Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล 3025 สระเฟยตี้ฉือ

Now you are reading Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล Chapter 3025 สระเฟยตี้ฉือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3025 สระเฟยตี้ฉือ

“คุณชายคิดเห็นอย่างไรเล่า?” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็เต็มไปด้วยความแปลกใจสำหรับประวัติความเป็นมาของลูกอุกาบาตขนาดยักษ์ อดที่จะมองไปยังหลี่ชิเย่

แต่ว่า หลี่ชิเย่ไม่ได้มองไปยังลูกอุกาบาตยักษ์ สายตาของเขามองไปยังอีกด้านหนึ่งของท้องฟ้า สายตาของเขาได้ล็อกเป้าอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้ละสายตาไปที่ใด เหมือนว่าที่ตรงนั้นดึงดูดใจมากกว่าลูกอุกาบาตยักษ์อย่างนั้น

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงมองไปตามสายตาของหลี่ชิเย่ มันคือบริเวณอีกด้านหนึ่งของท้องฟ้า ห่างจากลูกอุกาบาตขนาดยักษ์ไกลมาก แต่ทว่า อาศัยกำลังความสามารถของราชันแท้จริงเซิ่นซวง ยังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ที่ตรงนั้นมีประกายแสงระยิบระยับ เสมือนดั่งเป็นโลกพร่างพราว และก็เหมือนเป็นโลกมหาสมุทร เหมือนมหาสมุทรที่สูงใหญ่ไร้ขีดจำกัดอยู่ตรงนั้น พื้นที่ตรงนั้นล้วนถูกท่วมจนจมมิดภายใต้มหาสมุทรพร่างพราวเช่นนี้

ขณะที่ ณ บริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของโลกมหาสมุทรเช่นนี้ เหมือนมีสระน้ำอยู่แห่งหนึ่ง โดยที่สระน้ำลักษณะเช่นนี้ออกเป็นสีแดงทั้งหมด และมีประกายแสงสีแดงที่แวบวับ สระน้ำทั้งสระก็คล้ายเป็นโมราชิ้นหนึ่งที่ถูกเลี่ยมเอาไว้ท่ามกลางมหาสมุทรพร่างพราว

ทว่า พูดไปก็นับเป็นเรื่องแปลก สระน้ำลักษณะเช่นนี้คล้ายเป็นน้ำเลือดที่กำลังรินไหล แต่ว่ามันกลับไม่ได้ย้อมมหาสมุทรนี้ให้กลายเป็นสีแดงแม้แต่น้อย การดำรงอยู่ของมันกับมหาสมุทรพร่างพราวทั้งหมดเหมือนมีการแบ่งแยกที่ชัดเจน

ที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่าก็คือ ต่อให้มหาสมุทรพร่างพราวยิ่งใหญ่ไพศาลมากกว่านี้ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าเป็นการดำรงอยู่เพื่อขับสระน้ำที่มีสีแดงนี้ให้ดูเด่นขึ้นเท่านั้น เหมือนว่าสระน้ำแดงเลือดนั่นแหละคือแกนกลาง มันนั่นแหละจึงเป็นผู้บงการของโลกที่พร่างพราวแห่งนี้

นาทีนี้เวลานี้ มหาสมุทรพร่างพราวลักษณะเช่นนี้ได้หมุนเคลื่อนประกายแสงสายแล้วสายเล่า โดยที่ประกายแสงแต่ละสายมีขนาดที่ใหญ่มาก ดูไปแล้วเหมือนแหลมคมมาก ประกายแสงแต่ละสายที่หมุนเคลื่อนไปคล้ายเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์โจวเทียนเล่มหนึ่งที่หมุนไปรอบๆ ตามกำหนด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งอะไร ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นใด ขอเพียงเข้าไปใกล้ก็ต้องถูกประกายแสงของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์โจวเทียนบิดจนแหลกละเอียด กลายเป็นหมอกเลือดไปโดยพลัน

“สระเฟยตี้ฉือ…” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับพึมพำขึ้นมาเมื่อมองเห็นสถานที่แห่งนี้ “หนึ่งในหกพื้นที่ไถ่ถอนชั่วร้าย” ในเวลานี้ กระบือดำขนาดใหญ่ก็มองไปยังทิศทางที่หลี่ชิเย่มองไปในทันที มองดูโลกที่พร่างพราวนั่น ถึงกับหัวเราะแหะแหะและกล่าวว่า “สระเฟยตี้ฉือเปลี่ยนตำแหน่งอีกแล้ว การปรากฎตัวขึ้นที่นี่ของมันใช่จะไม่มีเหตุผลกระมัง”

“บางทีอาจมีส่วนเกี่ยวพันกับลูกอุกาบาตยักษ์อยู่มากทีเดียว” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงอดพึมพำขึ้นมาไม่ได้

อย่างไรก็ตาม หลี่ชิเย่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงมองดูสระเฟยตี้ฉือ และเผยรอยยิ้มบางๆ ขึ้นมาเท่านั้น

เวลานี้ก็มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่มาถึงที่ตรงนี้ พวกเขามองเห็นลูกอุกาบาตรขนาดยักษ์แต่ไกลถึงกับร้องเสียงหลงขึ้นมา ในขณะเดียวกันก็มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มองเห็นสระเฟยตี้ฉือที่อยู่ห่างไกลออกไปอีกด้านหนึ่ง

“สระเฟยตี้ฉือ…” มีผู้ยิ่งใหญ่ที่ร้องเสียงหลงขึ้นมา หลังจากที่ได้มองเห็นสระเฟยตี้ฉือแล้ว และกล่าวว่า “สระเฟยตี้ฉือปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้อย่างไรกัน หรือจะเป็นเรื่องบังเอิญรึ?”

“อาจารย์ สระเฟยตี้ฉือก็คือหนึ่งในหกพื้นที่ไถ่ถอนชั่วร้ายที่อยู่ในตำนานรึ?” มีผู้เยาว์ที่เพิ่งจะได้เคยเห็นสระเฟยตี้ฉือเป็นครั้งแรก และเอ่ยขึ้นมาด้วยความแปลกใจ

“ถูกต้อง” ท่าทีผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ดูหนักแน่นจริงจัง พยักหน้า และกล่าวว่า “ในภาพความทรงจำของข้า เกือบจะยุคหนึ่งแล้วที่สระเฟยตี้ฉือไม่ได้เปลี่ยนตำแหน่งแล้ว มาครั้งนี้เปลี่ยนตำแหน่งได้อย่างไรกัน อีกทั้งยังอยู่ตรงกันข้ามกับลูกอุกาบาตยักษ์ในระยะห่างไกล ซึ่งนับว่าแปลก”

สระเฟยตี้ฉือ หนึ่งในหกพื้นที่ไถ่ถอนชั่วร้าย มันดำรงอยู่ในท้องฟ้าด้านทิศเหนือตลอดมา

สระเฟยตี้ฉือนับเป็นสถานที่ที่ประหลาดมากแห่งหนึ่ง และเป็นสถานที่ที่ลึกลับมาก ชื่อนี้ของมันมีความหมายที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมมาก และมีคำอธีบายต่างๆ นานา

มีผู้กล่าวเอาไว้ว่า สระเฟยตี้ฉือนั้น ความหมายของมันก็คือ ขณะที่เจ้าก่อนก้าวเท้าเข้าไปในสระเฟยตี้ฉือ นั่นก็คือนาทีสุดท้ายที่เจ้าจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ และหรือก็คือเป็นการบินโฉบผ่านไปเป็นครั้งสุดท้าย

แน่นอนที่สุด การอธิบายในลักษณะเช่นนี้ เบื้องหลังของมันก็ได้มีความหมายที่ลึกซึ้งในนั้นอยู่แล้ว

สระเฟยตี้ฉือในฐานะที่เป็นหนึ่งในหกพื้นที่ไถ่ถอนชั่วร้าย มันก็มีความหมายที่ลึกซึ้งถึงการไถ่ถอนคืนของมัน

สระเฟยตี้ฉือแตกต่างจากกพื้นที่ไถ่ถอนชั่วร้ายอื่นๆ ก็คือ ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าไปได้ แต่ว่า ก่อนที่จะเข้าไปก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจที่ต้องมีการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้น

ที่สระเฟยตี้ฉือสามารถขายทุกสิ่งทุกอย่างของตน แต่ว่า มันจะต้องเป็นของล้ำค่าที่สุดที่อยู่ในใจของเจ้า ขอเพียงเจ้ามีของที่ล้ำค่าที่สุดอยู่ในใน จึงมีมูลค่าในสระเฟยตี้ฉือ

เป็นต้นว่า ของวิเศษที่ปราศจากผู้ต่อกร หรืออย่างเช่นความผูกพันครอบครัวที่ประเมินค่าไม่ได้ และหรือเป็นสิ่งของหรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ไม่สะดุดตา และหรือไร้ซึ่งราคาในสายตาคนอื่น ขอเพียงเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากทีสุดสำหรับเจ้า ก็สามารถขายได้ที่สระเฟยตี้ฉือ

กล่าวสำหรับบางคน สิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุด บางทีอาจเป็นเคล็ดวิชาที่ปราศจากผู้ต่อกร สำหรับคนบางคนแล้ว สิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดคือคนๆ หนึ่งที่อยู่ข้างกายตนเอง และสำหรับคนบางคน สิ่งล้ำค่ามากที่สุดคือสิ่งของสิ่งหนึ่งที่ธรรมดามากแต่มีมูลค่าในด้านเป็นของที่ระลึก…

สรุปก็คือ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม ที่สำคัญที่สุดก็คือมันจะต้องเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใจของเจ้า เป็นของที่ตัดใจยากที่สุดก็เพียงพอแล้ว แม้ว่าจะใช้ชีวิตคนเป็นๆ เช่นบิดามารดา และหรือภรรยาของเจ้า…เป็นต้น ขอเพียงเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใจ ยากที่จะตัดใจมากที่สุด ล้วนสามารถนำมาขาย นำมาแลกเปลี่ยนได้ที่สระเฟยตี้ฉือแห่งนี้

เป็นต้นว่า เจ้านำเอาของที่ล้ำค่าที่สุดภายในใจของเจ้า แม้จะเป็นเพียงก้อนหินห่วยๆ ก้อนหนึ่ง มันก็สามารถให้เจ้าได้แลกเปลี่ยนเอาสิ่งที่เจ้าต้องการในสระเฟยตี้ฉือแห่งนี้ เช่น ให้ตนเองมีพลังวัตรที่ปราศจากผู้ต่อกรเป็นต้น

“อาจารย์ สระเฟยตี้ฉือสามารถทำการค้าขายทุกสิ่งทุกอย่างได้จริงๆ รึ?” ผู้เยาว์ที่มองดูสระเฟยตี้ฉือแล้วถึงกับกล่าวด้วยความแปลกใจ

“ถูกต้อง สามารถทำการค้าขายทุกอย่าง กระทั่งสามารถได้ในสิ่งที่ใจของเจ้าต้องการ” ผู้อาวุโสท่าทีหนักแน่นจริงจัง ดูจะหวั่นเกรงอย่างยิ่งต่อสถานที่ที่ชื่อสระเฟยตี้ฉือแห่งนี้

“สามารถได้สิ่งใดๆ ที่ตนต้องการจริงๆ รึ?” ผู้เยาว์รู้สึกตกใจอย่างยิ่ง

ผู้อาวุโสเพียงมองเขาด้วยสายตาที่น่าเกรงขามทีหนึ่ง ทำเอาผู้เยาว์รู้สึกหวาดเสียว ไม่กล้าถามอีกต่อไป

มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่หลังจากมองเห็นสระเฟยตี้ฉือแล้ว ได้พูดล้อเล่นกับพรรคพวกที่อยู่ข้างๆ ว่า “พวกเราจะไปลองดูที่สระเฟยตี้ฉือสักครั้งดีมั้ย ไปแลกเอาพลังวัตรราชันแท้จริงกลับมา”

“แหะสามารถทำได้จริงๆ รึ?” พรรคพวกที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ถึงกับหัวเราะแหะแหะ ท่าทางอยากจะลองดู ดวงตาทั้งสองลุกวาว และกล่าวว่า “หากสามารถแลกเอากำลังความสามารถราชันแท้จริงกลับมาได้จริง เช่นนั้นแล้ว สามารถลองดูจริงๆ”

ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้นี้จึงหัวเราะและถามว่า “เช่นนั้นแล้วสิ่งล้ำค่าในใจมากที่สุดคืออะไร?”

ผู้บำเพ็ญตนที่เป็นพรรคพวกด้วยกันจึงเอียงคอนึกถึงสิ่งล้ำค่าที่สุดของตนอย่างละเอียด…

“เหลวไหล…” ขณะที่ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่สองคนกำลังล้อเล่นกันอยู่ ระดับผู้อาวุโสที่อยู่ข้างกายพวกเขาพลันหนึ่งฝ่ามือที่ตบเข้าไป ทำเอาพวกเขามึนงงมองเห็นดาวเต็มไปหมด แววตาที่สามารถฆ่าคนได้ของผู้อาวุโสจ้องเขม็ง และกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “ขืนทำเหลวไหลอีก ข้าจะจับพวกเจ้าโยนไปเป็นอาหารเต่า”

“ผู้อาวุโส พวกเราก็แค่พูดเล่นเท่านั้นเอง” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งสองเมื่อโดนฝ่ามือของผู้อาวุโสเข้าไป ถึงกับกล่าวด้วยความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

“ล้อเล่นอะไรกัน เรื่องนี้เอามาพูดตามอารมณ์ไม่ได้ หาไม่แล้วมันจะกลายเป็นใจมารของเจ้า” ผู้อาวุโสท่าทีหนักแน่นจริงจัง กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “อีกอย่าง โลกนี้มีของฟรีเสียที่ไหน ถ้าหากมีเรื่องที่ง่ายขนาดนี้ ต่อให้เจ้าไปทำการค้าขายมาแล้ว อนาคตเจ้าก็จะมีจุดจบที่ไม่ดี!”

“เพราะอะไร…” ผู้เยาว์ไม่เข้าใจ จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

“เนื่องจากนับแต่วินาทีที่มีการแลกเปลี่ยน เจ้าก็จะไม่เป็นตัวเจ้าอีกต่อไป สิ่งที่เจ้ามีนั้นเป็นเพียงใจมารของเจ้าเท่านั้นเอง!” แววตาของผู้อาวุโสผู้นี้ลึกล้ำ แต่ว่า ในส่วนลึกแววตาที่ลึกล้ำนั้นมีความหวาดกลัวอยู่ในที

“จริงรึ?” ผู้เยาว์ยังคงไม่อยากจะเชื่อสำหรับคำพูดลักษณะเช่นนี้ของผู้อาวุโส ภายในใจยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

“เคยมีมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง” ผู้อาวุโสมองดูผู้เยาว์ทีหนึ่ง รู้ว่าพวกเขาไม่เชื่อจึงเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาก มีความรู้ที่กว้างขวาง เป็นสุดยอดบุคคลผู้มีความเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมของโลกมนุษย์ เสียดาย…”

ผู้อาวุโสผู้นี้หยุดนิดหนึ่งเมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ และกล่าวว่า “เขาไม่ใช่ตระกูลที่มั่งคั่ง กลับไปรักคุณหนูคนหนึ่ง เสียดาย คุณหนูผู้นี้กลับไม่มีใจให้กับเขา สุดท้าย ได้แต่งงานกับขุนนางที่มีตำแหน่งสูง บุคคลผู้มีความเป็นอัจฉริยะผู้นี้พานพบกับเหตุการณ์มากมาย เคยถูกดูถูกเหยียดหยาม และถูกรังแก ทำให้บังเกิดความกลัดกลุ้มในใจ!”

“ภายหลัง บุคคลผู้มีความเป็นอัจฉริยะผู้นี้ได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นมาถึงสระเฟยตี้ฉือ หลังจากที่เขาเข้าไปยังสระเฟยตี้ฉือแล้ว ได้ทำการค้าขายกับสระเฟยตี้ฉือ” เมื่อผู้อาวุโสผู้นี้เอ่ยมาถึงตรงนี้ แววตาของเขาแวบวับขึ้นทีหนึ่ง

“เขาเอาอะไรมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเล่า?” ผู้เยาว์รู้สึกแปลกใจยิ่งนัก

“ความรู้” ผู้อาวุโสกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ความรู้ความสามารถที่เขามีอยู่! เขาได้เอาความรู้ที่มีมาชั่วชีวิตทำการค้าขายกับสระเฟยตี้ฉือ เขาอยากกลายเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกร!”

“ต่อมาเล่า?” ผู้เยาว์อดที่จะถามต่อไป

“เขาได้กลายเป็นผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรจริงๆ” ผู้อาวุโสมองดูผู้เยาว์ทีหนึ่ง และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “หลังจากที่เขากลับไปแล้วได้แก้แค้นให้กับตน จัดการผู้ที่เคยเยาะเย้ยเขา ผู้ที่เคยดูถูกเขา ผู้ที่เคยทำให้เขาต้องอับอายขายหน้า ผู้ที่เคยรังแกเขา…สังหารจนหมดสิ้น รวมทั้งคุณหนูผู้นั้นที่เขาเคยรักมาก่อน!”

“เรื่องนี้…” ผู้เยาว์บางส่วนที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วถึงกับตะลึงลาน

“เรื่อง เรื่องนี้บางทีก็ดีมากนะเนี่ย” มีผู้เยาว์ที่ค่อนข้างหัวรุนแรงกล่าวขึ้นมาเบาๆ ว่า “สะใจ ตรงไปตรงมา บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ นี่แหละการกระทำของบุรุษ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อปราศจากผู้ต่อกรแล้วมันจะเป็นเช่นใดเล่า หรือว่ายังกลัวคนอื่นจะแก้แค้นอย่างนั้นรึ?”

“ดีตรงไหน?” ผู้อาวุโสผู้นี้จ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา และกล่าวว่า “เจ้าคิดว่านี่ยังคงเป็นตัวเจ้าอย่างนั้นรึ? นับตั้งแต่วินาทีที่เจ้ามีการค้าขาย เจ้าก็ไม่ใช่ตัวเจ้าอีกต่อไปแล้ว ในใจของเจ้ามีเพียงใจมารเท่านั้น! เจ้าเป็นเพียงผีดิบที่ถูกในมารกลืนกินไปแล้วเท่านั้น!”

“หลังจากนั้นล่ะ ผู้อาวุโส ภายหลัง บุคคลผู้มีความเป็นอัจฉริยะผู้นี้เป็นอย่างไร?” มีผู้เยาว์ที่สนใจในชะตาชีวิตของบุคคลผู้มีความเป็นอัจฉริยะผู้นี้ยิ่งกว่า

“เข่นฆ่าไปทั่ว…” ผู้อาวุโสผู้นี้กล่าวเสียงเย็นชาว่า “จิตใจโกรธแค้นจนคลั่ง ไปถึงที่ใดก็จะก่อเกิดลมคาวฝนเลือดขึ้น! ทั่วหล้ายากจะมีผู้ต่อกร”

“อย่านึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องดี” ผู้อาวุโสผู้นี้มองดูผู้เยาว์ที่อยู่ข้างกายทีหนึ่ง กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “สุดท้าย เขาคลุ้มคลั่งจนตาย! ท้ายสุดขณะมีผู้ไปพบเห็นเขา เขาได้นอนขดตัวอยู่ที่มุมๆ หนึ่งตายไปอย่างเงียบๆ”

“คลุ้มคลั่งจนตาย” ผู้เยาว์จำนวนไม่น้อยถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึงเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ภายในใจของพวกเขาจินตนาการไปว่า ผู้ปราศจากผู้ต่อกรผู้หนึ่งที่ชื่นชอบฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายตายไปท่ามกลางความคลุ้มคลั่ง บางทีกระทั่งวาระสุดท้ายที่ตายไป เขาเองก็ไม่รู้ว่าตนเองนั้นเป็นใคร

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด