดเกราะ และอาวุธก็สามารถใช้จ่ายทรัพย์สินของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งจนหมดคลัง

แต่ว่า บรรดาเหล่าทหารที่กอปรด้วยอุปกรณ์ที่คุณภาพสูงสุดเช่นนี้ล้วนได้ตายไปแล้ว และทหารจำนวนไม่น้อยที่มีชุดเกราะปรากฎเป็นรอยแตกร้าว ย่อมจินตนาการได้ว่า พวกเขาเคยผ่านการสู้รบที่สะเทือนเลื่อนลั่นมาแล้ว

แม้ว่าทหารเหล่านี้จะได้ตายไปแล้ว แต่ว่า ดวงตาทั้งสองของพวกเขายังคงมีประกายแวบวับ ใบหน้าที่แห้งกรังยังคงเย็นชาไร้ความรู้สึก เหมือนว่าพวกเขายังคงเข้าใจว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้น

ขบวนทัพนี้ยาวเหยียดมาก มองไม่เห็นข้างหน้า และมองไม่เห็นท้ายขบวน ไมรู้ว่าขบวนทัพนี้มาจากที่ใดและกำลังไปยังที่ใด เหมือนมีกองทัพใหญ่ที่ตั้งขบวนเป็นแถวเป็นแนวกำลังเดินทัพไปแดนไกลอย่างนั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขบวนทัพลักษณะเช่นนี้ขณะเดินทัพนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

นี่มันตัวอะไรกันแน่…สิ่งนี้ได้สร้างความตระหนกให้กับกระบือดำขนาดใหญ่เช่นกัน เมื่อมองเห็นกองทัพที่ทหารซึ่งได้ตายไปแล้วยังคงเดินทัพอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าพวกเขาจะตายไปแล้วยังคงปฏิบัติภารกิจของตนอยู่อย่างนั้น

“นี่คือทหารอเวจีรึ? ” นัยน์ตาของราชันแท้จริงเซิ่นซวงเปล่งประกายขึ้นมาทันที สาดส่องไปบนตัวของทหารเหล่านี้

“นี่ไม่ใช่หุ่นทหาร” หลังจากที่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงมองดูพักหนึ่งส่ายหน้าและกล่าวด้วยความตระหนก

คำว่าหุ่นทหารที่ว่าก็คือ นำเอากองทัพทั้งกองมาแล้วอาศัยวิธีการที่ชั่วร้ายสุดขั้วทำการสร้างให้เป็นกองทัพที่คล้ายเป็นหุ่น หรือก็คือจัดการทำให้คนเป็นกลายเป็นคนตายโดยตรง ทำให้กองทัพที่เป็นทหารตัวเป็นๆ ให้กลายเป็นกองทัพแห่งความตาย วิธีการเช่นนี้ก็เพื่อทำให้กองทัพๆ หนึ่งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยตรง

“เป็นความจริงที่มันไม่ใช่หุ่นทหาร” กระบือดำขนาดใหญ่กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “นี่เป็นกองทัพที่กำเนิดขึ้นหลังจากตายไปแล้ว ไม่สิ ควรจะบอกว่าพวกเขาเป็นกองทัพขณะมีชีวิตอยู่ แต่ว่า หลังจากพวกเขาตายไปก็ยังคงเป็นกองทัพเหมือนเดิน เพียงแต่ ความตายเหมือนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพวกเขาแต่อย่างใด”

“นี่มันใช้วิธีการเช่นใดทำให้เป็นแบบนี้กันแน่? ” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงอดรู้สึกตระหนกไม่ได้

ลองจินตนาการดู ความตายก็คือการสิ้นสุด ต่อให้เป็นราชันแท้จริงก็ไม่สามารถทำให้กองทัพๆ หนึ่งยัคงดำรงอยู่หลังจากที่ตายไปแล้ว หมือนว่าความตายยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อกองทัพเช่นนี้ นี่คือวิธีการที่น่ากลัวและฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่ง

“ผู้ได้รับความเคารพสูงสุดผู้หนึ่งที่ไม่ยินยอม ไม่ต้องการสละทิ้งไป” หลี่ชิเย่มองดูกองทัพขบวนี้แล้วและเอ่ยขึ้นช้าๆ ในที่สุด

“พวกเขาเป็นคนดีหรือคนไม่ดีล่ะ? ” หลิ่วเยี่ยนไป๋ที่น่าบนหลังกระบือเอียงคอ และเอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ ขณะมองดูกองทัพที่กำลังเดินทัพกันอยู่

“กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ไม่มีคนดีหรือคนไม่ดีอะไร พวกเขามีความคิดอยู่เพียงอย่างเดียวก็คือ บรรลุเป้าหมาย” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นช้าๆ

นี่คืออะไร…ในเวลานี้เอง ปรากฏยอดฝีมือคนอื่นๆ ได้รุดมาถึง ต่างรู้สึกตกใจเมื่อได้เห็นทัพอเวจีลักษณะเช่นนี้

“นี่ นี่มันตัวบ้าบอที่มาจากไหนกัน” ยอดฝีมือที่รุดมาถึงกล่าวด้วยความตกใจ เมื่อเห็นทหารที่ตายไปแล้วยังคงเดินทัพกันได้อีก

“ตายไปแล้วยังเดินทัพได้อีก เป็นพลังอะไรกันแน่นะที่สามารถบังคับสั่งการพวกเขาได้” เทพแท้จริงขั้นอมตะคนหนึ่งรู้สึกแปลกใจยิ่ง และกล่าวว่า “มหัศจรรย์เช่นนี้ น่าจะจับกลับไปตัวหนึ่งเพื่อทำการศึกษาสักหน่อย”

เมื่อเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้พูดขาดคำก็ได้ลงมือจริงๆ มือขนาดใหญ่ได้ยื่นไปจับตัวทหารอเวจีคนหนึ่ง

ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่เทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้ยื่นมือเข้าไปคว้าจับทหารอเวจีนั้น พริบตาเดียวนั่นเอง ทหารห้าคนที่เป็นหนึ่งหน่วยเล็กได้ก้าวออกมาทันที ทวนห้าเล่มเสือกเข้าโจมตีเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้ทันทีดั่งสายฟ้า

บังอาจ…เทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้ร้องเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา พลันเสกเอาของวิเศษออกมา เพื่อโจมตีกองทหารหน่วยเล็กห้าคนนั่น

แต่ว่า เทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้ยังคงดูถูกกองทัพขบวนนี้แล้ว ได้ยินเสียงดังฉึก ฉึก ฉึกดังขึ้น ทวนทั้งห้าเล่มพลันอาศัยมุมที่แปลกประหลาดแทงทะลุแนวป้องกันของเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้

อ๊ากกก…เทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้ร้องเสียงน่าเวทนาขึ้น ร่างกายของเขาพลันถูกทวนยาวทั้งห้าแทงทะลุจากมุมทั้งห้า เลือดสดๆ ไหลหยดลงช้าๆ จากปลายทวนที่เย็นยะเยือกนั่น

เสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง ทหารอเวจีทั้งห้าได้ชักทวนกลับไป ศพของเทพแท้จริงขั้นอมตะล้มลงนอนกับพื้นอย่างแรง เลือดสดๆ ไหลรินช้าๆ จนดินแดงฉาน

ทหารอเวจีทั้งห้ายังคงติดตามขบวนทัพต่อไปเหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆ

ตั้งแต่ก้าวออกมาจากขบวนกระทั่งสังหารเทพแท้จริงขั้นอมตะ ขบวนทัพนี้สังหารไร้ความปราณี และการเคลื่อนไหวสะอาดหมดจด ไม่มีการอืดอาดยืดยาดแม้แต่น้อย และกระบวนท่าสังหามแม่นยำมาก พลันที่เห็นก็รู้ว่ามันคือเครื่องจักรสงคราม พลันที่พวกเขาลงมือก็ถึงแก่ความตาย

“แข็งแกร่งถึงเพียงนี้” ยอดฝีมือคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจอย่างยิ่ง เมื่อมองเห็นทหารอเวจีสามารถสังหารเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้ได้ในพริบตาเดียว

หน่วยทหารย่อยห้าคนเพียงพอที่จะสังหารพวกเจ้าจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียวได้ในพริบตา” กระบือดำขนาดใหญ่เหลือบมองบรรดายอดฝีมือเหล่านั้นแวบหนึ่ง และกล่าวเรียบเฉยขึ้นมา

ไป…ยอดฝีมือเหล่านี้พลันมีใบหน้าที่ขาวซีด เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ไม่พูดพล่ามทำแพลง เปลี่ยนทิศทางและจากไปทันที

“เป็นกองทัพที่แข็งแกร่งมาก” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเองก็รู้สึกตกใจ เมื่อได้เห็นขบวนทัพเช่นนี้ และกล่าวว่า “ขบวนทัพเช่นนี้เกรงว่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า เมื่อเทียบกั บกองทัพเทียนเชี่ยน”

“หากไม่มีเทียนเชี่ยน อาศัยการต่อสู้อย่างดุ้ดือดอย่างเดียว กองทัพเทียนเชี่ยนไม่ใช่คู้ต่อสู้ของพวกมัน” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “เทียนเชี่ยนคือสิ่งพึ่งพิงที่สำคัญที่สุด

“หากไม่มีเทียนเชี่ยน แดนลัทธิเซียนอันตรายแล้วล่ะ” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเองก็ตระหนักถึงปัญหาข้อนี้

ทหารอเวจีที่ปรากฏตรงหน้าใช่จะปรากฏตัวโดยไร้เหตุผล ถ้าหากว่าทหารอเวจีนี้พลันโจมตีต่อเทียนเชี่ยนล่ะก็…

ถ้าหากทหารอเวจีทำสงครามต่อเทียนเชี่ยน…ราชันแท้จริงเซิ่นซวงอดกังกลขึ้นมา

“คนตายตีเทียนเชี่ยนไม่แตกหรอก” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และเอ่ยขึ้นเรียบเฉยว่า “ที่ต้องกลัวก็คือคนเป็นๆ มีเพียงคนเป็นๆ ที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรจึงสามารถตีแตกได้ สำหรับคนตายแล้วไม่มีอะไรต้องกังวลหากเทียนเชี่ยนยังคงอยู่

…………………………………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด