Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3010 ใครเล่าคือความมืด

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3010 ใครเล่าคือความมืด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3010 ใครเล่าคือความมืด

เวลานี้ กลุ่มก๊าซสีดำถูกยั่วยุให้โกรธอย่างสิ้นเชิงแล้ว ก่อนหน้านั้น มันถูกพลังแสงสว่างของราชันแท้จริงเซิ่นซวงทำให้บริสุทธิ์มันยังไม่ได้โกรธถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกกระบือดำขนาดใหญ่เตะจนตัวลอยออกไปในเท้าเดียว มันก็ได้โกรธขึ้นมาอย่างสิ้นเชิงแล้ว เหมือนว่าสิ่งนี้กล่าวสำหรับเขาแล้วเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวงอย่างนั้น

ลองคิดดู การที่กลุ่มก๊าซสีดำโกรธแค้นขนาดนี้ใช่เป็นเรื่องแปลก จะอย่างไรเสีย การที่ถูกกระบือตัวหนึ่งฟาดเท้าเข้าให้อย่างแรง เกือบเล่นเอาหัวของตนต้องหลุดกระเด็นออกไป แล้วจะไม่ให้โกรธได้อย่างใด

โฮ่ววว…เสียงคำรามดังก้องทำเอาฟ้าดินสั่นคลอน แม้แต่สัตว์ที่มีสติปัญญาที่สุดในบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายยังต้องสั่นเทา สุริยันจันทราและดวงดาวบนเก้าชั้นฟ้าก็ยังสั่นเทา ภายใต้เสียงแห่งความโกรธที่ยิงถล่มเข้ามาทำให้โลกทั้งโลกล้วนสั่นไหวโคลงเคลง ทุกอย่างล้วนทำท่าจะพังถล่มลงมาอย่างนั้น

“แม่จ๋า เล่นของจริงแล้ว” กระบือดำขนาดใหญ่ร้องเสียงดังขึ้นมา ไม่คำนึงถึงคุณธรรมน้ำใจ ไม่คิดจะรับมือสู้กับกลุ่มก๊าซสีดำนั่นเลย ยกเท้าโกยอ้าวไปหลบอยู่ข้างหลังของหลี่ชิเย่

“ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ รับมือกับสัตว์ประหลาดนี้ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว ข้าฝีมือต่ำต้อยรับมือไม่ไหวแล้ว” เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ร้องเสียงประหลาดขึ้นมา และหลบไปอยู่ไกลๆ

ฮือออ…พริบตาเดียวนั่นเอง กลุ่มก๊าซสีดำได้กลับกลายเป็นปากขนาดยักษ์ คำรามเสียงยาวไม่หยุด กลืนสุริยันกินจันทรา พลันที่อ้าปากก็กลืนเอาฟ้าดินเข้าไป เขาสามารถดูดกลืนเอาดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนเข้าไปในปากทันทีเสมือนดั่งปลาวาฬที่กลืนเหยื่ออย่างนั้น

ท่ามกลางเสียงคำรามเสียงดังนี้ ได้ยินเสียงปังดังขึ้น เห็นเพียงปากขนาดยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำที่งับเข้ามาอย่างแรง ทำให้ช่องว่างที่พวกของหลี่ชิเย่ยืนอยู่พลันถูกปากขนาดยักษ์กลืนกินเข้าไป

ช่องว่างที่กว้างขวางใหญ่โตเช่นนี้พลันถูกกลุ่มก๊าซสีดำงับเข้าไปอยู่ในปากของมัน

สำหรับเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ที่ไม่คำนึงคุณธรรมและน้ำใจได้หลบไปไกลนานแล้ว เพียงพริบตาเดียวก็เหินฟ้าดำดินก้าวข้าล้านล้านลี้ห่างไกลจากปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำที่น่ากลัวไปแล้ว

แม้ว่าราชันแท้จริงเซิ่นซวงจะไม่ได้เป็นคนที่กลัวมีเรื่อง แต่ เมื่อเห็นกระบือดำขนาดใหญ่หันหลังวิ่งหนีทันที นางที่อยู่ในฐานะผู้เยาว์คนหนึ่งจะไปมีอะไรต้องทำสำรวมเล่า ติดตามเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่หนีไปทันที หนีไปไกลมากๆ

ในบรรดาพวกเขา มีเพียงหลี่ชิเย่เท่านั้นที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่มีการเคลื่อนไหว เหมือนว่าไม่เห็นปากขนาดยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำที่กำลังกลืนกินฟ้าดินอย่างนั้น แม้ขณะปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำที่งับเข้ามาอย่างแรง และกลืนกินเอาช่องว่างเข้าไปทั้งหมดในทันที หลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่คิดที่จะก้าวถอยหลังไปแม้แต่ก้าวเดียว

เวลานี้พวกกระบือดำขนาดใหญ่ยืนมองอยู่ในระยะห่างไกล เห็นเสื้อของหลี่ชิเย่ที่ถูกลมตีจนส่งเสียงดังพรึบพรึบ ภายใต้เสียงคำรามเสียงดัง ตัวของเขาพร้อมกับช่องว่างที่กว้างใหญ่ไพศาลพลันถูกปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำกลืนกินเข้าไปทันที

หลังจากที่ปากยักษ์ความมืดได้กลืนกินช่องว่างลงไปทั้งหมดรวมทั้งหลี่ชิเย่ด้วยแล้ว ในพริบตาเดียวนั่นเองเวลาเหมือนหนึ่งได้หยุดลงอย่างนั้น เหมือนว่ามันได้กลืนกินแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง และได้ทำการย่อยสลายไปแล้วทุกอย่าง

เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ยังคงมีท่าทีที่ยิ้มแต้ เมื่อมองเห็นช่องว่างทั้งหมดรวมทั้งตัวของหลี่ชิเย่ล้วนถูกกลืนกินไปแล้ว ตรงกันข้ามกับหลิ่วเยี่ยนไป๋ที่อยู่บนหลังกระบืออดที่จะเป็นกังวลไม่ได้

“คุณชายไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลิ่วเยี่ยนไป๋มองเห็นปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำที่ใหญ่ยักษ์เพียงนี้ได้กลืนเอาหลี่ชิเย่พร้อมกับช่องว่างที่กว้างใหญ่ไพศาลจนไม่มีเหลือ อดจิตใจร้อนรุ่มกระสับกระส่ายไม่ได้

“ไม่ ลูกศิษย์ข้า เจ้าไม่ต้องกังวลในตัวเขา” กระบือดำขนาดใหญ่ยิ้มแต้และกล่าวว่า “ที่เจ้าควรกังวลคือปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำนั่นจึงจะถูก มันซวยแน่ๆ แล้วคราวนี้”

แม้ว่ากระบือดำขนาดใหญ่จะพูดเช่นนี้ก็ตาม แต่ว่าหลิ่วเยี่ยนไป๋เอียงคอมองดูปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำแล้ว อดไม่ได้ที่จะเผยท่าทีความกังวลออกมา

“นี่มันคือตัวอะไรกันแน่นะ?” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเองก็มีท่าทีหนักแน่นจริงจัง เมื่อครู่ที่นางปะมือกับกลุ่มก๊าซสีดำ แต่ว่า ยังคงมองเห็นร่างที่แท้จริงของกลุ่มก๊าซสีดำนี้ได้ชัดเจน

แม้จะกล่าวว่า นางได้อาศัยพลังแสงสว่างที่ทรงพลังบีบบังคับจนกลุ่มก๊าซสีดำเผยร่างที่ควรจะเป็นออกมาได้ แต่ทว่า นี่ยังหาใช่ร่างที่แท้จริงของกลุ่มก๊าซสีดำ

แน่นอน ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่กลุ่มก๊าซสีดำ แต่เป็นพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรที่อยู่เบื้องหลังของกลุ่มก๊าซสีดำ หรือก็คือเจ้านายของกลุ่มก๊าซสีดำนั่นเอง เสียดาย แม้ผู้แข็งแกร่งเฉกเช่นราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่ได้ปะมือเมื่อครู่ ก็ไม่สามารถมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของมันได้

“แหะจะได้รู้เร็วๆ นี้แล้วล่ะ” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะ ในเวลานี้ดวงตาที่มีขนาดใหญ่เท่ากระดิ่งทองแดงเป็นประกาย และกล่าวว่า “เรื่องสนุกๆ จะเปิดฉากแล้วล่ะ”

จังหวะที่คำพูดของกระบือดำขนาดใหญ่พูดขาดคำ ได้ยินเสียงตูม ตูม ตูมดังขึ้นไม่ขาดสาย ท่ามกลางเสียงดังตูมตามที่ดังเข้ามา ทั่วฟ้าดินล้วนสะเทือนหวั่นไหวทีหนึ่ง

ติดตามด้วยเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาไม่ขาดสาย ท่ามกลางเสียงดังตูมตามยังตามมาด้วยเสียงหนักอึ้งดัง ‘เอี๊ยดดด เอี๊ยดดด เอี๊ยดดด’ ขึ้นมา เหมือนมีอะไรบางอย่างที่สยบเอาไว้แล้วถูกยกขึ้นมา

เสียงดังตูมตามนี้มาจากปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำ ขณะที่เสียงดังตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสายนั้น ปากยักษ์ของความมืดก็สั่นสะเทือนขึ้นทั้งปาก ทั้งยังสะเทือนรุนแรงมากขึ้นๆ เรื่อยๆ

สุดท้าย ได้ยินเสียงปุ…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง พลังที่แข็งแกร่งสายหนึ่งได้ฉีกปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำออก ขณะที่ปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำถูกฉีกออกนั้น มองเห็นประกายสว่างที่เบ่งบาน เสมือนดั่งปรอทที่ถูกเทลงพื้นอย่างนั้น พริบตาเดียวนั่นเอง พลังแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ไพศาลไม่มีสิ้นสุดเสมือนดั่งน้ำหลากที่พุ่งโจมตีออกมา

ปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำถูกฉีกออก เหมือนเป็นการเปิดประตูแสงสว่างของโลกทั้งโลกออกมาอย่างนั้น ความสว่างทั้งหมดล้วนแล้วแต่ไม่มีสิ้นสุดทั้งสิ้น

ท่ามกลางเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังขึ้น มองเห็นปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำถูกยกขึ้นมาช้าๆ หัวที่มีขนาดใหญ่โตยิ่งถูกยกให้สูงขึ้นๆ เรื่อยๆ

“ดู นั่นคือคุณชาย” ในเวลานี้ หลิ่วเยี่ยนไป๋มองเห็นได้อย่างชัดเจน อดร้องเสียงดังขึ้นมาไม่ได้

ในเวลานี้ ขณะที่ปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำถูกยกขึ้น ปรากฏร่างเงาหลี่ชิเย่ขึ้นท่ามกลางแสงสว่างที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุด นาทีนี้เวลานี้ หลี่ชิเย่ได้ยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่างนั่นเอง

ในขณะนี้ แสงสว่างที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุดได้เบ่งบานออกมาจากตัวของหลี่ชิเย่ ขณะที่เวลานี้ มันก็แตกต่างจากความสว่างของราชันแท้จริงเซิ่นซวง

แสงสว่างที่แผ่ออกมาจากตัวของหลี่ชิเย่นั้น ช่างแกร่งกร้างและหยิ่งในศักดิ์ศรีปราศจากผู้เทียบเทียมอะไรอย่างนั้น เหมือนว่ามันคล้ายเป็นมีดผลึกที่แหลมคมอย่างยิ่ง จัดการกรีดปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำจนแยกออกอย่างไม่ปรานีปราศรัย

พลังแสงสว่างที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของหลี่ชิเย่นั้น ช่างแข็งแกร่งไม่ยอมสยบอะไรอย่างนั้น ช่างมีความแหลมคมอะไรปานนั้น เหมือนว่านี่มันหาใช่พลังแสงสว่างอะไรอีกแล้ว แต่เป็นดาบศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มที่พราวพร่างและโปร่งใสจัดการเฉือนกลุ่มก๊าซสีดำออกทีละนิดๆ

ก่อนหน้านั้น ไม่ว่าพลังแสงสว่างของราชันแท้จริงเซิ่นซวงจะเสมือนดั่งคลื่นโหมสาดซัดอย่างบ้าคลั่งและรุนแรง หรือว่าไร้เสียงดั่งฝนในฤดูใบไม้ผลิ ล้วนแล้วแต่มีลักษณะเหมือนน้ำ

แต่ว่า เมื่อพลังแสงสว่างแผ่กระจายออกมาจากบนตัวของหลี่ชิเย่ ก็จะไม่มีลักษณะที่เสมือนดั่งน้ำอย่างนั้น มันช่างแกร่งกร้าวและหยิ่งในศักดิ์ศรีอะไรอย่างนั้น ช่างแหลมคมอะไรอย่างนั้น พลังแสงสว่างลักษณะเช่นนี้หาใช่โปรดเหล่าเวไนยสัตว์ให้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์โดยทั่วกัน ไม่ใช่เป็นการเวทนาใต้หล้า

มันคือการสังหารที่เด็ดขาดไร้ความปรานี มันคือการสังหารอย่างทระนง เป็นความแข็งกร้าวและนิยมใช้ความรุนแรงที่ปราศจากผู้เทียบเทียม

กล่าวได้ว่า การเข่นฆ่าสังหารเช่นนี้เมื่อปรากฏอยู่กับพลังแสงสว่างดูจะไม่ประนีประนอมยิ่งนัก แต่ว่า ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร เมื่อพลังแสงสว่างปรากฏขึ้นบนตัวของหลี่ชิเย่กลับไม่ได่เหนือความคาดคิดอะไรอย่างนั้น เหมือนว่าเขาเกิดมาเพื่อการเข่นฆ่าสังหารอย่างนั้น เหมือนว่าการดำรงอยู่ของเขาก็เพื่อสังหารทำลายอย่างนั้น

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับตะลึงลาน เมื่อเห็นพลังแสงสว่างเช่นนี้ พลันที่นางถือกำเนิดขึ้นมาก็อาบเอิบอยู่ภายใต้แสงสว่าง ได้ฝึกสัจธรรรมแสงสว่างมาตั้งแต่เยาว์วัย

เฉกเช่นพลังแสงสว่างที่แข็งกร้าวและนิยมใช้ความรุนแรงที่ปราศจากผู้เทียบเทียม การเข่นฆ่าสังหารที่คมกริบเช่นนี้ นางไม่เคยได้ยินได้พบเห็นมาก่อนจริงๆ

ทว่า เมื่อกระบือดำขนาดใหญ่ได้เห็นภาพนี้แล้วกลับไม่รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย เขากล่าวว่า “เป็นเขาที่ได้สำแดงพลังแสงสว่างของปราชญ์ไกลกันดารจนถึงขั้นสูงสุด ขณะที่เจ้าก้าวเดินไปนั้นเป็นเส้นทางอีกเส้นหนึ่ง และเส้นทางสายนี้จึงเป็นที่พักพิงสุดท้ายของแสงสว่างที่แท้จริง”

แน่นอน กระบือดำขนาดใหญ่ไม่ได้ชี้ชัดไปว่า สัจธรรมแสงสว่างที่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้สืบทอดมานั้นหาใช่เป็นของปราชญ์ไกลกันดารในครั้งนั้นอีกแล้ว ขณะที่หอจรัสศักดิ์สิทธิ์พวกเขาได้สืบทอดมานั้นคือสัจธรรมแสงสว่างของปีศาจต้นไม้เฒ่าไปแล้ว

โฮ่ววว…ปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำเมื่อถูกพลังแสงสว่างของหลี่ชิเย่เฉือนจนขาดเช่นนี้ อีกทั้งพลังแสงสว่างของหลี่ชิเย่ที่แกร่งและคมกริบปราศจากผู้เทียบเทียมยังได้ดันมันขึ้นไปดื้อๆ ทำให้มันถึงกับร้องคำรามขึ้นมาด้วยความบ้าคลั่ง ก๊าซความมืดยิ่งบ้าระห่ำมากยิ่งขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นดั่งทะเลสีดำที่ฟาดใส่หลี่ชิเย่อย่างแรง

แต่ว่า ไม่ว่าปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำจะแข็งแกร่งเพียงใด ไม่ว่าปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำจะฟาดเข้ามารุนแรงเช่นใดก็ตาม มันไม่สามารถสั่นคลอนต่อพลังแสงสว่างที่แกร่งและคมกริบปราศจากผู้เทียบเทียมของหลี่ชิเย่เลยแม้แต่น้อย

ตูม ตูม ตูมจากเสียงตูมตามที่ดังขึ้นมาเป็นระลอก ปากยักษ์ของกลุ่มก๊าซสีดำถูกพลังแสงสว่างที่แกร่งและคมกริบปราศจากผู้เทียบเทียมของหลี่ชิเย่ดันขึ้นไป และถูกพลังแสงสว่างที่แกร่งและคมกริบปราศจากผู้เทียบเทียมนี้ตัดขาด!

“แข่งด้านความมืด? ให้เจ้าได้รู้จักว่าอะไรที่เรียกว่าความมืด” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ ทีหนึ่ง และฉับพลัน เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งได้ดังขึ้น

พริบตาเดียวหลี่ชิเย่เสมือนดั่งได้เปิดอกขึ้นมาอย่างนั้น ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นขึ้น ปรากฏกลิ่นอายสีดำที่พุ่งออกมาจากอกของหลี่ชิเย่โดยพลัน

ทันใดนั้นพลังแสงสว่างได้หายไปจนไม่หลงเหลืออีกเลย เมื่อครู่แม้ว่าหลี่ชิเย่เรียกว่ามีความแกร่งและคมกริบยิ่งนัก แต่ว่า อย่างน้อยที่สุดก็ยังคงเป็นความสว่าง เหมือนหนึ่งเป็นทูตแห่งความสว่างบนสวรรค์อย่างนั้น

แต่ว่า ในพริบตาเดียวนั่นเอง แสงสว่างบนตัวของหลี่ชิเย่ไม่หลงเหลืออีกต่อไปแล้ว พลันปรากฏเป็นกลิ่นอายความมืดที่ไม่มีสิ้นสุดล้อมรอบ

ที่น่าสยองขวัญมากที่สุดก็คือ กลิ่นอายความมืดที่พุ่งออกมาจากบริเวณอกของหลี่ชิเย่นั้น สามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างได้ในพริบตาเดียว ไม่ว่าจะเป็นความสว่างอะไร เป็นกาลเวลาอะไร ล้วนไม่คงอยู่อีกต่อไปภายใต้ความมืดเช่นนี้

เหมือนว่าภายในอกของหลี่ชิเย่คือเหวลึกแห่งความมืด ที่ตรงนั้นจึงเป็นต้นกำเนิดความมืดทุกสิ่งบนโลก

เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่หลี่ชิเย่ได้มีความมืดพวยพุ่งออกมาทั้งตัวนั้น ขณะกลิ่นอายความมืดในอกพุ่งโจมตีออกมานั้น ร่างกายของราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้แผ่กระจายประกายศักดิ์สิทธิ์ไม่มีสิ้นสุดออกมาโดยสัญชาตญาณ

พริบตาเดียวนั่นเอง เสียงเตือนภัยที่อยู่ภายในใจของราชันแท้จริงเซิ่นซวงได้ดังขึ้น เปลวไฟความสว่างได้ทำการปกป้องตัวของราชันแท้จริงเซิ่นซวงทันที เสียงคาถาแสงสว่างดังขึ้นเป็นระลอก

เนื่องจากในพริบตาเดียวนั่นเอง ราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็รับรู้ได้ถึงการคุกคามที่น่ากลัว นางมีความสว่างมาแต่กำเนิด ด้วยพลังความมืดที่น่าสยองขวัญเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ แล้วจะไม่ให้พลังแสงสว่างของนางเสมือนดั่งพบกับศัตรูที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นได้อย่างไรเล่า

ขณะที่กลิ่นอายความมืดของหลี่ชิเย่พวยพุ่งออกมานั้น เหมือนว่าเขานั่นแหละจึงเป็นราชาที่ไร้มงกุฎ เขานั่นแหละคือผู้บงการความมืดที่แท้จริง เขานั่นแหละคือต้นกำเนิดความมืดที่แท้จริง

ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น กลิ่นอายความมืดที่พวยพุ่งออกมาจากอกของหลี่ชิเย่คล้ายดั่งปากขนาดยักษ์ของเทาเที่ยที่กลืนกินปากยักษ์กลุ่มก๊าซสีดำอย่างบ้าคลั่ง

ปากยักษ์กลุ่มก๊าซสีดำถูกกัดกินไปกว่าครึ่งในพริบตาเดียว!

……………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด